ร่างกายของมนุษย์เรายังมีหลายเรื่องมหัศจรรย์ที่เราคาดไม่ถึง โดยอวัยวะทุกส่วนมีความสัมพันธ์กัน เพราะฉะนั้นการดูแลร่างกายให้แข็งแรง จำเป็นต้องดูแลทั้งระบบ ถ้าละเลยส่วนใดส่วนหนึ่ง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้

อย่างเช่นสุขภาพ “ช่องปาก” หลายคนอาจจะมองว่าปัญหาสุขภาพช่องปากอย่างเช่นเรื่องฟันผุ หรือปัญหากลิ่นปากเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่เกิดแค่ในช่องปากเท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาสุขภาพช่องปากสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ เบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ชนิดอื่นๆ

จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำให้มนุษย์เราต้องดูแลสุขภาพช่องปาก และฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะปัญหาเพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรง และซับซ้อนมากขึ้นในอนาคตได้

ดั่งคำพูดที่ว่าสุขภาพช่องปากที่ดีคือพื้นฐานของสุขภาพกายที่แข็งแรง!

ทันตแพทย์จึงแนะนำเช็คสุขภาพช่องปากเป็นประจำ เพื่อทำความสะอาดช่องปากและขูดหินปูนทุก ๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันไม่เกิดเป็นปัญหาฟันที่ใหญ่โต แต่พบว่า Pain Point ของผู้บริโภคกับการทำฟันก็มีไม่น้อย หลายคนไม่มีเวลาบ้าง ต้องใช้เวลารอนาน หรือการทำหัตถการต่าง ๆ มีเสียงดัง รู้สึกกลัวเจ็บ ทำให้ละเลยการทำฟันไป จนกลายเป็นว่าการพบทันตแพทย์ไม่ใช่เพื่อการป้องกันอีกต่อไป แต่เป็นการรักษาหลังจากที่ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว

ตอนนี้ได้มีเทคโนโลยีใหม่ AIRFLOW Guided Biofilm Therapy หรือ AIRFLOW GBT เป็นการทำความสะอาดฟันรูปแบบใหม่ ที่จะทำให้หลายคนลืมการทำฟันในรูปแบบเก่า ๆ ไปได้เลย เพราะใช้เวลาไม่นานเพียง 30 นาที แถมเสียงเครื่องมือยังเบามาก เหมือนเสียงเป่าลมเบา ๆ ที่สำคัญคือเป็นการทำฟันที่ไม่เจ็บเลย  ช่วยทำให้คนไข้กลับมาหาทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือนได้

การขจัดคราบฝังลึกบนฟันด้วย AIRFLOW GBT เทคโนโลยีทำความสะอาดอย่างล้ำลึกด้วยผงอนุภาคเล็กถึง 14 ไมครอน ซึ่งเป็นผงขัดชนิดพิเศษที่ทำจากน้ำตาลคีโต ที่เฟรนด์ลี่กับผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยทำความสะอาดฟันได้อย่างล้ำลึกโดยไม่ทำลายผิวฟันและเหงือก ทำให้การขัดฟันมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถขจัดคราบฝังแน่น โดยเฉพาะคราบบุหรี่ ชา กาแฟ ลดปัญหาคราบหินปูน โรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ กลิ่นปาก ช่วยให้ยิ้มอย่างมั่นใจ สะอาดหมดจดภายใน 30 นาที เท่านั้น

AIRFLOW GBT เทคโนโลยีใหม่ในการดูแลสุขภาพช่องปาก 

ตอนนี้ในประเทศไทยเริ่มมีคลินิก หรือโรงพยาบาลหลายแห่งที่ได้นำร่องใช้นวัตกรรม AIRFLOW GBT แล้ว หนึ่งในนั้นก็คือ BDMS Wellness Clinic ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS

ซึ่ง BDMS Wellness Clinic ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของสุขภาพช่องปากต่อระบบสุขภาพองค์รวม โดยเน้นย้ำถึงแนวทางการป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะที่ยั่งยืนจากภายใน เพราะจากข้อมูลพบว่าคนไทยกว่า 53% มีปัญหาฟันผุ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกายองค์รวมมากกว่าที่คิด

โดยที่ AIRFLOW GBT ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพช่องปาก พร้อมทั้งลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างการทำหัตถการ ช่วยให้การทำความสะอาดฟันเป็นเรื่องง่าย อ่อนโยน และเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับทุกคน

ทันตแพทย์หญิงวลัยลักษณ์ เกียรติธนากร ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เผยว่า

“ที่ BDMS Wellness Clinic เราได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งจะนำไปสู่การดูแลสุขภาพโดยรวมในด้านอื่นๆ ต่อไป ด้วยเหตุนี้ เราจึงตั้งใจที่จะมอบบริการการทำความสะอาดฟันด้วยเทคโนโลยี AIRFLOW Guided Biofilm Therapy ให้กับผู้รับบริการ เพื่อมอบการดูแลช่องปากที่มีประสิทธิภาพและการรักษาที่อ่อนโยน ช่วยลดการบาดเจ็บจากการทำฟันในรูปแบบเดิมๆ

โดยเรามุ่งมั่นให้ผู้รับบริการมีแนวโน้มกลับมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็กช่องปากทุกๆ 6 เดือน เพื่อส่งเสริมสุขภาพช่องปากและสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน” 

การทำความสะอาดฟันด้วย AIRFLOW GBT นั้นประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ออกแบบมาเพื่อกำจัดคราบพลัค (Biofilm) อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสะสมของแบคทีเรียตัวการก่อโรคเหงือก ฟันผุ และกลิ่นปาก อีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพฟันในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน เริ่มต้นจาก

• ตรวจสภาพเหงือก เพื่อประเมินโรคในช่องปากและวางแผนการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม
• ย้อมสีคราบพลัค เพื่อระบุตำแหน่งของคราบพลัคที่สะสมอยู่ในช่องปาก ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถมองเห็นคราบพลัคได้อย่างชัดเจน และขจัดออกได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
• ทันตแพทย์ช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการแปรงฟันที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
• การพ่นแอร์โฟล์วพลัสแบบใหม่  มอบประสบการณ์ที่อ่อนโยนและสบายคล้ายการพ่นด้วยน้ำเปล่า แต่ให้ประสิทธิภาพสูงในการขจัดคราบพลัคอย่างหมดจด ทั้งบริเวณผิวฟัน ขอบเหงือก และใต้เหงือก ด้วยการใช้ผงน้ำตาล “อิริธริทอล” ที่มีอนุภาคเล็กที่สุดเพียง 14 ไมครอน จึงทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุมโดยไม่ทำลายเนื้อฟันและวัสดุทางทันตกรรมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นครอบฟัน วีเนียร์ รากเทียม หรืออุปกรณ์จัดฟันใส อีกทั้งยังสามารถขจัดคราบสีจากชา กาแฟ หรือบุหรี่ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• การพ่นแอร์โฟล์วพลัสบริเวณใต้เหงือก เฉพาะในกรณีที่ตรวจพบว่ามีปัญหาสุขภาพเหงือกเท่านั้น
• การขูดหินปูนด้วยเทคโนโลยี PS Piezon และระบบน้ำอุ่นด้วยหัวขูดพิเศษ ช่วยลดความเจ็บปวดและการสั่นสะเทือน อ่อนโยนกับผู้ที่มีรากเทียม ครอบฟัน หรือวีเนียร์
• ตรวจเช็คความสะอาดหลังทำ โดยทันตแพทย์ ทำนัดหมายครั้งต่อไป เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่า AIRFLOW GBT นั้นดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการดูแลช่องปากอย่างอ่อนโยน ถึงแม้ว่าบางคนจะมีข้อจำกัดเรื่องปัญหาในช่องปาก เช่น มีปัญหาเรื่องเหงือก ครอบฟัน ทำรากฟันเทียม หรือทำวีเนียร์มา ก็สามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อทำความสะอาดได้ เป็นการเปลี่ยนทัศนคติในการมาทำความสะอาดช่องปาก และขูดหินปูน ให้เปรียบเสมือนการเป็นการทำสปาช่องปากเลยก็ว่าได้

สุขภาพช่องปากเป็นมากกว่าการมีฟันที่สะอาด หรือเรื่องของบุคลิกภาพภายนอกเพียงเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาช่องปาก เช่น ฟันผุ โรคเหงือก หรือคราบพลัคสะสม ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางสุขภาพที่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases: NCDs) ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และ โรคหลอดเลือดสมอง

โดยในกรณีของโรคเบาหวาน มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดโรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์ (โรคเหงือกขั้นรุนแรง) มากกว่าคนทั่วไป สาเหตุหลักคือระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ส่งผลให้การต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในช่องปากลดลง เมื่อแบคทีเรียสะสมมากขึ้นโดยเฉพาะตามแนวเหงือก ก็จะก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง นำไปสู่โรคเหงือกในที่สุด ในทางกลับกัน หากผู้ป่วยเบาหวานมีภาวะเหงือกอักเสบเรื้อรัง ก็จะส่งผลให้ร่างกายมีการหลั่งสารอักเสบ (inflammatory mediators) เพิ่มขึ้น ซึ่งสารเหล่านี้สามารถรบกวนการทำงานของอินซูลิน ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยากขึ้นกว่าเดิม กลายเป็น “วงจรอันตราย” ที่ทั้งสองโรคส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน

ไม่เพียงเท่านั้น งานวิจัยยังพบว่าคราบพลัคที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดออกอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้แบคทีเรียในช่องปากเข้าสู่กระแสเลือด และส่งผลต่อหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะหลอดเลือดแข็งตัว (Atherosclerosis) และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยจำนวนมากที่กำลังศึกษาความเชื่อมโยงระหว่าง “สุขภาพช่องปาก” กับ “สุขภาพสมองในระยะยาว” โดยเฉพาะกับโรคเกี่ยวกับการเสื่อมของระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) พบว่าแบคทีเรียบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับโรคปริทันต์ เช่น Porphyromonas gingivalis อาจมีบทบาทในการกระตุ้นการอักเสบในสมอง ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์

การพบทันตแพทย์เพื่อเช็กอัพสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนทุก 6 เดือน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ตามมา

การขูดหินปูน และขจัดคราบด้วย AIRFLOW GBT ราคา 4,000 – 4,500 บาท (ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์)  ผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BDMS Wellness Clinic และการทำความสะอาดฟันด้วยเทคโนโลยี AIRFLOW GBT ได้ที่  https://www.bdmswellness.com/

เรียกได้ว่าการดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงช่วยให้เรามีรอยยิ้มที่สดใส ช่วยสร้างบุคลิกภาพให้มั่นใจ แต่ยังเป็นการป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย เป็นการดูแลสุขภาพอย่างองค์รวมที่แท้จริง เมื่อมีสุขภาพช่องปากที่ดี ทำให้สุขภาพกายดีไปด้วย