AIS ACADEMY – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 29 Apr 2024 10:16:01 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 AIS Academy – กระทรวง พม. เดินหน้าลุย “ภารกิจคิดเผื่อ” กับเป้าหมายสร้าง Digital Inclusion เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ลดความเหลื่อมล้ำ อย่างยั่งยืน https://positioningmag.com/1471409 Mon, 29 Apr 2024 10:04:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1471409

ยังคงเดินหน้า “ภารกิจคิดเผื่อ” สำหรับ AIS Academy โดยล่าสุดได้ร่วมกับกระทรวง พม. เพื่อสร้างโอกาสให้กับประชาชนได้เข้าถึงนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ ตอกย้ำการเป็นไม้ขีดไฟเล็ก ๆ จุดประกายความคิดให้เกิดเป็นกองไฟแห่งการทำงานจากทุกภาคส่วนเพื่อประชาชนร่วมกัน สร้างนวัตกรรม ทักษะความรู้ และโอกาสใหม่ๆ

อีก 12 ปี ไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด

จากวิกฤตประชากรไทยที่อัตราเกิดลดลงมาเหลือเพียง 5 แสนกว่าคนต่อปี และภายในปี 2579 ไทยจะเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) คือมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 30% ส่งผลให้ประเทศไทยอาจต้องประสบปัญหาวิกฤตวัยแรงงาน ดังนั้น เป็นหน้าที่ของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ กระทรวง พม. ที่ต้องเร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ ครอบคลุมเรื่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพ การพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ และคนพิการ เพื่อเป็นกำลังแรงงานให้กับประเทศ รวมถึงการเสริมพลังวัยทำงาน

“นโยบายของกระทรวง พม. คือลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมให้กับกลุ่มผู้บอบบาง อาทิ เด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุ เพื่อให้คนเหล่านี้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตาม แค่ภาครัฐทำอย่างเดียวคงจะสำเร็จได้ยาก ดังนั้น เอกชนจึงเป็นอีกกำลังสำคัญ” อนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าว


กว่า 7 แสนคนที่ได้รับประโยชน์จากภารกิจคิดเผื่อ

หนึ่งในภาคเอกชนที่ร่วมมือกับกระทรวงพม. มาอย่างต่อเนื่องก็คือ AIS Academy ที่เริ่มตั้งแต่ปี 2564 ภายใต้โครงการ ภารกิจคิดเผื่อ ไม่ว่าจะเป็น AIS Academy for THAIS, อุ่นใจอาสาพัฒนาชีพ และ ห้องสมุดดิจิทัล ส่งผลให้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา AIS Academy ได้ช่วยให้คนไทยกว่า 7 แสนคน มีทักษะ มีความรู้ ความเข้าใจ เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถของประชาชนและสังคม

ล่าสุด AIS Academy ได้สานต่อความร่วมมือกับกระทรวงพม. ตอกย้ำภารกิจคิดเผื่อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำของคนไทย รวมทั้งการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ เอไอเอส ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการเติบโตแบบร่วมกันของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

“แม้ AIS Academy มีแนวคิดในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในของเอไอเอส แต่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการส่งต่อสู่สังคมไทย นี่จึงเป็นที่มาของโครงการภารกิจคิดเผื่อ ที่ต้องการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน โดยนำจุดแข็งของแต่ละองค์กรมาร่วมผลักดันให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน” กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และกลุ่มอินทัช กล่าว


จุดไฟ 4 แกน ลดความเหลื่อมล้ำ

สำหรับแนวทางการทำงานของ AIS Academy ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับ SDGs เป้าหมายที่ 10  คือ การลดความไม่เสมอภาคภายในและระหว่างประเทศ (Reduce Inequalities) รวมถึง ข้อ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ ข้อ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ จนเกิดเป็นแนวทางการทำงาน 4 แกน ดังนี้

  • โครงการ Jump Thailand Hackathon 2024 : เพื่อเฟ้นหาไอเดียนวัตกรรมจากนักศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนพิการและผู้สูงอายุ
  • โครงการ Train The Trainer : สร้างทักษะยกระดับการพัฒนาอาชีพผ่าน จากโค้ชอุ่นใจอาสา ให้แก่เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เพื่อส่งต่อไปยังประชาชนในการพัฒนาอาชีพต่อไป
  • สร้างความรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็งจาก Digital Content ในรูปแบบของบทเรียน โดยพนักงานอุ่นใจอาสา
  • AIS ReadDi : สร้างโอกาสเข้าถึงความรู้อย่างยั่งยืน ผ่านโครงการห้องสมุดดิจิทัล ปันความรู้ ด้วยแพลตฟอร์ม พร้อมมอบแท็บเล็ตเพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ผ่านโลก Digital อีกด้วย

“การมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแรงไม่ได้สร้างการเติบโตให้กับภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาส และลดช่องว่างในการแสดงศักยภาพเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสต่าง ๆ รวมทั้งการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน หรือ Digital Inclusion อีกด้วยกานติมา กล่าว


ต้องเปิดกว้างและทำอย่างต่อเนื่อง

กานติมา ย้ำว่า จุดสำคัญที่ทำให้ภารกิจคิดเผื่อสามารถสร้างประโยชน์ให้คนไทยกว่า 7 แสนคน เป็นผลจาก การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ เปิดกว้างกับทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตลอดระยะเวลาที่ได้ทำงานร่วมกันกับกระทรวง พม. ตั้งแต่ปี 2564 ทำให้ AIS Academy ได้เข้าถึงปัญหาและกลุ่มเป้าหมาย ผสานกับศักยภาพของพนักงานและองค์กรในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม จนพัฒนาเป็นโซลูชั่นเพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม ยกระดับขีดความสามารถประชาชนได้อย่างตรงจุด

“ภารกิจคิดเผื่อเปรียบเสมือนไม้ขีดไฟเล็ก ๆ ที่จุดประกายความคิดให้เกิดเป็นกองไฟแห่งการทำงานจากทุกภาคส่วน และโครงการนี้จะเป็นต้นแบบสำคัญของความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ที่สะท้อนให้เห็นถึงการหนุนเสริมการทำงานระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่เสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างยั่งยืน” กานติมา ทิ้งท้าย

]]>
1471409
อยากอัพสกิลไม่ต้องไปไกล! ‘AIS Academy’ ยกหลักสูตรจาก ‘แคนาดา’ ลงแพลตฟอร์ม ‘LearnDi’ ให้คนไทยได้เรียน https://positioningmag.com/1424392 Fri, 31 Mar 2023 13:00:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1424392

อย่างที่หลายคนรู้กันว่า แคนาดา เป็นประเทศที่มีระดับคุณภาพการศึกษาที่สูง มาตรฐานการศึกษานั้นถือเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยเยาวชนของแคนาดาได้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Program for International Student Assessment) หรือ PISA และ เอไอเอส (AIS) ก็ได้ผนึกสถานทูตแคนาดา และสมาคมวิทยาลัยและสถาบันประเทศแคนาดา (CICan) ในการนำหลักสูตรการเรียนการสอนมาให้คนไทยได้เรียนหลักสูตรแคนาดาผ่านแพลตฟอร์ม LearnDi

เพื่อยกระดับทักษะการเรียนรู้ให้กับคนไทน เอไอเอสจึงได้ต่อยอด AIS Academy สู่แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ ชื่อ LearnDi ที่ เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาเรียนรู้ เพื่อยกระดับทักษะของตัวเอง โดยมีทั้งหลักสูตร Hard Skill และ Soft Skill ให้ได้เรียนรู้ โดยปัจจุบันได้เปิดมานานกว่า 5 ปีแล้ว

ล่าสุด เอไอเอสก็ร่วมมือกับ สถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และ สมาคมวิทยาลัยและสถาบันประเทศแคนาดา หรือ Colleges and Institutes Canada (CICan) ในการนำหลักสูตรการเรียนรู้จากสถาบันชั้นนำของประเทศแคนาดา อาทิ Southern Alberta Institute of Technology (SAIT), McGill University, Athabasca University, Dalhousie University และ Humber College มาใส่ไว้ในแพลตฟอร์ม LearnDi โดยที่ไม่ต้องไปไกลถึงแคนาดา

สำหรับหลักสูตรจะมีทั้งสำหรับใช้พัฒนาอาชีพและประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง อาทิ แนวทางและการรับรองด้านการบริหารโครงการแบบ Agile (Agile Project Management Practice & Certification online), การบัญชีและการเงินสำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานด้านบัญชี (Accounting and Finance for Non- Accountants), การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Communicating effectively), การจัดการความขัดแย้ง (Conflict Management) เป็นต้น ความน่าสนใจคือ ในบางหลักสูตรนั้นมี Certificate จากสถาบัน ซึ่งจะสามารถนับเป็น หน่วยกิต เพื่อนำไปเรียนต่อที่สถาบันนั้น ๆ ของแคนาดาได้ในอนาคตได้อีกด้วย

“หลักสูตรที่นำมาใช้สอนจะเป็นประโยชน์ต่อเอไอเอสและคนไทย เพราะเป็นหลักสูตรที่ทางแคนาดาใช้สอนจริงไม่ว่าจะเป็นนักเรียน คนทำงาน และเจ้าของกิจการ” นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ กลุ่มอินทัช กล่าว

สำหรับความร่วมมือกับรัฐบาลแคนาดาในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือในระดับมหภาค ดังนั้น เอไอเอส ต้องการให้ทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ดังกล่าวได้ในราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน, พาร์ทเนอร์ของเอไอเอส รวมไปถึงประชาชนทั่วไป และในอนาคตเอไอเอสจะยกบางส่วนของมหาวิทยาลัยแคนาดามาเปิดสอนใน AIS Academy เพื่อให้นักเรียนไทยที่สนใจเรียนต่อที่แคนาดา สามารถเรียนออนไลน์เพื่อเก็บหน่วยกิตได้ เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่าย

“ความตั้งใจของ AIS Academy ไม่ได้เปลี่ยนไป คือทำให้การศึกษาไร้พรมแดนเกิดขึ้นจริงผ่านแพลตฟอร์ม LearnDi เพื่อลดช่องว่างของโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา เพราะประเทศไทยไม่ใช่แค่กรุงเทพ”

นายซันจีฟ เชาเดอรีย์, ทูตพาณิชย์, สถานเอกอัครราชทูตแคนาดา เสริมว่า ประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก และมาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ดังนั้น การทำงานร่วมกับ AIS Academy จะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่สิ่งยิ่งใหญ่ในอนาคต เพราะจะช่วยทำให้คนไทยได้เข้าถึงรูปแบบการเรียนการสอนของแคนาดา สามารถนำไปต่อยอดในวิชาชีพการทำงาน และยังเสริมทักษะใหม่ ๆ ให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถนับเป็นหน่วยกิตเพื่อนำไปเรียนต่อที่สถาบันนั้น ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

นางสาวเดนิส แอมโยท, ประธาน Colleges and Institutes Canada (CICan) กล่าวว่า CICan นั้นทำงานร่วมกับหลายองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น การร่วมมือกับ AIS Academy นับเป็นโอกาสอันดี เพราะเอไอเอสมีแพลตฟอร์มที่จะกระจายองค์ความรู้ที่เหมาะกับความต้องการของคนไทย

กานติมา ทิ้งท้ายว่า ในโลกยุคหลังโควิดจะเห็นว่าหลายคนต้องการอัพสกิล-รีสกิล โดยเฉพาะการเพิ่มทักษะเกี่ยวกับการทำงานใหม่ ๆ เช่น การใช้ประโยชน์จากข้อมูล, การสร้างความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม เอไอเอสมีหน้าที่ทำให้คนเข้าถึงหลักสูตรได้มากที่สุด แต่การจะมาเรียนรู้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ดังนั้น เอไอเอสไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะในด้านจำนวนผู้ใช้ แต่อยากจะเป็นอีกช่องทางให้คนที่อยากพัฒนาตัวเองได้เข้าถึง

“เป้าหมายของ AIS Academy นั้นไม่เคยเปลี่ยน เราต้องการจะขยายโอกาสให้คนทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้เรียนรู้ เพราะเรามองว่าประเทศจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้ศักยภาพของคนเป็นเรื่องสำคัญ และเราเชื่อว่าบริษัทเราจะเจริญก้าวหน้าได้สังคมต้องเติบโตให้เร็วกว่าเอไอเอส”

สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://learndi.aisacademy.com/

]]>
1424392
เปิดมุมมอง “4 ผู้บริหารหญิง AIS” ความท้าทายของ Women In Tech กับภารกิจ Digital Literacy https://positioningmag.com/1376662 Tue, 08 Mar 2022 09:00:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1376662

ต้อนรับวันสตรีสากล International Women’s ตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี พาไปพูดคุยกับ 4 ผู้บริหารหญิงแกร่งแห่ง AIS ภายใต้ความท้าทายแบบ Women In Tech ที่หลายคนมองว่าผู้ชายต้องคู่กับบริษัทเทคโนโลยีมากกว่า และการที่ผู้หญิงในระดับผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยี มีมุมมองอย่างไรในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล เพื่อภารกิจ Digital Literacy ขับเคลื่อนประเทศด้วยดิจิทัล

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าพลังของผู้หญิง หรือ Women Empowerment ไม่ใช่แค่กระแสแบบผิวๆ ที่มาให้อินเทรนด์แค่ชั่วครู่ แต่ได้กลายเป็นแรงกระเพื้อมไปทั่วโลก เห็นได้จากการที่ผู้หญิงเริ่มมีบทบาทผู้นำมากขึ้นทั้งในภาคธุรกิจ หัวหน้างาน หรือผู้บริหารระดับสูง รวมไปถึงระดับประเทศที่ผู้นำผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในเวทีระดับโลก

ไม่ว่าจะองค์กรข้ามชาติ หรือองค์กรไทยก็เริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากขึ้น เพราะหมายถึง “ความเท่าเทียม” กันด้วย ทุกเพศล้วนมีความสามารถให้การแสดงศักยภาพได้เต็มที่ เราจึงได้เห็นบทบาทของผู้หญิงในยุคปัจจุบันในระดับที่เป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดทิศทาง และขับเคลื่อนองค์กรเลยทีเดียว

ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่น่าสนใจก็คือ “เทคโนโลยี” ด้วยภาพลักษณ์ที่ทำให้ใครหลายคนนึกถึงว่าเป็นงานสำหรับผู้ชาย แม้ที่ผ่านมาในอดีตสายงานนี้อาจจะมีบทบาทของผู้หญิงไม่มาก แต่ปัจจุบันผู้หญิงเก่งในองค์กรด้านเทคโนโลยีมีจำนวนที่มากขึ้นเป็นลำดับ พร้อมแสดงความสามารถได้อย่างโดดเด่นทัดเทียมกับผู้ชาย ตอกย้ำว่าข้อจำกัดจากเพศสภาพที่เคยเป็นกรอบจำกัดบทบาทการทำงานของผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว และทุกคน ทุกเพศสามารถแสดงความสามารถได้อย่างเท่าเทียม

AIS เป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 14,000 คน เป็นบริษัทที่รวมคนในสายงานเทคโนโลยีอย่าง Engineering, IT, Programmer, Data Scientist, ฯลฯ ตลอดจนสาย Non-tech ไว้มากมาย โดยภาพรวมวันนี้มีพนักงาน และผู้บริหารหญิงสัดส่วนเกินครึ่ง และสำหรับสายงานเทคโนโลยี ก็มีปริมาณพนักงานหญิง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่า AIS เป็นองค์กรเน้นที่ความสามารถเป็นหลัก โดยไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเป็นปัจจัย

เนื่องจากในวันสตรีสากล จึงขอพาไปเปิดมุมมองหญิงแกร่ง 4 ผู้บริหารในสายหลักขององค์กร ได้แก่ พี่เจี๊ยบ “กานติมา เลอเลิศยุติธรรม” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล AIS และกลุ่มอินทัช, พี่อ๊อบ “นัฐิยา พัวพงศกร” หัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และกำกับดูแลการปฏิบัติงาน AIS, พี่เอื้อง “สายชล ทรัพย์มากอุดม” หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ AIS และ พี่เจี้ยม “รุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์” รักษาการ กรรมการผู้จัดการ พันธมิตรธุรกิจด้านบันเทิงและคอนเทนต์ AIS


“กานติมา” ผู้ทรานส์ฟอร์มองค์กร

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หรือพี่เจี๊ยบ ดูแลสายงานด้านทรัพยากรบุคคล และการ Transform Skill ของพนักงาน เพื่อให้สามารถรับมือ Digital Disruption บุคคลสำคัญในการก่อตั้ง AIS Academy สถาบันเพื่อพัฒนาบุคลากรของ AIS และเป็นภารกิจคิดเผื่อสำหรับบุคคลทั่วไปในยุคดิจิทัล

พี่เจี๊ยบเป็นหัวหอกสำคัญในการดูแลพนักงานกว่า 14,000 คน หน้าที่หลักคือ การทรานส์ฟอร์มองค์กร ทั้งวัฒนธรรม องค์ความรู้ และศักยภาพของพนักงาน ที่ AIS จะยอมรับความแตกต่างทั้งประวัติการศึกษา โลกดิจิทัลที่เข้ามาทำให้การแบ่งผู้ชายผู้หญิงเริ่มหายไป แต่ทุกคนต้องมีกรอบความคิด ไม่นั่งรอโอกาส ต้องวาดโอกาสของตัวเอง ภายใต้ศักยภาพที่เหมาะสม

 “ที่ AIS เรายึดในความเท่าเทียมของการทำงาน และวัดคนที่ความสามารถเป็นหลัก โดยเฉพาะ Tech Company อย่าง AIS วันนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใด ไม่ได้เป็นตัวจำกัดความสามารถและโอกาสที่คุณจะได้รับ เรามีจำนวนผู้บริหารหญิงซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อันเป็นหัวใจสำคัญและก้าวขึ้นมามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายหรือแม้แต่การดำเนินภารกิจตามเป้าหมายหลักขององค์กร ที่ต้องการสร้างความแข็งแรงด้านดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างสังคมแห่งการแข่งขันที่เป็นธรรม ผ่านนวัตกรรมและดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ๆ จนได้รับการยอมรับจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร แต่หัวใจสำคัญที่สุดไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใด เมื่อได้รับโอกาส คุณมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง และแสดงศักยภาพอย่างไม่มีขีดจำกัด นั่นจึงเรียกว่าความเท่าเทียมภายในองค์กร”

พี่เจี๊ยบย้ำเสมอว่า ผู้หญิงเองก็ต้องหลุดจากกรอบความคิดเดิมๆ ผู้หญิงต้องไม่อ่อนแอจนคนอื่นต้องเข้ามาช่วย หรือกรอบความคิดที่ว่างานยกของหนักให้ผู้ชายทำอย่างเดียว แต่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าตัวเองมีศักยภาพอะไร ความสามารถเท่านั้นจะทำให้เกิดความเท่าเทียม

“ผู้หญิงสำหรับพี่ประกอบด้วย 3 คำ ธรรมชาติ เหมาะสม และพอดี ทำให้เราเคลื่อนตัว และอยู่ในโลกอย่างน่ารัก อย่าหยุดกรอบความคิดตัวเอง ต้องแสดงให้เห็นว่าเรามีความสามารถเพียงใด ผู้หญิงต้องเริ่มจากมองตัวเองว่ามีอะไรที่ขาด โอกาสอะไรที่จำกัดตัวเอง วันนั้นทำให้ตัวเองเข้มแข็งเพราะเรามีความสามารถ”


“นัฐิยา” ผลักดันด้านความยั่งยืน

นัฐิยา พัวพงศกร หรือพี่อ๊อบ ดูแลงานด้านกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการสื่อสารกับนักลงทุนในด้านทิศทางธุรกิจ และภาพรวมการดำเนินงานขององค์กร

พี่อ๊อบเล่าว่า ในฐานะที่ทำงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ รวมถึงนโยบายภาพรวมด้านความยั่งยืน ต้องทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายใน และภายนอกองค์กร ทำให้ต้องบริหารความเข้าใจของทุกฝ่าย เพื่อสร้างสมดุลระหว่างคนทำงาน และทิศทางของบริษัท

ในยุคนี้เป้าหมายที่สำคัญก็คือ ด้านความยั่งยืน ทั้งในด้านการพัฒนานวัตกรรม และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมไปถึงการสนับสนุนให้สังคมเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม และการยืดหยัดเพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อม สิ่งที่ AIS ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยนั้น ได้สนับสนุนความแตกต่างที่หลากหลาย โดยไม่จำกัดเพศ แต่ต้องมีวิธีคิดที่ต่างจากเดิม มีระบบสรรหาคน และโปรโมทคนที่ชัดเจน ดูที่ความสามารถเป็นหลัก

“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน ไม่ได้ดูเรื่องผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการความมั่นใจว่าลงทุนกับบริษัทที่มีแนวคิดที่สร้างความยั่งยืนด้วย ไม่ได้คิดแค่การเติบโตแค่บริษัท แต่ต้องเติบโตทั้งบริบทสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้บริหารได้เปิดโอกาสให้ทำด้านนี้ ไม่จำกัดเรื่องเพศ การสร้างความยั่งยืนจะช่วยสร้างผลบวกให้สิ่งแวดล้อมได้ ทำให้เกิดนวัตกรรมในเชิงดิจิทัล พนักงานต้องเรียนรู้เรื่องดิจิทัลให้ดีขึ้น และทำอย่างไรให้ลูกค้ารับรู้เชิงดิจิทัลดีขึ้น และทุกคนต้องเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียม”


“สายชล” สร้างภาพลักษณ์ และทักษะดิจิทัลให้คนไทย

สายชล ทรัพย์มากอุดม หรือพี่เอื้อง PR สาวผู้ดูแลงานประชาสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์ให้องค์กร พร้อมกับบทบาทในการสร้างโอกาส ความเข้าใจ และทักษะด้านดิจิทัลให้กับคนไทย

พี่เอื้อง มองว่า ทัศนคติสำคัญมากกว่าเพศสภาพ แต่ละคนจะมีเพศใดๆ ที่สำคัญต้องมีทัศนคติที่ส่งต่อสิ่งที่จะทำ ทุกคนสามารถสร้างผลงานได้ ที่ AIS จะมีความหลากหลาย แต่เปิดโอกาสใหทุกคนแสดงออก เวลาในการทำงานจริงจะเริ่มตั้งแต่สิ่งที่เราคิด หารือกัน เปิดใจกัน หาทางออกร่วมกัน เพศไม่มีอุปสรรค ที่สำคัญคือทัศนคติ เพศไม่ได้เป็นกำแพงในการเติบโต

พี่เอื้องจะดูแลภาพลักษณ์องค์กร ภารกิจสำคัญก็คือ สร้างภาพลักษณ์องค์กรผ่านหลากหลายรูปแบบ ทั้งผ่านประชาสังคม ธุรกิจ พันธมิตร ลูกค้า และพนักงาน การสร้างภาพลักษณ์นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่ว่า การให้คนไทยเข้าถึงเทคโนดิจิทัล และเป็นการเข้าถึงอย่างรู้เท่าทัน ฉลาดในการใช้เทคโนโลยี

“บทบาทของผู้หญิงวันนี้ไม่ได้แตกต่างจากผู้ชายเพราะทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานในแบบฉบับของตัวเองได้ แต่ความท้าทายของการทำงานวันนี้คือเมื่อเรื่องเพศไม่มีผล เราจะทำอย่างไรให้ทุกคนสามารถเข้าถึงดิจิทัล และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้คนไทยมีทักษะด้านดิจิทัลที่ต้องรู้เท่าทันภัยไซเบอร์รูปแบบต่างๆ  ซึ่งถือเป็นการทำงานเชิงรุก เพื่อเชื่อมต่อภาคสังคม ชุมชน และประชาชน กับนโยบายของภาครัฐ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากพนักงานทุกเพศ ทุกวัย พร้อมผู้บริหาร ทุกท่าน ซึ่งแน่นอนว่า จะทำให้การสร้างทักษะด้าน Digital ให้แก่คนไทย สามารถขยายผลในวงกว้าง และสร้างทักษะ พร้อมภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน” 


“รุ่งทิพย์” ผู้อยู่เบื้องหลังดิจิทัล คอนเทนต์

ปิดท้ายที่ รุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ หรือพี่เจี้ยม ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงานด้าน Digital content และ Digital Service รวมถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ที่ส่งเสริมการเติบโตของ Digital Ecosystem เพื่อให้พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในยุคปัจจุบัน ใครจะนึกว่าผู้หญิงจะทำด้านอีสปอร์ต แต่พี่เจี้ยมไปพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผู้หญิงก็ทำได้

พี่เจี้ยมเป็นลูกหม้อของ AIS อยู่มา 23 ปี หลังจากจบการศึกษาก็เริ่มทำงานที่แรก! จากแผนกที่ดูเรื่องบัตรเติมเงินวัน ทู คอล ก็มาดูเรื่องสิทธิประโยชน์ของลูกค้า AIS จากนั้นก็เริ่มทำเรื่องธุรกิจใหม่ๆ จนบุกเบิกด้านอีสปอร์ต พี่เจี้ยมการันตีเลยว่า AIS ให้โอกาสกับพนักงานทุกเพศทุกวัย เปิดให้แสดงศักยภาพเต็มที่ ไม่ได้มองอายุงานเป็นหลัก แต่ดูที่ความสามารถ ที่สำคัญคือการเปิดโอกาสให้ทำอะไรใหม่ๆ นำพามาซึ่งการเติบโตเสมอ

“AIS เป็นองค์กรที่ให้โอกาสพนักงานทุกเพศ ทุกวัย ในการเรียนรู้ ทดลองทำเรื่องใหม่ๆ อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกแบบ Digital Service เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของ Ecosystem ในทุกอุตสาหกรรม อาทิ วงการกีฬา, เกม, และอีสปอร์ต ที่เป็นเทรนด์ซึ่งกำลังเติบโตและเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่  ซึ่งการผลักดันงานด้านนี้ ไม่เคยมีเรื่องเพศเข้ามาเป็นเงื่อนไข ตรงกันข้าม กลับได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่ง จนทำให้เชื่อมั่นว่าการส่งต่อ Digital Service ที่จะสร้างประโยชน์ ต่อยอดการเติบโตของทุกอุตสาหกรรม จะเป็นผลสำเร็จและเสริมความแข็งแกร่งของ Digital Economy ประเทศได้อย่างแน่นอน”


พลังหญิง กับภารกิจ Digital Literacy

ถึงแม้ว่าผู้บริหารหญิงทั้ง 4 ท่าน จะอยู่คนละแผนก คนละสายงาน แต่ภายใต้ AIS นั้น มีภารกิจเดียวกันก็คือ ส่งเสริมให้คนไทยเข้าใจ และมีทักษะในการนำดิจิทัลไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือที่เรียกกันว่า Digital Literacy เรียกว่าเป็นภารกิจทั้งภายใน และภายนอกองค์กรเลยทีเดียว

Digital Literacy ของ “พี่เจี๊ยบ” ที่ดูแลด้านบุคลากร ได้เริ่มจากสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กรก่อน ต้องมั่นใจได้ว่าพนักงานกว่า 14,000 คน ต้องมีองค์ความรู้ด้านดิจิทัล ได้จัดตั้ง AIS Academy สถาบันบ่มเพาะ และพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ตอนแรกได้เริ่มจากพนักงานภายในองค์กร และขยายโครงการสู่คนไทย เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ Digital Disruption รวมถึงสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ด้วย เรียกว่าเป็นการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยี

สำหรับ “พี่เจี้ยม” ที่อยู่ในสายงานด้าน New Digital Business ต้องคลุกคลีกับดิจิทัล คอนเทนต์มหาศาล Digital Literacy แบบฉบับของพี่เจี้ยมจึงเป็นการพัฒนาคอนเทนต์ และบริการต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงคนไทยได้มากที่สุด มีการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ การสร้าง Digital Content ทั้ง VDO, Game&Esports และอื่นๆ เข้าด้วยกัน

ผลงานล่าสุด คือ เปิดตัวความร่วมมือกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และบริษัท ไทยลีก จำกัด ในการเป็นผู้ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกผ่าน AIS PLAY ทำให้คนไทยได้เข้าถึงกีฬา ผ่านแพลตฟอร์มของ AIS ได้ง่ายๆ

ซึ่ง Digital Service จะเข้าไปสนับสนุน และสร้างโอกาสให้แก่ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรม ท้ายที่สุดจะส่งผลมาถึงเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศด้วยเช่นกัน

ภารกิจ Digital Literacy ของ “พี่อ๊อบ” นั้น ค่อนข้างไปในเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ Business Sustainability โดยมีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์ด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และการทำงานร่วมกับทุกส่วนงานใน AIS เพื่อร่วมผลักดันแนวคิด Business Sustainability เข้าสู่กระบวนการทำงานทั้งหมด พร้อมทำให้ AIS ในฐานะ Digital Life Service Provider สามารถนำ Digital Literacy ไปสู่การสร้างประโยชน์ให้แก่ stakeholder ทุกกลุ่มอย่างยั่งยืนอีกด้วย

ปิดท้ายที่ “พี่เอื้อง” หลายคนจะคิดว่างาน PR จะอยู่แค่สร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรอย่างเดียวเท่านั้น แต่ภารกิจของพี่เอื้องนั้นบียอนด์ขึ้นไปอีก นอกจากสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว ยังต้องส่งเสริมให้คนไทยเข้าใจ และมีทักษะในการนำดิจิทัลไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสในการยกระดับคุณภาพชีวิต รวมไปถึงเสริมภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ ที่จะช่วยให้รู้เท่าทันและใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างไม่ตกเป็นเหยื่อ พร้อมกับการสื่อสารเป้าหมายของ AIS ในการก้าวสู่องค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Telco เพื่อประโยชน์สูงสุดของ Stakeholder ทุกกลุ่ม

ต้องบอกว่ามุมมองของผู้บริหารทั้ง 4 ท่านนี้ ได้ส่งต่อแรงบันดาลใจต่อสตรีหลายท่านเลยทีเดียว ในฐานะ Women In Tech ซึ่งมีบทบาทต่อการขับเคลื่อน Digital Literacy ภายใต้เป้าหมายหลักขององค์กรที่ต้องการนำ Digital มายกระดับประเทศ

เชื่อว่าผู้หญิงมีศักยภาพไม่แพ้เพศใด ขอเพียงแต่แสดงความสามารถของตัวเอง และก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกแก่ตนเองและส่วนรวมต่อไป 

]]>
1376662
‘AIS Academy’ ภารกิจคิดเผื่อ เพื่อคนไทย พร้อมพาสังคม ‘Jump’ ข้ามวิกฤต เน้นย้ำเป้าหมายการทำงานร่วมกัน สอดประสาน รัฐ-เอกชน https://positioningmag.com/1357480 Thu, 21 Oct 2021 04:00:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1357480

ปฏิเสธไม่ได้ว่าจากการระบาดของ COVID-19 ได้เพิ่มความเหลื่อมล้ำของคน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือท้องถิ่นทุรกันดาร รวมถึงทุนทรัพย์ของแต่ละคน ‘เอไอเอส’ ในฐานะผู้นำธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ได้จัดทำโครงการ AIS ACADEMY for Thais ใน “ภารกิจคิดเผื่อ เพื่อคนไทย JUMP THAILAND” เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ผ่านการสร้างความร่วมมือจากพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน


ประกายไฟเล็ก ๆ จาก AIS Academy

ตลอดเวลา 6 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ AIS Academy ศูนย์กลางการเรียนรู้และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในของเอไอเอส ที่พัฒนาบุคลากรภายในองค์กรกว่า 13,000 คนไปแล้ว แต่ภาระหน้าที่ของคนเอไอเอสเองไม่ได้หมายถึงการเติบโตภายในองค์กร แต่ต้องส่งต่อสู่สังคมไทย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของ โครงการ ภารกิจคิดเผื่อ เพื่อคนไทย JUMP THAILAND

ภายใต้โครงการดังกล่าว AIS Academy มีเป้าหมายในการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและเอกชน โดยผสานจุดแข็งของแต่ละองค์กรในการผลักดันให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“เอไอเอสหวังเป็นเพียงไม้ขีดไฟอีกก้านหนึ่งในการจุดประกาย สร้างความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน รวมกันพัฒนาศักยภาพของคนไทย และสร้างสังคมที่แบ่งปัน สังคมแห่งการคิดเผื่อ และร่วมมือกัน” กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ INTOUCH กล่าว


3 Jump พาคนไทยก้าวข้ามวิกฤต

ไม่ใช่แค่การเป็นตัวกลางผสานความร่วมมทอกับภาคส่วนต่าง ๆ แต่ภารกิจ คิดเผื่อ JUMP THAILAND จะมุ่งเป้าไปที่ 3 แกนหลัก ได้แก่

Jump to innovation :  การนำนวัตกรรมมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นรูปธรรม โดยเอไอเอสเปิดรับไอเดียต่าง ๆ จากภายนอกเพื่อมาร่วมกับทีมงานของเอไอเอสในการพัฒนานวัตกรรม นอกจากนี้ ได้ผนึกกำลังกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จัดตั้ง ARI Innovation District โครงการย่านนวัตกรรมอารีย์ ให้เกิดเป็นต้นแบบระบบนิเวศนวัตกกรมอย่างยั่งยืน

Jump With EdTech : ยกระดับการเรียนรู้ให้กับเด็ก เยาวชน และครูในพื้นที่ห่างไกล ผ่านโครงการห้องสมุดดิจิทัล ห้องสมุดออนไลน์ และ THE TUTOR ที่รวมติวเตอร์มืออาชีพเข้ามาสร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษายุคใหม่ ช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ โดยได้ สถานทูตแคนนาดา เป็นพันธมิตรด้านหลักสูตรการศึกษา

Jump Over The Challenge : เป็นการเสริมทักษะและสร้างอาชีพให้กับคนไทย ผ่านทีมอุ่นใจอาสา เสริมสร้างทักษะเพื่อสร้างรายได้ และขยายผลการสร้างช่องทางขาย ด้วยการจับมือกับ ช้อปปี้ ประเทศไทย

“วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเป็นหลัก ดังนั้น แนวทางการหาพันธมิตรคือ เขาจะต้องมีแนวคิดเดียวกับเรา เพราะการทำงานร่วมกันนี้เราก็ต้องปรับแนวทางให้ไปทางเดียวกัน โดยมีจุดประสงค์คือ พัฒนาประเทศ สุดท้ายแล้วเมื่อสังคมเข้มแข็ง ก็จะกลับไปให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน”


ก้าวต่อไปของ JUMP THAILAND

ที่ผ่านมา การสร้างอาชีพเป็นสิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมได้ที่สุด โดยวัดจากฟีดแบ็กของผู้เข้าร่วมโครงการที่เกิดความเปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นว่าเอไอเอสสามารถช่วยให้เขาเดินต่อไปได้ สังคมก็เดินต่อไปได้ ดังนั้น ก้าวต่อไปของโครงการจะเป็นความต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปประธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ AIS Academy  มีการอัพเดทความรู้ตลอดเวลา ซึ่งส่วนนี้จะเป็นช่องทางสร้างความต่อเนื่องของโครงการ

ส่วนในเรื่องของการศึกษาจะเห็นจำนวนของโรงเรียนที่มีโอกาสในการเข้าถึงห้องสมุดดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเอไอเอสได้ร่วมมือกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งการทำงานของภาครัฐเป็นการเปิดประตูทำให้เข้าถึงผู้รับได้มากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้เกิดพันธมิตรได้อย่างมากมาย

“ความตั้งใจของชาวเอไอเอส คืออยากจะอยู่เคียงข้างประเทศไทยแล้วก็ช่วยกันอุ้มชูให้เราผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ เชื่อว่าน่าจะเป็นองค์ความรู้หรือว่าแรงบันดาลใจที่เราจะช่วยกันส่งเสริมการรับมือกับความท้าทายในสถานการณ์นี้แล้วก็กระโดดข้ามมันไปด้วยกัน”

]]>
1357480
รู้จักโครงการ ‘The Educator’ โดย ‘AIS Academy’ กับภารกิจนำเทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับ “ครู” สู่ยุค 2021 https://positioningmag.com/1344249 Thu, 29 Jul 2021 04:00:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1344249

การเรียนออนไลน์ (Learn Form Home) ในบ้านเราเริ่มเป็นที่รู้จัก และมีให้เห็นตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงระลอกแรกในปี 2020 แต่ถึงอย่างนั้นการเรียนในรูปแบบนี้ยังพบอุปสรรคอีกมากมาย โดยเฉพาะสื่อการสอนและวิธีการสอนของครูที่ยังปรับตัวไม่ทันกับเทคโนโลยี ส่งผลให้นักเรียนได้รับความรู้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ AIS Academy ลุกขึ้นมากระตุกสังคมโลกการศึกษาอีกครั้ง ให้หวนคิดและถึงเวลาที่ดิจิทัลเทคโนโลยีจะเข้าไปเปลี่ยนหน้าตา รูปแบบวิธีการสอน รวมถึงยกระดับครูไทย ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

ไม่ใช่ครูทุกคนที่พร้อมสอนออนไลน์

ดร. ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าคุณครูในแต่ละพื้นที่ของไทยมีความแตกต่างและหลากหลาย อย่างไรก็ตามในแต่ละพื้นที่ก็พยายามและความมุ่งมั่นที่จะจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์เพื่อทดแทนการสอนแบบปกติ ดังนั้น ครูจึงพยายามพัฒนาตนเอง พยายามปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดกับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะสกิลทางด้านดิจิทัลและภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็น 2 ทักษะที่คุณครูในปัจจุบันจำเป็นต้องเรียนรู้ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ จิตวิญญาณของความเป็นครูและหัวใจของการเรียนรู้ เพราะครูต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตการเป็นครูเพื่อพัฒนาตนเอง

“ยุคนี้คุณครูเองต้องทำงานหนักมาก เพราะบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องเทคโนโลยีมากนัก ดังนั้น จึงมีการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ครูก็พยายามปรับตัวเรียนรู้เพื่อที่จะสอนนักเรียน สิ่งสำคัญคือ หัวใจของการเรียนรู้”

ความยั่งยืนที่แท้จริงต้องมากกว่าแค่ในองค์กร

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอไอเอสเล็งเห็นเรื่องดิจิทัลทรานซ์ฟอร์มเมชั่นตั้งแต่ก่อนการระบาดของ COVID-19 เมื่อองค์กรได้ผ่านการทำดิจิทัลทรานซ์ฟอร์มเมชั่น มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงการทำงานและการเรียนการสอนภายในองค์กร แต่การทำเฉพาะภายในอาจเป็น ‘ความยั่งยืนที่ไม่ยั่งยืน’ เท่ากับการช่วยให้สังคมภายนอกเติบโตไปด้วยกันจึงเกิดเป็นโครงการ THE EDUCATORS THAILAND โดย AIS Academy

“ประโยชน์ของดิจิทัลจะทำให้การเรียนการสอนสามารถทำได้ทั่วถึงและครอบคลุมพื้นที่ที่ห่างไกลและโรงเรียนที่มีข้อจำกัดด้านจำนวนคุณครู ขณะที่ครูเองก็พยายามปรับตัว ดังนั้น ถ้ามีอาวุธช่วยครูก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศ เพื่อให้นักเรียนเข้าถึงการศึกษาได้อย่างทัดเทียม”

เจาะลึกโครงการ THE EDUCATORS THAILAND

สำหรับโครงการ THE EDUCATORS THAILAND เพื่อต่อยอดการศึกษาของไทย ด้วยการให้ความสำคัญกับคุณครู บุคลากรต้นน้ำ ผ่านความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนาหลักสูตรและต่อยอดทักษะการออกแบบสื่อการเรียนการสอนยุคใหม่ให้สอดรับกับการศึกษายุคดิจิทัลแบบครบวงจร ตั้งแต่ การวางโครงสร้างหลักสูตร เครื่องมือสื่อการสอน และการวัดประเมินผลผู้เรียน

โครงการดังกล่าวนั้นเปิดกว้างให้บุคลากรด้านการศึกษาจากภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น นักการศึกษา ครูผู้สอน บุคลากรด้านการศึกษาทุกสังกัด และนักศึกษาฝึกสอน สามารถเข้าร่วม Un Learn และ Re Learn ทักษะการสอน โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 คน

“เราเห็นว่าคุณครูกว่า 90% ที่เข้าร่วมโครงการของเรามีความพร้อมและความตั้งใจในการเรียนรู้อย่างมาก” ดร.สุพจน์ ศรีนุตพงษ์ หัวหน้าส่วนงานการจัดการความรู้ด้านเทคนิค AIS กล่าว

สำหรับเนื้อหาภาคทฤษฎีที่จะทำการสอนมีทั้งหมด 5 หลักสูตร ได้แก่

1. ภูมิทัศน์ของการเรียนในอนาคต องค์ประกอบของการเรียนออนไลน์ สื่อการสอนออนไลน์ ระบบ LMS และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียน

2. การวิเคราะห์เนื้อหา และวิธีการเรียนออนไลน์

3. กลยุทธ์การสอนออนไลน์ การสอนแบบผู้เรียนอิสระ การสอนโดยใช้กิจกรรมกลุ่ม การออกแบบการสอน

4. การผลิตวิดีโอออนไลน์ สำหรับการศึกษา

5. การวัดประเมินผลออนไลน์ การวัดความรู้ การวัดทักษะ การวัดทัศนคติ

ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวถูกออกแบบและพัฒนาโดย AIS Academy ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยบุคลากรชั้นนำในวงการ โดยเป็นหลักสูตรเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมโครงการ THE EDUCATORS THAILAND เท่านั้น เมื่อผู้เรียนผ่านการอบรมหลักสูตรจะได้รับใบประกาศนียบัตร และ Digital Credential Badge ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองคุณวุฒิระดับสากล

นอกจากนี้ยังมีเวิร์คช้อปการผลิตนวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เตรียมความพร้อมในการผลิตผลงานในการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ พระราชทาน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรม-ราชกุมารี โดยจะมีการประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประจำปี 2564 ในวันที่ 15 ธ.ค.

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ Intouch, กรรมการ บริษัท เลิร์นดิ จำกัด กล่าวว่า ทาง AIS Academy ยังมีภารกิจในการนำองคูความรู้ต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้กับอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคสังคม เพราะเชื่อว่าเป็นการช่วยยกระดับอีโคซิสเต็มส์ให้เติบโตไปด้วยกันในทุกด้านด้วยเทคโนโลยี ดังนั้น เอไอเอสอยากจะเป็นตัวช่วยในการจุดประกายให้ภาคเอกชนต่าง ๆ นำจุดแข็งมาช่วยให้ประเทศสามารถฟื้นฟูจาก COVID-19 และมีความสามารถในการแข่งขันได้

“ระหว่างทางที่เราพัฒนาเราอยากเห็นการยกระดับขีดความสามารถและ Mindset แม้โครงการจะจบในช่วงสิ้นปี แต่เชื่อว่าคนที่เข้าโครงการจะนำประสบการณ์ไปส่งต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเรื่องการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญ และเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยลดความเหลื่อมล้ำ”

 

]]>
1344249
สรุปทุกเรื่องต้องรู้ AIS ACADEMY for THAIs : JUMP THAILAND กระโดดสู่วิถีชีวิตใหม่ไปด้วยกัน https://positioningmag.com/1299879 Mon, 19 Oct 2020 10:00:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1299879

ว่ากันว่า การให้ที่สำคัญที่สุด คือการให้องค์ความรู้ เพื่อนำองค์ความรู้ต่างๆ นั้นไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ยิ่งให้ ก็ยิ่งได้ ยิ่งทำให้ทุกฝ่ายเจริญเติบโตไปด้วยกัน ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของจุดเริ่มต้นการเดินทางของ AIS ACADEMY for THAIs ภารกิจคิดเผื่อ เพื่อให้คนได้ได้เรียนรู้ และเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน


5 ปี ของภารกิจคิดเผื่อ

ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นนั้น AIS ได้เริ่มโครงการ AIS ACADEMY มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว มีจุดประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ และพัฒนาบุคคลากรในองค์กร ก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ ได้นำองค์ความรู้ต่างๆ จากต่างประเทศมาถ่ายทอด รวมทั้ง มีการปรับเพิ่มเรื่อง Digital Platform เป็นแหล่งความรู้ให้พนักงานสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา

จากนั้น AIS ACADEMY ได้ขยับบทบาทในฐานะภาคเอกชนและการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมไทย เปิดเป็นโครงการ AIS ACADEMY for THAIs เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการเรียนรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ จากทั้งภายในและนอกประเทศ พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชนในการผลักดันองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีแห่งอนาคตให้กับคนไทย

AIS ACADEMY for THAIs จึงกลายเป็นภารกิจสำคัญของ AIS ที่คิดเผื่อเพื่อคนไทยทุกคน เพราะเชื่อว่าการเติบโตแต่เพียงผู้เดียว มิใช่การเติบโตอย่างแท้จริง แต่การทำให้สังคมไทยเข้มแข็งและแข็งแรงขึ้น เป็นการเติบโตอย่างยั่งยืน

นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล เอไอเอส และ กลุ่มอินทัช บอกว่า

“จุดเริ่มต้นของ AIS ACADEMY เริ่มจากภายในองค์กรก่อน ตอนนั้นเริ่มเห็นเทรนด์เรื่อง Digital Disruption เห็นองค์ความรู้จากต่างประเทศ ก็นำความรู้มาถ่ายทอดให้คนในองค์กร จากนั้นก็เริ่มมองว่าให้เอาความรู้ไปสู่คนข้างนอก ก็จุดประกายความคิดเชิญพาร์ทเนอร์เอกชนมาช่วยกันตามความถนัดของแต่ละคน จัดครั้งแรกมีที่นั่ง 4,000คน ไม่มีเก็บค่าใช้จ่าย อยากให้คนไทยได้รับประโยชน์จริงๆ แล้วขยายไปตามภูมิภาค จนวันนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ด้วยคอนเซ็ปต์ JUMP THAILAND ให้คนไทยกระโดดฝ่าวิกฤตไปพร้อมกัน”

AIS ACADEMY for THAIs ภารกิจคิดเผื่อแก่คนทั่วไปได้เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2561 ที่เมืองทองธานี ประเด็นหลักคือเรื่อง Digital Disruption ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก็จัดเป็นครั้งที่ 2 ในคอนเซ็ปต์ Intelligent Nation Series

จากนั้น AIS ACADEMY for THAIs ก็เริ่มขยายสู่ระดับภูมิภาค เพราะ AIS เชื่อว่า ประเทศไทย มิใช่แค่กรุงเทพฯ จึงมุ่งสู่ภูมิภาคโดย เริ่มครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2562 จังหวัดขอนแก่นในเดือนสิงหาคม 2562

ล่าสุดที่เพิ่งจบไปสดๆ ร้อนๆ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 กับ AIS ACADEMY for THAIs: JUMP THAILAND ที่เมืองทองธานี


ไม่ใช่แค่ก้าว แต่ต้องกระโดด

AIS ACADEMY for THAIs ครั้งล่าสุด จัดขึ้นในคอนเซ็ปต์ของ JUMP THAILAND ในโอกาส ครบรอบ 30 ปี AIS และตอกย้ำเจตนารมย์ในการอยู่เคียงข้างสังคมไทยมาตลอด 30 ปี

ยิ่งเกิดวิกฤต COVID-19 ขึ้นในประเทศไทย ยิ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งเรื่องการงาน และค่าครองชีพ ในครั้งนี้ AIS จึงชวนพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศ ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่เจาะประเด็นนวัตกรรม, ทักษะอาชีพ และการพัฒนาตนเอง เพื่อพาคนไทยกระโดดข้ามวิกฤต สู่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ผ่าน 3 โครงการ

1.JUMP to Innovation กระโดดสู่ความเหนือกว่าด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของประเทศ

2.JUMP over the Challenge กระโดดข้ามความท้าทาย สู่เส้นทางอาชีพใหม่ที่สร้างได้เอง

3.JUMP with EdTech กระโดดสู่การยกระดับการพัฒนาตนเอง ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลในวันที่ต้องรีสกิล

กานติมา บอกว่า “ภารกิจคิดเผื่อเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว ได้ผนึกเอาความรู้มาปรับให้เข้ากับเทคโนโลยี ตอนนี้ COVID-19 ทำให้บริบทเปลี่ยนไป จึงอยากเพิ่มศักยภาพให้คนไทยผ่าน 3 แกนหลัก ทำให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัย เพราวันนี้แค่เดินอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องกระโดดไปด้วยกัน”


JUMP to Innovation นวัตกรรมเปลี่ยนโลก

มาที่แกนแรกในเรื่องของนวัตกรรม AIS เป็นองค์กรที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอยู่แล้ว แต่ JUMP to Innovation ในครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้คนที่มีไอเดียในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ แล้ว AIS จะสานฝันนวัตกรรมนั้นให้ใช้งานได้จริงผ่าน โครงการ JUMP Thailand

ที่ผ่านมา AIS จึงได้พัฒนาโครงการต่างๆ เช่น School Van Safety ที่ช่วยแก้ปัญหาเด็กถูกลืมในรถโรงเรียน, Forest Fire Detection ที่ช่วยตรวจจับไฟป่าด้วยเทคโนโลยี IoT Satellite และ AI Juandice Monitor ที่นำเทคโนโลยี AI มาช่วยตรวจอาการตาเหลือง ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของโรคมะเร็งตับ ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง อันดับหนึ่งของเมืองไทย

ในปี 2018 โครงการ AIS InnoJump Competition จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการส่งไอเดียร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม และในปี 2021 นี้ AIS จะก้าวไปข้างหน้ากับภารกิจเฟ้นหา สุดยอดทีมจากทั่วประเทศภายใต้โครงการ JUMP Thailand 2021 เพื่อชวนคนไทยมาร่วมแรงคิดสร้างนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาสำคัญต่างๆ ของประเทศ ด้วยนวัตกรรม ให้ก้าวทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืนในรูปแบบการแข่งขันระดมสมอง นำเสนอผลงานในรูปแบบ Hackathon และการบ่มเพาะนวัตกรรม

อราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม เอไอเอส

“ตอนนี้ในส่วนของนวัตกรรมเรามีเกือบๆ 200 โครงการ ตั้งแต่มีแค่ไอเดีย ไปจนถึงระดับทดลองใช้งาน AIS มองว่าหลายคนมีไอเดียเยอะ เราต้องการลดช่องว่างนั้นด้วยการเป็นองค์กรที่เข้าไปช่วยสนับสนุนเพื่อให้นำนวัตกรรมนั้นใช้ได้จริงจัง”

ผู้สนใจโครงการ JUMP Thailand สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และร่วมส่งหัวข้อปัญหาที่คุณคิดว่าควรเร่งแก้ไขที่สุดได้ที่ http://www.jumpthailand.earth

 

JUMP over the Challenge สร้างความรู้สู่อาชีพ

หลังจากเกิดวิกฤต COVID-19 สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไทยคือ ความกังวลเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ ตกงาน ไม่มีรายได้ ภารกิจคิดเผื่อในครั้งนี้จึงมองเห็นความสำคัญของการ “สร้างอาชีพ” เพื่อให้ทุกคนมีรายได้ มีกำลังในการเดินหน้าต่อ

จึงเกิดเป็นโครงการ อุ่นใจอาสาพัฒนาอาชีพ ต่อยอดจากโครงการอุ่นใจอาสา ที่รวมพลพนักงาน เอไอเอสที่มีทักษะความรู้หลากหลาย มาร่วมถ่ายทอดทักษะวิชาชีพไปยังบุคคลภายนอก ขยายช่องทางการเข้าถึงองค์ความรู้ เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้และเข้าถึงฟรี ด้วยการร่วมสร้างโอกาสให้คนไทย ได้มีอาชีพเสริม สร้างรายได้

กานติมา บอกว่า “แต่เดิมอุ่นใจอาสาทำเรื่อง อาทิ สร้างห้องสมุด สร้างห้องน้ำ แต่เราก็มาคิดว่าตอนนี้คนไทยอยากได้อะไรมากที่สุด คำตอบก็คือ อาชีพนั่นเอง จึงเอาทักษะต่างๆ ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้มาจุดประกายให้สังคม พร้อมมีตลาดรองรับให้ด้วย”

ตอนนี้อุ่นใจอาสาพัฒนาอาชีพมีทั้งหมด 31 หลักสูตรหลากหลายแนวทาง ครอบคลุมทั้งเรื่องทำขนมเทียนหอมสบู่เกษตรกรรม และอื่นๆ มีการเตรียมตลาดรองรับให้ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ช่วยเหลือคนจริงๆ

ผู้สนใจโครงการ “อุ่นใจอาสาพัฒนาอาชีพ” สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่านทาง Facebook Page: AIS Academy for Thais หรือ YouTube Channel: AIS Academy

JUMP with EdTech ลดช่องว่างด้านการศึกษา

AIS ได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง มองว่าบริษัทจะเติบโตได้ ประเทศก็ต้องเติบโตด้วย ซึ่งการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนประเทศ ยิ่งการมาของ 5G จะยิ่งช่วยส่งเสริมการศึกษาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราเทคโนโลยีจะช่วยทำให้คนไทยมีความรู้มากขึ้น ลดช่องว่างให้แคบลง ส่งต่อความรู้ไปได้ทุกที่ทั่วประเทศ

ที่ผ่านมา AIS ได้พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ “LearnDi for Thais” เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ที่สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) โดยผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ทั้งจากภายในและต่างประเทศ มาช่วยยกระดับศักยภาพของผู้คน องค์กร สังคม และประเทศชาติ

นอกจากนี้ AIS Academy ยังเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับการเรียนรู้ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ จึงเปิดโครงการ “The Tutor Thailand by AIS Academy” เชิญชวนผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในหลากหลายสาขา มาร่วมกันยกระดับการเรียนรู้ของเยาวชนไทย ผ่านกิจกรรม The Tutor Boot Camp ที่จะพัฒนาทักษะให้เหล่าติวเตอร์ให้ถ่ายทอดสู่เยาวชนได้

สำหรับผู้สนใจโครงการ “The Tutor Thailand”สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครเข้าร่วมโครงการได้ทาง http://www.aisacademy.com 

เรียกได้ว่า AIS Academy for Thais: JUMP THAILAND ในการฉลอง 30 ปี AIS มีความยิ่งใหญ่ และไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะได้คิดเผื่อถึงคนไทยทุกคนให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปอย่างภาคภูมิ สุดท้ายแล้ว AIS ไม่ใช่แค่จะจับมือก้าวไปด้วยกัน แต่จะต้องกระโดดไปด้วยกัน ทุกคนถึงจะรอดปลอดภัย

 

 

]]>
1299879