accenture – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 24 Mar 2023 05:20:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Accenture ประกาศปลดพนักงานมากถึง 19,000 คนทั่วโลก หลังสภาวะเศรษฐกิจเริ่มไม่เป็นใจ https://positioningmag.com/1424734 Fri, 24 Mar 2023 04:05:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1424734 บริษัทที่ปรึกษาด้านไอทีชื่อดังอย่างแอคเซนเจอร์ (Accenture) ประกาศปลดพนักงานมากถึง 19,000 คนหลังสภาวะเศรษฐกิจเริ่มไม่เป็นใจ และบริษัทยังคาดการณ์ถึงรายได้บริษัทที่ลดลง ส่งผลทำให้บริษัทต้องงัดมาตรการดังกล่าวออกมาใช้

โดยที่ปรึกษาด้านไอทีรายใหญ่ได้ยื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาว่าบริษัทเตรียมปลดพนักงานมากถึง 19,000 คน ภายในระยะเวลา 18 เดือนหลังจากนี้ คิดเป็นสัดส่วน 2.5% ของพนักงานทั้งหมด ขณะเดียวกันก็ยังปรับลดคาดการณ์รายได้ของบริษัทจากเดิมคาดว่าจะอยู่ในช่วง 8-11% มาอยู่ที่ 8-10%

ในเอกสารของบริษัทยังได้กล่าวถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้บริษัทต้องปลดพนักงานว่า “ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงสภาวะเศรษฐกิจมหภาค สภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงระดับความเชื่อมั่นทางธุรกิจ”

ไม่เพียงเท่านี้การปลดพนักงานของบริษัท ตามหลังมาจากการปลดพนักงานบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึงผลสำรวจ บริษัทหลายแห่งหลังจากนี้มีแนวโน้มที่จะลดการใช้จ่ายด้านไอทีลง ซึ่งกระทบต่อ Accenture ซึ่งมีรายได้สำคัญมาจากบริการต่างๆ ด้านไอทีให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัทหลากหลายประเภท

พนักงานที่โดนปลดในครั้งนี้บริษัทได้ชี้แจงว่าส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่ทำงานระบบหลังบ้าน (Back office) และการปลดพนักงานครั้งนี้กระทบกับพนักงานของ Accenture ทั่วโลก

ตัวเลขการจ้างพนักงานของ Accenture ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ว่าจ้างพนักงานเพิ่มมาขึ้น 38,000 คน หลังจากความต้องการในเรื่องที่ปรึกษา หรือแม้แต่บริการต่างๆ ของบริษัทเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตัวเลขพนักงานก่อนหน้าที่จะมีการปลดพนักงานนั้นอยู่ที่ราวๆ 738,000 คน

ไม่ใช่แค่บริษัทที่ปรึกษาอย่าง Accenture จะมีการปลดพนักงานเท่านั้น แต่ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทที่ปรึกษารวมถึงตรวจสอบภาษีอย่าง KPMG ก็มีการปลดพนักงานคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 2% เช่นกัน รวมถึง McKinsey ที่มีการปลดพนักงานถึง 2,000 คน โดยให้เหตุผลเรื่องสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง

ที่มา – CNN, TechCrunch, CNBC

]]>
1424734
‘IBM’ ฟ้องอดีตผู้บริหารประเทศไทยเรียก ‘โบนัส’ มูลค่า 15 ล้านบาทคืน เหตุย้ายไปอยู่กับคู่แข่ง https://positioningmag.com/1419176 Tue, 14 Feb 2023 06:52:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1419176 หากพูดถึงชื่อหญิงแกร่งของวงการไอทีไทย ชื่อของ ปฐมา จันทรักษ์ ต้องขึ้นมาเป็นชื่อแรก ๆ แน่นอน เพราะคร่ำวอดอยู่ในวงการมานานกว่า 30 ปี ได้ร่วมงานกับทั้ง ไมโครซอฟท์, IBM และล่าสุด Accenture แต่เพราะการย้ายไปร่วมงานกับ Accenture ก็ทำให้เกิดเรื่องราวฟ้องร้อง เนื่องจากถือเป็นบริษัทคู่แข่งของ IBM

IBM (ไอบีเอ็ม) บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกกำลัง ฟ้องร้อง ปฐมา จันทรักษ์ อดีตผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย โดย IBM ต้องการเรียกคืนโบนัสมูลค่า 4.7 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 15 ล้านบาท เนื่องจากเธอนั้นทำผิดสัญญา โดยย้ายไปทำงานกับบริษัท Accenture ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ IBM โดยตรง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งถือเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุด

“หน่วยงานของ IBM และ Accenture แข่งขันกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านข้อมูล การช่วยทรานส์ฟอร์มองค์กรให้เป็นดิจิทัล และการให้คำปรึกษา ทั้งในระดับโลกและภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ทนายความของ IBM เขียนไว้ในคำฟ้อง

สำหรับ ปฐมา จันทรักษ์ ได้ร่วมงานกับ IBM ตั้งแต่ปี 2018 ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการทั่วไป หรือ MD ของบริษัท และลาออกในช่วงต้นปี 2022 และหลังจากที่ลาออกไปได้ 1 เดือน ปฐมาก็ได้ร่วมงานกับ Accenture ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยในเดือน เม.ย. 2022

ซึ่งการที่ปฐมาลาออกไปร่วมงานกับ Accenture ถือเป็นการฝ่าฝืนสัญญาของ IBM เนื่องจากโบนัสมูลค่า 4.7 แสนดอลลาร์สหรัฐนั้น ถือเป็น เงินพิเศษเพื่อไม่ให้เธอเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัท และห้ามไม่ให้ไปมีส่วนร่วมกับองค์กรคู่แข่งจนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด โดยทาง IBM ระบุว่า บริษัทได้เจรจาขอเงินคืนจากปฐมาแล้ว แต่เธอเลือกปฏิเสธที่จะคืนเงิน จนนำไปสู่การฟ้องร้องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางปฐมา และ Accenture ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ

Source

]]>
1419176
MyMarkets เทรนด์แรงที่แบรนด์จะแข่งกันแพ้ชนะชัดเจนในช่วง 3 ปีนับจากนี้ https://positioningmag.com/1226826 Fri, 26 Apr 2019 04:58:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1226826 จากเดิมที่แบรนด์เคยแข่งกันเรื่อง 4P ทั้งตัวสินค้า ราคา จุดวางจำหน่าย และโปรโมชั่น การสำรวจล่าสุดพบว่าสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนไป เพราะแบรนด์จะเทพลังแข่งขันกันแย่ง “moment” ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้แบบเดี๋ยวนี้ ตอนนี้กลายเป็นที่มาของเทรนด์ momentary markets หรือ MyMarkets ที่บริษัทวิจัย accenture เชื่อว่าจะเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ซัดเข้าสู่ทุกธุรกิจในข่วง 3 ปีนับจากนี้

นนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ accenture ประเทศไทย อธิบายว่า คีย์เวิร์ดของ MyMarkets คือความเป็นเรียลไทม์ หรือการตอบความต้องการของลูกค้าให้ได้ เวลาจุดนั้นเท่านั้น ซึ่งองค์กรหรือแบรนด์จะต้องเข้าใจว่าความต้องการ เวลานั้นของลูกค้าคืออะไร และหมายถึงอะไร

แนวคิดนี้ทำให้เราเห็นการเสนอขายสินค้าทันทีที่ลูกค้าทำการเสิร์ช เป็นการวิ่งเข้าหาผู้บริโภคในเวลานั้น

MyMarkets จึงเป็นแนวโน้มการแข่งขันในโลกธุรกิจที่ความต้องการในตลาดเปลี่ยนไป ทำให้ลูกค้าหลายคนอยากได้สินค้าในตอนนี้ ซึ่งหากเลยช่วงเวลานี้ไป หรือให้รอนานกว่านี้ก็จะไม่อยากได้แล้ว การแข่งขันของหลายแบรนด์จึงเริ่มไปอยู่ที่การบริการและจัดส่งที่จะทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งสินค้านั้นอาจไม่ใช่ของที่ราคาถูกที่สุด แต่จะขายได้เพราะตอบความต้องการได้ในเวลานั้น 

ผู้บริหารไทยขานรับ

วันนี้ธุรกิจโลกเริ่มแข่งกันที่ MyMarkets แล้ว และแนวโน้มนี้กำลังเกิดขึ้นในตลาดไทยเช่นกัน เพราะการสำรวจของ accenture พบว่า 95% ของนักธุรกิจชั้นนำของไทย พูดตรงกันว่าจะหันมาแข่งตรงนี้ เพื่อแย่งโมเมนต์นั้นของลูกค้าให้ได้

“นี่ไม่ใช่เรื่องของการทำราคา แต่เป็นการตอบความต้องการให้ได้ในเวลานั้น เราจึงเชื่อว่านี่จะเป็น Next big wave ที่จะชี้แพ้ชนะระหว่างแบรนด์ได้”

สัดส่วน 95% ของนักธุรกิจชั้นนำของไทยที่เห็นด้วยกับแนวคิด MyMarkets นั้นสูงกว่ามาตรฐานโลก เพราะเมื่อเทียบกับผลสำรวจที่ accenture ทำในระดับโลก พบว่าผู้บริหารโลกเพียง 85% เท่านั้นที่เห็นด้วยว่าการใช้เทคโนโลยีและกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละบุคคลเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สามารถชี้แพ้ชี้ชนะถึงความได้เปรียบเชิงแข่งขันของธุรกิจ

รู้แต่ยังไม่ตื่นตัว

อย่างไรก็ตาม นนทวัฒน์ประเมินว่าองค์กรไทยยังไม่ตื่นตัวกับเทรนด์นี้ เพราะมีบางรายเท่านั้นที่เริ่มตอบความต้องการแบบ On Demand คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10%

แต่ความจริงคือวันนี้องค์กรไทยยังไม่ตื่นตัวเทรนด์นี้เท่าไหร่ ธุรกิจไทย 7% เท่านั้นที่บอกว่าตอบตลาด On Demand แล้ว

ประเด็นนี้ถือว่าเป็นจุดน่ากังวลตามมาตรฐานโลก เพราะสัดส่วน 7% นี้ถือว่าไม่หนีจากค่าเฉลี่ยโลก 9% ที่เป็นกลุ่มธุรกิจซึ่งบอกว่าเริ่มตอบ On Demand แล้ว จุดนี้ทำให้นนทวัฒน์เชื่อว่าเราจะได้เห็นธุรกิจในหลายตลาด เริ่มแข่งขันเรื่องการให้บริการ On Demand เพิ่มขึ้น 

สำหรับ MyMarkets นั้นเป็น 1 ใน 5 เทรนด์ที่ accenture มั่นใจว่าทุกธุรกิจจะได้พบเจอในช่วง 3 ปีนับจากนี้ การสำรวจนี้มีชื่อเรียกเต็มว่า “Technology Vision 2019 report” ซึ่งลงมือสำรวจความเห็นของผู้บริหารบริษัทใหญ่มากกว่า 6,000 คนทั่วโลกรวมถึงไทย โดยอีก 4 เทรนด์ ได้แก่ 

1. DARQ Power : ธุรกิจจะใช้เทคโนโลยีกลุ่ม DARQ จนเป็นเรื่องปกติ ทั้ง Distributed ledger บล็อกเชน, Artificial intelligence ปัญญาประดิษฐ์, Extended Reality ระบบเสมือนจริงสำหรับองค์กร และ Quantum computing การประมวลผลระดับสุดยอดคอมพิวเตอร์ 

2. Get To Know Me : ธุรกิจจะใช้ดาต้าถอดรหัสลูกค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้เข้าถึงโอกาสเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะได้ พบว่า 4 ใน 5 ของผู้บริหารทั่วโลก (83%) เผยว่าวันนี้องค์กรต้องใช้วิธีการใหม่ในการหาโอกาสทางการตลาดเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่ยังไม่มีใครตอบโจทย์ ตัวเลขนี้ต่ำกว่าการสำรวจในไทย ที่ผู้บริหาร 95% เชื่อว่าการใช้ดิจิทัลดาต้ามีผลกับธุรกิจ  

3. Human+ Worker : ธุรกิจจะดำเนินไปผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างคนและเครื่องจักร การสำรวจพบว่าผู้บริหารกว่า 2 ใน 3 (71%) เชื่อว่าพนักงานของบริษัทมีความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมากกว่าองค์กร ส่งผลให้คนทำงานต้องรอให้องค์กรก้าวตามให้ทัน ตัวเลขนี้ถือว่าต่ำกว่าผู้บริหารไทย 87% ของกลุ่มตัวอย่าง ที่ยอมรับว่าวันนี้พนักงานมีการเปลี่ยนแปลงบทบาทหน้าที่ในองค์กรเพราะเทคโนโลยี

4. Secure Us to Secure Me : ธุรกิจจะใส่ใจการรักษาความปลอดภัยแบบทั้งระบบนิเวศมากขึ้น ทั้งตัวบริษัทเองและพันธมิตร จุดนี้การสำรวจพบว่ามีผู้บริหารโลก 29% เท่านั้นที่ทราบดีว่าพันธมิตรในระบบนิเวศของตนได้ดำเนินการอย่างจริงจังด้านมาตรฐานความปลอดภัย เท่ากับบริษัทส่วนใหญ่ไม่ทราบจริงๆว่าบริษัทพันธมิตรรายอื่นมีความสามารถในการแก้ไขฟื้นฟูระบบได้ทันท่วงทีหรือไม่

โดยเทรนด์ที่ 5 ก็คือ MyMarkets ที่เราพูดถึงตั้งแต่ต้น.

]]>
1226826