Taxi – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 23 Jul 2020 13:56:43 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 UK ออกกฎใหม่ ตรวจประวัติคนขับแท็กซี่ทุก 6 เดือน-ติดกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัยผู้โดยสาร https://positioningmag.com/1289364 Thu, 23 Jul 2020 13:50:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1289364 สหราชอาณาจักร เตรียมออกกฎหมายใหม่ บังคับให้ผู้ขับรถเเท็กซี่และผู้ขับรถยนต์รับจ้างส่วนบุคคล ต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมทุก 6 เดือน พร้อมต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถยนต์ที่ให้บริการทุกคันด้วย

กระทรวงคมนาคมของอังกฤษ ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ ระบุว่า รัฐบาลได้รับคำเเนะนำให้ออกกฎหมายอนุญาตใบขับขี่ที่จะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถยนต์โดยสารสาธารณะ ซึ่งมองว่าเป็นประโยชน์กับผู้โดยสาร หลังมีคดีล่วงละเมิดเกิดขึ้นจำนวนมาก ในหลายเมืองของสหราชอาณาจักร 

เราทราบดีว่า ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญด้านบริการที่ปลอดภัยในชุมชน แต่หลังเกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่เกิดขึ้นในหลายเมืองอย่าง Rochdale, Oxford, Newcastle และ Rotherham จึงจำเป็นต้องมีออกมาตรการเพื่อปกป้องผู้โดยสาร นี่เป็นเหตุผลในการออกกฎหมายอนุญาตใบขับขี่ที่บังคับใช้ใหม่อย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้ขับขี่มีความพร้อมให้บริการผู้โดยสารในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และป้องกันผู้ขับขี่ที่ไม่มีความพร้อมได้ด้วย

โดยคาดว่า ทางการท้องถิ่นจะนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ด้วย ซึ่งจะช่วยปรับปรุงระบบอนุญาตใบขับขี่ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น พร้อมทั้งลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กและผู้โดยสารกลุ่มเปราะบาง นอกจากนี้ ผู้ขับรถยนต์โดยสาธารณะและผู้ขับรถยนต์รับจ้างส่วนบุคคล จะต้องได้รับการอบรมให้ช่วยค้นหาและช่วยเหลือผู้โดยสารที่อาจถูกทำร้ายด้วย

ก่อนหน้านี้ Uber ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถเเบบ Ride Hailing รายใหญ่ของสหรัฐฯ ถูกเพิกถอนใบอนุญาตให้บริการขนส่งผู้โดยสารในกรุงลอนดอนเป็นครั้งที่หลังมีความผิดพลาดด้านความปลอดภัย โดย Uber มีเครือข่ายคนขับราว 45,000 คนในลอนดอน ซึ่งนับว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สำคัญของบริษัท เเละตอนนี้ Uber ก็กำลังหาทางเพื่อให้กลับมาได้รับใบอนุญาตให้บริการอีกครั้ง

 

ที่มา : Reuters

]]> 1289364 เปลี่ยนแท็กซี่เป็น Kerry ชั่วคราว ส่งพัสดุหารายได้พิเศษ แถมแก้เกมกองพัสดุเยอะ https://positioningmag.com/1272848 Sun, 12 Apr 2020 08:09:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272848 กลายเป็นการจับคู่ที่ Win-Win ในการปรับตัวในช่วงถานการณ์ตอนนี้ได้อย่างดี เมื่อ สมาร์ทแท็กซี่เห็นกองพัสดุเคอรี่ เอ็กซ์เพรสเท่าภูเขา ตัดสินใจพูดคุยขอนำแท็กซี่ส่งพัสดุด้วย สบช่องช่วงที่ตีรถเปล่า รายได้ลด มาส่งพัสดุตามบ้านหารายได้พิเศษ

เฟซบุ๊ก Smart Taxi.,Ltd ของ บริษัท สมาร์ทแท็กซี่ จำกัด ระบุว่า ได้ร่วมกับ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) นำรถแท็กซี่ของบริษัทฯ มาให้บริการส่งพัสดุของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ให้กับลูกค้าตามสถานที่ที่ระบุบนหน้ากล่อง

ก่อนหน้านี้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ได้ประสบปัญหาพัสดุเต็มคลังสินค้า เนื่องมาจากการประกาศ พ...ฉุกเฉิน ทำให้ปริมาณความต้องการของลูกค้าในการส่งพัสดุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้จำนวนพัสดุเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากการจัดส่งในช่วงเวลาปกติ จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจัดลำดับเส้นทางการจัดส่งพัสดุ อีกทั้งมาตรการควบคุมการคมนาคมในแต่ละพื้นที่ ส่งผลให้รถส่งสินค้าต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการจัดส่งสินค้าไปยังปลายทาง

โดยแอดมินเพจชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า การเปลี่ยนรถแท็กซี่จากส่งคนมาเป็นส่งของนั้น สืบเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ประชาชนไม่ออกจากบ้าน ส่งผลทำให้รายได้ของโชเฟอร์รถแท็กซี่ลดลงเหลือเพียง 500-600 บาทต่อวัน

 

ขณะที่ เคอรี่ เอ็กซ์เพรสประสบปัญหาพัสดุเต็มคลังสินค้า เนื่องจากรถขนส่งพัสดุตอนนี้วิ่งไม่ทัน จากก่อนหน้านี้มีปริมาณพัสดุ 1 ล้านชิ้นต่อวัน แต่เมื่อประชาชนนิยมสั่งสินค้าออนไลน์ ทำให้มีพัสดุมากถึง 1.5 ล้านชิ้นต่อวัน

ขณะที่แท็กซี่ทุกวันนี้ตีรถเปล่า ตนเห็นปัญหาดังกล่าวแล้วจึงมีแนวคิดที่จะนำแท็กซี่มาส่งพัสดุ ซึ่งตามกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ จึงติดต่อทางคอลเซ็นเตอร์ และได้เข้าไปพูดคุยกับทางสำนักงานใหญ่ ซึ่งความร่วมมือเป็นไปได้ด้วยดี โดยได้พูดคุยถึงความร่วมมือทั้งระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน

เบื้องต้นจะนำรถแท็กซี่ที่ติดตั้งระบบของสมาร์ทแท็กซี่ ประกอบด้วย ระบบจีพีเอส (GPS) กล้องภายในรถ และระบบยืนยันตัวตนกับคนขับ จำนวน 60 คัน และเปิดรับแท็กซี่ระบบอื่นที่ยังไม่หมดอายุเข้าร่วมช่วยงานไปก่อน แต่ระยะยาวจะให้ใช้ระบบของสมาร์ทแท็กซี่เพื่อควบคุมคุณภาพการให้บริการ

ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า คลังสินค้าคลองส่งน้ำสมุทรปราการมีความต้องการมากที่สุด รองลงมาคือ มีนบุรี และนนทบุรี ของที่จะส่งมีทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ โดยมีการคัดแยกพื้นที่จัดส่งในรัศมีใกล้กับคลังสินค้ามาแล้วระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ผู้ขับแท็กซี่จะใช้ช่วงเวลา 11.00-15.00 . ซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้รถน้อยเข้ามาให้บริการส่งของ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง และจะได้รับเงิน (หลังหักภาษี ณ ที่จ่าย) หลังเคลียร์งานเสร็จภายในเวลา 20.00 . ของทุกวัน โดยรับเป็นเงินสด

การประกาศรับสมัครแท็กซี่ที่จะเข้าไปวิ่งรับส่งพัสดุกับเคอรี่ เอ็กซ์เพรส จะประกาศในเฟซบุ๊กเพจ “Smart Taxi.,Ltd” ผู้สนใจจะต้องเป็นผู้ขับรถแท็กซี่ที่ยังไม่หมดอายุ โดยนำหลักฐาน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบขับขี่สาธารณะ สำเนาทะเบียนรถยนต์ แต่งกายสุภาพ กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น สวมหน้ากาก มาลงทะเบียนที่หน้างาน บริเวณคลังสินค้าเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ที่จะประกาศแบบวันต่อวัน ตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า เป็นต้นไป

]]>
1272848
ไฟเขียวแล้ว! ให้แท็กซี่สนามบินเก็บค่าขนกระเป๋าใบละ 20 บาท ดีเดย์ 18 พ.ย. นี้ https://positioningmag.com/1253005 Fri, 08 Nov 2019 13:39:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1253005 ศักดิ์สยาม” รับข้อเรียกร้องแท็กซี่ ตัวแทนสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทยไฟเขียว เก็บค่าขนกระเป๋าใบละ 20 บาท แท็กซี่สนามบิน เริ่ม 18 .. พร้อมสั่ง ขบทบทวนกฎกระทรวง จำกัดอายุ เสนอใน 29 ..

พัลลภ ฉายิธุ ประธานคณะกรรมการประสานงานรถยนต์นั่งสาธารณะ (รถแท็กซี่) ผู้ให้บริการรถแท็กซี่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมประชุมหารือกับศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว. คมนาคม พบว่าทางกระทรวงคมนาคมมีมติเห็นชอบให้ขึ้นสัมภาระเป็น 20 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป

โดยผู้ประกอบการยินยอมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร และค่าเซอร์ชาร์จต่อไปอีกจนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น พร้อมทั้งให้การเยียวยาคนขับรถแท็กซี่ด้วยการขยายเวลาอายุการใช้งานรถจากเดิม 9 ปี เป็น 12 ปี และยอมทบทวนการบังคับใช้ Taxi OK ตามความสมัครใจ พร้อมทั้งพิจารณาแก้ไขการจดทะเบียนให้รถยนต์นั่งสาธารณะ 7 ที่นั่ง รถส่วนบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้วไม่เกิน 3 ปี สามารถจดทะเบียนรถ Taxi VIP ได้ตามที่ TDRI เสนอมา

สำหรับรถแท็กซี่ภายในท่าอากาศยานจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และต้นทุนจากการวิ่งรถเปล่าจากตัวเมืองไปสนามบิน และค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้สนามบิน จึงกำหนดค่าเซอร์ชาร์จ เพิ่มจาก 50 บาท เป็นรถขนาดเล็กไม่เกิน 70 บาท รถขนาดใหญ่ไม่เกิน 90 บาท ส่วนค่าสัมภาระขนาดเกิน 26 นิ้ว จะบริการฟรี 2 ชิ้นแรก ชิ้นที่ 3 เป็นต้นไปเก็บชิ้นละ 20 บาท

ทั้งนี้แท็กซี่ได้มายื่นข้อเรียกร้อง โดยขอให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ได้แก่

  1. การพิจารณาอัตราค่าโดยสาร ค่า Surcharge ค่าสัมภาระ เฉพาะรถแท็กซี่ที่ให้บริการ
  2. ขอให้ทบทวนการจำกัดอายุการใช้งานรถยนต์จาก 9 ปี เป็น 12 ปี ให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบันที่รถยนต์ราคาสูงขึ้น เพื่อเป็นการเยียวยาผู้ประกอบการ
  3. พิจารณาแก้ไขจดทะเบียนให้รถยนต์นั่งสาธารณะ 7 ที่นั่ง รถส่วนบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้วไม่เกิน 3 ปี สามารถจดทะเบียนเป็นรถ TAXI VIP ได้ตามที่ TDRI เสนอมา
  4. ขอให้ทบทวนการบังคับใช้ระบบ TAXI OK เนื่องจากอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีผู้โดยสารเรียกใช้บริการ และต้องเสียค่าใช้บริการรายเดือน เดือนละ 350 – 400 บาท เป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับคนขับรถแท็กซี่ โดยขอให้กลับไปใช้แบบสมัครใจ (รถแท็กซี่ส่วนบุคคลแบบสมัครใจ)

ศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาทบทวนกฎกระทรวง หาแนวทางแก้ไขปัญหาการจำกัดอายุการใช้งานรถยนต์ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการจดทะเบียนรถยนต์นั่งสาธารณะให้สามารถจดทะเบียนเป็นรถ TAXI VIP และปัญหาการบังคับใช้ระบบ TAXI OK ให้แล้วเสร็จ และส่งให้กระทรวงคมนาคมภายในวันที่ 29 .. 2562 ส่วนการแก้ไขปัญหาค่าโดยสารให้แล้วเสร็จเสนอกระทรวงคมนาคมภายในสัปดาห์หน้า

Source

]]>
1253005
อดีตผู้บริหารเอ็กซ์พิเดีย “ดารา คอสโรว์ชาฮี” นั่ง “ซีอีโอ” คนใหม่ อูเบอร์ https://positioningmag.com/1138076 Wed, 30 Aug 2017 09:44:56 +0000 http://positioningmag.com/?p=1138076 เอเอฟพี – อูเบอร์ประกาศในวันนี้ (30) ว่า บริษัทได้จ้าง ดารา คอสโรว์ชาฮี ผู้บริหารของเอ็กซ์พิเดีย (Expedia) เป็นประธานบริหารคนใหม่

คอสโรว์ชาฮีจะไปที่สำนักงานใหญ่ของอูเบอร์ในซานฟรานซิสโกเพื่อร่วมการประชุมใหญ่และพบปะกับพนักงานของบริษัทที่กำลังผจญกระแสวิพากษ์วิจารณ์แห่งนี้

“เรามีความยินดีที่จะประกาศว่า คณะกรรมการของอูเบอร์มีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้ง ดารา คอสโรว์ชาฮี เป็นซีอีโอคนใหม่ของเรา” คณะผู้บริหารอูเบอร์ กล่าวในอีเมลถึงลูกจ้างเมื่อค่ำวานนี้ (29)

คอสโรว์ชาฮีมีผลงานจากการทำให้เอ็กซ์พิเดียกลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการบริการการท่องเที่ยวทั่วโลก และได้รับการชื่นชมจากบรรดาพนักงานในระหว่างการเดินทางครั้งนี้

อูเบอร์กำลังคาดหวังว่า เขาจะนำพาบริษัทด้านบริการเรียกรถที่กำลังประสบปัญหาแห่งนี้ไปสู่ในเส้นทางที่รุ่งโรจน์ตลอดรอดฝั่ง

คอสโรว์ชาฮีรับตำแหน่งต่อจากผู้ร่วมก่อตั้งอูเบอร์ ทราวิส คานาลิก ซึ่งถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของบริษัทชั้นนำด้านบริการเรียกรถด้วยสมาร์ทโฟนแห่งนี้ 

คานาลิกเป็นพลังขับเคลื่อนเบื้องหลังอูเบอร์ ออกความคิดและทำให้อูเบอร์กลายเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพร่วมลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตาม บุคลิกหุนหันพลันแล่นและรูปแบบการบริหารแบบไม่รอบคอบของเขาซึ่งบางคนชี้ว่า ทำให้แนวโน้มที่เป็นปัญหาในบริษัทนี้ ทำให้เขาเป็นภาระมากพอๆ กับมีคุณค่าต่อบริษัทนี้ เขาลาออกจากตำแหน่งประธานบริหารในเดือนมิถุนายน

อูเบอร์เผยว่า เมื่ออายุ 9 ขวบ คอสโรว์ชาฮีและครอบครัวของเขาอพยพมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้าการปฏิวัติอิหร่านหนึ่งวัน

คอสโรว์ชาฮีมีชื่อเสียงในฐานะผู้บริหารระดับสูงมากประสบการณ์ เป็นคนปากตรงกับใจและสนับสนุนให้ผู้หญิงได้รับค่าจ้างที่เท่าเทียมและโอกาสในการเป็นผู้นำ

“เราโชคดีอย่างยิ่งที่ได้มีผู้นำที่มีประสบการณ์ พรสวรรค์ และมุมมองอย่างดารา” อูเบอร์ ระบุในข้อความถึงพนักงาน


ที่มา : manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000088943

]]>
1138076
โอ้พระเจ้า !!! โปรดส่งรถแท็กซี่มารับด้วยเถิด https://positioningmag.com/1136328 Wed, 16 Aug 2017 22:55:37 +0000 http://positioningmag.com/?p=1136328 เชื่อหรือไม่ว่า ปริมาณรถแท็กซี่ที่วิ่งรับผู้โดยสารในกรุงเทพฯ ประมาณ 2  แสนคัน ยังมีผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธทุกวัน วันละหลายร้อยราย และดูท่าทีว่าจะไม่มีทางลดน้อยลง หรือแก้ปัญหาได้

การถูกปฏิเสธจากผู้ขับแท็กซี่ กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์แท็กซี่กรุงเทพฯ ไปแล้ว

ความแปลกประหลาดของกลไกการให้บริการแท็กซี่ถูกท้าทาย และปรับเปลี่ยนมาตลอดในช่วงหลัง 4-5 ปีนี้ ด้วยการเข้ามาของรายใหญ่ที่นำรูปแบบจากต่างประเทศมาปรับใช้ในบ้านเรา ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ที่กลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนยุคนี้

แอปพลิเคชันในการเรียกรถแท็กซี่ ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งพูดถึง แต่แนวโน้มการใช้งานของคนไทยที่ตอบรับมากขึ้น จนอาจจะเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันของใครบางคนไปแล้วก็ได้

แต่การเติบโตแบบแพร่กระจายของแอปเรียกแท็กซี่ ถูกข้อกฎหมายและการกดดันจากผู้ประกอบการรถแท็กซี่เดิม เพื่อรักษาส่วนแบ่งของตัวเองให้คงอยู่ ทำให้เห็นภาพการเติบโตได้แค่ก้าวเล็ก ๆ ทำให้คนใช้บริการสับสนไม่น้อย   

ทาง 2 แพร่งของแอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่

ต้องยอมรับว่า แรงต่อต้านของกลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่เดิมยังรุนแรง และกดดันให้คนที่จะเข้าร่วมแท็กซี่ผ่านแอป หวาดหวั่นในเรื่องความปลอดภัยเช่นกัน

การคุกคามด้วยความรุนแรง รวมกับข้อกฎหมาย ทำลายโอกาสการเติบโตของแอปเรียกแท็กซี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทางออกแบบประนีประนอมจึงเกิดขึ้น เมื่อคนขับแท็กซี่เดิมต่อต้าน ก็ต้องดึงให้มาเข้าร่วม

โมเดลของ “แกร็บ แท็กซี่” จึงเป็นการทดสอบตลาด และลดแรงกดดัน

แกร็บ แท็กซี่ เป็นบริการเดียวเท่านั้นที่ร่วมมือกับแท็กซี่ทั่วไป แม้ว่าจะดูครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก็ตาม

แต่รูปแบบนี้ก็ทำให้ แรงเสียดทานลดน้อยลง จนทำให้ผู้ประกอบการอย่าง ไลน์ เข้ามาทำตลาดนี้  เพราะมองเห็นถึงการเติบโต และฐานข้อมูลผู้ใช้ที่ตัวเองมีอยู่ในมือ

“ไลน์ แท็กซี่” เป็นหนึ่งในผู้เล่นใหม่ที่สนใจเข้ามาช่วงชิงเค้กก้อนโตของตลาดนี้ มีการวางแผนเดินเกมแบบรอบด้าน รวมถึงการอุดจุดอ่อนด้านกฎหมาย ด้วยการผนึกกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นรถแท็กซี่จริงๆ ผ่าน “เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ เขตกรุงเทพมหานคร” ที่มีสมาชิกครอบคลุม 60% หรือราวๆ 60,000 คัน ของตลาดแท็กซี่ทั้งหมด

ไลน์ แท็กซี่ เป็นแอปพลิเคชันสำหรับเรียกรถแท็กซี่ ภายใต้ไลน์แมน ที่เปิดมาแล้ว 4 บริการ คือบริการสั่งซื้ออาหาร, เมสเซนเจอร์, สั่งของสะดวกซื้อ และส่งพัสดุ ซึ่งไลน์ แท็กซี่เป็นบริการที่พัฒนาในประเทศไทยโดยเฉพาะ และเป็นโปรเจกต์แรกของนักพัฒนาไทยกลุ่มแรกของไลน์ ประเทศไทย หลังจากที่ไลน์ได้เข้าซื้อกิจการ DGM59 เพื่อมาเป็นนักพัฒนาให้กับไลน์ เหตุผลที่อยู่ภายใต้ไลน์แมน เพราะไม่ต้องการแยกแอปออกมาต่างหาก ผู้บริโภคไม่ต้องโหลดแอปเพิ่ม 

ไลน์ใช้จุดแข็งที่มี “ฐานผู้ใช้” ในมือกว่า 33 ล้านราย แปรเปลี่ยนให้เป็นผู้ใช้บริการไลน์ แท็กซี่ในอนาคต โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนโปรโมตเพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ ถือว่าให้เป็นบริการ O2O (Online to Offline) อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร และผู้ขับรถแท็กซี่ เพราะจากผลสำรวจพบว่าคนขับแท็กซี่ 30% ที่รู้ว่ามีแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่ใช้แอปพลิเคชันเหล่านั้นจริงจัง เพราะไม่ค่อยสันทัดเรื่องเทคโนโลยี แต่ส่วนใหญ่รู้จักไลน์ ใช้ไลน์กันหมด เลยง่ายต่อการสร้างการรับรู้ และร่วมเป็นพาร์ตเนอร์

คนใช้ไลน์เป็น ก็สามารถใช้ไลน์แท็กซี่ได้ นั่นคือเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุด

โมเดลนี้ไม่ได้แตกต่างจากแอปอื่นๆ ในตลาดมาก ไลน์ แท็กซี่ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำแอปนี้ แต่ที่แตกต่างก็คือความเป็นไลน์ คนรู้จักไลน์ คนใช้ไลน์เยอะ คนขับไม่ได้รู้จักแอปเรียกรถแท็กซี่ทั้งหมด แต่รู้จักไลน์

อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ ไลน์ ประเทศไทย บอก

แผนงานกำหนดไว้ว่าจะเปิดให้บริการไลน์ แท็กซี่ได้ในช่วงปลายปี ช่วงนี้อยู่ระหว่างการจัดโครงสร้างราคาค่าบริการที่ชัดเจน ส่วนโครงสร้างการหารายได้คงไม่หนีไปจากผู้เล่นอื่นๆ ในตลาดอย่างแกร็บ และอูเบอร์ ที่เก็บค่าบริการเรียกรถเพิ่มเติมจากมิเตอร์ อาจจะ 20-25 บาท แล้วทำการแบ่งรายได้กับคนขับ ได้มีการตั้งเป้าคนขับแท็กซี่จากเครือข่ายสหกรณ์โหลดแอปใช้ราว 20,000 คนก่อน หลังจากนั้นค่อยกระตุ้นให้มีการใช้งานเพิ่มขึ้น

อูเบอร์ยอมถอย ดึงแท็กซี่เข้าร่วม

อูเบอร์ กลายเป็นเป้าหมายที่ถูกโจมตีมากที่สุด ทั้งในแง่กฎหมาย และผู้ประกอบการแท็กซี่ เป็นตำนานของการไล่ล่า และล่อซื้อ อย่างเมามัน เมื่อมาถึงจุดนี้ อูเบอร์กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อเปิดทางให้กับตัวเอง

อูเบอร์แก้เกมด้วยการส่งบริการใหม่คือ UberFLASH  ออกมาทดลองตลาดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเพิ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่เข้าไปในแอปพลิเคชันของตัวเอง รวมกับรถอื่นๆ และคิดราคาเท่ากับ UberX โดยคำนวณจากค่าโดยสารเริ่มต้น 10 บาท ค่าโดยสารที่คำนวณจากระยะทาง 4 บาท/กิโลเมตร และเวลา 3.5 บาท/นาที และค่าผ่านทางพิเศษ

ศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย Uber บอกว่า บริการนี้เปิดตัวแค่ที่ไทยที่เดียวเท่านั้น เป็นการพัฒนาเพื่อมาอุดช่องว่างเรื่องรถยนต์สาธารณะ จึงเปิดกว้างในรถแท็กซี่เข้ามาอยู่ในระบบด้วย และบริการนี้จะช่วยให้ได้รถเร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าได้รวมรถทุกประเภทไว้ในบริการนี้ จะแตกต่างจาก UberX ที่เน้นแค่รถเก๋ง และ UberBLACKที่เน้นรถลิมูซีน

อูเบอร์ คืออีกแอปพลิเคชันที่ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับตลาดประเทศไทย เพราะแรงต้านมีมากมาย แต่ด้านหนึ่งผู้บิโภคเองก็ให้การยอมรับมากขึ้น และไม่มองว่าอูเบอร์เข้ามาแย่งลูกค้าของแท็กซี่ปรกติ

ในเมื่อผู้บริการรายเดิมไม่สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ ก็ต้องหาผู้ให้บริการที่ดีกว่า

ถึงอูเบอร์จะลดแรงต้านด้วยการดึงแท็กซี่เข้าร่วม ก็ต้องดูในระยะต่อไปว่า การเรียกใช้บริการจะให้น้ำหนักไปด้านใด

แกร็บ ส่ง “แกร็บคาร์ พลัส” ขายความหรูหรา

หลังจากมีข่าวการเปิดตัวของไลน์ แท็กซี่ เพื่อนร่วมตลาดอย่างแกร็บ ก็ออกบริการใหม่ “แกร็บคาร์ พลัส” (GrabCar Plus) ใช้ความเป็นพรีเมียมเข้าสู้ เป็นบริการที่เพิ่มเติมจาก 3 บริการเดิมที่มีในไทย ได้แก่ แกร็บแท็กซี่, แกร็บคาร์ และแกร็บไบค์

บริการแกร็บคาร์ พลัสมีจุดเด่นที่ความพรีเมียม จับกลุ่มนักธุรกิจโดยเฉพาะ หรือผู้ที่ต้องการบริการอย่างเร่งด่วน มาพร้อมกับรถยนต์ในสภาพใหม่ไม่เกิน 5 ปี และผู้ขับมาจากการคัดเลือกในมาตรฐานระดับสูงระดับ 4.8 ดาวขึ้นไป (จากคะแนนเต็ม 5 ดาว) และผู้โดยสารได้รับสิทธิพิเศษในการจัดลำดับเพื่อให้ได้รถมารับได้อย่างรวดเร็วในชั่วโมงเร่งด่วน

ยี วี แตง ผู้อำนวยการ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า “เราสังเกตเห็นว่าผู้โดยสารโดยเฉพาะนักธุรกิจและคนทำงานมักไม่อยากรอรถนาน และต้องการได้รับความสะดวกสบายที่มากขึ้น การเปิดตัวบริการแกร็บคาร์ พลัสในครั้งนี้ช่วยตอบรับความต้องการของผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว”

บริการนี้สามารถเลือกชำระค่าโดยสารได้ทั้งเงินสดและผ่านบัตรเครดิตและเดบิต ผ่านระบบแกร็บเพย์ (GrabPay) พร้อมเก็บแต้มสะสมเพื่อแลกส่วนลดการเดินทางและสิทธิพิเศษผ่านโปรแกรมแกร็บรีวอร์ดส์ได้ด้วย

ออลไทยแท็กซี่ มุ่งหน้าต่างจังหวัด

ออลไทยแท็กซี่ เป็นหนึ่งผู้เล่นโลคอลในไทยที่สามารถสร้างกระแสการพัฒนาแท็กซี่ได้อย่างดี โดยมีโมเดลเรื่องรถหรู จดทะเบียนป้ายเหลือง มีแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ คนขับเป็นพนักงานประจำมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการรถ

รถโตโยต้า พรีอุส สีเหลือง กับแอปพิเคชันเรียกแท็กซี่ของไทย ออกมารับผู้โดยสารตั้งปี 2558  และถือว่าผู้โดยสารให้การยอมรับในระดับที่น่าพึงพอใจ

ระบบที่จ่ายเงินเดือนคนขับรถ บวกแรงจูงใจ และมีการอบรม ทุกอย่างสมบูรณ์ แทบจะเป็นแท็กซี่ในฝันของคนกรุงเทพฯ เลยทีเดียว แต่ด้วยการแข่งขันในกรุงเทพฯ ที่รุนแรงขึ้น ผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น

ออลไทยแท็กซี่เลือกที่จะออกไปหาตลาดใหม่ในต่างจังหวัด โดยเข้าร่วมโครงการกับทางภาครัฐ TAXI-OK และ TAXI VIP เพื่อต่อยอดธุรกิจนี้

สุเทพ บุญงอก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ออลไทยแท็กซี่ จำกัด บอกว่า “ออลไทยแท็กซี่ เสนอตัวเข้าร่วมโครงการ TAXIOK และ TAXI VIP ตามนโยบายของกรมการขนส่งทางบก เพราะมีความพร้อมทั้งเรื่องรถ ระบบบริหารจัดการ เครื่องมืออุปกรณ์ บุคลากร ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบขนส่งสาธารณะ

ขณะนี้ออลไทยแท็กซี่ ได้นำรถต้นแบบแท็กซี่วีไอพีมาวิ่งทดสอบให้บริการตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม โดยใช้รถ Toyota Camry ภายในดีไซน์เน้นความหรูหรา สะดวกสบาย มีบริการ น้ำดื่มฟรี, หนังสือพิมพ์, ผ้าเ ย็น, บริการฟรี WI-FI, ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ, จอทีวีให้ความบันเทิงในรถ ในราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์ปกติ เริ่มต้น 35 บาท

แต่สิ่งที่ออลแท็กซี่ไทยมองไกลกว่านั้น คือการออกสู่ต่างจังหวัด โดยจะให้บริการที่จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 7 คัน และที่ขอนแก่นเปิดให้บริการแล้วครบทั้ง 20 คัน

หลังจากนี้มีแผนเปิดให้บริการในจังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดอุดรธานี, จังหวัดระยอง, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดชลบุรี และจังหวัดเชียงราย ต่อไป โดยในระยะแรกตั้งเป้าให้บริการในจังหวัดที่เป็นเส้นทางเดินรถของนครชัยแอร์ กำหนดจำนวนรถ 20 คันต่อจังหวัด

เมื่อดูจำนวนรถที่ให้บริการในต่างจังหวัดแล้ว ไม่น่าจะมีผลกระทบกับผู้ประกอบการเดิมที่มีอยู่ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้โดยสารมากกว่า

Easy Taxi แอปพลิเคชันสไตล์บราซิล

Easy Taxi เป็นอีกหนึ่งรายที่เข้ามาทดลองตลาดในประเทศไทย รูปแบบใกล้เคียงกับแกร็บ แท็กซี่ และออลไทยแท็กซี่ คือไม่มีรถแท็กซี่เป็นของตัวเอง แต่ใช้เครือข่ายของแท็กซี่เดิมเพิ่มเติมด้วยการใช้แอปพลิเคชัน หาผู้โดยสารเหมือนการโทรเรียกแท็กซี่จากศูนย์ของแท็กซี่ทั่วไป

นิคกี้ สุรไพฑูรย์ Cofounder และ Business Development Easy Taxi Thailand บอกว่า

Easy Taxi เริ่มก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2011ที่บราซิล ขณะนี้เปิดบริการแล้วแล้ว 18 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ค่าบริการอยู่ที่ 20 บาทต่อครั้ง และจะถูกรวมเข้าไปกับค่าโดยสารตามมิเตอร์

เขาอธิบายความแตกต่างของ Easy Taxi ว่า การคัดเลือกคนขับแท็กซี่ในระบบด้วย DDA (Direct Driver Acquisition) หมายถึง การเข้าถึงคนขับแท็กซี่แบบตัวต่อตัว คนขับแท็กซี่ที่ใช้ Easy Taxi  ต้องมีความเข้าใจในการใช้แอปในระดับหนึ่ง และยังมีการติดตามคนขับแท็กซี่อย่างใกล้ชิด ให้ความสนิทสนมเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว หากคนขับคนไหนถูกร้องเรียนก็จะถูกปลดออกจากการร่วมโครงการ เช่นกันหากคนขับรถบริการดี ก็ได้รับการโหวตหรือให้กำลังใจ

Easy Taxi ยังดำเนินต่อไป แม้ว่าจะมีคนกล่าวถึงน้อยก็ตาม.

เบนซ์” เอาด้วย บริการรถแบ่งใช้ Mytaxi

ค่ายรถ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ไม่หลุดกระแส เตรียมเปิดให้บริการ รถแบ่งกันใช้ หรือ Carsharing ให้เช่ารถระยะสั้นวิ่งในเมือง พร้อมเปิดแอปลิเคชันบริการ Mytaxi ให้เลือกรถแท็กซี่ได้อย่างตรงใจ คาดแจ้งเกิดภายใน 2 ปี

ศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะนำระบบการใช้รถร่วมกัน (CarSharing) เข้ามาให้บริการในเมืองไทย ผ่านทางระบบ Car2go ซึ่งเป็นให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นๆ พร้อมกับแอปลิเคชัน Mytaxi ที่ใช้สำหรับการเรียกรถแท็กซี่

คาร์ทูโกนั้นเป็นการให้บริการเช่ารถยนต์ระยะสั้นในเขตเมือง ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ทาง เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (Daimler Financial Services) ให้บริการอยู่ในยุโรป โดยเป็นส่วนหนึ่งในหน่วยธุรกิจของ เดมเลอร์ เอจี ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในยุโรป ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ง่ายและคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายนาที

“ในหลายตลาดในยุโรปและอเมริกา การบริการด้านการเงินและการเดินทางแบบใหม่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใช้รถร่วมกัน (Carsharing) ในอนาคตประเทศไทยก็ต้องเดินไปในรูปแบบเดียวกัน เมื่อธุรกิจ Car2go ประสบความสำเร็จในยุโรปแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2-3 ปี เราจะดำเนินการในเมืองไทย”

นอกจากคาร์ทูโกแล้ว ยังมี มายแท็กซี่ ที่คาดว่าจะเริ่มนำมาเปิดให้บริการได้ก่อน โดยเป็นการให้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านมือถือ ใช้แล้วในยุโรป สามารถเลือกรถยี่ห้อและรุ่นได้, ทราบข้อมูลและหน้าตาของผู้ขับ, ประวัติการขับ รวมถึงความเห็นต่างๆ ของผู้ที่เคยนั่งมาแล้ว เน้นความปลอดภัยสูง

หลังจากนี้ไป การเรียกรถแท็กซี่อาจไม่ต้องพึ่งพาโชคอีกต่อไป แค่เลือกใช้แอปพิเคชันที่แก้ปัญหาให้กับผู้โดยสารได้มากที่สุด

]]>
1136328
ประเทศไทย ติด 1 ใน 10 ประเทศที่มีค่าแท็กซี่ถูกที่สุดในโลก !! https://positioningmag.com/1134444 Fri, 28 Jul 2017 11:20:38 +0000 http://positioningmag.com/?p=1134444 คาร์สปริง (Carspring ) เว็บไซต์ดีลเลอร์ผู้ให้บริการรถมือสองทางออนไลน์ ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ได้จัดอันดับค่าบริการรถแท็กซี่จำนวน 80 เมือง ที่มีผู้นิยมไปมากที่สุดในโลก ประจำปี 2017 พบว่าเมืองที่มีค่าแท็กซี่ถูกที่สุด ได้แก่ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมืองที่มีค่าแท็คซี่แพงที่สุด ได้แก่ ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนกรุงเทพฯ จัดอยู่ในอันดับที่ 7 ของเมืองที่มีค่าแท็คซี่ถูกที่สุดในโลก และอันดับที่ 3 ของเอเชีย

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดอันดับในครั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างดัชนีข้อมูลให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับค่าบริการของแท็คซี่ในแต่ละประเทศ ก่อนการเดินทางไปท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจในการจ่ายค่าบริการว่าจะไม่โดนหลอก หรือโดนเอาเปรียบจากผู้ให้บริการท้องถิ่น

โดยเกณฑ์ที่คาร์สปริงใช้ในการจัดอันดับในครั้งนี้ จะพิจารณาจาก ค่าบริการเรียกแท็กซี่เริ่มต้น, ค่าบริการต่อกิโลเมตร, ค่าบริการในการรอต่อ 1 ชั่วโมงค่าโดยสารจากสนามบินเข้าสู่กลางใจเมือง และค่าบริการในระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยมีผลการจัดอันดับดังนี้

10 เมืองที่มีค่าบริการแท็กซี่ถูกที่สุดในโลก โดยวัดจากการให้บริการในระยะทาง 3 กิโลเมตร (สำรวจโดยเว็บไซต์คาร์สปริง)

  1. ไคโร ประเทศอียิปต์ 0.55 ดอลลาร์ หรือประมาณ 18 บาท
  2. มุมไบ ประเทศอินเดีย 1.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 47 บาท
  3. บูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย 1.47 ดอลลาร์ หรือประมาณ 49 บาท
  4. จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย 1.47 ดอลลาร์ หรือประมาณ 49 บาท
  5. เม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก 1.53 ดอลลาร์ หรือประมาณ 51 บาท
  6. ตูนิส ประเทศตูนีเซีย 1.62 ดอลลาร์ หรือประมาณ 54 บาท
  7. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 1.64 ดอลลาร์ หรือประมาณ 55 บาท
  8. กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 1.89 ดอลลาร์ หรือประมาณ 63 บาท
  9. โซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย 1.94 ดอลลาร์ หรือประมาณ 65 บาท
  10. ฮานอย ประเทศเวียดนาม 2.09 ดอลลาร์ หรือประมาณ 70 บาท

10 เมืองที่มีค่าบริการแท็กซี่แพงที่สุดในโลก โดยวัดจากการให้บริการในระยะทางกิโลเมตร (สำรวจโดยเว็บไซต์คาร์สปริง)

  1. ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 25.25 ดอลลาร์ หรือประมาณ 858 บาท
  2. เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 17.53 ดอลลาร์ หรือประมาณ 590 บาท
  3. โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 15.95 ดอลลาร์ หรือประมาณ 536 บาท
  4. โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก 13.77 ดอลลาร์ หรือประมาณ 463 บาท
  5. เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ 12.81 ดอลลาร์ หรือประมาณ 431 บาท
  6. ลอนดอน ประเทศอังกฤษ 12.35 ดอลลาร์ หรือประมาณ 415 บาท
  7. อันท์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม 11.63 ดอลลาร์ หรือประมาณ 391 บาท
  8. มิวนิก ประเทศเยอรมนี 11.34 ดอลลาร์ หรือประมาณ 382 บาท
  9. ฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี 11.28 ดอลลาร์ หรือประมาณ 379 บาท
  10. สตุตการ์ต ประเทศเยอรมนี 11.26 ดอลลาร์ หรือประมาณ 368 บาท

5 เมืองในเอเชียที่มีค่าบริการแท็กซี่ถูกที่สุด โดยวัดจากการให้บริการในระยะทาง 3 กิโลเมตร (สำรวจโดยเว็บไซต์คาร์สปริง)

  1. มุมไบ ประเทศอินเดีย 1.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 47 บาท
  2. จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย 1.47 ดอลลาร์ หรือประมาณ 49 บาท
  3. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 1.64 ดอลลาร์ ประมาณ 55 บาท
  4. กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 1.89 ดอลลาร์ หรือประมาณ 63 บาท
  5. ฮานอย ประเทศเวียดนาม 2.09 ดอลลาร์ หรือประมาณ 70 บาท

ทั้งนี้ผลการสำรวจดังกล่าวยังพบว่า เมืองที่มีค่าบริการแท็กซี่จากสนามบินเข้าสู่ใจกลางเมืองแพงที่สุดในโลกคือ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 189.91 ดอลลาร์ หรือราว 6,456 บาท ขณะที่ค่าบริการแท็กซี่เริ่มต้นที่แพงที่สุดคือเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มต้นที่ 8.30 ดอลลาร์ หรือประมาณ 276 บาท โดยจากผลการสำรวจยังพบว่าในจำนวน 80 เมืองนี้ ที่สำรวจนี้ มี UBER ให้บริการถึง 63 เมือง


ที่มา : https://www.carspring.co.uk/taxi-price- index-eur/

]]>
1134444
“ออลไทยแท็กซี่” ปั้นบริการใหม่ ป้อนลูกค้าเฉพาะกลุ่ม https://positioningmag.com/1094074 Wed, 08 Jun 2016 08:52:47 +0000 http://positioningmag.com/?p=1094074 หลังจากที่เปิดให้บริการมาครบ 1 ปีเป็นที่เรียบร้อย สำหรับออลไทยแท็กซี่บริการแท็กซี่จากนครชัยแอร์ เปิดให้บริการครั้งแรกวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 ที่แรกเริ่มเดิมที่ได้หมายมั่นปั้นมือเป็นโมเดลการเรียกแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น แต่ด้วยจำนวนรถที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้คนส่วนมากใช้บริการด้วยการโบกรถปกติทั่วไป

ในตอนนั้นออลไทยแท็กซี่ได้ตั้งเป้าหมายในเฟสแรกคือมีรถแท็กซี่ 500 คัน ในปัจจุบันมีรถจำนวน 549 คันแล้วเมื่อต้นเดือนมิถุนายน และคาดง่าจะสร้างรายได้ 400 ล้านบาทภายใน 1 ปี หรือถึงมิถุนายนปี 2560

1_taxi

เป้าหมายต่อไปก็คือการมีรถให้ได้ถึง 1,000 คัน พร้อมกับรายได้ 1,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยคันละ 1 ล้านบาท และทยอยเพิ่มรถให้ถึง 2,500 คันภายในปี 2561

ความท้าทายของออลไทยแท็กซี่ในปีนี้นอกจากจะเป็นเรื่องการเพิ่มจำนวนรถให้เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ซึ่เป็นโจทย์พื้นฐานที่ต้องเพิ่มอยู่แล้ว แต่โจทย์ใหม่ที่เข้ามาก็คือการแตกไลน์บริการเพิ่มเพื่อเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มลงไป ภายในไตรมาสที่ 1 จะได้เห็นทั้ง 3 บริการออกมา

2_taxi

3 บริการที่ว่าได้แก่ All Thai Care เป็นบริการที่เหมารายชั่วโมงในการรับส่งบุตรหลานไปโรงเรียน หรือรับส่งผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล พร้อมทั้งดูแลตลอดทั้งวัน, All Thai Limousine บริการรถลีมูซีนเจาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวตามสนามบิน และโรงแรม และ All Thai Charter บริการเช่าเหมาไปเที่ยวในจังหวัดใกล้ๆ อย่างชลบุรี หรืออยุธยา เป็นต้น

เนรมิต สร้างเอี่ยม กรรมการบริหาร บริษัท ออลไทยแท็กซี่ จำกัด กล่าวว่าเราเปิดบริการมา 1 ปีแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ แท็กซี่เราก็ต้องเพิ่มจำนวนรถให้เพียงพอต่อความต้องการตลาด เมื่อเทียบกับจำนวนแท็กซี่ทั่วไปในตลาดที่มีกว่า 1 แสนคัน เราโจทย์ต่อไปของเราก็ต้องแตกบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เป็นเสียงสะท้อนจากลูกค้าเองด้วย เพราะปัจจุบันคนมีเวลาว่างน้อยลงทำให้อาจจะมมีเวลาไปรับส่งลูกหลาน หรือพาพ่อแม่ไปโรงพยาบาล เราก็เอาบริการนี้มาตอบโจทย์เขา

สำหรับการแข่งขันในตลาดการเรียกแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นที่ตอนนี้ค่อนข้างแข่งขันกันดุเดือด เนรมิตให้ความเห็นว่าจริงๆ ไม่ได้มองว่าเป็นการแข่งขันเท่าไหร่ เหมือนเป็นการช่วยแก้ปัญหาสังคมมากกว่า แต่มองว่าในประเทศไทยตอนนี้กฎหมายยังไม่ค่อยรองรับกับเทคโนโลยีเท่าไหร่นัก ถ้าปรับให้เข้ากันคงจะดีขึ้น เพิ่มโอกาสมากขึ้นทั้งผู้ประกอบการ ละผู้บริโภค

3_taxi

ซึ่งเนรมิตเสริมว่าจุดแข็งของออลไทยแท็กซี่ที่แตกต่างจากบริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็คือ เป็นกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ ไม่ใช่แค่ขายแต่แอพพลิเคชั่นอย่างเดียว แต่มีตั้งแต่รถ บุคลากร และระบบต่างๆ แตกต่างจากรายอื่นที่มีแต่บริการแอพพลิเคชั่น

ปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้บริการผ่านการโบกรถ 70% และเรียกผ่านแอพพลเคชั่น 30% ทั้งนี้เพราะมีจำนวนรถไม่เพียงพอในตลาด แต่เป้าหมายก็คือต้องผลักดันให้มีการเรียกผ่านแอพพลิเคชั่นเพิ่มเป็น 70% อาจจะต้องมีการปรับปรุงหน้าตาแอพพลิเคชั่นให้ใช้งานง่าย

ในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มช่องทางชำระเงินผ่านบัตรเครดิต และบัตรเดบิต และในปี 2-3 ปี มีแผนที่จะขยายไปยังหัวเมืองสำคัญต่างๆ และเมืองท่องเที่ยว อย่างเชียงใหม่ และภูเก็ต

4_taxi

plan_taxi

allthaitaxi

]]>
1094074