Rihanna – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 26 Sep 2022 05:07:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘Apple Music’ ขอเสียบแทน ‘Pepsi’ เป็นสปอนเซอร์ช่วง ‘Super Bowl Halftime Show’ https://positioningmag.com/1401671 Mon, 26 Sep 2022 04:11:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1401671 หากพูดถึง Super Bowl Halftime Show ที่เป็นการแสดงช่วงพักครึ่งการแข่งขัน Super Bowl หรือ NFL รอบชิงชนะเลิศ ถือได้ว่าเป็นช่วงที่มีผู้ชมมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา โดยสปอร์นเซอร์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็คือแบรนด์น้ำอัดลมรายใหญ่ของโลกอย่าง Pepsi แต่ล่าสุด Apple ก็ได้เสียบเป็นสปอร์นเซอร์ในช่วงดังกล่าวแทน

หลังจากที่ PepsiCo แบรนด์ผู้ผลิตน้ำอัดลมชื่อดังของโลก ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ National Football League หรือ NFL ที่จะเป็นสปอนเซอร์ในช่วง Super Bowl Halftime Show หลังจากที่เป็นผู้สนับสนุนนับตั้งแต่ปี 2013-2021 ล่าสุด NFL ก็ได้ Apple Music มาเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่ โดยจะเริ่มที่เกมชิงแชมป์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023

ที่ผ่านมา ช่วง Super Bowl Halftime Show มักได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวอเมริกันและถือเป็นรายการทีวีที่มีเรตติ้งสูงสุดแห่งปี โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงมาแสดง อาทิ The Weeknd, Jennifer Lopez, Shakira, Beyoncé, Justin Timberlake, Lady Gaga และ Katy Perry เป็นต้น และในรายการ Super Bowl LVI Halftime Show 2022 ที่มีศิลปินฮิปฮอปชื่อดังอย่าง Dr. Dre, Snoop Dogg, Eminem, Mary J. Blige และ Kendrick Lamar ร่วมแสดงก็มีผู้ชมกว่า 120 ล้านคน เติบโตกว่าปีก่อน 6%

อย่างไรก็ตาม ทาง Apple ไม่ได้เปิดเผยเรื่องเม็ดเงินในข้อตกลง แต่มีการอ้างอิงข้อมูลจาก Sportico ที่คาดว่า Apple ต้องจ่ายเงินกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี หรือราว 1,900 ล้านบาท และแม้ว่าการเป็นสปอร์นเซอร์ใน Super Bowl Halftime Show จะเป็นครั้งแรกของ Apple แต่จริง ๆ แล้วบริษัทได้ซื้อโฆษณาระหว่างการแข่งขันตั้งแต่ปี 1984 เพื่อโปรโมตสินค้ามาโดยตลอด

ไม่ใช่แค่ได้ Apple มาเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่ แต่ NFL ยังเปิดเผยว่าได้ศิลปินชื่อดังอย่าง ริฮานน่า ที่หายหน้าหายตาไปนานหลังจากไปเอาดีกับการทำธุรกิจเป็นหลักแทน ดังนั้น Super Bowl Halftime Show ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 12 ก.พ. 2023 จะถือว่าเป็นการคืนสู่เวทีคอนเสิร์ตอย่างยิ่งใหญ่สำหรับริฮานน่าเลยทีเดียว

Source

]]>
1401671
เมื่อโฆษณาไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับ GOYARD https://positioningmag.com/1234786 Sun, 16 Jun 2019 02:55:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1234786

ในยุคที่การแข่งขันทางการตลาดรุนแรงดุเดือดเพื่อเชือดเฉือนส่วนแบ่งการตลาดกัน “โฆษณา” คือหนึ่งในอาวุธสำคัญที่ทุกแบรนด์งัดกันเข้ามาสู้ บางอุตสาหกรรมอาจต้องใช้งบโฆษณากันปีละหลักร้อยล้านหรือพันล้านบาท ทุ่มงบมหาศาลในการคว้าตัวดาราที่กำลังฮอตฮิตที่สุดมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ได้ จนผมเองก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าในยุคนี้ เราจะขายของหรือสร้างแบรนด์ได้อย่างไรถ้าเราไม่โฆษณา

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในโลกนี้ มีแบรนด์ที่ยืนหยัดและเติบโตมานานเกินกว่าร้อยปี โดยไม่เคยเสียค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียว ผมกำลังพูดถึงแบรนด์กระเป๋าสัญชาติฝรั่งเศสชื่อ GOYARD ที่หลายคนอ่านชื่อแบรนด์ว่า โก-หยาด แต่จริงๆ การอ่านตามต้นตำรับภาษาฝรั่งเศส แบรนด์นี้อ่านว่า โก-ยาร์ ซึ่งแบรนด์กำเนิดขึ้นที่ปารีส เพียงหนึ่งปีก่อนแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Louis Vuitton ด้วยธุรกิจผลิตกระเป๋าและกล่องสำหรับคนรวยเพื่อใช้บรรจุสิ่งของในการเดินทางหรือส่งไปต่างประเทศ ลองนึกภาพดูนะครับว่าร้อยกว่าปีก่อน ที่การเดินทางยังไม่ได้สะดวกแบบทุกวันนี้ คนที่มีสิทธิ์เดินทางไกล หรือส่งของไปไกลๆ ล้วนแล้วแต่เป็นคนรวย หรือนักธุรกิจใหญ่โตทั้งนั้น

จุดเด่นของ Goyard นั้นเป็นที่รู้กันว่าคือลายเพนต์ที่อยู่บนกระเป๋าและหีบเดินทางทุกใบ โดยเพนต์เป็นทรง chevron หรือทรงคล้ายๆ กับตัว Y ที่มีชื่อเรียกว่า Goyardine ซึ่งในอดีตนั้น สินค้าทุกใบจะผ่านการเพนต์ด้วยมือของช่างฝีมือล้วนๆ แต่ด้วยปัจจุบันที่ธุรกิจเติบโตขึ้น ขยับขยายจำนวนสาขามากขึ้นไปทั่วโลก มีหลายแหล่งข้อมูลบอกว่า Goyardine ในปัจจุบันใช้เทคนิคการพิมพ์แบบพิเศษ ไม่ได้ใช้ช่างฝีมือเพนต์ด้วยมืออีกต่อไปแล้ว เพราะผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้ายังเพนต์มือกันอยู่ จะต้องมีกองทัพช่างใหญ่โตขนาดไหนถึงจะสามารถผลิตสินค้าออกมาได้มากเพียงพอกับความต้องการที่สูงขึ้นทุกปี

แต่อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่ยังมั่นใจได้ตลอดร้อยกว่าปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ คือสินค้าของ Goyard ยังคงผลิตในสำนักช่าง Goyard ในประเทศฝรั่งเศสทุกชิ้น ไม่มีการขยับขยายฐานการผลิตไปที่ประเทศอื่นโดยเด็ดขาด ซึ่งต่างจากแบรนด์ไฮเอนด์หลายแบรนด์ ที่เริ่มขยับขยายฐานการผลิตไปที่ประเทศอื่นมานานแล้ว

ด้วยความที่ Goyard เป็นแบรนด์ที่ยึดมั่นในคุณภาพการผลิต และระมัดระวังเรื่องการขยายสาขาไม่ให้กลายเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ง่ายจนเกินไป ทำให้แบรนด์นี้เริ่มสร้างกลุ่มแฟนที่จงรักภักดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าแบรนด์นี้จะไม่เคยจ้างพรีเซ็นเตอร์ให้มาช่วยถือสินค้าโปรโมตเลยแม้แต่คนเดียว แต่ Goyard กลับกลายเป็นไอเท็มฮอตที่ปรากฏตัวอยู่ใน pop culture ตลอดเวลา หนึ่งในนั้นคือการเข้าไปเป็นพร็อพในมิวสิกวิดีโอของ Rihanna จนทำให้คนมากมายรู้จักแบรนด์นี้ โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียว ซึ่งวงการที่เลิฟแบรนด์นี้มาก กลับไม่ใช่แค่สายแฟชั่น แต่ลุกลามไปถึงวงการแร็พเปอร์ ที่ตัวท็อปที่ล้วนแล้วแต่มี Goyard ในครอบครองทั้งสิ้น

นอกจากจะไม่เคยลงงบโฆษณาแล้ว จนถึงวันนี้ที่ใครๆ ก็แห่กันไปขายของออนไลน์กันตั้งแต่แปรงสีฟันยันรถยนต์ แต่ Goyard ยังคงยึดมั่นกับการขายสินค้าผ่านหน้าร้านเท่านั้น ไม่ขายของผ่านทาง e-commerce เลยแม้แต่ชิ้นเดียว อย่างไรก็ดี Goyard นั้นไม่ได้ปฏิเสธการใช้ social media โดยปัจจุบันทางแบรนด์มี Youtube channel และ Instagram ซึ่งจำนวน follower ก็ไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไร และทางแบรนด์เองก็ดูจะไม่ได้แคร์อะไรกับตัวเลขพวกนี้

จากประสบการณ์ตรงของผม การซื้อกระเป๋ายี่ห้อนี้นั้นต้องใช้ดวงและแต้มบุญอยู่พอสมควร เพราะใช่ว่ารุ่นและสีที่ต้องการจะมีของให้เราได้ควักเงินซื้ออยู่ตลอดเวลา และแน่นอนว่าแบรนด์เองก็ไม่ได้ง้อหรือเสียดายที่พลาดโอกาสการขายเลย สิ่งที่พนักงานบอกผมคือ ถ้าวันนี้ยังไม่มีของรุ่นที่คุณอยากได้ สิ่งเดียวที่คุณควรทำคือ อดทน และลองกลับมาเช็กดูอีกทีถ้ามีโอกาส ซึ่งผมใช้เวลากว่าครึ่งปี กว่าจะได้กระเป๋าสตางค์รุ่นและสีที่อยากได้มาครอบครองสมใจ

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Goyard มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่างจากแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์อื่นๆ เป็นเพราะในวันนี้ Goyard ยังคงเป็นธุรกิจส่วนตัวที่ไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ และไม่ได้เป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือแฟชั่นยักษ์ใหญ่ ทำให้อำนาจการตัดสินใจ และแนวทางในการดำเนินธุรกิจนั้น สามารถกำหนดได้โดยไม่ต้องเอาเรื่องผลกำไร หรือตัวเลขการเติบโตขึ้นมาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แบรนด์จึงไม่จำเป็นต้องขยายสาขา เพิ่มยอดขายเพื่อทำตัวเลขเอาใจนักลงทุน หรือตลาดหลักทรัพย์ และปัจจัยนี้แหละที่ทำให้แบรนด์อายุร้อยกว่าปียังคงเป็นที่ปรารถนาของคนจำนวนมาก โดยไม่ต้องให้ใครมาโปรโมต หรือลงโฆษณาแม้แต่ครั้งเดียว

แม้จะเคยมีข่าวลือออกมาช่วงสองสามปีก่อนว่า LVMH ยักษ์ใหญ่แห่งวงการแฟชั่น สนใจจะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อแบรนด์ Goyard เข้ามาอยู่ในอาณาจักรของตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วดีลนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง.

]]>
1234786