Theatre – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 28 Dec 2020 14:26:24 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “เพอร์ร่า” จัดหนักส่งท้ายปี ดึง “แม่ชม” แบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมฉลากดีไซเนอร์แฟชั่น https://positioningmag.com/1312110 Fri, 25 Dec 2020 08:06:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312110 เพอร์ร่า” รุกหนักตลาดน้ำแร่ จัดหนักส่งท้ายปี 2020 เล่นใหญ่เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ชมพู่ อารยา ร่วมออกแบบฉลากคอลเลกชั่นพิเศษ เขย่าตลาดน้ำแร่ผ่านโลกของแฟชั่น

ดึงตัวแม่แฟชั่น กับฉลากแฟชั่น

เพอร์ร่า ตอกย้ำความสำเร็จของ “ผู้นำ” ตลาดน้ำแร่ ด้วยกลยุทธ์แฟชั่นแบรนด์ เดินหน้าทำตลาดโค้งสุดท้ายของปี 2563 ดึงตัวแม่แห่งวงการแฟชั่นไทย ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อม 6 ดีไซเนอร์คู่ใจ Kloset, Vatanika, Tohns, Theatre,  Pony Stone และ Janesuda ร่วมสร้างสรรค์ฉลากพิเศษ 6 แบบ กับแคมเปญ “Purra X Chompoo Araya”

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล (ซ้าย) หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ (Chief Marketing Officer – Brand) ภูริต ภิรมย์ภักดี (ขวา)ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล (ซ้าย) หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ (Chief Marketing Officer – Brand)
ภูริต ภิรมย์ภักดี (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด

ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า

“เพอร์ร่า ถือเป็นแบรนด์น้ำแร่ที่ทำตลาดมาเพียง 8 ปี สามารถแจ้งเกิดและก้าวไปอยู่ในใจของผู้บริโภคจนเป็นผู้นำตลาดได้สำเร็จ โดยอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เป็นหัวใจสำคัญในการทำตลาดคือ การใช้กลยุทธ์ Collaboration สู่การเป็น Fashion Brand จนสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด”

จากแบรนด์น้ำแร่ สู่แบรนด์แฟชั่น

กลยุทธ์การปั้นแบรนด์น้ำแร่เพอร์ร่าสู่ Fashion Brand เริ่มต้นเมื่อปี 2559 โดยร่วมมือกับดีไซเนอร์ชั้นนำของเมืองไทยออกแบบฉลากน้ำแร่เพอร์ร่า Limited Edition บนขวด ซึ่งจะแตกต่างกันไปในทุกปี การสร้างความต่างให้เกิดขึ้นด้วยการนำ “แฟชั่น” มาผสานการทำตลาดน้ำแร่ เจาะกลุ่มเป้าหมาย จนทำให้น้ำแร่เพอร์ร่าเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้น

ที่ผ่านมาน้ำแร่เพอร์ร่าได้ร่วม Collaborate กับศิลปินและแบรนด์แฟชั่นมากมาย อาทิ  Disaya, Issue , Asava, Vatanika, Poem ฯลฯ โดยในปี 2561 ร่วมกับศิลปินระดับอินเตอร์เนชั่นแนลอย่าง “จี๊ป – ภาสินี คงเดชะกุล” นักออกแบบชื่อดังที่เคยมีผลงานกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Louis Vuitton และ Rimowa ดีไซน์ฉลากคอลเลกชั่นพิเศษ

ในปี 2562 ได้มีการร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่น Sirivannavari Bangkok ดีไซน์ฉลากลวดลาย คอลเลกชั่นพิเศษ และปี 2563 ร่วมมือกับศิลปินระดับโลกชาวฝรั่งเศส “Jennifer Bouron” ส่งคอลเลกชั่นพิเศษ Little Happiness Collection 2020 เพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มเล็กๆ ให้ผู้บริโภค

สำหรับ ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2563 เพอร์ร่ายังคงทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสีสันให้วงการตลาดน้ำแร่ ล่าสุด ได้ตอกย้ำกลยุทธ์ Collaboration ร่วมกับ “ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต” แฟชั่นไอคอนตัวแม่ของวงการแฟชั่นไทย ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่น ลุยแคมเปญ “Purra X Chompoo Araya” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Goddess of Styles” เป็นการดึงตัวแม่แห่งวงการแฟชั่นตลอดกาล มาเสริมจุดแข็งให้เป็นแบรนด์น้ำแร่ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

น้ำแร่เพอร์ร่าเลือกจับมือกับแฟชั่นไอคอนเบอร์ 1 ของเมืองไทย อย่างชมพู่ อารยา มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมดึง 6 ดีไซเนอร์ไทย มาร่วมออกแบบฉลากคอลเลกชั่นใหม่ สะท้อนสไตล์แฟชั่นของชมพู่ สร้างความแปลกใหม่ให้กับน้ำแร่เพอร์ร่าอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าน้ำแร่เพอร์ร่าไม่ได้เป็นเพียงน้ำแร่ธรรมชาติ แต่ยังเป็นแฟชั่นไอเทม

สำหรับน้ำแร่เพอร์ร่าลวดลายคอลเลกชั่นพิเศษ “Purra X Chompoo Araya” ทั้ง 6 แบบ จะอยู่บนขวดขนาด 600 มิลลิลิตร โดยวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ผ่านช่องทาง 7-Eleven, Tops, Tesco Lotus, Big C, Family Mart และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ Singha Online Shop

]]>
1312110
มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ มอบประสบการณ์ใหม่กับหนัง 4 มิติ เรื่อง “Ice Age: No Time For Nuts 4-D” https://positioningmag.com/1094831 Fri, 17 Jun 2016 03:54:01 +0000 http://positioningmag.com/?p=1094831 มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ เปิดโรงภาพยนตร์ 4D อย่างเป็นทางการ พร้อมฉายภาพยนตร์แอนิเมชั่น เรื่อง “Ice Age: No Time for Nuts” พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ชมแล้ววันนี้ ณ ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี

“Ice Age: No Time For Nuts 4-D” เป็นเรื่องราวการผจญภัยข้ามกาลเวลาของ “สแคร็ท”กระรอกเขี้ยวดาบที่ไล่ตามวอลนัทแสนรักไปในยุคสมัยต่างๆ ได้โผล่เข้าไปในสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ตั้งแต่สนามกีฬาโคลอสเซียมในยุคโรมันมาจนถึงฟลอร์เต้นรำของ Studio 54 ไนท์คลับชื่อดังของนครนิวยอร์กในอดีต รวมถึงต้องเอาตัวรอดจากภยันตรายต่างๆ ตั้งแต่คมดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ไปจนถึงเรือไททานิคที่กำลังจะจม

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นสุดมันส์ความยาว 9 นาทีนี้เป็นเรื่องราวที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งหมด โดย บลู สกาย สตูดิโอส์ และ ฟ็อกซ์ แอนิเมชั่น ร่วมกับ ซิมเอ็กซ์-ไอเวิร์คส์ ซึ่งจัดฉายในระบบ 3 มิติความคมชัดสูง พร้อมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ในโรงภาพยนตร์เป็นมิติที่ 4 เพื่อให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์มากยิ่งขึ้น

นายนพดล ประพิมพ์พันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจกรุงเทพ บริษัท เมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ส(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำประสบการณ์ใหม่ในการชมภาพยนตร์เรื่อง ไอซ์ เอจ มาให้คนไทยและนักท่องเที่ยวได้ชมกัน โดยผู้เข้าชมจะได้ใช้ทุกประสาทสัมผัสในการติดตามชมเรื่องราวที่สนุกสนานตื่นเต้น อีกทั้งเทคนิคพิเศษในโรงภาพยนตร์ยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีหุ่นที่เป็นคาแรคเตอร์หลักของภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ ได้แก่ “สแคร็ท” “ซิด” และ “แมนนี่” ที่จะมาในขนาดเท่าตัวจริงมาให้ทุกท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดในโซนจัดแสดงพิเศษของ Ice Age โดยตัวละครพวกนี้เป็นที่รู้จักและชื่นชอบของผู้ชมทุกวัยอยู่แล้ว เราจึงมั่นใจว่าผู้เข้าชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะสนุกกับประสบการณ์ใหม่นี้ที่มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ”

“Ice Age: No Time For Nuts 4-D” จัดฉายทุกวัน แต่ละรอบห่างกัน 30 นาที รอบแรกเริ่มเวลา 11.20 น. และรอบสุดท้ายเวลา 19.50 น. ค่าเข้าชมภาพยนตร์รวมอยู่ในค่าบัตรเข้าชมมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ โดยบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 590 บาท และเด็ก (อายุ 3-11 ปี) 490 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2658 0060 หรือที่เว็บไซต์ https://www.madametussauds.com/Bangkok/

]]>
1094831
Moviecation ตั๋วหนังพาเที่ยวไทย https://positioningmag.com/1091606 Fri, 13 May 2016 04:12:39 +0000 http://positioningmag.com/?p=1091606 วิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สมรัก คำพุทธ รองผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวกิจกรรม MOVIECATION ตั๋วหนังพาเที่ยวไทย หนุนนโยบายสานพลังประชารัฐ ด้วยการร่วมส่งเสริมต่อยอดการเผยแพร่โครงการ 12 เมืองต้องห้ามพลาด Plus ของ ททท. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น ด้วยการจะมอบความสุขและสิทธิพิเศษผ่านการท่องเที่ยวไทยให้กับลูกค้าที่มาชมภาพยนตร์ทุก 2 ที่นั่ง ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม-31 กรกฎาคม 2559 จำนวนกว่า 300 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยมี ธีรศักดิ์ อรุณเริ่มวัฒนะ ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์และบริหารสื่อโฆษณา บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), กันต์ รตนาภรณ์, รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา, ก้อง สหรัถ สังคปรีชาและ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ มาร่วมงานด้วย  อินฟินีซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอน ซีนีเพล็กซ์

]]>
1091606
“มวยไทย ไลฟ์ เดอะ เลเจนด์ ลีฟส์” สร้างสถิติใหม่ แสดงสด สมจริง อย่างต่อเนื่อง 200 รอบ หนึ่งเดียวในโลก ที่คนไทยทุกคนต้องดู https://positioningmag.com/58452 Thu, 18 Sep 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58452

คุณวิวรรณ กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโชว์ 2013 จำกัด พร้อมด้วย คุณเอกชัย เอื้อครองธรรม กำกับการแสดง ร่วมจัดแสดงโชว์ “มวยไทยไลฟ์ เดอะ เลเจนด์ ลีฟส์” สร้างประวัติศาสาตร์หน้าใหม่ของการโชว์ด้วยรูปแบบละครเวที สมจริง เจ็บจริง สด ๆ ที่สร้างสรรค์อิงประวัติศาสตร์จากเรื่องราวของวีรบุรุษไทย และศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของมวยไทย อย่างต่อเนื่องมากที่สุดของประเทศไทย ครบ 200 รอบ ณ โรงละคร เดอะ สเตจ โกดัง 4 เอเชียทีค ถนนเจริญกรุง เมื่อเร็วๆ นี้

]]>
58452
เคทีซีรับปิดเทอม ชวนคอหนังควงคู่กันชมภาพยนตร์ ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และอีจีวี ใช้เพียง 2013 คะแนนสะสมเท่านั้น https://positioningmag.com/57210 Tue, 17 Sep 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=57210

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่รักการชมภาพยนตร์ ใช้คะแนนสะสม Forever Rewards จำนวน 2013 คะแนน แลกรับบัตรชมภาพยนตร์ 2 ที่นั่ง พร้อมรับป๊อปคอร์น ขนาด 46 ออนซ์ และน้ำอัดลม 22 ออนซ์ มูลค่ารวม 460 บาท ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และอีจีวี ในรอบปกติ ทุกวัน ทุกรอบ ทุกเรื่อง ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2556

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC Phone โทรศัพท์ 02-665-5000 หรือที่เว็บไซต์ www.ktc.co.th

]]>
57210
ผ่าสูตรปั้น “ฮอร์โมน” สร้างโมเดลใหม่ ธุรกิจทีวี https://positioningmag.com/56000 Wed, 24 Jul 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=56000

เผยสูตรปั้น “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ซีรีส์ไทยแนวใหม่ สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการทีวีด้วยเนื้อหาตีแผ่ชีวิตวัยรุ่นที่หาดูไม่ได้จากฟรีทีวีทั่วไป และออกอากาศในรูปแบบของ “มัลติแพลตฟอร์ม” แบบไม่แคร์สื่อหลัก และการใช้ “โซเชียลมีเดีย” สร้างกระแสและการหารายได้ ทำให้ซีรีส์ชุดนี้กลายเป็นโมเดลให้กับผู้ผลิตรายการที่ต้องจับตา

ยอดบน “ยูทิวบ์” เฉลี่ย 4 ล้านวิวต่อตอน หรือ Episode และดูสดพร้อมกันเกือบ 2 แสนคน และเฉพาะคลิปตัวอย่างของตอนหน้ามียอดคนดู 1 ล้านคน คือตัวเลขล่าสุดของคนดูซีรีส์ “ฮอร์โมน” ที่ออกอากาศมาจนถึงวันนี้ ยังไม่รวมกระแสบนเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ที่พูดถึงซีรีส์เรื่องนี้ ในวันเสาร์อาทิตย์ที่เป็นช่วงออกอากาศ ทำให้แฮชแท็ก #HormonesTheSeries ติดอันดับแรกของ Thaitrend เว็บจัดอันดับทวิตเตอร์ของไทย เป็นตัวเลขที่ยืนยันกระแสความแรงของ “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ที่คนดูบอกต่อกันจนกลายเป็นซีรีส์ฮิตติดทั่วบ้านทั่วเมือง

ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับผลิตละคร ทั้ง “เนื้อหา” แตกต่าง และรูปแบบของการออกอากาศผ่านสื่อ และการสร้างกระแสผ่าน “โซเชียลมีเดีย” มาใช้เป็นส่วนผสมได้ลงตัว ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับจากค่ายจีทีเอช และบริษัทนาดาว บางกอก บอกกับ POSITIONING ว่า การตอบรับที่ได้มาจาก “เนื้อหา” ที่นำชีวิตวัยรุ่นยุคนี้มาตีแผ่ให้เห็นทุกแง่มุม ที่แตกต่างหาไม่ได้จากการดูในฟรีทีวีทั่วไป เพื่อมาออนแอร์ในช่องจีเอ็มเอ็ม วัน ให้ช่องรายการในทีวีดาวเทียมของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

โดยมีนักแสดงวัยรุ่นในสังกัดจีทีเอช และนาดาวบางกอก ที่ย้งดูแลอยู่ ทั้งที่คุ้นเคยดี พีช พชร, แพตตี้ อังศุมาลิน และนักแสดงใหม่ ทั้ง 9 คน เป็นตัวแทนของวัยรุ่นหลากหลายรูปแบบ ใช้วิธีสัมภาษณ์นักแสดง ดูการใช้ชีวิต เพื่อน ครอบครัว เพื่อพัฒนามาเป็นคาแร็กเตอร์ของตัวละคร ย้งบอกว่า วิธีนี้ ให้นักแสดงได้บทที่ใกล้เคียงกับตัวเอง แสดงแล้วจึงไม่ฝืน หรือต้อง “จูน” กันมาก คนดูรู้สึกอินไปกับตัวละครได้ไม่ยาก

การเลือกนำเสนอชีวิตของวัยรุ่นที่เป็นชนชั้นกลางในซีรีส์นี้ ย้งมองว่า เป็นคนกลุ่มใหญ่ของสังคม เขาตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมของวัยรุ่นยุคนี้ ไม่ได้ “สุดโต่ง” ไปด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ได้อินดี้จ๋า วัยรุ่นยุคนี้ ดูละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ และดูฮอร์โมนได้ในเวลาเดียวกัน “ปัญหาเด็กในชุมชนแออัดที่ติดยาเสพติดเวลานี้ ไม่ใช่กลุ่มใหญ่ของคนในสังคมอีกต่อไปแล้ว กลุ่มวัยรุ่นชั้นกลางที่ถูกล่อลวงให้เสพยาไอซ์ เพื่อให้ผอม คือเด็กกลุ่มใหญ่ที่กำลังประสบปัญหา หรือวัยรุ่นตีกันก็ไม่ได้มีแต่เด็กช่างกล แต่เป็นเด็กโรงเรียนเอกชนของลูกคนรวยตามสยามสแควร์ กลุ่มคนชั้นกลางเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสูงในสังคม นั่นคือสิ่งที่ผมอยากเล่าเรื่องปัญหาของวัยรุ่นกลุ่มนี้”

นอกจาก “เนื้อหา” การเล่าเรื่องที่เสนอชีวิตวัยรุ่นแบบตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องครอบครัว เพื่อน การเรียน ความรัก ผ่านตัวละครที่แตกต่างกัน9 คน โดยไม่ตัดสินว่าผิดหรือถูก แต่ให้ไปคิดต่อ ทำให้วัยรุ่นรู้สึกใกล้ตัว จนเกิดการบอกต่อและขยายในวงกว้าง ผู้ปกครอง ครู และยังขยายไปสู่คนทั่วไป

ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ การใช้สื่อโซเชียลมีเดียมาใช้โปรโมตอย่างเป็นระบบ ย้งบอกที่มาว่า ทั้งจีทีเอชและจีเอ็มเอ็ม วัน ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทำซีรีส์มาก่อน งบโปรโมตก็ไม่มี ก่อนซีรีส์ออนแอร์ เขาจึงแก้ปัญหาด้วยการใช้ “โซเชียลมีเดีย” เพราะใช้เงินไม่มาก ซึ่งตัวย้ง ทีมนักแสดง ล้วนแต่มีอินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ไว้คุยกับแฟนประจำอยู่แล้ว มาผสมกับสื่อออนไลน์ เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ของจีทีเอช การร่วมมือกันโปรโมต

ด้วยคอนเทนต์ในแนวทางเดียวกัน ภาพนักแสดง ออกคลิปทีเซอร์ เกิดเป็น “พลัง” จุดติดกระแส “ฮอร์โมน” ขึ้นในโซเชียลมีเดียต่อเนื่อง “พอถึงช่วงออนแอร์ พอดีกับมี Episode 0 แนะนำตัวนักแสดง ที่เน้นให้ดูสนุก และแปลกใหม่ ทำให้คนรอดู กระแสตอบรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอเริ่มออนแอร์ในช่องจีเอ็มเอ็ม วัน เราก็เริ่มวัดเรตติ้งกัน จากช่องที่ไม่เคยติดอันดับท็อป 20 กับเขามาก่อน ออก Episode แรกก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาเป็นอันดับ 7 พอEpisode 2 ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 และขึ้นมาเป็นอันดับ3 ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็เริ่มเห็นทาง” การใช้สื่ออนไลน์ คุยกับแฟนๆ ทั้งตัวย้งและนักแสดง จึงถูกนำมาใช้ต่อเนื่อง เกิดกระแสบอกต่อ จากที่อยู่ในโซเชียลมีเดียเริ่มกระจายสู่คนข้างนอกให้มาสนใจ

ส่วนการออกอากาศช่วงแรก มีเฉพาะช่องจีเอ็มเอ็ม วัน และเว็บไซต์ ย้งบอกว่า ไม่คิดจะออนแอร์บนยูทิวบ์ จนมาเจอปัญหาเว็บล่ม เพราะรองรับได้แค่ 4,000 คน พอเว็บล่ม คนดูเริ่มด่า จีเอ็มเอ็ม วันจึงต้องเจรจาเพื่อถ่ายทอดสดบน “ยูทิวบ์” “ตอนแรกคิดจะบล็อกด้วยซ้ำ แต่เราคิดกันใหม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เราน่าจะโปรโมตให้คนมาดู และจากที่ผมเคยทำซีรีส์คอฟฟี่ปรินซ์ให้กับทรูวิชั่นส์มาแล้ว รู้ว่าคนที่เขาไม่ได้ดูตั้งแต่ตอนแรก พอมีคนบอกต่อ เขาย้อนกลับไปดูตอนที่ผ่านมา” ปรากฏว่ากระแสคนดูใน “ยูทิวบ์” แรงมาก ผลตอบรับไม่เพียงแค่คนดู แต่ยังรวมไปถึงโฆษณา พอ Episode 3 ที่ได้รับความสนใจจากสินค้าและเอเยนซี่ มาซื้อเวลาช่วงถ่ายทอดสดบน ยูทิวบ์ ทำให้มีโฆษณา 8 ชิ้น เต็มทั้ง 8 สลอต ตลอดไปถึง 2 สัปดาห์ รวมถึงโฆษณาในช่อง ทั้งในช่อง จีเอ็มเอ็น วัน และในเพลย์ชาแนล ที่เป็นการฉายรีรัน

 

 

ฉีกโมเดลทีวีแบบเดิม ก่อนหน้านี้ “ย้ง” เคยถูกตั้งคำถามว่า การออกอากาศแค่ 45 นาที ตอน 4 ทุ่ม แค่ครั้งเดียวใน 1สัปดาห์ จะไปรอดได้อย่างไร ในเมื่อศาสตร์ของการทำละครไทยในฟรีทีวีทุกวันนี้ ที่ต้องออกอากาศวันละ 2-2.30 ชั่วโมง 3 วันติดต่อกัน จึงจะดึงคนดูไว้ได้ ย้ง คิดต่าง เขาเลือกแนวเดียวกับ “ซีรีส์” ต่างประเทศ เล่าเรื่องให้เร็วและเข้มข้น เมื่อเนื้อหาเข้มข้น บวกกับการทิ้งค้างเพื่อเปิดปมในตอนหน้า ทำให้คนดูไปพูดต่อ ส่งต่อไปถึงสัปดาห์หน้า พฤติกรรมคนดูในยุคโซเชียลมีเดียก็สำคัญ ยุคนี้คนดูละครไปก็เมนต์บนเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ย้งและเหล่านักแสดงจึงมีหน้าที่ ร่วม “เมนต์” กับคนดู กระแสก็ยิ่งแพร่กระจาย จากเดิมที่ยอดแฮชแท็ก #HormonesTheSeries สูงมากตอนสี่ทุ่ม แต่ยอดสูงพุ่งมาตั้งแต่เช้าวันเสาร์ หลังจากออนแอร์สดคืนวันเสาร์ และนำมารีรันต่อในวันอาทิตย์ พอถึงวันจันทร์กระแสเมาท์ “ฮอร์โมน” ถูก “เมาท์” ต่อในโรงเรียน กระแสถูกเลี้ยงต่อด้วยการปล่อย “ทีเซอร์” Episode ตอนถัดไป วัยรุ่นที่ดูฮอร์โมน ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ แต่ทุกพื้นที่ที่ออนไลน์ได้ และเมื่อฮอร์โมนถูกพูดถึงมากขึ้น การบอกต่อยิ่งกระจาย จากวัยรุ่นมาสู่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู นักศึกษา และคนทำงาน “อิน” ซีรีส์นี้ เพราะทำให้ย้อนยุคนึกถึงอดีต เมื่อกระแสถูกส่งไป นักเขียน ศิลปิน นักการตลาด ที่จัดเป็น “อินฟลูเอ็นเซอร์” กระแสฮอร์โมน ก็เลยเข้าสู่แมสแบบเต็มตัว เมื่อก่อนฟรีทีวีเป็นชาแนลใหญ่ ที่จะทำโปรดักชั่น แต่ดาวเทียมไม่มีงบให้ทำ แต่ฮอร์โมน พิสูจน์แล้ว่าไม่เสมอไป “ถ้าเนื้อเรื่องดี โปรดักชั่นถึง” สู้ฟรีทีวีได้สบาย ฮอร์โมนซีรีส์นี้ใช้งบลงทุนตอนละ 1 ล้าน ตัวเลขนี้ถือว่าเยอะสำหรับรายการในทีวี แต่ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการผลิตภาพยนตร์ ที่ใช้พลังน้อยกว่า และไม่ยากเท่า “ซีรีส์สอง จึงอยู่ระหว่างพูดคุยกันว่าจะทำต่อ และจะเพิ่มงบผลิตได้แค่ไหน โฆษณาเองก็ไม่ได้เป็นปัญหา มีรายได้ทั้งจากไทร์อิน ช่วงออนแอร์สดในยูทิวบ์” เพราะผลตอบรับที่ได้จากซีรีส์แรก ทั้งแบรนด์อะแวร์เนสของช่องจีเอ็มเอ็ม วัน รายได้โฆษณาจากถ่ายทอดสดบนยูทิวบ์ จากรีรันในช่องเพลย์ชาแนล ตัวนักแสดงที่มีแบรนด์ติดต่อให้เป็น “พรีเซนเตอร์” คาแร็กเตอร์ งานละคร อีเวนต์ อีกเพียบ ผ่าสูตรสำเร็จ ในขณะที่ธาม เชื้อสถาปนสิริ นักวิชาการ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) มองว่า จีเอ็มเอ็ม เป็น “นิวคัมเมอร์” ที่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการทีวี ด้วยโมเดลใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในฟรีทีวี จากคอนเทนต์ที่แตกต่าง รูปแบบ การออกอากาศ และใช้สื่อโปรโมต ความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้มาจากยุทธศาสตร์ 4 ด้าน คือ 1.เนื้อหา ถือว่าเป็น King เนื้อหาเป็นซีรีส์ หาดูไม่ได้ในฟรีทีวี และในเคเบิลทีวี ซึ่งยังไม่มีใครกล้าทำแนวนี้ ผู้ชมที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นชอบเนื้อหาภาพยนตร์ที่เป็นซีรีส์ และเนื้อหาไม่สอนตรงๆ อย่างที่เคยมีมาก่อน นำเสนอผ่านตัวละคร และให้วัยรุ่นคิดเอาเองจากบทบาทของตัวละครแต่ละตัว ทำให้โดนใจเด็กวัยรุ่น และ ผู้ชมที่เคยเป็นวัยรุ่น รวมทั้งมีการจบเรื่องที่เหมือนกับภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่ไม่สรุปตอนจบ 2.ใช้กลยุทธ์ Multi Platform ออกอากาศทั้งในออนไลน์ (Online), ออนแอร์ (On Air), ออน อีเวนต์ (On Event) เริ่มตั้งแต่ 1.พรีออนแอร์ (Pre On-Air) 2.ออนแอร์ (On-Air) 3.โพสต์ออนแอร์ (Post On-Air) 3.ช่วงเวลาออกอากาศ กลางคืนหลัง 4 ทุ่ม เป็นเวลาที่ดี เลี่ยงเวลาไพรม์ไทม์ (Prime time) คือ ในช่วงละครของฟรีทีวี 4.วางแผนการตลาด สร้างการรับรู้ให้กับผู้ชมในโลกโซเชียลมีเดีย ใช้โซเชียลมีเดียเป็นสื่อในการสร้างกระแสไวรัล ตั้งแต่ก่อนออกอากาศ ปล่อยคลิปหลังออกอากาศไปแล้ว ให้คนดูย้อนหลัง ดึงความสนใจให้ดูย้อนหลัง ก็ให้ผู้ชมรอตอนออกอากาศจริง ในช่องจีเอ็มเอ็ม แซท จากนั้นสร้างกระแสการพูดคุยในระหว่างการออกอากาศให้เกิดขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย ปรากฏการณ์ฮอร์โมน จึงเป็นการกลยุทธ์การตลาด “มัลติแพลตฟอร์ม มาร์เก็ตติ้ง (Multi Platform Marketing) คือใช้การตลาดแบบไม่ต้องแคร์สื่อ ไม่ต้องสนใจสื่อกระแสหลัก แต่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นสื่อในการสร้างกระแส มาช่วยสร้างเรตติ้งเมื่อถึงเวลาที่ฮอร์โมนออกอากาศจริงในจีเอ็มเอ็ม แซท”

 

 

บทเรียน “เสือหลับ” ฟรีทีวี ธามมองว่า ความสำเร็จของซีรีส์ฮอร์โมนจะส่งผลให้ เสือหลับอย่าง ช่อง 7 จะลำบาก หากยังไม่ปรับยุทธศาสตร์ เพราะกลุ่มคนดูช่อง 7 เป็นคนต่างจังหวัด อายุ 40-50 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชมที่ไม่ถนัดใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้การปรับเนื้อหาเข้าสู่โซเชียลมีเดียทำได้ยาก แม้ว่าช่อง 7 จะมีเว็บไซต์ แบงกะบู www.bangaboo.tv แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ติดตลาด เพราะเน้นรายได้มากกว่าคนดู ซึ่งจะดูได้ก็ต้องเสียเงินเข้าไป และ มีโฆษณาคั่น เรียกว่า เป็นรูปแบบที่ไม่เหมาะกับกลุ่มผู้ชมในโลกโซเชียลมีเดีย ฟรีทีวีต้องปรับตัว ซีรีส์ฮอร์โมนยังสะท้อนว่า การสร้างเนื้อหาให้ออกอากาศได้เฉพาะในทีวีเพียงอย่างเดียว หรือ Single Format เหมือนในอดีตคงไม่ได้แล้ว ต้องคำนึงถึงการออกในออน์ไลน์ หรือ “เสพเรื่องเดียวกัน แต่ต่างแพลตฟอร์ม” ในต่างประเทศ การทำทีวีจะมีสูตร คือ ผลิตเนื้อหาให้ได้ 120% โดย 100% นำไปออกอากาศในช่องทีวี และ อีก 20% พร้อมออกออนไลน์ และใช้กลยุทธ์การตลาด Viral มาใช้กับ Content โดยช่วงแรกจะต้องปล่อยเบื้องหลังการถ่ายทำ,คำหลุดๆ เพื่อเรียกน้ำย่อย และทำให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก หรือเวิร์ด ออฟ เมาท์ (Word of Mouth) “ฮอร์โมน” จึงเป็นภาพยนตร์ที่เดินตามสูตรความสำเร็จการตลาด ที่เนื้อหาผลิตออกมาเพื่อออกอากาศในช่องทีวี 100% และอีก 20% มีเนื้อหาพร้อมออกออนไลน์ และนี่คือ ปรากฏการณ์ “ฮอร์โมน” ที่สะท้อนถึง โมเดลใหม่ของการผลิตรายการทีวี ในรูปแบบใหม่ การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในการออกอากาศ การโปรโมต ตลอดจนการสร้างรูปแบบของรายได้ใหม่ ที่ต้องจับตา

]]>
56000
GTH 1 แบรนด์ 2 คนบน LINE https://positioningmag.com/14946 Fri, 12 Oct 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14946

ค่ายหนัง GTH ตัดสินใจเป็น 1 ในสมาชิก Official LINE  หลังจากได้รับการติดต่อจากผู้บริหารชาวเกาหลีของ LINE ด้วยเหตุผลว่า ทำให้ GTH มีช่องทางสื่อสารกับผู้ชมของ GTH ส่วน LINE ก็เลือก GTH ค่ายหนังอันดับ 1 ของวัยรุ่นไทย จากการเสิร์ชแล้วพบว่าเรื่อง กวน มึน โฮ ได้รับความนิยมอย่างมาก
 
นอกจากค่าย GTH แล้ว LINE ยังขอให้ค่ายเลือกดาราชายและหญิงอย่างละ 1 คน มาทำ Official LINE ซึ่งทางค่ายก็เลือก เต๋อ-ฉันทวิชช์ กับ โอปอล์-ปาณิสรา ด้วยเหตุผลว่าทั้งสองคนเป็นดาราชาย-หญิงที่แทบจะเป็นโลโก้ของ GTH อีกทั้งยังเป็นคนที่มีฐานแฟนคลับในโซเชี่ยลมีเดีย และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ทำให้คอนเทนต์ที่ปรากฏในโซเชี่ยลมีเดียมีความน่าสนใจ

เบื้องหลังดีลนี้เกิดขึ้นจากการที่ทีมของ LINE ต้องการให้กลุ่มแฟนคลับของ GTH หันมารู้จัก LINE มากขึ้น ไพโรจน์ เทวินบุรานุวงศ์ Head of Marketing & Communication, GTH เล่าว่า “LINE ต้องการศิลปิน ดารา หรือค่ายหนังที่มีฐานแฟนคลับเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่คนที่ทำการตลาดแบบ Mass ตอนที่ GTH ทำก็มีบริษัทอื่นที่สนิทกันในเครือแกรมมี่ติดต่อไป แต่ LINE ยังขอไม่ทำด้วย เพราะ LINE มองตัวเองว่าเป็น Media แล้วบริษัทนั้นก็เป็น Media เหมือนกัน ถึงจะเป็นสื่อคนละประเภทก็เถอะ แต่ LINE ก็ไม่เอา นี่เป็นวิธีคิดของเขา”

“GTH ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร LINE เองก็ไม่ได้จ่ายอะไรให้เรา ข้อตกลงถือว่า Win-Win หมายถึง LINE เองก็ใช้ฐานแฟนของ GTH ให้มารู้จักและใช้ LINE มากขึ้น ส่วนเราเองก็มองว่า LINE เป็นช่องทางที่น่าสนใจ ก็เป็นสื่อที่คนใช้เยอะมาก เพื่อนๆ ที่อยู่ในคอนแทคเราก็ใช้กันหมด” 

และหลังจากที่ใช้ Official LINE ได้ 2 เดือนยอดสมาชิกของโอปอล์ก็กลายเป็น Official LINE ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในประเทศไทย มีสมาชิกประมาณ 2.6 แสนคน และจากการวางระบบภายในของ LINE ทำให้ LINE และ GTH ทราบถึงข้อมูลของผู้ที่มาเป็นสมาชิก Official LINE เท่าที่ผู้เล่นคนนั้นกรอกข้อมูลไว้กับ LINE ไปด้วย ทำให้ GTH ทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นของสมาชิก ซึ่งตอนนี้การใช้ Official LINE ยังอยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้ ว่าจะเอามาใช้ประโยชน์สูงสุดได้ด้วยวิธีไหน โดย GTH มองว่า LINE น่าจะเป็นอีก 1 มีเดียที่ทำหน้าที่ต่างจากแฟนเพจหรือทวิตเตอร์ที่ GTH จะใช้ทั้งหมดให้เป็นประโยชน์ในเวลาเดียวกัน

การบริหารคอนเทนต์บน LINE ของ GTH ถือว่าอยู่ในขั้นเรียนรู้ ทีมงานออนไลน์ของ GTH ที่มีอยู่ 5 คน กำลังศึกษาว่าจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร ตอนนี้ใช้เป็นเหมือนการส่งข้อความประชาสัมพันธ์ไปก่อน โดยพยายามจะจำกัดข้อความที่ส่งไม่เกินวันละ 2 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม การใช้ Official LINE ในเบื้องต้นนี้ ตรงกับเวลาโปรโมตหนังฟอร์มยักษ์ของค่ายเรื่อง “รัก 7 ปี ดี 7 หน” ทำให้เวลาที่ดาราในเรื่องเดินสายโปรโมตหนังกับรายการบันเทิงใด GTH ก็ประชาสัมพันธ์รายการนั้นไปด้วย ทำให้ข้อความใน Official LINE ของ GTH มีมากกว่า Official LINE อื่นๆ

พัฒนาการขั้นต่อไปของ LINE กับ GTH คือการนำเอาคาแร็กเตอร์ของดาราในสังกัดมาทำเป็นสติ๊กเกอร์ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นคาแร็กเตอร์ของ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ที่มีความกวนแบบน่ารัก นอกจากนี้ก็จะเอาวลีเด็ดจากหนังของค่ายที่ผู้ชมประทับใจมาออกแบบสติ๊กเกอร์เช่นกัน ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาโดยยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์ฟรีหรือว่าสร้างรายได้จากค่าดาวน์โหลด แต่รับรองว่าแฟน GTH ต้องได้เห็นสติ๊กเกอร์จากค่ายหนังรายนี้แน่ๆ

นอกจากนี้ยังมีความพยายามของแบรนด์อื่นๆ ที่อยากเข้ามาใช้พื้นที่บน Official LINE ของ GTH ไพโรจน์ยังมองว่าจะไม่ใช้พื้นที่นี้ น่าจะให้เพื่อกิจกรรมของ GTH เท่านั้น ถ้าหากว่าจะพูดถึงแบรนด์อื่นก็จำกัดแค่เพียงแบรนด์ที่เป็นสปอนเซฮร์ของหนังอยู่แล้ว และมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหนังของ GTH ที่เข้าฉายในช่วงเวลานั้นเท่านั้น จะไม่ใช้เป็นช่องทางโปรโมตหรือรับ Tie-in ให้กับแบรนด์อื่นเด็ดขาด เพราะจะทำให้สมาชิก Official LINE ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

]]>
14946
เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จับมือ อีซูซุ เผย “All-new Isuzu D-Max SF 3D Soundcheck" https://positioningmag.com/55748 Fri, 14 Sep 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55748

 

เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จับมือ อีซูซุ สร้างปรากฏการณ์ใหม่สื่อในโรงภาพยนตร์ กับ “All-new Isuzu D-Max SF 3D Soundcheck ภาพและเสียงทะลุมิติ” ซาวด์เช็ครูปแบบดิจิตอล 3 มิติครั้งแรกในประเทศไทยเต็มอิ่มทุกอรรถรสแห่งการชมภาพยนตร์ พร้อมตอกย้ำเป็นผู้นำเทรนด์การผลิตสื่อในโรงภาพยนตร์สมบูรณ์แบบทั้งภาพและเสียง ที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้ชื่นชอบการชมภาพยนตร์อย่างแท้จริง

คุณสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่าซิตี้ จำกัด เผยว่า “เป้าประสงค์ในการทำกลยุทธ์บริหารสื่อในโรงภาพยนตร์ของเอส เอฟ คือการตอบโจทย์คู่ค้าในการเป็นช่องทางสื่อสารให้ถึงผู้บริโภคที่มาชมภาพยนตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และคิดค้นสื่อรูปแบบใหม่ๆ ที่จะก่อเกิดประโยชน์เพื่อเพิ่มเป็น Value Added ให้กับคู่ค้าได้ รวมถึงการให้ความสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีทั้งระบบภาพและเสียงที่จะตอบสนองอรรถรสในการชมภาพยนตร์ของลูกค้าอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะการชมภาพยนตร์ในรูปแบบดิจิตอล 3 มิติซึ่งเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความนิยมเป็นอย่างมากและมีแนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้เอส เอฟ ไม่หยุดยั้งที่จะสรรหาความล้ำสมัยเพื่อมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้าคอหนัง โดยมุ่งมั่นเดินหน้าขยายสาขาพร้อมเพิ่มโรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าสิ้นปี 56 นี้จะมีโรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติเพิ่มเป็นกว่า 200 โรงทั่วประเทศ สอดรับกับแนวคิดที่ เอส เอฟ มุ่งพัฒนาสื่อในโรงภาพยนตร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อให้กับคู่ค้าด้วยการสร้างความแตกต่างและมุ่งเน้นการจดจำ เพื่อสร้างให้สินค้าและบริการเหล่านั้นเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

สำหรับความร่วมมือกับตรีเพชรอีซูซุเซลส์ในการทำ “All-new Isuzu D-Max SF 3D Soundcheck ภาพและเสียงทะลุมิติ” ครั้งนี้ นับเป็นการต่อยอดการใช้สื่อในโรงภาพยนตร์ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงลูกค้าคอหนังทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ในรูปแบบดิจิตอล 3 มิติ ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมสื่อซาวด์เช็คเหนือขึ้นไปอีกระดับ สัมผัสได้ถึงความสมบูรณ์แบบทั้งภาพและเสียงครั้งแรกในประเทศไทย อีกทั้งยังสามารถสื่อสารในเชิง Branding ของอีซูซุได้อย่างครบถ้วนทั้งในเชิงการใช้งานและไลฟ์สไตล์ โดยได้นำเสนอให้เห็นถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ปิกอัพ “All-new Isuzu D-Max” ผ่านรายละเอียดของภาพที่เป็น 3 มิติ ผสมผสานกับเสียงจังหวะดนตรีที่บ่งบอกความเป็นไลฟ์สไตล์ถ่ายทอดผ่านระบบเสียงคุณภาพรอบทิศทาง สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะความเป็นรถปิกอัพเพื่อคนทันสมัยได้อย่างลงตัว ซึ่งลูกค้าสามารถชม All-new Isuzu D-Max SF 3D Soundcheck แบบทะลุมิติทั้งภาพและเสียงได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล 3 มิติ ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ ทุกสาขาทั่วประเทศ”

“เราเชื่อมั่นว่าการพัฒนาสื่อโรงภาพยนตร์ในรูปแบบใหม่นี้ นอกจากจะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าคอหนังได้อย่างชัดเจน ตรงกลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มมูลค่าสินค้าในเชิง Innovative ให้กับคู่ค้าได้อีกด้วย” คุณสุวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย

ทางด้าน คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “อีซูซุ มีแนวคิดในการใช้กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างในการทำการตลาด โดยเฉพาะกับรถปิกอัพ “All-new Isuzu D-Max” ที่เรียกได้ว่าเป็นรถปิกอัพยอดนิยมที่สุดในขณะนี้ นอกจากจะมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สมรรถนะอันยอดเยี่ยม เหมาะกับการเป็นไลฟ์สไตล์ปิกอัพอย่างแท้จริง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน เช่น กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มนักธุรกิจ วัยเริ่มต้นทำงาน ซึ่งสื่อในโรงภาพยนตร์ เรามองว่าเป็นช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นได้อย่างดี โดยอีซูซุกับเอส เอฟ นั้น ก็ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ มีการทำการตลาดผ่านโรงภาพยนตร์หลายอย่าง เช่น ฉายภาพยนตร์โฆษณาในโรงภาพยนตร์, การทำ Soundcheck และการจัดรอบฉายภาพยนตร์พิเศษสำหรับลูกค้าอีซูซุ ครั้งนี้ก็เช่นกัน การที่   อีซูซุได้ทำภาพยนตร์ “All-new Isuzu D-Max SF 3D Soundcheck ภาพและเสียงทะลุมิติ”  ในรูปแบบ 3 มิติครั้งแรกในเมืองไทยนี้ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมาก เหมาะกับรถปิกอัพ “All-new Isuzu D-Max”

สำหรับการจัดทำภาพยนตร์ Soundcheck 3 มิติ ครั้งนี้ อีซูซุเลือกรถปิกอัพ “All-new Isuzu D-Max V-Cross 4×4” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า นอกจากจะเป็นรถที่เท่แล้ว เรายังมีพรีเซ็นเตอร์เป็นพระเอกหนุ่มสุดฮอตของวงการบันเทิงเมืองไทยขณะนี้ คือ “คุณบอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ซึ่งทั้งรถและทั้งพรีเซ็นเตอร์ต่างแสดงถึงภาพลักษณ์ “Real & Cool” หรือ “เท่ ลุย ลงตัว” ช่วยเติมเต็มรูปแบบการดำเนินชีวิตให้มีสีสันมากขึ้น ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเอส เอฟ เช่นเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการสร้าง “All-new Isuzu D-Max SF 3D Soundcheck ภาพและเสียงทะลุมิติ” ครั้งนี้  ซึ่งที่ผ่านมาอีซูซุก็ร่วมมือกันกับเอส เอฟ ในการทำภาพยนตร์โฆษณาในเวอร์ชั่นปกติมาบ้างแล้ว แต่สำหรับครั้งนี้ได้เน้นออกมาในรูปแบบ 3 มิติ เน้นความสมบูรณ์แบบของภาพและเสียงให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยพร้อมเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านนี้เป็นอย่างมาก และอีซูซุก็ยินดีเป็นอย่างมากที่เอส เอฟ ได้เลือกภาพยนตร์โฆษณาของอีซูซุ เพื่อให้ลูกค้าได้เต็มอิ่มกับระบบภาพและเสียงแบบทะลุมิติอย่างสมบูรณ์แท้จริง”

 

 

]]>
55748
CAT ร่วมกับ เอส เอฟ พร้อมมอบความบันเทิงเพื่อคอหนังตัวจริงเปิดโรงภาพยนตร์ “CAT First Class Cinema” https://positioningmag.com/55670 Wed, 05 Sep 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55670

บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)หรือ CAT ร่วมมือกับ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด ต่อยอดกลยุทธ์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มาร์เก็ตติ้ง(Entertainment Marketing) เต็มขั้น เปิดตัวโรงภาพยนตร์สุดหรูระดับเวิลด์คลาส ภายใต้ชื่อ “CAT First Class Cinema” ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ความบันเทิงแบบไร้ขีดจำกัดของลูกค้าคอหนังตัวจริง

นายสมพล จันทร์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจบรอดแบรนด์ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีนี้ CAT ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำด้านการวางโครงข่ายที่ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ทางด้านการสื่อสารของคนไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่องตลอด 30 ปี นอกจากเราจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสารให้มีความทันสมัย การบริการที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมและสอดคล้องกับความต้องการของ ภาคธุรกิจและการใช้งานส่วนบุคคลมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีและการมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าคนสำคัญของเราในทุกรูปแบบ ล่าสุดเราได้จับมือกับพันธมิตรธุรกิจโรงภาพยนตร์ชั้นนำของเมืองไทยอย่าง เอส เอฟ ซีเนม่า ในการมอบความบันเทิงที่มาพร้อมกับความหรูหราอย่างมีระดับ รวมถึงบริการสุดพิเศษ เพื่อเพิ่มอรรถรสในทุก ๆ การชมภาพยนตร์แบบไร้ขีดจำกัด 

สำหรับความร่วมมือกันของ CAT และเอส เอฟ ซีเนม่าในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดมิติงานด้านบริการสำหรับลูกค้าที่เน้นทั้งด้านไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการชมภาพยนตร์ที่ถือเป็นไลฟ์สไตล์ยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ เราจึงเลือกโรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม9 ในการรังสรรค์โรงภาพยนตร์สุดหรูที่มีความสมบูรณ์แบบสูงสุด และอยู่ในทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร พร้อมกันนี้เพื่อให้ผู้ชมได้รับรู้ถึงจุดยืนขององค์กรในฐานะ “ผู้วางโครงข่ายและรักษาเสถียรภาพการสื่อสารของไทย” ตลอดจนรับรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่หลากหลายของ CAT จึงได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในโรงภาพยนตร์ “CAT First Class Cinema” ในชื่อ “มองการณ์ไกล” ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อทุก ๆ ความบันเทิงให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากรูปแบบบริการใหม่ ๆ เช่นกัน

ทางด้านนายสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ บ.เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า “เอส เอฟ มีความตั้งใจที่จะส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการพัฒนามาตรฐานคุณภาพและการบริการ ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพื่อเป็นช่องทางส่งผ่านความบันเทิงทุกรูปแบบมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้ไว้วางใจให้เอส เอฟ ซีเนม่า เป็นช่องทางในการสนับสนุนการใช้สื่อในโรงภาพยนตร์แบบครบวงจรเป็นครั้งแรก อาทิ การจัดฉายสื่อโฆษณาภายในโรงภาพยนตร์ตลอดทั้งปี การใช้สื่อต่าง ๆ ในพื้นที่ของโรงภาพยนตร์ รวมถึงการเป็นเนมมิ่งสปอนเซอร์โรงภาพยนตร์เฟิร์สคลาสสุดหรูระดับเวิลด์คลาส โดยส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และการสร้างแบรนด์ดิ้งร่วมกันอีกด้วย 

โรงภาพยนตร์ “CAT First Class Cinema” ถือเป็นโรงภาพยนตร์เฟิร์สคลาสสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งระบบฉาย และระบบเสียง ที่มาพร้อมกับการออกแบบอย่างหรูหรา ให้ความรู้สึกพิเศษสุดด้วยเก้าอี้นั่งดีไซน์เยี่ยมที่สามารถปรับเอนได้ 180 องศา ด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเรียกพนักงานบริการได้ทันทีเมื่อมีปัญหา รวมไปถึงบริการผ้าห่มแสนสะอาด พร้อมเสิร์ฟป๊อบคอร์น และเครื่องดื่มแบบไม่จำกัดตลอดการชมภาพยนตร์ และเหนือระดับด้วยพื้นที่รับรองระหว่างรอรอบฉายภาพยนตร์บริเวณหน้าโรงแบบส่วนตัวกับ CAT First Class Lounge สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ให้เอนจอยกับอาหาร และเครื่องดื่มที่คัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี นอกจากนี้ลูกค้ายังสะดวกสบายด้วยสถานที่ตั้งที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีพระราม9 ถือเป็นการส่งมอบความสุขที่สามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มรูปแบบ”

เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ความต้องการให้กับลูกค้าในด้านการสื่อสารอย่างสมบูรณ์แบบ ยังได้เตรียมมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ “CAT First Class Cinema” ทุกที่นั่ง ทุกเรื่อง ทุกรอบ สามารถใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจาก CAT ที่บริเวณ CAT First Class Lounge ณ โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า ชั้น 7 เซ็นทรัล แกรนด์ พระราม 9 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SF Call Center 02-268 8888 และ www.sfcinemacity.com

 

]]>
55670
เอส เอฟ มิวสิค ซิตี้ ชวนร่วมร้อง เล่น เต้น กิน ในกิจกรรม “Sealect Tuna สนุกได้ทุกวัน มันส์ได้ทุกคน!!” https://positioningmag.com/55637 Tue, 04 Sep 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55637

เอส เอฟ มิวสิค ซิตี้ และบริษัท ธีร์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ “ซีเล็ค” ร่วมจัดงาน “Sealect Tuna สนุกได้ทุกวัน มันส์ได้ทุกคน!!” เพื่อให้กับลูกค้าได้ร่วมร้อง เล่น เต้น กิน กันอย่างสุดมันส์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ และยังเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ของ ซีเล็ค ทูน่า ด้วยรสชาติหลากหลายถึง 7 ชนิด ที่มาพร้อมกับโลโก้ใหม่และแพคแกจที่เก๋ไก๋ที่ เอส เอฟ มิวสิค ซิตี้ ชั้น 7 ศูนย์การค้ามาบุญครอง

บรรยากาศความสนุกสนานเริ่มต้นขึ้นเมื่อพิธีกรสุดเท่ โบ ธนากร ชวนผู้เข้าแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 ทีมเล่นกิจกรรมกันขึ้นมาจับสลาก สองทีมไหนจับได้คำว่า “ซีเล็ค” รับไปเลยทีมละ 5 คะแนน กิจกรรมต่อไปชื่อว่า “Music Hunt” คัดตัวแทนรอบละ 10 คน และใบ้เพลงพร้อมกันทุกทีม!!  สนุกสนานกันเต็มที่พร้อมกับไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ น้องปันปัน สุทัตตา แขกรับเชิญสุดพิเศษที่มาพร้อมกับเพลงเธอคือของขวัญ ที่งานนี้ร้องเองเต้นเองแบบหน้าใสเสียงใสเล่นเอาลูกค้าเคลิ้มไปตามกัน

ตบท้ายด้วยกิจกรรมการแข่งทำอาหารกับเมนูพิเศษ “พล่าซีเล็คทูน่า” ซึ่งงานนี้ ปัน ปัน โชว์ความเป็นแม่ครัวสุดฤทธิ์เพื่อพิชิตรางวัล SF Entertainment Package และ Gift Set Sealect Tuna ต้องเรียกได้ว่าจบงานนี้ทั้งลูกค้าและดาราอิ่มทั้งท้องอิ่มทั้งใจกันไปเลย ติดตามกิจกรรมดีดีอย่างนี้ที่มีให้เฉพาะลูกค้า เอส เอฟ เท่านั้น!!

เตรียมพบกับเมนูซีเล็คทูน่า เมนูใหม่พิเศษเฉพาะที่ เอส เอฟ มิวสิค ซิตี้ และ เอส เอฟ สไตร์ค โบว์ล ทุกสาขา ได้เร็วๆนี้

]]>
55637