“ญี่ปุ่น” ถือเป็นดินแดนในฝันของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะกับ “ครีเอเตอร์” ที่ต้องทำงานด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นภายในหัว เพราะที่นี่เต็มไปด้วยจุดเริ่มต้นของ “การ์ตูน” ชื่อดังหลายๆ เรื่อง ซึ่งหากมาเห็นด้วยตาของตัวเองสักครั้ง คงจะดีต่อใจและกระตุ้นให้ไฟในตัวลุกโชนขึ้นมาอย่างแน่นอน

ในฐานะที่ไม่นานมานี้ Positioning ได้รับเชิญจาก “LINE” ให้เดินทางร่วมกับเหล่าครีเอเตอร์จำนวน 10 คน ที่ชนะการประกวด LINE Creators Market Sticker Contest ปี 4 ภายใต้หัวข้อ “ชีวิตประจำวันครบรส แบบโหด มันส์ ฮา!” ซึ่งบินลัดฟ้าสู่ญี่ปุ่น เติมแรงบันดาลใจให้กับการเป็นครีเอเตอร์

จึงขอแนะทำ 4 แลนด์มาร์คในญี่ปุ่น ที่ “สายครีเอเตอร์” ต้องชอบ

LINE Japan @ Shibuya

มากับ “LINE” ทั้งนี้ก็ไม่พลาดที่จะแวะมาเช็คอิน LINE Japan @ Shibuya หนึ่งในสำนักงานใหญ่ของ LINE ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจริงๆ มีประมาณ 4 แห่ง ตั้งกระจายกันและแยกแต่ละแผนกออกไป เราขึ้นมาชั้น 23 (สำนักงานที่นี่มีประมาณ 5 ชั้น) ซึ่งเป็นชั้นที่ต้อนรับลูกค้าและพาร์ตเนอร์

เข้ามาสิ่งแรกที่เจอคือ “หมีบราวน์” ตัวใหญ่สูงกว่า 5 เมตร และมีคาแร็กเตอร์อื่นๆ ตั้งอยู่ทั่วสำนักงานแห่งนี้ ถ้าใครเคยเห็นสำนักงานของ LINE ในเมืองไทย ต้องบอกว่าการตกแต่งของที่นี่ไม่ได้ต่างกัน เนื่องจาก LINE มองว่าตัวเองคือ “Global Company” ดังนั้นสำนักงานแต่ละแห่งต้องคล้ายคลึงกัน เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างนั้นเอง

หลักๆ Mood and Tone จะสบายตา ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก และจัดแสงสีเหลืองให้ดูอบอุ่น ชั้นนี้มีห้องประชุมประมาณ 20 ห้องให้พนักงานเลือกใช้ มีโต๊ะสนุกเกอร์และตัวต่อเลโก้ให้พนักงานได้มาผ่อนคลาย

ในนี้ยังมีตู้กดเครืองดื่ม โซนอาหารเล็กๆ และร้านคาเฟ่เล็กๆ ให้พนักงานมาซื้อกาแฟที่อยากดื่มได้ ซึ่งอาหารถือเป็นจุดที่แตกต่างกับที่เมืองไทย เป็นแห่งเดียวของสำนักงาน LINE ทั่วโลก ที่จะเลี้ยงอาหารเช้าและกลางวันให้กับพนักงานด้วย

มีโซนเล็กๆ ที่จำหน่ายของที่ระลึกจากคาแร็กเตอร์ของ LINE และมีสินค้าของครีเอเตอร์ด้วย ซึ่ง LINE บอกว่ากำลังผลักดันให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์

Tokyo One Piece Tower

ถ้าใครเป็นแฟนการ์ตูนเรื่อง “One Piece” ต้องชื่นชอบสวนสนุก “Tokyo One Piece Tower” ที่ตั้งอยู่ภายใต้โตเกียวทาวเวอร์ ซึ่งเป็นจุดชมวิวยอดนิยมและที่เที่ยวแลนด์มาร์คของญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

หลังจากที่เดินสแกนบัตรเข้าชมที่ทางเข้า ก็จะถูกพาให้เข้ามาในห้องที่ฉายเรื่องราวของ One Piece แบบสั้นๆ แต่ที่พิเศษคือฉายบนจอ 360 องศา สร้างความฮึกเหิมและตื่นเต้นก่อนที่จะได้ดูของจริง

เดินออกมาก็จะพบกับฉากจำลองหลายฉากในการ์ตูน ทั้งยังมีฟิกเกอร์ตัวละครขนาดใหญ่ให้สาวกมาแชะภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก มีตู้เกมและกิจกรรมแอดเวนเจอร์

ที่นี่ยังมีโซนร้านอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการกันด้วย มีของที่ระลึกรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่หมดแล้วหมดเลย และสามารถหาซื้อได้ที่นี่ที่เดียว เท่าที่ดูมีของหลายอย่างเลยทีเดียว เช่น พวงกุญแจ, แก้วน้ำ, เข็มกลัด และกระเป๋าผ้า

Studio Ghibli

สตูดิโอจิบลิ หรือในชื่อภาษาอังกฤษ Studio Ghibli Inc. เป็นสตูดิโอภาพยนตร์อนิเมะของประเทศญี่ปุ่น เคยเป็นส่วนหนึ่งของโทคุมะโชเท็น ภาพยนตร์อนิเมะของสตูดิโอนี้เต็มไปด้วยจินตนาการ เข้าถึงอารมณ์และได้รับความชื่นชมไปทั่วโลก

ชื่อจิบลิ มาจากเครื่องบินตรวจการณ์ของประเทศอิตาลีที่ใช้ในทะเลทรายซาฮาราในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง คำนี้มีที่มาจากคาในภาษาลีเบียนที่แปลว่า “ลมร้อนที่พัดผ่านทะเลทรายซาฮารา” เปรียบได้กับสตูดิโอที่พัดเอากระแสลมลูกใหม่ผ่านมายังอุตสาหกรรมอนิเมะของญี่ปุ่น โลโก้ของบริษัทมีตัวละคร “โทะโตะโระ” จากภาพยนตร์เรื่องโทโทโร่เพื่อนรัก ประกอบอยู่ด้วย

การจะมาที่นี่ต้องจองล่วงหน้า เพราะทางสตูดิโอจิบลิจะจำกัดคนเข้าชมแต่ละรอบไม่ให้แน่นจนเกินไป และต้องขอภัยด้วยที่มีรูปแต่ด้านนอก ด้วยมีการขอความร่วมมือไม่ให้ถ่ายข้างใน แต่อยากจะบอกว่าไปดูเถอะ คุณจะต้องร้อง “โอ้โห” อย่างแน่นนอน

TEAMLAB

ที่สุดท้ายคือ “TEAMLAB” เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลถาวรแห่งแรกของทีมแล็บ ภายในกว้างขวางมาก แบ่งเป็น 2 ชั้นด้วยกัน และมี concept แตกต่างกันไปในแต่ละห้อง

งานศิลปะบางจุดจะไม่ได้อยู่แค่ในห้องเดียว แต่เคลื่อนที่ไปห้องอื่นแบบเนียนๆ ผลงานจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เซ็นเซอร์เพื่อสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมา

ทำให้ผลงานเคลื่อนไหวเหมือนมีชีวิต ผสานกับเสียงเพลงที่ช่วยปลุกเร้าอารมณ์ให้เรามีส่วนร่วมไปด้วย สนุกแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน.