“บ้านต้องเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่สิทธิพิเศษของคนไทย” เป็นประโยคที่ “ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร” CEO คนใหม่ของ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ได้ใช้อธิบายถึงสถานการณ์เรื่องตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี และเห็นภาพชัดมากที่สุด

เพราะตอนนี้ทางฝั่งอสังหาริมทรัพย์เองก็ต้องเจอกับปัญหาสต็อคบวม ทางฝั่งของผู้บริโภคที่อยากมีบ้าน แต่ส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธสินเชื่อ เพราะอาจจะประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้ไม่แน่นอน ไม่มีเอกสารที่แสดงรายได้ที่มั่นคง ก็อาจจะพลาดโอกาสในการมีบ้านได้ ทั้งที่จริงๆ คนกลุ่มนี้ก็มีรายได้ และมีความสามารถในการผ่อน

ด้วยเหตุนี้เอง บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ในฐานะผู้นำด้านบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ จึงเปิดตัวโครงการ “ทรัพย์มหาชน” เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต สร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยเข้าถึงบ้านอย่างแท้จริง ในราคาจับต้องได้ สามารถผ่อนตรงกับ BAM แบบสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียง 500 บาท/เดือน ระยะเวลานาน 20 ปี อัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0% ถ้าปิดยอดภายใน  3 ปี รับโปรโมชันฟรีค่าธรรมเนียมการโอน มีทรัพย์ให้เลือกทั้งบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ รวมถึงที่ดินทำเลดีทั่วประเทศ เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568 ตอกย้ำความมุ่งมั่น ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น

อุดช่องว่างให้คนไทยมีบ้านเป็นของตัวเอง

จากผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัย ไตรมาส 2/2568 จากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่า อัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มียอดต่ำกว่า 3 ล้านบาท สูงสุดถึง 70% จากจำนวนการขอสินเชื่อทั้งหมด จากแต่เดิมมีอัตรา 30% สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาผู้ซื้อบ้านรายได้น้อยและปานกลางที่เข้าถึงสินเชื่อได้ยาก แม้มาตรการภาครัฐจะผ่อนคลายเกณฑ์แล้วก็ตาม

จากผลสำรวจยังพบอีกว่า 27% ของคนไทยอยู่ในสถานะเช่าบ้าน และ 23 ล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน รวมไปถึงปัจจัยด้านความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และที่อยู่อาศัยราคาแพงขึ้น บางคนมีรายได้ที่ไม่แน่นอน และอาชีพอิสระ เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเข้าถึง “บ้าน” ของคนไทยจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานนอกระบบกว่า 20 ล้านคนที่ไม่มีรายได้ประจำ หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานและมีรายได้น้อย มักถูกมองว่าไม่มีศักยภาพทางการเงิน แม้จะมีรายได้จริงและสามารถผ่อนชำระได้ แต่กลับไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

BAM จึงมองเห็นโอกาส  และเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิต ด้วยการให้คนมีรายได้น้อยมีสิทธิ์เข้าถึงบ้านหลังแรกได้จริง โดยโครงการ “ทรัพย์มหาชน” เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต จะช่วยสร้างโอกาสให้คนที่ไม่มีเงินเดือนประจำ คนที่มีรายได้น้อย หรือรายได้ไม่แน่นอน กลุ่มอาชีพรับจ้าง ฟรีแลนซ์ คนขับรถ TAXI วินมอเตอร์ไซด์ รวมถึงกลุ่มที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง หรือเช่าอยู่

โดยจุดเด่นของโครงการคือ ราคาบ้านจับต้องได้สามารถผ่อนชำระกับ BAM โดยตรง  ทั้งทรัพย์ประเภท บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท  จองเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นแค่เดือนละ 500 บาท ระยะเวลานาน 20 ปี ซึ่งในปีแรกคิดอัตรา ดอกเบี้ย 0% ปีที่ 2-3 ดอกเบี้ย 3% ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR BAM ตลอดอายุสัญญา

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เริ่มเล่าว่า

“ปัจจุบันธุรกิจมีความท้าทายอย่างมากตั้งแต่ช่วง COVID-19 เป็นต้นมา ตลาดอสังหาฯ ไม่ผงกหัวขึ้น ทำให้ยอดขายบ้านทั้งมือ 1 และมือ 2 มีการระบายของช้า มีการปฎิเสธสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ในมุมของ BAM เองก็ต้องมีการระบายทรัพย์ในมือ เปลี่ยนโมเดลธุรกิจจาก NPL/NPA Management สู่ Value Creation พลิกทรัพย์ร้าง เป็นทรัพย์สร้างกำไร ไม่ใช่เพียงการหาวิธีขายทรัพย์สินให้ได้ราคา แต่เป็นการสร้างระบบที่ทำให้ทรัพย์สินเหล่านี้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในหลายมิติ”

ระบายทรัพย์จากตู้กับข้าว 30,000 ชิ้น

ปัจจุบัน BAM มีทรัพย์ในมืออยู่ราว 30,000 ชิ้น ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ถูกยึดมา ครบคลุมทุกกลุ่มทั้งประเภท บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า แต่เดิมจะมีทีมวิศวกร และผู้รับเหมาเป็นของตัวเอง ที่รีโนเวทบ้านแล้วนำไปขาย แต่ใน 1 ปีทำได้ไม่ถึง 1,000 หลัง กว่าจะระบายทรัพย์ที่มีในสต็อคหมดก็ต้องใช้เวลาหลายปี ที่ผ่านมาได้มีจับมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย ในการปรับเปลี่ยนทรัพย์แล้วไปขายต่ออีกด้วย

ทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ “ทรัพย์มหาชน” เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ราว 15,000 ยูนิต จากทั้งหมด 30,000 ยูนิต มีตั้งแต่บ้าน, ห้องชุดพักอาศัย, อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า มูลค่ารวมกว่า 14,000 ล้านบาท  กระจายอยู่ทั่วประเทศ

ดร.รักษ์บอกว่า ในเฟสแรกตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2568 ตั้งเป้าในการระบายทรัพย์จำนวน 2,000 ยูนิต หลังจากนั้นค่อยวัดผลอีกทีช่วงกลางปีหน้า เพื่อจะสานต่อเฟสสอง

“โครงการนี้เป็นเหมือนการทำ CSR ด้วย ทำให้ทุกชีวิตมีโอกาสมีบ้านเป็นของตัวเอง ให้บ้านตอบโจทย์การใช้ชีวิต คืนรอยยิ้มสู่สังคม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ให้มีกำลังใจในการเดินหน้า ให้โอกาสคนตัวเล็ก อยากสร้างคุณค่าทางสังคมมากกว่าเดิม”

ขอเป็นศิริราชแห่งหนี้ 

ปัจจุบันประเทศไทยเผชิญปัญหาหนี้ครัวเรือนหนักมาก โดยขึ้นแท่นเป้นประเทศที่มีอัตราหนี้สูงสุดในเอเชียเอเชีย และอาเซียน เทียบเท่ากับแอฟริกาใต้ ปัญหาเรื่องหนี้สร้างความเสียหายระดับประเทศ กระทบต่อระบบเศรษฐกิจแน่นอน

ดร.รักษ์ จึงอยากสร้างจุดยืนให้ BAM เป็นโรงพยาบาลแห่งหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปรียบเสมือน “ศิริราชแห่งหนี้” ที่เดินเข้ามาจะเจอศูนย์ไกล่เกลี่ย เจอโรงพยาบาลสนามที่ช่วยหาทางออกเรื่องหนี้ มองว่าหนี้ไม่ใช่คำสาป สามารถล้างหนี้ได้ ปรับโครงสร้างหนี้ได้ ไม่อยากให้คนแบกหนี้ หนีหนี้ แต่ต้องเผขิญหนี้อย่างเต็มภาคภูมิ และตั้งใจในการปิดหนี้

“เราอยากเปลี่ยนบรรยากาศให้ลูกหนี้มีชีวิตใหม่ รอดพ้นจากพันธนาการเดิม หรือคนที่เคยมีฝันร้ายจากการทำธุรกิจ ถ้าเดินมาหา BAM จะไม่สนใจว่าทำอะไรมา ไม่ตัดสินว่าเดินชีวิตผิดพลาด จะถามแค่ว่าไหวแค่ไหน อยากเดินเป็นเพื่อนคู่คิด เข้าไปประคอง ไม่ถามว่าผ่อนให้หมดใน 5-7 ปี เอาเท่าที่ไหว โครงการนี้จึงผ่อนได้เริ่มต้นที่ 500 บาท”

ดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ปิดยอดใน 3 ปี ฟรีค่าโอน

สำหรับเงื่อนไข และรายละเอียดในการร่วมโครงการ เบื้องต้น BAM จะพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ รวมทั้งเอกสารที่แท้จริง บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส ใบหย่า สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน รูปถ่ายร้านค้า แผนที่ร้านค้า หรือหลักฐานของแหล่งรายได้ ไม่จำเป็นต้องมีสลิปเงินเดือน แต่มีแหล่งที่มารายได้สม่ำเสมอ

ยอดจองเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 500 บาท/เดือน ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 20 ปี ดอกเบี้ยพิเศษ ปีแรก 0% ปีที่ 2–3 อยู่ที่ 3% หลังจากนั้น = MRR BAM มีโปรโมชันถ้าปิดหนี้ภายใน 3 ปี  ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน เพื่อจูงใจในการสร้างวินัยทางการเงินให้กับลูกค้าอีกแนวทางหนึ่ง โดย BAM ได้จับมือกับพันธมิตรหลายๆ ธนาคารที่พร้อมจะพิจารณาการรีไฟแนนซ์

โครงการ “ทรัพย์มหาชน” เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต สะท้อนบทบาทของ BAM ในฐานะผู้นำธุรกิจ AMC ของประเทศ ตอกย้ำบทบาทการสร้างคุณค่าใหม่จากทรัพย์สินรอการขาย โดยพลิกฟื้นทรัพย์ให้กลับมามีคุณค่า พร้อมส่งต่อสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคมไทย ผ่านโครงการที่เปิดโอกาสให้ผู้มีอาชีพอิสระ ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยของตนเอง ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และเชื่อมโยงเข้าสู่ระบบการเงินที่กว้างขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน

เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง และเพื่อให้เกิดการรับรู้ว่า หากต้องการซื้อทรัพย์สินเพื่อที่อยู่อาศัยในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ต้องนึกถึง BAM เป็นตัวเลือกแรก

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bam.co.th

BAM มีจุดประสงค์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ที่จะช่วยลดภาระดอกเบี้ย รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนส่วนหนึ่งในการร่วมประมูลทรัพย์สินด้อยคุณภาพเพิ่มเติมให้กับพอร์ตฟอลิโอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน รวมทั้งต่อยอดบทบาทของ BAM ในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว