ThaiBev – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 26 Jun 2023 05:13:15 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 SX Talk Series # 4 ชวนฟัง….เสวนา “กลมกลืนอย่างสร้างสรรค์ สร้างโอกาส สู่สังคมยั่งยืน” https://positioningmag.com/1435370 Tue, 27 Jun 2023 04:00:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1435370

วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ขอเชิญร่วมสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน กับการถ่ายทอดเรื่องราว การขับเคลื่อนความเท่าเทียมจากกลุ่มคนผู้มีศักยภาพ และแนวคิดที่ปลุกระดมสร้างสังคมยั่งยืน กับ “SX Talk Series # 4 Inclusion for Sustainable Society กลมกลืนอย่างสร้างสรรค์ สร้างโอกาส สู่สังคมยั่งยืน พบกับ 3 วิทยากรพิเศษ นพ.พูลชัย จิตอนันตวิทยา CEO วิสาหกิจสุขภาพชุมชน :SHE Vice Chairman SE Thailand Association “ช่วยสตรีที่เคยก้าวพลาดให้ยืนได้มั่นคงต้องให้ Innovation Soft Power ที่ทรงค่าเป็น Service ที่ตอบ UN SDGs หลายข้อ ต้นทุนต่ำ ใช้ประจำ ทำได้ทุกที่ มี Signature“ คุณเมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ CEO – Vulcan Coalition Co.,Ltd. “แสงสว่างในความมืด ความหวัง รอยยิ้มของคนที่ถูกสังคมลืม การผนวกรวมของสังคมเพื่อความเท่าเทียม” และ คุณท๊อฟฟี่-โสภณ ทับกลอง นักแสดง นักเต้น นักศิลปะ และพิธีกรรายการทีวี “ความสำเร็จคือโอกาสที่คุณจะฝึกฝนและทำมันต่อเนื่องอยู่เสมอไม่มีหรอกความมืดมีแต่แสงสว่างที่เป็นสีดำมากกว่า”

ร่วมฟังเสวนาตั้งแต่เวลา 16.30-18.00 น. (ชมบูธโชว์ของ เวลา 13.30 เป็นต้นไป) ที่ C asean SAMYAN CO-OP ชั้น 2 สามย่านมิตรทาวน์ สมัครฟรี !! https://docs.google.com/…/1YBYPAXC4QEslGn1f…/viewform นอกจากนี้ยังร่วมลุ้นรางวัล Starbucks Card มูลค่ารวม 2,000 บาทอีกด้วย

#SXTalkSeries #SX2023 #SustainabilityExpo

#Inclusivesociety #Kbank #sustainabilityexpo2023

#sustainablesociety Managed by #Casean

]]>
1435370
กระแสตอบรับดี บูธ ThaiBev คึกคัก ส่งท้าย THAIFEX-Anuga Asia 2023 จัดเต็มขบวนสินค้าครบวงจร ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกช่วงวัย ตอกย้ำนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน https://positioningmag.com/1433115 Wed, 07 Jun 2023 03:53:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433115

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำศักยภาพความเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023  ซึ่งจัดขึ้นโดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เพื่อร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทยไปสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเจรจาการค้าระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้ซื้อจากทั่วทุกมุมโลก และได้รับเกียรติจาก คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เยี่ยมชมบูธไทยเบฟ โดยมี คุณประวิช สุขุม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสายกิจการองค์กร (ประเทศไทย) คุณวิรัช เมฆสัมพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพิเศษ สำนักกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และคณะผู้บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ

ในงานปีนี้ ไทยเบฟ ยังคงตอกย้ำศักยภาพความเป็น ASEAN Leader ผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนไปสู่สายตานานาประเทศ ภายใต้แนวคิด ENABLING SUSTAINABLE GROWTH ผ่านมุมมอง PRODUCT INNOVATION and SUSTAINABILITY นับเป็นการเพิ่มโอกาสการเจรจาทางธุรกิจ และการขยายตลาดให้กับสินค้า นวัตกรรม และช่องทางการให้บริการทั้งในรูปแบบออฟไลน์-ออนไลน์ ทั้งนี้ ไทยเบฟ ไม่เพียงแต่จะสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกช่วงวัยแล้ว ยังดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตควบคู่กับความเอาใจใส่ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย Net Zero 2040 แบบครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่ต้นน้ำคือกระบวนการผลิต จนถึงปลายน้ำคือการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค โดยล่าสุดจับมือกับบริษัทชั้นนำพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซุปปลาทูน่าสกัด (ZEA Tuna Essence) นวัตกรรมเครื่องดื่มเสริมอาหารที่มีคุณประโยชน์ทางโภชนาการ ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีนาโนฟิลเทรชั่น (Nanofiltration) เพื่อยังคงไว้ซึ่งคุณค่าในผลิตภัณฑ์ โดยผ่านการวิจัยค้นคว้าและได้รับการรับรองจากศูนย์วิจัยนวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หันมาเอาใจใส่ต่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน

ส่งท้ายงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023  ในวันจำหน่ายสินค้าปลีก ไทยเบฟ ยังคงได้รับความสนใจจากนักธุรกิจ คู่ค้า และประชาชนทั่วไป ที่แวะไปสัมผัสประสบการณ์ที่บูธไทยเบฟกันอย่างคึกคัก จัดหนักจัดเต็มเช่นเคยกับสินค้าประเภทเครื่องดื่มและอาหารมากมายหลากหลายแบรนด์ทั้งในกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ และกลุ่ม F&N Dairies (Thailand) Ltd. ที่นำมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ โดยผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มที่ได้รับกระแสตอบรับดี ได้แก่ น้ำอัดลม เอส โค่ลา (est Cola) โฉมใหม่  ชาเขียวโออิชิ (Oishi Green Tea) น้ำดื่มคริสตัล (Crystal) เครื่องดื่มชูกำลัง แรงเจอร์ (Ranger) และ นวัตกรรมเครื่องดื่มเสริมอาหาร ยี่ห้อ ZEA Tuna Essence ขณะที่ ซอสน้ำจิ้มสำเร็จรูป และ โออิชิเกี๊ยวซ่า ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานที่ได้รับการตอบรับอย่างเนืองแน่นเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ไทยเบฟ ยังได้จัดให้มีกิจกรรมสนุกลุ้นรับของที่ระลึกมากมายจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น ลุ้นรับแก้ว Stanley สุดคูลล์ กับ Chang Cold Brew Cool Club เพื่อแทนคำขอบคุณทุกการตอบรับจากผู้ที่สนใจ และแวะเข้าไปเยี่ยมชมและทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณทุกช่วงเวลา พบกันใหม่ปีหน้า

]]>
1433115
SX Talk Series #1 จับมือ Win Win WAR Thailand จัดเสวนาพิเศษกับ 3 กูรู ด้าน SE เปลี่ยนไอเดียธุรกิจในฝันให้เกิดขึ้นจริง https://positioningmag.com/1426692 Fri, 07 Apr 2023 04:00:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1426692

SX ร่วมกับ รายการ Win Win WAR Thailand จัดเสวนาพิเศษ SX Talk Series “Exploring the Impact of Social Enterprises: From Local to Global” เวทีเสวนาที่เป็นมากกว่าการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ แต่สนับสนุนการลงมือทำเพื่อสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง ประเดิมหัวข้อการเสวนาแรกด้วยการเปลี่ยนไอเดียในฝันให้เป็นธุรกิจเพื่อสังคม เรียนรู้เทคนิคการทำธุรกิจที่ได้กำไร และสร้างอิมแพคต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กับ 3 กูรู ด้านธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ได้แก่ คุณพีรดา ปฏิทัศน์ ประธานแนวร่วมปฏิวัติขยะสุพรรณบุรี คุณภาณุพงศ์ ธนารักษ์วุฒิกร กรรมการผู้จัดการ ATTRA GROUP – software, hardware IoT house และ คุณทลปภร ปัญโยรินทร์ General Manager SE Thailand ณ C asean Samyarn CO-OP ชั้น 2 สามย่านมิตรทาวน์

คุณพีรดา ปฏิทัศน์ ประธานแนวร่วมปฏิวัติขยะสุพรรณบุรี เล่าว่า เดิมตนเองทำงานในด้านไอทีและไม่ได้เรียนจบมาในด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรง แต่วันหนึ่งได้มองเห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องขยะ จึงจุดประกายให้ตนเองอยากเข้าไปแก้ไขปัญหานี้ “จากปัญหาขยะล้นโลก จึงเกิดความคิดนำเศษขยะพลาสติกที่ย่อยสลายไม่ได้และไม่ได้แยกขยะอย่างเหมาะสม มาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูปให้กลายเป็นน้ำมันเบนซินและดีเซลตอนแรกเราไม่ได้คิดว่าจะทำเป็นธุรกิจในรูปแบบของ Social Enterprise (SE) เพียงมีความตั้งใจที่อยากเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงไม่ได้วางแผน Business Model ให้ชัดเจน ทำให้เมื่อโครงการเดินหน้าไปสักพักก็ต้องพบปัญหาเรื่องเงินทุนจึงเกิดความคิดอยากเลิกทำ แต่กลับมีคนที่เชื่อมั่นและเชื่อใจเราว่าการจัดการปัญหาขยะจะสร้างอิมแพคให้กับสังคมได้ เราสามารถระดมเงินจำนวน 1.6 ล้านบาทได้ภายใน 3 วัน แรงสนับสนุนที่เกิดขึ้นจึงเป็นแรงผลักดันให้เราคิดหาทางออกเพื่อฝ่าฟันไปให้ได้และอยากเดินหน้าต่อ และกลับมาคิดว่าเราจะเปลี่ยนแผนงานอย่างไรเพื่อให้เกิดวงจรรายได้ในธุรกิจ เพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคมและตัวเราด้วย จึงเป็นที่มาของการทำธุรกิจในรูปแบบของ SE”

คุณพีรดา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในการทำธุรกิจย่อมเจอปัญหามากมายโดยเฉพาะการทำธุรกิจเพื่อสังคม ความพร้อมและความตั้งใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้เรามีแรงเดินหน้าต่อ ไม่ย่อท้อไปก่อนเมื่อเจออุปสรรค การจะนำพาธุรกิจจาก Local ไปสู่ Global ส่วนตัวพี่ก็มองว่าไม่ใช่เรื่องยากเพราะสิ่งที่เป็นปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดแค่ในประเทศเราเท่านั้น แต่เราต้องสร้างโปรไฟล์ธุรกิจให้ดี ถ้ามีโอกาสก็ลองไปตามเวทีประกวดต่าง ๆ เพื่อหาประสบการณ์ ยกระดับธุรกิจเราขึ้นไปขั้น เชื่อว่าถ้าเราคิดและมีความมุ่งมั่นที่จะทำ มีใจที่หนักแน่น เราจะก้าวผ่านอุปสรรคและประสบความสำเร็จค่ะ”

ด้าน คุณภาณุพงศ์ ธนารักษ์วุฒิกร กรรมการผู้จัดการ ATTRA GROUP ได้แบ่งปันความรู้ในฐานะสตาร์ทอัพว่า “ในฐานะคนทำธุรกิจที่ต้องการทรานส์ฟอร์มตัวเองเป็น Social enterprise เพื่อสร้างอิมแพคในสังคมนั้น สำหรับบริษัท ATTRA เริ่มแรกเราเป็นบริษัทด้าน Creative Innovation Company ที่คิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าทั้งด้าน Software , Hardware และ IoT ในมุมของการเป็น SE ผมมองว่าเรามีความพร้อมที่จะทรานส์ฟอร์มตัวเองให้กลายเป็น Holding Company เพื่อสร้างสรรค์สินค้าและบริการต่าง ๆ เพื่อสร้างอิมแพคให้สังคม ส่วนตัวผมเริ่มจากการเป็นเด็กสายประกวดตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยสมัครเข้าร่วมการแข่งขันเวทีต่าง ๆ มากมาย ทั้งเวทีสตาร์ทอัพ เวที SME และเวทีนวัตกรรม ผมเริ่มทำธุรกิจตอนอายุ 17 และเริ่มตั้งบริษัทนี้ตอนอายุ 20 ซึ่งเงินทุนก็มาจากการแข่งขันในเวทีต่าง ๆ แล้วได้รางวัล ผมจึงมองว่าการประกวด การทำกิจกรรมที่ผ่านมาทำให้ผมได้รับโอกาสมากมายในชีวิตที่สามารถนำมาต่อยอดทำธุรกิจในวันนี้ได้

“สำหรับคนที่กำลังจะลงมือทำธุรกิจให้คิดไว้ก่อนเลยว่าเราคือนักแก้ปัญหา อย่าง SE ก็เป็นธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานของปัญหาเวลาเจออุปสรรคมันจะพิสูจน์ว่าตัวตนของเราคือนักแก้ไขปัญหาได้ระดับไหน ความรู้ความสามารถเป็นสิ่งสำคัญแต่ผมเชื่อว่าเราสามารถเรียนรู้ในระหว่างทางที่เดินไปได้ ซึ่งผมเชื่อในเส้นทางที่ผมเลือกและยอมทุ่มเทไปกับสิ่งนั้นครับ” คุณภาณุพงศ์ กล่าว

ปิดท้ายด้วย คุณทลปภร ปัญโยรินทร์ General Manager SE Thailand ได้บอกเล่าถึงเคล็ดลับในการเริ่มต้นทำธุรกิจเพื่อสังคมว่า “กระดูกสันหลังของธุรกิจเพื่อสังคมจริง ๆ มี 4 ข้อ ได้แก่ 1. มีความชัดเจนว่าต้องการแก้ไขปัญหาสังคมเรื่องใด 2. มีการวางแผน Business Model 3. มีสินค้าและบริการที่จะทำให้องค์กรมีรายได้เข้ามาอย่างยั่งยืนเพื่อนำรายได้นั้นไปแก้ปัญหาและสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม และ 4. สามารถวัดผลทางสังคมได้ว่าธุรกิจ SE นั้นสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไร มีการพัฒนาที่ดีขึ้นหรือไม่ และดีที่สุดควรจัดตั้งองค์กรในรูปแบบนิติบุคคลเพื่อการจัดการที่โปร่งใสเป็นระบบ”

คุณทลปภร กล่าวต่อว่า “ในฐานะของ SE Thailand ที่เป็นเพื่อนคู่คิดของกลุ่ม SE ในประเทศไทย อุปสรรคที่คนทำธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยมักพบเจอมี 2 เรื่อง ได้แก่ 1. เน้นสร้างผลลัพธ์ทางสังคม แต่ Business Model ไม่แข็งแรง 2. Business Model แข็งแรง แต่ไม่ได้เป็นธุรกิจ SE ที่แท้จริง ขอให้ทุกคนจำไว้เสมอว่า SE มี 2 ด้าน คือ เราต้องสร้างอิมแพคทางสังคมและธุรกิจอยู่รอด อย่าเน้นด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียวแต่ต้องเดินไปคู่กัน ซึ่ง SE Thailand พร้อมจะเป็นเพื่อนคู่คิดของ SE ทุกคน เรายินดีสนับสนุนธุรกิจการเติบโตของธุรกิจ SE ทั้งในระดับประเทศและระดับ Global วันนี้ขึ้นอยู่กับทุกคนว่าทำให้ SE สร้างประโยชน์เพื่อสังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศของเราอย่างไร เมื่อเราสามารถสร้างธุรกิจของเราได้ดีแล้ว มีการสื่อสารที่ชัดเจนว่าสินค้าหรือบริการของเราจะช่วยแก้ปัญหาสังคมเรื่องใด คนที่อยากร่วมลงทุนหรือสนับสนุนเรา ก็จะเดินเข้ามาหาเราเอง”

สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ SX ได้ทาง www.sustainabilityexpo.com และ Facebook : Sustainability Expo

]]>
1426692
ไทยเบฟ สานต่อโครงการ “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” ครั้งที่ 8 บอกเล่าเรื่องราวของชุมชน สืบสานการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต่อยอดวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย https://positioningmag.com/1408263 Thu, 17 Nov 2022 04:00:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1408263

ยังคงสานต่อโครงการดีๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับ “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” โครงการที่เสริมสร้างทักษะความรู้เรื่องชุมชนให้กับเยาวชน และฝึกฝนการเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมเป็นผู้สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไปสู่สากล พร้อมทั้งเผยแพร่เรื่องราว บอกเล่าประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตของชุมชนให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวงาน “Bangkok River Festival 2022สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ครั้งที่ 8 ภายใต้แนวคิด “รักษ์ ณ สายน้ำ” ที่มีกำหนดจัดเมื่อวันที่ 5-8 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา

บรรยากาศงานนี้ได้รับความสนใจจากประชาชน เยาวชนเจ้าบ้านสืบสานวัฒนธรรมที่ให้การตอบรับเข้าร่วมมีจำนวนกว่า 40  ชีวิต โดยกิจกรรมอบรมเริ่มจากการที่น้องๆเยาวชนได้มีการฝึกเรื่องความกล้าแสดงออก โดยถ่ายทอดเรื่องราวของชุมชนตนเองให้กับนักท่องเที่ยว จากนั้นร่วมกิจกรรมวิธีดูแลคัดแยกขยะ ปิดท้ายการแบ่งกลุ่มทบทวนข้อมูลสำคัญของจุดสำคัญต่างๆ ที่เป็นเส้นทางท่องเที่ยวของวัด สำหรับบรรยากาศตลอดกิจกรรมเป็นไปอย่างคึกคัก และสนุกสนาน น้อง ๆ ทุกคนมีความตั้งใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

น้องกันต์-ด.ช.นภัทร แก้วศรี อายุ 11 ปี เผยความรู้สึกที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เข้าร่วมกิจกรรมเป็นปีแรกครับ เพื่อนของคุณแม่ที่รู้จักกันชวนให้มาร่วมกิจกรรมและรู้จักโครงการนี้เป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นครับเพราะได้เจอเพื่อนๆ ด้วย งานนี้ได้รับความรู้วิธีการคัดแยกขยะที่ถูกวิธี และรู้เรื่องของประวัติศาสตร์ของวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารมากมายเลยครับ ครั้งหน้าผมมาอีกแน่นอนครับ”

น้องเลิฟด.ญ.สุภาวดี แสงอ่อน น้องเลิฟ อายุ 14 ปี เสริมว่า “หนูเข้าร่วมโครงการนี้ตั้งแต่รุ่นที่ 1 ค่ะ ส่วนตัวชอบกิจกรรมนี้มากค่ะเพราะเป็นการช่วยฝึกให้ตัวเองมีความกล้าแสดงออกและได้มีเพื่อนเพิ่มขึ้น และทุกครั้งที่มาก็จะได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งวันนี้ได้ความรู้เรื่องวิธีคัดแยกขยะที่ถูกวิธี หนูจะนำความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปบอกต่อคนในครอบครัว และเพื่อนๆ ขอบคุณไทยเบฟมากๆค่ะที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ และหนูขอให้จัดกิจกรรมนี้ต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ ”

นายสุรพล เศวตเศรนี  ประธานการจัดงาน Bangkok River Festival 2022 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย “กิจกรรมในวันนี้เป็นการอบรมให้น้องเยาวชนเจ้าบ้านสืบสานวัฒนธรรม ซึ่งเป็นกิจกรรรมสำคัญของงาน Bangkok River Festival 2022 เป็นการทำงานร่วมกับชุมชน วัด บ้าน โรงเรียน โดยน้องๆ เยาวชนเหล่านี้จะมาทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานเปรียบเสมือนทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์น้อย คอยบอกเล่าเรื่องของสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงวิถีชีวิต อาชีพของคนในชุมชน ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว เราทำกิจกรรมนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8  น้องๆ เยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นตัวแทนของชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ที่เราจัดงาน โดยงานนี้แต่ละคนได้มาฝึกทักษะด้านการสื่อสาร การนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่เกี่ยวกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชุมชนต่างๆ และจะเป็นตัวแทนในการอนุรักษ์ สืบสานผ่านเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์และมีคุณค่าได้อย่างยั่งยืนต่อไป” 

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีความรัก ความหวงแหนวัฒนธรรรมวิถีชีวิตแบบไทย ที่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ได้เผยแพร่เรื่องราวดี ๆ  ของชุมชนตนเองจนก่อให้เกิดการท่องเที่ยวโดยชุมชน และความยั่งยืน

]]>
1408263
ผู้นำ 5 องค์กรธุรกิจชั้นนำเปิดมุมมองทางรอดสู่ความยั่งยืนผ่านธุรกิจ บนเวที SX2022 https://positioningmag.com/1402886 Tue, 04 Oct 2022 04:00:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1402886

ในขณะที่โลกของเรากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมในสังคม ภาคธุรกิจไม่เพียงมีความรับผิดชอบต่อสังคมเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนอนาคตเพื่อความยั่งยืนของทุกคนบนโลกนี้ด้วย

นอกจากผนึกกำลังกันจัดงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน Sustainability Expo 2022 แล้ว ซีอีโอจากทั้ง 5ของบริษัทชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้มารวมตัวกันบนเวทีเสวนาในหัวข้อ Leading Sustainable Business เพื่อเปิดกลยุทธ์องค์กรด้านความยั่งยืน พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความท้าทาย และเส้นทางเพื่อความอยู่รอดของโลกทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ ซีพี กล่าวว่า “การที่องค์กรจะดำเนินกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนได้ ต้องเริ่มจากผู้นำองค์กรไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ที่จะต้องตระหนักรู้ว่า ขณะนี้ทุกคนกำลังเผชิญกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนจริง ๆ และเป็นปัญหาของโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นในอัตราเร่ง เพราะการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ นำไปสู่การบริโภคที่ดึงทรัพยากรของโลกและก่อให้เกิดมลภาวะ เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือปัญหาขยะจำนวนมหาศาล

“ทุกวันนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนมีการพัฒนาเศรษฐกิจกันอย่างเต็มที่ และถูกขับเคลื่อนออกมาในเชิงบริโภคนิยม โดยไม่ตระหนักว่าของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต และทำลายทรัพยากรจากการบริโภคนั้นสร้างผลกระทบในวงกว้างขนาดไหน ฉะนั้นถ้าหากทุกคนมีแต่เป้าหมายในชีวิตของตัวเอง มีแต่เป้าหมายขององค์กร แต่ไม่เคยตั้งเป้าหมายความรับผิดชอบต่อความยั่งยืนของโลกและต่อตัวเราเอง โลกก็จะไม่ยั่งยืน องค์กรจึงควรมีการตั้งเป้าหมายและตัวชี้วัดการดำเนินงานด้านความยั่งยืน สร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร พนักงาน รวมไปถึงคู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทาน มีการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนขององค์กร มีการส่งเสริม ให้การยอมรับ และมอบผลตอบแทนแก่พนักงานรวมทั้งครอบครัวของพนักงานทุกคนที่ทำงานเพื่อความยั่งยืนอย่างจริงจัง รวมถึงการให้ทุนสนับสนุนการดำเนินโครงการที่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวก สร้างนวัตกรรม และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร

“ซีพี ตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 10 ปีบริษัทจะผงาดอยู่ใน 20 อันดับแรกของโลกในด้านธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็น 1 ใน 10 ของโลกด้านความยั่งยืนด้วย เพราะผมเชื่อมั่นว่าบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยการมีวัตถุประสงค์ที่ดีต่อส่วนรวมจะเป็นองค์กรที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง”

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในอดีต ตนเองเคยคิดเพียงว่าจัดการปัญหาภายในองค์กรได้ก็ถือว่าทำสำเร็จแล้ว แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่องค์กรไม่แสวงหากำไรและคู่ค้าธุรกิจอยากเห็น คือบริษัทมีการดูแลปัญหาไปจนถึงซับพลายเชน ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ดังนั้นไทยยูเนี่ยนต้องทำงานใกล้ชิดกับทั้งฝ่ายรัฐบาล คู้ค้าที่ขายวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นเรือประมงทั้งหลาย เกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งในฟาร์ม รวมไปถึงการจัดหาจัดจ้างแรงงานโดยตรงจากต่างประเทศด้วยไม่เพียงแต่แรงงานภายในองค์กรเท่านั้น ไทยยูเนี่ยนยังมีจรรยาบรรณทางธุรกิจที่กำหนดให้คู่ค้าทุกรายในระบบต้องปฏิบัติต่อแรงงานทุกคนอย่างถูกต้องตามหลักมนุษยธรรม มีมาตรการในการจัดซื้อวัตถุดิบที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Sourcing) โดยมีการตรวจสอบการจัดการเรือประมงทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงการบริหารจัดการฟาร์มที่เป็นคู่ค้าของบริษัทด้วย

นายธีรพงศ์ กล่าวว่า สำหรับธุรกิจของไทยยูเนี่ยน การดำเนินการด้านความยั่งยืนถือเป็นใบอนุญาตในการทำงาน เพราะเป็นความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้าทุกส่วน ที่ต้องการเห็นการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเกิดขึ้นอย่างจริงจัง ทุกวันนี้คู่ค้าธุรกิจต้องการค้าขายกับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ฉะนั้นบริษัทที่ไม่ใส่ใจด้านนี้ ก็จะไม่สามารถทำธุรกิจได้”

“สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโดยเฉพาะในประเทศไทย ผมอยากให้มองว่าเรื่องความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว การทำเรื่องนี้ไม่ใช่ทำเพื่อความอยู่รอดของโลกเท่านั้น แต่เป็นความอยู่รอดของตัวเราเองและของธุรกิจเราด้วย ผมเชื่อว่าการทำเรื่องความยั่งยืนจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และจะนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้ในอนาคต”

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “การดำเนินการเรื่องความยั่งยืนโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่มีความไม่แน่นอนสูง เพราะสภาวะการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก และต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน การดำเนินธุรกิจเพื่อลดโลกร้อนจึงควรเริ่มที่คำถามว่า “ทำไม” และสร้างแนวทางที่ส่งผลกระทบด้านบวกให้มากที่สุด เพื่อสร้างแนวทางแก้ปัญหาที่ตรงจุด ทำได้จริงและยั่งยืน อีกความท้าทายหนึ่งของโลก คือการทำให้ได้อย่างที่พูด จึงจะสามารถแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนได้อย่างจริงจัง แม้จะมีพันธกิจร่วมกันของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แต่สิ่งที่ทุกคนหวั่นใจคือไม่ได้ลงมือทำตามที่พูดไว้ สุดท้ายแล้วแผนการต่าง ๆ ที่ตกลงมาก็ไร้ประโยชน์”

นายรุ่งโรจน์ เสนอแนะว่าสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การดำเนินกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนควรตั้งต้นจากลูกค้าว่า ลูกค้ามีความต้องการอะไรที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้า การใช้งาน หรือการรีไซเคิล เมื่อนำข้อมูลที่ได้จากลูกค้ามาบวกกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นแนวทางดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนได้อย่างชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้มีกรณีของความสำเร็จที่สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนกันภายในองค์กร และทำให้เกิดการขยายวงกว้างขึ้นได้

ขณะที่ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ให้ทรรศนะว่าความวุ่นวายของโลกเกิดจากการบริโภคนิยม (Consumerism) ที่ทำให้ภาคธุรกิจพยายามตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีพันธกิจทั้งระดับองค์กร ระดับประเทศ และระดับโลก ที่มุ่งไปสู่เป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืน หรือ SDGs (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ ในปี 2030 พร้อมทั้งเป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ แต่ทุกคนต้องกลับมาถามตัวเองก่อนว่า เราสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากน้อยแค่ไหน

“ผมอยากให้ตั้งคำถามร่วมกันว่า หลังจากปี 2030 องค์การสหประชาชาติจะใช้หัวข้ออะไรในอีก 15 ปีถัดไป หรือปี 2545 ผมเชื่อว่าการคิดเรื่องความยั่งยืนจะกลับมาที่ปัจเจกบุคคล โดยการน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ในทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า “GC ได้นำแผนการพัฒนาความยั่งยืนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์องค์กรเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ภายใต้แนวคิด Chemistry for Better Living ซึ่งหมายถึง การผลิตสินค้าที่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และมีสุขอนามัยดีขึ้น แต่สำคัญกว่านั้นคือ กระบวนที่จะให้ได้มาซึ่งสินค้าก็ต้องดีด้วย นั่นคือ การใช้ทรัพยากรน้อยลง ดีต่อโลก บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีหลายรูปแบบ นอกจากไบโอพลาสติก หรือบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือรีไซเคิล การใช้นวัตกรรมและการออกแบบให้บรรจุภัณฑ์มีความคงทนมากขึ้น ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยทำให้มีการใช้น้อยลง สิ่งที่ GC ทำจะต้องไม่เป็นภาระแก่คนรุ่นหลัง ดังนั้น GC จึงวางแผนการลงทุนระยะยาว 30 ปีข้างหน้าเพื่อลดคาร์บอนในกระบวนการผลิต”

นายคงกระพัน กล่าวอีกว่า “การสร้างสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้นั้น อยู่ที่ความเข้าใจขององค์กรตนเอง เพราะแต่ละองค์กรมีบริบทที่แตกต่างกัน”

นายฐาปน ยังกล่าวอีกว่าหลังยุคมิลเลนเนียมปี 2000 เกิดความร่วมมือกันของประเภทธุรกิจที่อยู่บนกระดานเดียวกัน (industry collaboration) เพื่อสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งและเติบโต แต่หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 จะเป็นยุคของความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม (cross-industry collaboration) ซึ่งจะเห็นได้จากงาน SX 2022 ที่เกิดจากการรวมพลังของเครื่องข่าย Thailand Supply Chain Network และสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งทุกคน ซึ่งถือเป็นพลังร่วมที่สำคัญและเป็นมิติใหม่ที่จะหาคำตอบว่า ทุกคนจะอยู่กันอย่างไรต่อไป และจะช่วยกันรักษาโลกใบนี้ได้อย่างไร

SX2022 #GoodBalance #BetterWorld #BetterMe #BetterLiving #BetterCommunity

#SustainabilityExpo #SustainabilityExpo2022 #Sustainablity #สมดุลที่ดีเพื่อโลกที่ดีกว่า

#FrasersProperty #GC #SCG #ThaiBev #ThaiUnion #SXfoodFestival

]]>
1402886
เปิดโครงการประมูลกล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.๒๕๖๒ (เพื่อ ๒๒ องค์กรการกุศล) https://positioningmag.com/1396302 Wed, 17 Aug 2022 09:00:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1396302

ด้วยสังคมไทย สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยความมั่นคง เจริญก้าวหน้า มีความสามัคคี และให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีมูลนิธิองค์กรการกุศลที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน จึงได้เกิดเป็นการผสานความร่วมมือกันระหว่าง 22 มูลนิธิ และองค์กรการกุศลหลักของประเทศ เพื่อร่วมพลังกันสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคม และประเทศชาติ ด้วยการจัด โครงการประมูลกล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.๒๕๖๒ (เพื่อ ๒๒ องค์กรการกุศล)

เกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการดังกล่าว นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน และอดีตนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กล่าวว่า “เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ขอร่วมเทิดพระเกียรติ และร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลนี้ด้วยการจัดสร้างกล้องถ่ายภาพ Leica รุ่น  M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.๒๕๖๒ ขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีและด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งท่านศาสตราจารย์กิตติคุณศักดา ศิริพันธุ์ราชบัณฑิต ได้เขียนข้อความไว้ในคำนำหนังสือ “กษัตริย์กับกล้อง” ที่ท่านเป็นผู้ประพันธ์ ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 2547 มีใจความตอนหนึ่งว่า

“ข้าพเจ้าได้ตั้งชื่อหนังสือนี้ว่า “กษัตริย์กับกล้อง” เพราะว่าพระมหากษัตริย์ไทยทรงสนพระราชหฤทัยเรื่องการฉายภาพอย่างมาก และเพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงวางรากฐาน สนพระราชหฤทัย ทรงพัฒนา ทรงอนุรักษ์ และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่องตลอดมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 147  ปีแล้ว”  ข้อความดังกล่าวนับเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจเลือกการจัดทำกล้องถ่ายภาพ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.๒๕๖๒ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้  

กล้องถ่ายภาพ Leica เป็นกล้องถ่ายภาพจากเยอรมนีที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปีและได้รับการการยกย่องว่าเป็นกล้องถ่ายภาพที่สร้างด้วยความประณีต ละเอียดอ่อนประหนึ่งงานศิลปะให้คุณภาพของภาพที่คมชัดมีความคงทน มีรูปแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำแบบใคร นับเป็นยอดปรารถนาของคนที่รักการถ่ายภาพอย่างยิ่ง และเป็นที่นิยมของนานาประเทศที่จะจัดสร้างกล้องถ่ายภาพ Leica รุ่นพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่สำคัญที่สุด อาทิ วาระครบรอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ประเทศต่างๆ หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ ซึ่งมักจะจัดทำในจำนวนที่จำกัดเพื่อให้เป็นของที่ทรงคุณค่า และจารึกไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลกที่นักสะสมต่างแสวงหามาครอบครอง

การจัดทำกล้องถ่ายภาพรุ่นพิเศษนี้บริษัทฯ ได้รับอนุญาตจากคณะอนุกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ให้เชิญตราสัญลักษณ์ไปประดับบนกล้องได้ โดยได้จัดทำกล้องถ่ายภาพเป็นสองรูปแบบคือชุดสีเหลือง จำนวน 10 ชุด และชุดสีเขียว จำนวน 20 ชุด เพื่อนำส่วนหนึ่งขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ตามลำดับ และอีกส่วนหนึ่งนำออกจำหน่ายเพื่อนำรายได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยกำหนดราคาชุดสีเหลืองชุดละ 1,500,000 และชุดสีเขียวชุดละ 1,000,000 บาท และเพื่อเป็นการสร้างประโยชน์อันสูงสุดให้แก่สังคมไทย และน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามพระราชปณิธานในการ สืบสาน รักษา ต่อยอด บริษัทฯ จึงได้ซื้อกล้องถ่ายภาพทั้งหมด และได้นำเงินรายได้จากการนี้ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะนำกล้องถ่ายภาพจำนวน 22 ชุด มอบให้กับองค์กรการกุศล 22 องค์กร อันประกอบด้วย มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช  / มูลนิธิราชประชานุเคราะห์   รวมไปถึง ไตรโครงการ ที่ประกอบด้วย 3 มูลนิธิคือ มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ / มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ มูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และยังพร้อมด้วย มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย / มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) / มูลนิธิชัยพัฒนา / มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ / มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า / มูลนิธิจุฬาภรณ์  /มูลนิธิ TO BE NUMBER ONE / ศิริราชมูลนิธิ / มูลนิธิรามาธิบดี / มูลนิธิสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ / มูลนิธิคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ /  มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า /  มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ / มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ / มูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ / องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) / สถาบันโรคไตแห่งประเทศสิงคโปร์ / มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ และสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อร่วมกันจัดการประมูลขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 นี้ เพื่อนำรายได้จากการประมูลมอบให้แต่ละองค์กรนำไปสร้างสรรค์ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละองค์กรต่อไป

ในฐานะตัวแทนองค์กรของคนไทย และประชาชนคนไทยคนหนึ่ง มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกับทั้ง 22 องค์กรการกุศล เพื่อร่วมพลังกันสร้างสรรค์ประโยชน์เพื่อความสุขของสังคมโดยรวมและประเทศชาติที่ยั่งยืนสืบไป”

คุณนิติกร กรัยวิเชียร เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมการถ่ายภาพ และอดีตนายกสมาคมถ่ายภาพนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ข้อมูลว่า

“จากปณิธานของ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี มีความประสงค์ที่อยากจัดทำโครงการพิเศษเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาส       มหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งระยะเวลานั้นได้คิดว่าการจัดทำกล้องถ่ายภาพ Leica  รุ่น M 10-P Limited Edition เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคล โดยย้อนไป เมื่อปี พ.ศ.2539 ในครั้งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ได้เคยมีการจัดทำกล้อง  Leica M 6 รุ่นกาญจนาภิเษกขึ้นแล้ว โดยความร่วมมือกันระหว่างสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการครั้งนี้ ซึ่งในช่วงนั้นยังไม่ได้มีการกำหนดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่าจะมีขึ้นเมื่อไหร่ จึงทำให้ต้องรอเรื่องตราสัญลักษณ์ที่จะออกมารวมไปถึงเรื่องของการขออนุญาตในการจัดทำ แต่ในระหว่างนั้นคุณฐาปน ได้ส่งให้ผมเดินทางไปที่บริษัท Leica ประเทศเยอรมันนี เพื่อไปปรึกษาและหาช่องทางในความเป็นไปได้ในการจัดทำกล้องรุ่นพิเศษนี้ซึ่งเป็นการเตรียมการไว้ก่อน ต่อมาในปี 2562 ได้มีการกำหนดเรื่องของงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ซึ่งทางรัฐบาลได้มีการออกแบบตราสัญลักษณ์เรียบร้อยแล้ว และจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณาว่าจะใช้ตราสัญลักษณ์อย่างไร ซึ่งทางไทยเบฟ ได้ทำการขออนุญาตคณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์ฯ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้รับอนุญาตนำตราสัญลักษณ์มาประดิษฐสถานบนตัวกล้องได้ จากนั้นได้มีการเริ่มต้นที่จะประสานกับบริษัท Leica ในเรื่องของรูปแบบของกล้องที่ต้องการ วัสดุที่ต้องการใช้ รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ และได้เริ่มดำเนินการดังกล่าว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้งานโครงการนี้ล่าช้าอย่างมาก เพราะทั้งเรื่องของการผลิตต่าง ๆ และเรื่องของมาตรการของรัฐบาลของประเทศเยอรมันนีที่ปิดโรงงานผลิต ทำให้ไม่สามารถผลิตได้ และพอสถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็ยังประสบปัญหาเรื่องวัสดุชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ผลิตมาจากหลายมุมโลกก็ยังส่งออกไม่ได้ ยิ่งทำให้เกิดความล่าช้า เพราะการผลิตด้วยการชุบทองคำแท้เป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนและยากมาก ซึ่งกว่าจะผลิตสำเร็จเวลาก็ลุล่วงมาจนถึงปี 2565 และเราก็ได้รับกล้องมา และดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ จนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน โดยผู้สนใจร่วมการประมูลสามารถติดต่อและแสดงความเจตจำนงเข้าร่วมได้ที่มูลนิธิทั้ง 22 มูลนิธิ หรือขอ Catalog จาก Christies และกรอกแบบฟอร์ม Written Bid Form ไว้ก่อน พร้อมแจ้งเจตุจำนงค์เข้าร่วมงานประมูลในวันที่ 30 กันยายน ทางทีมงานที่เกี่ยวข้องจะติดต่อท่าน เพื่อเชิญเข้าร่วมการประมูลต่อไป

นายตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ นายกสมาคมถ่ายภาพ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติ และความพิเศษของกล้อง Leica รุ่น M 10-P Limited Edition ที่นำมาประมูลในโครงการครั้งนี้ว่า

“ สำหรับกล้อง Leica M 10-P รุ่นบรมราชาภิเษก จัดสร้างทั้งหมดสองแบบ คือ ชุดสองเลนส์ ประกอบด้วย กล้องดิจิตัล Leica M 10-P ชุบทองคำ หุ้มด้วยหนังจระเข้สีเหลือง พร้อมเลนส์ APO Summicron-  M 1:2/50 ASPH และเลนส์ Summilux M1:1.4/35 ASPH ผลิตทั้งสิ้น 10 ชุด และอีกชุดคือ ชุดหนึ่งเลนส์ ประกอบด้วย กล้องดิจิตัล Leica M10-P ชุบทองคำ หุ้มด้วยหนังจระเข้สีเขียว พร้อมเลนส์ Summilux M1:1.4/35  ASPH ผลิตทั้งสิ้น 20 ชุด ส่วนความพิเศษของกล้อง Leica M 10-P รุ่นบรมราชาภิเษกนี้คือ เป็นสีทองคำแท้แบบไม่มันวาว ทั้งชุด กล้อง และเลนส์ทุกตัวมีหมายเลขกำกับ 1/10  ถึงลำดับหมายเลข 10/10  และ 1/20ถึงลำดับหมายเลข  20/20 ทำให้กล้องชุดนี้มีคุณค่าในเชิงสะสมเนื่องจากมีเพียง 30 ชุดในโลกเท่านั้น เป็นหนังจระเข้ ทำให้แต่ละกล้องมีลวดลายไม่เหมือนกัน มีความเฉพาะตัวสูง รวมถึงสายสะพายกล้องด้วย ซึ่งไม่เคยมีทำจากโรงงานมาก่อน เลนส์ apo 50  ซึ่งทั่วโลกให้การยอมรับว่าเป็นเลนส์ 50 มิลที่ดีที่สุดในโลก แต่อยู่ในเปลือกเลนส์แบบวินเทจหรือที่เรียกกันว่าเวอร์ชั่น1 (v1) มะเฟือง ซึ่งไม่เคยมีการผลิตมาก่อน และเป็นรุ่นm10p การใช้รหัส p จะทำให้กล้องไม่มีโลโก้สีแดง ที่หน้ากล้องซึ่งจะเป็นความชื่นชอบของผู้ที่รักและสะสมกล้องไลก้า”

เรียกว่าเป็นพลังร่วมครั้งสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของ 22 มูลนิธิ และองค์กรการกุศล ที่เชิญชวนผู้สนใจ และวงการนักสะสมกล้องมาร่วมกันสร้างสรรค์ และแบ่งปันคุณค่า ร่วมกันทำความดี เพื่อสร้างประโยชน์สุขเพื่อสังคม และประเทศชาติให้ยั่งยืน สืบไป

]]>
1396302
“คอแห้ง…แจ้งเพื่อน” เพลงใหม่จาก POTATO X F.HERO เติมเต็มคำว่าเพื่อนแบบคูณ 2 https://positioningmag.com/1382176 Sat, 23 Apr 2022 04:00:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1382176

ผ่านพ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์มาแล้วแบบสดๆ ร้อนๆ ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญของคนไทย หลายคนได้ใช้โอกาสเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่ออยู่กับครอบครัว บางคนก็เฉลิมฉลองกับแก๊งค์เพื่อนซี้ เพื่อเติมเต็มความสุขหลังจากที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

ความพิเศษของสงกรานต์ปีนี้ก็คือ “ช้าง” ได้มอบความสุข ความสนุกสนานให้กับคนไทยด้วยการส่งเพลง “คอแห้ง แจ้งเพื่อน” เพื่อเป็นของขวัญให้กับทุกคนในวันสงกรานต์ เป็นการสาดความสดชื่น พร้อมกับเติมเต็มมิตรภาพของคำว่าเพื่อนได้อย่างลงตัว

ต้องบอกว่าช้างได้ทำกลยุทธ์ Music Marketing มาโดยตลอด ในครั้งนี้ได้ส่งเพลงพิเศษออกมาก็เพื่อเป็นของขวัญแก่คนไทยทุกคน และเป็นครั้งแรกของการร่วมงานกันของ 2 ศิลปินในตำนานอย่าง POTATO ที่จะมา Featuring กับแร็ปเปอร์ F.HERO กลายเป็นความลงตัวแบบไม่น่าเชื่อ

แค่ชื่อเพลง “คอแห้ง… แจ้งเพื่อน” ก็ทำให้หลายคนรู้สึกอิน และรู้สึก “คอแห้ง” ขึ้นมาในทันทีก็ว่าได้ เนื้อหาของเพลงได้เล่าถึงมิตรภาพ และความสุข ที่มีต่อเพื่อนซี้ต่างๆ ของเรา ช้างได้ถ่ายทอดผ่านอินไซต์จริง ที่ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อยู่ในโมเมนต์ไหน สุข เศร้า เหงา ทุกข์ ก็จะมีเพื่อนคอยเติมเต็มให้เสมอ

เพื่อนเป็นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราได้ได้ตลอดเวลา ยิ่งในช่วงเทศกาลอย่างนี้ ถ้าได้ปาร์ตี้กันคงจะชาร์จพลังชีวิตได้ดีไม่น้อย เชื่อว่าหลายคนที่ได้ฟังเพลงนี้แล้ว ต้องรู้สึกคิดถึงเพื่อน คิดถึงบรรยากาศที่ได้อยู่ร่วมกัน สนุกด้วยกัน คอแห้งเมื่อไหร่ ก็แจ้งเพื่อนได้ทันที พร้อมที่จะเติมเต็มความสดชื่นได้แน่นอน

สำหรับคำว่า “คอแห้ง” ที่ทางช้างนำมาเป็นชื่อแคมเปญ และชื่อเพลงนั้น เพราะมองว่าเป็นคำที่ทุกคนเข้าใจ และนึกถึงได้อย่างดี ช้างจึงหยิบคำนี้มาต่อยอด เพื่อให้ทุกครั้งที่พูดคำว่าคอแห้ง จะนึกถึงช้างเสมอ ซึ่งช้างสามารถเติมเต็มความสดชื่นให้หายคอแห้งทันที

นอกจากการทำ Music Marketing แล้ว ช้างยังทำโฆษณาออนไลน์ออกมา รวมถึงการทำออฟไลน์เพื่อเข้าถึงคนได้หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่ป้ายสื่อนอกบ้านตามโลเคชั่นที่สำคัญ เช่น สี่แยกต่างๆ อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัด และโลเคชั่นหลักอื่นๆ เป็นจุดที่เข้าถึงประชาชนที่เดินทางกลับบ้านในช่วงสงกรานต์

นอกจากนี้ยังมีสื่อโฆษณาทางทีวีในช่องใหญ่ๆ และคลื่นวิทยุยอดนิยม เป็นการตอกย้ำแคมเปญให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น และกระตุ้นความรู้สึกคอแห้ง อยากแจ้งเพื่อนเพื่อมาเติมเต็มความสนุก

ใครที่ได้ฟังเพลงแล้ว รับรองว่าต้องรู้สึกคอแห้งขึ้นมาทันที และอยากจะกริ๊งกร๊างหาเพื่อน เพื่อเติมเต็มความสดชื่นกันแน่นอน เรียกว่าสามารถเติมความสดชื่นได้แล้ว ยัง Fulfill คำว่าเพื่อนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นด้วย


]]>
1382176
เริ่มต้นคาราวาน “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก” จังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่แรกของปีนี้ https://positioningmag.com/1362912 Fri, 19 Nov 2021 04:00:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362912

ปีนี้คาราวาน “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก” ซึ่งผลิตจากขวดน้ำพลาสติกที่ทำจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลหรือ Recycled PET (rPET) ของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางมอบผ้าห่มจำนวน 15,000 ผืนสร้างความอบอุ่นให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยหนาวในจังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่แรก พร้อมกับนำรอยยิ้มมามอบให้กับผู้ที่มารับผ้าห่ม ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ “ให้น้องจากใจไทยเบฟ” ด้วยการมอบทุนและสื่อการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง บริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ฟรีจากโรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธร และกิจกรรมสันทนาการให้ความรู้จากนักศึกษาโครงการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่เพื่อสังคม (Beta Young Entrepreneur) จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี นับเป็นครั้งที่ 9 แล้ว ที่โครงการได้นำผ้าห่มมามอบให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ โดยเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2545

]]>
1362912
ฐาปน สิริวัฒนภักดี ตอกย้ำผู้นำองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลก ครองคะแนนสูงสุด DJSI โลก 4 ปีซ้อน https://positioningmag.com/1362075 Tue, 16 Nov 2021 04:00:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362075 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นผู้นำเครื่องดื่มครบวงจรที่มั่นคง และยั่งยืน ของภูมิภาคอาเซียน Stable and Sustainable ASEAN Leader ด้วยการครองคะแนนสูงที่สุดในโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลก จากการจัดโดย S&P Global เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (The Dow Jones Sustainability Indices-DJSI) มาอย่างต่อเนื่อง โดยไทยเบฟ ได้รับคะแนนสูงสุดจากการประเมินด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2564 (Corporate Sustainability Assessment 2021) เป็นปีที่ 4 ต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของประเภท กลุ่มดัชนีโลก (World Index) เป็นปีที่ 5 และเป็นสมาชิกของกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets Index) เป็นปีที่ 6 สะท้อนถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งขององค์กรต้นแบบในการดำเนินธุรกิจ ที่ใส่ใจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่นำความภาคภูมิใจของคนไทยไปสู่ระดับโลก ด้วยศักยภาพความพร้อมที่แข็งแกร่ง สู่ PASSION2025 ไปพร้อมกับการ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” (Creating and Sharing the Value of Growth)

ไทยเบฟ มุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการธุรกิจ และดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในการช่วยเหลือสังคม ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานใน 5 มิติหลักคือ การศึกษา สาธารณสุข กีฬา ศิลปวัฒนธรรม และการพัฒนาชุมชน ที่ได้สร้างผลลัพธ์ความสำเร็จการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม และมีการติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยยังตระหนักถึงความสำคัญของหลักการบริหารจัดการและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทุกภาคส่วน ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักธรรมาภิบาล (Good governance)

สอดคล้องกับจรรยาบรรณของบริษัทที่มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ มาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่จะบรรลุตามวิสัยทัศน์ขององค์กรได้อย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการต่างๆ อาทิ การผสานสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันดูแล และอนุรักษ์แหล่งน้ำ รวมถึงการดูแลชุมชนให้สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดในการอุปโภค และบริโภค เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการประเมินความยั่งยืนของน้ำผิวดิน และน้ำใต้ดิน โครงการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และดูแลแหล่งน้ำร่วมกับชุมชน

การดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ปกป้อง และรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ ในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ด้วยการนำขวดพลาสติกบรรจุเครื่องดื่มหลังการบริโภคมาผลิตเป็น เม็ดพลาสติกรีไซเคิลหรือ Recycled PET นำมาผลิตเป็นผ้าห่มในโครงการ ไทยเบฟรวมใจต้านภัยหนาวด้วยนวัตกรรม Eco Friendly Blanket ที่สามารถช่วยลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต และยังช่วยลดปริมาณขยะจากขวดพลาสติกได้มากถึง 7.6 ล้านขวดต่อปี โดยสามารถผลิต “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก” ได้มากถึงปีละจำนวน 200,000 ผืน ทำให้สามารถนำขยะจากขวดพลาสติกกลับสู่ระบบรีไซเคิลได้สำเร็จแล้วจำนวน 15.2 ล้านขวดจากการดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2

นอกจากนี้ ไทยเบฟ ยังเป็นผู้ริเริ่มแพลตฟอร์มการทำงานในอีกหลายโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง อาทิ มูลนิธิพลังน้ำใจไทย มูลนิธิสถาบันพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย Thailand Supply Chain Network (TSCN) หรือภาคีเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย ฯลฯ การเป็นผู้ริเริ่มการจัดงาน Thailand Sustainability Expo (TSX) ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง ภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” ที่ตอกย้ำการสร้างพลังความร่วมมือครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยที่ร่วมกันขับเคลื่อนและสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินงานภายใต้แนวทางของการพัฒนาที่ยั่งยืน

และแม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไทยเบฟได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ (ThaiBev Covid-19 Situation Room (TSR)) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการติดตามข่าวสาร และดำรงความต่อเนื่องทางธุรกิจของกลุ่มไทยเบฟ ให้สามารถผลิตและจัดส่งสินค้าได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค ไปพร้อมกับใส่ใจด้วยการส่งความห่วงใยและให้การช่วยเหลือสังคม พันธมิตรทางธุรกิจ และพนักงาน ให้ก้าวข้ามสถานการณ์ โควิด-19 ไปด้วยกัน จึงได้มีหน่วยงานที่อาสาไปทำประโยชน์ให้กับสังคมโดยรวมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการสนับสนุนทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ และประสานความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ครอบคลุมทั่วประเทศ อาทิ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ หน้ากาก Surgical Mask หน้ากาก N95มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มคุ้มครองการติดเชื้อ (COVID-19) ให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศรวมถึงพนักงาน คู่ค้า เอเย่นต์ในกลุ่มไทยเบฟครอบคลุมทั่วประเทศ มอบตู้แช่จัดเก็บวัคซีนโควิด-19 ให้กับสถานพยาบาล 10 จังหวัดหลักทั่วประเทศ รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนน้ำดื่ม อาหาร และผลิตภัณฑ์ในเครือ รวมไปถึงการจัดตั้งศูนย์ตรวจโควิด และศูนย์ฉีดวัคซีน ฯลฯ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับทางภาครัฐ

จากการดำเนินงานที่ผ่านมาทั้งในการบริหารจัดการด้านธุรกิจ และการดำเนินโครงการต่างๆ ในการช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำศักยภาพความพร้อมที่แข็งแกร่งทางธุรกิจในทุกมิติควบคู่ไปกับการ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” อย่างยั่งยืน สู่กลไกการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของการเป็นต้นแบบของผู้นำองค์กรในด้านความยั่งยืนระดับโลก

]]>
1362075
สืบสานเทศกาลลอยกระทง Bangkok River Festival ครั้งที่ 7 “วันเพ็ญ เย็นใจ” ร่วมขอพรดวงจันทร์ นำทางชีวิต https://positioningmag.com/1361619 Fri, 12 Nov 2021 10:00:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1361619

กลายเป็นเทศกาลแห่งปีที่สำคัญของไทยไปโดยปริยาย สำหรับ Bangkok River Festival 2021 เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 – 19 พฤศจิกายน 2564 ใน 8 ท่าน้ำร่วมสมัย ณ ริมสายน้ำเจ้าพระยา เรียกได้ว่าตลอดริมโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา จะได้สัมผัสวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของเทศกาลลอยกระทงแบบประทับใจอย่างแน่นอน

เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลลอยกระทงในค่ำคืนวันเพ็ญกับ 8 ท่าน้ำร่วมสมัย สืบสานประเพณีไทยแบบ New Normal ปีนี้ มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “วันเพ็ญ เย็นใจ” ที่จะชวนมาลอยกระทง เพื่อขอขมาพระแม่คงคา ขอพรดวงจันทร์ นำทางชีวิต เปิดโบสถ์ทําบุญยามค่ำคืน และลอยประทีปบูชาสร้างสิริมงคล ร่วมเวิร์คชอป กับกิจกรรมเสน่ห์งานอดิเรกไทยไม่เลือนหาย ช้อปเพลิน เที่ยวเพลิน กับของดีจากชุมชนท่าน้ำวิถีใหม่ ปลอดภัยจาก COVID-19 สำหรับผู้ที่สนใจวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามนี้ ขอชวนมาฟังเสวนาย้อนรอยประวัติศาสตร์เสน่ห์งานลอยกระทงกับความงดงามริมน้ำเจ้าพระยา รับชมกันได้ทางออนไลน์ผ่าน Facebook : RiverFestivalThailand สามารถรับชมกันได้จากทุกที่ทางหน้าจอได้เลย

พูดถึงที่มาที่ไปของงาน Bangkok River Festival นับเป็นการร่วมมือกันของภาครัฐ และเอกชน โดยมีบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด ( มหาชน) เป็นหัวเรือใหญ่ ผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองทัพเรือ  กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเครือข่ายพันธมิตรอีกหลายภาคส่วน ในการเนรมิตความงดงามให้กับเทศกาลลอยกระทง โดยทำให้เทศกาลนี้มิใช่เป็นเพียงแค่การลอยกระทง แต่ส่งเสริมให้กลายเป็นเทศกาลสำคัญที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งนับเป็น Festive ระดับโลก และเป็นที่รู้จักกันดีทั้งสำหรับชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

สำหรับในปีนี้ ได้จัดขึ้นที่ 8 ท่าน้ำ มีทั้งแหล่งประวัติศาสตร์อย่างวัดสำคัญๆ ที่มีชื่อเสียงยาวนานมานับร้อยปี พื้นที่แห่งวัฒนธรรมของชุมชนเก่าแก่ ไปจนถึงแหล่งชอปปิ้ง และแหล่งแฮงก์เอาท์ยอดนิยมของทั้งชาวไทย และต่างประเทศ ซึ่งแต่ละแห่งก็ล้วนแต่มีความน่าสนใจทั้งในเรื่องสถานที่ ประวัติความเป็นมา รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ที่รังสรรค์ขึ้นมาด้วยการผสมผสานกับวัฒนธรรมของชุมชน

มาเริ่มตามรอย 5 วัดสำคัญ และ 3 ท่าน้ำ เริ่มจาก “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม” หรือ วัดโพธิ์ จะเปิดให้ได้สักการะพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) และจุดประทีปรอยพระพุทธบาทจำลอง เพื่อสร้างมงคลร่มเย็นเป็นสุขในชีวิต ร่วมลอยประทีปเทียนหอม ชมนิทรรศการพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่จัดแสดงโดยทางวัด รับชมการแสดงดนตรีไทยจากสถานศึกษาในชุมชน และพบกับการออกร้านจากชุมชนรอบวัดโพธิ์  ถ่ายภาพกับ อุโมงค์สุขสันต์ วันเพ็ญ เย็นใจ ผ้าขาวม้าไทย สดใส เย็นใจ วันเพ็ญ

ข้ามฟากไปยังอีกฝั่งแม่น้ำที่ “วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร” ที่ก็เปิดให้ร่วมสักการะพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก สวดมนต์ เจริญสมาธิ และเวียนเทียนพระปรางค์ 4 ทิศ ขอพรหลวงพ่อรุ่งอรุณ เสริมสิริมงคลให้กับตนเอง พบกับการออกร้านค้าจากชุมชน  ถ่ายภาพกับอุโมงค์สุขสันต์ วันเพ็ญ เย็นใจพัดไทย คลายร้อน เย็นใจตลอดปี

ใกล้ๆ กันนั้นที่ “วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร”  เปิดให้สักการะพระประธานยิ้มรับฟ้า พระประธานวัดระฆังฯ สักการะ รูปหล่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สักการะพระปรางค์วัดระฆัง สักการะพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเยี่ยมชมตำหนักแดง พบกับการออกร้านค้าจากชุมชน รับชม การแสดงดนตรีไทยจากสถานศึกษาในชุมชน ลอยประทีปเทียนหอมหน้าลานระฆัง เลือกซื้อสินค้า อาหาร ขนม จากร้านค้าชุมชน ถ่ายภาพกับ อุโมงค์สุขสันต์ วันเพ็ญ เย็นใจ สีสันจาก “พวงมโหตร” (พวง-มะ-โหด) เย็นใจตลอดปี

สำหรับที่ “วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อซำปอกง) มีการเปิดให้ทำบุญหีบสมบัติเจ้าสัวโต มงคลมั่งคั่งเทียนแดง เขียนชื่อ เสริมเงินทอง ค้าขายร่ำรวย  ลอยประทีปเทียนหอมในคืนพระจันทร์วันเพ็ญ

ร่วมประดิษฐ์ว่าวไทยทำมือ เพื่อสืบสานภูมิปัญญาไทย, เลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าชุมชน และลอยกระทงริมท่าน้าวัดกัลยาฯ ถ่ายภาพกับอุโมงค์ สุขสันต์ วันเพ็ญ เย็นใจว่าวไทย รื่นรมย์ เย็นใจ

ถัดมาในละแวกเดียวกัน เพียงลอดผ่านสะพานพุทธ ก็เจอกับ “วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร” ที่ก็มีให้ร่วมสักการะพระพุทธธรรมวิเชษฐศาสดา พระประธาน สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และสักการะพระพุทธนาค พร้อมรับฟังบรรยายธรรมโดยท่านพระพรหมบัณฑิต กิจกรรมพิธีสวดกระทงขอขมาพระแม่คงคา ลอยประทีปเทียนหอมบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และเดิน ชอป ชิม ชิลล์จากร้านค้ามากมาย เพลิดเพลินไปกับจุดถ่ายภาพ อุโมงค์สุขสันต์วันเพ็ญ เย็นใจ สายรุ้ง สุขสันต์ วันเพ็ญ เย็นใจ

นอกจากทั้ง 5 วัดสำคัญที่กล่าวมาแล้ว อีก 3 ท่าน้ำก็มีบรรยากาศแห่งความเพลิดเพลินของเทศกาลลอยกระทงไม่น้อยหน้ากัน ไล่มาตั้งแต่

“เอเชียทีค เดอะริเวอร์ ฟร้อนท์” พื้นที่หัวใจสำคัญของการจัดงาน River Festival ด้วยการเป็นศูนย์การค้าริมแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ถูกเนรมิตให้เป็นฉากจำลองการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและกิจกรรมที่หลากหลาย ให้คุณได้อิ่มเอมไปกับประเพณีลอยกระทง พร้อมตระการตากับทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในบรรยากาศงานวัดที่มีทั้งเครื่องเล่น และความบันเทิงมากมาย

ข้ามไปยังฝั่งธนบุรีที่ “สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม”   ดื่มด่ำบรรยากาศ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วไปเพลิดเพลินกับอาณาจักรของแหล่งช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่นไทยและร้านอาหารหลากหลายจาก 4 ภาคของไทย พร้อมการแสดงรำไทย 4 ภาค

ปิดท้ายที่ “ท่ามหาราช” แหล่งแฮงก์เอาท์ของเหล่าวัยรุ่นที่ให้คุณได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา สัมผัสกับบรรยากาศดีๆ พบร้านอาหารมากมายที่จะมาช้อป ชม ชิม มีมุมถ่ายชิลล์ ชิลล์ริมแม่น้ำ

ที่สำคัญงานนี้ยังเชื่อมต่อโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยานี้ด้วยการร้อยเรียงแต่ละท่าสำคัญริมแม่น้ำด้วยการจัดการคมนาคมขนส่ง อำนวยความสะดวกเป็นเรือ Shuttle Boat บริการฟรี เฉพาะวันที่ 19 พฤศจิกายน เท่านั้น 16.00 – 22.00 ในแต่ละท่าน้ำสำคัญ แต่ละท่าจะมีการครีเอทีพ ดึงดูดให้คนรุ่นใหม่สนใจ อย่างกิจกรรม Interactive จุดถ่ายรูป ที่สำคัญคือ ความปลอดภัย ดีงามตามประเพณี แบบไม่ต้องกังวล แถมยังสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนอีกด้วย


เปิดเส้นทางตามรอย ทั้ง 5 ชุมชนรอบพื้นที่ 5 วัดริมน้ำเจ้าพระยา

ชุมชนวัดประยุรวงศ์

ชื่อร้าน สินค้า เบอร์โทรติดต่อ
หมูกระดาษป้าน้อย หมูกระดาษ สินค้าประดิษฐ์จากดินปั้น

098-251-2537, Facebook: บ้านหมูกระดาษ ป้าน้อย หรือ เลือกชมสินค้าได้ที่บูธป้าน้อย หมูกระดาษ ที่ “สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม”

รชต เกี๊ยวซ่า เกี๊ยวซ่า 082-067-1554
ช.ศรีวงษ์
มะม่วงน้ำปลาหวาน
มะม่วงน้ำปลาหวาน 085-215-1151
น้ำสมุนไพรบ้านคุณปู่ น้ำสมุนไพร 081-803-0228
ขนมเมี่ยงส้มคุณเอื้อง ขนมเมี่ยงส้ม,ทองหยิบทองหยอด,ลูกชุบ 081-619-3885
ผ้าพันคอ by รชต ผ้าพันคอ 082-0671554
ทวีทรัพย์ศิลปะ แหวนแกะสลัก ,ตอกชื่อแผ่นไม้ 098-3578465

ชุมชนกุฎีจีน

ขนมฝรั่งหลานแม่เป้า ขนมฝรั่งกุฎีจีน 086-105-5545 ,Facebook: ขนมฝรั่งกุฎีจีน หลานแม่เป้า
ร้านป้าอำพรรณ ขนมก๋วยตั๊ด กุสรัง หน้านวล 06-2465-2332,Facebook : ร้านบ้านป้าพรรณ-กุฎีจีนซอย3
ขนมจีนแกงไก่คั่ว โปรตุเกส ขนมจีนแกงไก่คั่ว 085 -046- 5959,Facebook: ขนมจีนแกงไก่คั่ว โปรตุเกส โบสถ์ซานตาครู้ส กุฎีจีน คาเฟ่ริมน้ำเจ้าพระยา
ชุมชนกุฎีจีน เสื้อยืดกุฎีจีน 086-105-5545

ชุมชนกุฎีขาว

ชื่อร้าน สินค้า เบอร์โทรติดต่อ
น้ำขิงปรุงอย่างเทศ น้ำขิงปรุงอย่างเทศ 081-584-7132
กรอบปังแฮมชีสคุณฉัตรวิลัย กรอบปังแฮมชีส,ไข่ม้วน 061-164-1910
โปเลีย กะดีขาว โปเลีย 080-556-7391

ชุมชนโรงคราม

ชื่อร้าน สินค้า เบอร์โทรติดต่อ
ผ้าย้อมคราม เสื้อมัดย้อม ผ้ามัดย้อม 098-403-5354
ขนมหวานบ้านพี่ภู กระหรี่ปั๊ป,เปียกปูนกะทิ 097-236-9629
น้ำสมุนไพรคุณวาทินี น้ำสมุนไพร,น้ำส้ม 081-446-7845

ชุมชนบุปผาราม

ชื่อร้าน สินค้า เบอร์โทรติดต่อ
ผ้าขาวม้าทอมือโบราณ ผ้าขาวม้า 083-234-6578
กะล้อจี้ กะล้อจี้ 095-701-5596

ชุมชนท่าเตียน วัดโพธิ์

ชื่อร้าน สินค้า เบอร์โทรติดต่อ
แพทย์กิจประสงค์ ยาแผนโบราณ 02-221-2380
VR STONES เครื่องประดับจากลูกปัด 098-969-3982
รวมใจพัฒนา โรตี 081-328-2348
อาม่าปลาจ๊อ ทอดมันปลากราย,ปลาจ๊อ 063-556-1562

ชุมชนวัดกัลยาณ์

ชื่อร้าน สินค้า เบอร์โทรติดต่อ
หัวสิงโตกระดาษ หัวสิงโต 080-453-8499
ป้าหมู มีด ดาบไม้ มีด ดาบไม้ 080-453-8499
เฮียเสกขนมจีบอร่อยที่สุดในโลก ขนมจีบต้ม 092-417-9959 Facebook:ขนมจีบต้มเฮียเสก
ทอดมัน – หมูสร่งคุณปู ทอดมัน – หมูสร่งคุณปู 098-7143435

ชุมชนปกอรุณ

ชื่อร้าน สินค้า เบอร์โทรติดต่อ
ร้านข้าวหมูทอดอร่อยมาก วัดอรุณ
ข้าวหมูทอด 084-465-5050
Juice For You น้ำสมุนไพร , น้ำส้มคั้น 089-400-8615
น้ำสมุนไพรคุณศุรางค์ มะม่วงน้ำปลาหวาน 086-088-9049
ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนฯ วัดอรุณ น้ำสมุนไพร
ไส้กรอกอีสาน
086-355-9302
ขนมจีนคุณกมลชนก ขนมจีน 082-258-7284
ยำมะม่วงคุณชญาภา ยำมะม่วง 063-639-2019

เรียกได้ว่างาน Bangkok River Festival 2021 ในปีนี้ได้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ล่องเรือดื่มด่ำกับบรรยากาศกลางโค้งน้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน พร้อมชื่นชมอัตลักษณ์ของสถาปัตยกรรม อิ่มเอมกับมรดกศิลปวัฒนธรรมประจำถิ่นของเหล่าชุมชนริมน้ำ แถมยังสนุกไปกับหลากกิจกรรมที่ทั้งบันเทิงใจ และเสริมมงคล  ในคืนวันเพ็ญ เย็นใจ  ไปตลอดริมโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา

 

ติดตามรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/riverfestivalthailand

 

]]>
1361619