Samsung – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 08 Nov 2024 14:28:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จับตา ‘ซัมซุง’ เข้าสังเวียนชิปเอไอ หลังถูก SK Hynix คู่แข่งร่วมชาติปาดหน้า จนมูลค่าบริษัทร่วง 4 ล้านล้านบาท https://positioningmag.com/1498217 Fri, 08 Nov 2024 14:01:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1498217
ในวันที่แอปพลิเคชัน AI เช่น ChatGPT ของ OpenAI ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จําเป็นในการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ก็เติบโตขึ้นตาม ซึ่งหนึ่งในหัวใจหลักของโครงสร้างพื้นฐานก็คือ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ซึ่งนั่นทำให้ Nvidia บริษัทผู้ผลิต GPU ชั้นนำของโลกกลายเป็นผู้เล่นเบอร์ 1 ในตลาด และกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก เนื่องจาก GPU ของ Nvidia ได้กลายเป็นมาตรฐานที่ใช้โดยยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสําหรับการฝึกอบรม AI

อย่างไรก็ตาม ส่วนสําคัญของสถาปัตยกรรมเซมิคอนดักเตอร์นั้นคือ หน่วยความจําแบนด์วิดท์สูง หรือ HBM ซึ่งก่อนที่ AI จะเติบโตตลาด HBM นั้นมีขนาดค่อนข้างเล็ก และนั่นคือจุดที่ ซัมซุง (Samsung) พลาดไป เพราะบริษัทไม่ได้มุ่งเน้นที่จะพัฒนาในส่วนนี้ เนื่องจากมีความซับซ้อนและลงทุนสูง แถมตลาดยังเล็ก

อย่างไรก็ตาม SK Hynix มองเห็นโอกาสนี้ บริษัทเปิดตัวชิป HBM ซึ่งชิปดังกล่าวได้รับการอนุมัติให้ใช้ในสถาปัตยกรรม Nvidia ส่งผลให้บริษัท SK Hynix จึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Nvidia

ด้วยเหตุนี้เองทำให้ซัมซุงต้องพ่ายให้กับ SK Hynix จนทำให้บริษัทสูญเสียมูลค่าตลาดไปถึง 126,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4 ล้านล้านบาท เพราะแม้ว่าซัมซุงจะมีธุรกิจหลากหลาย และรายได้หลักจะมาจากธุรกิจอย่างสมาร์ทโฟนกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ธุรกิจชิปเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีที่สุด ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลประกอบการของซัมซุงจะลดลง จนทำให้บริษัทต้องยอมออกมาขอโทษบรรดานักลงทุน ในขณะที่ SK Hynix กลับสามารถทำกำไรสูงเป็นประวัติศาสตร์ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ซัมซุงกำลังเร่งผลิต HBM ในชื่อ HBM3E โดยในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ยอดขาย HBM ของซัมซุงเติบโตกว่า 70% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 และซัมซุงได้เปิดเผยว่ากำลังพัฒนา HBM4 ซึ่งเป็นรุ่นถัดไป โดยคาดว่าจะสามารถผลิตจำนวนมากได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2025

แม้ว่าซัมซุงจะมี HBM3E ในตลาด แต่ยังถือว่าตามหลังคู่แข่งอย่าง SK Hynix อยู่ ดังนั้น ถ้าซัมซุงจะกลับมาสู่ตลาด HBM ในตอนนี้อาจต้องรอ Nvidia คัดเลือก ซึ่งในปัจจุบันซัมซุงยังไม่เสร็จสิ้นการตรวจสอบนี้ และถ้าซัมซุงได้ไฟเขียวจาก Nvidia ก็จะทำให้ซัมซุงกลับสู่การเติบโตและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกับ SK Hynix โดยทางซัมซุง

โดยทางซัมซุง เปิดเผยว่า บริษัทมีความก้าวหน้าเกี่ยวในกระบวนการคัดเลือกของ Nvidia ว่า เสร็จสิ้นขั้นตอนสําคัญในกระบวนการคัดเลือก และคาดว่าจะเริ่มขยายยอดขายในไตรมาส 4 ในขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ด้วยความแข็งแกร่งของซัมซุงในการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนความสามารถในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของบริษัท อาจจะช่วยให้บริษัทตามทัน SK Hynix ได้

]]>
1498217
‘ซัมซุง’ เตรียม ‘โละพนักงาน’ ในอาเซียน คาดกระทบ 10% ของแรงงานในแต่ละประเทศ https://positioningmag.com/1492588 Wed, 02 Oct 2024 10:50:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1492588 ดูเหมือนมหกรรม โละคน ของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลกจะยังคงมีให้เห็นกันต่อไป เพราะล่าสุด ซัมซุง บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกสัญชาติเกาหลีใต้ ก็มีแผนจะลดจำนวนพนักงานใน  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดจํานวนพนักงานทั่วโลกหลายพันคน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การเลิกจ้างของ ซัมซุง (Samsung) ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อจำนวนพนักงานประมาณ 10% ของจำนวนพนักงานในประเทศเหล่านั้น ซึ่งแต่ละประเทศก็มีอัตราการลดจำนวนพนักงานที่แตกต่างกันไป 

ปัจจุบัน พนักงานของซัมซุงมีจำนวนทั้งหมดกว่า 267,800 คน และประมาณ 147,000 คน อยู่นอกเกาหลีใต้ โดยมีการจ้างงานในฝ่ายการผลิตและพัฒนามากที่สุด ส่วนฝ่ายขายและการตลาดมีพนักงานราว 25,100 คน และพนักงานในภาคส่วนอื่น ๆ อีก 27,800 คน ดังนั้น การลดพนักงานในครั้งนี้จะอยู่ในหลักหลายพันคน 

“บริษัทย่อยในต่างประเทศบางแห่งกําลังดําเนินการปรับกําลังคนเป็นประจําเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดําเนินงาน แต่บริษัทไม่ได้กําหนดจํานวนเป้าหมายสําหรับตําแหน่งใดตําแหน่งหนึ่ง”

ในปีนี้ หุ้นของซัมซุงร่วงลงมากกว่า 20% เนื่องจากซัมซุงต้องเจอการแข่งขันที่รุนแรงจากธุรกิจชิป ไม่ว่าจะเป็นการตามหลังคู่แข่งอย่าง เอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) ในด้านชิปหน่วยความจำที่ใช้สำหรับเอไอ (AI) และถือว่ายังตามหลัง TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co) ในการผลิตชิปตามแบบที่ลูกค้าสั่ง

ก่อนหน้านี้ ซัมซุงได้โละพนักงานใน อินเดีย และ ละตินอเมริกา ประมาณ 10% โดยมีการคาดว่าน่าจะถึงหลัก 1,000 คน

Source

]]>
1492588
‘ซัมซุง’ โชว์นวัตกรรมแบตฯ รถอีวีใหม่วิ่งได้ไกล 900 กิโลเมตร แถมชาร์จไวใน 9 นาที อายุการใช้งานยาว 20 ปี https://positioningmag.com/1485984 Tue, 13 Aug 2024 04:42:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1485984 แม้ว่าเกาหลีใต้อาจไม่ใช่ผู้ชนะในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถอีวี เหมือนกับ จีน ที่กำลังรุกตลาดโลกอย่างรวดเร็ว แต่เกาหลีใต้ก็ยังเติบโตไปด้วยได้ผ่านการ ขายแบตเตอรี่ โดยล่าสุด ซัมซุงได้เปิดตัวแบตเตอรี่ใหม่ที่วิ่งได้ไกล 900 กิโลเมตร

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซัมซุง (Samsung) ได้เปิดตัวนวัตกรรม แบตเตอรี่โซลิดสเตต (Solid-State battery) ที่ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 900 กิโลเมตร โดยแบตเตอรี่ดังกล่าวมีความหนาแน่นของพลังงานที่ประมาณ 500 Wh/kg หรือประมาณ สองเท่าของแบตเตอรี่รถอีวีในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังใช้เวลาชาร์จเต็มเพียง 9 นาที และแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนาน 20 ปี

Ko Joo-young รองประธาน Samsung SDI กล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์กําลังให้ความสนใจแบตเตอรี่ Next-gen นี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีขนาด เล็กกว่า เบากว่า และปลอดภัยกว่า แบตเตอรี่อีวีในปัจจุบันมาก อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตของแบตเตอรี่โซลิดสเตตก็ยังสูงกว่าแบตเตอรี่ในปัจจุบันอยู่มาก ดังนั้น การจะใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตตจึงถูกจํากัดให้อยู่ในกลุ่ม พรีเมียมสุด 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ซัมซุง แต่บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง โตโยต้า (Toyota) ยังตั้งเป้าผลิตแบตเตอรี่โซลิดสเตตจำนวนมากภายในปี 2027 โดยนักวิเคราะห์มองว่า โตโยต้าอาจใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตตในรถ Lexus EV ระดับพรีเมียม

ในฝั่งของจีน ตอนนี้แบรนด์ นิโอ (NIO) ได้เสนอแบตเตอรี่กึ่งโซลิดสเตตที่เปิดใช้งานระยะทางมากกว่า 900-1,000 กิโลเมตร ความเร็วในการชาร์จ 5C หรือ 6C ultra-rapid ที่ชาร์จได้เร็วเพียง 10 นาที แต่อุปสรรคหลักของการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ยังไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีโซลิดสเตตไม่ใช่แค่ไม้ตายเดียวของซัมซุง แต่บริษัทกำลังพัฒนา แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP) และแบตเตอรี่ที่ปราศจากโคบอลต์ที่มีราคา ถูกกว่า เพื่อใช้แข่งขันในกลุ่มรถอีวีราคาประหยัด ขณะที่ความนิยมของแบตเตอรี่ LFP เองก็กําลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยรายงานล่าสุดคาดว่า เทคโนโลยีนี้คิดเป็น 40% ของยอดขายรถอีวีแล้ว

Source

]]>
1485984
‘บิ๊กเทคจีน’ เร่งตุน ‘ชิปซัมซุง’ สำหรับพัฒนา AI ก่อนจะถูก ‘สหรัฐฯ’ กีดกันการส่งออกในช่วงเดือนนี้ https://positioningmag.com/1485245 Tue, 06 Aug 2024 05:57:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1485245 ดูเหมือนมาตรการการคุมเข้มการส่งออก เซมิคอนดักเตอร์ ไป จีน ของ สหรัฐอเมริกา จะทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด เหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนเลยต้องเร่งกักตุนชิป จาก ซัมซุง เพื่อป้องกันกรณีดังกล่าว

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน อาทิ หัวเว่ย (Huawei), เทนเซ็นต์ (Tencent) และ ไป่ตู้ (Baidu) รวมไปถึงบริษัทสตาร์ทอัพกำลัง กักตุนเซมิคอนดักเตอร์หน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM) จาก ซัมซุง (Samsung Electronics) เพื่อรับมือกับการที่สหรัฐฯ จะควบคุมการส่งออกชิปดังกล่าวไปยังจีน ซึ่งคาดว่าสหรัฐฯ จะกำหนดข้อจำกัดใหม่ภายในเดือนนี้

โดยบริษัทต่าง ๆ ของจีนได้เพิ่มการซื้อเซมิคอนดักเตอร์ที่มีความสามารถด้าน เอไอ (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก รายได้ในฝั่งชิป HBM ประมาณ 30% ของซัมซุงมาจากจีน และความเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า จีนกำลังเตรียมพร้อมที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีของตนให้เดินหน้าต่อไป ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้ากับสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่น ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น

เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศจีนยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ความต้องการชิป HBM ของซัมซุงในประเทศจีนจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากกำลังการผลิตของผู้ผลิตอื่น ๆ ถูกจองเต็มโดยบริษัท AI ของอเมริกาไปแล้ว ซึ่งชิป HBM ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการพัฒนาโปรเซสเซอร์ขั้นสูง และทั่วโลกมีผู้ผลิตเพียง 3 ราย เท่านั้น ที่ผลิตชิป HBM ได้แก่ SK Hynix (เกาหลีใต้), Samsung (เกาหลีใต้) และ Micron Technology (สหรัฐอเมริกา)

โดยปัจจุบัน Micron งดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ HBM ไปยังจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่ SK Hynix ซึ่งมีลูกค้ารายใหญ่ที่เป็น HBM เช่น Nvidia มุ่งเน้นไปที่การผลิตชิป HBM ขั้นสูงมากกว่า และ SK Hynix เปิดเผยเมื่อต้นปีนี้ว่า บริษัทกำลังปรับการผลิตเพื่อขยายผลผลิต HBM3E โดยชิป HBM ของบริษัทขายหมดในปีนี้ และเกือบจะขายหมดสำหรับปี 2025

อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประมาณปริมาณหรือมูลค่าของชิป HBM ที่เก็บไว้ในจีนได้

Source

]]>
1485245
ไม่ใช่ปีแรกที่แจกมือถือ! ย้อนประวัติศาสตร์สัมพันธ์แน่นปึ้ก 36 ปีของ “Samsung” ใน “โอลิมปิก” https://positioningmag.com/1484302 Fri, 26 Jul 2024 10:11:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1484302 หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักระดับโลกของการแข่งขัน “โอลิมปิก 2024” ที่ได้ซีนเต็มๆ หนีไม่พ้น “Samsung” จากการแจกมือถือรุ่นใหม่ล่าสุด “Galaxy Z Flip 6” ให้กับนักกีฬาโอลิมปิก “ทุกคน” เรียกความสนใจจากสายตาคนทั้งโลกอยู่หมัด แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยักษ์ไอทีเกาหลีแจกมือถือหรือทำแคมเปญกับการแข่งขันโอลิมปิกเพราะ Samsung มีสายสัมพันธ์กับโอลิมปิกมาอย่างยาวนานถึง 36 ปีแล้ว

“Samsung แจกมือถือ Galaxy Z Flip 6 ให้นักกีฬาโอลิมปิกทุกคน!” พาดหัวข่าวเรื่องนี้พร้อมภาพสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สีทองกระจายว่อนทั่วอินเทอร์เน็ต เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนทั่วไปว่า Samsung เขาทุ่มจริงแจกจริงกับการแข่งขันกีฬาระดับโลก ยิ่งนักกีฬาพากัน “รีวิว” มือถือเครื่องใหม่ที่ได้รับ ยิ่งทำให้เกิดการรับรู้แบรนด์เป็นวงกว้าง

เท่านั้นยังไม่พอ Samsung ยังประกาศแคมเปญที่จะโชว์ศักยภาพอุปกรณ์ของตัวเอง ด้วยการนำสมาร์ทโฟนรุ่น “Galaxy S24 Ultra” มาใช้ “ถ่ายทอดสด” พิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ในคืนนี้ (26 กรกฎาคม 2024) โดยจะใช้มือถือรุ่นนี้มากกว่า 200 เครื่องติดตั้งบนเรือ 85 ลำที่จะนำนักกีฬาล่องไปบนแม่น้ำแซน เพื่อถ่ายทอดสีหน้าอารมณ์และบรรยากาศสดๆ ของนักกีฬาอย่างใกล้ชิด

Samsung โอลิมปิก
เฟรม-ธนาคาร ไชยยาสมบัติ นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย รีวิวมือถือ Galaxy  Z Flip 6 Olympic Edition ที่ได้รับจากการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิก 2024 ปารีส (Photo: TikTok@frame_thnk)

นอกจากแคมเปญเหล่านี้ Samsung ยังทุ่มทุนกับโอลิมปิก 2024 อีกมาก เช่น การจัดพาวิลเลียนพิเศษโชว์เคสอุปกรณ์ของ Samsung กลางกรุงปารีส หรือ การแต่งตั้งนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก 25 คนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ “Team Samsung Galaxy” เพื่อช่วยโปรโมตแบรนด์และเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ไม่ใช่ปีแรกที่ Samsung เลือกสนับสนุนโอลิมปิกและใช้พื้นที่การแข่งขันกีฬาระดับโลกช่วยสร้างแบรนด์ เพราะถ้านับย้อนกลับไป Samsung มีสายสัมพันธ์อันยาวนานถึง 36 ปีกับการแข่งขันโอลิมปิก และค่อยๆ พัฒนาแคมเปญให้ “เล่นใหญ่” ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไปย้อนดูกันว่าแบรนด์เคยทำอะไรมาบ้างในโอลิมปิก

  • 1988 โอลิมปิกฤดูร้อน โซล – ผู้สนับสนุนระดับท้องถิ่น เป็นครั้งแรกที่ Samsung ร่วมงานกับโอลิมปิก
  • 1998 โอลิมปิกฤดูหนาว นางาโนะ – ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ทำแคมเปญให้นักกีฬา 2,500 คนโทรศัพท์กลับบ้านได้ฟรี แบรนด์เริ่มเป็นที่จดจำได้ในระดับโลก
  • 2000 โอลิมปิกฤดูร้อน ซิดนีย์ – เริ่มมีการแจกมือถือให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ เป้าหมายเพื่อสร้างแบรนด์ในฐานะผู้นำการสื่อสารไร้สาย
  • 2004 โอลิมปิกฤดูร้อน เอเธนส์ – แจกอุปกรณ์ไอทีของ Samsung ให้กับนักกีฬา สร้างพาวิลเลียนเพื่อเชิญชวนประชาชนเข้ามาเยี่ยมชมเทคโนโลยี
  • 2008 โอลิมปิกฤดูร้อน ปักกิ่ง – เปิดโปรแกรม “Samsung Mobile Explorer” จ้างคนรุ่นใหม่จากทั่วโลกมาถ่ายทำบันทึกประสบการณ์ช่วงโอลิมปิกที่ปักกิ่ง โดยใช้มือถือของ Samsung โดยเฉพาะรุ่น “Omnia” ที่เป็นเรือธงขณะนั้น
โอลิมปิก Samsung
Samsung S III มือถือที่แจกให้นักกีฬาและเซเลปในโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน
  • 2012 โอลิมปิกฤดูร้อน ลอนดอน – แจกมือถือเรือธงรุ่น “Galaxy S III” ให้กับนักกีฬา และเปิดโปรแกรม “Samsung Global Blogger” ใช้วิธีเดียวกับปี 2008 แต่เปลี่ยนเป็นการจ้างบล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียง
  • 2014 โอลิมปิกฤดูหนาว โซชี – แจกมือถือรุ่น “Galaxy Note 3” ให้กับนักกีฬา และพัฒนาแอปพลิเคชัน “WOW” ให้แฟนๆ ได้ติดตามข้อมูลการแข่งขันและนักกีฬาได้แบบเรียลไทม์
  • 2016 โอลิมปิกฤดูร้อน ริโอ – แจกมือถือรุ่น “Galaxy S7” ให้กับนักกีฬา ตั้งพาวิลเลียนให้ประชาชนได้สัมผัสแว่นวีอาร์ตัวใหม่ “Gear VR”
Samsung โอลิมปิก
“Galaxy Note 8” รุ่นที่แจกให้นักกีฬาและครอบครัว 4,000 เครื่องที่งานโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 พย็องซัง
  • 2018 โอลิมปิกฤดูหนาว พย็องซัง – แจกมือถือรุ่น “Galaxy Note 8” ให้กับนักกีฬาทุกคน
  • 2020 โอลิมปิกฤดูร้อน โตเกียว (*แข่งขันปี 2021) – แจกมือถือรุ่น “Galaxy S21 5G” ให้กับนักกีฬาทุกคน
  • 2022 โอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง – เน้นโชว์เคสเรื่องเทคโนโลยีและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของ Samsung
“Galaxy S21 5G” รุ่นแจกนักกีฬาโอลิมปิก 2020 โตเกียว (มีขายให้ประชาชนทั่วไปเฉพาะในญี่ปุ่น)

 

ทำไมโอลิมปิกจึงสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ของ Samsung ?

เนื่องจากการแข่งขันโอลิมปิกคือการแข่งกีฬาระดับโลก ทำให้แบรนด์ที่ได้เป็นผู้สนับสนุนจะมีภาพจำในฐานะแบรนด์ระดับโลกไปด้วย เห็นได้จากการ “แจ้งเกิด” ของ Samsung ในโอลิมปิกฤดูหนาว นางาโนะ 1998

รวมถึงการแข่งขันโอลิมปิกเป็นรายการที่มีคนทั่วโลกเฝ้ารอชม ยกตัวอย่างเช่น การแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 คาดการณ์ว่ามีผู้ชมถึงกว่า 3,000 ล้านคน หรือโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022 มีผู้ชมประมาณ 2,000 ล้านคน การสนับสนุนกีฬาโอลิมปิกจึงทำให้แบรนด์ออกสู่สายตาชาวโลกได้กว้างไกลในคราวเดียว ได้ทั้งตีตลาดใหม่ และเสริมแกร่งแบรนด์ในตลาดเดิม

แคมเปญของ Samsung เองที่ “แจกมือถือ” ให้นักกีฬาก็ทำให้การรับรู้แบรนด์เป็นไปในเชิงบวกด้วยภาพลักษณ์ของนักกีฬาที่เป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ซึ่งภาพลักษณ์นักกีฬาเป็นสิ่งที่สอดคล้องกันพอดีกับปรัชญาของแบรนด์ Samsung คือ “Do What You Can’t” หรือ “ทำในสิ่งที่คุณทำไม่ได้” (*เป็นธีมที่ประกาศออกมาช่วงปี 2018)

ทั้งหมดทั้งมวลคือประวัติศาสตร์ยาวนานระหว่าง “Samsung” และ โอลิมปิก” หนึ่งในเวทีที่ทำให้ยักษ์ไอทีเกาหลีรายนี้ผงาดในตลาดโลก!

ที่มา: Olympics (Flip 6), Olympics (Broadcast), Sports Pro Media, Samsung News, Techradar

]]>
1484302
พนักงาน ‘ซัมซุง’ ในเกาหลีใต้ ‘หยุดงานประท้วง’ ครั้งแรกในรอบ 55 ปี หลังเจรจาเรื่องค่าจ้างและโบนัสล้มเหลว https://positioningmag.com/1477021 Fri, 07 Jun 2024 07:51:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1477021 ดูเหมือนว่าบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้อย่าง ซัมซุง บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตชิปจะงานเข้า เพราะมีพนักงานหลายหมื่นคนนัดรวมตัว หยุดงานประท้วง เนื่องจากการเจรจาขอขึ้นค่าแรงและโบนัสล้มเหลว

สหภาพซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศ (NSEU) ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สมาชิก 28,000 คน ของบริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ในเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณเกือบ 1 ใน 4 ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัทในประเทศ จะนัดหยุดงานในวันที่ 7 มิถุนายน หลังการเจรจาเรื่องค่าจ้างและโบนัสล้มเหลว

“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเป็นการความเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ แต่เรามีแผนหยุดงานประท้วงอีก หากฝ่ายบริหารปฏิเสธที่จะเจรจา โดยมีความเป็นไปได้ที่เราจะหยุดงานประท้วงอย่างเต็มรูปแบบ” ซอน วูม็อก ผู้นำสหภาพแรงงาน กล่าว

ทั้งนี้ สมาชิก NSEU จำนวนใหญ่ทำงานให้กับหน่วย เซมิคอนดักเตอร์เรือธง ของซัมซุง โดยบริษัทกำลังพยายามผลักดันแผนกดังกล่าว เพื่อให้บริษัทขึ้นกลับไปเป็นผู้นำเซมิคอนดักเตอร์ของตลาด หลังจากที่ซัมซุงตามหลังคู่แข่งอย่าง SK Hynix และ Micron Technology ในการส่งมอบชิปที่ใช้ในโปรเซสเซอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

อย่างไรก็ตาม ซัมซุงได้ออกมาแถลงว่า การนัดหยุดดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อกิจกรรมการผลิตและการจัดการ เนื่องจากการหยุดดังกล่าวอยู่ระหว่างวันหยุดนักขัตฤกษ์เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) กับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และจะกลับมาทำงานตามปกติในสัปดาห์หน้า

ที่ผ่านมา ซัมซุงต้องเจอกับช่วงเวลายากลำบากในช่วงที่ COVID-19 ระบาด เนื่องจากการ าดแคลนชิป และมาปีที่ผ่านมา ความต้องการชิปในตลาดก็ลดลง เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ เพราะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

แต่มาปีนี้ที่เทรนด์ของเอไอกำลังเติบโต ทำให้ความต้องการอุปกรณ์มือถือที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ และเมื่อเดือนที่แล้ว ซัมซุงได้รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกที่ เพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าความต้องการเอไอ และชิประดับไฮเอนด์จะมีสูงขึ้น

ขณะที่ไมโครชิปขั้นสูงส่วนใหญ่ของโลกผลิตขึ้นในสองแห่งเท่านั้น คือ ไต้หวันและเกาหลีใต้ อุตสาหกรรมของไต้หวันมีขนาดใหญ่กว่าและมีความโดดเด่นมากกว่า แต่เกาหลีใต้เองก็พยายามจะขึ้นไปทาบกับไต้หวัน

Source

]]>
1477021
ถอดรหัสความปัง ’Samsung Galaxy S24 Series’ ที่แสดงให้เห็นว่า ‘การตลาด’ ก็สำคัญไม่แพ้ ‘เอไอ’ https://positioningmag.com/1461355 Fri, 02 Feb 2024 11:26:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1461355 แม้ปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยจะซบเซา แต่หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่กำลังกลายเป็นกระแสในตอนนี้คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy S24 Series ที่เปิดตัวมาก็มียอดจองมากกว่ารุ่น S23 Series ถึง 200% โดยตลาดไทยขึ้นแท่นเป็นยอดจองสูงสุดเป็นเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซึ่ง 1 ใน 4 หรือ 25% ของยอดพรีออเดอร์นั้นมาจากแบรนด์คู่แข่ง อะไรทำให้ Samsung Galaxy S24 Series ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ไปหาคำตอบกัน

เอไอถูกพูดถึงมากกว่าสมาร์ทโฟน

หากพูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ส่วนใหญ่จะเน้นการสื่อสารไปที่ ‘กล้อง’ เป็นหลัก แม้หลัง ๆ จะมีสมาร์ทโฟน ‘จอพับ’ แต่ก็ไม่ใช่ผู้บริโภคทุกคนจะตอบรับกับเทรนด์ดังกล่าว กลับกัน การมาของ ChatGPT ได้ปลุกให้คนตื่นตัวกับความสามารถของเอไอ

วัดได้จากกราฟการค้นหาของ Google ที่จะพบว่าการค้นหาเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนลดลงเรื่อย ๆ แต่เรื่องเอไอกลับเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากการมาของ Samsung Galaxy S24 Series จะเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้

ดีมานด์สมาร์ทโฟนพรีเมียมไม่มีตก

หากดูจากตัวเลขภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนตั้งแต่ปี 2020-2023 แม้จำนวนจะลดลงเรื่อย ๆ แต่สมาร์ทโฟนในกลุ่ม ‘พรีเมียม’ (ราคา 20,000 บาท+) ยังเติบโตได้ โดยจำนวนสมาร์ทโฟนในกลุ่มพรีเมียมแม้จะมีเพียง 1.5 ล้านเครื่อง จากจำนวนทั้งหมด 10.7 ล้านเครื่อง แต่ในแง่มูลค่ากลับสูงถึง 1,755 ล้านบาท จากมูลค่าทั้งหมด 3,533 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดสมาร์ทโฟน

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดพรีเมียมยังเติบโตได้เป็นเพราะวิกฤฤตเศรษฐกิจไม่กระทบกับกลุ่มที่มีกำลังซื้อ กลับกัน เมื่อผู้บริโภคมีความเข้าใจมากขึ้น มีประสบการณ์จากสมาร์ทโฟนที่ใช้ก็อยากจะอัปเกรดไปใช้รุ่นที่ดีขึ้น และในปัจจุบัน      ผู้บริโภคก็มีทางเลือกที่จะผ่อนชำระได้ ทำให้การซื้อสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูงขึ้นไม่ได้มีอุปสรรคมากนัก

ซื้อก่อนไม่เจ็บก่อนอีกต่อไป

หนึ่งในการคิดมุมกลับของ สิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ได้เล่าให้ฟังก็คือ เขาไม่อยากได้ยินคำว่า “ซื้อก่อนเจ็บก่อน” เพราะซื้อในราคาเต็ม แต่ผ่านไปสักระยะมีโปรโมชั่นลดราคา ดังนั้น ซัมซุงต้องการเปลี่ยนมายเซ็ทนี้ ทำให้แนวคิดของซัมซุงคือ อัดโปรให้ตั้งเเต่จองเลย เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า ลูกค้าเก่าเองก็จะไม่รู้สึกเหมือนถูกทิ้งด้วย 

จากนี้ ซัมซุงก็มีแผนจะใช้งบการตลาดกับการสอนให้ลูกค้าใช้งานสมาร์ทโฟนให้คุ้มค่ามากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเห็นประโยชน์จากสมาร์ทโฟนที่ซื้อไปมากขึ้น

พรีเซ็นเตอร์ที่ใช่ในเวลาที่ใช่

ที่ผ่านมา ซัมซุงมีการใช้พรีเซ็นเตอร์มาหลากหลาย แต่ต้องยอมรับว่าการใช้ “พี่จอง-คัลแลน” ที่กำลังโด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียลมีเดียไทย นอกจากจะได้ใจแฟนคลับแล้ว แต่ยังสื่อสารได้เข้าเป้าสุด ๆ เนื่องจากพี่จอง-คัลแลนเป็นชาวเกาหลีใต้ แม้จะอยู่ในประเทศไทยจนสื่อสารได้แต่ก็ไม่ได้ 100% เหมือนเจ้าของภาษา ขณะที่ Samsung Galaxy S24 Series ที่มีหนึ่งในฟีเจอร์เด่นอย่าง Live Translate และ Interpreter ที่สามารถแปลภาษาได้เรียลไทม์ ก็ยิ่งช่วยเร่งสร้างกับรับรู้ให้กับผู้บริโภค เรียกได้ว่ากระแสของพี่จอง-คัลแลนมาได้ถูกเวลาจริง ๆ

ปัจจุบัน ตลาดพรีเมียมของไทยถูกครองโดยผู้เล่นเพียง 2 ราย และหนึ่งในนั้นคือ ซัมซุง แน่นอนว่าด้วยการเติบโตของกลุ่มพรีเมียมทำให้หลายแบรนด์พยายามจะเจาะตลาดนี้โดยพยายามหาจุดเด่นมาดึงดูดผู้บริโภค แต่หนึ่งในสิ่งที่ สิทธิโชค มองว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้แบรนด์อื่นนั้นสอดแทรกเข้ามาได้ยากก็คือ ความเชื่อมั่น เพราะซัมซุงอยู่ในตลาดไทยมานาน และเรื่องความเชื่อมั่นหรือความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการสร้าง สิทธิโชคทิ้งท้าย

]]>
1461355
‘Apple’ ขึ้นแท่นแบรนด์ที่มียอดขายสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลก โค่น ‘Samsung’ ที่ครองแชมป์นาน 12 ปี! https://positioningmag.com/1459136 Wed, 17 Jan 2024 03:36:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1459136 ครั้งสุดท้ายที่ ซัมซุง (Samsung) หลุดแชมป์ เบอร์ 1 ตลาดสมาร์ทโฟน ต้องย้อนไปถึงปี 2010 หรือ 12 ปีที่ผ่านมา และในปี 2023 ซัมซุงก็ได้เสียแชมป์ให้กับ Apple ขึ้นเป็น แบรนด์ที่มียอดขายสมาร์ทโฟนมากที่สุดในโลก และถือเป็นครั้งแรกของ Apple ด้วย

iPhone ของ Apple กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดขายมากที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก หลังจากที่แข่งขันกับ Samsung ที่ครองตำแหน่งผู้นำมาเป็นเวลา 12 ปี ตามข้อมูลจาก International Data Corporation หรือ IDC โดย Apple สามารถโค่นแชมป์เก่าได้ด้วยยอดขายกว่า 234.6 ล้านเครื่อง เทียบกับ Samsung ที่ทำได้ 226.6 ล้านเครื่อง ส่งผลให้ Apple ครองส่วนแบ่งตลาด 20.1% มากกว่า Samsung ที่มีส่วนแบ่ง 19.4%

นักวิเคราะห์มองว่า การเติบโตของยอดขาย iPhone ของ Apple มาจากความต้องการของกลุ่มพรีเมียมที่ปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 20% ของส่วนแบ่งตลาด ขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนที่ระบบปฏิบัติการ Android ก็มีความกระจัดกระจายมากขึ้น ทำให้ Samsung ต้องเจอกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากแบรนด์จีนที่ส่งทั้งสมาร์ทโฟนจอพับมาแข่งขัน นอกจากนี้ การกลับมาของ Huawei ในประเทศจีนก็ส่งผลต่อยอดขายของ Samsung ที่ลดลงเช่นกัน

“เราเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งจากผู้เล่น Android ระดับล่างอย่าง Transsion และ Xiaomi ในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเกิดใหม่ แต่ Apple ถือเป็นแบรนด์ที่กำชัยชนะเพียงแบรนด์เดียว เพราะถือเป็นเพียงแบรนด์เดียวในกลุ่ม Top3 ที่มีการเติบโตทุกปี”

ทั้งนี้ ในปี 2023 ที่ผ่านมา การจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกลดลง -3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ 1.17 พันล้านเครื่อง โดยถือเป็นจำนวนต่ำสุดในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4/2023 ตลาดมีการเติบโต +8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีการจัดส่ง 326.1 ล้านเครื่อง ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เติบโต 7.3% ทำให้ภาพรวมในปี 2024 ตลาดอาจฟื้นตัวดีขึ้น

คงต้องรอดูว่า Samsung จะกลับมาได้ไหมในปีนี้ โดยแบรนด์กำลังจะเปิดตัว Samsung Galaxy S24 Series ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของแบรนด์ในช่วงสิ้นเดือนมกราคมนี้ ขณะเดียวกัน Apple ก็เพิ่งลดราคาสินค้าในจีนเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปีเพื่อกระตุ้นยอดขาย

Source

]]>
1459136
‘ญี่ปุ่น’ อัดฉีด 2 หมื่นล้านเยนให้ ‘ซัมซุง’ เพื่อดึงมาสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา ‘ชิป’ ภายในประเทศ https://positioningmag.com/1456824 Fri, 22 Dec 2023 06:44:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1456824 นับตั้งแต่ ชิป เคยขาดตลาดไปในช่วงโควิด แม้ว่าช่วงนี้ปริมาณจะกลับมาล้นตลาดแล้วก็ตาม ทำให้นานาประเทศพยายามที่จะลดการพึ่งพาจีนและหันมาพึ่งตัวเองมากขึ้น โดย ญี่ปุ่น ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น

ย้อนกลับไปในช่วงปี 1980 ญี่ปุ่น เคยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยมี อะกิโอะ โมริตะ ผู้ร่วมก่อตั้ง Sony ที่ถือเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในการนำพาให้ญี่ปุ่นสามารถผลิตชิปในรูปแบบของตนเอง แต่ปัจจุบัน ญี่ปุ่นแม้จะไม่ใช่ผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังบทบาทสำคัญโดยเป็นประเทศที่ผลิตอุปกรณ์พิเศษมากกว่า 1 ใน 3 ที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้ดึง ซัมซุง (Samsung Electronics) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ โดยรัฐบาลได้ให้เงินอุดหนุนสูงถึง 2 หมื่นล้านเยน (ราว 4.8 พันล้านบาท) เพื่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาใหม่สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เพื่อเพิ่มการผลิตชิปในประเทศ

เนื่องจากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่าง 2 มหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกาและจีน ทำให้ญี่ปุ่นได้พยายามที่จะสนับสนุนซัพพลายเชนของเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดการลงทุนจากบริษัทในต่างประเทศ

“ขณะนี้บริษัทต่าง ๆ จากทั่วโลกสนใจลงทุนในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก” ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรี กล่าว

ที่ผ่านมา การลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์โดยบริษัทต่างชาติที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นในปัจจุบัน ได้แก่ Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC) ในจังหวัดคุมาโมโตะ, Micron Technology Inc. ในจังหวัดฮิโรชิม่า และ Western Digital Corp. ในจังหวัดมิเอะ

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากชิปภายในประเทศ 3 เท่า ภายในปี 2030 และอัดฉีดงบลงทุนจำนวน 6.8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อผลักดันเป้าหมายดังกล่าว โดยทางรัฐบาลเชื่อมั่นว่าแผนที่วางไว้จะลุล่วงไปด้วยดี

Source

]]>
1456824
ประเมินกำไร ‘ซัมซุง’ Q3 ลดฮวบ 80% หลังเจอวิกฤต “ชิปล้นตลาด” https://positioningmag.com/1447643 Tue, 10 Oct 2023 12:31:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1447643 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กำไรของ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้ ในช่วงไตรมาสที่สามจะลดลงเกือบ 80% เนื่องจากกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ขับเคลื่อนผลกำไรที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทขาดทุนหนัก จากปัญหาซัพพลายล้นตลาด

ซัมซุง กำลังจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสาม โดยนักวิเคราะห์จาก LSEG คาดว่า กำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านวอน (ราว 1.7 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งลดลง -78.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่รายได้คาดว่าจะอยู่ที่ 67.8 ล้านล้านวอน ลดลง -11.6%

ทั้งนี้ ซัมซุงถือเป็น ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่แล็ปท็อปไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์ โดยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ยังถือเป็น หน่วยธุรกิจที่ทำกำไรให้บริษัทมากที่สุด แต่ในไตรมาสามนี้คาดว่า ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงจะ ขาดทุนมากกว่า 3 ล้านล้านวอน จึงส่งผลให้กำไรรวมทั้งบริษัทลดลงอย่างมาก

เนื่องจากจำนวนชิปที่ล้นตลาด เพราะความต้องการสินค้าไอที โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ลดลง ส่งผลให้ ราคาชิปหน่วยความจำลดลงอย่างมากในปีนี้ และแม้ในเดือนกรกฎาคมบริษัทคาดการณ์ว่าความต้องการชิปจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ก็ไม่ได้กลับมาอย่างที่คาด ส่งผลให้ซัมซุงได้ลดการผลิตลงเพื่อช่วยพยุงราคา แต่จะยังไม่เห็นผลในช่วงไตรมาสาม

อย่างไรก็ตาม อาจมีธุรกิจบางส่วนที่อาจเติบโตได้ เช่น ธุรกิจจอแสดงผล ที่อาจได้อานิสงส์จาก iPhone 15 เนื่องจาก Apple ใช้จอของซัมซุง และอีกส่วนคือ ยอดขายสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะจากสมาร์ทโฟนจอพับที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมที่อาจส่งผลให้มีกำไรมากขึ้นจากธุรกิจนี้

Source

]]>
1447643