YouTrip – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 04 Sep 2025 03:19:25 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘การบินไทย – YouTrip’ เผยครึ่งปีแรก ‘นักท่องเที่ยวไทย’ ไปต่างประเทศเพิ่ม 45% เน้นเที่ยวใน ‘เอเชีย’ เพราะประหยัด https://positioningmag.com/1536595 Wed, 03 Sep 2025 11:36:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1536595 ดูเหมือนคนไทยหลายคนจะยัง ฮีลใจ ด้วยการ ท่องเที่ยวต่างประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่สู้ดีนัก แต่ก็ปรับตัวโดยการเน้นปลายทางที่ คุ้มค่า มากขึ้น โดยทาง การบินไทย กับ YouTrip ได้มาร่วมกับเผยอินไซต์ของนักท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งปีแรกว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

ครึ่งปีแรกคนไทยเที่ยวนอกเพิ่มขึ้น +45%

จุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย เผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกคนไทยเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น +45% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดย 1 ใน 4 ไปมากกว่า 1 ครั้ง และปลายทางที่คนไทยไปมากที่สุดคือประเทศในทวีปเอเชียแปซิฟิก คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ตามด้วย ยุโรป (17.5%), อเมริกาเหนือ (4%) และตะวันออกกลาง (2.5%)

ขณะที่ประเทศปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ยังคงเป็น ญี่ปุ่น แต่เทรนด์ที่เห็นคือ คนไทยเที่ยวเมืองรองมากขึ้น เช่น ฟุกุโอกะ, โอกินาว่า เพราะ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าเมืองใหญ่ อีกประเทศที่มาแรงก็คือ จีน (+180%) โดยเมืองที่มีการไปท่องเที่ยวมากที่สุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง, กวางโจว, เฉิงตู ส่วนหนึ่งที่ประเทศจีนได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกก็คือ ฟรีวีซ่า ทำให้เดินทางสะดวก และ ถูก

“ซึ่งส่วนหนึ่งที่คนไทยนิยมท่องเที่ยวในเอเชียมากกว่า เพราะเดินทางไม่นาน และค่าใช้จ่ายถูกกว่า สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยังอยากเที่ยว แต่เขาเที่ยวแบบชาญฉลาดมากขึ้น คือ หั่นเที่ยว ไม่หั่นทริป เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก ถ้าให้ประสบการณ์คล้าย ๆ กันแต่ถูกกว่า เขาก็อยากจะไปลอง”

จีนและประเทศเพื่อนบ้านกำลังมาแรง

สอดคล้องกับข้อมูลจาก การบินไทย ที่พบว่า ในช่วงครึ่งปีแรก โตเกียว ยังคงครองแชมป์ปลายทางอันดับ 1 แต่ สิงคโปร์ และเซี่ยงไฮ้ ขยับขึ้นมาเป็นที่ 2 และ 3 แทนที่ฮ่องกง และโอซาก้า ส่วนโซล เกาหลีใต้ หล่นจากที่ 5 ไปเป็นที่ 6

ที่น่าสนใจคือ เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยเพิ่มขึ้นกว่า +100% ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับไทย โดยเฉพาะในด้านพระพุทธศาสนา รวมถึงยังมีความร่มรื่น อาหารอร่อย และใช้เวลาบินเพียง 2-3 ชั่วโมง ด้าน เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนก็มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นกว่า +80% เช่นกัน โดยในปี 2568 

“เทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยตอนนี้คือ ไปแบบปุบปับ ดังนั้น ประเทศในแถบเอเชียจึงเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะจีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยเฉพาะจีนที่ค่าใช้จ่ายถูก มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมความทันสมัย” กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าว

กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

ช้อปปิ้ง ยังเป็นพฤติกรรมจับจ่ายอันดับ 1

การ ซื้อของหรูและของสะสม เป็นพฤติกรรมอันดับ 1 ของคนไทย เช่น ของแบรนด์เนม และ pop mart ตามด้วยการใช้เงินไปกับ ประสบการณ์ เพื่อแบ่งปันเรื่องราวหรือประสบการณ์ในการท่องเที่ยว ลงบนโซเชียล สุดท้าย อาหารการกิน โดยคนไทย ไม่ได้กินพิเศษทุกมื้อ แต่สามารถทานอาหารข้างทาง ฟาสต์ฟู้ด หรือร้านสะดวกซื้อได้ เพื่อใช้เงินกับการช้อปปิ้งและประสบการณ์

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังใช้เทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้รู้สึกคุ้มค่าที่สุด โดยเริ่มมีการ ใช้ AI เป็นตัวช่วยในการวางแผนทริป และพบว่า การ แลกเปลี่ยนเงินล่วงหน้า เพิ่มขึ้น +25% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพื่อให้ได้เรทที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังใช้สมาร์ทโฟนช่วยจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับทริป เช่น Cashless

“คนไทยท่องเที่ยวเพื่อให้รางวัลตัวเอง แต่บัดเจ็ตก็มีส่วนคนไทยใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดมากขึ้น วางแผนมากขึ้น ไม่ได้เอาถูกสุด แต่ต้องคุ้มค่า และสะดวก” 

จุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย

อีกเทรนด์ที่เห็นคือ นักท่องเที่ยวไทยเน้น ท่องเที่ยวตามรสนิยมมากขึ้น ไม่ได้ท่องเที่ยวตามแลนด์มาร์กดัง ๆ อีกต่อไป เช่น ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น  

“ตอนนี้ เมอร์ไลออน (Merlion) ของสิงคโปร์อาจไม่ใช่แลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปอีกต่อไป แต่คนเริ่มไปเที่ยวตามสิ่งที่อยากไป ไม่จำเป็นต้องไปสถานที่แมส ๆ เพราะคนไทยใช้โซเชียลเป็นหน้าต่างในการแสดง  สเตตัส การเลือกเที่ยวจึงสำคัญกับคนไทยมาก”

]]>
1536595
“กินถูก ช้อปแพง” พฤติกรรม “นักท่องเที่ยวไทย” ในต่างประเทศ สรุปอินไซต์สงกรานต์’67 โดย “YouTrip” https://positioningmag.com/1471614 Tue, 30 Apr 2024 07:16:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1471614 “YouTrip” สรุปอินไซต์นักท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศช่วงสงกรานต์ 2567 ยังคง “เที่ยวล้างแค้น” การใช้จ่ายโต 150% “ญี่ปุ่นจีน” สองประเทศสุดฮิต พฤติกรรมคนไทย “กินถูก ช้อปแพง” อาหารเน้นถูกและเร็วผ่าน “7-Eleven” – “ฟาสต์ฟู้ด” แต่ช้อปปิ้งกระหน่ำร้านแบรนด์เนม เสื้อผ้า ของเล่น

“จุฑาศรี คูวินิชกุล” ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย เปิดเผยอินไซต์นักท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ สถิติจากการใช้จ่ายผ่านบัตรทราเวลการ์ดของ YouTrip พบว่า ยอดใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ปี 2567 เพิ่มขึ้น 150% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่ากระแส “เที่ยวล้างแค้น” ของคนไทยยังอยู่และเพิ่มสูงขึ้นด้วย

ส่วนประเทศยอดฮิตที่คนไทยไป อันดับ 1 คือ “ญี่ปุ่น” ประเทศสุดฮิตตลอดกาล ซึ่งสงกรานต์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่สกุลเงินเยนอ่อนค่าทำให้ยิ่งได้รับความนิยม YouTrip พบว่าการใช้จ่ายผ่านบัตร 1 ใน 3 เกิดขึ้นผ่านสกุลเงินเยน

“ญี่ปุ่น” จุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ของคนไทยในช่วงสงกรานต์ 2567

“ภิรมย์ทิศ ทองแถม ณ อยุธยา” หัวหน้ากลุ่มงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บมจ.การบินไทย ให้ข้อมูลเสริมว่า ญี่ปุ่นเป็นปลายทางยอดนิยมที่สุดของคนไทย โดยเส้นทางบินที่นิยมมากที่สุดคือ “โตเกียว” แต่สงกรานต์ที่ผ่านมาจะมีเส้นทางมาแรงคือ “ซัปโปโร” ที่คนไทยนิยมมากขึ้น

ขณะที่ “มิเชล โฮ” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Klook ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ พบว่าเทรนด์การเที่ยวญี่ปุ่นของคนไทยนิยม “รถเช่า” มากขึ้น อาจจะเกิดจากค่าโดยสารรถไฟในญี่ปุ่นแพงขึ้นจนทำให้คนไทยหาวิธีการเดินทางแบบอื่นแทน

“จีน” กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวไทย หลังมีการเปิดฟรีวีซ่า (Photo : Shutterstock)

ส่วนอันดับ 2 ที่คนไทยไปเที่ยวมากช่วงสงกรานต์ 2567 คือ “จีน” YouTrip พบว่า การใช้จ่ายพุ่งขึ้นถึง 466% อานิสงส์จาก “ฟรีวีซ่า” ทำให้คนไทยนิยมไปเที่ยว และด้วยสังคมไร้เงินสดของประเทศจีน ทำให้การใช้จ่ายเกือบทั้งหมดต้องใช้ผ่านบัตรหรือแอปพลิเคชัน

“วาสิต ล่ำซำ” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เมืองไทยประกันภัย กล่าวเสริมว่า ในแง่ “ประกันการเดินทาง” ก็ได้อานิสงส์เช่นกัน หลังจากเปิดฟรีวีซ่าทำให้คนไทยซื้อประกันการเดินทางไปจีนสูงขึ้นเป็นอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ จากก่อนหน้าเปิดฟรีวีซ่าการซื้อประกันเดินทางไปจีนอยู่ในอันดับ 7 สะท้อนว่าการเปิดฟรีวีซ่ามีผลกับคนไทยมาก

 

คนไทยเที่ยวต่างประเทศ “กินถูก ช้อปแพง”

จุฑาศรีกล่าวต่อถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยผ่าน YouTrip พบว่า 54% ใช้จ่ายเงินกับการ “ช้อปปิ้ง” โดยเฉพาะร้านแบรนด์เนม เช่น Goyard, Louis Vuitton, Prada รองมาคือร้านเสื้อผ้าทั่วไปและร้านในกระแส เช่น POP MART, Uniqlo, GU

ขณะที่การใช้จ่าย 14% ใช้กับ “อาหาร” เน้นร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-Eleven และร้านฟาสต์ฟู้ด เช่น แมคโดนัลด์ บางส่วนใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งสะท้อนว่าคนไทยมีการทำอาหารทานเองเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อประหยัดงบ

สรุปภาพรวมนักท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ จะเห็นได้ว่าชอบประหยัดค่าอาหารไว้ซื้อของ เพราะในต่างประเทศมีสินค้ารุ่นที่เมืองไทยไม่มี ราคาถูกกว่า คนไทยจึงนิยมซื้อสินค้าเหล่านี้กลับบ้าน

YouTrip

สำหรับ YouTrip เป็นสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจบัตรทราเวลการ์ดและบริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุลเงิน (Multi-currency Wallet) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกที่สิงคโปร์เมื่อปี 2561 ก่อนขยายเข้าไทยปี 2562 โดยมีธนาคารกสิกรไทยให้ความร่วมมือสนับสนุน ล่าสุดมีการระดมทุนรอบ Series B ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ได้รับเงินลงทุนรอบล่าสุด 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ YouTrip มีเงินระดมทุนสะสมแล้ว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จุฑาศรีกล่าวว่า ในสิงคโปร์ขณะนี้ YouTrip ถือเป็นดิจิทัลวอลเล็ตแบบหลายสกุลเงินอันดับ 1 ส่วนที่ประเทศไทยถือเป็นบริษัทที่โตเร็วที่สุด โดยยอดการใช้จ่ายเติบโตขึ้น 3 เท่าในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา

นักท่องเที่ยวไทย YouTrip

]]>
1471614
เทียบฟอร์มบัตร YouTrip – Journey บัตรท่องเที่ยวตระกูล KBank https://positioningmag.com/1252573 Wed, 06 Nov 2019 07:45:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1252573 1252573 มาอีกราย! Kbank ผนึกสตาร์ทอัพ YouTrip เปิดตัวบัตรแลกเงิน ฟรีค่าแรกเข้าดูดนักเดินทาง https://positioningmag.com/1252456 Tue, 05 Nov 2019 11:09:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1252456 ช่วงที่ผ่านมาสารพัดธนาคารต่างเปิดศึกตีตลาดแลกเงิน ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศปีละ 11 ล้านคน มียอดใช้จ่ายรวม 4 แสนล้านบาท ทำให้กลายเป็นแหล่งเงินสำคัญที่ถูกจับจ้อง รวมถึงสตาร์ทอัพ “YouTrip” สัญชาติสิงคโปร์ที่ผนึกกำลังกับ Kbank เพื่อดูดนักท่องเที่ยวใช้จ่ายผ่านบัตร ชูไฮไลต์ฟรีค่าแรกเข้าและธรรมเนียมรายปี

YouTrip สตาร์ทอัพจากสิงคโปร์สยายปีกบุกไทยโดยจับมือแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดีลกับ Kbank เปิดบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และบัตรเดบิตแลกเงินสำหรับใช้ในต่างประเทศ โดย “จุฑาศรี คูวินิชกุล” พาร์ตเนอร์ร่วมก่อตั้งของ YouTrip ประเทศไทย ไม่ใช่คนหน้าใหม่ของโลกสตาร์ทอัพ เพราะเธอคืออดีตพาร์ตเนอร์ร่วมก่อตั้งของ Grab ประเทศไทยนั่นเอง

เช่นเดียวกับบัตรแลกเงินสำหรับใช้ในต่างประเทศอื่นๆ YouTrip มีจุดประสงค์เพื่อแก้ ‘pain point’ ของผู้บริโภคที่ไม่ต้องการมีเศษเงินเหลือกลับบ้าน และไม่ต้องการจ่ายค่าธรรมเนียมรูดบัตรเครดิตซึ่งมีอัตราระหว่าง 2.5-6.0%

ทางเลือกจาก YouTrip คือการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น โดยผู้ใช้สามารถกรอกสมัครสมาชิกผ่านหน้าจอมือถือ จากนั้นบัตรเดบิตที่บริษัทร่วมเป็นพันธมิตรกับมาสเตอร์การ์ดจะถูกส่งมาตามที่อยู่ลูกค้าภายใน 3-5 วัน เป็นบัตรแบบคอนแทคเลสที่สามารถใช้ได้ทั้งการรูด แตะ และซื้อสินค้าออนไลน์ในต่างประเทศ

ส่วนการร่วมเป็นพันธมิตรกับ Kbank เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมบัญชี YouTrip เข้ากับแอพฯ K PLUS โมบายแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย เมื่อต้องการแลกเงิน ผู้ใช้สามารถเช็กเรตประจำวันและกดแลกเงินจากบัญชีกสิกรไทยเข้ามาเก็บใน e-Wallet ของ YouTrip ได้ทันที

กระบวนการเหล่านี้ นักท่องเที่ยวไทยบางกลุ่มน่าจะคุ้นหูคุ้นตาอยู่บ้างเนื่องจากธนาคารต่างๆ เช่น KTC, SCB, TMB หรือแม้แต่ Kbank เองก็เคยออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบนี้มาแล้ว แต่สิ่งที่เป็นหมัดเด็ดจาก YouTrip คือการประกาศฟรีค่าแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งต่างจากบัตรแลกเงินที่ออกมาก่อนหน้านี้ที่เก็บค่าแรกเข้ากันตั้งแต่ 200-700 บาท (ทั้งนี้ ส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่นฟรีค่าแรกเข้าจนถึงสิ้นปี 2562) ส่วนค่ารายปีนั้นมีบัตรจาก KTC และ SCB ที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียม

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น YouTrip สูสีกับเจ้าเดิมในตลาด ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกสกุลเงินให้แลกเปลี่ยนได้ 10 สกุลเงิน คือ THB, USD, EUR, JPY, GBP, HKD, AUD, CHF, CAD และไม่เสียค่าธรรมเนียมรูดจ่ายค่าสินค้า ขณะที่ค่าธรรมเนียมกดเงินสดจากตู้ ATM ในต่างประเทศ YouTrip และ Kbank จะเวฟค่าธรรมเนียม 100 บาทให้จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2563 แต่ค่าธรรมเนียมของตู้ ATM ธนาคารปลายทางนั้นอาจจะยังมีค่าใช้จ่ายอยู่ แตกต่างกันไปแล้วแต่ธนาคารแต่ละประเทศ

Kbank มองยาว YouTrip ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในดีลจับมือกันครั้งนี้คือ ธนาคารกสิกรไทยเองมีการออกบัตรแลกเงิน Journey อยู่แล้ว เหตุใดจึงมาออกผลิตภัณฑ์ซ้ำซ้อนร่วมกับสตาร์ทอัพ

ต่อคำถามนี้ “พัชร สมะลาภา” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกมาก ทำให้กสิกรไทยต้องมีตัวเลือกให้ผู้บริโภคหลายช่องทาง

“ถ้าเขาจะไปใช้ธนาคารอื่น ให้เขาเลือก YouTrip ยังดีกว่า” พัชรกล่าวพร้อมเสริมว่า ดีลครั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยไม่ได้หวังเป้าหมายในแง่รายได้ แต่ต้องการฐานลูกค้าเพิ่มจากผู้สมัครใช้งานแอปพลิเคชั่นนี้ซึ่งต้องผูกกับ K PLUS และเมื่อลูกค้าได้รับความสะดวกสบายจากการใช้งาน ก็อาจจะต่อยอดไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ในอนาคต เช่น สินเชื่อ

(จากซ้าย) พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย, จุฑาศรี คูวินิชกุล พาร์ทเนอร์ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย และเซซิเลีย ชู ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ YouTrip

สำหรับบัตร Journey ของ Kbank นั้นนับเป็นบัตรแลกเงินที่เสียค่าแรกเข้าสูงสุดในขณะนี้คือ 700 บาท และมีค่าธรรมเนียมรายปี 550 บาท (โปรโมชั่นฟรี 1 ปีแรก) แต่สามารถกดเงินสดต่างประเทศได้สูง 2 แสนบาทต่อวัน

หวังเป้าผู้ใช้ 4 แสนรายภายในปีเดียว

ด้าน YouTrip นั้นวางเป้าไว้ไม่ใช่เล่นๆ โดย “จุฑาศรี” กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายดึงผู้ใช้ 4 แสนรายภายในปี 2563 จากจำนวนนักท่องเที่ยวไทยปี 2562 ที่คาดการณ์ว่าจะมีถึง 11 ล้านคน เติบโต 7.4% จากปีก่อน และมีการใช้จ่ายต่างประเทศรวม 4 แสนล้านบาทต่อปี

ฐานลูกค้าเหล่านี้จะสร้างรายได้ให้กับ YouTrip หลักๆ มาจากการรับส่วนแบ่งจากมาสเตอร์การ์ดเมื่อลูกค้านำบัตรไปรูดใช้จ่าย ซึ่งค่าธรรมเนียมตรงนี้ร้านค้าจะต้องจ่ายให้กับมาสเตอร์การ์ดอยู่แล้ว ขณะที่ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนนั้นจุฑาศรีบอกว่า ไม่ใช่จุดโฟกัสหลักของบริษัท

ขณะที่ภาพใหญ่ของสตาร์ทอัพ YouTrip “เซซิเลีย ชู” ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ YouTrip จากสิงคโปร์กล่าวว่า บริษัทเพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 แต่ได้รับเงินระดมทุน series A แล้ว 26 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีผู้ดาวน์โหลดแอปแล้ว 4 แสนครั้ง มียอดใช้จ่ายแล้ว 10 ล้านครั้ง

การบุกประเทศไทยนี้ถือเป็นประเทศที่สองของบริษัท โดยมีเป้าหมายใช้เงินระดมทุนรอบล่าสุดเพื่อให้บริการครอบคลุมไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

]]>
1252456