Visits – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 20 Feb 2018 02:50:37 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 โวย Google ทิ้งปุ่ม ‘View Image’ ดาวน์โหลดรูปยากขึ้น https://positioningmag.com/1157561 Mon, 19 Feb 2018 10:49:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1157561 โดยไม่มีการเตือน ปุ่ม view image ถูก Google ทิ้งลงถังไปเรียบร้อย ชาวออนไลน์จะต้องกดที่ปุ่ม visit เพื่อเข้าสู่เว็บเพจที่เผยแพร่ภาพเท่านั้น ไม่สามารถกดเพื่อเลือกดูเฉพาะภาพที่ต้องการ โดยไม่ต้องเข้าสู่เว็บเพจได้อีกต่อไป

ชาวออนไลน์บ่นอุบเพราะการตัดสินใจครั้งใหม่ของกูเกิล (Google) ที่ทำให้ทุกคนดาวน์โหลดรูปจากเว็บไซต์ได้ยากกว่าเดิม ด้วยการทิ้งปุ่ม “view image” ซึ่งหลายคนนิยมใช้งาน เพื่อแลกกับการจบคดีกับเก็ตตี้อิมเมจ (Getty Image) บริการขายภาพชื่อดัง

ปุ่มดูภาพหรือปุ่ม view image นี้เป็นคุณสมบัติที่ทำให้ชาวเน็ตสามารถดาวน์โหลดและเก็บบันทึกภาพได้โดยไม่ต้องเข้าสู่เว็บไซต์โดยตรง ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกสะดวกสบายมากกว่าที่จะต้องรอให้ทั้งเพจแสดงขึ้น แต่ปุ่ม view image นี่เองที่ทำให้ช่างภาพและเจ้าของเว็บไซต์ไม่ปลื้ม เพราะรู้สึกว่าเป็นปุ่มที่ทำให้ผลงานถูกขโมยไปได้ง่าย เมื่อมีการดาวน์โหลดรูปภาพผ่านเครื่องมือค้นหาของ Google

Google จึงติดสินใจเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับ Getty Images ที่ต้องการให้ Google ปรับปรุงระบบเพื่อให้ผู้ใช้ระบุแหล่งที่มาของภาพ จุดนี้ Google ยังลบปุ่ม “ค้นหาด้วยภาพ” หรือ search by image ออกไป แต่ผู้ใช้ยังคงสามารถค้นหาภาพย้อนกลับได้โดยการลากภาพไปยังแถบการค้นหาของ Google

สิ่งที่เกิดขึ้นในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือชาวออนไลน์จำนวนไม่น้อยออกมาร้องเรียน เนื่องจากหลายคนใช้ปุ่มนี้เป็นประจำในการทำงาน โดยผู้ใช้บางรายแนะนำว่าให้ใช้เบราว์เ.ซอร์อื่นเช่น Firefox จะมีฟังก์ชันทางเลือกเพื่อให้ปุ่ม “view image” ยังมีให้ใช้งานได้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Google หักดิบ ยกเลิกคุณสมบัติที่ชาวออนไลน์ชื่นชอบทิ้งไป โดยที่ผ่านมา หลายคุณสมบัติก็ถูกดึงออกไปเพราะตัว Google เอง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเครื่องมือค้นหา Google ในอนาคต.

สนับสนุนข่าวโดย : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000017074

]]>
1157561
ระเบิดศึกลานเบียร์ "ไฮเนเก้น" ชิง 5 พื้นที่ ปั้นยอดขาย กระตุ้นแบรนด์ https://positioningmag.com/61755 Mon, 02 Nov 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=61755

ใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายของปลายปีที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงเทศกาลที่จะดึงกำลังซื้อของผู้บริโภคได้มากที่สุดของปี “ลานเบียร์” เป็นอีกหนึ่งอีเวนท์สำคัญประจำปีของค่ายเบียร์ที่จะใช้ช่วงชิงยอดขาย โดยพื้นที่ที่เป็นแลนด์มาร์กคงจะเป็นที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้า “เซ็นทรัลเวิลด์” ที่รวมลานเบียร์หลายค่ายไว้ด้วยกัน

“ไฮเนเก้น” เบียร์อินเตอร์จากค่าย “ที เอ พี” หรือ ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้ยึดพื้นที่หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์เช่นกัน ในปีนี้มาพร้อมด้วยโกลบอลแคมเปญ Be the Star of Your Celebration”

ซึ่งพื้นที่ที่เป็นลานเบียร์หน้าห้างได้กลายเป็นสัมปทานของค่ายเบียร์แต่ละค่ายเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว จะมีเจ้าประจำ ได้แก่ ไทยเบฟเวอเรจ, สิงห์, ที เอ พี และจะมี 1 พื้นที่ที่เปิดให้ประมูล ซึ่งส่วนใหญ่ทางค่ายไทยเบฟจะได้ครองไป 

ตั้งแต่ปี 2555 ไฮเนเก้นได้หายไปจากพื้นที่ลานเบียร์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์เป็นเวลา 2 ปี โดยได้แทนที่ด้วยลานเบียร์ “ไทเกอร์” จากค่ายเดียวกันแทน จากนั้นไฮเนเก้นได้คัมแบ็คกลับมาใหม่ในปี 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นเพราะกลยุทธ์ที่ทางโกลบอลได้กำหนดไว้ว่าในแต่ละปีจะเลือกทำตลาดกับแบรนด์ไหนมากกว่ากัน

การกลับมายึดพื้นที่ลานเบียร์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์อีกครั้งจึงต้องปังมากกว่าเดิม สามารถสะกดใจให้ผู้บริโภคได้รู้ว่าไฮเนเก้นได้กลับมาแล้ว ดีไซน์ต่างๆ ของไฮเนเก้นจึงถูกกำหนดมาจากระดับโกลบอลทั้งหมด จะเน้นความเป็นพรีเมี่ยม ไฮโซ โดยใช้ “สีขาว” เข้ามา แต่ยังคงสัญลักษณ์ “ดาวแดง” ของไฮเนเก้นไว้อยู่

ในปีนี้ไฮเนเก้นขอสร้างพื้นที่ให้เป็นมากกว่า ลานเบียร์ แต่เป็น สเปช” ให้กับคนรุ่นใหม่มาแฮงค์เอาท์ มาเฉลิมฉลอง เป็นพื้นที่ที่ตอบไลฟ์สไตล์ได้มากกว่า ด้วยการเปิดเป็น The Heineken Spaces”

ภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัท ทีเอพี กล่าวว่า “เราเห็นว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพฤติกรรมการดื่มของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงมา หวือหวาขึ้น มีการดื่ม Outdoor มากขึ้น และปัจจุบันคนดื่มจะเน้นเรื่องไลฟ์สไตล์ เน้นเรื่องแบรนด์ ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีการสื่อสารให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเขา ให้ดูสนุกขึ้น ไม่ได้เป็นแค่ลานเบียร์ทั่วไป แต่เป็นเหมือนพื่นที่ที่ให้เขา Reunion ในการพบปะเพื่อนเก่า การเฉลิมฉลอง ซึ่งความสำคัญของลานเบียร์ไม่ใช่ตัวกระตุ้นรายได้หลักเท่านั้น แต่เป็นส่วนสำคัญในการสร้าง Awareness สร้าง Engagement กับผู้บริโภค เทศกาลลานเบียร์ของคนไทยเป็นอะไรที่ใหญ่ที่สุดแล้วในภูมิภาคอาเซียน เพราะส่วนใหญ่จะมีแค่ในยุโรปเท่านั้น”

ในปีนี้ไฮเนเก้น ยังคงกระจายพื้นที่ลานเบียร์ ออกไป 5 จุด  ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นแฟล็กชิพสเปซ, เอสพลานาด รัชดา, เอ็มควอเทียร์ บริเวณควอเทียร์ วอเตอร์ การ์เด้น ชั้น 5, ลานพาร์คพารากอน และร้าน Greyhound Café สาขา Major Avenue รัชโยธิน

“ตอนนี้ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก มีความ Dynamic สูง ซึ่งตอนนี้ในกรุงทเพฯก็มี Downtown อยู่หลายแห่งมาก ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเมืองอย่างเดียว ผู้บริโภคก็กระจายอยู่โดยรอบ เราเลยมองว่าเป็นการกระจายสเปซของไฮเนเก้นให้เข้าถึงผู้บริโภคมากกว่า แต่ยังคงยึดตรงลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญอยู่”

ภัททภาณียังเสริมต่ออีกว่าไม่ใช่แค่ความต้องการของไฮเนเก้นที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นความต้องการของบรรดาห้างสรรพสินค้า หรือค้าปลีกต่างๆ ที่ต้องหาแม็กเน็ตในการดึงผู้บริโภคในช่วงเทศกาลเหมือนกัน ผลลัพท์จึงออกมาอยู่ที่ “ลานเบียร์” จากนั้นทางห้างก็จะทำการเชิญชวนให้ไฮเนเก้นมาอยู่ในลานเบียร์นั้นๆ

ความสำคัญของช่วงเทศกาลลานเบียร์ของไฮเนเก้นนอกจากจะช่วยกระตุ้นเรื่องรายได้ได้แล้ว เพราะรายได้เฉพาะช่วงเทศกาลในไตรมาสที่ 4 ยาวไปถึงช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีถัดไป คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 30% ของทั้งปี นอกจากนั้นยังช่วยขยายฐานลูกค้าหน้าใหม่ให้มาทดลองไฮเนเก้นด้วย

มีการตั้งเป้าผู้เข้าใช้บริการลานเบียร์ หรือ The Heineken Spaces ทั้ง 5 ที่จำนวน 100,000 คน และมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 1,500 บาท/โต๊ะ (4 คน) และจะช่วยให้ไฮเนเก้นเติบโตได้ราว 3-4%

 

 เปิดกลยุทธ์ “ไฮเนเก้น” ปั้น The Heineken Spaces

–          มีการดีไซน์ด้วยรูปแบบของทางโกลบอล เน้นโทนสีขาว แต่ในปีนี้มีเรื่องสีสันเข้ามาช่วยเพื่อให้สนุกมากขึ้น

–          เพิ่มพื้นที่ เป็น 5 แห่งด้วยกัน ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เอสพลานาด รัชดา, เอ็มควอเทียร์, ลานพาร์คพารากอน และร้าน Greyhound Café สาขา Major Avenue รัชโยธิน โดยที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญอยู่

–          รายได้จากช่วงเทศกาลในไตรมาสที่ 4 ยาวไปถึงไตรมาสที่ 1 ของปีถัดไป คิดเป็นสัดส่วน 30% ของบริษัท

–          กลุ่มบริษัทไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ มีแบรนด์เบียร์ที่ทำตลาดในไทยอยู่ในเครือทั้งหมด 5 แบรนด์ ได้แก่ ระดับรีเมี่ยม ไฮเนเก้น, ไทเกอร์, ไทเกอร์ คริสตัล ไลท์ ส่วนระกับเมนสตรีม เชียร์ และเชียร์เอ็กซ์ตร้า ซึ่งไฮเนเก้นสามารถสร้างรายได้ราว 85% ของบริษัท

–          มีการดีไซน์แพคเกจจิ้งของกระป๋องที่เป็น Limited Edition เพื่อให้เข้ากับช่วงเทศกาล

–          มีการเปิดจองโต๊ะผ่านออนไลน์ 40% และวอล์คอินหน้าร้าน 60%

–          ตั้งเป้าคนใช้บริการ The Heineken Spaces รวมทั้งหมด 5 แห่งราว 100,000 คน

–          มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 1,500 บาท/โต๊ะ (4คน) 

 

]]>
61755
เทเลนอร์เข้าพบรองนายกรัฐมนตรี https://positioningmag.com/58562 Thu, 09 Oct 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58562

นายจอน เฟรดริค บัคซอส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป เข้าพบ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงถึงความพร้อมในการร่วมผลักดันนโยบาย ‘ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล’ ของรัฐบาล ภายใต้กลยุทธ์ Internet for All และยืนยันแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่องใน บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับสองของประเทศไทย พร้อมสนับสนุนและร่วมผลักดันให้เกิดนโยบายการลงทุนด้านไอซีทีที่โปร่งใส

]]>
58562
ธนาคารกรุงเทพนำนักลงทุนจากทั่วเอเชียสู่เมียนมาร์ จัดนัดพบนักธุรกิจท้องถิ่นร่วมเจรจาการค้าการลงทุน https://positioningmag.com/58137 Sun, 20 Jul 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58137

ธนาคารกรุงเทพ ขยายผลสัมมนา ‘เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ AEC’ ตอกย้ำความแข็งแกร่งของ 28 เครือข่ายสาขาที่พร้อมสนับสนุนลูกค้า และนักลงทุนที่ต้องการเข้าไปทำธุรกิจในภูมิภาคที่กำลังเติบโต ล่าสุดเตรียมนำนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของธนาคารกว่า 100 รายจากประเทศต่างๆ ในเอเชียที่ล้วนมีศักยภาพและสนใจเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ในฐานะตลาดเปิดใหม่ที่มีศักยภาพสูง ร่วมกิจกรรม ‘Bangkok Bank Brings Asia to Myanmar’ พบปะนักธุรกิจท้องถิ่นเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างกัน ระหว่างวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2557 ณ เมืองย่างกุ้ง

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยผลสืบเนื่องจากงานสัมมนา ‘เพื่อนคู่คิด มิตรคู่AEC เรื่อง ‘เมียนมาร์ : ไปอย่างไรไม่ตกขบวน’ เพื่อขยายผลให้ทุกอย่างเป็นรูปธรรมในการเชื่อมโยงลูกค้านักลงทุนของเครือข่ายสาขาต่างประเทศทั้ง 28 แห่งที่แข็งแกร่งของธนาคารกรุงเทพ ด้วยการนำนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของธนาคารกว่า 100 รายจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ประกอบด้วย ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย ที่ล้วนมีศักยภาพและความสนใจเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ร่วมกิจกรรม ‘Bangkok Bank Brings Asia to Myanmar’ พบปะนักธุรกิจท้องถิ่นเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการโรงแรม อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมพลาสติกและเคมีภัณฑ์ รวมถึงอุตสาหกรรมทางด้านการออกแบบตกแต่ง

เราเปิดดำเนินการสำนักงานตัวแทนในประเทศเมียนมาร์มานานเกือบ 20 ปี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าในสาขาต่างประเทศของธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ มักสอบถามเกี่ยวกับพัฒนาการของประเทศเมียนมาร์และโอกาสในทางการค้า ลูกค้าบางรายแสดงความสนใจที่จะเดินทางไปสัมผัสความเจริญของประเทศเมียนมาร์ด้วยตนเอง   ธนาคารจึงจัดกิจกรรมสัมมนาและเยี่ยมชมเมียนมาร์ในครั้งนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าของธนาคารทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้รับฟังการบรรยายถึงโอกาสทางธุรกิจในเมียนมาร์ จากวิทยากรผู้ทรงวุฒิโดยตรง นอกเหนือจากการจัดสัมมนาแล้ว ธนาคารยังจัดให้ลูกค้าไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นและสัมผัสกับวัฒนธรรมของเมียนมาร์    สำหรับลูกค้าไทย ธนาคารได้จัดกิจกรรมนำคณะลูกค้าและนักธุรกิจไทยมาเยี่ยมชมและศึกษาตลาดเมียนมาร์มาแล้วหลายครั้ง  สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ยังคงได้รับความสนใจและตอบรับร่วมกิจกรรมจากลูกค้านักธุรกิจไทยอย่างมากและต่อเนื่อง

ธนาคารตระหนักถึงศักยภาพของประเทศเมียนมาร์ในฐานะตลาดเปิดใหม่ที่มีศักยภาพสูง ประกอบกับการที่ธนาคารมีสำนักงานตัวแทนในประเทศนี้มากว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2538 ธนาคารจึงพร้อมที่จะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของเมียนมาร์ควบคู่กับการสนับสนุนนักลงทุนที่ต้องการบุกเบิกตลาดนี้ ด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของการจัดประชุม ‘Myanmar Global Investment Forum’ ที่กรุงเนปิดอร์ เมืองหลวงของประเทศเมียนมาร์ การนำคณะลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเดินทางไปสำรวจตลาดต่างๆ ที่น่าสนใจในเมียนมาร์ การจัดสัมนาหัวข้อที่ลูกค้านักธุรกิจและประชาชนทั่วไปมีความสนใจเกี่ยวกับประเทศเมียนมาร์ ที่กรุงเทพ เป็นต้น

นายชาติศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรม ‘Bangkok Bank Brings Asia to Myanmar’ ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2557 ณ เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ในครั้งนี้ ธนาคารได้จัดช่วงเวลาพบปะสังสรรค์ระหว่างกันของลูกค้านักลงทุนที่เดินทางจากประเทศต่างๆ รวมถึงลูกค้าผู้ประกอบการนักธุรกิจที่น่าสนใจและมีศักยภาพของเมียนมาร์ ได้มีโอกาสทำความรู้จักซึ่งกันและกัน การเยี่ยมชมและศึกษาดูงานเขตเศรษฐกิจพิเศษติลาวา ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค อีกทั้งการปาฐกถาและการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มาด้วยประสบการณ์ที่รู้จริงและรู้ลึกทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาร์

‘การที่ธนาคารตั้งกิจการอยู่ในประเทศต่างๆ เป็นเวลานานและมีบุคลากรท้องถิ่นที่ร่วมงานกับธนาคารมานาน ทำให้ธนาคารเข้าใจความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่นนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง และพร้อมที่จะสนับสนุนลูกค้าหรือนักลงทุนที่ต้องการเข้าไปทำธุรกิจในภูมิภาคที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคารมุ่งเน้นการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งธุรกิจไทยที่ต้องการขยายกิจการไปต่างประเทศ ธุรกิจข้ามชาติซึ่งมีความสัมพันธ์กับธนาคารมายาวนาน เช่น ลูกค้าชาวจีนที่อยู่ใน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นต้น และลูกค้าที่เป็นคนท้องถิ่นในประเทศที่ธนาคารให้บริการ’

]]>
58137