Boonlapo – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 02 Nov 2024 03:03:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘บุญลาโภ’ แตกไลน์จากเครื่องเสียง สู่ขนมหวาน ดึง Pasticceria Cova ร้านขนมพรีเมียมจากอิตาลี เปิดสาขาแรกในไทย https://positioningmag.com/1497081 Fri, 01 Nov 2024 13:00:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1497081 ปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจไลฟ์สไตล์ ได้ผันตัวเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในธุรกิจอาหารกันมากขึ้น โดยเฉพาะกับธุรกิจคาเฟ่ขนมหวาน ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมและเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยข้อมูลจาก Statista เผยว่า ตลาดขนมหวานโลกมีมูลค่ากว่า 586.30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 

และคาดว่าจะเติบโตที่ 5.40% ต่อปี (CAGR 2024-2029) ไปถึง 5.68% ต่อปี (CAGR 2024-2034) หรือคิดเป็นประมาณ 466.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034 แม้ว่าเทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง แต่ตลาดขนมหวานก็ยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจและมีผู้เล่นเข้ามาในตลาดอยู่เรื่อยๆ

รูปจาก Pasticceria Cova

จากธุรกิจเครื่องเสียงสุดหรู สู่ผู้เล่นหน้าใหม่วงการขนมหวาน

Boonlapo (บริษัท บุญลาโภ จำกัด) ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 จากความชื่นชอบเรื่องเทคโนโลยี ดีไซน์ และนวัตกรรม ของ “ทรงพล บุญลาโภ” จนกลายมาเป็นตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายเครื่องเสียงรวมถึงมือถือหรูในประเทศไทย อาทิ B&O (Bang & Olufsen), CAVIAR, COTODAMA, PANTHEONE, LOEWE, CABASSE, LAMETRIC และ SOLID เป็นต้น

ทรงพล บุญลาโภ CEO บุญลาโภ

ปัจจุบันบริษัทฯ มีหน้าร้านจำหน่ายเครื่องเสียงรวม 7 แห่ง แบ่งเป็น Services Center 1 แห่ง , ร้านแบรนด์ Bang & Olufsen 5 แห่ง และ ร้านแบรนด์ Caviar & Cotodama 1 แห่ง รวมถึงช่องทางออนไลน์และโซเชียล เช่น เว็บไซต์ของบริษัท, Shopee, Lazada, ONESIAM SuperApp, Central Online, LINE OA, NocNoc, OfficeMate และ TikTok โดยบริษัทฯ มีฐานลูกค้ารวมทั้งหมดประมาณ 6,000 – 7,000 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มคนช่วงอายุประมาณ 35 – 40 ปีที่มีกำลังซื้อสูง

นอกจากเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมแล้ว ทรงพล ยังมีความหลงไหลในด้านอาหาร โดยเฉพาะกับ ‘ขนมหวาน’ ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ โดยเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ทรงพลและครอบครัวได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศอิตาลี และได้ใช้บริการรวมถึงรับประทานอาหารของทาง Pasticceria Cova (ปาสติเซเรีย โควา) แล้วรู้สึกชื่นชอบและประทับใจ จึงได้ขอให้พาร์ทเนอร์ที่รู้จักกันอยู่แล้ว ช่วยติดต่อกับทางเจ้าร้านซึ่งก็คือ Paola Faccioli ในการพูดคุยการทำธุรกิจร่วมกัน 

Paola Faccioli เจ้าของ Pasticceria Cova คนปัจจุบัน

เนื่องจาก ทรงพล เล็งเห็นถึงศักยภาพของ Pasticceria Cova ที่มีประวัติศาสตร์ร้านมาอย่างยาวนานและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคชาวยุโรป รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยที่เคยเดินทางไปเยี่ยมเยือน ผนวกกับความชื่นชอบในเรื่องของประวัติศาสตร์ ความลักชูรี่ อาหาร และขนมหวาน อีกทั้งตลาดขนมหวานที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ทรงพลตัดสินใจก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นใหม่ในตลาดขนมหวานของประเทศไทยเป็นครั้งแรก

ลงทุน 100 ล้านบาท ดึง ‘Pasticceria Cova’ ช่วยขยายไลน์ธุรกิจ 

แม้ว่าธุรกิจของหวานในเมืองไทยมีการแข่งขันกันสูงมาก แต่ด้วยอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ก่อนหน้านั้นก็มีธุรกิจไลฟ์สไตล์ ผันตัวมาทำธุรกิจอาหารเช่นเดียวกัน อาทิ พีพี กรุ๊ป (PP GROUP) ผู้ได้รับลิขสิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากต่างประเทศมากมายไม่ต่ำกว่า 11 แบรนด์ ซึ่งรวมถึงแบรนด์ Maison Kitsuné (เมซง คิทสึเนะ) ที่ได้มีการต่อยอดเป็น Café Kitsuné (คาเฟ่ คิสซึเนะ) และได้ขยายตลาดเข้ามาเปิดในไทย 

หรือจะเป็น ธนจิรา กรุ๊ป ที่เป็นผู้ได้รับสิทธินำเข้า “Marimekko” (มารีเมกโกะ) “ถุงผ้าลายดอก” สีสันสดใสที่เป็นแบรนด์เก่าแก่ของฟินแลนด์มาจัดจำหน่ายในประเทศไทย ก่อนที่ในกลางปี 2565 จะขยายไลน์ธุรกิจ ทำ Marimekko Kafé (มารีเมกโกะ คาเฟ่) จากไอเดีย “เชื่อมโยง Marimekko บนโต๊ะอาหาร” กับผู้คนของธนจิราที่เสนอให้บริษัทแม่ด้วยตนเอง ขึ้นเป็นแห่งแรกในโลก เป็นต้น

รูปจาก Pasticceria Cova

แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ที่แบรนด์ไลฟ์สไตล์จะเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดคาเฟ่ขนมหวาน อีกทั้งมีร้านขนมหวานประเภทต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ทรงพลเชื่อว่า ยังมีช่องว่างของตลาดที่ให้ผู้เล่นใหม่ได้เข้าไปชิงส่วนแบ่งได้อยู่ โดยทรงพลใช้เวลาตกลงเจรจากันกว่า 6 เดือน พร้อมเงินลงทุนอีก 100 ล้านบาท

ยก Pasticceria Cova มาบุกตลาดอาหารและขนมหวานไทย ในโมเดลร้านแบบแฟรนไชส์ พื้นที่ขนาด 550 – 600 ตร.ม. ที่ยังยึดความเป็นต้นฉบับออริจินัลทุกอย่าง เพราะจะเน้นการนำเข้าสินค้าจาก Pasticceria Cova มาจัดจำหน่ายในร้าน คิดเป็นสัดส่วน 60% และอีก 40% เป็นการทำขนมหวานและอาหารสูตรต้นตำรับ ที่ทางบริษัทฯ ได้ส่งเชฟไปเรียนทำจากมิลานโดยตรง

Pasticceria Cova Montenapoleone เป็นหนึ่งในร้านคาเฟ่ขนมหวานพรีเมียมที่เก่าแก่ที่สุดในมิลาน ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1817 ถือเป็น ‘All Day Dining Café & Restaurant’ ที่นำเสนอเค้กและขนมหวานต้นตำรับที่เป็นเอกลักษณ์หลากหลายเมนู ด้วยความตั้งใจ และความพิถีพิถันในการทำ รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่เมนู Breakfast, Brunch, Lunch จนไปถึง Dinner 

และก่อนหน้านั้นยังมีการเปิดสาขาแฟรนไชส์ในหลากหลายประเทศ ทั้งฝรั่งเศส โมนาโก เอเธนส์ อิสตันบู คูเวต ริยาร์ด โดฮา เฉิงตู ซูโจว หางโหว เซี่ยงไฮ้ (9 แห่ง) มาเก๊า ฮ่องกง (11 แห่ง จากเดิมมี 12) และได้รับความนิยมจากผู้ที่รู้จักและชื่นชอบแบรนด์อย่างต่อเนื่อง จนในปี 2013 ‘LVMH’ บริษัทสินค้า Luxury ที่มีแบรนด์หรูในพอร์ตมากกว่า 75 แบรนด์ เข้ามาซื้อกิจการ 

รูปจาก Pasticceria Cova

ปักหมุด One Bangkok แห่งแรก

นอกจากนั้น ทรงพลเผยว่า ได้เลือกห้าง One Bangkok ให้เป็นทำเลที่ตั้งของร้าน Pasticceria Cova เพราะเป็นโครงการใหญ่ใจกลางเมือง ที่รวบรวมเอาทั้งห้างฯ คอมมูนิตี้มอลล์ Retail ออฟฟิศ คอนโด โรงแรม 

โดยเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่จะจัดจำหน่ายที่ร้านกำลังอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกอย่างเหมาะสมกับทาง Pasticceria Cova โดยจะมีตั้งแต่เมนูขนมหวานที่ราคาอยู่ระหว่าง 250 – 500 บาท เมนูสลัด หรือ ของทานเล่น ราคาประมาณ 150 – 350 บาท และเมนูอาหารจานหลักจะมีราคาระหว่าง 650 – 1500 บาท เป็นต้น

ตอนนี้ Pasticceria Cova ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีแผนที่จะเปิดช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้าที่ One Bangkok จากนั้นเตรียมแผนการขยายสาขาที่ตั้งเป้าว่าจะมีการขยายเพิ่มอีก 5 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งรูปแบบร้านวางแพลนไว้ว่าจะทำเป็นสโตร์ที่อาจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ไปตั้งร้านในอนาคต

รูปบรรยากาศร้าน Pasticceria Cova ที่อิตาลี
]]>
1497081