จากนี้ไปจุดหมายใหม่ของผู้รักเสียงเพลง และหลงใหลในเครื่องเสียงคุณภาพจะต้องมาเยือนก็คือ AV Super Store Zone พื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 3 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ พรั่งพร้อมด้วยสินค้าแบรนด์ดัง คับคั่งด้วยสินค้าคุณภาพ และให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดโดยพนักงานซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง

ศูนย์รวมร้านเครื่องเสียง 19 ร้าน คือ อารณาจักรเครื่องเสียงสุดอลังการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานที่สุดในประเทศไทย โซนใหม่ล่าสุดของฟอร์จูนทาวน์แห่งนี้ สร้างสรรค์โดยบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) นำเสนอสินค้าเครื่องเสียง เครื่องดนตรี คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ แอคเซสซอรี่ และอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ที่จะทำให้คุณได้ช้อปปิ้งอย่างเพลิดเพลิน สามารถเปรียบเทียบราคา และสเปคที่คุณพึงพอใจได้ ท่ามกลางตัวเลือกที่หลากหลาย

โดยเฉพาะสินค้าเครื่องเสียง ซึ่งมีให้คุณเลือกสรรทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ เครื่องเสียงนำเข้ารุ่นใหม่แกะกล่อง เครื่องเสียงมือสองรุ่นหายากสำหรับนักสะสมตัวยง และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น  แผ่นเพลง ขาตั้ง ไมโครโฟน ลำโพง และหูฟัง รวมไปถึงเครื่องดนตรียอดนิยมอย่าง กีต้าร์ อูคูเลเล่ ก็มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ และหลายระดับราคา โดยมี ‘กูรู’ ซึ่งบางช็อปเป็นเจ้าของร้านที่พร้อมจะให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณ

ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งที่สวยงาม ทันสมัย และโอ่อ่า ตามสไตล์ของแต่ละร้าน คละเคล้าทั้งร้านค้าแบบโมเดิร์นและคลาสิก จะช่วยทำให้ประสบการณ์การช้อปปิ้งของคุณที่นี่ พิเศษและแตกต่างจากศูนย์การค้าแห่งอื่น

ร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเสียงเพลงได้แล้ววันนี้ที่ AV super store Zone บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/FortuneTown หรือ www.fortunetown.co.th

นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์มาม่า และนายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สไปร์ซซี่ ดิสก์ และ ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาดเซ็นทรัลเวิลด์ ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “มาม่า พรีเซ็นต์ เทศกาลดนตรี เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์ ครั้งที่ 8” ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 18 – 19 ตุลาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยผลิตภัณฑ์มาม่า ร่วมกับ สไปร์ซี่ ดิสก์ จัดขึ้นในคอนเซ็ปต์ “The Instant Music Festival” นับเป็นเทศการดนตรีฟรีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ใจกลางเมือง ที่เตรียมยกทัพศิลปินคุณภาพกว่า 100 ชีวิต มาร่วมมอบความสุขแบบเต็มอิ่ม อีกทั้ง ยังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะ แฟชั่น และภาพยนตร์ ให้เลือกชมอย่างจุใจตลอด 2 วันเต็ม

เอสเอ็ม ทรู เปิดแผนเดินหน้ารุกตลาดคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีเต็มรูปแบบ ตั้งเป้าตำแหน่งผู้นำธุรกิจบันเทิงเกาหลีครบวงจร ล่าสุดประกาศจัดคอนเสิร์ต ทรูมูฟ เอช พรีเซ้นส์ “เอ็กซ์โซ ฟรอม เอ็กซ์โซแพลเน็ต นัมเบอร์วัน เดอะ ลอสท์ แพลเน็ต อิน แบงค็อก” (TrueMove H presents “EXO FROM EXOPLANET #1 -THE LOST PLANET- IN BANGKOK”) บอยแบนด์ที่กำลังมาแรงที่สุดของเกาหลี เตรียมเปิดคอนเสิร์ตสุดอลังการครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมเปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคมนี้ มั่นใจสิ้นปี 2557 ครองส่วนแบ่งการตลาดคอนเสิร์ต K-Pop ได้กว่า 50%

นางสาวศศิธร กุลอุดมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด กล่าวว่า “ด้วยศักยภาพความเป็นคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มทรู ผนวกกับความเป็นผู้นำด้านธุรกิจบันเทิงอันดับหนึ่งในเกาหลีของ เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนของเรา รวมทั้งทิศทางของธุรกิจบันเทิงเกาหลีในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการที่กลุ่มแฟนคลับศิลปินเกาหลีมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มั่นใจว่า การดำเนินธุรกิจบันเทิงของเอสเอ็ม ทรู ทั้งการจัดคอนเสิร์ต การบริหารจัดการศิลปิน (พรีเซ็นเตอร์) การจำหน่ายซีดี และของที่ระลึกถูกลิขสิทธิ์ จะตอบโจทย์ตรงใจไลฟ์สไตล์แฟนคลับชาวไทยได้อย่างต่อเนื่อง และจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดคอนเสิร์ต K-Pop ได้ถึง50% ในปีนี้”

เอสเอ็ม ทรู เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้นำธุรกิจบันเทิงจากประเทศเกาหลีใต้ โดยมีธุรกิจหลักคือการเป็นตัวแทนบริหารจัดการศิลปิน ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปินสังกัด เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับธุรกิจบันเทิงเกาหลี ทั้งการจัดคอนเสิร์ต 7 ครั้งที่ผ่านมา อาทิ คอนเสิร์ต SUPER JUNIOR WORLD TOUR “SUPER SHOW”ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี คอนเสิร์ต “GIRLS’ GENERATION World Tour ~Girls & Peace~ in BANGKOK” คอนเสิร์ต SMTOWN LIVE WORLD TOUR III in BANGKOK ที่รวมเอาศิลปินจากค่ายเอสเอ็มฯ มาร่วมแสดงมากที่สุด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการศิลปิน(พรีเซ็นเตอร์) การจำหน่ายซีดี และของที่ระลึกถูกลิขสิทธิ์ เป็นต้น

สำหรับคอนเสิร์ต ทรูมูฟ เอช พรีเซ้นส์ “เอ็กซ์โซ ฟรอม เอ็กซ์โซแพลเน็ต นัมเบอร์วัน เดอะ ลอสท์ แพลเน็ต อิน แบงค็อก” ที่จะเกิดในวันที่ 13-14 กันยายนนี้ ทางบริษัทฯ ได้ทำกิจกรรมการตลาดสำหรับโปรโมทคอนเสิร์ตในครั้งนี้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในวงการเพลงเกาหลีในประเทศไทยที่จัดกิจกรรมอย่างอย่างยิ่งใหญ่ และน่าตื่นตาตื่นใจ อาทิ นิทรรศการอุกกาบาต EXO จาก EXOPLANET ที่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่, กิจกรรมพรีเซลบัตรคอนเสิร์ต, กิจกรรมร่วมสนุกกับแฟนคลับ โดยเน้นช่องทางสื่อสารโซเชี่ยลมีเดียทั้ง Facebook, Instragram และtwitter ซึ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรง นอกจากนี้เอสเอ็ม ทรูยังได้นำเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์อื่นๆของค่ายเอสเอ็มฯมาเผยแพร่ในประเทศไทย เริ่มต้นด้วยรายการเรียลลิตี้โชว์ “EXO’S SHOWTIME” ที่จะออกอากาศทางช่อง True4U ในวันที่ 21 สิงหาคม 2557

นางสาวศศิธร กล่าวเสริมว่า คอนเสิร์ตของวงเอ็กซ์โซครั้งแรกในเมืองไทย จะเปิดให้ชมกันอย่างจุใจถึง 2 รอบ ในวันเสาร์ที่ 13 และวันอาทิตย์ที่ 14กันยายนนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยมีกำหนดการจาหน่ายบัตรในวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2557 ผ่านไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้จะประสบความสาเร็จ และได้รับกระแสตอบรับจากมหาชนเป็นอย่างดีแน่นอน

บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด เปิดเผยผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ ปี 2556 สูงถึง 1,500 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ากลยุทธ์การตลาดปี 2557 มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางธุรกิจดนตรีปรับภาพลักษณ์โรงเรียนดนตรีใหม่เป็น โรงเรียนดนตรียามาฮ่า(Yamaha Music School) เพื่อต้อนรับ AEC และเปิดตัว Yamaha Brand Ambassador คนใหม่ล่าสุดและคนแรกในรอบ 48 ปี ของ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด เพื่อเป็นตัวแทนคนดนตรีตัวจริงสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ ยามาฮ่าในทุกไลน์ ธุรกิจ ภายใต้ คอนเซ็ปต์ Yamaha “Live with Music” ยามาฮ่า มีชีวิตกับดนตรี

นางสาวประนัปดา พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ ถือเป็นผู้นำด้านธุรกิจดนตรีตัวจริง โดยแบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 2 ส่วน คือ (1) ธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เครื่องดนตรี เครื่องเสียง แบรนด์ยามาฮ่า จากประเทศญี่ปุ่น แบ่งเป็น กลุ่ม Musical Instruments เครื่องดนตรี ซึ่งยามาฮ่า เป็นผู้นำในตลาดเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เปียโน คียบอร์ด กีต้าร์ กลอง เครื่องเป่า เครื่องสาย และอื่นๆ , กลุ่ม Professional Audio เครื่องเสียงโปรออดิโอ งานระบบเสียง สำหรับงานติดตั้งในและนอกอาคาร งานสตูดิโอ งานคอนเสิร์ต ฯลฯ และ กลุ่ม Audio & Visual เครื่องเสียงบ้าน โฮมเธียเตอร์ เครื่องเสียงไฮไฟ ฯลฯ  และ (2) ธุรกิจด้านดนตรีศึกษา การบริหารโรงเรียนดนตรียามาฮ่าในเครือข่ายทั่วประเทศ ด้วยสถาบันดนตรียามาฮ่า ซึ่งคอยควบคุมดูแลคุณภาพการเรียนการสอน รวมถึงหลักสูตรที่ใช้ในโรงเรียน โดยในปีนี้ บริษัทฯ มีนโยบายที่จะก้าวสู่ความเป็นเลิศมากขึ้น จึงมุ่งเน้นไปที่การปรับภาพลักษณ์โรงเรียนดนตรีในเครือข่ายให้ดูทันสมัยและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสาขาในต่างประเทศอีกกว่า 45 ประเทศทั่วโลก  เพื่อต้อนรับ AEC และสอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจโรงเรียนดนตรีทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการรองรับการไหลเวียนของนักเรียนและครูหลักสูตรยามาฮ่าจากประเทศต่างๆ ที่จะเดินทางและเชื่อมโยงเข้าหากันมากขึ้น ทั้งด้านการเรียนการสอนและการสอบเกรดเพิ่มคุณภาพการเรียนดนตรี เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศทางด้านดนตรีศึกษา (One brand One Standard) พร้อมเปิดตัว บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ นักร้อง และ นักดนตรี มากความสามารถ มาเป็นYamaha Brand Ambassador ให้กับ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นคนแรกในรอบ 48 ปี ที่ตั้งบริษัทมาด้วย

“เพื่อต้อนรับ AEC เราจึงมีแผนปรับภาพลักษณ์ให้ดูเป็นสากลมากขึ้น ทั้งเรื่องของการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น YAMAHA MUSIC SCHOOL หรือ โรงเรียนดนตรียามาฮ่า และมีแผนที่จะปรับภาพลักษณ์โรงเรียนดนตรีสาขาต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 86 สาขา ให้เป็น One brand One standard  คุณภาพเดียวกันหมด ทั้ง สถานที่ การบริการ และการเรียนการสอน ทั้งยังมีคุณ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ซึ่งเป็น ศิลปินนักร้อง นักแต่งเพลง และ คนดนตรีที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีคุณสมบัติเหมาะและครอบคลุมกับทุกไลน์ธุรกิจดนตรีของยามาฮ่า เพื่อมาเป็นตัวแทนและทูตทางดนตรี บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยามาฮ่า สร้างการรับรู้ และการจดจำแบรนด์ ยามาฮ่าในทุกไลน์ ธุรกิจ ภายใต้ คอนเซ็ปต์ Yamaha  “Live with Music  ยามาฮ่า “มีชีวิตกับดนตรี”  

ด้าน นายสมชาย สืบบุญศรีพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงาน ประจำปี 2556 ว่า บริษัทฯ มีผลประกอบการภาพรวมอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท โตขึ้นมากกว่า 40% ภายในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา(2553 – 2555) โดยในปี 2557 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายโตขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ พร้อมปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาด โดยจะเน้นมาที่โรงเรียนดนตรีมากขึ้น โดยในส่วนของ ธุรกิจด้านดนตรีศึกษา โรงเรียนดนตรียามาฮ่า ซึ่งมีจุดแข็งอยู่ที่ หลักสูตรและระบบการเรียนการสอนที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเมืองไทย ด้วยระบบ “Yamaha Music Worldwide Education System” ที่เป็นหลักสูตรมาตรฐานระดับโลก ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจาก Yamaha Music Foundation ประเทศญี่ปุ่น และใช้สอนอยู่ในโรงเรียนดนตรียามาฮ่า มากกว่า45 ประเทศ ทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมนักเรียน Yamaha ทั่วโลกกว่า 8 แสนคน โดยในปีนี้ได้มีการเพิ่มหลักสูตรดนตรีที่สอนด้วยภาษาอังกฤษ พร้อมเพิ่มครูต่างชาติ เพื่อรองรับตลาด AEC ขณะเดียวกันยังมีหลักสูตรไฮไลต์ซึ่งเป็นโรงเรียนดนตรีที่เดียวที่มีหลักสูตรนี้ในเมืองไทย คือ หลักสูตรดนตรี สำหรับเด็กเล็ก JMC (Junior Music Course) ตั้งแต่อายุ 3 – 6 ขวบ เน้นการเรียนดนตรีแบบองค์รวมและบูรณาการควบคู่กับฝึกพัฒนาเด็กโดยใช้การเล่นดนตรีเข้ามาเป็นตัวช่วยสร้างเสริมพัฒนาการของเด็กเล็กในแต่ละวัย ซึ่งจะสอนโดยคุณครูที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบขั้นสูงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติมจากปัจุบัน 86 สาขา ทั่วประเทศ เป็น 93 สาขา ภายในสิ้นปี 2557 และเพิ่มเป็น 100 สาขา ภายในปี 2558 พร้อมตั้งเป้านักเรียนเพิ่มขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2557จากเดิมที่มีอยู่กว่า 80% ของตลาดรวมทั้งหมด ในปีที่ผ่านมา (2556) รวมถึงการจัดการแข่งขันความสามารถทางดนตรีของนักเรียนในเครือข่าย โรงเรียนดนตรียามาฮ่า ที่มีการจัดมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 30 ปี  เช่น Yamaha Thailand Music Festival, Yamaha Junior Original Concert และ Electone Festival เพื่อคัดเลือกเยาวชนไป แข่งขันต่อในระดับภูมิภาคเชีย และระดับโลก ซึ่งทุกประเทศจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ เช่นงาน Asia Pacific Electone Festival, Asia Pacific Original Concert, Asian Beats และ Yamaha Electone Concours

ส่วน แผนการตลาดของ ธุรกิจ เครื่องดนตรี และเครื่องเสียงยามาฮ่า มีการแนะนำสินค้าใหม่ ในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เน้นการทำตลาดผ่านกิจกรรม ที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะระดับภูมิภาค ทั้งการจัดแสดงสินค้า, การทำ Workshop, การจัดกิจกรรมดนตรี และอื่นๆ ในด้านการลงทุน ในปีนี้ บริษัทฯ จะเปิดโชว์รูม เครื่องดนตรี ใหม่ 2 แห่ง เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ 12 แห่ง คือ Central Embassy และ Maneeya Building พร้อมการปรับปรุงระบบการจัดส่งสินค้าเพื่อเพิ่มความสามารถ ในการบริการให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเครื่องดนตรี และเครื่องเสียงยามาฮ่าทั่วประเทศ    

สัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับดนตรีจาก โรงเรียนดนตรีอันดับ 1 ของเมืองไทย ได้แล้ววันนี้ ที่ โรงเรียนดนตรียามาฮ่าทุกสาขา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด โทร 02215-2626-39 เว็บไซต์ http://th.yamaha.com

บีอีซี-เทโร มิวสิค เดินหน้าปรับกลยุทธ์รุกธุรกิจเพลง พร้อมจับมือ “บีทูเอส” ชู “เอ็กซ์คลูซีฟ มาร์เก็ตติ้ง” กระตุ้นตลาดซีดีส่งท้ายปี เน้นกระจายสินค้าผ่านพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการจัดจำหน่าย โดยนำร่องกับอัลบั้ม “ToR+ add9” (โต๋ แอ๊ดไนน์) ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดที่ 9 ของ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 199 บาท และ แบบกิ๊ฟเซ็ตซีดีพร้อมเสื้อยืดในราคา 399 บาท หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านบีทูเอสที่เดียวเท่านั้น ทั้งนี้เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์นี้จะสามารถกระตุ้นยอดขายซีดีเพลงช่วงปลายปีได้เป็นอย่างดี

นายพอล มนัสถาวร ผู้จัดการทั่วไป บีอีซี-เทโร มิวสิค บริษัท บีอีซี-เทโร เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาทางบริษัทฯได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการโปรโมทและการกระจายสินค้ามาโดยตลอด ซึ่งล่าสุด บีอีซี-เทโร มิวสิค ได้ร่วมกับ บีทูเอส ผู้นำในการดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายหนังสือ สื่อบันเทิง เพลง ภาพยนตร์ และเครื่องเขียนครบวงจรอันดับหนึ่งในประเทศไทย ในการจำหน่ายซีดีเพลงอัลบั้ม “ToR+ add9” (โต๋ แอ๊ดไนน์) ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดที่ 9 ของ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งลูกค้าสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านบีทูเอสทุกสาขา

“สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการนำกลยุทธ์การตลาดแบบ “เอ็กซ์คลูซีฟ มาร์เก็ตติ้ง” มาใช้กับธุรกิจเพลงได้อย่างลงตัว เนื่องจากทางบริษัทฯได้เล็งเห็นศักยภาพทางธุรกิจของบีทูเอส มีจุดแข็งของการเป็นเจ้าตลาดแบบ “รีเทล” (Retail) ที่มีสาขาอยู่มากมายและครอบคลุมทุกพื้นที่

รวมถึงทาง บีอีซี-เทโร มิวสิค มีความเชี่ยวชาญทางด้านเพลงและการโปรโมทรวมถึงช่องทางในการประชาสัมพันธ์ ประกอบกับทั้งสองบริษัทต่างมีกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกัน จึงได้เกิดเป็นความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้จะสามารถกระตุ้นยอดขายซีดีเพลงในช่วงปลายปีไปจนถึงปีหน้าได้เป็นอย่างดี โดยในอนาคตจะมีการทำ Exclusive Product ระหว่าง บีอีซี-เทโร มิวสิค และ บีทูเอส อีกอย่างแน่นอน” นายพอลกล่าว

โดยอัลบั้ม “ToR+ add9” (โต๋ แอ๊ดไนน์) ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดที่ 9 ของ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 199 บาท หรือ แบบกิ๊ฟเซ็ตที่จะเป็น ซีดี+เสื้อยืดในราคา 399 บาท หาซื้อได้ที่ร้านบีทูเอสทุกสาขา

โรงพยาบาลเจ้าพระยาร่วมกับผลิตภัณฑ์ยูเซอรีนขอมอบความสุขส่งท้ายปีให้แก่ทุกท่าน ร่วมสัมผัสสายลมแห่งฤดูหนาวกับงานมินิคอนเสิร์ตบทเพลงอันไพเราะในเทศกาล CHAOPHYA MUSIC IN THE PARK 8 โดยศิลปินชั้นนำ อาทิ เบน ชลาทิศ, เต้น นรารักษ์ และ ลูกหว้า พิจิกา ในวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2556 เวลา 16.30 – 21.00 น. ณ สวนสุขภาพ โรงพยาบาลเจ้าพระยา เต็มอิ่มกับเสียงเพลงแห่งความสุขกันได้กว่า 4 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ แผนก CALL CENTER โทร. 02-433-5666 ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น. หรือดูรายละเอียดได้ในเว็บไซต์ WWW.CHAOPHYA.COM

ช้างเปิดแคมเปญส่งท้ายปี “Chang Music Contest 2013 สุดบีท สุดขีด สุดใจ” หลังโดนใจคนรุ่นใหม่ด้วยแคมเปญประกวดปี 2012 จนแจ้งเกิดวง Boom Boom Cash ชวนคนรุ่นใหม่มีไฟมีฝันเข้าประกวด ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท พร้อมโอกาสขึ้นคอนเสิร์ตกระทบไหล่วงดนตรีแถวหน้า และเซ็นสัญญาเป็น Brand Ambassador ของช้าง เผยเตรียมจัดเต็ม ดึงแกรมมี่ร่วมเวิร์คช็อปผู้เข้ารอบ ก่อนดวลความสามารถรอบชิง เชื่อมั่นช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านมิวสิคแพลทฟอร์ม

นายสรกฤต ลัทธิธรรม ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ช้างยังคงเดินหน้าแนวทางสื่อสารการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคด้วย สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งและมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย สร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ รวมทั้งสร้างประสบการณ์ร่วมกับผลิตภัณฑ์โดยตรงได้เป็นอย่างดี โดยหลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับแคมเปญมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง “Chang Music 2012” ทุกที่เป็นเวที…มีดีก็โชว์ออกมา ซึ่งดึงเอาวงบอดี้สแลมมาเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ สร้างฝันและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตแบบ Live Like You Mean It!…ชีวิตของเรา ใช้ซะ” จนได้รับความสนใจอย่างล้นหลามและได้ช้างเผือกรุ่นใหม่อย่างวง Boom Boom Cash มาประดับวงการดนตรี ช้างก็ต่อยอดความสำเร็จดังกล่าวอีกครั้งทุ่มงบประมาณ 60 ล้านบาท สานต่อแคมเปญ ซีซั่น 3 “Chang Music Contest 2013 สุดบีท สุดขีด สุดใจ”

“ปีที่ผ่านมา แคมเปญ “Chang Music 2012” ทำให้เราค้นพบว่า คนรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง หากมีการเปิดเวทีให้เขาได้แสดงออก ซึ่งตรงกับแนวคิด “ชีวิตของเรา ใช้ซะ” เรายินดีมากที่ได้โอกาสเป็นสื่อกลาง ปีนี้จึงเปิดแคมเปญประกวดอีกครั้ง เพื่อเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออกอย่างเต็มความฝัน เต็มความสามารถ พร้อมทั้งค้นหาดาวดวงใหม่อย่างเช่นวง Boom Boom Cash ที่ช้างยังคงมอบโอกาสในการแสดงคอนเสิร์ต และร่วมกิจกรรมกับแบรนด์ช้างอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2013”

ด้าน นายธารินทร์ รินธนาเลิศ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่าแคมเปญ “Chang Music Contest 2013 สุดขีด สุดบีท สุดใจ” จะใช้สื่อประชาสัมพันธ์ครบวงจรที่เจาะลึกเข้าถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และเข้าถึงทุกพื้นที่กิจกรรมทั่วประเทศ และจากการใช้กลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งในครั้งนี้ คาดว่าจะสร้างการรับรู้ และการจดจำแบรนด์ช้างในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น

นายธารินทร์ เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ช้างจะปูพรมแคมเปญดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยเริ่มที่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น และชลบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมกิจกรรมอย่างทั่วถึง โดยให้ผู้สนใจอายุไม่เกิน 30 ปี และมีสมาชิกวงไม่เกิน 5 คน ส่งคลิปการแสดงเพลงอะไรก็ได้ในสไตล์ของตนเอง จำนวน 1 เพลง มาที่ www.ChangMusicContest.com โดยระยะเวลาในการส่งคลิปเพื่อเข้าแข่งขันรอบแรก คือตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2556 ถึง วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ประกาศผลรอบคัดเลือกในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 ทางเว็บไซต์ข้างต้นและทาง www.facebook.com/ChangWorld

“เงินรางวัลสำหรับการประกวดครั้งนี้มีมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท ที่พิเศษเช่นเคยคือ ผู้ชนะเลิศจะได้ขึ้นคอนเสิร์ตบนเวทีสุดยิ่งใหญ่ของช้างร่วมกับศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย และที่พิเศษเพิ่มขึ้นคือ วงดนตรีที่ได้รับการคัดเลือกในรอบก่อนชิงชนะเลิศ จะได้เข้ารับการเวิร์คช็อปจากกูรูดนตรีจากแกรมมี่ เพื่อเพิ่มความรู้เรื่องการร้อง การแต่งเพลง และการแสดง ก่อนจะขึ้นแสดงความสามารถในรอบชิงชนะเลิศ ทั้งเพลงที่แต่งคำร้อง ทำนองขึ้นเองภายใต้คอนเซปต์ “ชีวิตของเรา …ใช้ซะ” จำนวน 1 เพลง นอกจากนั้นวงดนตรีที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศ จะได้เซ็นสัญญาเป็น Brand Ambassador ของแบรนด์ช้างด้วย”

นางขวัญเนตร รัตนพฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย นายคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท อาร์เอส และนายศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้จัดการค่ายเพลงอาร์สยาม ร่วมเปิดโครงการ “เติมเร็ว เติมง่าย โหลดยกค่ายอาร์สยาม กับ *428 เติมเงินมือถือทันใจกสิกรไทย” โดยลูกค้าเพียงเติมเงินโทรศัพท์มือถือขั้นต่ำ 50 บาท และลงทะเบียนที่ *428*88*223# แล้วโทรออก ก็สามารถดาวน์โหลดเพลงจากค่ายอาร์สยามแบบไม่จำกัดได้ฟรีที่ *223 นานถึง 3 เดือน ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค.56