Verizon – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 21 Nov 2020 02:59:40 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 รวมกันเราอยู่ ! BuzzFeed ซื้อ HuffPost เสริมพลังสื่อออนไลน์ เเย่งรายได้โฆษณา Google-Facebook https://positioningmag.com/1307043 Fri, 20 Nov 2020 20:40:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1307043 สื่อออนไลน์ชื่อดัง BuzzFeed เข้าซื้อกิจการ HuffPost สื่อดิจิทัลในเครือ Verizon ผนึกกำลังข่าวโซเซียล ขยายฐานลูกค้า เพื่อดึงรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น โดยถือเป็นการควบรวมสื่อออนไลน์ครั้งใหญ่ ที่สะท้อนให้เห็นทางรอดใหม่ในวงการที่มีการเเข่งขันสูง

ข้อตกลงดังกล่าว จะทำให้ BuzzFeed เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน HuffPost (ชื่อเดิม The Huffington Post) ขณะที่ Verizon Media นั้นจะเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของทั้งสองบริษัท อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้มีการระบุราคาหรือส่วนแบ่งการถือหุ้น ณ ขณะนี้

การรวมตัวกันของยักษ์ใหญ่สื่อดิจิทัลอย่าง BuzzFeed เเละ Huffpost นับเป็นดีลที่เจรจากันกับคนที่คุ้นเคย เพราะ Jonah Peretti ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง BuzzFeed นั้นเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Huffpost ขึ้นมาในปี 2005 ก่อนจะขายกิจการให้ Verizon ในปี 2015 ผ่านดีลซื้อกิจการ AOL มูลค่ากว่า 4.4 พันล้านเหรียญ เเละต่อจากนี้ Peretti จะกลับมาเป็นผู้นำของทั้งสองบริษัทที่เขาร่วมก่อตั้งมาอีกครั้ง

โดยเเนวทางหลักๆ ทั้ง BuzzFeed เเละ Huffpost จะร่วมกันเเชร์ข้อมูลเเละเนื้อหา ซึ่งจะยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ รูปเเบบเเละคงสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงทีมงานเดิม ขณะเดียวกันก็จะได้พลังเสริมจาก Verizon Media ที่มีสื่อดิจิทัลต่างๆ ในมืออย่าง Techcrunch, Engadget เเละ Yahoo!

การที่ฐานผู้อ่านทั้งสองแพลตฟอร์มต่างกันมาก จึงเป็นการรวมตัวกันเพื่อขยายฐานลูกค้ามุ่งหารายได้จากค่าโฆษณาที่สูงขึ้น เเต่ก็ยังต้องเเข่งขันอย่างดุเดือดกับสื่อออนไลน์ที่ผุดขึ้นมามากมาย ทำให้รายได้ของธุรกิจสื่อลดลง รวมถึงต้องสู้กับเจ้าเทคโนโลยีรายใหญ่ที่โกยรายได้มหาศาลจากโฆษณาอย่าง Google เเละ Facebook ด้วย

ก่อนหน้านี้ Verizon Media เริ่มปรับพอร์ตสื่อในเครือใหม่ โดยพยายามจะขาย Yahoo Finance แต่ไม่สำเร็จ จากนั้นได้ขายแพลตฟอร์ม Tumblr ไปเมื่อปีที่เเล้ว

สำหรับ The Huffington Post เป็นเว็บไซต์ข่าวออนไลน์รายใหญ่ของสหรัฐฯ รีแบรนด์ตัวเองใหม่เป็น HuffPost เมื่อปี 2017 หลังใช้ชื่อเดิมมานาน 12 ปี

ช่วงที่ผ่านมา HuffPost ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงิน จากรายได้โฆษณาที่ลดลง จนถึงใช้มาตรการลดต้นทุนหลายอย่าง เช่น ปลดพนักงาน และพยายามปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจมาขายสมาชิกรายเดือน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก

ความเคลื่อนไหวของสื่อดิจิทัลที่ควบรวมกัน กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการนี้ เพื่อให้มีเครือข่ายที่ครอบคลุม มีฐานผู้อ่านเพิ่มเเละหลากหลายขึ้น มุ่งหารายได้ใหม่ๆ 

ในปีที่ผ่านมา สื่อดิจิทัลอย่าง Vox Media ได้ซื้อกิจการ New York Media สื่อด้านอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ และ Vice Media Group ได้ซื้อสื่อไลฟ์สไตล์ Refinery29 ที่มีฐานผู้อ่านส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ทั้งหมดนี้ นำไปสู่โอกาสการขยายฐานลูกค้า ทำรายได้จากโฆษณามากขึ้น เพื่อเเข่งขันกับคู่เเข่งรายใหญ่

 

 

ที่มา : Reuters , CNBC 

]]>
1307043
นับถอยหลังดีล Verizon ซื้อ Yahoo มีผล 13 มิ.ย. คาดพนักงาน 2 พันคนต้องถูกลอยแพ https://positioningmag.com/1128784 Mon, 12 Jun 2017 00:13:48 +0000 http://positioningmag.com/?p=1128784 หลังจากตกเป็นข่าวมาพักใหญ่ ในที่สุด เวอไรซอน (Verizon) ได้ข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการ “ยาฮู” (Yahoo) เจ้าของอดีตเว็บท่ายักษ์ใหญ่ ปิดดีล 13 มิถุนายนนี้ คาดว่าจะมีพนักงานไม่น้อยกว่า 2 พันคนต้องถูกลอยแพ

ซีเอ็นเอ็น (CNN) ระบุว่า ผู้ถือหุ้น Yahoo มีมติเห็นชอบกับข้อตกลงใหม่ ในการที่ Verizon เสนอซื้อธุรกิจหลักของ Yahoo ด้วยราคา 4.48 พันล้านเหรียญสหรัฐอีกครั้ง ซึ่งเป็นราคาลดจาก 4.8 พันล้านเหรียญ เนื่องจากมีข่าว Yahoo ถูกแฮก โดยล่าสุดดีลนี้คาดว่าจะปิดได้ในวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2017 ซึ่ง Yahoo และเอโอแอล (AOL) จะร่วมกันตั้งบริษัทใหม่ในฐานะบริษัทลูกของ Verizon ชื่อ ”โอธ” (Oath)

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า Verizon จะเลิกจ้างพนักงานมากกว่า 2,100 คน คิดเป็น 15% ของพนักงานทั้งหมด โดยคาดว่า Verizon จะประกาศอย่างเป็นทางในเร็ววันหลังจากปิดดีล

มาริสสา เมเยอร์ (Marissa Mayer) จะโบกมือลา Yahoo บนเงินตอบแทนมูลค่า 186 ล้านเหรียญสหรัฐ

23 ปีแห่งความหลังของ Yahoo

2537: เดวิด ไฟโล และ เจอรี่ หยาง ก่อตั้ง Yahoo โดยย่อจากชื่อเต็ม Yet Another Hierarchically Organized Oracle เพื่อรวบรวมรายชื่อเว็บไซต์น่าสนใจบนอินเทอร์เน็ตยุคนั้น

2539: Yahoo เข้าตลาดอย่างเป็นทางการ ด้วยมูลค่าตลาด 848 ล้านเหรียญสหรัฐ

2543: Yahoo หุ้นพุ่งสูงสุด 1.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ผลจากฟองสบู่ดอทคอม

2545: เทอรี่ ซีเมล ซีอีโอ Yahoo ยุคนั้นเสนอเงิน 3 พันล้านเหรียญสหรัฐซื้อ Google แต่เจ้าพ่อเสิร์ชบอกปฏิเสธ

2547: ฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช พบว่าชาวอเมริกันตอนเหนือ ใช้งานเสิร์ชเอนจินของ Yahoo มากกว่า Google

2548: Yahoo ลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐใน Alibaba ของจีน โดยถือหุ้น 40% ของบริษัทอีคอมเมิร์ซจีน

2549: Yahoo เปิดตัวโฮมเพจ เวอร์ชันภาษาไทย แต่ปิดบริการแล้วในขณะนี้

2551: Yahoo ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 4.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐจาก Microsoft ที่ต้องการสร้างคู่แข่งขึ้นมาชนกับ Google

2554: Yahoo หวังเกาะกระแสวิดีโอออนไลน์ โดยเปิดให้บริการ Yahoo Screen เพื่อเป็นศูนย์รวมคอนเทนต์ของสถานีโทรทัศน์ NBC แต่ไปไม่รอด Yahoo Screen ปิดฉากให้บริการในมกราคม 2559

2555: อดีตผู้บริหาร Google “มาริสสา เมเยอร์” เข้ารับตำแหน่งซีอีโอยาฮูเพื่อกู้วิกฤติรายได้หด โดยเฉพาะจากกลุ่มธุรกิจโฆษณารูปแบบแบนเนอร์ที่เสื่อมความนิยม

2556: ซีอีโอเมเยอร์ซื้อเครือข่ายสังคมอนาคตไกล Tumblr ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านเหรียญ ถือเป็นการตัดสินใจซื้อกิจการครั้งใหญ่ครั้งแรกของเธอเพื่อให้ได้ฐานผู้ใช้กลุ่มวัยรุ่น

2557: ซีอีโอเมเยอร์เปิดให้บริการนิตยสารดิจิตอล 11 หมวด ครอบคลุมเรื่องอาหาร เทคโนโลยี กีฬา และไลฟ์สไตล์ กระทั่งกุมภาพันธ์ 2559 เนื้อหาใน 7 หมวดถูกปิดตัว ได้แก่ หมวดสุขภาพ ครอบครัว อาหาร งานช่าง ท่องเที่ยว ยานยนต์ และอสังหาฯ

2557: Yahoo ซื้อบริษัทวิเคราะห์โมบายแอปพลิเคชันชื่อ Flurry และผู้ให้บริการระบบเล่นวิดีโอแบบตัดสินใจอัตโนมัติ (programmatic) ชื่อ BrightRoll นี่เองที่อาจเป็นบันไดสำคัญที่ทำให้เวอไรซอนสนใจซื้อ Yahoo เพราะทั้ง 2 ส่วนนี้จะช่วยให้ AOL สร้างแพลตฟอร์มโฆษณา programmatic แบบอิงข้อมูลผู้ชม

2558: Yahoo และ Google จับมือเป็นพันธมิตรเพื่อลงโฆษณาและคุณสมบัติการเสิร์ชบนเพจของ Yahoo

2558: Yahoo ปิดสาขาในประเทศจีน

2559: Tumblr จับมือกับแอปพลิเคชันวิดีโออย่าง YouNow, Kanvas และ YouTube เพื่อให้บริการชมสดบนเว็บไซต์ Yahoo วิธีนี้แตกต่างจากสิ่งที่ Facebook, Twitter และ Google เลือกทำ เพราะ Tumblr ยกการทำงานของแต่ละแอปวิดีโอมาไว้บนเพจได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาพร้อมใส่เทคโนโลยีโดยเฉพาะอย่างที่ค่ายอื่นทำ


ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000059528

]]>
1128784