งานแถลงข่าวงานแรกของยูนิลีเวอร์ประจำปี 2553 เป็นของแบรนด์วอลล์ ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอ้าวของกรุงเทพฯ ทว่ามาสคอต “แพดเดิ้ล ป๊อป ไลอ้อน” อันคุ้นตา และผองเพื่อนกลับเริงร่าท้าแดดจ้ากลางสวนเบญจสิริ เพื่อเชิญชวนให้เด็กๆ ร่วมประชันไอเดียสร้างสรรค์จากไม้ไอศกรีมวอลล์ภายใต้แนวคิด “สิ่งมหัศจรรย์ของโลก” รับวันเด็กแห่งชาติ

นับเป็นแคมเปญใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมาของวอลล์ แพดเดิ้ล ป๊อปซึ่งอยู่ในตลาดเมืองไทยมานาน 20 ปี และเป็นแคมเปญระยะยาวที่กินเวลาถึง 12 เดือน ตั้งแต่มกราคม – ธันวาคม 2553 วอลล์ไม่ได้ลงทุนกับมูลค่าของรางวัลในครั้งนี้เท่าไรนักเพราะใช้งบประมาณในส่วนนี้เพียง 5 แสนบาทเท่านั้น แต่ได้ทุ่มงบประมาณ ซึ่งไม่เป็นที่เปิดเผยตัวเลขไปกับการโรดโชว์ตามโรงเรียนประถมศึกษากว่า 250 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์อื่นๆ

“ไม้ไอติม” ยังคงมนต์ขลังและถูกหยิบยกมาเป็นเครื่องมือในการทำกิจกรรมสื่อสารการตลาดและชิงโชคของแบรนด์ไอศกรีมทุกแบรนด์อยู่เสมอ เพียงแต่จะมีลูกเล่นแตกต่างกันไป เนื่องจากเป็นหนึ่งในวัสดุอุปกรณ์สำหรับงานประดิษฐ์ของเด็กนักเรียนไทยมาทุกยุคทุกสมัย

จากประสบการณ์ผู้บริโภคที่มองว่าไอศกรีมเป็นเรื่องของความอร่อย และสนุก แต่วอลล์ แพดเดิ้ล ป๊อปต้องการต่อยอดในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกมใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้นอีกขั้น จึงเป็นที่มาของแคมเปญประดิษฐ์สิ่งมหัศจรรย์ของโลกจากไม้ไอศกรีม เช่น แกรนด์แคนยอน ซึ่งสามารถสร้าง Brand Loyalty และสร้างความผูกพันระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ได้ โดยมุ่งจับกลุ่มเด็กวัยประถมศึกษาอายุ 8-12 ปี หรือวัย Tween สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ VP Foods&Ice Cream บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บอก

แคมเปญเดียวใช้ได้ทั้งปีแบบนี้ ย่อมทำให้เกิด Brand Awareness ต่อเนื่อง และกระตุ้นให้เกิดการบริโภควอลล์ แพดเดิ้ล ป๊อปมากขึ้นตลอดทั้งปีโดยปริยาย เพราะการจะนำไม้ไอศกรีมวอลล์มาสร้างสรรค์ผลงานได้ก็ต้องลงขันกันซื้อมาก่อนนั่นเอง ที่สำคัญในการของการลงทุนและการสื่อสารแล้วนับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเพราะมีเพียง Message เดียวและไม่สะเปะสะปะ

“เด็กกับไอศกรีมเป็นของคู่กัน เราจะขายในทุกๆ ที่ที่มีคน บนเรือ บนเกาะ ต้องมีวอลล์ขาย เนื่องจากไอศกรีมเป็น Impulse Product ถ้านึกอยากกินต้องหาซื้อได้ หรือเพียงแค่เห็นตู้แช่ เห็นรถไอศกรีมก็ต้องอยากซื้อกินทันที ขณะที่คนขายก็ต้องขยันทุกวันไม่ต้องสนใจดินฟ้าอากาศ แต่ถ้าฝนตกขอเป็นตกกลางคืนละกันอย่าตกกลางวัน (หัวเราะ)” สุพัตราบอกถึงทิศทางการรุกตลาดในปีนี้

ทั้งนี้เธอตั้งเป้าแคมเปญนี้จะมีเด็กเข้าร่วมกิจกรรมราว 30,000-50,000 คน หรือ 10,000 ชิ้นงาน (ทีมละ 3-5 คน)

ยูนิลีเวอร์ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยรายได้กว่า 5,000 ล้านยูโรต่อปี โดยในไทยมีผลิตภัณฑ์จำหน่าย 4 กลุ่ม หรือ 4-Sub brand คือ ซีเลคชั่น แบบนำกลับบ้าน, คอร์นเนตโต (จับกลุ่มวัยรุ่นมีวง BOY เป็นพรีเซนเตอร์) , มอ (จับกลุ่มเด็กอายุ 6-14 ปี) และแพดเดิ้ล ป๊อป โดยยังเป็นผู้นำในตลาดไอศกรีมเมืองไทยซึ่งมีมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท และเติบโต 3-4% ขณะที่เนสท์เล่เคยให้ข้อมูลมูลค่าตลาดไอศกรีมเมืองไทยเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมาว่ามีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท