Slack – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 19 Feb 2021 14:09:35 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 อย่างเจ็บ! เมื่อ ‘Facebook’ ถูกเรียก ‘นักก๊อป’ มูลค่า 7.7 แสนล้านเหรียญ https://positioningmag.com/1320170 Fri, 19 Feb 2021 09:59:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1320170 Facebook ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก พร้อมกับครองตลาดโฆษณาออนไลน์เช่นเดียวกับ Google แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการพาดหัวข่าวเกี่ยวกับการ ‘ก๊อปฟีเจอร์ยอดนิยม’ จากคู่แข่งมากกว่าที่มีในการสร้างฟีเจอร์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ด้วยตัวเอง

ย้อนไป 4 ปีที่แล้ว ‘Facebook’ มักจะมีนวัตกรรมอะไรที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ โดยบริษัทได้จัดตั้งแผนกฮาร์ดแวร์ใหม่ชื่อ ‘Building 8’ โดยมีทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรดูแลโดยผู้บริหารจาก DARPA และประกาศว่ากำลังสร้างเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้สามารถ ‘พิมพ์ด้วยสมอง’ และ ‘ได้ยินด้วยผิวหนัง’ นอกจากนี้มีข่าวว่าจะผลิต ‘สมาร์ทโฟน’ ด้วย

ในตอนนั้นยังไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดนั้นจะสามารถเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ แต่มันให้ความรู้สึกแปลกใหม่และแตกต่างจากสิ่งที่บริษัทเคยทำมา แต่แล้วผู้บริหาร DARPA ก็ออกจาก Facebook ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา และหนึ่งปีหลังจากนั้น Building 8 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ‘Portal’ ชื่อเดียวกับ ‘Facebook Portal’ ลำโพงอัจฉริยะที่ Facebook สร้างขึ้นเพื่อแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันจาก ‘Amazon’

Computer screen showing the website for social networking site, Facebook (Photo by In Pictures Ltd./Corbis via Getty Images)

แทนที่จะใช้เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ Facebook ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบจำนวนมากที่ยกมาจาก YouTube, Twitch, TikTok, LinkedIn, Pinterest และ Slack โดย Facebook ดำเนินการเกี่ยวกับแอปหาคู่ยอดนิยมเปิดตัวคู่แข่ง Craigslist และฉีกฟีเจอร์ Stories ยอดนิยมของ Snapchat ในปี 2559 ไม่นานก่อนที่จะเผยแพร่ต่อสาธารณะ และที่เพิ่งมีข่าวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็คือ Facebook กำลังต้องการทำฟีเจอร์แบบเดียวกับ ‘Clubhouse’ ซึ่งเป็นแอปที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้

นอกเหนือจากการก๊อปแล้ว เมื่อ Facebook ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้มันก็ซื้อมันเหมือนกับที่ซื้อ ‘Instagram’ ในปี 2012 เช่นเดียวกับ ‘WhatsApp’ และ ‘Oculus’

เพราะทั้งซื้อและก๊อปฟีเจอร์ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกากล่าวหา Facebook ว่าใช้ “อำนาจการครอบงำและการผูกขาดเพื่อบดขยี้คู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่า” ตามคำพูดของ Letitia James อัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มในการสืบสวน Facebook

ด้วยความพยายามในการก็อปที่ต่อเนื่องทำให้เกิดคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ของ Facebook ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นส่วนสำคัญของบริษัทเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม Facebook นั้นไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีรายแรกหรือรายเดียวที่ก๊อปฟีเจอร์ แต่ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ดูเหมือนจะคัดลอก TikTok ในระดับหนึ่งรวมถึง Snapchat และ YouTube อย่างไรก็ตาม สำหรับ Facebook เองก็ยากที่จะบอกได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ Facebook สร้างนวัตกรรมที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริงคือตอนไหน

Tucker Marion รองศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น ที่มุ่งเน้นไปที่การเป็นผู้ประกอบการและนวัตกรรม กล่าวว่า การก๊อปของคู่แข่งไม่ใช่กลยุทธ์ที่ไม่ดี แต่จำเป็นต้องควบคู่ไปกับการที่บริษัทดำเนินการตามแนวคิดดั้งเดิมของตนเองด้วย

เพื่อความเป็นธรรมการสร้างสรรค์สิ่งใหม่เป็นเรื่องยาก โดย Google ได้เผาผลาญเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่การร่วมทุนบอลลูนอินเทอร์เน็ตที่มีความทะเยอทะยานไปจนถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองและมีความขยันขันแข็งมากขึ้นเกี่ยวกับการทดลอง

Facebook ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เปิดตัว News Feed ในปี 2006 หลายเดือนหลังจากที่ Twitter เปิดตัวและช่วยเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนบริโภคข้อมูลทางออนไลน์ จากนั้นการเปิดตัวโทรศัพท์ Facebook ก็ล้มเหลว การทดลองใช้โดรนส่งมอบอินเทอร์เน็ตที่บินด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ก็เงียบไป และ cryptocurrency ตัวใหม่ (TBD ก็ยังมีปัญหาในช่วงแรก ๆ)

ในทางกลับกันความพยายามบางส่วนในการเลียนแบบคู่แข่งประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล Instagram Stories ซึ่งเป็นก๊อป Snapchat กลายเป็นวิธีเริ่มต้นในการสื่อสารและเชื่อมต่อสำหรับผู้คนนับล้าน รวมถึง Facebook Marketplace กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม

ที่ผ่านมา Kevin Systrom ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของ Instagram เคยกล่าวไว้เมื่อถูกถามเกี่ยวกับปัญหาการลอกเลียนแบบว่า “ลองนึกภาพรถคันเดียวในโลกคือ Model T ในตอนนี้มีคนประดิษฐ์รถขึ้นมาใหม่มันเจ๋งมาก แต่คุณจะโทษไหมที่บริษัทอื่น ๆ สร้างรถยนต์ที่มีล้อพวงมาลัยและแอร์และหน้าต่างเหมือนกัน คำถามคือ คุณสร้างสิ่งที่ไม่เหมือนใครได้อย่างไร?”

คงจะจริงอย่างที่ว่า เพราะผู้บริโภคทั่วไปไม่สนใจว่าใครจะนึกถึงแนวคิดนี้ก่อน พวกเขาสนใจว่าใครเป็นผู้ดำเนินการได้ดีที่สุด อย่าง Apple ไม่ได้คิดค้นสมาร์ทโฟนขึ้นมา แต่เพียงแค่สร้างเครื่องที่ดีที่สุดในเวลานั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ Instagram Stories ทำให้ฐานผู้ใช้ทั้งหมดของ Snapchat ลดลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีแม้ว่า Facebook จะไม่ใช่คนที่คิดค้น และด้วยเหตุนี้ Reels ซึ่งเป็นฟีเจอร์วิดีโอรูปแบบสั้นจึงพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้รับแรงการตอบรับและแข่งขันกับอัลกอริทึมการแนะนำที่มีประสิทธิภาพของ TikTok

แม้แต่เทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยสมองก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เมื่อไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ Elon Musk มีแผนจะใช้สมองกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์สมองอื่น ๆ มีการใช้งานมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหวังว่าวันหนึ่งจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ๆ จาก Facebook และแม้จะมีนักวิจารณ์พูดถึง Facebook แบบนี้ แต่ตัวแทนของบริษัทก็ยังไม่ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นในเรื่องนี้ทันที

Source

]]>
1320170
Salesforce เข้าฮุบกิจการ Slack ปิดดีลยักษ์มูลค่า 2.7 หมื่นล้านเหรียญ https://positioningmag.com/1308611 Wed, 02 Dec 2020 06:52:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1308611 เซลล์ฟอร์ซ (Salesforce) ควงสแลค (Slack) ประกาศจูบปากควบรวมกิจการ ผลจากดีลจะทำให้ Slack กลายเป็นหน่วยงานภายใต้ Salesforce โดยยังคงมีซีอีโอคนเดิมเป็นหัวหน้าบริการ เพื่อเน้นพัฒนาให้บริการเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ของ Salesforce ให้มากขึ้นในระยะยาว มูลค่าดีลทะลุ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ถูกยกเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ธุรกิจ

Slack เป็นแพลตฟอร์มสำหรับติดต่อสื่อสารในการทำงานซึ่งได้รับความนิยมมากทั่วโลก ล่าสุดบริษัทรายงานว่ามีรายรับรวม 234.5 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบปีต่อปี แถมยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มที่ชำระเงินค่าสมาชิกนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 140% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

บริษัทดาวรุ่งอนาคตไกลอย่าง Slack Technologies Inc. จึงมีมูลค่าหุ้นไม่ธรรมดา ทำให้ Salesforce ต้องจ่ายเงินมูลค่าดีล 27,700 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8.3 แสนล้านบาทเพื่อให้ดีลนี้สำเร็จตามแผนที่วางไว้ โดย Salesforce จะจ่ายเป็นเงินสด 26,790 ล้านดอลลาร์ ที่เหลือจ่ายเป็นหุ้นของ Salesforce

ทั้งหมดนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Slack ชื่นชมว่า Salesforce นั้นเป็นผู้บุกเบิกซอฟต์แวร์บนคลาวด์ การร่วมมือกันจะทำให้เกิดประวัติศาสตร์ใหม่หลังจากที่ Slack ได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของผู้คน ซึ่งนอกจาก Slack จะถูกเชื่อมต่อกับบริการ Salesforce Cloud มากขึ้น จะยังถูกพัฒนาเป็นอินเทอร์เฟซใหม่ของระบบ Salesforce Customer 360 ด้วย

สำหรับ Slack ได้เปลี่ยนธุรกิจจากช่วงเริ่มต้นที่เติบโตอย่างรวดเร็วในฐานะบริษัทเกมในปี 2009 วันนี้ Slack เป็นคู่แข่งรายใหญ่ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) และเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 12 ล้านคนต่อวัน (ตัวเลข ณ เดือนตุลาคมปีที่แล้ว) โดย Butterfield มีดีกรีเป็นผู้ร่วมสร้างบริการดังอย่าง Flickr ซึ่งเริ่มต้น Slack จากการพัฒนาบริการทางเลือกให้ผู้ใช้ไม่ต้องพึ่งพาการส่งอีเมลอย่างเดียว ทำให้บริษัท สตาร์ทอัพ และธุรกิจสามารถจัดการการสื่อสารระหว่างสำนักงานได้ดีขึ้น ทำให้ Slack กลายเป็นระบบสื่อสารเพื่อการทำงานที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์การประชุมทางวิดีโอ การส่งไฟล์ และคุณสมบัติอื่น ๆ ที่โดนใจหลายองค์กร

Source

]]>
1308611
แบกคนเดียวไม่ไหว Facebook-Microsoft จับมือ WHO ผุด ‘Hackathon’ เฟ้นหาโซลูชั่นกู้วิกฤติ Covid-19 https://positioningmag.com/1269861 Wed, 25 Mar 2020 05:09:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1269861 มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกิ้นส์ระบุว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 375,498 รายและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16,362 คน ส่งผลให้บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มระดับโลกต้องจับมือกับ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เพื่อจัดโครงการ Hackathon สำหรับเฟ้นหาซอฟต์แวร์ที่จะมาช่วยแก้วิกฤติในครั้งนี้

องค์การอนามัยโลก ได้ร่วมมือกับ Facebook, Microsoft และบริษัท เทคโนโลยีอื่น ๆ หลายแห่ง อาทิ Twitter, WeChat, TikTok, Pinterest, Slack และ Giphy ในกาจัดโครงการ Hackathon #BuildforCOVID19 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับใช้รับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดย Hackathon #BuildforCOVID19 ถูกประกาศเมื่อวันอังคาร และจะเริ่มเปิดรับส่งโครงการในวันพฤหัสบดี โดยเหล่าพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ ที่ร่วมกันจัดงานจะช่วงแบ่งปันทรัพยากรเพื่อสนับสนุนผู้เข้าร่วมตลอดระยะเวลาการทำโครงการ โดย Hackathon นี้ จะช่วยกระตุ้นให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ สร้างโครงการที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพประชากรที่ยังคงมีช่องโหว่

Mark Zuckerberg

“เมื่อพิจารณาถึงความโดดเดี่ยวในชุมชนในขณะนี้ เราต้องการสร้างพื้นที่ออนไลน์ที่นักพัฒนาสามารถคิดทดลองและสร้างโซลูชั่นซอฟต์แวร์เพื่อช่วยแก้ไขวิกฤตินี้ ฉันหวังว่าต้นแบบและความคิดที่มีประโยชน์บางอย่างจะออกมาจากงานนี้เช่นกัน” Mark Zuckerberg CEO Facebook กล่าว

ทั้งนี้ กำหนดส่งโครงการคือวันจันทร์ Hackathon จะประกาศผลงานยอดนิยมในวันที่ 3 เมษายน

Source

#Hackathon #BuildforCOVID19 #Covid19 #Facebook #Microsoft #Twitter #WeChat #TikTok #Pinterest #Slack #Giphy #WHO #Positioningmag

]]>
1269861
พุ่งกระฉูด! ‘Work from Home’ ดันยอดผู้ใช้ ‘Microsoft Teams’ ทะลุ 44 ล้านคน/วัน https://positioningmag.com/1269006 Fri, 20 Mar 2020 03:25:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1269006 จากนโยบายการปิดเมืองในหลายประเทศเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่องค์กรเองต้องเดินหน้าต่อ ดังนั้นจึงเกิดเป็นมาตรการ ‘Work from Home’ ในหลายบริษัท ส่งผลให้มีการใช้บริการ Microsoft Teams เพื่อใช้สนทนากับเพื่อนร่วมงานไม่ว่าจะเป็นวิดีโอคอล, โทรและแชทแบบกลุ่มมากกว่า 44 ล้านราย/วัน จากเดิมที่มีผู้ใช้งาน 20 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายน หรือเติบโตกว่าเท่าตัว


“COVID-19 ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนทั่วโลก และเราเชื่อว่านี่จะเป็นจุดที่ผู้คนได้เรียนรู้และเรียนรู้” Jared Spataro รองประธาน บริษัท ไมโครซอฟท์ กล่าว “ลูกค้าของเราหันมาใช้งานบริการประชุมทางไกลของเราเพิ่มขึ้นอย่างจริงจังในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้”

เนื่องจาก COVID-19 บังคับให้ผู้คนต้องทำงานจากที่บ้าน เพื่อสกัดกั้นการแพร่กระจายของไวรัส ส่งผลให้องค์กรและพนักงานต้องมาใช้งานโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานทั้งของ Microsoft Teams เองรวมถึง Slack, Zoom และ RingCentral ซึ่งเป็นบริการโทรศัพท์ ส่งข้อความบนคลาวด์ และสนทนาทางวิดีโอผ่าน Webex ของ Cisco


ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Microsoft Teams ทั่วโลกกว่า 44 ล้านคน/วัน ขณะที่สถิติการมีส่วนร่วมล่าสุดในเดือนตุลาคมมีผู้ใช้งานแอปที่ใช้งานประจำเพียง 12 ล้านคน โดยประเทศเนเธอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 14 เท่าเมื่อเทียบกับเมื่อสัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้ Microsoft กำลัเพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ ๆ ให้กับทีมงานรวมถึงความสามารถในการอัปโหลดและแสดงพื้นหลังที่กำหนดเองแทนที่จะใช้ภาพสต็อก ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวคนั้นเคยได้รับความนิยมใน Zoom เป็นเวลาหลายเดือน

Source

#Microsoft #Slack #Positioningmag

]]>
1269006
รู้จัก Google Hangouts Chat แอปฯใหม่ที่จะมาท้า Slack! https://positioningmag.com/1159562 Thu, 01 Mar 2018 15:51:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1159562 แม้จะใช้ชื่อ “แฮงเอาท์แชท” (Hangouts Chat) แต่แอปพลิเคชันใหม่ของกูเกิล (Google) ถูกวิจารณ์ว่ามองเหมือนแอปดาวรุ่งอย่างสแลค (Slack) มากกว่าแอปพลิเคชัน Hangouts ที่ชาว Google เคยรู้จัก โดยล่าสุดไม่ต้องรอคำเชิญแล้ว เพราะ Hangouts Chat จะเปิดให้ผู้ใช้ G Suite ทุกคนใช้งาน

หลังจากเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีนับตั้งแต่ Google กล่าวถึงชื่อ Hangouts Chat ครั้งแรก วันนี้บริการรับส่งข้อความได้รับการออกแบบใหม่หมดจดจนถูกกล่าวขานว่าถอดแบบบริการแชตเพื่อการทำงานร่วมกันจากระยะไกลที่องค์กรอเมริกันนิยมใช้งานอย่าง Slack โดยปัจจุบัน Hangouts Chat เริ่มเปิดทดสอบนอกกลุ่มผู้เริ่มต้นใช้งานแล้ว และจะพร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ G Suite ทุกคนในสัปดาห์หน้า 

ความท้าทายของ Hangouts Chat คือความเข้ากันได้กับระบบทำงานทางไกลของบริษัทองค์กร จุดนี้ Hangouts Chat จะเป็นบริการที่แยกจากกันอย่างชัดเจนจาก Hangouts ดั้งเดิม ที่ยังคงให้บริการผ่านกล่องจดหมายจีเมลของ Google แต่ Hangouts Chat จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการ G Suite โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่เป็นลูกค้าใช้บริการ Slack

เช่นเดียวกับ Slack บริการใหม่ Hangouts Chat มีห้องเสมือนเพื่อให้ส่วนต่างๆ ของทีมงานบริษัท สามารถจัดการโครงการหรืองานที่เฉพาะเจาะจงได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดมาประชุม โดยแต่ละห้องสามารถรองรับการประชุมออนไลน์ได้ถึง 8,000 คน และระบบสนทนาสามารถทำงานรองรับ 28 ภาษา ตัวระบบสามารถส่งข้อความและการแจ้งเตือนโดยตรงเช่นเดียวกับแอปพลิเคชัน iOS, Android, macOS และ Windows นอกจากนี้ผู้ใช้ยังใช้งานผ่านเว็บไซต์ได้อีกทาง

รายงานระบุว่า Hangouts Chat จะมีบ็อตรวม 25 ตัวที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่นในตระกูล G Suite ทำให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับบ็อตเพื่อดึงข้อมูลผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ เช่น @Drive สำหรับรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับไฟล์ที่แชร์, @Meet เพื่อตรวจสอบปฏิทินงานของทีมสำหรับนัดหมายการประชุม บ็อตเหล่านี้สร้างขึ้นโดยบริษัทอื่น (third-party) เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับบริการของตนเอง ซึ่งจุดนี้คาดว่า Google จะพยายามกระตุ้นให้มีบริษัทอื่นร่วมสร้างระบบของตัวเองสำหรับ Hangouts Chat เพิ่มเติมในอนาคต ทำให้ Google พยายามเสนอแหล่งข้อมูลสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับทุกคนที่ต้องการเพิ่มซอฟต์แวร์ตัวเองลงในแพลตฟอร์มใหม่ Hangouts Chat นี้

นักวิเคราะห์มองความเคลื่อนไหวเรื่อง Hangouts Chat ว่า เพราะ Google ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี AI ในทุกผลิตภัณฑ์ ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยที่ระบบแชตในแฮงเอาท์อย่าง Hangouts Chat จะใช้ระบบการเรียนรู้ด้วยเครื่องหรือ machine learning เพื่อพยายามหาข้อมูลที่ผู้ใช้อาจต้องการ จุดนี้ Google ย้ำชัดเจนว่า AI สามารถช่วยให้ผู้ใช้จองห้องประชุม ค้นหาไฟล์ และทำงานอื่นได้อีกมากมาย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงระหว่างแชตและปฏิทินงาน ที่ทำให้ระบบสามารถเรียนรู้วิธีแนะนำสถานที่เพื่อจอง จุดนี้ระบบจะวิเคราะห์ทั้งสถานที่ของอาคาร, ที่ตั้ง, ประวัติการจองก่อนหน้า, ความต้องการอุปกรณ์เสียง/วิดีโอ และความต้องการอื่นของผู้ร่วมประชุม ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นงานหินของหลายบริษัทที่ต้องใช้เวลาสำรวจและเลือกสถานที่นานกว่าจะสรุปได้เหมาะสม

สำหรับไฟล์เอกสาร รายงานระบุว่า Google Docs จะเริ่มมีบริการ “เข้าถึงด่วน” หรือ quick access ที่สามารถคาดการณ์ได้ว่าไฟล์ใดที่ผู้ใช้ต้องการเข้าถึงในบริการ กรณีนี้หากผู้ใช้กำลังทำงานกับเอกสารพิเศษก็สามารถคลิกที่ส่วน “สำรวจ” หรือ explore เพื่อเรียกดูไฟล์ที่เกี่ยวข้องซึ่ง Google คิดว่าอาจเป็นประโยชน์ 

ทั้งหมดนี้แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า บริการเหล่านี้บน Hangouts Chat จะออกมาในรูปแบบใด แต่ภาพรวมในขณะนี้สะท้อนว่าบริการคาดเดาไฟล์นี้จะกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างบริการต่างๆ ของ Google ซึ่งผู้ใช้จะเข้าถึงได้ง่ายผ่านรูปแบบการแชต.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000021000

]]>
1159562