Carbon Neutrality – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 06 Jul 2022 10:17:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 กรุงศรีเดินหน้า Race to Net Zero เพิ่มสินเชื่อ ESG เป็น 15% ของพอร์ต https://positioningmag.com/1391464 Wed, 06 Jul 2022 10:13:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1391464 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ได้ต่อยอดโครงการ Krungsri Zero Waste ด้วยแนวคิดและแนวปฏิบัติ Race to Net Zero รณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ ขณะเดียวกันธนาคารได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อโครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมด้วย

พูนสิทธิ์ ว่องธวัชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลสู่ความยั่งยืน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ในปี 2565 ปฏิบัติการ Krungsri’s Race to Net Zero จึงได้ถือกำเนิดบนวิสัยทัศน์ดังกล่าวและได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการด้านความยั่งยืน คณะผู้บริหาร ตลอดจนความร่วมมือจากพนักงานกรุงศรี กรุ๊ป ทุกระดับ ในการผลักดันให้บรรลุเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของกรุงศรี ด้วยการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่ดิจิทัลให้มากขึ้น ใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่าพร้อมๆ กับการใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันพูนสิทธิ์ยังได้กล่าวว่า ทางธนาคารยังต่อยอดปฏิบัติการ Krungsri’s Race to Net Zero ด้วยการตั้งเป้าหมายลดขยะ RDF (Refuse-Derived Fuel) ให้เหลือศูนย์ภายในสิ้นปีนี้ และจะขยายแนวคิดนี้สู่วงกว้างด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรองค์กรต่างๆ ในการรณรงค์ลดขยะ RDF ในปี 2566 โดยจะเริ่มจากองค์กรระดับประเทศที่ตั้งอยู่บนถนนเพลินจิต” ซึ่งปัจจุบันซึ่งขยะดังกล่าวไม่สามารถที่จะรีไซเคิลได้ และสร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมอย่างมาก

ผู้บริหารของธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ รายนี้ยังได้กล่าวถึงประเด็นของ ESG ซึ่งธุรกิจหลายแห่งได้พยายามนำประเด็นนี้เข้ามาประกอบในการทำธุรกิจมากขึ้น เขายังได้ชี้ว่า “ESG ไม่ได้เป็นทางเลือก แต่เป็นทางรอดของธุรกิจ” และเขายังเสริมว่า “การนำเรื่อง ESG เข้ามายังเพิ่มประสิทธิภาพของธนาคาร เช่น การจัดการเรื่องความเสี่ยงขององค์กรนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะต้องคิดถึงในหลายมิติ เป็นต้น”

ขณะเดียวกันธนาคารกรุงศรีอยุธยายังได้ตั้งเป้าในปี 2030 จะขยายพอร์ตสินเชื่อ ESG เป็น 15% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด จากปัจจุบันขนาดของพอร์ตสินเชื่อธนาคารอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท และขนาดพอร์ตสินเชื่อ ESG อยู่ที่ 2%

]]>
1391464
อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีน ตั้งเป้าสู่ ‘Carbon Neutrality’ ภายในปี 2030 https://positioningmag.com/1367699 Sun, 19 Dec 2021 04:59:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1367699 อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน อย่างอาลีบาบาเดินหน้านโยบายด้านสิ่งเเวดล้อม ตั้งเป้าหมายสู่ ‘Carbon Neutrality’ หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน ให้ได้ภายในปี 2030

โดยจะมีการลดปล่อยมลพิษจากการผลิตทั้งทางอาลีบาบา กรุ๊ป รวมไปถึงคู่ค้า ซัพพลายเออร์ต่างๆ ในห่วงโซอุปทานเเละเครือข่ายการขนส่ง

เเผนหลักๆ จะเเบ่งเป็น ‘Scope 1’ คือการลดการปล่อยมลพิษของบริษัทโดยตรง ส่วนแผน ‘Scope 2’ จะเป็นการลดการปล่อยมลพิษทางอ้อม ที่เกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานความร้อนของบริษัท

จากนั้นใน ‘Scope 3’ จะลดค่า Carbon Intensity (ปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากการใช้พลังงาน 1 หน่วย) ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน อย่างการขนส่ง ของเสียที่เกิดจากการซื้อสินค้าและบริการของบริษัท ให้เหลือ 50% ภายในปี 2030

นอกจากนี้ ยังให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยรวมของธุรกิจทุกประเภท ลงราว 1.5 กิกะตัน ภายในปี 2035 อีกด้วย

เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าว อาลีบาบาวางแผนจะใช้เทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานเเละมีประสิทธิภาพ เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น และจะมีโครงการกำจัดคาร์บอนซึ่งเป็นกระบวนการที่จะสามารถดึงก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนออกมาจากชั้นบรรยากาศ

Daniel Zhang ประธานบริหารของอาลีบาบา กล่าวอีกว่า บริษัทพยายามจะขับเคลื่อนกิจกรรมและเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ขายเเละหุ้นส่วนธุรกิจต่างๆ ของบริษัททั้งในประเทศจีนและทั่วโลก

ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศเมื่อปีที่เเล้วว่า จีนตั้งเป้าหมายที่จะเป็นประเทศ Carbon Neutrality ให้ได้ภายในปี 2060 ทำให้บริษัทใหญ่ในประเทศต้องร่างเเผนงานด้านสิ่งเเวดล้อม เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ‘net zero’ เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ง่ายนัก เพราะบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีของจีนหลายบริษัท ก็ยังคงต้องพึ่งพาระบบการผลิตพลังงานจากถ่านหินในประเทศเป็นอย่างมาก เเละมีเพียงไม่กี่บริษัทที่เริ่มประกาศคำมั่นว่าจะเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน

ตามรายงานของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม Greenpeace จัดอันดับให้บริษัท Tencent Holdings ผู้ให้บริการระบบคลาวด์เจ้าใหญ่ เป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพในแง่ของการใช้พลังงานจากแหล่งผลิตที่ใช้พลังงานหมุนเวียนและลดการปล่อยมลพิษอย่างได้ผลที่สุดในจีน ตามมาด้วย Huawei Technologies เเละ Baidu Inc ส่วนอันดับสี่เป็นของ Alibaba (อาลีบาบา)

 

ที่มา : Reuters 

]]>
1367699