BA.2 – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 02 Feb 2022 12:30:37 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘WHO’ ย้ำโควิดจะไม่มีวันเป็น ‘โรคประจำถิ่น’ โดยจะยังคงสถานะ ‘โรคระบาด’ เสมอ https://positioningmag.com/1372728 Wed, 02 Feb 2022 10:33:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1372728 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าเชื้อโควิดรุ่นต่อไปหรือ BA.2 จะติดต่อได้ง่ายกว่าโอมิครอน (Omicron : BA.1) โดยตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่าการแพร่ระบาดมีจำนวนผู้ป่วยโรคเพิ่มขึ้นเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย WHO ได้ออกมาย้ำว่า COVID-19 จะไม่กลายเป็นโรคประจำถิ่น (endemic one) และจะยังเป็นโรคระบาด (epidemic virus)

Raina MacIntyre ศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงทางชีวภาพระดับโลกที่มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ในซิดนีย์ กล่าวว่า แม้ว่าการระบาดของโรคประจำถิ่นอาจมีผู้ติดเชื้อได้เป็นจำนวนมาก แต่จำนวนผู้ป่วยจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเหมือนการระบาดของ COVID-19

“ในส่วนของโรคประจำถิ่นหากจำนวนผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงก็มักจะช้า โดยทั่วไปจะใช้เวลาหลายปี ดังนั้น โรคระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ไม่ใช่โรคประจำถิ่น”

นักวิทยาศาสตร์ใช้สมการทางคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า R naught (หรือ R0) เพื่อประเมินว่าโรคแพร่กระจายได้เร็วแค่ไหน R0 ระบุว่าจะมีคนติดเชื้อจากผู้ติดเชื้อจำนวนเท่าใด โดยผู้เชี่ยวชาญที่ Imperial College London ประเมินค่าโอมิครอนอาจสูงกว่า 3 ซึ่งหาก R0 ของโรคมากกว่า 1 การเติบโตจะเป็นแบบ ทวีคูณ หมายความว่าไวรัสกำลังเป็นที่แพร่ระบาดมากขึ้น

“เป้าหมายด้านสาธารณสุขคือการรักษา R ที่มีประสิทธิผล ซึ่ง R0 ได้รับการแก้ไขโดยการแทรกแซง เช่น วัคซีน หน้ากาก หรือการบรรเทาทุกข์อื่น ๆ ให้ต่ำกว่า 1 แต่ถ้า R0 สูงกว่า 1 เรามักจะเห็นคลื่นแพร่ระบาดซ้ำสำหรับการติดเชื้อทางเดินหายใจที่แพร่ระบาด นี่คือเหตุผลที่เราต้องการวัคซีน เพื่อรักษา R ให้ต่ำกว่า 1 เพื่อให้เราสามารถอยู่กับไวรัสได้โดยไม่กระทบต่อสังคมครั้งใหญ่”

ทั้งนี้ MacIntyre กล่าวเตือนว่า “จะมีรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น” ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว WHO เตือนว่าเชื้อโควิดรุ่นต่อไปจะติดต่อได้ง่ายกว่าโอมิครอน และ Global Biosecurity ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มแผนกวิจัยของ UNSW ที่ครอบคลุมเรื่องโรคระบาดได้โต้เถียงกันเมื่อปีที่แล้วว่า Covid จะยังคง เป็นโรคระบาดและจะเป็นตลอดไป

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โควิดกลายเป็นโรคเฉพาะถิ่น ต้องมีผู้คนจำนวนมากพอที่จะได้รับการปกป้องภูมิคุ้มกันจากโควิด ตามรายงานของ American Lung Association ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนจะทำให้ไวรัสเปลี่ยนสถานะออกจากสถานะการระบาดใหญ่

เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า มีโอกาสที่โควิดจะสิ้นสุดลงในปีนี้ หากดำเนินการตามแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งรวมถึงการจัดการวัคซีนและความไม่เท่าเทียมกันในการดูแลสุขภาพ

Source

]]>
1372728
สหรัฐฯ พบ เชื้อโควิด ‘BA.2’ สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน ระบาดไวกว่าเดิม ‘1.5 เท่า’ https://positioningmag.com/1372262 Sun, 30 Jan 2022 07:35:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1372262 ผู้ติดเชื้อ COVID-19 เกือบครึ่งหนึ่งในสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่าติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน (BA.1) ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าเดิม 1.5 เท่า แต่เท่าที่ค้นพบ BA.2 ยังไม่มีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีน

นักวิทยาศาสตร์ของ Statens Serum Institut ซึ่งดำเนินการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อในเดนมาร์ก ได้เปิดเผยว่าพบไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของ โอมิครอน (Omicron : BA.1) โดยตัวแปรดังกล่าว สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์โอมิครอนเดิม 1.5 เท่า โดยจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ BA.2 นั้นแซงหน้า BA.1 กลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาด

อย่างไรก็ตาม สายย่อยใหม่นี้ยังไม่มีความสามารถในการ ลดประสิทธิภาพของวัคซีน โดยวัคซีนนั้นมีประสิทธิภาพ 70% ในการป้องกันการเจ็บป่วยตามอาการจาก BA.2 เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพการป้องกัน 63% สำหรับสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม

“ปัจจุบันไม่มีหลักฐานว่าเชื้อสาย BA.2 นั้นรุนแรงกว่าเชื้อสาย BA.1” โฆษกของ CDC Kristen Nordlund กล่าว

แม้จะแพร่กระจายได้เร็วกว่าแต่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่ได้ระบุว่า BA.2 เป็นตัวแปรที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของ WHO ได้เตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าสายพันธุ์ใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อโอมิครอนแพร่กระจายไปทั่วโลกในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน มาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านโควิด-19 ของ WHO เตือนเมื่อวันอังคารว่า เชื้อโควิดรุ่นต่อไปจะแพร่เชื้อได้ง่ายกว่า

ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะระบุได้ว่า BA.2 สามารถแพร่เชื้อให้กับผู้ที่เคยติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเดิมได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อก่อนหน้านี้น่าจะให้ภูมิคุ้มกันแบบครอสโอเวอร์บางอย่างกับ BA.2 ขณะที่ ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา เริ่มการทดลองทางคลินิกในสัปดาห์นี้โดยฉีดวัคซีนป้องกันเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าสายพันธุ์ใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนดั้งเดิมลดลง

Source

]]>
1372262