Pharmaceuticals – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 03 Apr 2014 00:00:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จับมือลอรีอัล เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าของลอรีอัลในพม่า https://positioningmag.com/57771 Thu, 03 Apr 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=57771

บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทชั้นนำด้านเภสัชกรรมและสุขภาพเพื่อผู้บริโภคตั้งแต่ปี 2528 ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ลอริอัล ประเทศไทย ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าการ์นิเย่ (Garnier) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในประเทศพม่า

ภายในพิธีลงนามความร่วมมือทางธุรกิจ นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ Chief Coach บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับลอริอัล และเพิ่มการ์นิเย่เข้ามาเป็นหนึ่งในแบรนด์สินค้าที่เราจัดจำหน่ายร่วมกับสินค้าด้านเภสัชกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่เราจัดจำหน่ายในพม่า ทั้งนี้ การมีคู่ค้าใหม่อย่างลอริอัลประกอบกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้านการจัดจำหน่ายสินค้าของเรา เมก้าได้พัฒนาศักยภาพของเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศพม่าและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้พนักงานของเราในพม่ากว่า 1,500 คน”

ผลิตภัณฑ์การ์นิเย่ของลอริอัลจะถูกจัดจำหน่ายภายใต้การดำเนินงานของ ‘แมกซ์แคร์’ ซึ่งเป็นธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าด้านเภสัชกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภคของเมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ ที่ก่อตั้งขึ้นในพม่าตั้งแต่ปี 2538 และยังเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าชั้นนำในประเทศเวียดนามและกัมพูชา นอกจากจะเป็นผู้ให้บริการด้านการจัดจำหน่ายสินค้าชั้นนำในประเทศพม่าเป็นรายแรกๆ แล้ว แมกซ์แคร์ ยังให้บริการด้านโกดังเก็บสินค้า การขนส่ง ระบบซับพลายเชน และบริการอื่นๆ แมกซ์แคร์ เป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายสินค้าด้านเภสัชกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำในประเทศพม่าที่จัดจำหน่ายสินค้าไปยังร้านค้าในพม่ากว่า 27,000 ร้านทั่วประเทศ โดยมีเครือข่ายการกระจายสินค้าที่ทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มคนได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศพม่า สามารถให้บริการครอบคลุมกว่าร้อยละ 85 ของประเทศผ่านคลังสินค้า 8 แห่งที่สามารถกระจายสินค้าไปยังร้านค้าขนาดเล็กในประเทศได้อย่างทั่วถึง

เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ ยังเป็นบริษัทด้านขนส่งสินค้า (Logistics) แห่งแรกในพม่าที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 ตั้งแต่ปี 2549  ปัจจุบัน บริษัทฯ มีพนักงานพม่ามากกว่า 1,500 คน และกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในพม่า

]]>
57771
“สเตร็ปซิล” เอาใจเด็ก เจ็บคอ ทุ่ม 100 ล้าน ส่ง “สเตร็ปซิล สตรอเบอร์รี่ ชูก้าฟรี” บุกตลาด https://positioningmag.com/56933 Sat, 27 Jul 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=56933

“เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย)” ผู้จัดจำหน่ายยาอมแก้เจ็บคอ “สเตร็ปซิล” เอาใจเด็กๆ เปิดตัว “สเตร็ปซิล สตรอเบอร์รี่ ชูก้าฟรี” ยาอมแก้เจ็บคอรสสตรอเบอร์รี่ซึ่งมีการจำหน่ายครั้งแรกและเป็นรสชาติใหม่เพื่อเอาใจเด็กๆ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอสำหรับเด็ก 6 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ จากการศึกษาพบว่าเด็กเกิดการเจ็บคอมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า พร้อมเปิดตัวคุณ“หมวย อริสรา กำธรเจริญ” พรีเซ็นเตอร์โครงการ “Live Well” เคล็ดลับดูแลสุขภาพที่คุณใส่ใจ พร้อมด้วยกิจกรรมสำหรับเด็กๆ “The Little Voice Project” ให้เด็กๆได้มีโอกาสโชว์ความสามารถในการร้องเพลง

ภญ.เจิดสาย สุขแก้ว ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เฮลท์แคร์ บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายยาอมแก้เจ็บคอ “สเตร็ปซิล” เปิดเผยว่า “สเตร็ปซิล” เป็นผู้นำตลาดยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอจากประเทศอังกฤษ ที่มีวางจำหน่ายในตลาดมายาวนานกว่า 25 ปี โดยมีตัวยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส สามารถบรรเทาอาการเจ็บคอได้ภายใน 5 นาที และยาวนานถึง 2 ชั่วโมง ทำให้ปัจจุบัน “สเตร็ปซิล” เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มยาอมแก้เจ็บคอ ทั้งยังมีสินค้าที่ให้เลือกหลายแบบตามระดับอาการเจ็บคอ ไม่ว่าจะเป็น การเจ็บคอระยะเบื้องต้น ปานกลาง ไปจนถึงระดับรุนแรง

และเพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดยาอมแก้เจ็บคอ เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จึงได้เปิดตัว “สเตร็ปซิล สตรอเบอร์รี่ ชูก้าฟรี” ยาอมแก้เจ็บคอรสชาติใหม่สำหรับเด็ก ซึ่งเป็นยาอมแก้เจ็บคอสำหรับเด็ก 6 ปี ขึ้นไปตัวแรกในตลาดประเทศไทย และเป็นสูตรไม่มีน้ำตาล จึงไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพฟัน ทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับยาปฎิชีวนะหรือยาอื่นๆ ได้ โดยที่ผู้ใหญ่ก็สามารถเลือกอมได้เช่นกัน มีจำหน่าย 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบกล่อง 16 เม็ด และ ซอง 6 เม็ด

และในโอกาสการเปิดตัวยาอมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ “สเตร็ปซิล สตรอเบอร์รี่ ชูก้าฟรี” สำหรับเด็กในครั้งนี้ สเตร็ปซิลก็จัดกิจกรรมไห้เด็กๆ ได้โชว์ความสามารถ ในการร้องเพลง ผ่านกิจกรรม “The Little Voice Project” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Live Well เคล็ดลับสุขภาพที่คุณใส่ใจ โดยให้คุณแม่ที่เล็งเห็นความสามารถในตัวบุตรหลาน ต้องการเสริมทักษะ ในเรื่องดนตรี การร้อง การเต้น และการแสดง ให้กับลูกน้อย อัดเสียงน้อยๆ น่ารักๆ ของลูกๆ ส่งมาร่วมกิจกรรมกับสเตร็ปซิล ที่ www.strepsilsth.com (โดยจะเริ่มกิจกรรมช่วงกลางเดือนกันยายน 2556) และหากเสียงลูกน้อยของคุณผ่านเข้ารอบ ได้รับของรางวัลจากทางบริษัท โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากคุณแม่ จอย อัจฉริยา และลูกสาวน้องแอลลี่ นิติพล, น้องอันดา กุลฑีรา ยอดช่าง พร้อมด้วยเก้า จิรายุ ละอองมณี เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมเผยเคล็บลับการดูแลสุขภาพคอ เสียง และโชว์เสียงเพลงอย่างไพเราะ

ภญ.เจิดสาย สุขแก้ว กล่าวต่อไปว่า กิจกรรม “The Little Voice Project” เป็นหนึ่งกิจกรรมในโครงการ “Live Well” เคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่คุณใส่ใจ โครงการ Live Well นี้ เป็นโครงการที่เกี่ยวกับการเผยแพร่เคล็บลับการดูแลสุขภาพ และเทรนท์การดูแลสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุข ในโลกที่วุ่นวาย จากมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม และความตึงเครียด โดยเคล็บลับสุขภาพเหล่านี้ทำให้คุณสามารถนำไปใช้ใด้ในชีวิตประจำวัน โดยโครงการ “Live Well” นี้ เราได้รับเกียรติจาก คุณหมวย อริสรา กำธรเจริญ นักข่าวและพิธีกรรายการสุขภาพ มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เราอีกด้วย สามารถติดตามรายละเอียดโครงการLive Well ตามช่องทางต่างๆ ทั้ง เว็ปไซด์, เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม ยูทูป ได้ทาง www.strepsilsth.com

“สำหรับทิศทางตลาดยาอมแก้เจ็บคอในเมืองไทย มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งในตลาดของยาอมแก้เจ็บคอ “สเตร็ปซิล” เป็นผู้นำตลาดอยู่มาหลายปี โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 25 % และในปีนี้บริษัทฯ ได้ทุ่มตลาดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 ตัว ได้แก่ สเตร็ปซิล บรรเทาอาการไอ และระคายคอ และ สเตร็ปซิล สตรอเบอร์รี่ ชูก้าฟรี และปลายปีจะเปิด ยาอมสเตร็ปซิล ซีตรีส รสมะนาว และในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้จะทำให้สเตร็ปซิล มีอัตราการเติบโตกว่า 25 % อีกด้วย” ภญ.เจิดสาย สุขแก้ว กล่าวปิดท้าย

]]>
56933
เปิดตัว “KoolCAPP” นวัตกรรมธรรมชาติ กินดักไว้ก่อนไข้หนัก ท้าชนตลาดพาราเซตามอล https://positioningmag.com/55624 Mon, 03 Sep 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55624

 

C.A.P.P. GROUP เขย่าบรรลังตลาดยาพาราเซตามอล ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เปิดตัว “KoolCAPP” นวัตกรรมยาบรรเทาไข้จากธรรมชาติ กินเพื่อบรรเทาอาการก่อนเป็นไข้หนัก ด้วยนวัตกรรมการรวมตัวกันของสารสกัดในตัวยาจากธรรมชาติ ซึ่งช่วยผลัก และปรับสมดุลโดยการระบายความร้อนออกจากร่างกาย หลังพบปัญหาผู้ทานยาพาราเซตามอลมีปัญหาต่อตับและไตในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นทุกปี พร้อมเตรียมโกอินเตอร์ เป็นผู้นำตลาดยาบรรเทาไข้ที่สกัดจากธรรมชาติ 100% และหวังตีตลาดยาพาราเซตามอล ผู้บริหารย้ำอยากให้คนไทยได้ยาบรรเทาไข้ที่มีประสิทธิภาพพร้อมรักษาสุขภาพในระยะยาว

ดร.นำกฤติ  จีรพุทธิรักษ์ กรรมการผู้จัดการ และผู้ถือหุ้น บริษัท ซี.เอ.พี.พี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด หรือ C.A.P.P. GROUP ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา CAPPRA เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีข่าวเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการรับประทานยาพาราเซตามอลกันเป็นจำนวนมาก  ทั้งในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาจน อย. ต้องออกมารณรงค์ให้ตระหนักถึงการใช้ยาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาอีกทั้งโดยเฉพาะประเทศแถบสแกนดิเนเวียและญี่ปุ่น จะมีการรณรงค์ไม่รับประทานยาพาราเซตามอลเลย เพราะเป็นอันตรายต่อตับและไตถ้าทานโดยไม่มีฐานความรู้อย่างถูกต้อง ดังนั้นการบรรเทาไข้จึงถูกเปลี่ยนให้เป็นยาที่สกัดจากธรรมชาติ (Alternative Medicine) มากขึ้น รวมทั้งมีโรงพยาบาลในประเทศเยอรมัน สั่งจ่ายยาที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ( Alternative Medicine) เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษา ทั้งยังเคยมีบทความที่สหรัฐอเมริกา เผยถึงสาเหตุของอาการตับวายนั้น อันดับหนึ่งคือมาจากการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด และการใช้พาราเซตามอลเป็นประจำ ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นมะเร็งไตเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยสาเหตุของอาการเหล่านี้ อาจมาจากการที่อนุมูลอิสระจาก toxic metabolite ของพาราเซตามอลกระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับความแก่ชราอย่างอื่นได้อีก    ณ    ปัจจุบันยาที่ทำจากสารสกัดธรรมชาติ ( Alternative Medicine ) สามารถเข้าไปอยู่ในระบบการประกันสุขภาพ ( Health Insurance ) ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังเช่น ประเทศ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และบางประเทศในยุโรป 

ด้วยเหตุนี้ C.A.P.P. GROUP  ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดด้านนวัตกรรมยาเพื่อสุขภาพ จึงได้คิดค้น   นวัตกกรมใหม่ของ KoolCAPP ยาบรรเทาไข้ออกสู่ตลาดผู้บริโภคจะมั่นใจได้ว่าไม่มีผลข้างเคียงต่อตับและไต เพราะเป็นสารที่สกัดจากธรรมชาติ 100%  อย่าง Rheum palmstum L. (โกฐน้ำเต้า) ที่มีฤทธิ์ระบายความร้อน ช่วยขับเหงื่อและสารพิษออกจากร่างกาย, Tinospora Crispa L. (บอระเพ็ดสกัด) ที่ช่วยลดอาการไข้ในเบื้องต้น และลดอาการอักเสบ, Plantago asiatica L. (ผักกาดน้ำป่า) เป็นยาระบายท้อง และ Citrus aurantium L. (ส้มซ่า) ที่ช่วยขับเสมหะ รักษาอาการเจ็บคอ  เมื่อสารสกัดจากธรรมชาติเหล่านี้รวมตัวกันแล้ว จึงมีสรรพคุณในการบรรเทาไข้โดยการผลักความร้อนและขับเหงื่อ ให้ร่างกายระบายพิษไข้ออกทางเหงื่อและการขับถ่าย  แทนการกดระงับการทำงานของระบบประสาท ทำให้ร่างกายปรับสมดุล กลับคืนสู่สภาวะปกติได้ใน 2-4 วัน ทั้งยังได้มาตรฐานการผลิตระดับ GMP ASEAN  ผ่านการรับรองโดยคณะกรรมการอาหารและยามาแล้ว        

KoolCAPP สามารถรับประทานได้ทันที ครั้งละ 2 เม็ดหลังอาหารเช้า-เย็น ติดต่อกัน 3 วัน  เมื่อรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้หนัก จากการตากฝน , อากาศเปลี่ยนแปลง , โดนแดด , พักผ่อนไม่เพียงพอ, ร้อนใน หรือแม้แต่อาการไข้ที่มาจากความเครียด  ฤทธิ์ยาจะทำให้ร่างกายปรับสมดุล ผลักความร้อน คลายความตึงเครียดและอ่อนล้าของร่างกาย ควบคู่กับการดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ

“นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำหนังโฆษณา โดยให้ คุณพอล ภัทรพล ศิลปาจารย์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อตอกย้ำความเป็นดาราที่รักสุขภาพ และใส่ใจในการดูแลตัวเองอยู่เสมอ เป็นแบบอย่างการปฏิบัติตัวที่ดี ของผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ และเลือกสรรสิ่งที่ดีจากธรรมชาติให้ตัวเองเสมอ ๆ  ด้วยแนวคิด   “ ธรรมชาติกับสุขภาพ ”    

“สำหรับตลาดยาพาราเซตามอลในปัจจุบัน มีมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท  ทำจากสารเคมี  85 %  มูลค่า 3,400 ล้าน และทำสกัดจากธรมมชาติ 15 % มูลค่า 600 ล้าน  ทาง C.A.P.P. GROUP  หวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะช่วยให้สุขภาพคนไทยดีขึ้น เราจึงได้ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ในการพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมจากธรรมชาติในการบรรเทาไข้ “KoolCAPP” โดยในปีแรกบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายกว่า 100 ล้านบาท และหวังยอดขายในปีหน้ากว่า 250 ล้านบาท และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตหลังจากปีหน้าร้อยละ 15-25 % ต่อปี”  ยาบรรเทาไข้ KoolCAPP  มีจำหน่ายที่ร้านวัตสัน บู๊ทส์ และร้านขายยาชั้นนำทั่วไปใกล้บ้านคุณ  ดร.นำกฤติ กล่าวปิดท้าย 

]]>
55624
ขายพลาสเตอร์ยาก็ทำ CSR ได้ https://positioningmag.com/14810 Mon, 25 Jun 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14810

แคมเปญ “Help I Want To Save A life” ที่เพิ่งคว้ารางวัลกรังปรีซ์ จากคานส์ในปีนี้ เป็นสุดยอดแคมเปญที่ส่งเสริมให้ประชาชนบริจาคสเต็มเซลล์เพื่อผู้ป่วยมะเร็งในเม็ดเลือด  โดยกล่องพลาสเตอร์ยาของ Help มีวางจำหน่ายทั่วประเทศอเมริกาทั้งในร้านค้าและแบบออนไลน์  ภายในกล่องนอกจากจะบรรจุด้วยพลาสเตอร์ยาแล้ว  ยังมีซองจดหมายให้คนที่ได้รับบาดเจ็บแล้วเลือดออก  ส่งหยดเลือดของตัวเองผ่านก้านสำลีมาที่มูลนิธิปลูกถ่ายไขกระดูกอีกด้วย  ซึ่งหยดเลือดของผู้บริจาคที่ส่งมาคือสเต็มเซลล์ที่จะนำไปตรวจหาความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อของผู้ป่วยนั่นเอง  

หลังจากแคมเปญปล่อยไปมีคนกว่าห้าสิบล้านคนได้ชม  และแบรนด์ Help เป็นที่พูดถึงในวงกว้างตามสื่อต่างๆ ก่อนจะมียอดขายที่พุ่งขึ้นถึง 1900% และมีผู้ร่วมบริจาคสเต็มเซลล์เพิ่มขึ้นถึงสามเท่า  เพราะแคมเปญรู้จักเลือกสถานการณ์การใช้พลาสเตอร์ยาของคน  มาแมชกับการบริจาคเลือดได้อย่างง่ายๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแคมเปญ “Help I Want To Save A life” จึงคว้ารางวัลกรังปรีซ์ไปครองในปีนี้

]]>
14810
เซียงเพียวอิ๊ว ชื่อนี้ยังขายได้ https://positioningmag.com/14698 Sun, 06 May 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14698

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยน …แม้แต่ยาดมหลอดเล็กๆ ชื่อภาษาจีนสมัยอากงอาม่า อย่าง “เซียงเพียวอิ๊ว” ก็เช่นกัน เพราะการปรับภาพลักษณ์สู่ความเป็น “ยาดม” ร่วมสมัย ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในรอบ 10 ปีที่น่าจับตา    

“เซียงเพียวอิ๊ว” โฉมใหม่ มีการเปลี่ยนทั้งรูปทรงหรือแพ็กเกจจิ้งและฉลาก แต่ยังคงความรู้สึกแบบอารมณ์จีนๆ ซึ่ง “สุวรรณา เอี่ยมพิกุล” ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยาดมยี่ห้อนี้ ย้ำว่า “เพราะชื่อนี้ยังขายได้” 

แต่โจทย์ใหญ่คือ ถ้าชื่อคือจุดแข็ง …แล้วเราจะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่ในวัย 25 ปีขึ้นไป สูดดมอย่างมีความสุข เนื่องจากส่วนผสมมาจากธรรมชาติล้วนๆ 100 %

งบประมาณการตลาดที่บริษัทฯ กล้าทุ่มถึง 70 ล้านบาทในปี 2555 สะท้อนให้เห็นว่ามูลค่าตลาดของธุรกิจและระดับการแข่งขัน กำลังเข้าสู่วงจรการต่อสู้ที่หนักหน่วง มีหรือที่เจ้าตลาดจะปล่อยวาง นอกจากสู้ยิบตาอย่างเดียว

แผนเชิงรุกที่พุ่งเป้าขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ในแบบ Above the line ผ่านโฆษณาชุด “เซียงเพียวเวิลด์ ไวด์” และ Below the line ที่เน้นกิจกรรมต่อเนื่องตลอดปีนั้น ยิ่งสนุกและมีสีสันมากขึ้น เมื่อประกบกับแคมเปญ “เซียงเพียวโอเกะ” และ “เซียงเพียวฟุตซอล ออลสตาร์” ที่กำลังเดินสายทั่วทุกภูมิภาค

นับเป็นกลยุทธ์สร้างการรับรู้ต่อภาพลักษณ์ใหม่ไปยังกลุ่มลูกค้าที่อ่อนวัยลงและกินตลาดในกว้างตามกฎของแนวดิ่งและแนบราบ

“บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 50% พร้อมเร่งขยายตลาดใหม่ในฟิลิปปินส์ จีน และแอฟริกาใต้ ให้รู้จักยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ๊ว และยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ มากขึ้น จากเดิมบุกไปขายแล้วหลายประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี โคลัมเบีย และอเมริกา”

ยิ่งเมื่อตลาดเปิดเสรีตามข้อตกลงของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 มูลค่าและโอกาสของตลาดจะพุ่งพรวดมหาศาล หลังรวมประเทศในอาเซียนเป็นตลาดเดียว คาดว่าจะมีประชากรมากถึง 650 ล้านคนเลยทีเดียว

การวางแผนเตรียมพร้อมทั้งภายในองค์กร พนักงาน และสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ ล้วนมีผลต่อการทำตลาดและโรดโชว์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะผลักดันให้แบรนด์เซียงเพียวอิ๊วเติบโตอย่างยั่งยืน มีรายได้ทะลุพอร์ต 1,500 ล้านบาทได้อย่างไม่ยาก

ขนาดวิกฤตมหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยาดมแบรนด์เก๋ายังโกยยอดขายได้มากขึ้น 25% ชี้ว่า ยาดมยังเป็นที่พึ่งทางลมหายใจจริงๆ    

ปัจจุบันการแบ่งสัดส่วนทำตลาดในและนอกประเทศของเซียงเพียวอิ๊ว อยู่ที่ระดับ 50 : 50 แยกเป็นแบรนด์เซียงเพียว 80% และแบรนด์เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ 20% 

“สุวรรณา” วิเคราะห์ว่า ยาดมและยาหม่องน้ำแบรนด์ไทยจะมีเพียง 4-5 แบรนด์เท่านั้นที่เป็นรายใหญ่ และสามารถรองรับการแข่งขันได้ แต่กับแบรนด์ระดับเล็กแบบโอท็อปและเอสเอ็มอีทั่วไป ยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์การแข่งขันที่หนักหน่วง ขนาดเบอร์แทรมเคมิคอล (1982) ยังต้องปรับตัวอย่างมาก เพื่อก้าวสู่ระดับความเป็นสากล

เริ่มตั้งแต่การปรับปรุงประสิทธิภาพและจัดระบบการทำงานของพนักงานกว่า 200 คน ซึ่งปี 2555 บริษัทฯใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานใหม่ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัด ปทุมธานี เนื้อที่กว่า 80 ไร่ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตอีก 10 เท่าจากโรงงานเดิมย่านลาดพร้าวที่ผลิตเต็มที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ในปี 2558

ซึ่งงบฯ 70 ล้าน บริษัทฯ เตรียมไว้ เพื่อขยายตลาดเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ โดยมองว่าตลาดในประเทศยังมีโอกาสขยายตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นสินค้าที่มีอายุเก่าแก่ แต่เซียงเพียวอิ๊วชื่อนี้ก็ยังขายได้ ซึ่งเป็นสูตรยาโบราณที่ใส่ความทันสมัยลงไป ในกลุ่มเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ซึ่งยอดขายในปี 2554 เติบโตมากถึง 40% จากปี 2553 และปี 2555 เราตั้งเป้าเติบโต 50 % เพื่อตอกย้ำแบรนด์และยอดขายอันดับหนึ่ง

นอกจากจุดเด่นสินค้าที่ทำมาจากสมุนไพร 100% การบริหารจัดการและปรับแผนให้ทันท่วงทีกับสิ่งที่ตลาดต้องการ ถือเป็น “จุดแข็ง” ของ Family Business ตระกูล “เอี่ยมพิกุล” ที่ได้เปรียบในแง่การตัดสินใจและเข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้  

กล่าวถึง “เซียงเพียวอิ๊ว” อยู่คู่ในเมืองไทยมานานกว่า 60 ปีแล้ว เริ่มจาก “บุญเจือ เอี่ยมพิกุล” ได้สูตรยาหม่องน้ำมาจาก “ซินแส” ชาวจีนที่เป็นเพื่อนกับพ่อ เมื่อผลิตและออกวางขาย ปรากฏว่าตลาดให้การตอบรับดี แต่ติดปัญหาเรื่อง “ช่องทางจำหน่าย” มีหลายครั้งที่ถูกปฏิเสธ จน “สุวรรณา” ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการลาด เมื่อมาร่วมงานกับครอบครัวก็มองเห็นอุปสรรค จึงเร่งหาทางออกเพิ่มช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ โดยร่วมเจรจากับกลุ่ม Modern Trade ยักษ์ธุรกิจค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์สโตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อไม่ให้สินค้าตัวเองถูกจำกัดวงการขายอยู่ที่ร้านขายยาเท่านั้น

เมื่อหนังโฆษณาของ เซียง เพียว อิ๊ว ถูกออนแอร์ออกไป ก็ถูกกล่าวขานถึง เพราะเจ้าของยังไม่ทิ้งกลิ่นอายของความเป็นจีนๆ ทุกเรื่องราวจะบอกถึงการต่อสู้ของจอมยุทธ์ และสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับชาวจีนยุคโบราณ แต่นำเสนอแบบขำๆ เรียกเสียงหัวเราะจากลูกค้าวัยรุ่นให้จดจำแบรนด์ได้ง่าย    

อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่า “เพพเพอร์ มินท์ ฟิลด์” ซึ่งมุ่งเจาะตลาดคนรุ่นใหม่นั้น แม้จะไม่มีการปรับสูตรให้เข้มข้นกับเท่าเซียงเพียวอิ๊ว แต่ก็ต้องใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นดาราวัยรุ่น เพราะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่เลือกใช้สินค้าตามความนิยม มากกว่าจะยึดติดกับแบรนด์ เหมือนสินค้ารุ่นเก่า จากประสบการณ์ ทำให้ยาดมค่ายนี้ประสบความสำเร็จ และยังเป็นแบรนด์ที่อยู่ยงคงกระพัน 

มีอีกสิ่งหนึ่งที่ยังอยู่ และไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเลยคือ “หน้าของอากง” ซึ่งสุวรรณาบอกว่า “อากง คือคุณปู่ของเธอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ต้องรักษาไว้ เพราะจุดเริ่มของธุรกิจครอบครัวก็มาจาก อากง”

แม้ลูกหลานจะเข้ามาสืบทอดธุรกิจเป็นรุ่นที่ 2 และ 3 แต่ตำนาน 60 ปีของเซียงเพียวอิ๊ว เป็นสิ่งที่ทายาททุกรุ่นต้องรักษาไว้

เพราะทุกธุรกิจ ล้วนมีเรื่องราว และเป็น Story ที่จะบอกทุกคนว่า “อากง” คือผู้มีพระคุณ    

 

ความสำเร็จของ 

Family Business 

สุวรรณา เอี่ยมพิกุล มือการตลาดของยาดมแบรนด์เก๋า “เซียงเพียวอิ๊ว” เป็นทายาทรุ่นที่ 2 ที่สืบทอดธุรกิจมากบิดาชื่อ “บุญเจือ เอี่ยมพิกุล” ส่วนพี่สาว สุปียา แสงหิรัญ รับผิดชอบเรื่องโรงงาน และ ฐิติมา เอี่ยมพิกุล ดูแลเรื่องบัญชีการเงิน

แม้จะถูกมองว่าเป็นธุรกิจแบบครอบครัว และบ่อยครั้งถูกตั้งคำถามว่า เมื่อถึงยุคที่ 3 ธุรกิจมักจะล่มสลาย ซึ่งเธอไม่ได้คิดแบบนั้น และมีความเชื่อว่า ธุรกิจครอบครัวมีข้อดีที่โดดเด่นคือความทุ่มเท ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความซื่อสัตย์ ฉะนั้นถ้าผู้บริหารรุ่นใหม่บริหารจัดการได้ดี โปร่งใส และเข้าใจตลาดจริงๆ ไม่มีอะไรที่จะไม่สำเร็จ

เธอยกตัวอย่างว่า ธุรกิจครอบครัวในไทยที่สำเร็จและน่ายกย่องคือ ตระกูล “เจียรวนนท์” และ “จิราธิวัฒน์” ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาของนักธุรกิจที่โตมาแบบครอบครัวไม่ว่าจะรายใหญ่รายเล็ก

หลังจบการศึกษา สุวรรณา ผ่านงานบริษัทเอกชน เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาแล้วมากมาย  อาทิ งานเอเยนซี่ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ปราณบุรี สับปะรดกระป๋อง จำกัด, ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เรนเมคเกอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้ายี่ห้อ Hangten และเคยเป็นอาจารย์พิเศษระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ บริหารธุรกิจ (เอแบค)

 

]]>
14698
“ เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ” จัดเวิร์คช้อปชวนคนดี ช่วยคนหล่อ ไปทำดี https://positioningmag.com/54769 Fri, 16 Sep 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=54769

คุณสุวรรณา เอี่ยมพิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาดม “เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์” จัดกิจกรรมเวิร์คช้อป “ชวนคนดี ช่วยคนหล่อ ไปทำดี” พร้อมกับพรีเซ็นเตอร์ “บอย ปกรณ์” และ 50 คนรุ่นใหม่ที่อาสาสมัครมาช่วยกันทำสื่อการเรียนการสอน รวมทั้งอุปกรณ์กีฬาเพื่อนำไปมอบให้กับเด็กๆ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่น้ำน้อย จ.กาญจนบุรี

]]>
54769
เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ สติ๊ก คนรุ่นใหม่ยืดอกพกยาดม https://positioningmag.com/13799 Fri, 10 Jun 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=13799

ในช่วง 5 ปีหลังมานี้ มีการทยอยปรับภาพลักษณ์ของยาดม ยาหม่อง และบาล์มกันอย่างจริงจัง ทั้งถ้วยทอง โป๊ยเซียน วาเป๊กซ์ เซียงเพียวอิ๊ว ฯลฯ เพื่อปลุกตลาดให้คึกคัก ซึ่งเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ แบรนด์ใหม่ของเบอร์แทรมเคมิคอล กำลังทำให้ภาพคนพกยาดมเปลี่ยนไป

เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ สติ๊ก ในรูปแบบยาดม อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่สดใส มีใบไม้ และใช้สีฟ้าเพื่อสื่อถึงส่วนผสมธรรมชาติ เพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองเรื่องภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ

“จากเดิมคนรุ่นใหม่มองว่ายาดมทำลายลุค เขาลงทุนเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายไปตั้งเท่าไหร่ ไม่มีใครอยากจะมาตกม้าตายเพราะยาดมหลอดเดียว” สุวรรณา เอี่ยมพิกุล (อัครพงศ์พิศักดิ์) ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด บอกว่าถึงจุดเปลี่ยนของยาดมยุคนี้

เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ สติ๊ก วาง Positioning เป็นยาดมของคนรุ่นใหม่ และเลือกใช้บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อห้ำหั่นกับคู่แข่งหมายเลขหนึ่งของตลาดยาดมคือโป๊ยเซียน

การเลือกใช้บอย ปกรณ์ เพราะมีฐานแฟนคลับจำนวนมาก มีภาพลักษณ์ทันสมัยเช่นเดียวกับคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ ดังนั้นการเลือกพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้จึงเป็นทิศทางที่ชัดเจนมากของเพพเพอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ที่ต้องการจับกลุ่มคนเมืองอย่างแท้จริง

เธอเชื่อว่า การใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นทางลัดทำให้เกิด Brand Awareness ได้อย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมามีการใช้พรีเซ็นเตอร์ไปแล้ว 2 คน คือ รุจ เดอะ สตาร์ และ คริส หอวัง

“ยาดมส่วนใหญ่พูดถึง Functional Benefit แต่เราจะต้องย้ำ Emotional Benefit โดยเน้นทำ Below the line เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับแบรนด์มากขึ้น เช่น แคมเปญ Relax 365…Feel Relaxed Everyday เชิญชวนให้ผู้บริโภคเสนอไอเดียวิธีผ่อนคลายในแบบฉบับของตัวเอง และจะคัดเลือกไปบันทึกในไดอารี่ของเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ประจำปี 2555 รวมถึงกิจกรรมปิดโรงดูหนังกับบอย ปกรณ์ และอื่นๆ ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปีด้วย”

แต่สิ่งที่สุวรรณาคาดหวังมากที่สุดก็คือ การขยายตัวของตลาดยาดมที่ขณะนี้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายวัย 18 ปีเริ่มใช้ยาดมมากขึ้น

สุวรรณาบอกว่า ตลาดยาดมมี Loyalty ต่ำ เพราะจากการทำวิจัยแบบ Blind Test พบว่า ลูกค้าไม่สามารถบอกความแตกต่างหรือแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ยกเว้นกรณีของเซียงเพียวอิ๊ว ซึ่งมีกลิ่นและเอกลักษณ์ที่โดดเด่น

ในปี 2554 นี้ คาดว่าจะมียอดขาย 110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ราว 50% จากตลาดยาดมมูลค่า 1,000 กว่าล้านบาท

สัดส่วนยอดขายเบอร์แทรมเคมิคอล (1982)
เซียงเพียวอิ๊ว 80%
เซียงเพียวอิ๊ว 20%
สัดส่วนผู้ใช้ยาดม (by age)
18-25 ปี 30%
25-35 ปี 30%
อื่นๆ 40%
]]>
13799
เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ เลือก บอย ปกรณ์ ตัวแทนส่งความผ่อนคลายสู่คนรุ่นใหม่ https://positioningmag.com/54453 Fri, 20 May 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=54453

บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ นับเป็นพระเอกขายดีอีกคนหนึ่งจากละครยอดฮิต 4 หัวใจแห่งขุนเขา หลังจากจบละคร แต่กระแสความนิยมกลับทวีคูณอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดาราหลายคนในละครเรื่องนี้ต่างก็ขายดี ล่าสุดบอยได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ในแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ของยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ซึ่งเป็นยาดมสำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะเป็นยาดมอโรมา ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% ที่มีเพพเพอร์มินท์เป็นส่วนประกอบหลัก จึงให้กลิ่นหอมสดชื่น เหมือนอยู่ท่ามกลางความสะอาดบริสุทธิ์ของธรรมชาติช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ

ภายในงานเปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ จัดขึ้นที่ร้าน ซีเคร็ท การ์เด้น ทองหล่อ ท่ามกลางบรรยากาศแบบสวนสบายๆ สร้างความรู้สึกให้ผ่อนคลายกันอย่างเต็มที่ ตามคอนเซ็ปท์ของหนังโฆษณา “เมื่อรู้สึกผ่อนคลาย…ก็ทำทุกอย่างได้สบาย สบาย” พร้อมฟังสัมภาษณ์ถึงที่มาของแคมเปญโฆษณาชุดนี้จาก นางสุวรรณา เอี่ยมพิกุล (อัครพงศ์พิศักดิ์) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ว่ามาจากความคิดว่าถ้าทุกคนผ่อนคลาย ก็จะสามารถทำทุกอย่างได้อย่างสบายๆ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับคุณสมบัติของยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ที่สามารถสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับทุกๆ คนได้ง่ายๆ เพราะแค่การดมยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ก็ช่วยเรียกความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ทันทีในทุกครั้งที่สูดดม นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการเลือก บอย ปกรณ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ ลุ๊คดูเท่ห์ มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ดูเป็นคนสบายๆ เป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเอง และเป็นดารายอดนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับบทบาทของบอยในการเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่จะทำหน้าที่รับไม้ต่อจากคริส หอวัง และรุจ เดอะสตาร์ เป็นตัวแทนของยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ในการนำความผ่อนคลาย สบายๆ ไปสู่คนรุ่นใหม่ในวงกว้างยิ่งขึ้น ทั้งนี้บอย ปกรณ์ ได้กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ ตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อให้สมกับความไว้วางใจที่ได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ ส่วนเนื้อหาของโฆษณาชุดนี้ บอย ปกรณ์ เล่าว่าหนังโฆษณาจะเริ่มต้นด้วยการปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับการเล่นเวคบอร์ด (Wake Board) ที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นการเล่นเวคบอร์ดที่เปลี่ยนเมืองทั้งเมืองให้กลายเป็นบึงเพพเพอร์มินท์ พร้อมทั้งได้นำเอาความผ่อนคลายสบายๆ ไปให้กับกลุ่มคนต่างๆ เช่นคู่รัก กลุ่มนักกีฬา และสาวๆ วัยรุ่น โดยภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ได้สื่อภาพของความผ่อนคลายออกมาด้วยอาการลอยตัว เมื่อกลุ่มคนต่างๆ ได้สัมผัสกับความหอมสดชื่นจากใบมินท์ สื่อความหมายถึงความรู้สึกของคนที่ผ่อนคลายสบายๆ

ช่วงท้ายงานเป็นการคิกออฟกิจกรรม “Relax 365…Feel Relaxed Everyday” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เชิญชวนทุกคนมาร่วมกันแบ่งปันวิธีสร้างความผ่อนคลายในแบบฉบับของตัวเองที่ใช้ได้ผล และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ให้นำเอาไปใช้สร้างความผ่อนคลายในชีวิตจริงได้ โดย 365 ไอเดียที่ถูกคัดเลือกจะถูกบันทึกไว้ในสมุดไดอารี่ที่เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ จะจัดทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ สำหรับปี 2555

จบท้ายงานด้วยการทำเซอร์ไพรส์ด้วยเค้กก้อนโตฉลองครบรอบ 1 ปี เฟสบุ๊คบอย ปกรณ์ พร้อมฉลองยอดสมาชิกทะลุยอดกว่า 60,000 คน งานนี้บอยและบรรดาแฟนคลับทำพิธีตัดเค้ก เป่าเทียนร่วมกัน แถมท้ายด้วยบอย ปกรณ์ตัดเค้กป้อนบรรดาแฟนคลับเพื่อเป็นการขอบคุณที่ให้การสนับสนุนมาตลอด เรียกรอยยิ้มและน้ำตาแฟนคลับกันถ้วนหน้า….ก่อนกลับบ้านไปนอนหลับฝันดีกันทุกคน

]]>
54453
ไบโอฟาร์ม ลุยตลาดเวชภัณฑ์ “CPhI Worldwide 2010 – Paris” ประเทศฝรั่งเศส https://positioningmag.com/53727 Wed, 15 Dec 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=53727

บ.ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้นำนวัตกรรมเวชภัณฑ์และอาหารเสริม ภายใต้มาตรฐานโลก EU GMP (PIC/S)จากสหภาพยุโรป จับมือ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ นำผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และอาหารเสริมของไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ในนครปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในงาน “CPhI Worldwide 2010 – Paris” โดยคุณวินิตา เจนวัฒนวิทย์ รองกรรมการผู้จัดการ, คุณเศกสุข เกษมสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด และคุณเอกภพ ไอศูรย์พิศาลกุล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผนึกกำลังประชาสัมพันธ์ขยายตลาดเวชภัณฑ์ของไทยสู่ตลาดโลก งานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าเวชภัณฑ์และวัตถุดิบในการผลิตเวชภัณฑ์และเครื่องสำอางที่ก้าวล้ำด้วยงานวิจัยและเทคโนโลยี การแสดงสินค้าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปสู่การเจรจาทางธุรกิจและการร่วมลงทุนระหว่างคู่ค้าจากนานาประเทศ

]]>
53727
เฮลธ์ อิมแพค ฉีกกฎวิตามินซี เจาะตลาดเทรนด์ใหม่ เปิดตัว ซีโด้ เฮลธ์ตี้ กัมมี่ เจลลี่ กลีบส้ม https://positioningmag.com/53676 Fri, 26 Nov 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=53676

กรุงเทพฯ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553: เฮลธ์ อิมแพค ฉีกรูปแบบวิตามินซี เปิดตัว ซีโด้ เฮลธ์ตี้ กัมมี่ เจลลี่ กลีบส้ม เคี้ยวสนุก…อร่อยเพลิน มุ่งตอบโจทย์คนรักสุขภาพแนวใหม่ มั่นใจติดตลาด คนรุ่นใหม่อย่างรวดเร็ว ผ่านช่องทางจำหน่ายครอบคลุมร้านขายยาทั่วประเทศ ผสานจุดแข็งที่รสอร่อยทานสะดวก เสริมวิตามินซีได้ถึง 60 มิลลิกรัมต่อเม็ด เพียงพอต่อความต้องการของร่ายกายในแต่ละวัน เตรียมกลยุทธ์รุกตลาดแบบ บีโลว์เดอะไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เอ็นจอยไลฟ์ เอ็นจอยเฮลธ์” หวังมีส่วนแบ่งตลาดวิตามินซีที่มีมูลค่าสูงกว่า 500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 12 ล้านบาท เผยปีนี้ ยอดขายรวมผ่านฉลุยทุกไตรมาส มั่นใจปลายปีมีรายได้ทะลุเป้า 300 ล้านบาท

ภญ.กรรณิการ์ เอกศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด เปิดเผยว่า เทรนด์ในการดูแลสุขภาพ มีการปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบใหม่ ที่เน้นให้ความสะดวกสบายให้คนรักสุขภาพได้เอ็นจอยไลฟ์มากขึ้น จะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน นอกจากวิตามินในรูปเม็ดหรือแคปซูลแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบของเครื่องดื่มเสริมวิตามินต่างๆ ออกมาวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ทำให้มูลค่าตลาดในกลุ่มวิตามินทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 3,900 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มวิตามินซีสูงถึงกว่า 500 ล้านบาท โดย เฮลธ์ อิมแพค เห็นว่าในกลุ่มของวิตามินซี เป็นตลาดที่น่าสนใจ จึงสนใจเข้ามาทำตลาดด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซีโด้ เฮลธ์ตี้ กัมมี่ ที่พัฒนารูปแบบวิตามินซีให้อยู่ในรูปของ เจลลี่ กลีบส้ม ซึ่งฉีกรูปแบบวิตามินแบบเดิมๆ ที่อยู่ในรูปแบบยาเม็ด หรือ แคปซูล เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการได้รับความเพลิดเพลินในการรับประทานมากขึ้น ทั้งนี้ ซีโด้ เฮลธ์ตี้ กัมมี่ เป็น เจลลี่ กลีบส้ม เคี้ยวสนุก อร่อยเพลิน และให้คุณค่าของ วิตามิน ซี สูงถึง 60 มิลลิกรัม/เม็ด เริ่มวางจำหน่ายแล้วในร้านขายยาทั่วประเทศ โดยตั้งเป้ายอดขายในปีแรกไว้ที่ประมาณ 12 ล้านบาท

แม้ว่า ตลาดในกลุ่มวิตามินซี จะมีคู่แข่งอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวิตามินซีในรูปแบบยาเม็ดหรือแคปซูล ส่วนวิตามินซีในรูปแบบของเจลลี่ที่ถือว่าเป็นรูปแบบใหม่นั้น ยังมีคู่แข่งในตลาดจำนวนไม่มากนัก เฮลธ์ อิมแพค จึงถือเป็นโอกาสที่จะเข้ามามีส่วนแบ่งตลาด ที่มีมูลค่าสูงถึงกว่า 390 ล้านบาทนี้ โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คุณแม่รุ่นใหม่ ที่มีลูกวัย 3- 10 ปี และคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสุขภาพและต้องการความทันสมัย โดยในการรุกตลาดปีแรก ได้เตรียมงบประมาณไว้ 30 % ของยอดขาย แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 50 % ในการโฆษณาผ่านสื่อที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และ บีโลว์เดอะไลน์ 50 % ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เอ็นจอยไลฟ์ เอ็นจอยเฮลธ์” ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในย่านชุมชนต่างๆ อาทิ อ๊อฟฟิต บิวดิ้ง, แหล่ง ช็อปปิ้ง, สถาบันการศึกษา และสถาบันสุขภาพต่างๆ ทั่วประเทศ อย่างต่อเนื่อง ภญ.กรรณิการ์ กล่าวและเพิ่มเติมว่า

ซีโด้ เฮลธ์ตี้ กัมมี่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ เฮลธ์ อิมแพค มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นวิตามิน ซี รูปแบบใหม่ หนึ่งกล่องมีขนาดบรรจุ 30 เม็ด จำหน่ายในราคากล่องละ 145 บาท บรรจุ 30 เม็ด/กล่อง ( รูปกลีบส้ม ) ขนาดแต่ละเม็ด น้ำหนัก 3 กรัม / เม็ด ให้วิตามินซี 60 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการวิตามิน ซี ใน 1 วันของคน ที่มีค่าความต้องการ RDA เท่ากับ 60 มิลลิกรัม/วัน โดยผลิตภัณฑ์ ซีโด้ เฮลธ์ตี้ กัมมี่ มีคอนเซ็ปต์แบรนด์ คือ เป็นทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพ ในรูปแบบของวิตามินทานสนุก รสชาติอร่อย และ ดีต่อสุขภาพ เรียกได้ว่า เอ็นจอยไลฟ์กับการดูแลสุขภาพได้อย่างมีความสุข ถือเป็นอีกก้าวกระโดดของ เฮลธ์ อิมแพค ที่ฉีกรูปแบบการรับประทานวิตามินจากรูปแบบเดิมๆ สู่รูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ค่อนข้างอินเทรนด์ ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

สำหรับ ภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศ ท่ามกลางสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายในปีนี้มากนัก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ เฮลธ์ อิมแพค ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม นิชมาร์เก็ต [Niche market] โดยแบ่งสัดส่วนยอดขายออกเป็น จากกลุ่มบำรุงข้อและกระดูก 35 % กลุ่มบำรุงรากผม 20 % นูลิน 5 % ส่งออก 30 % และอื่นๆ อีก 10 % ในส่วนของ ซีโด้ หลังจากออกผลิตภัณฑ์ ซีโด้ เฮลธ์ตี้ กัมมี่ เจลลี่ วิตามินซี แล้ว จะมีการประเมินผลในช่วง 2 เดือนแรก หากได้รับการต้อนรับจากตลาดเป็นอย่างดี ก็จะเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม โดยยังอยู่ในกลุ่มสินค้าบำรุงสุขภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เอ็นจอยไลฟ์ เอ็นจอยเฮลธ์” อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ เฮลธ์ อิมแพค ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 300 ล้านบาท โดยในปีหน้ามีเป้าหมายที่จะรุกตลาดให้เข้มข้นมากกว่าเดิม มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ป้อน สู่ตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งทำกิจกรรมการตลาดแบบเน้นความถี่ ทั้งการโฆษณา, ประชาสัมพันธ์ และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในแต่ละแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคและประชาชนทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ภญ.กรรณิการ์ กล่าวสรุปในที่สุด

]]>
53676