audi – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 19 Jan 2021 08:12:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 วิกฤต ‘ชิป’ ขาดตลาดพ่นพิษ ‘ตลาดรถยนต์’ คาดแบรนด์ใหญ่สูญเสียการผลิต 100,000 คันในไตรมาสแรก https://positioningmag.com/1314931 Tue, 19 Jan 2021 06:53:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1314931 ‘ฟอร์ด (Ford)’ แบรนด์รถยนต์สัญชาติอเมริกันได้สั่งหยุดการผลิตรถยนต์ในโรงงานที่ตั้ง ณ ซาร์หลุยส์ เยอรมนีเป็นเวลาหนึ่งเดือน เนื่องจากขาดแคลนชิปที่จำเป็น ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19

ก่อนหน้านี้ ฟอร์ด ต้องปิดโรงงานผลิตรถ SUV ใน Louisville รัฐ Kentucky เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ล่าสุด ได้สั่งปิดการทำงานของโรงงานตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปและความต้องการรถที่ลดลง โดยโรงงานแห่งนี้มีพนักงานประมาณ 5,000 คน โดยรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Ford ในยุโรปคือ Ford Focus

“เรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและปรับตารางการผลิตเพื่อลดผลกระทบต่อพนักงาน ซัพพลายเออร์ ลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายทั่วยุโรป อย่างไรก็ตาม เรายังไม่มีแผนที่จะหยุดการผลิตในโรงงานอื่น ๆ ในยุโรปของเรา” โฆษกของฟอร์ดกล่าว

การปิดตัวลงของโรงงานฟอร์ดในเยอรมนีชี้ให้เห็นว่าปัญหาขาดแคลนชิปกำลังส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก อย่าง Volkswagen กล่าวในแถลงการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า จะต้องปรับการผลิตที่โรงงานในจีน, อเมริกาเหนือ และยุโรปในไตรมาสนี้ และ Audi ได้ปลดพนักงาน 10,000 คนเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิป โดยต้องเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับผลกระทบที่โรงงานในเยอรมนีและเม็กซิโก นอกจากนี้แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota, Nissan, Honda ต่างก็กำลังปรับการผลิตเพื่อตอบสนองต่อปัญหาการขาดแคลน รวมถึงแบรนด์อย่าง Hyundai ก็มีการปรับด้วย

การขาดแคลนชิปในช่วงนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ เนื่องจากบริษัทวิจัย Bernstein ประเมินว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 9% ในปี 2564 หลังจากที่คาดว่าจะลดลง 15% ในปีที่แล้ว แต่ปัญหาการขาดแคลนชิปทำให้การฟื้นตัวมีความเสี่ยง ตามที่นักวิเคราะห์ของ UBS ระบุว่าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกอาจสูญเสียการผลิต 100,000 คันในช่วง 3 เดือนแรกของปีหรือประมาณ 4% ของผลผลิตรายไตรมาสทั่วโลกอันเป็นผลมาจากการขาดแคลนส่วนประกอบ

ปัจจุบันรถ 1 คันจะต้องใช้ชิปประมาณ 50-150 ชิ้น เนื่องจากแอปพลิเคชันที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และการควบคุมการนำทาง

Source

]]>
1314931
ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่! Audi จ่อลดพนักงาน 9,500 คน หลังอุตฯ ยานยนต์ตกต่ำ https://positioningmag.com/1255125 Wed, 27 Nov 2019 15:57:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1255125 หลังบริษัทรถยนต์ค่ายใหญ่ทั้งหลายทยอยปลดพนักงานกันถ้วนหน้า ล่าสุด “Audi” ค่ายรถยนต์หรูสัญชาติเยอรมัน ภายใต้ชายคาของ Volkswagen ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ลดตำเเหน่งพนักงานถึง 9,500 คน ภายในปี 2025 ซึ่งคิดเป็นกว่า 10% พนักงานทั่วโลก โดยจะทำให้ประหยัดงบไปถึง 6 พันล้านยูโร ( เกือบ2เเสนล้านบาท) เพื่อนำไปพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเเละโครงการแห่งอนาคตเป็นหลัก

Audi ระบุว่า เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปจึงต้องมีการปรับลดพนักงานในส่วนที่ไม่จำเป็น โดยจะเพิ่มการจ้างงานในส่วนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2,000 อัตรา เพื่อทำให้องค์กรคล่องตัวขึ้น ตามเป้าหมาย “become lean and fit for the future” อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่าการลดจำนวนพนักงานครั้งนี้จะไม่มีการปลดออกกะทันหัน แต่จะเกิดขึ้นตามการหมุนเวียนของพนักงาน โดยจะมีทั้งการลาออกและการเกษียณก่อนกำหนด

เมื่อประหยัดงบได้กว่า 6 พันล้านยูโรเเล้ว การลงทุนในโครงการแห่งอนาคตที่จะให้ความสำคัญในอีก 10 ปีต่อจากนี้ก็คือ เทคโนโลยีดิจิทัลและรถยนต์ไฟฟ้า โดยปัจจุบัน Audi มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่น e-Tron ซึ่งใช้พนักงานในการประกอบน้อยกว่ารถยนต์พลังงานปกติที่มีหลายชิ้นส่วนมากกว่า

นอกจากนี้ยังจะไปลงทุนกับการปรับปรุงโรงงานที่เมือง Neckarsulm และ Ingolstadt ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่เพื่อผลิตรถยนต์รวมกัน 675,000 คันต่อปี

Volkswagen ยังเป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์หรูชื่อดัง เช่น Porsche, Bugatti, Skoda และ Lamborghini โดยได้ลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนารถแบบไฮบริดที่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ เเละมีแผนจะเปิดตัวโมเดลใหม่ 70 แบบภายในปี 2028

ค่ายรถยนต์ทั่วโลกต่างพยายามปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังชะลอตัว รวมไปถึงในจีนเเละยุโรป ซึ่งมีการกดดันจากนโยบายควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงต้องมีการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะถูกนำมาใช้เเทนรถยนต์เเบบเดิมที่ใช้น้ำมันเบนซินเเละดีเซล

เเต่การเปลี่ยนเเปลงนี้ ต้องใช้ทุนจำนวนมหาศาล ค่ายรถยนต์จำเป็นต้องหาพันธมิตร โดยเมื่อเดือนที่แล้ว Fiat Chrysler ได้ประกาศควบรวมกิจการกับ Groupe PSA ซึ่งมีรถเเบรนด์ดังอย่าง Peugeot อีกทั้ง BMW และ Daimler ก็ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับ รวมไปถึง Honda และ General Motors (GM) ก็ร่วมมือพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเช่นเดียวกัน

การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางยอดขายรถยนต์ตกต่ำ เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังชะลอตัวลงเเละมีเเนวโน้มจะเลวร้ายลงอีก โดย Fitch Ratings ประเมินว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะลดลงราว 3.1 ล้านคันในปีนี้ ซึ่งนับเป็นระดับที่ต่ำกว่าปี 2008 ที่ตอนนั้นโลกเผชิญกับวิกฤตทางการเงิน

 

ที่มา : CNN , theguardian

]]>
1255125
ดราม่าบังเกิด! ชาวจีนจวกยับ รถยนต์หรู “ออดี้” ทำโฆษณาเหยียดเพศหญิง (ชมคลิป) https://positioningmag.com/1134291 Thu, 27 Jul 2017 03:13:26 +0000 http://positioningmag.com/?p=1134291 แม่ของเจ้าบ่าวได้ขัดจังหวะพิธีเพื่อทำการสำรวจอวัยวะต่างๆ ของของว่าที่ลูกสะใภ้ราวกับเป็นปศุสัตว์ (ภาพจากโฆษณา)

กลุ่มสื่อจีนรายงาน วันศุกร์ (21 ..) เมื่อไม่นานมานี้ โฆษณารถมือสองชุดใหม่ของออดี้ค่ายรถยนต์หรูจากเยอรมนี ความยาว 34 วินาที ก่อให้เกิดกระแสเดือดดาลบนโลกโซเชียลจีน

รายงานระบุว่า โฆษณาดังกล่าวฉายภาพในพิธีแต่งงานของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ที่แม่ของเจ้าบ่าวได้ขัดจังหวะพิธีเพื่อทำการสำรวจอวัยวะต่างๆ ของของว่าที่ลูกสะใภ้ราวกับเป็นปศุสัตว์ พร้อมกับคำบรรยายว่า การตัดสินใจที่สำคัญจะต้องทำด้วยความระมัดระวัง พร้อมนำเสนอว่ารถมือสองของออดี้ได้รับการรับรองโดยช่างผู้ชำนาญการ

ชาวเน็ตจีนจำนวนมากพากันแสดงความไม่พอใจต่อชุดโฆษณาดังกล่าวบนโลกโซเชียล บ้างก็วิจารณ์ว่าโฆษณาชุดนี้มีเนื้อหาดูหมิ่นศักดิ์ศรีของผู้หญิง บ้างก็ถามว่า ออดี้มองว่าผู้หญิงเป็นเหมือนรถยนต์มือสองหรือไร

ล่าสุด ทางด้านออดี้ก็ได้ระงับการแผยแพร่โฆษณาชุดนี้ พร้อมทั้งออกแถลงการขอโทษ โดยระบุว่าบริษัทฯ จะใช้ความระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก


ที่มา : http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9600000074745

]]>
1134291
Audi ไทยในมือ “ล่ำซำ” https://positioningmag.com/1120282 Fri, 24 Mar 2017 06:39:16 +0000 http://positioningmag.com/?p=1120282 นับเป็นเปลี่ยนแปลงตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ออดี้ ค่ายรถยนต์หรูจากเยอรมนี ในประเทศไทย จากตระกูล ลีนุตพงษ์ แห่งค่ายยนตรกิจ มาเป็นบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ของ 2 พี่น้องตระกูล ล่ำซำ “อ๋อ-กฤษฎา ล่ำซำ และ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ

กฤษฎา ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ ออดี้ ไทยแลนด์ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก ออดี้ เอจี ประเทศเยอรมนี ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ ออดี้ ในประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว บัดนี้พร้อมเปิดตัวบริษัทฯ และโชว์รูมแห่งแรกอย่างเป็นทางการ

สำหรับแผนการดำเนินงานของออดี้ ไทยแลนด์ในปีแรกนี้จะใช้งบลงทุนประมาณ 1,400 ล้านบาท ครอบคลุมทุกส่วนทั้งในการบริหารงาน โชว์รูม รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและเครื่องมือต่างๆ เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ออดี้ทุกรายไม่ว่าจะซื้อมาจากที่ใดก็ตาม

“Audi Light House” สำนักงานใหญ่และโชว์รูมแห่งใหม่ บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม พื้นที่ใช้สอยกว่า 12,800 ตรม. มูลค่า 600 ล้านบาท

 “เรารับเซอร์วิสรถยนต์ออดี้ทุกคันโดยจะมีค่าแรกเข้าเริ่มต้นที่ 10,000 บาทและขยับขึ้นตามมูลค่าของรถที่นำเข้ามาเซอร์วิส ในส่วนของโชว์รูมแห่งใหม่และสำนักงานใหญ่นั้นจะลงทุนราว 600 ล้านบาท เป็นโชว์รูมที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้มากถึง 1,000 คนต่อเดือน เพียงพอสำหรับการดำเนินการช่วงแรก” กฤษฎากล่าว

สำหรับรถยนต์ออดี้ที่บริษัทฯ จำหน่ายทุกคัน จะเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปจากประเทศเยอรมนี โดยมีแผนการเปิดตัวจำนวนทั้งสิ้น 23 รุ่นในปีนี้ ล็อตแรกที่เปิดจำหน่ายได้แก่รุ่น เอ4, เอ5, เอ6, คิว2, คิว3, คิว5, คิว7, ทีที และอาร์8 หลังจากนี้จะมีการทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในงานมอเตอร์โชว์ที่จะถึงนี้ ออดี้จะเข้าไปจัดแสดงครบทุกโมเดล และจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าที่สั่งจองได้ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป

ออดี้ อาร์8 ราคาเปิดตัว 18,990,000 บาท

ปีแรกของการทำตลาดตั้งเป้าจำหน่ายไว้ที่ 600 คัน โดยรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนแผนต่อไปคือการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการ ซึ่งจะมีในกรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 6 แห่ง และต่างจังหวัด 4 แห่ง ครอบคลุมทั่วทุกภาคของไทยภายใน2 ปี และจะมีการเปิดรับดีลเลอร์เร็วๆ นี้

สำหรับสัดส่วนของการถือหุ้นนั้น กฤษฎา ล่ำซำ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 30% และน้องสาวคือ นวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง ถือ 10% ขณะที่หุ้นส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มเพื่อนที่ชักชวนกันมาลงทุนถือในสัดส่วนแต่ละคนประมาณ 5% ดังนั้นการเข้ามาดำเนินกิจการครั้งนี้จึงมั่นใจได้ในแง่ของเงินทุน

ทั้งนี้ในด้านของ เยอรมัน มอเตอร์เวิร์ค (ตระกูลลีนุตพงษ์) ตัวแทนจำหน่ายรายเดิมรถยนต์ออดี้ จะยุติการทำตลาดและสิ้นสุดสัญญาในสิ้นปีนี้ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อรถไปจะไม่ได้รับผลกระทบแต่ประการใด ทางออดี้ ไทยแลนด์ จะรับช่วงต่อในแง่ของการรับประกัน หากยังมีเหลืออยู่

การเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายรอบนี้ของออดี้ มาเป็นของตระกูลล่ำซำในรอบนี้ มีข้อได้เปรียบในเรื่องของการสร้างแบรนด์ ส่วนในเรื่องงานบริหารหลังการขาย และศูนย์บริการที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ หากทำได้ดี โอกาสแจ้งเกิดมีสูง

http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9600000029547

]]>
1120282