Online Marketing Workshop เป็นเวทีที่นักการตลาดจะได้เรียนรู้เทคนิคการทำการตลาดออนไลน์เพื่อนำธุรกิจของบริษัทให้เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งไทย-เทศต่างร่วมระดมความคิด พร้อมใจถ่ายทอดประสบการณ์ และ เจาะลึกกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ ที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง ไม่ใช่ทฤษฎี งานนี้นักการตลาดต้องไม่พลาด Online Marketing Workshop กำหนดจัดวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2552 ณ โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท
“ในความเป็นจริง การตลาดออนไลน์ เป็นเครื่องมือการตลาดที่ประหยัด และ มีประสิทธิภาพสูง – – โดยเฉพาะเมื่อทำอย่างถูกวิธี ลองนึกถึงพนักงานขายที่ไม่เคยหลับ ไม่กิน ไม่เคยลาพักร้อน หรือ แม้แต่ลาป่วย แล้วลองนึกดูอีกว่าพนักงานขายที่ไปหาลูกค้าได้ถูกเวลา ถูกสถานที่ หรือ ในทุกครั้งที่ลูกค้ากำลังค้นหาสินค้า หรือ บริการที่คุณจัดจำหน่าย ซึ่งนั่นก็คือคำตอบว่าทำไม การตลาดออนไลน์จึงเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้” นายศิระพัฒน์ เกตุธาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สป็อตมาร์ก จำกัด ผู้บริหารจัดงาน Online Marketing Workshop กล่าว
Online Marketing Workshop มีกำหนดจะจัด ในวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2552 ณ โรงแรม เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท เน้นการฝึกอบรมเทคนิคการทำการตลาดออนไลน์ที่เจาะลึก เริ่มตั้งแต่การวางกลยุทธ์ และการนำเครื่องมือด้านการตลาดออนไลน์ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน พร้อมกับศึกษาถึงจุดเด่นของเครื่องมือออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยม พร้อมการลงมือทำ อาทิ Search Engine Optimization (SEO) Search Engine Marketing (SEM) การโฆษณาออนไลน์ การทำการตลาดด้วยอีเมลล์ การทำ Affiliate Marketing และ Online CRM
“Online Marketing Workshop จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับด้านการตลาด หรือ ดูแลเว็ปไซต์ ขององค์กร ซึ่งรวมถึง เจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร ผู้อำนวยการ/ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เว็ปมาสเตอร์ และ นักการตลาดออนไลน์ ที่จะได้เรียนรู้เคล็ดลับการทำการตลาดออนไลน์อย่างเป็นขั้นเป็นตอนตลอดระยะเวลา 3 วันของการทำเวิร์คชอป โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก MediaContacts และ MC Fiva นำทีมโดย มร. ราจีฟ บารา ผู้อำนวยการ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค บริษัท มีเดียคอนแทคส์ จำกัด,” นายศิระพัฒน์ กล่าว
มร. ราจีฟ มีประสบการณ์ด้านการตลาดที่ยาวนาน ก่อนที่จะหันมาเริ่มให้ความสนใจด้าน Search Engine Marketing อย่างจริงจังเมื่อปี 2546 พร้อมการพัฒณาทักษะด้านการตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง นอกจากการดูแลธุรกิจของ MediaContacts ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคแล้ว มร. ราจีฟ ยังดูแลลูกค้าสำคัญๆ อาทิ HP, SIA, SAP และ Polycom อีกด้วย ส่วนวิทยากรท่านอื่นๆ ได้แก่ มร. โจนาธาน โจสัน ดร. ศุภชัย พัชริยานนท์ และคุณสุมนา พัชริยานนท์ ท่านที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็ปไซต์ของ MediaContacts และ MC Fiva ที่ www.mediacontacts.com และ www.mcfiva.com
“Online Marketing Workshop มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2552 ณ โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท ท่านที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ พร้อมรับส่วนลดพิเศษหากลงทะเบียนก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ท่านที่ท่านสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sptmrk.com หรือติดต่อ SPOTMARK ที่ 02 978 2519 หรือ [email protected]
บริษัท สป็อตมาร์ก จำกัด ผู้จัดงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ขอเชิญนักการตลาด และ ผู้สนใจด้านการตลาดออนไลน์ ร่วมชิงรางวัล รับบัตรฟรี เข้างาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok เพียงส่งความคิดเห็นว่า เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่คุณชื่นชอบคืออะไร เพราะอะไร พร้อมเทคนิคว่าทำอย่างไรจึงสามารถจะใช้เครื่องมือนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การแข่งขันนี้จัดขึ้นเพื่อ เปิดโอกาสให้นักการตลาดทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น อันจะเป็นประโยชน์ต่อวงการการตลาดของไทย โดยความคิดเห็นที่ผ่านการคัดเลือกจะนำไปเผยแพร่ภายในงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok นักการตลาดที่สนใจสามารถเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น และ สามารถชนะรางวัลได้ง่ายๆ เพียงแต่ตอบคำถามว่า
คำถามที่ 1: เครื่องมือการตลาดที่คุณชื่นชอบที่สุดคืออะไร? เพราะอะไร?
คำถามที่ 2: เทคนิคการใช้เครื่องมือดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการร่วมแสดงความคิดเห็นและร่วมชิงรางวัล:
โปรดเขียนคำตอบสั้นๆ รวมความยาวไม่เกิน 2 ย่อหน้า อธิบายถึงเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่คุณชื่นชอบ พร้อมเทคนิคที่จะช่วยให้สามารถใช้งานเครื่องมือนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ
นักการตลาดที่สนใจสามารถร่วมส่งความคิดเห็นได้ 1 ท่านต่อ 1 ความคิดเห็น พร้อมแจ้งชื่อและอีเมลล์ ในแบบฟอร์มร่วมแสดงความคิดเห็นที่เว็ปไซต์ www.sptmrk.com หมดเขตรับความคิดเห็นวันที่ 15 เมษายน 2552 จากนั้นก็รอลุ้นว่านักการตลาดท่านใดจะได้รับเลือกให้เป็นผู้โชคดีรับบัตรเข้าร่วมงาน Internet Marketing Conference 2009 มูลค่า 17,500 บาท ฟรี!
กติกา:
SPOTMARK จะพิจารณาคัดเลือกที่สมควรได้รับรางวัลในวันที่ 19 เมษายน 2552 และประกาศรายชื่อผู้พร้อมความคิดเห็นที่ชนะเลิศในวันที่ 20 เมษายน 2552 บนเว็ปไซต์ www.sptmrk.com พร้อมกับแจ้งผลการตัดสินให้ผู้ชนะเลิศทางอีเมลล์ เพื่อยืนยันการเข้าร่วมงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok
เกี่ยวกับงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok:
งาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok คือเวทีการเรียนรู้ด้านการตลาดออนไลน์ และเวทีนัดพบของนักการตลาดและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์สาขาต่างๆ ถือเป็นงานที่นักการตลาดต้องไม่พลาด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการหาคำตอบเพื่อนำไปปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งข้น และสร้างผลกำไรท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ท่านที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok โปรดดูรายละเอียดที่ www.sptmrk.com หรือติดต่อ SPOTMARK ที่ +66 2 978 2519 หรือ [email protected]
ผลการวิจัยล่าสุดชี้ Social Media มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคมากขึ้น 7 ใน 10 คนใช้เป็นแหล่งหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ แนะบริษัทหันมาวางแผนกลยุทธ์อย่างจริงจัง แม้จะไม่ได้ดำเนินธุรกิจออนไลน์ เพราะผู้บริโภคนิยมสนทนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และยี่ห้อสินค้าในสังคมออนไลน์
ทุกวันนี้อาจกล่าวได้ว่า Social Media คือกระแสความนิยมอย่างกว้างขวาง และใน 2551 ที่ผ่านมา Social Media ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Social Media ไม่ได้จำกัดวงอยู่เฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น แต่นักธุรกิจและมืออาชีพแขนงต่างๆ ได้หันไปใช้ Social Media มากขึ้น ทำให้ Social Media กลายมาเป็นสื่อในสังคมออนไลน์ที่มีอิทธิพลอย่างมาก จากรายงาน The Wave 3 Report ของ Universal Maccan (www.universalmccann.com) แสดงว่า Social Media เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อแบรนด์และ ภาพลักษณ์ขององค์กรธุรกิจอย่างมาก เพราะผู้ใช้สื่อ Social Media นิยมโพสต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ แบรนด์ ผ่านบล็อก หรือ ในกลุ่มสังคมออนไลน์ของตน นอกจากนี้การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้อินเตอร์เน็ต มีทัศนคติในนเชิวบวกต่อบริษัทหรือองค์กรที่สร้างบล็อกเป็นของตนเอง
จากบรรดาสื่อต่างที่ใช้ในกลุ่มสังคมออนไลน์นั้นตามรายงานของ Universal McCann พบว่า วิดีโอออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้งานวิดีโอออนไลน์ถึง 394 ล้านราย ในขณะที่ 346 ล้านรายอ่านบล็อก 321 ล้านรายอ่านบล็อกส่วนบุคคล 307 ล้านรายเข้าเยี่ยมชมกลุ่มสังคมของเพื่อนฝูง และ 303 ล้านรายส่งต่อหรือแบ่งปันวิดีโอคลิปออนไลน์ พัฒนาการที่รวดเร็วของ Social Media ส่งผลให้การสร้างบล็อก การส่งต่อรูปภาพ หรือ วิดีโอคลิป เป็นเรื่องปกติ และ ทุกวันนี้ นักการเมือง บุคคลที่มีชื่อเสียง แบรนด์ต่างๆ หรือแม้แต่สมาชิกในครอบครัวต่างก็มีกลุ่มหรือสื่อ Social Media ของตนเอง ด้วยเหตุนี้สื่อรุ่นเก่าจึงต้องเร่งปรับตัวและหันมาพึ่งใช้ Social Media เป็นช่องทางเสริมในการกระจายเนื้อหาหรือข่าวสารของตน
เมื่อพิจารณาจากรายงาน 20 อันดับ Social Media ยอดฮิตของโลก ที่ ComScore (www.comscore.com) ทำไว้ พบว่า Bloger ยังคงความเป็นผู้นำด้วยยอดผู้เข้าใช้ว่า 222 ล้านรายทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตามมาด้วย Facebook ที่ไล่มาติดๆ และแรงสุดๆ ด้วยจำนวนผู้ใช้ 200 ล้านราย ส่วนอันดับต่อมาคือ MySpace ด้วยยอดผู้ใช้ 126 ล้านราย WordPress 114 ล้านราย Windows Live Spaces 87 ล้านราย ส่วนอันดับ 6-10 ได้แก่ Yahoo Geocities (69 ล้านราย) Flickr (64 ล้านราย) hi5 (58 ล้านราย) Orkut (46 ล้านราย) และ Six Apart (46 ล้านราย)
ที่น่าแปลกใจก็คือตลาดเอเชีย เป็นตลาดที่มีการเติบโตของ Social Media สูงกว่าทวีปอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศจีน นั้นถือเป็นสังคมบล็อกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในลกด้วยยอดผู้ใช้กว่า 42 ล้านราย มากกว่ายุโรปตะวันตกและสหรัฐอเมริการวมกันเสียอีก
มร. แบรี่ เฮิร์ด (www.123socialmedia.com) เชื่อว่าปัจจัยที่ผลักดันให้ Social Media เติบโตอย่างรวดเร็วนั้นเป็นเพราะความง่ายในการเข้าถึงสื่ออินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ขณะเดียวกันก็ยังเป็นผลมาจาก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้าน Social Media และเทคโนโลยีไร้สาย อาทิ โทรศัพท์เคลื่อนที่ PDAs หรือเครื่องเล่นเกมส์แบบพกพาต่างๆ
ผลจากการศึกษายังพบด้วยว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเข้าร่วมในสังคมเครือข่ายโดยเฉลี่ย 3-5 เครือข่าย ดังนั้นนักธุรกิจรายใดที่คิดว่า “ธุรกิจของฉันไม่ได้เน้นด้านออนไลน์” อาจจะต้องคิดใหม่ เพราะ ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเกี่ยวข้องกับระบบออนไลน์หรือไม่ก็ตาม แต่ธุรกิจของคุณจะเกี่ยวพันกับเครือข่ายในสังคมออนไลน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะลูกค้าของคุณ คู่ค้าของคุณ แม้แต่เพื่อนฝูง หรือ คนในองค์กรของคุณได้เข้าไปมีบทบาทหรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสังคมออนไลน์ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่การสนทนาในบางครั้งอาจจะโยงใยเข้ามาถึงธุรกิจของคุณได้ นั่นหมายถึงว่า บริษัทที่ไม่ได้พิจารณา หรือ ผนวก Social Media ไว้เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ หรือ แผนการตลาดรวม กำลังเสียโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย
จากการวิจัยร่วมระหว่าง OTX (www.otxresearch.com) และ DEI Worldwide (www.deiworldwide.com) พบว่า จากความนิยมที่แพร่หลายของ Social Media นีเอง ทำให้ Social Media กลายมาเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของผู้บริโภค โดยพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะข้อหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือ สินค้ายี่ห้อต่างๆ จากเว็ปไซต์ Social Media ไปพร้อมๆ กับหาข้อมูลโดยตรงจากเว็ปไซต์ของบริษัทผู้ผลิต โดยผู้บริโภค 7 ใน 10 ราย จะเข้าไปหาข้อมูลในเว็ปไซต์ Social Media ต่างๆ อาทิ เว็ปบอร์ด กลุ่มชุมชนออนไลน์ หรือ บล็อกต่างๆ เพื่อหาข้อมูล นอกจากนี้ เถือบครึ่ง (49%) ของผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อจากข้อมูลที่ได้จาก Social Media เหล่านี้
ความนิยมของ Social Media ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อมาตรวัดความสำเร็จด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของภาคธุรกิจอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่องค์กรธุรกิจต่างๆ จะหันมาให้ความสนใจกับ Social Media Marketing มากขึ้น โดยรายงานล่าสุดของ eMarketer (www.emarketer.com) ชี้ให้เห็นว่า บริษัทส่วนใหญ่ควรที่จะต้องเข้าไปมีบทบาท และ สื่อสารกับกลุ่มสังคมในชุมชนออนไลน์เป็นประจำ แน่นอนว่าในขณะนี้ บริษัทหลายๆ แห่งได้ตระหนักถึงความสำคัญของ Social Media เพราะเล็งเห็นว่าเป็น Social Media เป็นเครื่องมือการตลาดที่ระหยัดแต่มีประสิทธิภาพในการขายและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการของตนสู่ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่งบประมาณการตลาดค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดี การทำการตลาดผ่าน Social Media ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้จะมีบริษัทหลายรายที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีอีกหลายรายที่ล้มเหลว หรือกลายเป็นผู้ต้องหาของกลุ่มสังคมออนไลน์ไปเลยก็มี
ตัวอย่างหนึ่งของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ ใน การใช้ Social Media เห็นจะได้แก่ Blendtec ที่ทำคลิปวิดีโอซีรี่ส์ “Will It Blend” หรือ “ปั่นได้ไหม?” เข้าไปไว้ใน YouTube ดำเนินเรื่องโดย มร. ทอม ดิกสัน CEO ของ Blendtec ที่พยายามจะนำทุกอย่างเข้าเครื่องปั่นของเขา รวมถึง iPhone มือถือยอดฮิต เพื่อพิสูจน์ว่า “ปั่นได้ไหม?” ผลที่ตามมาคือ วิดีโอชุดนี้กลายเป็น สื่อการตลาดต้นทุนต่ำ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกออนไลน์ และส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นไปถึงห้าเท่าตัว
อึกตัวอย่างที่น่าสนใจคือกรณีของ IBM ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เข้าจับกระแส Social Media ฟีเว่อร์ได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ แทนที่ IBM จะสร้างบล็อกขึ้นมาเพียงหนึ่งบล็อกเหมือนบริษัททัวไป IBM กลับสร้างเครือข่ายของบล็อกขึ้นโดยเปิดโอกาสให้พนักงานของตน ที่ต่างก็เป็นยอดฝีมือในแวดวงคอมพิวเตอร์ สร้างบล็อกของตัวเองขึ้นมา เขียนเล่าถึงประสบการณ์ ถึงงานที่กำลังทำ หรือเรื่องอะไรก็ได้ตามใจชอบ ผลที่ตามมาคือบล็อก IBMer ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง และเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยง IBM เข้ากับกลุ่มลูกค้า อีกทั้งยังเป็นเครื่องแสดงเจตนารมณ์ที่บริษัทมีต่ออุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี
“ถึงแม้ Social Media จะเป็นสื่อยอดนิยม แต่ต้องไม่ลืมว่า Social Media Marketing ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ และ เป็นเรื่องที่นักการตลาดยังต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา” ทั้งนี้จากคำกล่าวของ นายศิระพัฒน์ เกตุธาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สป็อตมาร์ก จำกัด ผุ้จัดงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2552 ณ โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ
นายศิระพัฒน์กล่าวต่อว่า “แต่ด้วยเหตุที่ Social Media ได้เข้ามามีบทบาทต่อสังคมผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความท้าทายของนักการตลาดก็ คือจะตอบสนองกระแสดังกล่าวได้อย่างไร และจะใช้ Social Media เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือ การมีส่วนร่วมในสังคมออนไลน์อย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จสูงสุด ภายในงาน Internet Marketing Conference ผู้เชี่ยวชาญด้าน Social Media Marketing จะมุ่งเน้นใน 2 ประเด็นหลักที่นักการตลาดอยากรู้ คือ การวัดผลกระทบของ Social Media และ การวางแผนกลยุทธ์ด้าน Social Media Marketing รวมไปถึงผลดีและผลเสียที่เกียวข้องกับ Social Media รูปแบบต่างๆ”
นอกจาก Social Media Marketing งาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ยังจะครอบคลุมไปถึงเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่กำลังอยู่ในความสนใจอื่นๆ อาทิ Search Engine Markeitng, E-mail Marketing, eCRM, eBranding และ Online Marketing Research สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sptmrk.com หรือ ติดต่อ บริษัท สป็อตมาร์ก จำดัด ที่ 02 978 2519 หรือ [email protected]
สภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงกว่าเมื่อปี 2540 ที่ผ่านมา และคงจะใช้เวลา 3-4 ปีกว่าจะฟื้นตัว ภาวการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้การแข่งขันในภาคธุรกิจทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้หากนักการตลาดท่านใดตัดสินใจลดงบประมาณตลาดจะถือเป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญ เพราะนี่ไม่ใช่เวลาของการตัดงบ สิ่งที่นักการตลาดควรทำคือการเพิ่ม หรือ อย่างน้อยก็รักษางบประมาณการตลาดไว้ในระดับเดิม เพราะนี่จะเป็นโอกาสดีในการเร่งสร้างกำไร และช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งที่พร้อมใจกันลดงบประมาณการตลาด
การทำงานในสถานการณ์ที่งบประมาณค่อนข้างจำกัดนั่นถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย นักการตลาดควรมุ่งเน้นกลยุทธ์ตลาดในเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ ทั้งนี้เพื่อใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดส่วนใหญ่จึงเล็งเห็นว่าการตลาดออนไลน์คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี แม้นักการตลาดส่วนใหญ่จะพอใจกับผลตอบแทนและประสิทธิภาพของการตลาดออนไลน์ แต่ก็ยังมีนักการตลาดบางส่วนที่หวั่นเกรงว่า การตลาดออนไลน์มีความเสี่ยงสูงและวัดผลได้ยาก ด้วยเหตุนี้นักการตลาดที่จะหันมาใช้การตลาดออนไลน์ ควรเสริมสร้าง ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“ งาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok จึงถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้สำหรับนักการตลาดที่กำลังมองหาโอกาสในการนำตลาดออนไลน์มาเสริมศักยภาพด้านการแข่งขัน สร้างกำไร หรือเพื่อวาวแผนกลยุทธ์ออนไลน์เพื่อผนวกไว้ในแผนการตลาดรวมของตน ตลอดจนเพื่อเรียนรู้ถึงกลยุทธ์และแนวคิดใหม่ๆ ของการตลาดออนไลน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา” ทั้งนี้จากการเปิดเผยของนายศิระพัฒน์ เกตุธาร กรรมการผู้จัดการบริษัท สป็อตมาร์ก จำกัด บริษัทผู้จัดการประชุมสัมมนาเชิงธุรกิจมืออาชีพ ซึ่งจัดงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเพิ่มสูงขึ้นของการตลาดออนไลน์ในประเทศไทย
ความคึกคักของ การตลาดออนไลน์ ไม่ได้เพียงเกิดขึ้นเฉพาะในเมืองไทย แต่เป็นแนวโน้มที่ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากรายงานล่าสุดของ เคลซีกรุ๊ป และ บีไอเอ แอดไวซ์ เซอร์วิส ที่แสดงว่า ถึงแม้การใช้จ่ายด้านโฆษณาโดยรวมของสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะลดลงปีละ 1.4% “แต่ข่าวดีก็คือ งบประมาณโฆษณาออนไลน์จะเพิ่มขึ้นมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป โดยงบประมาณส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการโฆษณาในเยลโลเพจเจสออนไลน์ เสิร์ชเอ็นจิน การตลาดอีเมลล์ และเครื่องมือกาตลาดออนไลน์อื่นๆ”
พัฒนาการของตลาดออนไลน์ในประเทศไทยก็เช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ได้คาดการณ์ไว้ว่า งบประมาณด้านการตลาดออนไลน์มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น โดยเป็นผลภาวะเศรษฐกิจถดถอยและงบประมาณที่จำกัดจะทำให้นักการตลาดจะหันไปใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือที่ประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ประเทศไทยก็ยังเป็นประเทศที่การตลาดออนไลน์มีแนวโน้มี่จะขยายตัวสูง เนื่องจากมีอัตราเฉลี่ยของระยะเวลาใช้งานอินเตอร์ต่อผู้ใช้เป็นอันดับสองในเอเชียรองจากสิงคโปร์ และมีผู้ใช้งานอินเตอร์มากกว่า 13 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ใช้สมาชิกอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ถึง 913,000 คน
“ภายในงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ผู้เชี่ยวขาญจะร่วมแสดงวิสัยทัศน์และแนะแนวทางให้แก่นักการตลาดถึงการนำเครื่องมือการตลาดออนไลน์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านความคุ้มค่าต่อการลงทุนและการสร้างผลกำไร โดยจะเน้นไปที่เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่กำลังได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวาง อาทิ Social Media Marketing, Search Engine Marketing, e-Mail Marketing ตลอดจนการวางกลยุทธ์โฆษณาออนไลน์” นายศิระพัฒน์กล่าวและว่า “นอกจากนี้เรายังเชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการตลาดออนไลน์มาร่วมเสวนาถึงเครื่องมือการตลาดที่น่าจับตามองอื่นๆ อาทิ Video Marketing, Blogging, Mobile Marketing, Behavioral Targeting, Relationship Marketing and Multicultural Marketing ที่กำลังเป็นที่จับตาของนักการตลาดออนไลน์ทั่วโลกอีกด้วย”
งาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2552 ณ โรงแรมโฟร์ ซีซันส์ กรุงเทพฯ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ที่เว็ปไซต์ www.sptmrk.com หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท สป็อตมาร์ก จำกัด โทรศัพท์ 02 978 2519 หรือ [email protected] สำหรับท่านที่สนใจที่จะร่วมสนับสนุนการจัดงานหรือร่วมเป็นวิทยากรโปรดติดต่อ คุณบุศรา กุลแพทย์ ที่ 081 350 3486 หรือ [email protected]
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์หลายสาขาจะมารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ เพื่อร่วมแสดงวิสัยทัศน์ แนวคิด และ เคล็ดลับในการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือการตลาดเพื่อความสำเร็จของธุรกิจยุคปัจจุบัน ในงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม ศกนี้
เพื่อช่วยให้นักการตลาดตระหนักถึงศักยภาพของอินเตอร์เน็ต และ นำเครื่องมือการตลาดออนไลน์มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความสำเร็จของธุรกิจท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจถดถอย งาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok จะครอบคลุมประเด็นสำคัญของการตลาดออนไลน์อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลยุทธ์ Content Generation, Viral Marketing, Search Engine Marketing, Search Engine Optimization, E-mail Marketing, eCRM, e-Branding, Social Media Marketing ตลอดจนการผนวกการตลาดออนไลน์เข้ากับแผนการตลาดรวมอย่างสัมฤทธิ์ผล
นอกจากการบรรยายโดยผุ้เชี่ยวชาญแล้วภายในงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ยังจะมีการร่วมอภิปรายของผู้ทรงคุณวุฒิใน 2 หัวข้อสำคัญ คือ “ดีไซน์จดเริมต้นของความสำเร็จบนโลกอินเตอร์เน็ต” และ “เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่นักการตลาดต้องจับตาดูในปี 2552” การอภิปรายในหัวข้อแรกจะเป็นการอภิปรายเกี่ยวกับการดีไซน์ของเว็ปไซต์และผลต่อพฤติกรรมผู้บริโถค องค์ประกอบของเว็ปไซต์ที่ดี ออกแบบเว็ปไซด์อย่างไรจึงจะกระตุ้นให้ผู้เข้าชมตัดสินใจซื้อ จิตวิทยาเบื้องหลังการดีไซน์ และถ้าจะต้องออกแบบเว็ปไซต์ใหม่จะต้องทำอย่างไร ส่วนในหัวข้อที่สอง จะเป็นการจับทิศทางของการตลาดออนไลน์ทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับโลก โดยพิจารณาถึงเครื่องมือการตลาดยอดฮิตในปัจจุบันอย่าง Search Engine, Social Marketing และ E-mail Marketing พร้อมกับมองไปในอนาคตถึงอิทธิพลของ Viral Marketing, วิดีโอออนไลน์, Consumer Generate Content, B2B Internet Marketing ว่าจะมีผลต่อการตลาดของภาคธุรกิจอย่างไร
งาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok นี้เหมาะสำหรับนักการตลาด นักขาย นักวิเคราะห์ และ มืออาชีพในธุรกิจแขนงต่างๆ ที่เล็งเห็นถึงศึกยภาพและต้องการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือการตลาดเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ในองค์กรแบบ ธุรกิจ-ต่อ-ธุรกิจ, ธุรกิจ-ถึง-ผู้บริโภค ตลอดจนด้านสื่อและโฆษณา คุณคงตระหนักดีแล้วว่า อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำตลาดสินค้าและบริการของคุณ จนอาจกล่าวได้ว่า อินเตอร์ ได้เปลี่ยนจากทางเลือกมาเป็นเครื่องมือการตลาดที่จำเป็นซึ่งคุณต้องผนวกไว้ในแผนการตลาดรวม และจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่จะนำธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จโดยเฉพาะท่างกลางสภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้
ผู้เข้าร่วมงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok จะได้เรียนรู้ถึง
• เคล็ดลับในการวางแผนกลยุทธ์กาคตลาดออนไลน์
• วิสัยทัศน์และแนวคิดในการทำการตลาดออนไลน์จากผู้เชี่ยวชาญ
• แนวทางในการวางแผนทำแคมเปญโฆษณษออนไลน์ตั้งแต่ต้นจนนำไปปฏิบัติ
• ตัวอย่างจากกรณีศึกษาทั้งที่ประสบความสำเร็จและความล้มเหลว
• ลู่ทางและเทคนิคใหม่ของเครื่องมือการตลาดออนไลน์
• และอื่นๆ อีกมากมาย
งาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2552 ณ โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ ท่านที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ พร้อมกันนี้หากสนใจร่วมเป็นวิทยากรหรือผู้สนับสนุน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sptmrk.com หรือ ติดต่อ SPOTMARK ที่ 02 978 2519 หรือ [email protected]
อินเตอร์เน็ตยังเป็นช่องทางการตลาดยอดฮิตของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ในแต่ละวันนักท่องเที่ยวนับล้านคนทั่วโลกใช้อินเตอร์เน็ตเป็นแห่ลงค้นข้อมูลท่องเที่ยว ส่งผลให้ Search Engine Marketing กลายเป็นเครื่องมือที่นักการตลาดต้องรู้ SPOTMARK จึงจัด Search Engine Marketing Workshop เน้นการโฆษณาออนไลน์ เจาะลึกวิธีการทำแคมเปญที่สัมฤทธืผลเพื่อสร้างกำไรเพื่อธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ในวันที่ 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2552 ที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ
ปี 2552 จะเป็นปีที่ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากภาวการณ์ถดถอยของเศรษฐกิจโลก นักการตลาดชั้นนำที่ร่วมงาน Hotel eMarketing Conference 2009 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดย SPOTMARK เห็นพ้องต้องกันว่า ในสภาวการณ์เช่นนี้การตลาดออนไลน์คือคำตอบที่ดีที่สุดที่จะช่วยผู้ประกอบการสร้างกำไรและเสริมศักยภาพด้านการแข่งขัน เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลและข่าวสารด้านการท่องเที่ยวเป็นหลัก
SEM หรือ Search Engine Marketing ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือการตลาดยอดฮิต เพราะเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวใช้ในการสืบค้นข้อมูลด้านการท่องเที่ยว โดยประมาณกันว่าในแต่ละวันนักท่องเที่ยวนับล้านคนได้ใช้ Search Engine ในการค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยว ดังนั้นหากเว็ปไซต์ของคุณติดอันดับต้นๆ ในผลการค้นหา จะเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของการทำการตลาดออนไลน์ เพราะนั่นจะเป็นช่องทางที่ช่วยเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพของผู้เข้าชมเว็ปไซต์ ด้วยเหตุนี้ Search Engine Marketing จึงเป็นช่องทางที่นักการตลาดส่วนใหญ่เลือกใช้เพื่อการเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้บริโภคออนไลน์ อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้ การทำการตลาดด้วยเสิร์ชเอ็นจินได้มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านรูปแบบ แนวคิด และ เทคโนโลยี ดังนั้น นักการตลาดจำเป็นต้องติดต่อความเคลื่อนไหวอยู่เสมอหากต้องการประสบความสำเร็จในเครื่องมือการตลาดชนิดนี้
เพื่อต่อยอดแนวคิดดังกล่าว SPOTMARK เตรียมจัดการฝึกอบรม Search Engine Marketing Workshop ในวันที่ 31 มีนาคม-1 เมษายน 2552 การอบรมครั้งนี้ได้รับการออกแบบเพื่อผู้ประกอบการโรงแรมและนักการตลาดโรงแรมโดยเฉพาะ ด้วยข้อมูลที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมจะได้รับบัญชีการใช้งาน Adwords พร้อมกับแคมเปญโฆษณาจริงที่สามารถใช้งานได้ทันที ค่าฝึกอบรม 17,150 บาท การฝึกอบรมครั้งนี้จัดโดย SPOTMARK และสนับสนุนการจัดงานโดย MediaContacts และ WD System ท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SPOTMARK โทรศัพท์ 02 978 2519 อีเมลล์ [email protected] หรือ ดูรายละเอียดได้ที่เว็ปไซต์ www.sptmrk.com