สหพัฒน์ เตรียมจัด “โครงการทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับสหพัฒน์ ครั้งที่ 17” เปิดเวทีติวเข้มครั้งใหญ่แห่งปี เติมอาหารสมองให้เด็กไทยทั่วประเทศได้เรียนฟรีอย่างเท่าเทียมกัน ตอกย้ำจุดเด่นเป็นโครงการเดียวที่จัดสอนพร้อมกัน 4 ภาค 4 มหาวิทยาลัย พร้อมถ่ายทอดสัญญาณบรอดแบนด์ไปยังโรงเรียนอีกกว่า 700 แห่ง ใน 77 จังหวัด ระดมสุดยอดติวเตอร์ชื่อดัง 40 ท่าน ร่วมมอบความรู้ อัดแน่นเนื้อหาครบทุกวิชา O-Net, GAT, PAT และวิชาสามัญ เน้นเก็งข้อสอบพร้อมเฉลย อีกทั้ง ยังเสริมเนื้อหาทันสถานการณ์ด้วยติวเข้มภาษาอังกฤษรับเออีซี เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 3 ตุลาคม นี้

นางผาสุข รักษาวงศ์ กรรมการรองผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการจัดโครงการทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับสหพัฒน์ ครั้งที่ 17 ว่า “เกิดขึ้นจากเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นในการสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับเยาวชนไทย ภายใต้ความร่วมมืออันดีระหว่างผลิตภัณฑ์มาม่า บิสชิน มองต์เฟลอ และริชเชสที่เข้ามามีส่วนร่วมเปิดโอกาสทางการเรียนที่เท่าเทียมกันให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย”

“สหพัฒน์มีปรัชญาการดำเนินงานที่ไม่เพียงมุ่งสร้างความสำเร็จทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นสร้างสรรค์ความดีสู่สังคมไทยควบคู่ไปด้วย เพราะเรามองว่าธุรกิจและสังคมต้องเจริญเติบโตไปพร้อมกัน สำหรับโครงการทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับสหพัฒน์ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ เพื่อมอบโอกาสการเรียนให้กับเด็กไทยทั่วประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่าการศึกษาเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะปลูกฝังความรู้และจิตสำนึกที่ดีให้เด็กไทยโตขึ้นมาเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ และเป็นคนดีของสังคมต่อไป” นางผาสุข กล่าว

สำหรับโครงการทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับสหพัฒน์ในปีนี้ เตรียมจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6-12 ตุลาคม 2557 โดยยังคงตอกย้ำแนวทางการจัดการเรียนการสอนพร้อมกันทั้ง 4 ภาค 4 มหาวิทยาลัย ได้แก่ ภาคกลางที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ภาคเหนือที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และภาคใต้ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อีกทั้ง ยังต่อยอดขยายโอกาสการเรียน โดยเพิ่มพื้นที่ถ่ายทอดสดการสอนผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ไปยังโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการถึง 700 แห่ง ใน 77 จังหวัด เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนที่ไม่สะดวกในการเดินทางได้มีช่องทางเรียนไปพร้อมๆ กัน

ด้านเนื้อหาการเรียนจะเน้นเจาะลึกแนวข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่สามารถนำไปใช้ในการสอบ O-Net, GAT, PAT และกลุ่มวิชาหลัก อีกทั้ง ยังได้เพิ่มวิชาความถนัดทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อรองรับความต้องการของนักเรียนจำนวนมากที่สนใจสมัครเข้าเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงจัดให้มีการสอนทั้งหมด 9 วิชา ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย วิชาภาษาอังกฤษ วิชาสังคมศึกษา วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาฟิสิกส์ วิชาเคมี วิชาชีววิทยา และวิชาความถนัดทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาหลักสูตรของโครงการให้มีความเข้มข้น ทันสมัย เท่าทันความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการเสริมหลักสูตรการติวเข้มภาษาอังกฤษเตรียมสู่เออีซี ในวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2557 ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และจะถ่ายทอดสัญญาณบรอดแบนด์ไปยังโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอีก 700 แห่งทั่วประเทศ 

ในส่วนของรูปแบบการสอนจะเน้นหลักการคิดวิเคราะห์ที่กระชับ เข้าใจง่าย ตรงประเด็น เก็งข้อสอบ พร้อมเฉลยจากอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 40 ท่าน ซึ่งล้วนเป็นติวเตอร์ชื่อดังระดับประเทศ อาทิ ครูพี่แนน-อริสรา ครูพี่เมย์ ครูพี่กิฟต์ จาก เอ็นคอนเซ็ปต์  พี่โหน่ง พี่เต้ย พี่วิเวียน จาก ออนดีมานด์  พี่กอล์ฟ พี่ฟาร์ม จาก วี บายเดอะเบรน ครูมิ้นท์ จากสถาบันภาษาจุฬา อ.วันชนะ จากสถาบันไอไบร์ท และ อ.อนุวัฒน์ จากมหาวิทยาลัยเนชั่น เป็นต้น 

สำหรับน้องๆ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่สนใจเตรียมความพร้อมกับโครงการทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับสหพัฒน์ ครั้งที่ 17 สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2557 ผ่านทางเว็บไซต์ www.247friend.net www.mamalover.net และ www.sahapat.co.th โดยจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ พร้อมระบุสถานที่เรียน ในวันที่ 4 ตุลาคม 2557

แม็คโครประกาศความเป็นผู้นำด้านคู่คิดธุรกิจ แถลงข่าวครบรอบ 25 ปี เปิดตัวแคมเปญ “แม็คโคร คู่คิดธุรกิจคุณ” เดินหน้าพัฒนาธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการไทยได้เติบโตอย่างยั่งยืน

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านคู่คิดธุรกิจ ตลอดระยะเวลา 25 ปีของการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา แม็คโครยึดมั่นในพันธกิจการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ร้านค้าปลีก ด้วยการมุ่งมั่นสรรหาสินค้าคุณภาพให้ครบครัน ปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน”

“แม็คโครได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการมาโดยตลอด โดยปัจจุบันเรามีสมาชิกกว่า สองล้านห้าแสนราย ประกอบด้วย สมาชิกร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม ตลอดจนองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ดังนั้นการฉลองครบรอบ 25 ปีนี้ นับเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จของแม็คโคร ในการยืนหยัดอยู่เคียงข้างเป็น ‘คู่คิดทางธุรกิจ’ ให้แก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศ” นางสุชาดากล่าวเสริม

กิจกรรมครบรอบ 25 ปี แม็คโคร คู่คิดธุรกิจคุณ ประกอบด้วย การผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจ จัดสินค้าราคาพิเศษมามอบแก่ลูกค้าสมาชิกในรูปแบบการสะสมแสตมป์ “25 ปี แม็คโคร ปันสุข ให้ลูกค้าสมาชิก” โดยใบเสร็จที่มียอดซื้อครบทุก 2,500 บาท รับแสตมป์ 1 ดวง สะสมครบทุก 5, 10 และ 20 ดวง สามารถแลกรับของสมนาคุณพิเศษจากแม็คโคร

นอกจากนี้เพื่อเป็นการต่อยอดในการพัฒนาธุรกิจของลูกค้าสมาชิก แม็คโครยังจะการจัดงาน “ตลาดนัดโชห่วย ครั้งที่ 6” ขึ้น ภายใต้แนวคิด “สู่มิติใหม่ โชห่วยไทย” นำเสนอไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อร้าน   โชห่วยไทยให้สามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างโอกาสและแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจร้านค้าปลีกรายย่อย รวมทั้งการจัดงาน “แม็คโคร โฮเรก้า 2014” มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ ครั้งที่ 9 เพื่อให้สมาชิกและผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร และบริการจัดเลี้ยง ได้รับความรู้และแรงบันดาลใจจากกิจกรรม นำไปเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน พร้อมส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกัน

แม็คโครไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน แต่ยังห่วงใยและรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการรณรงค์และส่งเสริมให้พนักงานแม็คโครรวมทั้งลูกค้าสมาชิก เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ การตอบแทนกลับสู่สังคม และชุมชนโดยรอบ โดยแม็คโครจะจัดกิจกรรม “25 ปี แม็คโคร ปันสุข เคียงคู่เด็กไทย” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ให้ดีขึ้น โดยทุกใบเสร็จที่ลูกค้าสมาชิกซื้อสินค้ากับแม็คโครทุกสาขา ในเดือนสิงหาคม แม็คโครจะสมทบเงินเพิ่มอีก 1 บาท เพื่อนำงบประมาณที่ได้มาช่วยเหลือโรงเรียนในพื้นที่ชนบท 25แห่งซึ่งตั้งอยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังจะจัดกิจกรรมบริจาคเลือด 1,000,000 ซีซี. เพื่อสนับสนุนสภากาชาดไทย จากการร่วมใจของคณะผู้บริหารและพนักงานแม็คโครทุกคน

“การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันต้องคำนึงถึงรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน เราไม่เพียงแต่มุ่งพัฒนาธุรกิจ แต่เรายังแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ เพื่อให้ลูกค้าสมาชิกของเราได้ปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย โครงการนี้ถือเป็นคำขอบคุณจากแม็คโครต่อผู้ประกอบการและลูกค้าสมาชิกทุกท่านที่มีส่วนทำให้เราเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ แม็คโครไม่ได้เป็นเพียงศูนย์ค้าส่งสินค้าเท่านั้น แต่เรามองตัวเองเป็นคู่คิดของผู้ประกอบการไทยและชุมชนที่พวกเขาอยู่มาโดยตลอด แม็คโครมุ่งมั่นนำเสนอทางเลือก และบริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าสมาชิก เพื่อให้เราสามารถเติบโตไปด้วยกัน” นางสุชาดา กล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบันแม็คโครมีเครือข่ายที่พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการด้วยทีมงานคุณภาพกว่า 13,000 คน ใน 67 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าสมาชิกในรูปแบบ Cash and Carry และ Food Service เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าสมาชิก ร้านโชห่วย หรือร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม ให้สามารถแข่งขันและดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

แม็คโครเดินหน้าขยายเครือข่ายในเมืองพัทยา เปิดแม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาพัทยาเหนือ สนับสนุนผู้ประกอบการในพื้นที่ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีผลกำไร และแข่งขันได้อย่างยั่งยืน รองรับเศรษฐกิจท่องเที่ยวพัทยาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นางสาวฐิติกานต์ พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาพัทยาเหนือ เปิดเผยว่า “ แม็คโครเล็งเห็นศักยภาพการการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวของพัทยา ทั้งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ อีกทั้งยังได้รับการตอบรับจากนานาชาติเป็นอย่างดี นับเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยสามารถทำรายได้ให้กับประเทศเป็นอันดับ 3 ของประเทศ คิดเป็นรายได้ 60,000 ล้านบาทต่อปี ทำให้มีการเติบโตของธุรกิจร้านอาหาร ที่พัก ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และเพื่อตอบรับยุทธศาสตร์เมืองพัทยาที่ต้องการเพิ่มศักยภาพและยกระดับให้พัทยาเป็นฮับการท่องเที่ยวแห่งอาเซียน แม็คโครจึงเปิดแม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาพัทยาเหนือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่ ให้มีแหล่งซื้อสินค้าเพื่อใช้ในธุรกิจ ที่สามารถเดินทางไปซื้อได้สะดวกรวดเร็ว รับเศรษฐกิจท่องเที่ยวของพัทยาที่เติบโตต่อเนื่อง”

แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาพัทยาเหนือ เป็นสโตร์รูปแบบใหม่ของแม็คโคร เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพัทยา และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้รับการออกแบบเฉพาะ โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าสมาชิกกลุ่มร้านอาหารเป็นหลัก แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาพัทยาเหนือ ถือเป็นสโตร์ฟูดเซอร์วิสแห่งที่ 5 ของแม็คโคร จำหน่ายสินค้าที่ร้านอาหารจำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันมากกว่า 5,000 รายการ ทั้งอาหารแช่แข็ง อาหารแห้ง เครื่องปรุง เนื้อสัตว์ ไข่ ผักสลัด ชีส เบเกอรี่ และภาชนะบรรจุอาหาร พร้อมกันนี้ยังจำหน่ายเนื้อนำเข้า และเครื่องดื่มสำหรับใช้ในร้านอาหารอีกด้วย บนพื้นที่จำหน่ายสินค้ากว่า 2,800 ตารางเมตร

“ด้วยทำเลที่ใกล้ร้านอาหารมากยิ่งขึ้น จะทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งร้านอาหารไทยและอาหารนานาชาติในพื้นที่ สามารถซื้อวัตถุดิบ และสินค้าจำเป็นสำหรับร้านอาหารได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อซื้อวัตถุดิบในแต่ละวัน ลดความจำเป็นในการสต๊อกสินค้า ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ ร้านอาหารสามารถลดต้นทุน เพิ่มกำไร ทำให้ผู้ประกอบการมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจมากขึ้น และดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” นางสาวฐิติกานต์ กล่าวทิ้งท้าย

แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาพัทยาเหนือ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 6 ถ.พัทยาเหนือ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร.033-008-938 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น.

แม็คโครเดินหน้าขยายเครือข่ายในภูมิภาคอีสาน ล่าสุดเปิดสาขาที่ 65 ณ จังหวัดบึงกาฬสนับสนุนผู้ประกอบการในพื้นที่ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีผลกำไร และแข่งขันได้อย่างยั่งยืน รองรับเศรษฐกิจของจังหวัดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ศูนย์ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจรในระบบสมาชิกรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย “แม็คโคร” เปิดเผยว่า แม็คโคร สาขาบึงกาฬ จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจร บนพื้นที่ราว 7,000 ตารางเมตร ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป และสินค้าประเภทอื่นๆ กว่า 12,000 รายการ  ให้แก่สมาชิกซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านค้าปลีก ร้านโชห่วย ร้านอาหาร และธุรกิจที่พักโรงแรม  รีสอร์ท ในพื้นที่  ให้มีแหล่งเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ครบครัน มีคุณภาพดี ในราคาที่สามารถซื้อไปขายต่อหรือแปรรูปเพื่อทำธุรกิจได้อย่างมีกำไร อีกทั้งระยะทางที่สั้นลงยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และลดความจำเป็นในการสต๊อกสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจมากขึ้น

“แม็คโครเล็งเห็นถึงศักยภาพการเจริญเติบโตของจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์คือติดกับแม่น้ำโขงและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ  อีกทั้งในปีหนึ่งๆ การซื้อขายบริเวณพรมแดนนี้มีมูลค่ากว่าห้าพันล้านบาทต่อปี  นอกจากนี้จังหวัดบึงกาฬยังเป็นศูนย์กลางการปลูกและผลิตยางพาราที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ซึ่งมูลค่าการผลิตและส่งออกมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียนจะมาถึงในเร็วๆ นี้  แม็คโครจึงมาเปิดสาขาที่นี่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในจังหวัดบึงกาฬได้มีแหล่งซื้อสินค้าเพื่อใช้ในธุรกิจ ที่สามารถเดินทางไปซื้อหาได้สะดวกและรวดเร็ว และพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันและดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” นางสุชาดา กล่าว

แม็คโครมีนโยบายในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการชำระภาษีต่างๆ ให้กับท้องถิ่นตามกฎหมาย การจ้างพนักงานซึ่งเป็นคนในพื้นที่กว่า 100 คน การรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษ บ้านนาโนน บ้านท่าไคร้ บ้านท่าโพธิ์ บ้านแสนเจริญ และกลุ่มผู้ปลูกสับปะรดบ้านหนองบัว เพื่อนำมาจำหน่ายที่แม็คโคร พร้อมกันนี้แม็คโครยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ จำนวน 15 ทุน อีกด้วย

นอกจากนี้ แม็คโครยังให้การสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการร้านค้าปลีก ให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการให้กับร้านโชห่วย ทั้งที่เป็นสมาชิกแม็คโครและผู้สนใจทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ภายใต้โครงการ “แม็คโคร มิตรแท้โชห่วย” ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” นางสุชาดา กล่าวสรุป

แม็คโครตอกย้ำพันธกิจการสนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้าปลีก และร้านอาหาร โรงแรม และรีสอร์ท เดินหน้าขยายสาขาแม็คโครอย่างต่อเนื่อง รองรับความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่ เริ่มต้นสาขาแรกของปี ด้วย แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาเกาะพะงัน หนุนผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรมบนเกาะ เพิ่มความสะดวก เสริมเงินทุนหมุนเวียน ประหยัดเวลา และลดต้นทุนการเดินทาง

นายสันติ จันทร์แรม ผู้จัดการทั่วไป แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาเกาะพะงัน เปิดเผยว่า “ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร บนเกาะพะงัน มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวทั่วโลก พื้นที่กว่า 170ตารางกิโลเมตร ของเกาะพะงัน ประกอบไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งชายหาดขาว น้ำตก อุทยานแห่งชาติ พร้อมกิจกรรมทางทะเลที่หลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็น ดำน้ำ เดินป่า ดูนก การชมวิถีชีวิตของชาวประมง ทำให้เกาะ  พะงันได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากขึ้นเป็นลำดับทุกปี ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกว่า 3 แสนคนต่อปี”

แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาเกาะพะงัน เป็นสโตร์รูปแบบใหม่ของแม็คโคร เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบนเกาะพะงัน และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้รับการออกแบบเฉพาะ โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าสมาชิกกลุ่มร้านอาหารเป็นหลัก แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาเกาะพะงัน ถือเป็นสโตร์ฟูดเซอร์วิสแห่งที่ 4 ของแม็คโคร จำหน่ายสินค้าที่ร้านอาหารจำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันมากกว่า 5,000 รายการ ทั้งอาหารแช่แข็ง อาหารแห้ง เครื่องปรุง เนื้อสัตว์ ไข่ ผักสลัด ชีส เบเกอรี่ และภาชนะบรรจุอาหาร พร้อมกันนี้ยังจำหน่ายเนื้อนำเข้า และเครื่องดื่มสำหรับใช้ในร้านอาหารอีกด้วย บนพื้นที่จำหน่ายสินค้ากว่า 1,800 ตารางเมตร

“ด้วยทำเลที่ใกล้ร้านอาหารและโรงแรมมากขึ้น จะทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการในพื้นที่ สามารถซื้อวัตถุดิบ และสินค้าจำเป็นสำหรับร้านอาหารได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางนั่งเรือ นั่งรถเข้าตัวเมืองเพื่อซื้อของเหมือนที่ผ่านมา ช่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อซื้อวัตถุดิบในแต่ละวัน ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรม ให้สามารถลดต้นทุน เพิ่มกำไร และดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” นายสันติ กล่าวทิ้งท้าย

แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาเกาะพะงัน ตั้งอยู่ หมู่ 1 ถ.ท้องศาลา-บ้านใต้ ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฏร์ธานี โทร.077-377 370 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.

แม็คโคร รองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจอำเภอชุมแพ เดินหน้าขยายสาขาที่ 61 ตอบสนองความต้องการ และสนับสนุนผู้ประกอบการในพื้นที่ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีผลกำไร สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน เผยผู้ประกอบการให้การตอบรับอย่างเนืองแน่น

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ศูนย์ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจรในระบบสมาชิกรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย “แม็คโคร” เปิดเผยว่า “อำเภอชุมแพ เป็นอำเภอที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกแห่งหนึ่ง ส่งผลให้ธุรกิจของผู้ประกอบการในชุมแพ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม็คโคร สาขาชุมแพ จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้ซื้อสินค้าที่หลากหลาย ครบครัน มีคุณภาพดี ในราคาที่ซื้อไปขายต่อ หรือแปรรูป เพื่อทำกำไรในธุรกิจได้ ลดต้นทุนในการเดินทาง ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการ สามารถบริหารเงินทุนหมุนเวียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

แม็คโคร สาขาชุมแพ จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจร บนพื้นที่ขายกว่า 7,000 ตารางเมตร จำหน่ายสินค้าบริโภค อาหารแห้ง อาหารสด อาหารแช่แข็ง สินค้าอุปโภค และและเครื่องใช้ไฟฟ้า มากกว่า 12,000 รายการ ให้แก่สมาชิกซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านโชห่วย ร้านอาหาร และธุรกิจที่พักโรงแรม รีสอร์ท ในพื้นที่ ให้มีแหล่งเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ครบครัน มีคุณภาพดี ในราคาที่สามารถซื้อไปขายต่อ หรือแปรรูปเพื่อทำธุรกิจได้อย่างมีกำไร

แม็คโครมีนโยบายในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการชำระภาษีต่างๆ ให้กับท้องถิ่นตามกฎหมาย การจ้างพนักงานซึ่งเป็นคนในพื้นที่กว่า 190 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 72 ของพนักงานในสาขา การรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร อาทิ เห็ดจากกลุ่มเพื่อนผู้ปลูกเห็ดชาวชุมแพ เพื่อนำมาจำหน่ายที่แม็คโคร พร้อมกันนี้แม็คโครยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนกุดเข้ห้วยบงวิทยานุกูล และโรงเรียนเทศบาล1 รวม 15 ทุน อีกด้วย”

“นอกจากนี้ แม็คโครยังให้การสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการร้านค้าปลีก ให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการให้กับร้านโชห่วย ทั้งที่เป็นสมาชิกแม็คโครและผู้สนใจทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ภายใต้โครงการ “แม็คโคร มิตรแท้โชห่วย” ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” นางสุชาดา กล่าวสรุป

แม็คโครเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอาหารไทยเตรียมพร้อมรับเออีซี ด้วยสร้างการธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน จัดงาน “มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ ครั้งที่ 8” ภายใต้แนวคิด “ต่อยอดธุรกิจ รับพันธมิตรอาเซียน” เตรียมพร้อมผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม และจัดเลี้ยง รับมือการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คาดมีผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 5 หมื่นราย

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แม็คโคร เป็นศูนย์ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจร ในระบบสมาชิก ที่ดำเนินธุรกิจในไทยมาเป็นเวลากว่า 24 ปี และได้รับความไว้วางใจ จากผู้ประกอบการทั่วประเทศ สมัครเป็นสมาชิกกว่า สองล้านห้าแสนราย ประกอบด้วย สมาชิกร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม ตลอดจนองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม็คโครได้ให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งที่เป็นสมาชิกแม็คโคร และผู้สนใจทั่วไป เพื่อช่วยพัฒนา และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ

หนึ่งในกิจกรรมหลักที่แม็คโครได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง คือ “มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์” หรือ Makro HoReCa ที่เริ่มจัดตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกแม็คโคร และผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร และบริการจัดเลี้ยง หรือกลุ่ม “โฮเรก้า” ได้รับความรู้และแรงบันดาลใจจากกิจกรรม นำไปเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน พร้อมเป็นการขยายโอกาสในการประชาสัมพันธ์สินค้า การบริการให้กับพันธมิตรทางการค้าที่เข้าร่วมแสดงงาน และส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกัน

นางศิริพร เดชสิงห์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ ครั้งที่ 8 กล่าวว่า “ในปี 2556 นี้ แม็คโครจึงได้จัดงานมหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ ครั้งที่ 8 ขึ้น ภายใต้แนวคิด “ต่อยอดธุรกิจ รับพันธมิตรอาเซียน” เพราะแม็คโครเล็งเห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อม ที่ลูกค้าสมาชิกของแม็คโคร และผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารและโรงแรมของไทย ต้องพัฒนาทักษะความรู้ในการดำเนินธุรกิจให้โดดเด่น เพื่อรับมือกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งในเวลานั้นจะเกิดการแข่งขันที่ตามมา ตลอดจนรองรับโอกาสทางธุรกิจที่กำลังจะตามมา กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วยกิจกรรมที่จะช่วยสร้างแนวคิดที่โดดเด่น และความแตกต่าง ตลอดจนสามารถนำไปแข่งขันทางธุรกิจได้ อาทิ

• สัมมนา ในหัวข้อ “มุมมองและผลกระทบของการเปิด AEC ต่อร้านอาหารไทย” และ “โอกาสธุรกิจอาหารแปรรูปสู่อาเซียน”

• การแบ่งปันประสบการณ์ของเชฟมืออาชีพและศิลปินนักแสดงชื่อดังที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจอาหาร อย่าง ชาคริต แย้มนาม ตั๊ก นภัสรัญธน์ และ ป๊อก ปิยธิดา ขาบ สุทธิพงษ์ สุริยะ จ็อบ นิธิ สมุทรโคจร ณวัฒน์ อิสรไกรศีล พล ตัณฑเสถียร และ เชฟฟาง ณัฐพงศ์ หน่อชูเวศ

• เวิร์คช้อป “สารพันเครปอร่อย ต้อนรับ AEC” “เทคนิคการชงเครื่องดื่ม Cocktail/ Mock tail ในแนวคิด AEC Signature Drink” “เกาะกระแส AEC ด้วยเมนูดีๆ”

• พร้อมการออกบูธจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษผู้ผลิต และผู้นำเข้าสินค้าด้านอาหารและอุปกรณ์กว่า 300 ราย

• การแข่งขันการทำอาหารนานาชาติ ระดับประเทศ “แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2013” ที่คัดเลือกเอาสุดยอดฝีมือจากทุกภาคทั่วประเทศมาประชันฝีมือการเป็นสุดยอดเชฟมือหนึ่ง ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และเงินรางวัลมากมายรวมมูลค่าสูงถึง 1 ล้านบาท พร้อมเป็นตัวแทนอันทรงเกียรติของประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันการทำอาหารเวทีใหญ่ระดับเอเชีย ที่งาน “Food&Hotel Asia 2014 (FHA)” ณ ประเทศสิงคโปร์

“จากความสำเร็จของการจัดงาน 7 ครั้งที่ผ่าน แม็คโครเชื่อว่ามหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ ครั้งที่ 8 นี้จะได้รับการตอบรับที่ดี และมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 50,000ราย และคาดหวังว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน จะสามารถนำความรู้และแนวคิดจากการจัดงานมาต่อยอดทางธุรกิจให้มีความเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรับการเปิดประชาคมอาเซียน ดังเช่นแนวคิดการจัดงาน “ต่อยอดธุรกิจ รับพันธมิตรอาเซียน” แม็คโครยืนยันว่าเราจะจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ ทั้งที่เป็นสมาชิก และไม่เป็นสมาชิกของแม็คโคร เพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการไทย และจะอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการทุกคน ให้สามารถยืนหยัดท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ตลอดจนสามารถเติบโตทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืนตลอดไป” นางสุชาดากล่าวสรุป

ผู้สนใจสามารถเข้าชมงาน และฟังสัมมนาดีๆ พร้อมร่วมเวิร์คช๊อป ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในงานมหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2556 เวลา 10.00 – 19.00น. ณ ฮอลล์ 2-3 อิมแพค เมืองทองธานี หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ แม็คโคร โทรศัพท์ 0-2335-5300 หรือ www.siammakro.co.th

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ศูนย์ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจร ในระบบสมาชิก นำโดย นายเบญจะ วงศ์อยู่ ผู้จัดการทั่วไป แม็คโคร สาขาอยุธยา มอบเครื่องช่วยหายใจมูลค่ากว่า – 3.8 แสนบาท ให้แก่โรงพยาบาลเสนา ภายใต้โครงการฟื้นฟูโรงพยาบาลหลังน้ำท่วม มอบเครื่องช่วยหายใจจำนวน 10 เครื่อง แก่ 10 โรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือผู้ป่วยยามฉุกเฉิน โดยมี นพ.ศราวุฒิ ตั้งศรีสกุล เป็นตัวแทนรับมอบ ณ ห้องประชุมบุศราคัม โรงพยาบาลเสนา อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเร็วๆ นี้