ไม่นานนักวงศ์ทนงได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ บริษัท เดอะ แสตนดาร์ด จำกัด ปั้นสำนักข่าวออนไลน์ขึ้นมาใหม่หลังจากที่ออกจากอะเดย์ ได้ฟอร์มทีมจากลูกหม้ออะเดย์เก่าที่ร่วมงานกันมา มีคณะบรรณาธิการทั้งหมด 7 คน ได้แก่ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ (โหน่ง), นิติพัฒน์ สุขสวย (ปิงปอง), นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ (เคน), เจิมสิริ เหลืองศุภภรณ์ (จิมมี่), ภูมิชาย บุญสินสุข (บิ๊กบุญ), วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม (ตุ๊ก) และ ยศยอด คลังสมบัติ (โจ)

โปรเจกต์นี้ถือว่าสร้างขึ้นมาชนกับบริษัทเดิมเลยก็ว่าได้ เพราะครอบคลุมทั้งสื่อออนไลน์ สิ่งพิมพ์ ในอนาคตอาจจะมีอีเวนต์เพิ่มเติม

มาทำความรู้จักเดอะ แสตนดาร์ดให้มากขึ้น

1. บริษัท เดอะ แสตนดาร์ด จำกัด ใช้ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นเป็น วินิจ เลิศรัตนชัย 45% วงศ์ทนง (โหน่ง) 25% นิติพัฒน์ สุขสวย (ปิงปอง) 20% และกลุ่มบริษัท เดย์อาฟเตอร์เดย์ (ผู้ร่วมลงขันอะเดย์เดิม 80% ที่มีราว 300 คน ขอขายหุ้นคืน 10%) 10% ปัจจุบันได้ลงทุนสร้างออฟฟิศย่านซอยศูนย์วิจัย ถนนพระรามเก้าไปแล้ว 10 ล้านบาท

2. วงศ์ทนงได้หานายทุนมาร่วมลงขันในโปรเจกต์นี้ ได้พูดคุยกับบริษัทใหญ่ 2-3 แห่ง และ “วินิจ เลิศรัตนชัย” อดีตนักจัดรายการวิทยุ ทางวงศ์ทนงได้รู้จักมา 10 ปี ได้ใช้เวลาคุยราว 15 นาที วินิจก็ร่วมโปรเจกต์ด้วย โดยที่มีเงื่อนไขว่า ต้องวงศ์ทนง และนิติพัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย แต่ทางวินิจเป็นผู้ออกเงินส่วนใหญ่

3. วางจุดยืนเป็นสำนักข่าวออนไลน์เปิดตัวในวันนี้ 5 มิถุนายน 2560 จากนั้นในเดือนกรกฎาคมจะมีนิตยสารเดอะแสตนดาร์ด เป็นนิตยสารแจกฟรี เน้นตามรถไฟฟ้าบีทีเอส และจะมี Podcast สื่อรายการวิทยุออนไลน์เพิ่มเติมในเดือนสิงหาคมและพ็อกเก็ตบุ๊กตามออกมา

4. สาเหตุที่ใช้ชื่อว่าเดอะแสตนดาร์ด เพราะต้องการตั้งมาตรฐานให้กับตัวเองในการทำสื่อ

5. มีทีมงานรวม 80 คน เป็นพนักงานประจำทั้งหมด มีทีมงานที่ย้ายมาจากอะเดย์ 40-50 คน และหาใหม่เพิ่ม 30 คน วงศ์ทนงบอกว่าเป็นขนาดที่พอเหมาะแล้ว ไม่อยากให้ใหญ่ไปเท่ากับอะเดย์ที่มี 160 คน แต่จำชื่อกันได้ไม่หมด

6. ตอนนี้มีคอลัมนิสต์เขียนคอนเทนต์ให้ 40 คน แต่ได้เกิดดราม่าเพราะมี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นคอลัมนิสต์ในส่วนของไลฟ์สไตล์ กีฬา ทำให้หลายคนไม่พอใจ เพราะรู้สึกไม่เป็นกลาง ซึ่งทางวงศ์ทนงบอกว่าได้ระงับคอลัมน์นี้ไปแล้ว แต่ก็ยังมีการรับน้องเกิดขึ้นในเฟซบุ๊ก มีการเข้าไปรีวิวเพจ พร้อมให้ 1 ดาวกันกระหน่ำ

7. หลักการเลือกคอลัมนิสต์ในการเขียนคอนเทนต์ เริ่มจากมีคอนเน็กชั่นส่วนตัว และมองที่ทัศนคติของแต่ละคน ต้องการให้มีความหลากหลายมากที่สุด

8. สัดส่วนคอนเทนต์ แบ่งเป็น ข่าว 50% เป็นทั้งข่าวในประเทศ ต่างประเทศ การเมือง อาชญากรรม เศรษฐกิจ เป็นต้น และ ไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรม 50%

9. ความแตกต่างของเดอะแสตนดาร์ด เมื่อเทียบกับเดอะโมเมนตั้ม เว็บเดิมที่เคยปั้นขึ้นมา มีคอนเทนต์ข่าวมากขึ้น จากเดิมเน้นเรื่องไลฟ์สไตล์

10. วงศ์ทนงบอกว่าในอนาคตไม่มีการขายให้นายทุนใหญ่อีกแล้ว เพราะเข็ดจากเรื่องที่ผ่านมา บอกว่า “เป็นบทเรียนในการใช้ชีวิตว่าอย่าปล่อยปะในการทำธุรกิจที่ให้ฝ่ายอื่นดูแลมากไป พอมาทำเดอะแสตนดาร์ดจึงทำให้ซับซ้อนน้อยที่สุด

11. รูปแบบการหารายได้ตอนนี้ยังมาจากโฆษณา 100% ในอนาคตอาจจะมีการทำอีเวนต์เพิ่ม

12. เป้าหมายของเดอะ แสตนดาร์ด วงศ์ทนงบอกว่าต้องการเป็น 1 ใน 3 ของสำนักข่าวที่คนเข้าไปอ่านทุกเช้า ต้องการเป็น News Agency ขายข่าวให้กับต่างประเทศด้วย

จากกรณีที่ โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) จะเขาซื้อหุ้น บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำนวน 490,000 หุ้น ในราคารวม 308,700,000 บาท หรือเท่ากับ 630 บาทต่อหุ้น จนส่งผลให้วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และนิติพัฒน์ สุขสวย ประกาศลาออก เพราะถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงการขายหุ้นในครั้งนี้  จากนั้นทีมงานเว็บไซต์โมเมนตัมก็ประกาศยกทีมลาออก รวมทั้งวิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการอำนวยการอะเดย์บูเลทิน ก็ประกาศอำลาไปอีกครั้งโดยทั้งหมดนี้จะไปเปิดเว็บไซต์ใหม่ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนี้

ล่าสุด บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR ซึ่งได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 ว่า ขอยกเลิกการเข้าลงทุนแล้ว เนื่องจากการลาออกของวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และนิติพัฒน์ สุขสวย โดยได้ขอเงินมัดจำ 120 ล้านบาทคืนด้วย

โดยมีรายละเอียดดังนี้ ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งว่ามีความประสงค์ที่จะเข้าลงทุนในบริษัท เดย์โพเอทส์ จํากัด และบริษัทเชื่อมั่นในประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจของผู้ก่อตั้งและผู้บริหารหลัก คือ นายวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และนายนิติพัฒน์ สุขสวย ซึ่งต่อมาบุคคลดังกล่าวทั้ง 2 คนได้ลาออกจากบริษัท เดย์โพเอทส์ จํากัด แล้วนั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า การเข้าลงทุนในบริษัท เดย์โพเอทส์จํากัด สาระสําคัญของการเข้าลงทุนอยู่ที่ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจของผู้ก่อตั้งและผู้บริหารหลัก คือ นายวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และนาย นิติพัฒน์สุขสวย

ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นว่าหากนายวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และนายนิติพัฒน์ สุขสวย มิได้บริหารงานให้กับบริษัท เดย์โพเอทส์ จํากัด แล้ว อาจจะส่งผลให้บริษัทฯ ไม่ได้รับผลตอบแทนตามแผนการลงทุนที่บริษัทฯ ได้วิเคราะห์ไว้

คณะกรรมการบริษัทจึงได้ร่วมกันตัดสินใจยกเลิกการเข้าลงทุนในบริษัท เดย์โพเอทส์ จํากัด และเรียกให้บริษัท ธนวรินทร์ จํากัด คืนเงินมัดจํา จํานวน 120 ล้านบาท ในการเข้าทำ Due Diligence ให้แก่บริษัท

วันนี้ (27 มี.ค.)  นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ บรรณาธิการบริหาร เว็บไซต์เดอะโมเมนตัม ได้เขียนบทบรรณาธิการระบุว่า ตนพร้อมทีมงานทุกคน รวมถึงคอลัมนิสต์ และผู้จัดพอดแคสต์ ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในเว็บไซต์เดอะโมเมนตัม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป หลังก่อตั้งเว็บไซต์เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2559 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลหลักคือ ทัศนคติที่ไม่ตรงกับผู้บริหาร ส่วนการตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้บริหาร บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด ทีมงานทั้งหมดจะไปเปิดเว็บไซต์ใหม่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้

ก่อนหน้านี้ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และนิติพัฒน์ สุขสวย สองผู้ก่อตั้งนิตยสารอะเดย์ ได้ตัดสินใจลาออกจากบริษัท เดย์ โพเอทส์ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องการขายหุ้นบริษัท เดย์ โพเอทส์ ให้กับบริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) จำนวน 490,000 หุ้น ในราคารวม 308,700,000 บาท หรือเท่ากับ 630 บาทต่อหุ้น ทำให้มีกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้กว่า 238.7 ล้านบาท มีเงื่อนงำที่น่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะพฤติการณ์ของบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อหุ้น ในลักษณะการเป็นตัวแทน หรือ นอมินี แม้จะมีความพยายามในการล้มดีลจากฝ่ายวงศ์ทนงก็ตาม แต่เมื่อตอบคำถามสังคมไม่ได้จึงตัดสินใจลาออกดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย เจ้าของบริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด ยืนยันว่ายังคงทำนิตยสารอะเดย์ และนิตยสารในเครือเหมือนเดิม ทั้งนิตยสารฟรีก๊อปปี้รายสัปดาห์ a day BULLETIN, นิตยสาร HAMBURGER รวมถึงสำนักพิมพ์ a book, เว็บสาระบันเทิงเชิงวิเคราะห์ The Momentum และเว็บขายสินค้าออนไลน์ www.godaypoets.com โดยมีทรงกลด บางยี่ขัน ดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหารนิตยสารอะเดย์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการลาออกเป็นสิทธิ์ของวงศ์ทนงเพราะไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกองบรรณาธิการอยู่แล้ว นิตยสารแต่ละเล่มก็มีบรรณาธิการที่มีความเชี่ยวชาญดูแลอยู่

ขณะเดียวกันยอมรับว่า หลังจากการลาออกของวงศ์ทนง มีทั้งที่อยู่ต่อ และลาออกไป โดยมีทีมงานอยู่ประมาณ 100 กว่าคน ที่ต้องดูแลต่อ และมองจังหวะนี้เป็นช่วงแตกหน่อ อะเดย์ยังไปต่อไปต่อได้เพราะทีมงานแข็งแรง

สำหรับ นครินทร์ อดีตนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สนใจเรื่องวัฒนธรรมร่วมสมัย ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง เป็นคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารอะเดย์ และมติชนสุดสัปดาห์ เคยมีผลงานพ็อกเก็ตบุ๊ก POPEYE และ จุลินทรีย์แห่งความสำเร็จ นอกจากนี้ เขายังเป็นพิธีกรรายการคิดเล่น เห็นต่าง ร่วมกับ ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ทางสถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี ก่อนดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหาร เว็บไซต์เดอะโมเมนตัม ซึ่งถูกวางให้เป็นสำนักข่าวออนไลน์ยุคใหม่ 

ที่มา : http://manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9600000031002

มาฟังจากปากของ สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ถือหุ้น บริษัท ธนวรินทร์ จำกัด และบริษัท ไทยฟู้ด โลจิสติกส์ จำกัด เจ้าของ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด ก่อนจะขายให้กับ บริษัท โพลาริส แคปปิตัล ซึ่งเขาเองก็เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทโพลาริส แคปปิตัล ด้วยเช่นกัน 

กรณีการข่าวขายหุ้น a day ตลอดจนการลาออกจากบริษัท เดย์ โพเอทส์ ของ โหน่ง-วงศ์ทนง นิติพัฒน์ สุขเสวย สองผู้ร่วมก่อตั้ง a day ผู้ก่อตั้ง a day ว่า

เป็นสิทธิ์ของโหน่ง เนื่องจากโหน่ง ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกองบรรณาธิการอยู่แล้ว แต่ละเล่มก็มีบรรณาธิการที่มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีทีมงานอยู่ราว 200 คน แต่พอโหน่งออกก็มีทั้งคนที่อยู่ และออกตามไปด้วย

คิดว่าจะกระทบกับทีมงานเดิมหรือไม่

“โหน่งเขาขอลาออกก็เป็นเรื่องของเขา เขาอยากไปทำในสิ่งที่เขาอยากทำ คิดว่าเขาไม่ทำแมกกาซีนอีกแล้ว อาจจะทำเป็นสื่อใหม่ แม้ว่าธุรกิจสื่อจะขึ้นอยู่กับคน แต่ไม่ใช่คนคนเดียว ซึ่งทุกวันนี้ a day ก็ไม่ใช่วงศ์ทนงตั้งนานแล้ว มีการเปลี่ยน บก. มาหลายคน ซึ่งโหน่งเป็นที่ปรึกษาอยู่ หลายคนกังวลว่าเขาลาออกแล้วทีมจะลาออกตามมั้ย ก็มีทั้งที่อยู่ต่อ และลาออกไป หลายคนที่เติบโตมากับอะเดย์แล้วไปที่อื่นก็มีเยอะแยะ สำคัญแค่ใครที่อยู่ต่อ ตอนนี้มีทีมงานอยู่ประมาณ 100 กว่าคน เป็นคนที่เราต้องดูแลต่อ ก็ต้องมองว่าคนสื่อ กับคนที่ทำให้สื่ออยู่รอดได้คนละคนกัน และนี่คือความแตกต่างของนายทุนกับผู้บริหาร นายทุนต้องรับผิดชอบคนที่อยู่ต่อไป ซึ่งจังหวะนี้เป็นช่วงแตกหน่อ อะเดย์ยังไปต่อไปสบาย เพราะทีมงานแข็งแรง”

กรณีการขายหุ้นของ a day

“สำหรับเรื่องหุ้นของอะเดย์ในตอนนี้ ต้องมาพูดคุยกับ Polar ใหม่ว่า ยืนยันจะซื้อหุ้นเดินหน้าต่อ หรือจะร่วมกันอย่างไร หรือเปล่า ถ้าเงื่อนไขเปลี่ยน ไม่มีโหน่งอยู่ จะมีข้อสรุปภายในเดือนมีนาคมว่าจะขายหรือไม่ขาย  อยากเห็นภาพให้ชัดเจนก่อนทั้งเรื่องบุคลากร และภาพรวมธุรกิจ

ต้องกลับมาทบทวนใหม่

ตอนแรก วางแผนไว้ว่าจะรุกไปสื่อใหม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ และต้องมีพันธมิตร มาร่วม แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนเพราะมีคนออก ก็เลยมาคิดใหม่ว่าอาจจะทำเล็กๆ เหมือนเดิม

หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องการขายหุ้น ล่าสุด ทางด้านของผู้ก่อตั้งหนังสืออะเดย์ “วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” พร้อม “นิติพัฒน์ สุขสวย” ก็ได้ประกาศลาออกจากบริษัท เดย์ โพเอทส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้เจ้าตัวได้มีการทวิตข้อความว่า…“เรียนทุกท่านทราบว่า ผม – วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และ นิติพัฒน์ สุขสวย สองผู้ก่อตั้ง a day ได้ตัดสินใจลาออกจากบริษัท เดย์ โพเอทส์ แล้วครับ”

ทั้งนี้ เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า…“การสิ้นสุด อาจคือจุดตั้งต้นของการเริ่มใหม่”

สำหรับ “โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” นั้น เจ้าตัวจบการศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง นิตยสารอะเดย์ (A Day) ร่วมกับ นิติพัฒน์ สุขสวย และ ภาสกร ประมูลวงศ์ ภายใต้การดูแลของบริษัท “เดย์ โพเอทส์ จำกัด” (Day Poets Co. Ltd.)

โดยนิตยสารอะเดย์ได้มีการตีพิมพ์ครั้งแรกฉบับเดือนกันยายน 2543 ซึ่งนอกจากรูปเล่มและเนื้อหาที่ค่อนข้างจะแปลกแตกต่างแล้ว ต้นกำเนิดของนิตยสารเล่มนี้ ที่เกิดจากการส่งจดหมายไปยังกลุ่มคนทั่วไปที่ชื่นชอบงานเขียนและสนใจไอเดียของตนเองเพื่อระดมทุนในการทำหนังสือก็ทำให้ทั้ง “อะเดย์” และ “โหน่ง วงศ์ทนง” นั้น กลายเป็น “ไอดอล” ของวงการหนังสือของคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทันที

หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากอะเดย์ พร้อมแตกไลน์เป็น a day BULLETIN, a day Idol เจ้าตัวจึงได้คิดการใหญ่กับการก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในแวดวงการสื่อ กับ a day weekly นิตยสารวิเคราะห์ข่าวรายสัปดาห์ เพื่อหวังต่อยอดไปเป็นข่าวรายวันในที่สุด ทว่า ฝันตรงนี้ก็ต้องสะดุดลง เพราะแม้ a day weekly จะเป็นที่จับตาในเบื้องต้น แต่สุดท้าย a day weekly ก็ขาดทุนอย่างไม่เป็นท่า นั่นเองที่ทำให้เดย์ โพเอทส์ฯ ต้องหันมาจับงานที่ถนัดอีกครั้งกับนิตยสาร Hamburger รวมถึง Knock Knock

ชื่อของ โหน่ง วงศ์ทนง และ อะเดย์ ได้ตกเป็นข่าวอีกครั้งหลังมีกระแสข่าวว่า การซื้อขายหุ้น บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เจ้าของนิตยสาร a day และ เว็บไซต์ Momentum จำนวน 490,000 หุ้น ในราคารวม 308,700,000 บาท หรือเท่ากับ 630 บาท ต่อหุ้น ระหว่าง บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ไทยฟู้ด โลจิสติกส์ จำกัด และ บริษัท ธนวรินทร์ จำกัด จากราคาหุ้นเดิมที่บริษัททั้ง 2 แห่ง ถืออยู่หุ้นละ 100 บาท ทำให้มีกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้กว่า 238.7 ล้านบาท มีเงื่อนงำที่น่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะพฤติการณ์ของบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อหุ้น ในลักษณะการเป็นตัวแทน หรือ นอมินี หรือไม่?

โดยเรื่องดังกล่าวทำให้ผู้ก่อตั้งอะเดย์ต้องออกมาให้ข่าว พร้อมยืนยันว่า จะพยายามล้มดีลที่ว่านี้ให้ได้หากไม่มีความโปร่งใสจริงๆ กระทั่งเรื่องนี้กลายเป็นที่วิจารณ์ไปทั่ว ก่อนที่เจ้าตัวจะควงคู่อีกหนึ่งผู้ก่อตั้งอะเดย์โพสต์ทวิตเตอร์ว่าได้ลาออกจากบริษัท เดย์ โพเอทส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
…
ผู้ถือหุ้นถามกลับ “วงศ์ทนงร้อยล้าน” ไม่แบ่งกำไรให้หุ้นผู้ร่วมลงขัน a day บ้างเหรอ?

“วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” A life of a day

ที่มา : http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000016641