YouTubers – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 04 Jun 2019 08:34:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ขำไม่ออก! Youtuber ในสเปนอัดคลิปแกล้งชายไร้บ้าน ถูกศาลสั่งจำคุก 15 เดือน – ปรับ 7 แสน – แบน Account 5 ปี https://positioningmag.com/1232675 Tue, 04 Jun 2019 04:59:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1232675 หนึ่งในคอนเทนต์ฮิตที่กำลังเกิดขึ้นกับ Influencer บ้านเราในขณะนี้ คือการให้ทางเลือกกับผู้ติดตามในการให้ตัวเลือกกับ Influencer ทำตามคำสั่ง ซึ่งหากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองคงไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องไปต้องไปแกล้งผู้อื่นคงต้องคิดให้เยอะสักนิด ไม่งั้นจะเหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นในสเปน

ตอนต้นปี 2017 Youtuber ในสเปนที่ชื่อ Kanghua Ren หรือชื่อที่คนติดตามจะคุ้นมากกว่าคือ ReSet เขาเป็นชาวจีนอายุ 19 ปี แต่อาศัยอยู่ที่บาร์เซโลนามาตั้งแต่เด็ก ได้ทำตามคำขอจากหนึ่งในผู้ติดตามจำนวน 1.2 ล้าน Subscribe ให้นำคุกกี้ที่ไส้ถูกแทนที่ด้วยยาสีฟันไปแกล้งคนอื่น

Ren จึงอัดคลิปที่นำขนมไปให้กับชายไร้บ้าน นอกซูเปอร์มาร์เก็ตพร้อมด้วยเงินจำนวน 20 ยูโร หรือราว 700 บาท หลังจากชายคนนั้นกินถึงกับอาเจียนออกมาหลังจากกินคุกกี้

เมื่อคลิปถูกโพสต์ออกไปเขาได้รับการวิจารณ์อย่างหนัก จึงกลับไปเยี่ยมชายคนนั้นพร้อมให้เงินอีก 20 ยูโร ขณะเดียวกันข้อมูลจากตำรวจได้บอกว่า เขาให้เงินอีก 300 ยูโรแก่ลูกสาวของเหยื่อเพื่อไม่ให้ฟ้อง

สุดท้ายเขาก็ถูกฟ้องอยู่ดี Ren ให้การต่อศาลว่า วิดีโอเป็นเพียงเรื่องตลกที่ไม่ดี ซึ่งเขาได้พยายาม หาทางแก้ไขในภายหลัง “ฉันทำสิ่งต่างๆ เพื่อแสดงโชว์ : ผู้คนชอบสิ่งที่ผิดปกติ” ซึ่งหลังจากนั้นคลิปวิดีโอได้ถูกลบออกไป

แต่ผู้พิพากษา Rosa Aragonés กลับมองว่า ถือเป็นพฤติกรรมที่โหดร้ายที่กระทำต่อผู้ไม่มีทางสู้ Ren จึงถูกตัดสินความผิดฐาน “ละเมิดศีลธรรมจรรยาของชายไร้บ้าน”

ศาลจึงสั่งให้จำคุก 15 เดือน แต่ตามกฎหมายในสเปนความผิดครั้งแรกให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 ยูโร หรือราว 700,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้ให้มอบแก่เหยื่อของเขา

หากโทษยังไม่หมดเท่านั้น Ren ยังถูกสั่งให้ปิดช่อง YouTube และ Social Media อื่นๆ เป็นระยะเวลา 5 ปีด้วยกัน

ไม่รู้เหมือนกันว่าในเมืองไทยมีกฎหมายในเรื่องนี้บ้างไหม แต่อย่างน้อยก็ขอให้เป็นกรณีศึกษาให้กับ Youtuber คนอื่นๆ เวลาจะทำตามคำขอของผู้ติดตาม โปรดคิดสักนิดว่าคอนเทนต์ที่ตัวเองได้มา เกิดจากความเดือนร้อนของคนอื่นไหม?

Source

]]>
1232675
ถอดรหัสยูทูปเบอร์ 9 ขวบ ทำรายได้ 700 ล้านบาท อะไรคือความสำเร็จของยูทูปเบอร์รุ่นใหม่ ขณะที่ทีวีไทยกำลังจะตาย https://positioningmag.com/1201931 Sat, 08 Dec 2018 02:29:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1201931 ปี 2560 ที่ผ่านมาช่องยูทูปของ Ryan ToyReview เพิ่งจะอยู่อันดับ 9 โดยเจ้าหนูไรอัน ทำรายได้จากช่องยูทูปชาแนลของตัวเองได้มากกว่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ มีผู้ติดตามประมาณ 16 ล้านราย มาปีนี้มาแรงขึ้นกว่าเดิม ถึงขั้นคว้าอันดับหนึ่งยูทูปเบอร์ที่ทำรายได้สูงสุดของโลก ทำรายได้รวมเพิ่มจากเดิมเท่าตัวเป็น 22 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นไม่มากเป็น 17.3 ล้านราย (ณ 6 ธันวาคม 2561)

โปรดักชั่นเฮาส์ของไบรอันมีแค่รีแอคใสๆ ของตัวเขาเองกับการรีวิวของเล่นสารพัดแบบ กับคุณแม่ซึ่งเป็นอดีตคุณครูที่สุดท้ายลาออกมาเป็นโปรดักชั่นเฮาส์ให้ลูกชายพร้อมกับควบตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวที่คอยดีลกับสินค้าต่างๆ ที่อยากให้น้องช่วยรีวิว เพราะเฉลี่ยง่ายๆ จากปีที่แล้ว ไรอันมีรายได้เดือนละล้านเหรียญ ปีนี้ก็เพิ่มเป็นเดือนละเกือบๆ สองล้านเหรียญต่อเดือน

ตัวเลขรายได้นี้เปลี่ยนสถานะครอบครัวธรรมดาให้กลายเป็นผู้ประกอบการอายุน้อยร้อยล้าน เป็นเรื่องที่ไม่ควรปล่อยโอกาสให้หลุดลอย สมควรแล้วที่คุณแม่จะต้องออกมาช่วยบริหารจัดการ

ในอดีต ยูทูปเบอร์แต่ละรายที่จะทำรายได้ติดท็อปเท็นของแต่ละประเทศ หรือของโลก ต่างก็ต้องมีความเชี่ยวชาญหรือทักษะเฉพาะด้าน เพื่อหาจุดขายให้กับช่องของตัวเอง ไม่ต่างจากสถานีโทรทัศน์หรือผู้ผลิตรายได้ทีวีในอดีต แต่ดูเหมือนวันนี้อะไรก็เปลี่ยนไปได้ทั้งสิ้น

ทำให้เห็นเลยว่า โลกดิจิทัลนี่ ช่างเป็นยุคของคนที่เห็นโอกาส รู้จักใช้จังหวะ กล้า และอาจจะรวมถึงมีพรสวรรค์ หรือต้นทุนในตัวยูทูปเบอร์ที่มีอยู่โดยธรรมชาติระดับหนึ่งด้วยก็ได้ เพราะถ้าทำแล้วไม่โดนก็ไม่มีอะไรต้องเสีย แถมได้ความสนุกที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ของตัวเอง แต่ถ้าโดนก็อาจจะเป็นแบบตัวอย่างที่เห็นนี้

เพราะอย่าลืมว่า ทุกวันนี้แม้แต่นักการตลาด ก็พร้อมจะฉกฉวยโอกาสเหล่านี้จากเหล่ายูทูปเบอร์ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อใช้เป็นตัวเชื่อมในการเข้าถึงผู้บริโภคในวงการ และยินดีที่จะจ่ายสำหรับงบการตลาดที่เทียบแล้วถูกกว่าในอดีตอย่างมากอีกด้วย

การเปลี่ยนแปลงความนิยมของคอนเทนต์ที่เกิดจากยูทูปเบอร์ที่หลากหลายเอง ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยกว่าฝั่งทีวี ที่มีรายการที่เคยได้รับความนิยมแล้วลดความนิยมลง มีรายการเกิดใหม่เข้ามามากมาย ไม่ต่างจากรูปแบบคอนเทนต์ที่เกิดขึ้นในทีวี

ในกลุ่มของเล่นเด็กเอง จากช่องยูทูปดังๆ ที่รีวิวของเล่น ก็เคยมียูทูปเบอร์รายใหญ่เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่มาก่อน ส่วนใหญ่เกือบร้อยทั้งร้อยไม่ใช่เด็ก ทำให้การนำเสนอผ่านกระบวนการคิดกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้ถูกใจเด็ก

ถอดรหัสความสำเร็จยูทูปเบอร์วัยใส

แต่มายุคนี้ ความสดและรีแอคแบบเรียลๆ เป็นธรรมชาติ กลับได้ใจเด็กๆ ในวัยเดียวกันมากกว่า ทำให้เจ้าหนูไรอันที่เริ่มจากสงสัย แล้วถามคุณแม่ว่า ทำไมเขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในยูทูปเหมือนใครๆ กลายมาเป็นท็อปยูทูปเบอร์ที่สร้างรายได้ด้วยตัวเอง

อะไรที่ทำให้ไรอันประสบความสำเร็จจากการเป็นยูทูปเบอร์ที่ทำรายได้สูงสุด ทั้งที่ไม่ต้องพยายามคิดหากลยุทธ์ หรือกลวิธีใดๆ ในการนำเสนอการรีวิวของเล่นสารพัดชนิดให้กับกลุ่มคนดูของเขา เหมือนรายการทีวี หรือรายการทางยูทูป ที่มักจะต้องคิดหากลยุทธ์กันจนหัวแตกว่า จะทำอย่างไรที่จะดึงดูดผู้ชมให้ได้มากที่สุด

จุดขายแรกสุดก็คือความเป็นธรรมชาติ จากรีแอคที่เขารู้สึกกับของเล่นแต่ละชิ้นที่เห็นจริงๆ นั่นเอง สองการเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดีให้นักการตลาดผู้ผลิตของเล่นสามารถเก็บข้อมูลไปทำการบ้านต่อได้อีกด้วยว่า อะไรที่เด็กๆ ชอบไม่ชอบ พวกเขามีบทสนทนากับสินค้าแต่ละชิ้นอย่างไร มีคำถามอะไร ตื่นเต้นกับตรงไหน เป็นงานวิจัยที่เกิดขึ้นจริงโดยธรรมชาติ ซึ่งส่วนนี้แม้ไม่เกี่ยวกับควานิยมแต่ก็มีผลต่อการเติบโตของตลาดของเล่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การเล่นด้วยจินตนาการของเด็กที่แสดงให้เห็น นอกจากทำให้เด็กด้วยกันสนุกไปด้วย เกิดความอยากได้ของเล่นแบบเดียวกัน ก็ยังทำให้กลุ่มพ่อแม่เกิดการเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงดูเด็กไปในตัว เรียกว่าเป็นบทเรียนชีวิตจริงให้กับผู้บริโภคในชีวิตประจำวันที่ผู้บริโภคกลุ่มแม่และเด็กต้องเจอ แต่เป็นบทเรียนที่ไม่ต้องยัดเยียดด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ที่สำคัญจากรีวิวง่ายๆ เมื่อได้คุณแม่มาเป็นโปรดักชั่นเต็มตัว ไรอัน ทอยรีวิว ก็แทบจะกลายเป็นรายการสำหรับเด็กที่มีการเติมเต็มเรื่องราวจินตนาการผ่านการเล่นของเด็กๆ ไปเลย แม้จะไม่ใช่โปรดักชั่นหวือหวา แต่เรียกความสนใจจากกลุ่มเด็กๆ ได้ดีจนมีผู้ชมและทำรายได้เท่าที่ผ่านมาให้เห็นเครื่องพิสูจน์นี่แหละ

ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้พัฒนาการในแง่บวกก็คือ ช่องของไรอัน ทอยรีวิว ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความเป็นธรรมชาติของตัวไรอันเองเท่านั้น แต่มีการพัฒนาคอนเทนต์ที่เติมเต็มด้านการเล่นและเรียนรู้ไปพร้อมกันด้วย นี่คือคีย์ซัคเซสอีกข้อสำหรับทุกธุรกิจ ทุกคอนเทนต์ที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องพัฒนาการที่ดีขึ้นอยู่เสมอเช่นกัน

คนดัง & ลูกดารา กลุ่มเนเชอรัลบอร์นยูทูปเบอร์

หันมาดูกลุ่มยูทูปเบอร์หน้าใสของไทย เกือบร้อยทั้งร้อยคือ ลูกคนดัง ดารา ที่พ่อแม่เป็นคนที่มีชื่อเสียง เมื่อมีลูกทำให้ผู้ติดตามสนใจชีวิตใหม่ที่เกิดมาด้วย บางรายจากที่ลงรูป ลงคลิปวิดีโอ แค่ในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม พอมีเรื่องเล่ามากๆ เห็นความน่ารักของลูกๆ ก็อยากจะเผยแพร่สู่ยูทูป ทำให้จากเดิมที่มีกลุ่มยูทูปเบอร์ที่เก็บรวบรวมภาพ คลิปของกลุ่มคนดังเหล่านี้ไปตัดต่อเพื่อออกในช่องยูทูปของตัวเอง เจ้าของคอนเทนต์หรือคุณพ่อคุณแม่ของเหล่าเซเลบตัวน้อยก็เลยเลือกเปิดยูทูปชาแนลของลูกๆ แบบเป็นออฟฟิเชียลแอคเคาน์ของตัวเองขึ้นมาเสียเลยดีกว่า

ยิ่งมีผู้ติดตามมาก เนื้อหาเรื่องราวก็ไม่ต้องคิดหรือทำโปรดักชั่นอะไร ถ่ายมาอย่างไงก็ลงไปอย่างนั้น เพราะคนชอบดูเรื่องส่วนตัวของคนดัง แค่ตัดต่อให้มันได้จังหวะไม่ยาวไม่เยิ่นเย้อเกินไป มีจังหวะซิตคอมด้วยจะทำให้โดนมากขึ้น

พัฒนาการของยูทูปเบอร์เหล่านี้ จริงๆ จะเรียกว่าเป็นยูทูปเบอร์ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะคุณพ่อคุณแม่ทั้งนั้นเป็นผู้ดำเนินผลิต ถ้าจะมีการอัพเกรดบ้างก็มีการใส่เอฟเฟกต์เล็กๆ น้อยๆ ส่วนมากก็คือการใช้แอปพลิเคชั่นที่มีในมือถือนั่นแหละ

เท่านั้นเหล่าเซเลบน้อยของไทย ก็ทำรายได้เลี้ยงคุณพ่อคุณแม่กันได้แล้วมากมาย แถมต่อยอดให้คุณพ่อคุณแม่รวมทั้งเจ้าเล็กเองมีงานอีเวนต์กับสินค้าแบรนด์ต่างๆ ตามมามากมายอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังอย่างมากก็คือ คนไทยรักเร็ว เบื่อเร็ว ดราม่าเยอะ การนำเสนอและทำให้คนนิยมผ่านชีวิตจริงจึงมีทั้งด้านดีด้านลบที่ต้องคอยระวังโดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่จะต้องเติบโต และมีพัฒนาการความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย

อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง ก็เริ่มมีการนำเซเลบตัวน้อยเหล่านี้ มาสู่รูปแบบการผลิตรายการเพื่อลงในช่องยูทูปให้เห็นบ้างแล้ว ไม่ใช่เป็นคลิปปล่อยตามวัยใสๆ และหลายรายก็ทำได้ดี น่ารักสมวัย

จุดขายที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับ ก็ไม่ต่าง ไรอัน ทอยรีวิว ที่ขายความใสและความคิดจากตัวเด็กเอง ตัวอย่างเข่น รายการ Little Nirin รายการ Variety Talk Show ที่มีพิธีกรอายุน้อยที่สุดเพียง 5 ขวบ หรือน้อง ณิริณ ธรรมวัฒนะ ลูกสาวของ ปณิตา ธรรมวัฒนะ ดาราที่ปลุกปั้นลูกมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เรื่องการแสดง สอนแต่งหน้า แต่รายการนี้ทำกับ Live TV แต่ก็สามารถหาดูได้ในยูทูป

จุดขายนอกจากความสามารถของพิธีกร คือการหาแขกรับเชิญกลุ่มเด็กที่เป็นคนดังด้วยกัน รวมทั้งดาราดังวัยอื่นๆ ด้วย

อีกรายการที่ต่างออกไปมากกว่าขายความสดใสน่ารักของลูกดารา ก็คือ รายการของอั๋น ภูวนาท ซึ่งยกเอาคอนเซ็ปต์จากรายการคุยยกบ้าน ที่ออกอากาศผ่านทีวี มาทำรายการในช่องยูทูปโดยปรับเป็นรายการ คุยสตอรี่ – อั๋นจ๋า เดอะเรียลลิตี้ ใช้วิธีบอกเล่าเรื่องราวของลูกน้อยกับแขกที่มาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน ก็กลายเป็นรายการที่ทำให้คนสนใจชีวิตดาราดังเฝ้าติดตามได้มากสมควรเช่นกัน

ทุกวันนี้ จึงเรียกได้ว่า คอนเทนต์ที่เคยคิดกันเพื่อทำผ่านรายการทีวี ใครคิดอะไรได้ก็มาใส่ลงในช่องยูทูป ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีรายการของตัวเองได้ทันทีที่ต้องการ และแน่นอนเช่นกันว่า ความนิยมคือสิ่งที่ไม่มีวันอยู่คงที่ ถ้าไม่เพิ่มขึ้นก็ต้องมีวันลดลง นั่นคือเหตุผลที่ยูทูปเบอร์หน้าเดิมต้องหามุกใหม่ๆ หรือสร้างพัฒนาการอยู่เสมอ ขณะเดียวกันก็พร้อมมียูทูปเบอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นและเข้ามาแทนที่ได้ตลอดเวลาเช่นกัน.

]]>
1201931
ไม่ปลื้ม! 5 อันดับอาชีพที่พ่อแม่ญี่ปุ่นไม่อยากให้ลูกเป็น https://positioningmag.com/1163283 Mon, 26 Mar 2018 09:30:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1163283 “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” เป็นคำถามยอดฮิตที่ผู้ใหญ่มักจะคอยถามเด็ก ๆ อยู่เสมอ แต่รู้หรือไม่ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา อาชีพที่เด็กใฝ่ฝันอยากเป็นมากที่สุดนั้นได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ซึ่งจากผลแบบสำรวจที่สอบถามนักเรียนชายมัธยมต้น จำนวน 100 คน พบว่าอาชีพที่เด็กผู้ชายในวัยมัธยมต้นอยากเป็นมากที่สุดมีดังนี้

อาชีพที่นักเรียนชายมัธยมต้นอยากเป็นมากที่สุด

อันดับ 1 วิศวกรไอที / โปรแกรมเมอร์

อันดับ 2 นักสร้างเกม

อันดับ 3 YouTuber

อันดับ 4 นักกีฬาอาชีพ

อันดับ 5 วิศวกร

แต่ในทางกลับกัน ก็ได้มีการสำรวจอาชีพที่พ่อกับแม่ไม่ปลื้ม ไม่อยากให้ลูกเป็นขึ้นมาด้วยเช่นกัน แบบสอบถามนี้เป็นแบบสอบถามจากผู้หญิงและผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วจำนวน 100 คน อายุระหว่าง 30-99 ปี โดยตัวเลือกเป็นอาชีพให้เลือกดังต่อไปนี้ นักกีฬา หมอ YouTuber วิศวกรไอที โปรแกรมเมอร์ นักสร้างเกม เจ้าของธุรกิจ ครู / อาจารย์ นักวิจัย เซลส์แมน โดยอาชีพที่พ่อแม่เลือกให้เป็นอาชีพที่ไม่อยากให้ลูกทำมากที่สุด เป็นดังนี้

5 อันดับอาชีพที่พ่อแม่ไม่ปลื้ม

อันดับ 1 YouTuber 59%

อันดับ 2 เซลส์แมน 11%

อันดับ 3 นักสร้างเกม 8%

อันดับ 4 นักกีฬาอาชีพ 7%

อันดับ 5 ข้าราชการ 7%

อาชีพที่พ่อแม่ไม่ปลื้ม ไม่อยากให้ลูกทำมากที่สุดคือ YouTuber ซึ่ง HIKAKIN YouTuber ที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น ขวัญใจเด็ก ๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่ ไม่ว่าออกคลิปไหนมาก็มียอดวิวที่สูงมากและยังทำรายได้สูงมากเช่นกัน แต่ในสายตาของพ่อแม่แล้วกลับมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่อยากให้ลูกของตัวเองทำ โดยให้เหตุผลไว้ทั้งฝั่งพ่อและแม่ดังนี้

ความเห็นของฝั่งแม่

  • “เอางานอดิเรกมาทำเป็นงานประจำมันไม่มั่นคงหรอก” แม่บ้าน อายุ 32 ปี
  • “ไม่มั่นคง ภาพลักษณ์ที่ดูบ้าบอ อาชีพที่ทำได้แค่ชั่วคราว” แม่บ้าน อายุ 32 ปี
  • “ไม่อยากให้ลูกตัวเองออกสื่อในอินเทอร์เน็ต” แม่บ้าน อายุ 36 ปี
  • “แค่ออกคลิปสนุก ๆ แล้วมีรายได้ คิดจะทำอะไรก็ได้มันช่างน่าเสียใจจริง ๆ” แม่บ้าน อายุ 32 ปี
  • “ถ้าทำแล้วโด่งดังก็ดีไป แต่มันไม่ใช่กับทุกคน หากทำแล้วไม่ดัง อาจจะเผลอต้องทำคลิปอะไรบ้า ๆ เพื่อให้มีคนดูก็ได้” แม่บ้าน อายุ 36 ปี
  • “ไม่มั่นคง แถมยังจะกลายเป็นคนประหลาดที่อยากให้คนอื่นมาชื่นชอบชื่นชม” พนักงานพาร์ตไทม์ อายุ 44 ปี

ความเห็นของฝั่งพ่อ

  • “มันไม่ใช่อาชีพที่จะทำได้ไปตลอดชีวิต” พนักงานบริษัท อายุ 32 ปี
  • “ไม่มั่นคง และยังเป็นห่วงว่าจะกลายเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะในหัวมัวแต่คิดแค่จะเพิ่มยอดคนดูคลิป” พนักงานบริษัท อายุ 34 ปี
  • “ไม่อยากให้ลูกก้มหน้าก้มตาอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์” ข้าราชการ อายุ 36 ปี
  • “อยากให้อยู่ในโลกของความเป็นจริง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทำงานที่ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น” ไม่ระบุอาชีพ วัย 31 ปี

ที่มา : mgronline.com/japan/detail/9610000029852

]]>
1163283
ยุคนี้คนธรรมดาก็ดังได้ แถมได้เงินด้วย เค้นไอเดียเด็ด​ “ยูทูปเบอร์” คิดคอนเทนต์ให้ปัง! ​โกยเงินบน YouTube https://positioningmag.com/1163059 Fri, 23 Mar 2018 16:47:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1163059 ในยุคดิจิทัลมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็น​ “เครื่องมือทำให้คนธรรมดาดังได้ในข้ามคืนและกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์

YouTube อีกช่องทางที่คนแจ้งเกิดเป็น​ Content Creator หรือ​ Youtuber ผลิตผลงานคลิปวิดีโอออนไลน์ให้คนดูและ​ ​”ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ

Positioning พาผู้อ่านไปรู้จักคนดังสนั่นโซเชียล เก๋ไก๋สไลเดอร์ หรือณัฐธิชา นามวงศ์อดีตนักแสดงซีรีส์ดังฮอร์โมนวัยว้าวุ่นที่ผันตัวมาเป็นยูทูปเบอร์กว่า​ 1 ปีมีคนติดตาม (Subscribe) เกือบ​ 4 ล้านคนและทำวิดีโอคลิปออกมามีคนดูต่อคลิปสูงทะลุ​ 20​ ล้านวิว

เก๋เริ่มทำคลิปเพราะเห็นยูทูปเบอร์คนอื่น ๆ หาเงินได้มหาศาล จึงลองบ้างโดยหลักการทำคอนเทนต์ที่ชอบนำเสนอไลฟ์สไลต์กินเที่ยวทำเซอร์ไพรส์ตลกแกล้งเพื่อนเน้นจับกลุ่มเป้าหมายคนดูเด็กวัยรุ่นเป็นหลัก

เพื่อให้คนดูเกาะติดคลิปไม่หนีหายความถี่ในการนำคอนเทนต์มาออกอากาศเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 คลิปต่อสัปดาห์ส่วนเวลาออกอากาศไม่ได้กำหนดชัดเจนเหมือนกับยูทูปเบอร์คนอื่น ๆที่กำหนดเวลาเป๊ะ ๆเพื่อให้แฟน ๆ ได้ดู

ยิ่งปัจจุบันเมื่อมีสปอนเซอร์มีรายได้เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้คอนเทนต์เริ่มออกอากาศดีเลย์กว่าเดิมเพราะลูกค้าต้องตรวจคอนเทนต์ก่อน

สำหรับการทำเงินของเก๋ไก๋สไลเดอร์เริ่มเห็นภายใน​ 6 เดือนซึ่งคอนเทนต์ติดตลาดแล้วยอดวิวหลักล้านและได้ส่วนแบ่งจากยูทูปหลักพันบาทแต่ปัจจุบันรายได้หลักมาจากสินค้าและบริการให้สปอนเซอร์ซึ่งทุกคอนเทนต์เวลานี้ล้วนมีสปอนเซอร์ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องระมัดระวังในการผลิตคอนเทนต์ทำเงินคือการนำรูปภาพเพลงที่มีลิขสิทธิ์มาใช้ เพราะจะต้องมีค่าใช้จ่ายลิขสิทธิ์ตามมาไม่เช่นนั้นจะกระทบการออกอากาศโดยยูทูปจะทำการตรวจสอบแจ้งเตือนเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ และระหว่างที่คอนเทนต์ยังไม่ได้ออกอากาศจะเสียรายได้

สำหรับเรื่องลิขสิทธิ์ถือเป็นสิ่งที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ยูทูปเบอร์ต้องตระหนักเพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่าแม้สปอนเซอร์ให้จ่ายค่าลิขสิทธิ์เพื่อนำมาประกอบคอนเทนต์แต่ก็ยังถูกเรียกเก็บซ้ำซ้อนไม่ต่างจากกรณีรายการเพลงดังต่าง ๆ ที่จ่ายลิขสิทธิ์นำเพลงมาร้องแต่ก็ยังถูกถอดคอนเทนต์ออกจากช่องทางดังกล่าว

อีกคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อดัง คือจีรภัทร์ สุกางโฮงเจ้าของช่องครูนกเล็กมีผู้ติดตามกว่า​ 2.5 ล้าน ​Subscribe และมีวิดีโอคลิปออกมากว่า​ 1,000 ชิ้นยอดวิวรวมกันทุกคลิปกว่า​ 3,000 ล้านวิวบอกว่าการทำคอนเทนต์ให้ดังต้องมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการทำอะไรคอนเทนต์แบบไหนเพื่อสื่อสารหรือเจาะกลุ่มคนดูกลุ่มไหนซึ่งช่องของเธอเน้นเรื่องการศึกษาให้ความรู้เพื่อจับกลุ่มเด็กเล็ก

การทำคอนเทนต์แต่ละครั้งต้องระมัดระวังเพราะยุคโซเชียลถ้าเนื้อหาไม่ดีหมิ่นเหม่ดราม่ามาเยือนแน่นอนการผลิตคอนเทนต์จึงต้องวางแผนแต่ละขั้นตอนให้ดีละเอียดรอบคอบและนับ​ 1-100 ก่อนปล่อยสู่สายตาผู้บริโภค

ส่วนการนำคอนเทนต์ออกอากาศเพื่อเอาใจแฟนคลับที่รอชมต้องปล่อยทุกวันวันละคลิปหลังเลิกเรียน

แน่นอนคนดูเยอะวิวหลายสิบล้านสินค้าต้องมีมาให้รีวิวเกณฑ์เลือกต้องสอดคล้องกับเด็กการเรียนรู้ดังนั้นน้ำอัดลมเลยเลี่ยงเป็นต้นส่วนสินค้าที่มีมาให้รีวิวต้องพูดตามจริง

3 คนที่เรามีส่วนเกี่ยวข้องคือเราคือคนทำคลิปสปอนเซอร์และคนดูถ้าสินค้าไหนไม่ดีเราพูดตามจริงได้ไม่เต็มปากก็ปล่อยไปเพราะสิ่งที่เราแคร์สุดคือคนดูเรามาถึงวันนี้ได้เพราะคนดูสำคัญที่สุดจึงต้องซื่อสัตย์ไม่โกหกคนดู.

]]>
1163059
“ยูทูบเบอร์” อาชีพสุดปัง คลิปดัง ได้เงินเดือนละแสน! https://positioningmag.com/1154252 Tue, 23 Jan 2018 07:04:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1154252 แค่ตั้งแชแนลยูทูบ ทำคลิปปังๆ หนึ่งคลิป ยอดวิวทะลุล้าน ก็ได้เงินเป็นหมื่น สถานะของพวกเขาไม่ต่างจากคนดัง “ยูทูบเบอร์” อาชีพที่กำลังได้รับความสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ ผุดเน็ตไอดอลสายดี-สายดาร์ก สร้างคอนเทนต์ขายยอดวิวให้คนมาตาม สร้างรายได้หลักในชีวิต ที่โบกมือบ๊ายบายงานประจำ

คนติดตามเฉียด 2 ล้าน! หลังออกจากงานมาทำคลิป

“ความสำเร็จมันก็เหมือนผลของต้นไม้ เหมือนวันที่เราจะเริ่มทำ กว่าที่เราจะเห็นต้นไม้โต ออกผลก็นาน กว่าจะได้เงินจากยูทูบจริงๆ จังๆ ที่เป็นรายได้หลักของเรา ก็ใช้เวลาเกือบปี ถ้าตัดสินใจทำช้า ก็จะสำเร็จช้า ทุกคนมีความกลัวอยู่แล้ว แรกๆ ซานทำ ซานก็กลัว ก่อนจะลาออกซานก็กลัว แต่ว่าถ้าเกิดชนะความกลัวได้ เราก็จะประสบความสำเร็จ” 

นี่คือจุดสตาร์ทของ “ซาน-ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” ที่เอาชนะความกลัว ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ หันมาทำอาชีพยูทูบเบอร์ในแชแนลที่มีชื่อว่า “Sunbeary” มีผู้ติดตามมากถึง 1,956,233 คน ยอดวิวหลายคลิปทะลุหลักล้านวิว มีคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องกิน-เที่ยว พาเที่ยวต่างแดนแบบไม่มีแผน 

ซาน-ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช

ก่อนหน้า นั้นหลังจากเธอเรียนจบ เธอก็ทำงานเป็นฝ่ายตรวจสอบบัญชี (Audit) หลังจากไม่ชอบ 3-4 เดือนก็ลาออก ทำให้เธอหาสิ่งที่แปลกใหม่ ไม่เคยทำ จนได้มาพบกับยูทูบ จากคนธรรมดา ไม่ได้มีคนรู้จักมากมายเท่าตอนนี้ เธอจะต้องสร้างฐานคนดูภายในช่องของตัวเอง ด้วยการไปทำความรู้จักกับแชแนลยูทูบช่องอื่นๆ จึงมีโอกาสได้ทำคลิปวิดีโอร่วมกัน แลกเปลี่ยนฐานคนดูกัน หรือที่เรียกว่าการคอลแล็บ (Collab) กัน

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในช่องของซานจนทำให้มีคนติดตามจำนวนมาก รวมทั้งเนื้อหาที่น่าสนใจ ก็คงเป็นตัวตนของเธอที่แสดงออกมาจริงๆอย่างคลิปล่าสุดที่ปอกมันฝรั่งไม่เป็น เธอก็อัดคลิปวิดีโอแบบนั้นไปเลยว่าทำไม่เป็น ไม่จำเป็นว่าต้องเพอร์เฟกต์ แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ

แน่นอนว่าพอมีคนติดตามจำนวนมาก สปอนเซอร์ก็ต้องมีเป็นเรื่องธรรมดา ในคลิปวิดีโอแต่ละอัน เธอต้องคิดคอนเทนต์ส่งให้ลูกค้า และจะไม่รับงานที่คิดคอนเทนต์ทุกอย่างมาให้ เพราะจะเหมือนกับรายการทีวี เมื่อเปลี่ยนอาชีพมาทำในสิ่งที่ชอบ แสดงว่ารายได้ต้องดีกว่างานประจำที่เคยทำ

“แรกๆ ก็ไม่ได้ดีนะคะ รายได้ของเราในการทำยูทูบ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับยอดวิว แต่ขึ้นอยู่กับโฆษณาที่แปะอยู่ตามคลิป เพราะฉะนั้นแรกๆ ที่ไม่มีคนดูเลย ก็แทบจะไม่ได้เงินเลย เราก็ทำงานอื่นไปด้วย ขายประกัน ขายตรง เก็บเงินให้เราพออยู่ได้ ไม่เดือดร้อนคุณพ่อ คุณแม่” 

แฟนคลับที่ชื่นชอบและติดตามผลงานที่ผลิตออกมาทางแชแนลยูทูบของเธอ ไม่ว่าจะออกไปที่ไหน ก็มีเด็กๆ มาพูดคุย มาขอถ่ายรูป ไม่ต่างกับดาราในทีวีเลยก็ว่าได้ รวมถึงเหตุการณ์ประทับใจที่เธอได้บอกเล่าว่า มีคอมเมนต์มาจากคุณแม่ท่านหนึ่งมาขอบคุณที่ทำให้เขาได้เวลาครอบครัวกลับคืนมา โดยก่อนหน้านี้ลูกชายของคุณแม่คนดังกล่าว เคยเป็นเด็กติดเกม แต่แชแนลของเธอเน้นกิน-เที่ยว เด็กคนนั้นจึงมาขอให้พ่อแม่พาออกไปเที่ยวไปกินบ้าง เธอบอกว่าเป็นคอมเมนต์ที่จริงใจ และสัมผัสได้ว่าส่งมาให้เธอจริงๆ

“เกาหลีหัวใจไทย” ดังได้เพราะคลิปฮา

ยูทูบเบอร์อีกคนที่กำลังได้รับความนิยมในบรรดาเด็กๆ และวัยรุ่น คือ “ซิม คิวเท” มีแชแนลทางยูทูบชื่อว่า “คิวเท โอ็ปป้า-Kyutae oppa” มีจำนวนผู้ติดตามเพียง 685,216 คน แต่มียอดวิวรวมกว่า 50 ล้านวิว อัพคลิปลงทางแชแนลทุกอาทิตย์ คิวเทคนเกาหลีแท้แต่มีหัวใจเป็นของไทย เติบโตด้วยไก่ย่างส้มตำ คอนเทนต์ในช่องของ “Kyutae oppa” จะเน้นความตลกโปกฮาซะส่วนใหญ่

ยกตัวอย่างคลิป ที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดู และเป็นคลิปแรกของการเริ่มต้นทำยูทูบ คือ คลิปเกาหลีเต้นสายย่อ!! ฟีดแบ็กของคนดูก็แสดงความคิดเห็นว่า คลิปนี้ตลกและบ้ามาก

ซิม คิวเท

กว่าจะมาเป็นคิวเท ที่มีความกล้าเกินร้อย ย้อนเรื่องราวก่อนหน้านั้นไปเมื่อตอน ม.2 ชีวิตกลับสวนทางกันโดยสิ้นเชิง ในตอนนั้นคิวเทอยากเริ่มทำช่องยูทูบมาตั้งแต่ตอน ม.2 แล้วสาเหตุอะไรทำให้ความฝันที่อยากจะทำยูทูบของเขาต้องหยุดลงไปชั่วขณะ 

“ตอนนั้นผมยังไม่กล้าพอครับ ไม่กล้าที่จะบอกกับคนอื่นเกี่ยวกับการทำยูทูบ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ทำเลย แล้วผมคิดว่ามันเหมือนมีอะไรขาดไปในชีวิตครับ ทำไมชีวิตมันถึงน่าเบื่อจัง ผมมีความรู้สึกแบบนี้เพราะว่าผมกลัวตลอดไงครับ กลัวว่าคนอื่นจะมองยังไง กลัวทำอย่างนี้แล้วคนอื่นจะคิดว่ายังไง”

แต่ในที่สุด จากความไม่กล้าพอในตอนแรก รวมถึงความกลัวที่มีอยู่ภายในจิตใจของคิวเท กลับถูกสลัดทิ้งออกไปจนได้ ด้วยแรงบัลดาลใจที่มาจากตัวของเขาเอง เพียงแค่ไม่กล้าแสดงออกในตอนแรก และเขามองว่าหากมีชีวิตแบบนี้ต่อไปคงไม่มีความสุข ไม่มีความสนุก จึงเลือกที่จะทำยูทูบ

แน่นอนว่า ในประเทศไทยไม่ได้มียูทูบเบอร์เพียงคนเดียว แต่ยังมีอีกหลายคน หลายช่อง แต่ละช่องต่างก็มีคนติดตามเป็นของตัวเอง ทำให้คิวเทต้องต้องสร้างสิ่งแตกต่างจากคนอื่นๆ

“การสร้างคาแร็กเตอร์ให้โดดเด่นที่สุดครับ ต้องทำให้น่าสนใจที่สุด จำง่ายที่สุดคือการสร้างคาแร็กเตอร์ให้โดดเด่นครับ คาแร็กเตอร์ของเราก็จะบ้าๆ บอๆ ครับ ทำคลิปที่ง่ายมาก แต่เป็นคลิปที่ค่อนข้างเร็ว แล้วก็ค่อนข้างบันเทิง

ผมไม่ได้ลงทุนในเงิน แต่ลงทุนเวลามากกว่าครับ ผมบอกได้เลยว่าต้องลงทุนเกือบ 24 ชั่วโมงทั้งหมดให้กับยูทูบ ถึงจะดังได้ จะประสบความสำเร็จได้ ก็ตั้งใจทำเรื่อยๆ ครับ เราก็ต้องดูว่าคนดูชอบแบบไหน ทำตามท่านผู้ชมด้วย ถ้าคนอื่นยอมรับในสิ่งที่ผมทำอยู่ในตอนนี้ ผมก็มีความสุขแล้ว ผมก็เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จของชีวิตครับ”

“ยูทูบเบอร์” สายดาร์ก เล่นพิเรนทร์ โดนถล่มด่ายับ!

นอกจากยูทูบเบอร์สายดีแล้ว ยังมียูทูบเบอร์สายดาร์กทำคลิปเรียกคนดู แต่สุดท้ายโดนถล่มด่าไม่เป็นท่า เมื่อพูดถึงยูทูบเบอร์สายดาร์กที่มียอดคนติดตามจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน คือแชแนลยูทูบ “my mate nate” หรือ เนท-นาธาน บาร์ทลิ่ง มีจำนวนผู้ติดตามถึง 4,076,001 คน โด่งดังหลังจากมีกระแสคลิปฝรั่งทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษของเด็กไทย 

ส่วนวีรกรรมในคลิปอื่นๆ ที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมโซเชียล เป็นอย่างมาก คือ คลิปใช้เหรียญสตางค์เกือบ 1,600 เหรียญ ไปซื้อของที่ร้านค้า, ผูกแมวกับลูกโป่งทดลองว่าใช้ลูกโป่งกี่ใบแมวถึงจะลอยได้, แมวสู้กับแมงป่อง และล่าสุดวางเหรียญบนรางรถไฟให้รถวิ่งทับ 

ภายหลังจากการทำคลิปที่ไม่เหมาะสมหลายกรณีของเนท แม้จะยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เจ้าตัวทำลงไป เนทก็ยังคงถูกสังคมถล่มด่าและมีการล่ารายชื่อไล่ให้กลับประเทศบ้านเกิดของตน ส่วนบทลงโทษที่ถูกแจ้งข้อหากรณีไปวางเหรียญบนรางรถไฟของเขา มีโทษปรับเป็นเงิน 5,000 บาท

เนท-นาธาน บาร์ทลิ่ง

คลิปของเขากว่า 5 กรณีแล้ว ที่ถูกเผยแพร่ออกมา การกระทำสุดแปลกแหวกแนว อาจส่งผลกระทบในวงกว้างได้ เมื่อเยาวชนที่ติดตามเห็นก็นำไปเลียนแบบไปทำตาม เยาวชนเหล่านั้นอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่สนุก เจตนาของเขาในการผลิตคอนเทนต์ คืออะไรกันแน่?

ไม่เพียงแค่กรณีของเนท ที่มีการทำคลิปแปลกๆ แต่ยังมีชาวต่างชาติที่มีการกระทำที่ไม่สมควรจากการทำคลิปของเขา เช่น “โลแกน พอล – Logan Paul ซึ่งมีผู้ติดตามในยูทูบสูงถึง 15 ล้านคน อัดคลิปพบศพคนฆ่าตัวตายในป่าญี่ปุ่น ในคลิปวิดีโอ เขาและเพื่อนได้พบศพของคนที่แขวนคอฆ่าตัวตาย พวกเขาพูดจาล้อเลียนและทำเป็นเรื่องตลกขบขัน ทำให้มีผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ถึงกิริยาที่ไม่เหมาะสม ภายหลังจึงได้ลบคลิปวิดีโอ และโพสต์ข้อความขอโทษ

ขณะที่เพจดัง “แหม่มโพธิ์ดำ” เพจที่นำเสนอเรื่องเฉพาะสังคม ก็เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับกรณีของเนท ยูทูบเบอร์สายดาร์ก ว่าไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อการตลาด ยิ่งคนด่า ยิ่งสื่อขยี้ ยิ่งเพจด่า ยอดผู้ติดตามเนทในแชแนลก็เพิ่มขึ้น เงินก็เข้ากระเป๋า 

“นาธาน บาร์ทลิ่ง” เจ้าของเพจ “มายเมทเนท” เจอโทษปรับเงิน 5,000 บาท เหตุวางเหรียญให้รถไฟทับ 

อย่างเช่นกรณีผู้ใช้ยูทูบช่อง “TAE EXZENFIRE” ที่ได้มีการนำเสนอเรื่องรายได้จากการทำยูทูบ ผ่านคลิปที่มีชื่อว่า การทำคลิปลงยูทูบได้เงินเท่าไหร่? โดยช่องดังกล่าวได้เล่ารายละเอียด เกี่ยวกับค่าโฆษณาจากยูทูบ 

“หลังจากที่ผมทำยูทูบมา 2-3 ปี ผมก็ได้สังเกตเห็นนะครับ ว่ายูทูบจะจ่ายเงินให้ 1,000 บาท ต่อ 100,000 วิว มีขึ้นมีลงได้บ้าง แน่นอนว่าหากเราทำได้มากขึ้น เราก็ยิ่งได้มากขึ้นเช่นกัน และหากได้ 1,000,000 วิว จะได้เงิน 10,000 บาท” 

หากมีการอัพคลิป 10 ครั้งใน 1 เดือน รายได้ต่อเดือนก็สูงนับแสนบาท จึงกลายเป็นทางออกของคนไม่อยากทำงานประจำ ส่วนอัตรารายได้ของยูทูบเบอร์ช่องดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าหากคนมาดูคลิปจำนวนมาก รายได้ก็จะมากตามไปด้วย

เมื่อการอัพคลิปลงยูทูบสร้างรายได้ให้กับพวกเขาได้ ยูทูบเบอร์จึงเกิดขึ้นมากมายให้ได้เห็นกัน มีทั้งคอนเทนต์ที่ดี และคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม “ยูทูบเบอร์สายดาร์ก” ขายยอดวิว เรียกคนมาดู ดังได้ แต่ก็ไม่ยั่งยืนเท่ากับ “ยูทูบเบอร์สายดี” ที่สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ทำคลิปดีคนก็ติดตามนาน ขึ้นอยู่กับว่าการสร้างคอนเทนต์ของแต่ละคน จะเลือกสายดี หรือสายดาร์ก.

ที่มา : mgronline.com/livelite/detail/9610000007184

]]>
1154252