VR – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 28 Jun 2023 01:40:07 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Meta เปิดตัวบริการ Quest+ สำหรับแว่น VR ของบริษัท คิดค่าบริการเดือนละ 7.99 ดอลลาร์ https://positioningmag.com/1435807 Tue, 27 Jun 2023 17:48:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1435807 Meta เจ้าของบริการ Social Network ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือแม้แต่ Instagram ล่าสุดได้ประกาศเปิดตัวบริการ Quest+ ซึ่งเป็นบริการจ่ายเงินรายเดือนสำหรับแว่น VR ของบริษัทแล้ว หลังจากที่ธุรกิจดังกล่าวประสบปัญหาขาดทุนตลอดในช่วงที่ผ่านมา

บริษัทแม่ของ Facebook ได้ประกาศเปิดตัวบริการ Subscription สำหรับแว่น VR ของบริษัทโดยคิดเงินในอัตรา 7.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน และยังมีโปรโมชันถ้าหากจ่ายค่าบริการเป็นรายปีจะอยู่ที่ 59.99 ดอลลาร์ต่อปี โดยจะมีการแถมเกมใหม่บนแพลตฟอร์มให้กับสมาชิกเดือนละ 2 เกม

โดยบริการดังกล่าจะรองรับแว่น VR ของบริษัทหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Quest 2 และ Quest Pro นอกจากนี้ยังพร้อมรองรับแว่นตารุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทคือ Quest 3 ด้วย

ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม้จะมีข่าวบริษัทจะปลดพนักงานจำนวนมากถึง 11,000 คน เนื่องจากบริษัทได้ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่และรวมถึงลดต้นทุนของบริษัท อย่างไรก็ดีในส่วนของพนักงานที่เกี่ยวข้องกับเกมบนแว่น VR ของบริษัทนั้นจะไม่ถูกปลด และจะมีการจ้างพนังานในส่วนดังกล่าวมากขึ้น

นอกจากนี้ Meta เองก็ยังหันมาโฟกัสกับการพัฒนาเกมบน VR เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะว่าปกติแล้วบริษัทจะเน้นไปยังการผลักดันโลกของ Metaverse มากกว่า

ผลประกอบการในไตรมาส 1 ของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจ Reality Labs ที่ใช้พัฒนาเทคโนโลยี AR และ VR ขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 4,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยมากถึง 452,000 ล้านบาท ทำให้คาดว่าการออกบริการสมัครสมาชิกนั้นส่วนหนึ่งทำเพื่อลดการขาดทุนลง

]]>
1435807
ประเมินมูลค่าตลาด ‘Game Metaverse’ อาจสูงถึง 45 ล้านล้านบาทภายใน 10 ปีข้างหน้า https://positioningmag.com/1428459 Tue, 25 Apr 2023 07:30:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1428459 แม้ว่า Metaverse ที่หลาย ๆ คนพูดถึงจะยังดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวและยังไม่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายนักในปัจจุบัน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็มีการประเมินว่าอุตสาหกรรมที่จะเติบโตได้มากที่สุดก็คือ เกม โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2033 ตลาดเกม Metaverse จะมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านเหรียญ เลยทีเดียว

จะเห็นว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกพยายามจะพาตัวเองไปเป็นผู้นำในโลก Metaverse รวมไปถึงบริษัทเกม อาทิ Krafton สตูดิโอของเกาหลีใต้เจ้าของเกมดังอย่าง PUBG ก็เตรียมเปิดตัวเกมแพลตฟอร์ม Metaverse ในปีนี้ โดยมีชื่อย่างไม่เป็นทางการในตอนนี้ว่า Migalnow, การลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญของ Meta และ Epic Games ได้เงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญในการพัฒนาเกมเมตาเวิร์ส

ซึ่งนักวิเคราะห์ของ Globenewswire ได้ประเมินว่า ตลาดเกม Metaverse จะมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านเหรียญ หรือราว 45 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 5.1 พันล้านเหรียญ โดยคาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 38.2% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2023-2033 และ 48% ของตลาดเกมโลกจะประกอบด้วยอุปกรณ์เล่นเกมแบบเมตาเวิร์ส

หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่สร้างการเติบโตของตลาดมาจาก ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากการใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน เนื่องจากแพลตฟอร์ม Metaverse ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ดิจิทัลด้วยการสร้างโลกเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถเล่นเกมที่สมจริง ทำธุรกิจ พูดคุยกัน แบ่งปันสินค้าเสมือนจริง ดูเนื้อหาดิจิทัล และไปที่กิจกรรมเสมือนจริง ทำให้เกิดความเป็นไปได้ทางการตลาดอย่างมหาศาล ส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายที่มากตาม อาทิ การใช้สกุลเงินดิจิทัล และ NFTs

“เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดี บริษัทหลายแห่งกำลังทำงานบนแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อแบบดิจิทัลซึ่งช่วยให้ผู้เล่นหลงทางในโลกเสมือนจริงขณะเล่นเกม การเพิ่มขึ้นของฐานผู้ใช้ของอุตสาหกรรมเกม ความนิยมของเกมที่เล่นแล้วได้เงินและการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AR, VR และ XR คือสิ่งสำคัญบางส่วนที่ช่วยให้ตลาดเติบโต”

หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือ คาสิโนเมตาเวิร์ส ที่บริหารโดย Decentraland ซึ่งสามารถทำเงินได้ถึง 7 ล้านเหรียญ ในช่วง 3 เดือนแรกที่เปิดตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ธุรกิจเกมเมตาเวิร์สยังไม่สามารถเติบโตได้เท่าที่ควรเนื่องจาก ต้นทุนอุปกรณ์ที่สูง ขณะที่ตลาดและตัวเทคโนโลยียังอยู่ในระยะเริ่มต้น ส่งผลให้ผู้บริโภคยังมีมั่นใจที่จะจ่ายเงินกับคนเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่พร้อม นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วย

ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก บางทีตลาด Game Metaverse ในอีก 10 ปีข้างหน้าอาจไปถึงขั้นนั้นก็ได้ โลกเสมือนที่กลายเป็นโลกหลักในการใช้ชีวิต

Source

]]>
1428459
Meta ยังเพิ่มการลงทุนในเกมบน VR อย่างต่อเนื่อง แม้บริษัทจะปลดพนักงานจำนวนมากก็ตาม https://positioningmag.com/1427946 Thu, 20 Apr 2023 02:51:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1427946 สื่อธุรกิจอย่าง Business Insider รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Meta เจ้าของ Platform Social Network อย่าง Facebook และ Instagram ฯลฯ ยังมีการลงทุนในเกมบน VR อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าล่าสุดบริษัทจะมีการปลดพนักงานก็ตาม

แหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนของ Business Insider รายงานว่าทีมงานที่จะไม่ถูกปลดในการปลดพนักงานก็คือทีมงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเกมของบริษัท และแหล่งข่าวรายดังกล่าวยังคาดว่าจะมีการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นหลังจากการปลดพนักงานจบลง

Mark Zuckerberg หัวเรือใหญ่ของ Meta ได้กล่าวว่า ในปี 2023 นี้จะเป็นปีแห่งการสร้างประสิทธิภาพของบริษัท แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นเดียวกัน ซึ่งเป้าหมายของบริษัทในปีนี้คือการเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม ขณะเดียวกันก็ต้องมีประสิทธิภาพทางการเงินที่ดี เพื่อที่จะสามารถทำตามเป้าหมายได้ในระยะยาว และผ่านช่วงเวลายากลำบากได้

สื่อดังกล่าวยังรายงานว่า การมุ่งเน้นมาที่เกมซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งใน Reality Labs นั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับ CEO ของบริษัทอย่าง Mark Zuckerberg แตกต่างกับในช่วงที่ผ่านมาซึ่งตัวเขาเองมีได้พยายามผลักดันโลกของ Metaverse มากกว่าด้วยซ้ำ

โดย CEO รายดังกล่าวพยายามผลักดันแพลตฟอร์ม Horizon Worlds ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย ไปจนถึงการขายของผ่านแพลตฟอร์ม Metaverse ดังกล่าว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากมีผู้ใช้งานน้อย และยังทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นส่งผลทำให้ในท้ายที่สุดบริษัทต้องปลดพนักงานก็ตาม

สำหรับเกมที่บริษัทสนใจที่จะพัฒนานั้นอยู่บนแว่น VR ของ Meta ที่มีชื่อว่า Quest ซึ่งมี App Store ซึ่งมีเกมให้เลือกเล่นมากมาย

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบริษัทยังพยายามที่จะนำเกมชื่อดังอย่าง Call of Duty หรือแม้แต่ Grand Theft Auto เข้ามาสู่แพลตฟอร์ม App Store ของแว่น VR ให้ได้อีกด้วย

]]>
1427946
ก็ยังไม่อิน! ผลสำรวจเผย ‘วัยรุ่นเมกัน’ มีเพียง 4% ที่ใช้งาน ‘VR’ ทุกวัน https://positioningmag.com/1426911 Mon, 10 Apr 2023 04:12:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1426911 จะเห็นว่าตั้งแต่โลกเจอกับการระบาดของ COVID-19 บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกหลายรายมองว่า Metaverse นี่แหละคือ เทรนด์แรงในอนาคต โดยเฉพาะกับ Facebook ที่ลงทุนเปลี่ยนชื่อเป็น Meta เพื่อให้เข้ากับวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัท อีกทั้งยังมีการออกขาย แว่น VR แต่ผลสำรวจกลุ่มวัยรุ่นอเมริกันพบว่า พวกเขาไม่ได้อยากได้แว่น VR ขนาดนั้น

แม้ว่าเทคโนโลยี VR ในปัจจุบันนี้จะดีขึ้นมาก ขณะที่บริษัทไอทีรายใหญ่ของโลกก็พยายามจะพัฒนาฮาร์ดแวร์ชิ้นนี้ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Meta ลงทุนหลายแสนล้านบาท เพื่อพัฒนา Metaverse และมีแผนจะเปิดตัวชุดหูฟัง VR รุ่นใหม่ในปีนี้ หรือแม้แต่ Apple ที่มีแผนจะเปิดตัวชุดอุปกรณ์ VR ในปีนี้เช่นกัน

เพราะจากการผลสำรวจของ Piper Sandler ที่ทำการสำรวจ วัยรุ่นชาวอเมริกันกว่า 5,600 คน กลับพบว่า วัยรุ่นไม่ได้อินกับอุปกรณ์ VR อย่างที่คิด โดย

  • มีวัยรุ่นเพียง 4% เท่านั้นที่ใช้ VR ทุกวัน
  • มี 14% ใช้ VR ทุกสัปดาห์

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าวัยรุ่นจะไม่สนใจที่จะซื้อชุดหูฟัง VR ที่กำลังจะมาถึง โดยมีจำนวนวัยรุ่นถึง 52% ยังไม่แน่ใจ หรือไม่สนใจเทคโนโลยี VR และ มีเพียง 7% เท่านั้นที่วางแผนจะซื้อชุดหูฟัง VR

จากผลสำรวจจะเห็นว่าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ Virtual Reality ยังไม่เป็นที่จับตามองของประชาชนทั่วไป แม้ว่าจะมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายพันล้านดอลลาร์และชุดหูฟังเองก็เริ่มมีราคาถูกลงแล้วก็ตาม ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นที่มักถูกมองว่าเป็นผู้เริ่มใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ กลับยังไม่ให้ความสนใจเทคโนโลยีดังกล่าวเท่าที่ควร

“จากปริมาณการใช้งานที่ยังมีเพียงเล็กน้อยแสดงให้เห็นว่า VR ยังคงเป็นช่วงเริ่มต้นวัน และอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญน้อยกว่าสมาร์ทโฟน” นักวิเคราะห์ของ Piper Sandler กล่าว

อาจต้องรอดูว่า อุปกรณ์ VR ที่ของ Apple และ Meta ที่มีข่าวว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีจะดึงดูดได้มากน้อยแค่ไหน เพราะหากย้อนไปช่วงปลายปี 2563 ที่ Meta ได้เปิดตัวแว่น VR รุ่น Quest 2 แม้จะเป็นผู้นำในด้านการขายในตลาด แต่การจัดส่งในปีที่ผ่านมาก็ลดลง

Source

]]>
1426911
ผู้เชี่ยวชาญ ‘VR’ ลาออกจาก ‘Meta’ เพราะ ‘เบื่อ’ ที่บริษัทเอาแต่เผาเงิน! https://positioningmag.com/1412880 Sat, 17 Dec 2022 16:05:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1412880 John Carmack ถือเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยี VR และผู้ร่วมก่อตั้ง id Software ผู้พัฒนาวิดีโอเกมดังอย่าง Doom ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีหรือ CTO ของ Meta ได้ประกาศ ลาออก เพราะเบื่อที่บริษัทเอาแต่เผาเงินและเดินผิดทาง

John Carmack เป็นที่รู้จักจากการพัฒนาวิดีโอเกมมากมาย รวมถึง Doom, Quake, Wolfenstein 3D และ Commander Keen โดยจุดเริ่มต้นที่เขาได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ Meta นั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2013 โดยตอนนั้น John อยู่กับบริษัท Oculus ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ VR ก่อนที่ Meta หรือ Facebook ในตอนนั้นเข้าซื้อกิจการในปี 2014 ทำให้เข้ากลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ Meta และในปี 2019 เขาก็มารับตำแหน่ง CTO เพื่อจะได้มีเวลาดูแลบริษัท Keen Technologies บริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์

โดย John Carmack ออกมาเปิดเผยว่า Meta มีคนและทรัพยากรจำนวนมหาศาล แต่กลับไปผิดทาง แถมยังเผาเงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายอยู่ตลอดเวลากับแผนก Reality Labs เพื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เช่น ชุดหูฟัง VR และซอฟต์แวร์ สำหรับการไปสู่ Metaverse

“ผมเบื่อที่ต้องต่อสู้ มีหลายอย่างที่ผมไม่พอใจเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนา Metaverse และผมต้องการจะทุ่มเทให้กับบริษัทสตาร์ทอัพของผม”

ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา Mark Zuckerberg ได้ออกมาปฏิเสธว่าเขานั้นทุ่มงบให้กับ Metaverse หรือ Reality Labs มากเกินไป โดยเขาชี้แจงว่า งบลงทุน 80% ยังใช้กับ family of apps หรือ Facebook, Instagram และ Whatsapp อีก 20% ใช้กับแผนก Reality Labs โดยบอกว่า 40% ของทุนนำไปลงกับเรื่องแว่น VR และ 50% ลงทุนกับโครงการที่จะเป็นเรื่องระยะยาว

Source

]]>
1412880
‘Meta’ เตรียมเปิดตัว ‘แว่น VR’ ใหม่ มาพร้อมฟีเจอร์ตรวจจับใบหน้าช่วยให้ ‘อวตาร’ ขยับตามแบบเรียลไทม์ https://positioningmag.com/1397772 Fri, 26 Aug 2022 05:36:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1397772 ชุดแว่น VR ‘Quest 2’ ของ Meta ที่บริษัทหมายมั่นปั้นมือให้เป็นประตูสู่ Metaverse ก็สามารถครองตลาดได้กว่า 90% ตามด้วยแบรนด์ Pico ของ ByteDance ตามข้อมูลล่าสุดจาก IDC ล่าสุด มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอ ก็เปิดเผยว่าเตรียมจะเปิดตัวชุดแว่น VR ใหม่ในเดือนตุลาคมนี้

จากข้อมูลของ IDC แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของชุดแว่น VR ทั่วโลกที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 241.6% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว และ Quest 2 ของ Meta ก็ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของตลาด และในเดือนตุลาคมนี้ Mark Zuckerberg ก็เปิดเผยว่าจะเปิดตัวแว่น VR รุ่นใหม่

โดยแว่นรุ่นดังกล่าวจะมีฟีเจอร์ใหม่ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดยมีระบบตรวจจับใบหน้าและดวงตา ซึ่งเมื่อ ผู้สวมใส่ยิ้มหรือขมวดคิ้ว อวตารในโลก Metaverse ของพวกเขาจะทำตามแบบเรียลไทม์

“การสื่อสารไม่ได้มีแค่การพูดคุยหรือการเขียน แต่มันมีภาษากาย ที่ผู้คนใช้สื่อสารกัน ดังนั้น ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้อวตารสามารถดึงดูดและโต้ตอบได้ดีกว่า” Zuckerberg กล่าว

แม้ว่า Zuckerberg จะยังไม่ได้เปิดเผยถึง ชื่อ ของแว่น VR รุ่นใหม่นี้ แต่มีการคาดการณ์ว่าชุดแว่น VR ที่กำลังจะเปิดตัว ปัจจุบันถูกขนานนามว่า Project Cambria และคาดว่าจะมีราคาอย่างน้อย 800 ดอลลาร์ (ราว 29,000 บาท) แพงกว่าชุดหูฟัง Quest 2 VR ที่มีราคา 399 ดอลลาร์ (ราว 15,000 บาท) และรุ่นเรือธง 499 ดอลลาร์ (ราว 18,000 บาท)

ที่ผ่านมา Meta ลงทุนอย่างหนักใน VR และเทคโนโลยีในอีโคซิสเต็มส์ เพื่อเพิ่มความสมจริง ภายใต้หน่วยธุรกิจ Reality Labs โดยในปี 2021 หน่วยธุรกิจดังกล่าวขาดทุนสุทธิ 1.019 หมื่นล้านดอลลาร์ จากรายรับ 2.27 พันล้านดอลลาร์

มีการคาดการณ์ว่า ตลาดแว่น VR คาดว่าจะเติบโตในปี 2022 โดยคาดว่าจะถึง 13.9 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 26.6% จากปีที่แล้ว แน่นอนว่าคู่แข่งก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะ Apple ก็คาดว่าจะเปิดตัวชุดแว่น VR ของตัวเองด้วยเช่นกัน

Source

]]>
1397772
ถอด 5 กลยุทธ์ ‘AIS Business’ ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘Cognitive Telco’ สู่การเป็น Growth Engine ใหม่ขององค์กร https://positioningmag.com/1382999 Wed, 27 Apr 2022 08:00:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1382999

เป็นเวลา 31 ปีแล้วที่ ‘เอไอเอส’ (AIS) อยู่คู่กับองค์กรธุรกิจไทย จากที่ช่วงแรกให้บริการเฉพาะด้านโมบายมาสู่ดิจิทัลเซอร์วิส ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์, GPS Tracing, โซลูชั่น IoT, 5G จนมาสู่ยุคของ AI, Machine Learning และ Metaverse ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี Positioningmag จะพาไปเจาะลึกกลยุทธ์ในฝั่งของ เอไอเอส บิสซิเนส (AIS Business) ที่ต้องปรับตัวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง รวมถึงวิสัยทัศน์ใหม่ ‘Cognitive Telco’


จากปั้น Infra สู่ Vertical Solutions

ในแต่ละปีเอไอเอสใช้เงินลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานปีละกว่า 30,000-35,000 ล้านบาท จนปัจจุบัน เอไอเอสมีสถานีฐาน AIS 5G กว่า 19,000 สถานีฐานครอบคลุม 76% ของประชากรทั่วประเทศ และในพื้นกรุงเทพฯ ปริมณฑล สามารถครอบคลุมถึง 99% ส่วนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ครอบคลุมถึง 90%

สำหรับปีนี้ เอไอเอสตั้งเป้าจะขยายสัญญาณ 5G ให้ครอบคลุมประชาชนคนไทยให้ได้ 85% และเมื่อสัญญาณ 5G เริ่มครอบคลุมการใช้งานแล้ว AIS Business จะเริ่มเน้นที่ 5G Vertical Solutions หรือการพัฒนา 5G ในแนวดิ่ง เป็นการใช้ 5G เจาะลงลึกเฉพาะอุตสาหกรรมนั้น ๆ เพื่อประโยชน์ในการทำ Digitization อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยี AR, VR, Data Solutions เป็นต้น


5 กลยุทธ์รับวิสัยทัศน์ Cognitive Telco

ในส่วนกลยุทธ์ของ AIS Business ปีนี้จะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Cognitive Telco หรือการขยับขึ้นไปเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ โดยจะประกอบไปด้วย 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

1.เชื่อมต่อ 5G Ecosystem ในการเชื่อมต่อโครงข่าย AIS 5G ที่เปรียบเสมือนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ ให้สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม ภายใต้การดึงศักยภาพของเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้เกิดอีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์

2.ยกระดับการทำงานของโครงข่ายด้วย Intelligent Network จากปริมาณความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตต่างประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา ที่มีปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 50% ด้วยการเป็นผู้ให้บริการด้านการเชื่อมต่อที่ครบวงจรทั้งเครือข่ายใยแก้วนำแสง และเครือข่ายไร้สายสำหรับลูกค้าองค์กร

3.มุ่งเสริมความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์ม ด้วยการขยายผลในฐานะผู้ให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มด้าน CCII ที่ครอบคลุม เทคโนโลยีที่ครบครัน ทั้งโซลูชันคลาวด์ (Cloud) บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) บริการ IoT (Internet of Things) และบริการด้านไอซีทีโซลูชัน (ICT Solution)

4.เสริมอาวุธด้านการตลาด และเพิ่มโอกาสการเติบโตด้วย Business Big Data การนำประสบการณ์ด้านงานดูแลลูกค้าทั่วไป เพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขัน รวมถึงอาวุธใหม่ๆ สำหรับการสื่อสารทางการตลาดที่จะสร้างยอดขายและการเติบโตได้มากยิ่งขึ้น

5.ส่งมอบบริการด้วยทีมงานมืออาชีพ จากการที่มีซีเอส ล็อกซอินโฟ หรือ CSL เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน ทำให้วันนี้ เอไอเอส บิสสิเนส เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในตลาดที่มีความพร้อมสูงสุด มีบุคลากรในสายงาน ICT ที่เชี่ยวชาญและรอบด้าน ทำให้การส่งมอบบริการเพื่อตอบโจทย์องค์กรธุรกิจมีความต่อเนื่อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ประเมิน ติดตั้ง บริหารโครงการ และบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ

“นอกจากขยายการลงทุนเรื่อง 5G และหาพาร์ทเนอร์เพิ่มเติมแล้ว จะเห็นว่าเราเน้นเรื่องดาต้า เอไอ เรื่องอินเทลลิเจนท์เน็ตเวิร์ก ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้พัฒนาไปตลอดเวลา ที่สำคัญคือคนไอที โดยเราตั้งเป้าเพิ่มอีก 3 เท่าเพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับความต้องการลูกค้า” ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าว


โอกาสมีสูง ความท้าทายยิ่งสูงตาม

การระบาดของ COVID-19 เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้องค์กรเริ่มเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ดังนั้น จะเห็นว่าทุกอุตสาหกรรมตื่นตัวมาใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะในกลุ่ม Healthcare, Retail, Transportation และ Manufacturing ด้วยความต้องการที่มีมาก สิ่งที่ตามมาคือ การแข่งขันโดนเฉพาะเรื่องของ ราคา

อย่างไรก็ตาม เอไอเอสมองว่าการแข่งขันในด้านราคานั้น ไม่ยั่งยืน ดังนั้น วิสัยทัศน์ของเอไอเอสคือต้องการเป็น Part of Success โดยจะเน้นสร้างโซลูชันใหม่ ๆ ออกมาเพื่อรองรับความต้องการลูกค้า โดยปีนี้เอไอเอสมั่นใจว่าจะมียูสเคสใหม่ ๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด

“ลูกค้าต้องการโฟกัสที่ธุรกิจหลัก ไม่ได้อยากเก่งเรื่องเทคโนโลยี เขาต้องการพาร์ทเนอร์ที่ให้คำปรึกษาเรื่องเทคโนโลยีได้ ซึ่งความท้าทายตอนนี้คือ ลูกค้ามีความคาดหวังมากขึ้น ต้องการโซลูชั่นที่ยากมากขึ้น แน่นอนว่าสงครามราคามันมี แต่ไม่ใช่ทุกอย่างของการแข่งขัน สุดท้ายมันคือเรื่องของเซอร์วิส”


ตั้งเป้าโต 2 หลัก ขึ้นแท่น Growth Engine ของ AIS

AIS Business มีลูกค้าในกลุ่มองค์กรใหญ่กว่า 60% และ SME กว่า 40% โดยปีที่ผ่านมา AIS Business เติบโตได้ 16% ทำรายได้ 5,291 ล้านบาท สูงกว่าตลาดที่เติบโต 10% และเมื่อรวมกับรายได้จากองค์กรธุรกิจในฝั่งโมบายแล้วจะคิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 10-12% โดยในปีนี้ คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ในอัตรา 2 หลัก

“แม้การเป็น Growth Engine มาพร้อมความคาดหวังที่สูง แต่การเติบโตในปีที่ผ่านมาถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรามาถูกทางแล้ว และเรามีโอกาสที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด แม้ AIS Business จะมีหลายบทบาทแล้วแต่มุมมองของลูกค้า แต่เรามองตัวเองเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เขาเติบโตได้ เปรียบเสมือนอะไหล่รถที่ให้เขาวิ่งได้”

 

]]>
1382999
‘Facebook’ เล็งจ้างงาน 1 หมื่นตำแหน่งในยุโรป หวังปั้น ‘Metaverse’ ให้เกิดในอีก 5 ปี https://positioningmag.com/1357052 Mon, 18 Oct 2021 06:24:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1357052 หากพูดถึง ‘Metaverse’ (เมตาเวิร์ส) คำศัพท์ใหม่ที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นหูนัก แต่ถ้าพูดถึง ‘โลกเสมือน’ ภาพยนตร์ไซไฟคงจะนึกภาพตามได้ไม่ยาก ซึ่งน่าจะยิ่งสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่การเว้นระยะห่างทางสังคมเพราะ COVID-19 การเป็น New Normal ของการใช้ชีวิตในปัจจุบันไปแล้ว ซึ่ง Facebook เองก็พยายามจะปลุกปั้น Metaverse ให้เกิดขึ้นภายใน 5 ปีจากนี้

ที่ผ่านมา Facebook ได้พยายามจะสร้าง Metaverse จากแค่แนวคิดให้เกิดขึ้นจริงด้วยการทุ่มทุนวิจัยมากกว่า 1,600 ล้านบาท ล่าสุด Facebook ก็วางแผนที่จะสร้างงาน 10,000 ตำแหน่งในสหภาพยุโรป ภายในอีก 5 ปี ข้างหน้าเพื่อเดินหน้าสร้าง Metaverse โดยจะเน้นจ้าง วิศวกรที่มีทักษะสูง ในหลายประเทศทั่วทั้งกลุ่ม อาทิ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน โปแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และไอร์แลนด์

“ยุโรปมีความสำคัญอย่างมากต่อ Facebook ทั้งพนักงานหลายพันคนในสหภาพยุโรป ไปจนถึงธุรกิจนับล้านที่ใช้แอปฯ และเครื่องมือของเราทุกวัน ยุโรปเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของเรา เพราะเราอยู่ในความสำเร็จของบริษัทในยุโรปและเศรษฐกิจในวงกว้าง” Nick Clegg หัวหน้าฝ่ายกิจการระดับโลกของ Facebook และ Javier Olivan รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ส่วนกลาง กล่าว

“เมื่อเราเริ่มต้นการเดินทางเพื่อทำให้ metaverse มีชีวิต ความต้องการวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญสูงเป็นหนึ่งในความสำคัญเร่งด่วนที่สุดของ Facebook โดยเราตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับรัฐบาลทั่วสหภาพยุโรปเพื่อค้นหาผู้คนที่เหมาะสมและตลาดที่เหมาะสมเพื่อก้าวไปข้างหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการจัดหางานที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค”

ทั้งนี้ Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook ได้สรุปวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับ metaverse ในเดือนกรกฎาคมว่า มันคือ โลกเสมือน ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่าง VR (Virtual Reality) กับ AR (Augmented Reality) โดยผู้คนสามารถมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เช่น การพูดคุย, เล่นเกม, ทำงาน, ประชุม, ออกกำลังกาย และอื่น ๆ

ไม่ใช่แค่ Facebook แต่บริษัทไอทีอื่น ๆ อีกหลายแห่ง อาทิ Microsoft, Roblox และ Epic Games กำลังลงทุนอย่างหนักในการสร้าง metaverse เวอร์ชั่นของตัวเองด้วยเช่นกัน

Source

]]>
1357052
‘AIS’ ผุด ‘V-Avenue.Co’ ห้างฯ ทิพย์ในรูปแบบ ‘VR’ ที่ช้อปได้จริงเสียเงินจริง https://positioningmag.com/1329970 Thu, 29 Apr 2021 08:54:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1329970 ย้อนไปช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ‘เอไอเอส’ (AIS) เคยชิมลางจัดงาน ‘AIS 5G Thailand Virtual Expo’ ที่เปลี่ยนการจัดงานเอ็กซ์โปแบบ Physical ในฮอลล์มาใช้เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) แทน ล่าสุด เอไอเอสก็ได้เปิด V-Avenue.Co แหล่งรวมศูนย์การค้าชั้นนำและ SME บนโลกเสมือนจริงมาให้บริการในช่วงที่ไทยกำลังเผชิญกับการระบาดระลอก 3 นี้

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอไอเอสใช้เวลาเตรียมการไม่น้อยกว่า 12 เดือนในการพัฒนา V-Avenue.Co เวอร์ชวลช้อปปิ้งแหล่งรวมศูนย์การค้าเสมือนจริงแห่งแรกของโลก โดยมีพันธมิตรอย่าง เดอะมอลล์ กรุ๊ป, บริษัท ซิตี้มอลล์ กรุ๊ป จำกัด (ดิ เอ็มโพเรียม), ทีวีไดเร็ค และกลุ่มแบรนด์ไลฟ์สไตล์รีเทล อาทิ Loft , Jung Saem Mool, ALAND รวมถึงร้านค้า SME อีกกว่า 200 ราย ที่ร่วมในแพลตฟอร์มนี้

สำหรับเป้าหมายของแพลตฟอร์ม V-Avenue.Co ก็เพื่อให้เกิดเอนเกจเมนต์รูปแบบใหม่ ๆ ที่ต่างจากการช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งจะช่วยแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ 5G กับลูกค้าเอไอเอส 42 ล้านราย และมอบสิทธิประโยชน์ด้านส่วนลดต่าง ๆ รวมถึงเป็นพื้นที่สร้างยอดขายให้กับลูกค้า SME ของเอไอเอสด้วย

อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจไม่ได้แข่งไม่ได้ไปแย่งลูกค้าอีคอมเมิร์ซ เพราะเชื่อว่าร้านค้าพันธมิตรก็อาจจะขายของอยู่ในอีคอมเมิร์ซอยู่แล้ว ดังนั้น เอไอเอสเป็นเพียงช่องทางหนึ่งให้นำมาขายสินค้า โดยไม่เก็บส่วนแบ่งรายได้ เพราะไม่ได้ต้องการทำกำไรจากแพลตฟอร์ม

“ความท้าทายของเราในด้าน 5G คือ จะสร้างประโยชน์ให้ลูกค้าได้ในด้านไหนบ้าง ดังนั้น ด้านที่เรามองว่าทำได้ก็คือ สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า และสร้างประโยชน์สร้างยอดขายให้ SME ที่เป็นลูกค้าเรา”

เบื้องต้น เอไอเอสจะทำการตลาดอัดแน่นทุกช่องทาง ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมร่วมกับพันธมิตรจัดโปรโมชันพิเศษ มอบสิทธิพิเศษส่วนลดจัดเต็มเอาใจนักช้อปต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเอไอเอสคาดว่าจะมี SME ที่เข้ามาขายสินค้าประมาณ 1,000 ราย ด้านผู้เข้ามาเยี่ยมชมประมาณ 1 ล้านราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นถึงคนทำงานที่เป็น early adopter หรือกลุ่มคนที่ชอบลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งคาดว่ามีสัดส่วน 10-15% ของประชากรไทย และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ

ทั้งนี้ เอไอเอสวางแผนสร้างและพัฒนาฟีเจอร์ให้ตอบโจทย์การช้อปปิ้งออนไลน์มากยิ่งขึ้นในอนาคต เช่น พนักงานขาย LIVE สด พูดคุยแนะนำลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าได้ หรือการเปิดพื้นที่ลานหน้าห้าง V Avenue ให้ผู้ประกอบการทุกขนาด เข้ามาใช้แพลตฟอร์มสร้างอีเวนต์ในรูปแบบ Virtual Expo จัดแสดงสินค้า จัดแสดงคอนเสิร์ต หรือจัดแสดงแฟชั่นโชว์ เพื่อต่อยอดเป็น Business Model ใหม่

สำหรับ V-Avenue.Co ประกอบด้วย 5 ส่วน ได้แก่

AIS Virtual Store รวบรวมสมาร์ทโฟน 5G, แก็ดเจ็ต IoT จากหลากหลาย

The Emporium และ The Mall Lifestore Ngamwongwan มีกลุ่มสินค้าหลากหลาย อาทิ BEAUTY HALL, WOMEN & MEN FASHION, POWER MALL, SPORTS MALL, WATCH GALLERIA, BETREND และ GOURMET MARKET

Asian Lifestyle ศูนย์รวมสินค้าไลฟ์สไตล์รีเทลชั้นนำ 3 แบรนด์ ได้แก่ ALAND ร้านแฟชั่นมัลติแบรนด์จากเกาหลี, Jung Saem Mool (จอง แซม มุล) แบรนด์เมคอัพสัญชาติเกาหลี และ Loft ร้านสเปเชียลตี้สโตร์จากญี่ปุ่น

TV Direct โดยมีโซนต่าง ๆ เช่น Your Health อาหารเสริม, Your Home เครื่องใช้ไฟฟ้า, Your Beauty และ Your Yummy เมนูอร่อยขึ้นชื่อของดีประจำจังหวัด

Community Hub พื้นที่เปิดให้ SME ผู้ค้ารายย่อย กว่า 210 ร้านค้า ที่มีสินค้า อาหาร แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ สินค้าไลฟ์สไตล์ และอีกมากมายมาให้เลือกช้อป มีสินค้ารวมกว่า 10,000 SKU

]]>
1329970
‘AIS’ ผนึก ‘นาดาว’ ปั้นคอนเทนต์ลง ‘VR’ ใบเบิกทางแรก 5G สู่ผู้บริโภค https://positioningmag.com/1292151 Tue, 11 Aug 2020 13:05:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1292151 ประกาศถึงวิสัยทัศน์ในการนำ ‘5G’ เพื่อสนับสนุนรากฐานและฟื้นฟูประเทศจากวิกฤติ COVID-19 ไปเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยหนึ่งในเรื่องที่ ‘เอไอเอส’ (AIS) ได้พูดถึงก็คือ อุตสาหกรรมมัลติมีเดีย ที่จะนำเทคโนโลยี AR/VR มาใช้สร้างประสบการณ์เสพคอนเทนต์แบบใหม่ที่เสมือนจริง (Immersive Experience) กว่าที่เคย

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า นับตั้งแต่การเปิดให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ปัจจุบัน อไอเอให้บริการ 5G ครบ 77 จังหวัด ผ่านสถานีฐาน 4,000 แห่ง ที่กระจายอยู่ที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ และเพื่อเป็นการต่อยอดศักยภาพและขยายประโยชน์ของ 5G จึงได้ผสานเข้ากับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต Virtual Reality หรือ VR

“เอนเตอร์เทนต์เมนต์เป็นอะไรที่แมสกว่า มันจับต้องได้ แต่ใจเราก็อยากจะพัฒนาควบคู่กันไปกับด้านอุตสาหกรรม”

เอไอเอสได้ดำเนินยุทธศาสตร์ ‘Co-Creation’ ภายใต้ชื่อ AIS VR Originals โดยเปิดกว้างที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในวงการ ทั้งค่ายผลิตคอนเทนต์ชื่อดัง พันธมิตรชั้นนำระดับโลก และ Content Creator อิสระรุ่นใหม่ทุกคน เพื่อผลิต VR Content ร่วมกัน ผ่านแอปพลิเคชัน AIS PLAY VR ฮับแห่งคอนเทนต์ VR ที่แรกและที่เดียวในไทย ซึ่งถูกติดตั้งบนแว่น AIS VR 4K พร้อมกับออกแพ็กเกจและโปรโมชั่นที่เกี่ยวกับ 5G เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก

ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ร่วมกับ ‘นาดาวบางกอก’ นำศิลปินมาร่วมสร้างสรรค์ VR Content นำโดย บิวกิ้น-พีพี กับคอนเทนต์ชุด #BilkinPP Closer Than Ever และ สกาย วงศ์รวี กับคอนเทนต์ชุด Touch of Sky ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ VR Content ชุด Star Dating และได้จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำร่องชมความงามของประเทศไทยใน 5 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ พัทลุง ลำปาง ราชบุรี และตราด ในรูปแบบ VR 360 องศา และจับมือ Absolute You สร้างประสบการณ์การออกกำลังกายที่บ้านในรูปแบบ VR รวมมีคอนเทนต์กว่า 5,000 คอนเทนต์

“ในเรื่องรายได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในระยะสั้น เพราะมันไม่ใช่ของแมส แต่รายได้หลักของเราคือ การใช้งานอินเทอร์เน็ต ดังนั้นการสร้างสรรค์คอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ตมันจะสร้างรายได้ในทางอ้อม อีกทั้งยังเป็นการใช้โครงข่าย ดังนั้นนี่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นให้ได้สัมผัส 5G”

อย่างไรก็ตาม การจะสร้างการเติบโตให้ได้ ในขณะที่ยังต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันถือเป็นความท้าทายที่สุดในการทำธุรกิจ เพราะผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง ขณะที่การแข่งขันที่รุนแรงยิ่งทวีความรุนแรง ทำให้เกิดการหั่นราคาจนลืมเรื่องคุณภาพ

]]>
1292151