Wi-Fi – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 15 Nov 2023 10:53:32 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Wi-Fi 7 มาแล้ว! ทำความรู้จักไวไฟตัวใหม่ เร็วสูงสุด 46 Gbps มากกว่า Wi-Fi 6 ถึง 4.8 เท่า https://positioningmag.com/1451719 Wed, 15 Nov 2023 10:32:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451719 มารู้จักกับเทคโนโลยี Wi-Fi 7 เป็นมาตรฐาน Wi-Fi ที่กำลังจะใช้อย่างแพร่หลายในอนาคตอันใกล้ และทาง TP-Link ได้ทยอยเปิดตัวสินค้าดังกล่าวในประเทศไทยแล้ว โดยมองว่าตลาดสินค้าดังกล่าวยังเติบโตได้อีกมากจนถึงปี 2030

TP-Link ได้เปิดตัวสินค้าในกลุ่ม Wi-Fi 7 โดยชูจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่กำลังจะมีการรองรับภายในช่วงปี 2024 ซึ่งทาง Positioning ได้สรุปความแตกต่าง รวมถึงสินค้าที่นำมาเปิดตัวในประเทศไทย

ความแตกต่างระหว่าง Wi-Fi 7 กับ Wi-Fi 6

Wi-Fi 7 เป็นมาตรฐาน Wi-Fi ที่กำลังจะใช้อย่างแพร่หลายในอนาคตอันใกล้ โดยเทคโนโลยีดังกล่าวมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า IEEE 802.11be โดยเทคโนโลยี Wi-Fi 7 ทำงานอยู่บน 3 คลื่นความถี่ ได้แก่ 2.4 GHz 5 GHz และ 6 GHz

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่าง Wi-Fi 7 กับ 6 คือ

  • Wi-Fi 7 จะเพิ่มคลื่นความถี่ 6 GHz ซึ่ง Wi-Fi 6 ไม่มี
  • Wi-Fi 7 จะมีแบนด์วิดท์ (ช่องสัญญาณ) กว้างถึง 320 MHz ซึ่งมากกว่า Wi-Fi 6 ซึ่งอยู่ที่ 160 MHz
  • ความเร็วในการใช้งานสูงสุดของ Wi-Fi 7 อยู่ที่ราวๆ 46 Gbps ซึ่งมากกว่า Wi-Fi 6 ถึง 4.8 เท่า มีค่าลาเทนซีลดลง 100 เท่า

การมาของเทคโนโลยี Wi-Fi 7 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดความหน่วงในการส่งข้อมูล การรองรับจำนวนอุปกรณ์ได้มากกว่า เป็นต้น

Wi-Fi 7 ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะเข้ามาปฏิวัติไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอีกอย่างหนึ่งก็ว่าได้ ครอบคลุมการใช้งานในทุกรูปแบบ ทั้งการใช้งานทั่วไป เช่น การรับชมภาพยนตร์ผ่านระบบสตรีมมิ่งความละเอียดสูง 4K/8K, การเล่นเกมออนไลน์ผ่านระบบคลาวด์, และการใช้งานอุปกรณ์ AR / VR / XR และการพัฒนาอุปกรณ์เครือข่ายทางธุรกิจเพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มสูงมากขึ้น เช่น อุปกรณ์ IoT สำหรับธุรกิจทางการแพทย์ หรือ การควบคุมเครื่องจักรทางอุตสาหกรรม เป็นต้น

ปัจจุบันอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 7 นยังมีจำนวนที่ถือว่าน้อยมาก เช่น โทรศัพท์มือถือ Sony Xperia 1 V หรือ Motorola Edge+ เป็นต้น และจะต้องมีการอัปเดตตัวซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการใช้งาน Wi-Fi 7 ด้วย

ข้อมูลจาก TP-Link

Wi-Fi 7 เหมาะกับใคร

เนื่องด้วยเทคโนโลยีล่าสุดทำให้ Wi-Fi 7 รองรับการใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ ของผู้ใช้งานทั่วไป เช่น VR/AR การเล่นเกมออนไลน์ที่ต้องการความหน่วงต่ำ การควบคุมอุปกรณ์สำนักงานจากระยะไกล และการประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ เป็นต้น

ขณะที่การใช้งานในด้านภาคธุรกิจ Wi-Fi 7 ได้แก่ปัญหาในเรื่องของความแออัดและการรบกวนสัญญาณ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีความสำคัญอย่างมากสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ หรือเหมาะแก่ภาคธุรกิจที่เชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก เช่น อุปกรณ์ IoT เครื่องจักรทางอุตสาหกรรม ไปจนถึงเครื่องมือทางการแพทย์

ผู้บริหารของ TP-Link ยังได้กล่าวว่า Wi-Fi 7 มีความสำคัญทั้งในการใช้ครัวเรือน หรือแม้แต่ในภาคธุรกิจ เหมาะกับที่คนใช้งานมากๆ 

เปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ มองตลาด Wi-Fi 7 โตได้อีกมาก

TP-Link ได้เปิดตัวอุปกรณ์หลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น

  • เราเตอร์ Archer Wi-Fi 7 ในรุ่น Archer BE800 และ Archer BE550 โดยมีราคาเริ่มต้น 9,990 บาท
  • Deco Mesh Wi-Fi 7 ได้แก่ Deco BE85 และ Deco BE65 เพื่อการกระจายสัญญาณที่ครอบคลุมบ้านทั้งหลัง ราคาเริ่มต้น 2 Pack ในรุ่น BE65 อยู่ที่ 18,990 บาท
  • อุปกรณ์เครือข่าย Wi-Fi 7 สำหรับภาคธุรกิจ Omada ในรุ่น EAP783 และ EAP773 ในราคาเริ่ม 25,990 บาท

อย่างไรก็ดีสำหรับราคาอุปกรณ์เครือข่าย Wi-Fi 7 นั้นเริ่มต้นอาจมีราคาแพง และอาจเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนจากเทคโนโลยีเดิมอย่าง Wi-Fi 5 มาเป็นอุปกรณ์ตัวใหม่

สำหรับขนาดตลาดของ Wi-Fi 7 ทั่วโลก TP-Link ได้ให้ข้อมูลว่าปัจจุบันตลาดมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 24.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 โดยมี CAGR ที่ 57.2% ตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2030

นอกจากนี้บริษัทยังมองว่าผลิตภัณฑ์ Wi-Fi 6 และ Wi-Fi 7 จะครองตลาดภายในปี 2027 ในสัดส่วนมากถึง 2 ใน 3 โดยมีอัตราการเติบโตหลังจากนี้ 18.8% ต่อปี ทำให้ TP-Link เริ่มเปิดตัวสินค้าในกลุ่ม Wi-Fi 7 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

]]>
1451719
นักวิจัยซาอุฯ แจ้งเกิด “Wi-Fi ใต้น้ำ” ครั้งแรก! สานฝันนักดำน้ำแชร์ภาพแบบเรียลไทม์ https://positioningmag.com/1284179 Thu, 18 Jun 2020 15:33:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1284179 นักวิจัยซาอุฯ แจ้งเกิดอุปกรณ์กระจายสัญญาณเครือข่ายข้อมูลไร้สายไว-ไฟ (Wi-Fi) ใต้น้ำ สานฝันนักดำน้ำแชร์ภาพเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์ เบื้องต้นใช้คลื่นวิทยุและลำแสงเลเซอร์จากแอลอีดี (LED) ในการส่งข้อมูลจากน่านน้ำสู่ภาคพื้นดิน ความเร็วถ่ายโอนข้อมูลเบื้องต้นวัดได้ 2.11 เมกะไบต์ต่อวินาที

อุปกรณ์ส่งสัญญาณ Wi-Fi ใต้น้ำมีชื่อเรียกว่า “อะควา-ไฟ” (Aqua-Fi) เป็นผลงานของบาเซ็ม ชิฮาดา (Basem Shihada) นักวิจัยมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคิงอับดุลาห์ (King Abdullah University of Science and Technology)

นักวิจัยรายนี้อธิบายแนวคิดการพัฒนาว่าเป็นการหาทางตอบโจทย์ภาคการศึกษา และภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการติดตามและสำรวจสภาพแวดล้อมใต้น้ำ ทำให้เกิดการพัฒนาระบบเชื่อมต่อไร้สายใต้น้ำที่สามารถรับส่งข้อมูลได้ตามต้องการ

รายละเอียดที่ทางมหาวิทยาลัยเผยแพร่บนเว็บไซต์ IEEE Xplore ระบุว่า Aqua-Fi ใช้คลื่นวิทยุในการส่งข้อมูลจากสมาร์ทโฟนของนักดำน้ำไปยังอุปกรณ์รับส่งข้อมูลหรือ “เกตเวย์” ที่ติดอยู่กับอุปกรณ์ใต้น้ำ ทั้งหมดนี้จะมี LED เป็นอุปกรณ์ยิงลำแสงเลเซอร์ในการส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์บนบกหรือภาคพื้นดิน ซึ่งจะมีระบบแปลข้อมูลเป็นรูปภาพหรือวิดีโอที่ปลายทาง

สถิติขณะนี้ถูกบันทึกว่านักวิจัยระบบสามารถอัพโหลดและดาวน์โหลดมัลติมีเดียผ่าน Aqua-Fi ด้วยการถ่ายโอนข้อมูลที่ความเร็ว 2.11 เมกะไบต์ต่อวินาที

รายงานยังย้ำว่า Aqua-Fi ส่งข้อมูลโดยใช้ลำแสงเลเซอร์เชื่อมคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนผิวน้ำซึ่งเข้ากับอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม จากนั้นคอมพิวเตอร์จึงจะแปลงข้อมูลภาพถ่ายเป็นชุดข้อมูลศูนย์และหนึ่งจำนวนมหาศาล ซึ่งจะถูกแปลเป็นการเปิดปิดลำแสงเพื่อให้สามารถส่งข้อมูลได้

นอกจากการอัปโหลดและดาวน์โหลดเนื้อหาระหว่างคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องที่ถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 2.11 เมกะไบต์ต่อวินาที การสำรวจยังพบความล่าช้าหรือดีเลย์เฉลี่ย 1.00 มิลลิวินาทีสำหรับการรับส่งข้อมูลไปกลับ

ทีมพัฒนาย้ำว่า ความสำเร็จนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นักดำน้ำสามารถใช้อินเทอร์เน็ตใต้น้ำแบบไร้สายได้อย่างสมบูรณ์ โดยยอมรับว่าความท้าทายที่ทีมกำลังเผชิญ คืออุปสรรคเรื่องลำแสง LED ที่ต้องสอดคล้องกับเครื่องรับในน้ำที่กำลังเคลื่อนหรือกระเพื่อม ทำให้ทีมต้องแน่ใจว่าต้องออกแบบอุปกรณ์ให้เป็นทรงกลม ซึ่งจะช่วยให้การจับแสงทำได้จากทุกมุม

ทีมวิจัยทิ้งท้ายถึงความหวังให้ Aqua-Fi ถูกใช้อย่างกว้างขวางใต้น้ำ เป็นการอุดช่องว่างที่ Wi-Fi สามารถทำงานได้เหนือน้ำเท่านั้น

Source

]]>
1284179
Google ประกาศปิดให้บริการฟรี Wi-Fi “Google Station” สิ้นปีนี้ เหตุแพ็กเกจเน็ตถูกลง https://positioningmag.com/1264900 Tue, 18 Feb 2020 18:22:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1264900 Google ประกาศเตรียมปิดให้บริการ Google Station ภายในสิ้นปี 2563 หลังเริ่มให้บริการที่อินเดียเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนในไทยเริ่มให้บริการปี 2561 หลังเห็นแนวทางการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคผ่านโมบายดาต้ากันมากขึ้นจากค่าบริการอินเทอร์เน็ตที่ถูกลง

ภายในบล็อกโพสต์ของ Google ระบุว่า Google Station เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาหลังจากการเปิดตัวในประเทศอินเดียในปี 2558 หลังจากนั้นได้ร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและหน่วยงานท้องถิ่นในประเทศต่างๆ เพื่อให้บริการ Wi-Fi สาธารณะความเร็วสูงฟรีตามพื้นที่สาธารณะต่างๆ

นับตั้งแต่นั้นมามีผู้ใช้บริการ Google Station หลายล้านคนใน 9 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยได้เปิดตัว Google Station ในปี 2561 โดยให้บริการ Wi-Fi ฟรีครอบคลุมกว่า 100 แห่งทั่วประเทศไทยตั้งแต่สนามบิน สถานีรถไฟ ไปจนถึงโรงพยาบาล และตลาด

ในขณะที่กำลังวางแผนการดำเนินงานในระยะต่อไปอยู่นั้น เห็นได้ชัดว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น และค่าบริการอินเทอร์เน็ตก็ถูกลงเรื่อยๆ แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือมีราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้มากกว่าเดิม และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็พัฒนาดีขึ้นทั่วโลก รัฐบาลและหน่วยงานท้องถิ่นหลายแห่งก็กำลังริเริ่มโครงการของตนเองเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้นในราคาที่คุ้มค่า

นอกจากนี้ยังได้ประสบความท้าทายในเรื่องข้อกำหนดทางเทคนิคและโครงสร้างพื้นฐานที่แตกต่างกันในหลายๆ ประเทศ ซึ่งทำให้เกิดอุปสรรคในการขยายการให้บริการและสร้างความยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพันธมิตรของเรา เราเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้น และโอกาสที่มากขึ้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคกลุ่ม Next Billion Users มากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้กูเกิลจึงตัดสินใจที่จะทยอยปิดโครงการ Google Station ทั่วโลกภายในปี 2563 นี้ สำหรับในประเทศไทยเราจะทำงานร่วมกับบริษัท กสทโทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านนี้เป็นไปอย่างราบรื่น

Source

]]>
1264900
นักกฎหมายแนะ “ร้านกาแฟ” แค่จดชื่อคนขอ Wi-Fi กับติดกล้องวงจรปิดก็พอ https://positioningmag.com/1249328 Wed, 09 Oct 2019 16:31:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1249328
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายไซเบอร์ ระบุ รมว.ดิจิทัลขอความร่วมมือเก็บข้อมูลการจราจรทางอินเทอร์เน็ต ของผู้ใช้ Wi-Fi ของร้าน 90 วัน มีมานานแล้ว แนะร้านค้า ร้านกาแฟ บันทึกลูกค้าที่ขอพาสเวิร์ด ติดกล้องวงจรปิดก็เพียงพอแล้ว

จากกรณีที่ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวผลปฏิบัติการปราบปรามเนื้อหาไม่เหมาะสม จับกุมนายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่โพสต์ข้อความผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 8 ต.ค.

ในตอนหนึ่งระบุว่า ขอฝากร้านค้าร้านกาแฟต่างๆ ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ภายในร้าน ให้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลการจราจรทางอินเทอร์เน็ต ของผู้ลงทะเบียนใช้ Wi-Fi ของร้านเป็นเวลา 90 วัน เพื่อป้องกัน เมื่อมีเหตุอะไรแล้วเจ้าหน้าที่รัฐจำเป็นต้องขอข้อมูลดังกล่าว

โดยอาศัยความตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 26 ซึ่งกระทรวงดีอีเอสได้หารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) แล้ว หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามกฎหมาย

ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายไซเบอร์ เปิดเผยกับ MGR Online ว่าสิ่งที่ รมว.ดีอีเอส ขอความร่วมมือนั้น โดยปกติแล้วตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ปี 2550 มีการระบุไว้ว่า ถ้าเป็นสถานประกอบการและให้บริการบุคคลทั่วไปสามารถเข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้ ตามกฎหมายระบุว่าต้องจัดเก็บข้อมูลจราจรทางอินเตอร์เน็ต คนที่ใช้บริการเป็นใคร ยังไง เข้าออกเวลาไหน

โดยหลักการระบุว่า ถ้าผู้ประกอบการรายใดที่ยังไม่จัดเก็บก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งตอนที่เป็นกรรมาธิการร่างกฎหมายปี 2550 มีหลักเกณฑ์มองไว้ว่า เราจะใช้แนวนโยบายในการจัดเก็บข้อมูลในเชิงเทคนิคเฉพาะผู้ประกอบการขนาดใหญ่ แต่ในกรณีที่เป็นประชาชนทั่วไป หรือร้านกาแฟเล็กๆ ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ต เราจะเอาหลักเกณฑ์แบบนี้ไปใช้ไม่ได้ เพราะเป็นการผลักภาระให้ผู้ประกอบการรายเล็กมากเกินไป

“สิ่งที่ผ่านมาตลอด 12 ปี ถ้าเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก อย่างเช่นคาเฟ่เล็กๆ สิ่งที่เขาควรจะต้องทำก็คือ ควรจะมีบันทึกการเข้าออกเวลามีคนมาขอพาสเวิร์ดที่ร้าน (รหัส Wi-Fi) แล้วมีกล้องวงจรปิดติดไว้ก็เพียงพอแล้ว” เพราะกฎหมายแค่อยากจะรู้ว่าคุณเอา Wi-Fi ไปใช้ เขาเป็นใคร เอาไปใช้ยังไงแค่นั้นเอง กฎหมายก็มีแค่นี้ แล้วหลักเกณฑ์ที่ทาง รมว. ดีอีเอส บอกมามีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าในแง่การจัดเก็บ ถ้าเป็นร้านค้าเล็กๆ หรือร้านกาแฟเล็กๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเสียงบประมาณในการจัดเก็บที่เสียค่าใช้จ่ายเป็นแสนเป็นล้านบาท เพียงแค่เรามีบันทึกภายในที่เวลามีการแจ้งมาว่าใช้ Wi-Fi จากร้านเรา เราบอกได้ว่าใครเข้ามาใช้ แค่นั้นเอง” นายไพบูลย์กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้าให้ทางร้านทำบันทึกการใช้งาน Wi-Fi แล้ว รหัส Wi-Fi ก็ไม่ควรเผยแพร่รหัส Wi-Fi ของร้าน ให้บุคคลภายนอกรู้เพื่อเกี่ยวสัญญาณ Wi-Fi แล้วกระทำผิดกฎหมายใช่หรือไม่ นายภิญโญตอบว่า ใช่ และเห็นว่าที่ผ่านมาพบว่าหน่วยงานของรัฐก็ไม่ได้จัดเก็บข้อมูลการจราจรทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นช่องโหว่ของกฎหมายเช่นกัน อาทิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กระทรวง กรม ก็มีฟรี Wi-Fi เหมือนกัน ซึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้น ที่จัดเก็บข้อมูลการจราจรทางอินเทอร์เน็ตควรที่จะต้องทำให้เท่าเทียมกันหมด

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเสนอให้กระทรวงดีอีเอสทำระบบที่ไม่ต้องให้ทางร้านจัดเก็บข้อมูลการจราจรทางอินเทอร์เน็ต นายไพบูลย์กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ใช้มา 12 ปีแล้ว ไม่เคยมีการปรับปรุงเลย อะลุ้มอล่วยมาตลอด สิ่งที่ทุกๆ ที่ใช้และตำรวจก็แฮปปี้ก็คือ การติดกล้องวงจรปิด เพราะเมื่อมีคนใช้บริการขอรหัส Wi-Fi จะบันทึกอยู่แล้วว่าคนเข้า-ออกร้านเมื่อเวลาเท่าไหร่ เราก็แค่บันทึกว่า คนคนนี้ ลูกค้าคนนี้มาขอรหัส Wi-Fi แล้วก็ลงชื่อไว้ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องไปใช้ถึงขนาดเป็นซอฟต์แวร์เก็บข้อมูลซึ่งไม่จำเป็น แต่สำหรับร้านค้า ร้านกาแฟขนาดใหญ่ เช่น สตาร์บัคส์ โอบองแปง มีศักยภาพในการจัดเก็บที่ถูกต้องอยู่แล้ว.

Source

]]>
1249328
ดีแทค wifi ร่วมกับ 3BB ให้บริการ wifi ครอบคลุมทั่วไทยแล้ว ในราคาเพียง 99 บาท https://positioningmag.com/58524 Thu, 02 Oct 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58524

ดีแทค wifi ร่วมกับ 3BB เปิดให้บริการ dtac wifi – 3BB ให้ลูกค้าดีแทคและแฮปปี้สามารถเชื่อมต่อ wifi ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยจุดให้บริการทั้งในห้างและอีกกว่า 60,000 จุด ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วไทย ด้วยความสะดวกสบายในการเชื่อมต่ออัตโนมัติเพื่อใช้งานได้ทั้งเครือข่าย dtac wifi และ 3BB_WiFi พร้อมให้บริการความเร็วสูงสุดถึง 100 Mbps ด้วยแพ็กเกจที่คุ้มค่าเพียง 99 บาทต่อเดือน

คุณสืบพงศ์ เจริญมีชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า “ปัจจุบันดีแทคมีฐานลูกค้าที่ใช้บริการดีแทค wifi กว่า 1,800,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยจะเห็นได้จากฐานลูกค้าเมื่อปีที่แล้วโดยปีนี้เพิ่มขึ้นคิดเป็น 33% ดีแทคจึงเล็งเห็นถึงอัตราการเติบโตของฐานลูกค้าที่มีความต้องการใช้งาน wifi ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เชื่อมต่อทุกที่ทุกเวลา และยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “Internet for All” ที่มุ่งเน้นให้คนไทยได้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น โดยการร่วมมือกับ 3BB ผู้ให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่มีศักยภาพและครอบคลุมที่สุด ในการขยายจุดให้บริการการใช้งาน wifi ให้เพิ่มขึ้นครอบคลุมทั่วประเทศ โดยลูกค้าดีแทคและแฮปปี้จะได้รับสะดวกสบายจากประสบการณ์เข้าใช้อัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีวิธี Mac Authentication (ล๊อกอินเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ โดยยืนยันตัวตนจาก MAC address ของเครื่อง) บนเครือข่าย 3BB WiFi ในขณะที่ล็อกอินอัตโนมัติแบบการใช้ข้อมูลจาก SIM card (EAP-SIM) และ แบบจดจำชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน (EAP-TTLS) ก็ยังสามารถใช้การล็อกอินบนเครือข่าย dtac wifi ได้เช่นกัน”

คุณนงลักษณ์ พงษ์ศรีหดุลชัย กรรมการ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันถือเป็นโลกแห่งการติดต่อสื่อสารอย่างแท้จริง โทรศัพท์สมาร์ทโฟน  ได้เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต และทำให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อธุรกิจ หรือชีวิตส่วนตัว ก็ไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป ประกอบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาก็มีฟีเจอร์ที่รองรับ wifi ในราคาที่ใครๆก็เป็นเจ้าของได้ 3BB จึงได้เล็งเห็นโอกาสด้านการตลาดในการขยายฐานของกลุ่มผู้ใช้งาน wifi ตลอดจนเสริมจุดแข็งในเรื่องของจุดให้บริการ จึงได้ร่วมกับ dtac ซึ่งเป็นผู้นำด้านบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีฐานลูกค้ารายเดือนและเติมเงินจำนวนมาก และมีจุดให้บริการครอบคลุมทั้งในห้างสรรพสินค้าและสถานีรถไฟฟ้า ขณะที่ 3BB มีโครงข่าย wifi ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 60,000 จุด ก็จะทำให้ลูกค้าดีแทค ได้รับความสะดวกสบายจากจุดให้บริการที่มากขึ้นและสามารถใช้งานด้วยเน็ตเวิร์คที่มีคุณภาพ ใช้ชีวิตออนไลน์ไร้สายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเล่น Facebook, IG, เกมออนไลน์ หรือเอนเทอร์เทนเมนท์อื่นๆ เช่นดูหนัง ดูคลิปวิดิโอ และหลากหลายรูปแบบของโปรแกรม CHAT โดย 3BB มั่นใจว่าความร่วมมือเพื่อให้บริการในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน และ 3BB จะมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพและขยายจุดให้บริการ wifi อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประสบการณ์อินเทอร์เน็ตไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ทั้งนี้บริการ dtac wifi – 3BB พร้อมให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ ด้วยพื้นที่ให้บริการที่หลากหลายรูปแบบ อาทิ ศูนย์การค้า, โรงภาพยนตร์, ร้านหนังสือ, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ ชั้นนำ, ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย และสถานที่หน่วยงานของราชการ โดยปัจจุบันมีจุดให้บริการกว่า 64,000 จุดครอบคลุมทั่วประเทศ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 80,000 จุดภายในสิ้นปี 2557 ลูกค้าดีแทคและแฮปปี้สามารถสมัครแพ็คเกจ dtac wifi – 3BB unlimit ได้แล้ววันนี้ เพียงโทร *104*699# ค่าบริการเพียง 99 บาทต่อเดือน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th หรือ www.3bbwifi.com

 

]]>
58524
เมืองพัทยา จับมือ กลุ่มทรู เปิดบริการ Pattaya WiFi ฟรี! มากกว่า 1,000 จุด https://positioningmag.com/55690 Wed, 05 Sep 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55690

 เมืองพัทยา โดย นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และนายปกรณ์ สุคนธชาติ ปลัดเมืองพัทยา ร่วมกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ ทรูออนไลน์ และนายนนท์ อิงคุทานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริการบรอดแบนด์ ประกาศความร่วมมือใน

การให้บริการ Pattaya WiFi ฟรีทั่วเมืองพัทยา ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย WiFi by TrueMove H ความเร็วสูงสุด 2 Mbps เพิ่มความสะดวกให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองพัทยา สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายได้ทุกเวลา กว่า 1,000 จุดทั่วเมืองพัทยา รับสิทธิ์ใช้ WiFi ฟรี เดือนละ 5 ชั่วโมง นาน 3 เดือนได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนใช้งานครั้งแรก ผ่านหน้า WiFi by TrueMove H ในพื้นที่เมืองพัทยา

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งสีสันและความหลากหลายที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศทั่วโลก อีกทั้งเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การธนาคาร และธุรกิจบริการระดับภูมิภาคที่มีชื่อเสียงระดับโลก อันประกอบด้วยโรงแรมชั้นนำและศูนย์การประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ ที่เพียบพร้อมด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อย่างไรก็ตาม เมืองพัทยายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสื่อสารล้ำสมัย โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง ดังนั้น ความร่วมมือกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดให้บริการฟรี Pattya WiFi ครั้งนี้ จึงเป็นการสานต่อการยกระดับพัทยาให้เป็นเมืองแห่งไอที รองรับ

ความต้องการของผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศทั่วโลก ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย ใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์สื่อสารที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงตลอดเวลา ให้สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารหรือติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว อันจะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นเมืองท่องเที่ยวน่าอยู่ระดับโลก รวมทั้งมีส่วนช่วยขยายการเข้าถึงบริการด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุน (Pattaya on Social Media) ที่เมืองพัทยากำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆนี้”

นายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ ทรูออนไลน์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ด้วยตระหนักถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของเมืองพัทยา ที่ไม่หยุดนิ่งในการสรรหาแง่มุมในการพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในเมืองพัทยา รวมทั้งอำนวยความสะดวก เอาใจแขกผู้มาเยือนเพื่อสร้างความประทับใจอย่างเต็มที่ กลุ่มทรู ในฐานะผู้นำบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย ที่มีความโดดเด่นเรื่องโครงข่าย WiFi คุณภาพที่ใหญ่ที่สุด  จึงเปิดบริการฟรี Pattaya WiFi ร่วมกับเมืองพัทยา โดยติดตั้งและวางระบบ WiFi by TrueMove H รวมกว่า 1,000 จุดครอบคลุมพื้นที่สำคัญของเมืองพัทยาทั้งหมด ได้แก่ นาเกลือ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และจอมเทียน เพื่อให้ใช้บริการผ่านเครือข่าย WiFi by TrueMove H ด้วยความเร็วสูง 2 Mbps ทั้งนี้ กลุ่มทรู มั่นใจว่าบริการ Pattaya WiFi จะอำนวยความสะดวกให้กับชาวเมืองพัทยา ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น เติมเต็มความเป็นเมืองแห่งไอที อันจะช่วยให้เมืองพัทยามีศักยภาพในการแข่งขันกับกับเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี”

ชาวเมืองพัทยาและนักท่องเที่ยวที่สนใจใช้บริการ Pattaya WiFi ฟรี 5 ชั่วโมงต่อเดือน สามารถลงทะเบียนรับรหัสผ่านบนหน้า Log-in เมื่อเลือกโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง @TRUEWIFI จากอุปกรณ์สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์สื่อสารที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงของตนเอง จากนั้นเลือก “ลงทะเบียน Pattaya WiFi” โดยทุก 3 เดือนจะต้องลงทะเบียนเพื่อใช้งานใหม่ 

]]>
55690
เทสโก้ Wi-Fi หาข้อมูลระหว่างช้อปได้เลย https://positioningmag.com/14088 Mon, 19 Sep 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14088

การแข่งขันของบิ๊กซีและเทสโก้ในเมืองไทยแทบจะถล่มแคมเปญกันแบบรายวัน แต่ในต่างประเทศเทสโก้มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องกว่า อย่างล่าสุด marketingmagazine.co.uk รายงานว่า เทสโก้เตรียมวางเครือข่าย Wi-Fi ในสาขาทั่วอังกฤษที่มีอยู่ 2,700 แห่ง โดย ณ เดือนกรกฎาคมได้ทดลองไปแล้ว 4 สาขา หลังจากห้างคู่แข่งระดับบิ๊ก 4 แห่งของอังกฤษได้เริ่มโปรเจกต์นี้ไปแล้ว

เป็นกลยุทธ์อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ที่ไม่เพียงเข้าไปนั่งเล่นเน็ตผ่านรหัสของการเป็นสมาชิกคลับการ์ดเท่านั้น ยังให้ลูกค้าสามารถเข้าไปนำส่วนลดจากเน็ตของเทสโก้ แบบ E-vouchers และจุดประสงค์อีกขั้นหนึ่ง คือเพื่อให้ลูกค้าสามารถหาข้อมูลเปรียบเทียบราคาสินค้ากับห้างคู่แข่งได้อย่างสะดวกที่สุด

นี่คือการตอบสนองลูกค้าในยุคที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน แม้จะเป็นเพียงการช้อปปิ้งเพื่อซื้อของใช้ประจำวัน ก็ต้องหาข้อมูลเปรียบเทียบราคาเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด

]]>
14088
Speed ทำเงินแล้วในต่างประเทศ https://positioningmag.com/13680 Thu, 07 Apr 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=13680

ภาพของบริการ Non-voice ในอนาคตที่ถูกกระตุ้นตลาดโดย Truemove H คือ 3G ที่ค่อยๆ สัญญาณแรงขึ้น โดยมี Wi-Fi ช่วยทำให้ตลาดได้ทดลองการใช้ Non-voice ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม เมื่อ 3G พร้อม การตลาดว่าด้วยเรื่องความเร็วก็จะคึกคักและมือถือจะเป็นสื่อใหม่ที่นักการตลาดต้องมอง ซึ่งภาพนี้มีให้เห็นแล้วในต่างประเทศที่มี 3G ไปก่อนไทยมาแล้วหลายปี

จากการคาดการณ์ของ Mobile Marketing Association ระบุว่า ปรากฏการณ์ของการตลาดผ่านโทรศัพท์มือถือทั่วโลกในปี 2011 จะเห็นภาพดังนี้

  • คาดโฆษณาผ่านโมบายล์ทั่วโลกมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปี 2009 จาก 13,000 เป็น 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นำโดยเอเชียแปซิฟิก อเมริกา และยุโรป
  • ฟรี SMS free video free phone call อย่าง WhatsApp Viber ที่ให้ SMS และโทรฟรีได้ แบบนี้จะเข้ามาในตลาดนี้อีก ทำให้โทรกันได้ง่าย จะเห็นการดูวิดีโอผ่านโมบายล์มากขึ้น ฟรีคอนเทนต์ 9Nมีมากขึ้นเรื่อยๆ
  • Location-Based Service (LBS) +Augmented Reality (AR) โทรศัพท์มือถือที่มีจีพีเอส และกล้องผสมผานกับซอฟต์แวร์ทั้งสองนี้ทำให้นักการตลาดมองเห็นโอกาสในการทำตลาดได้มากขึ้น เช่น แผนที่ร้านค้า คูปองส่วนลด โปรโมตสถานที่ต่างๆ ผ่านแผนที่
  • การชำระเงินผ่านมือถือ ซึ่งเป็น Electronic Wallets แทน ATM
  • การเกิดขึ้นอีกเพียบของโมบายล์บล็อกเกอร์ จากประสิทธิภาพของเครื่องที่มีคุณสมบัติมากขึ้น แทนคอมพิวเตอร์สปีดส่งเร็วขึ้น แบตเตอรี่ยาวนาน บล็อกเกอร์และนักเขียนหลายคนก็เขียนผ่านมือถือได้ทันทีในเรียลไทม์
  • คาดว่าปี 2011 จำนวน 85% ของมือถือในโลกจะใช้เน็ตได้ โดยเฉพาะกลุ่มสมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็ว ทำให้เกิดแอพฯ ของธุรกิจต่างๆ
  • มือถือ 3มิติคือสเต็ปต่อไป ซึ่งหมายถึงคอนเทนต์ 3มิติ และโฆษณารูปแบบใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นบนนี้
]]>
13680
Speed war : Life on the go https://positioningmag.com/13678 Thu, 07 Apr 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=13678

ธุรกิจโทรศัพท์มือถือกำลังสตาร์ทแข่งกันรอบใหม่ และแรงพอที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตไปกับวงจร S Curve อีกครั้ง ด้วยจุดเปลี่ยนเทคโนโลยี 3G และ Wi-Fi ที่ทำให้โทรศัพท์ในมือเป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสาร แต่เป็นอุปกรณ์ความบันเทิง ช่วยทำงาน และเติมสีสันให้ไลฟ์สไตล์ การแข่งขันบนความเร็วนี้ เพิ่งคิกออฟจอง Positioning ในใจลูกค้า แม้กลยุทธ์จะไม่มีอะไรซับซ้อนมากกว่าไปกว่าคุณภาพตัวโปรดักต์ที่ ”ใครเร็วกว่าก็ชนะ” แต่เป็นกรณีที่น่าศึกษา เพราะอุตสาหกรรมนี้เกมกำลังเปลี่ยน และที่สำคัญการตลาดบนความเร็วกำลังใกล้เป็นจริงมากขึ้น

Truemove H เปลี่ยนเกม

หากวิเคราะห์ในส่วนของการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ที่มีผู้เล่นรายใหญ่ 3 ราย คือเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ตลาดนี้เอไอเอสเป็นเบอร์ 1 มาโดยเบอร์รองทั้งสองไม่เคยชิงตำแหน่งในตลาดนี้ได้ ธุรกิจนี้เคยเติบโตเร็วในช่วง 5 ปีก่อน และกำลังชะลอตัวเพราะเกือบทุกคนในประเทศมีโทรศัพท์ในมือ การโทรคุยเริ่มอิ่มตัวนั่นหมายถึงรายได้ของทุกค่ายที่เคยเติบโตปีละ 20% เหลือเพียงโตอย่างมาก 5%

แน่นอนว่าอุตสาหกรรมมือถือพยายามหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ โดยเฉพาะเมื่อเทรนด์ของผู้บริโภคต้องการใช้มือถือเพื่อสื่อสารข้อมูล ภาพ เสียง ใช้อินเทอร์เน็ตและเล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ที่ใครๆ ในโลกก็ใช้กัน สมาร์ทโฟนที่เหมือนคอมพิวเตอร์ราคาเริ่มถูกลง 3G คือเครือข่ายที่ตอบโจทย์ให้สื่อสารผ่านมือถือได้เร็วขึ้น

การประมูลสร้างเครือข่าย 3G ล้มลงเมื่อปีที่แล้ว คือแรงผลักดันให้ทรูมูฟเร่งหาเครือข่าย 3G ที่มีอายุสัญญานานขึ้น หลังจากสร้างเครือข่ายทดลองไม่กี่จุดมานานเป็นปี แม้จะเป็นจุดขายแต่ก็แค่ทดลองซึ่งไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ แล้ว Truemove H คือทางออก

Truemove H เป็นตัวเปลี่ยนเกม หลังจากทรูมูฟเทกโอเวอร์กิจการของ ”ฮัทช์” จนได้สิทธิแทน ”ฮัทช์” สร้างเครือข่าย 3G และทรูมูฟเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก ”ฮัทช์” เป็น Truemove H ที่เปิดตัวแบรนด์ไปตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่ง ”ศุภชัย เจียรวนนท์” ซีอีโอของบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ยังประกาศดังๆ ว่า ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้จะเร่งทำตลาดให้ Mass รับรู้และจดจำว่าค่ายทรูมูฟพร้อมให้บริการ 3G ก่อนใคร หลังจากที่ทรูมูฟให้บริการ 3G โดยสื่อสารกับลูกค้าได้แค่ว่าทดลองบริการมานาน

ความหมายภายใต้แบรนด์ของ ”Truemove H” นั้นสื่อถึง Highspeed ซึ่งมาจากการปรับปรุงเครือข่ายฮัทช์เดิมให้เข้าสู่ระบบ 3G ในระบบ High Speed Packet Access (HSPA) ภายใน 3 ปีด้วยมูลค่า 12,000 ล้านบาท เพื่อรองรับลูกค้าได้ 4 ล้านเลขหมาย

Positioningของ Truemove H เป็นแบรนด์ที่ให้บริการ Non-Voice โดยเฉพาะบริการอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ที่ Truemove H จะรองรับลูกค้าเดิมของทรูมูฟที่ทดลองใช้บริการ 3G มานาน นอกเหนือจากไอโฟนแล้ว ยังเตรียมขนทัพโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ แอร์การ์ด แท็บเล็ต และที่สำคัญไอแพด 2 ที่ทรูมูฟเล็งเป็นผู้แทนจำหน่ายอีกด้วย

การก้าวกระโดดของทรูมูฟ ด้วย Truemove H ทำให้ ”ศุภชัย” มั่นใจว่าแม้จะไม่ได้เป็นที่ 1 ในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ แต่สำหรับธุรกิจ Non-voice แล้วค่ายทรูมูฟจะเป็นที่ 1 แน่นอน แม้การวางเครือข่าย 3G ให้ได้ครอบคลุมทั่วประเทศยังต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 ปีก็ตาม

แต่เพราะโมเดลธุรกิจ Convergence ในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ทั้งหมด โดยเฉพาะเครือข่าย Wi-Fi ที่ทรูออนไลน์วางไว้ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ทำให้ลูกค้ามือถือที่ใช้ Non-voice ของทรูมูฟ มีทางเลือกทั้ง 3G และ WiFi เพราะอุปกรณ์สื่อสารปัจจุบันทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเกือบทั้งหมดต่างรองรับ Wi-Fi

ความได้เปรียบของเครือข่ายทรูมูฟยังพิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งกับพันธมิตรอุปกรณ์ที่รองรับทั้ง Wi-Fi และ 3G ที่อยากผูกมิตรกับทรูมูฟ ตั้งแต่ไอโฟน จนมาถึงซัมซุงกาแล็กซี่แท็ปเวอร์ชั่น 2 ที่ซัมซุงจับทรูมูฟไว้แน่น จากรุ่นแรกที่สปริงบอร์ดให้ตลาดรู้จักผ่านเอไอเอสเมื่อปีที่แล้ว แม้เอไอเอสเป็นมิตรเก่า แต่ Wi-Fi และ 3G ที่ด้อยกว่าทรูมูฟ ธุรกิจนี้จึงไม่มีมิตรแบบผูกขาดตลอดกาล

3G แค่แบรนดิ้ง ใช้จริงต้อง Wi-Fi

ปัจจุบันเครือข่าย 3G ที่ทรูมูฟขยายในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในรูปแบบทดลองบริการเป็นแรงกระเพื่อมระดับหนึ่ง จากกลุ่ม Geek และTrend Setter ไปอยู่กัน แม้จะไม่เสถียรและบางจุดสัญญาณหาย เพราะเครือข่ายยังไม่มาก แต่ก็ยังมีตัวสำรองที่เป็นพระเอกตัวจริงเวลานี้คือ ” Wi-Fi” ที่ลงทุนได้เร็วและใช้เงินทุนไม่สูงนักเพียงแค่ในหลักร้อยพันเมื่อเทียบกับ 3Gที่ใช้งบเป็นหมื่นล้าน

เอไอเอสประกาศสู้เกมนี้ชัด และชนกับทรูมูฟตรงๆ เมื่อเอไอเอสยังไม่มี 3G มากพอและโอกาสในขยายเครือข่าย 3G น้อยกว่าเพราะมีคลื่นอยู่น้อย เอไอเอสฝ่ากระแสหาความเร็วให้ลูกค้าเพิ่มจากเดิมมีเพียง GPRS EDGE+ ด้วยการจับมือกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 3BB ของค่ายจัสมิน ที่มี Wi-Fi อยู่ทั่วประเทศ การันตีความเร็วที่ 4 Mbps

แน่นอนว่าทรูมูฟไม่ยอมให้เอไอเอสได้คุยกับกลุ่มเป้าหมายฝ่ายเดียว จึงประกาศตามมาทันทีว่าความเร็วของทรูมูฟ Wi-Fi ได้เพิ่มเป็น 8 Mbps ศึกความเร็วบน Wi-Fi จึงแรงขึ้น

สำหรับค่ายดีแทคที่ยังไม่ชัดว่าจะเกาะไปกับ Wi-Fi ของ กสท โทรคมนาคม หรือลงทุน Wi-Fi เอง ในสนามที่ดีแทคแข็งแรงจึงเป็นยุทธศาสตร์สำหรับเวลานี้ คือการเน้นลูกค้าที่ยังคงพึงพอใจในความเร็วไม่ถึง 1 Mbps อย่างEDGE GPRS ที่ดีแทคเชื่อว่าตลาดนี้ยังมีอยู่

3G ที่ทุกค่ายพูดถึงและพยายามโปรโมตในเวลานี้ จึงใช้ได้ดีสำหรับการแบรนดิ้งให้ไม่ตกเทรนด์ ก่อนที่จะดุเดือดในช่วงปลายปีนี้ แต่สนามความเร็วที่แข่งกันอย่างเข้มข้นนาทีนี้คือ Wi-Fi

หาก Wi-Fi ของใครได้ใจลูกค้า ย่อมหมายถึงการได้ฐานลูกค้าที่พร้อมใช้ 3G ในอนาคตอย่างแน่นอน

3G เหมาะสำหรับใช้งานขณะเคลื่อนที่ เช่น เล่นอินเทอร์เน็ตขณะอยู่ในรถ
Wi-Fi สำหรับการนั่งอยู่นิ่งๆ ในงาน เช่น ในร้านกาแฟ ในบ้าน

]]>
13678
แคท เทเลคอม เปิดตัวสุดยอดฮอตสปอตเคลื่อนที่อัจฉริยะ Novatel Wireless MiFi 2200 https://positioningmag.com/50907 Thu, 11 Feb 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=50907

กรุงเทพฯ – 11 กุมภาพันธ์ 2553 – แคท เทเลคอม (CAT Telecom Plc.) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G CDMA รายเดียวในประเทศไทย แถลงข่าวเปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมใหม่ฮอตสปอตเคลื่อนที่อัจฉริยะ Novatel Wireless MiFi 2200

MiFi เป็นอุปกรณ์กระจายสัญญาณ WiFi แบบเคลื่อนที่ หรือ Intelligent Mobile Hotspot รุ่นแรกในตลาด ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาบนมาตรฐานเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย 3G โดยบริษัทโนวาเทล ไวร์เลส (Novatel Wireless, Inc.) ผู้ผลิตอุปกรณ์ไร้สายความเร็วสูงชั้นนำของโลก ด้วยขนาดเพียง 88 x 59 มม. ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว MiFi เล็กกะทัดรัดขนาดพกใส่กระเป๋าเสื้อ และพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ผู้ใช้จึงสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสาร และบริการต่างๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต ได้ทุกที่อย่างง่ายดาย เสมือนพกคลังข้อมูลติดตัวตลอดเวลา ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร

MiFi แตกต่างจาก router ทั่วไปที่ใช้งานกันในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศัยโมเด็มภายนอกในการเชื่อมต่อ แต่ MiFi ได้รวมความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย 3G ของ CAT CDMA เข้ากับความสามารถของ WiFi ฮอตสปอตจึงสามารถให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแก่ผู้ใช้งานได้สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค, โทรศัพท์เคลื่อนที่, กล้องถ่ายภาพ, เครื่องเล่นเกม หรือเครื่องเล่น MP3 ที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อแบบ WiFi โดยอุปกรณ์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมหรือไดร์ฟเวอร์ใดๆ เพิ่มเติม การเข้าใช้งานของ MiFi จึงเหมือนการใช้งาน WiFi ฮอตสปอตทั่วๆ ไป ความแตกต่างอยู่ตรงที่ MiFi เป็นฮอตสปอตเคลื่อนที่ที่ติดตัวผู้ใช้ไปทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดการใช้งานเฉพาะสถานที่ดังเช่นฮอตสปอตทั่วไป ด้วยคุณสมบัติด้านการใช้งานที่แตกต่างและดีไซน์ที่กะทัดรัดทันสมัย MiFi จึงได้รับรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม “Best of innovation” จากงาน International consumer electronics show 2010 จากลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา งานแสดงสินค้าเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

“ในฐานะที่ CAT เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G CDMA เพียงรายเดียวในประเทศไทย CAT มีฐานลูกค้าและศักยภาพในการตอบสนองความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่รูปแบบใหม่ๆ ที่ใช้งานง่าย ทั้งสำหรับภาคธุรกิจและการใช้งานทั่วไป” มร.ร็อบ แฮดเล่ย์ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัท Novatel Wireless กล่าว “ด้วยฮฮตสปอตเคลื่อนที่อัจฉริยะ MiFi 2200 ผู้ใช้บริการของ CAT จะได้สัมผัสบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงที่แตกต่าง ผ่านการใช้งานโดยอุปกรณ์ได้หลากหลายประเภท ทุกที่ทุกเวลา”

“ที่ผ่านมา CAT CDMA ได้ทุ่มเทพัฒนานวัตกรรมบริการต่างๆ เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานให้ดีที่สุด เราจึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้ให้บริการรายแรกของเอเชีย ที่จำหน่ายและให้บริการฮอตสปอตเคลื่อนที่อัจฉริยะ Novatel Wireless MiFi 2200” ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์สื่อสาร ไร้สาย กล่าว

ดร. ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเปิดตัว MiFi ครั้งแรกในเอเชียนี้ทาง CAT CDMA มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าแฟนพันธุ์แท้โมบายอินเทอร์เน็ตสามารถเป็นเจ้าของ MiFi ในราคาพิเศษสุด 8,900 บาท จากราคาปกติ 9,900 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2553 ผู้สนใจสามารถทดลองและสมัครใช้บริการได้ที่ สำนักงานบริการลูกค้า กสท 51 จังหวัด และCAT Shop สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ CAT Contact Center 1322 หรือ www.catcdma.com

]]>
50907