CIS – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 29 Sep 2025 12:20:46 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ไม่มีนทท. จีนเปลี่ยนไปจับ ‘รัสเซีย-CIS’ แทนก็ได้! พบเกือบครึ่ง ‘เปย์หนัก’ เฉลี่ย 1 แสน/ทริป ‘ภูเก็ต’ ปลายทางอันดับ 1 https://positioningmag.com/1540055 Mon, 29 Sep 2025 10:51:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1540055 ในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2568 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมถึง 22.4 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1 ล้านล้านบาท แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมจะลดลง 7.1% และรายได้จากนักท่องเที่ยวลดลง 5.4%

แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ ใช้ภาษารัสเซีย หรือ กลุ่มเครือรัฐเอกราช (CIS) กลับโตสวนกระแส โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยกว่า 1.2 ล้านคน ทำให้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ขึ้นเป็น 1 ใน 5 อันดับ ประเทศนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย แซงหน้าอินเดีย

ข้อมูลจาก Yango Ads ให้บริการธุรกิจเทคโนโลยีโฆษณา ที่จัดทำรายงาน Tourism Industry Guide 2025 พบว่า มีนักท่องเที่ยวลุ่ม CIS ถึง 40% ที่ใช้จ่ายมากกว่า 100,000 บาท ต่อทริป (หรือคิดเป็นเงินประมาณ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีระยะเวลาในการพักโดยเฉลี่ย 8 – 14 วัน และอาจยาวนานถึง 3 สัปดาห์ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม ครอบครัวและวัยรุ่น

โดยนักท่องเที่ยว CIS ยังเป็นกลุ่มที่ใช้สื่อดิจิทัลอย่างหนัก โดยเกือบครึ่งหนึ่งวางแผนการเดินทางล่วงหน้า 2–3 เดือน นิยมใช้แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มวิดีโออย่าง YouTube และ Telegram ในการตัดสินใจเดินทาง    รวมถึงการจองโรงแรมหรูและต้องการการบริการระดับพรีเมียม

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากประเทศ คาซัคสถาน ถือเป็นตลาดดาวรุ่งที่น่าจับตา โดย 80% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เลือกเดินทางมายังจังหวัด ภูเก็ต ซึ่งภูเก็ตถือเป็นปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยว CIS ตามด้วยพัทยา และกรุงเทพฯ โดยช่วงไฮซีซั่นของนักท่องเที่ยว CIS คือ กันยายน-กุมภาพันธ์

“เขามาไทยเพราะอากาศ ทะเล และคนไทย เขาเลยอยากมาเที่ยวทะเลไทย มาเจออากาศดี ๆ เพราะบ้านเขามันหนาวมาก และไม่มีทะเล ดังนั้น เขาจึงชื่นชอบเที่ยวภูเก็ตมาก” เนฮะ ดาวาร์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Yango Ads ประเทศไทย เล่า

เนฮะ ดาวาร์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Yango Ads ประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงนักท่องเที่ยว CIS ของผู้ประกอบการอาจไม่ได้ง่ายนัก โดยเฉพาะในเรื่องของ ภาษา และพฤติกรรมการใช้ สื่อดิจิทัล ที่ต่างกัน เช่น การใช้ Telegram ทำให้ Yango Ads เห็นโอกาสในการเข้ามาเจาะกลุ่มผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเข้าถึงนักท่องเที่ยว CIS 

“ตอนนี้ทุกคนเห็นว่านักท่องเที่ยวค่อย ๆ ลดลง โดยเฉพาะจีน เขาก็ต้องหาทางจับนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ซึ่งจริง ๆ   เขาไม่ได้อยากจับนักท่องเที่ยวกลุ่มไหนกลุ่มหนึ่ง แต่ชอบมีบาลานซ์ เพราะอยากกระจายความเสี่ยง แต่ที่ผ่านมา    ผู้ประกอบการไทยไม่ค่อยยิงแอดกลุ่ม CIS เพราะไม่มีเครื่องมือ ติดเรื่องภาษา” เนฮะ ดาวาร์ อธิบาย

สำหรับจุดแข็งของ Yango Ads คือการผสาน AI เข้ากับข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค และการเข้าถึงแพลตฟอร์มเฉพาะตลาด โดยสามารถจะเข้ามาช่วยได้ตั้งแต่

  • กำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Precision Targeting) และเข้าถึงในช่องทางที่พวกเขาใช้งาน ด้วยภาษาและเนื้อหาที่ตรงกับวัฒนธรรม
  • ช่วยปรับปรุงโฆษณาและงบประมาณแบบอัตโนมัติ
  • Forecasting & Planning ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำตลาด
  • เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน (Efficiency & Scale)

“ตอนนี้หลายประเทศกำลังแย่งนักท่องเที่ยวกลุ่ม CIS เช่น เวียดนาม ท่ี่เป็นอีกปลายทางยอดนิยม หรือจีนเองที่ประกาศฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ไทยก็ยังถือว่าได้เปรียบในเรื่องอากาศ และทะเล” เนฮะ ดาวาร์ ทิ้งท้าย

]]>
1540055
นักวิเคราะห์มอง “บิตคอยน์” ปรับฐานในระยะสั้น แต่ “ทองคำ” น่าลงทุนในระยะยาว https://positioningmag.com/1313715 Mon, 11 Jan 2021 14:13:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313715 นักลงทุนรุ่นใหม่เตือนระยะสั้น บิตคอยน์” อาจมีการปรับฐานลง หลังราคาพุ่งขึ้นมาอย่างร้อนแรงจนสามารถเอาชนะราคาทองคำได้  แต่ระยะยาวยังสามารถลงทุนได้ เช่นเดียวกันกับ ทองคำ อาจอาศัยช่วงที่ปรับฐานช่วงนี้ เป็นจังหวะเข้าเก็บลงทุนเพิ่มเติม ระยะยาวเชื่อว่ายังมีแนวโน้มขาขึ้น

บิตคอยน์พุ่งแรง ต้องระมัดระวัง

ณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า

“จากการที่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา จนถึงต้นปีนี้ล่าสุดอยู่ที่ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือปรับเพิ่มขึ้นกว่า 22% สาเหตุคาดว่ากลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ ทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อย มองโอกาสเข้าไปซื้อบิตคอยน์ หลังจากที่สร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2017 และกราฟเทคนิคเป็นขาขึ้น แต่การลงทุนในระยะสั้นๆ ที่ระดับราคาดังกล่าวถือว่ามีความเสี่ยงต่อการปรับฐานลง เพราะมีผู้ที่ได้กำไรจำนวนมากแล้ว อาจเกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา และเครื่องมือทางเทคนิคยังบอกว่าราคาเข้าสู่ภาวะ Overbought มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผู้ที่คิดจะเข้าซื้อบิตคอยน์ในช่วงนี้ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง”

ดังนั้น หากไม่หลุดลงมาต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นที่ 3 ซึ่งเป็นขาขึ้นที่ยาวนานที่สุด โดยมีเป้าหมายแนวต้านตามแนว Fibonacci 261.8 อยู่ที่ 47,000

ทั้งนี้มองโอกาสซื้อลงทุนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เมื่อราคาย่อตัวลง ส่วนในระยะกลางและระยะยาวของบิตคอยน์ กราฟเทคนิคบ่งบอกว่า เป็นขาขึ้นค่อนข้างแน่ชัด

“ทองคำ” ราคาไม่ขึ้น แต่ยังน่าลงทุนระยะยาว

ด้านความเคลื่อนไหวราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐได้ และถูกเทขายลงมาจนผลตอบแทนติดลบ 2.3% เนื่องมาจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐ พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นแรงสองวันติดกัน ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1.1% ในสัปดาห์ที่ผ่าน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.. 2020 ทำให้นักลงทุนบางส่วนหันมาย้ายพอร์ตลงทุนไปยังพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แทน

(Photo by Yoray Liberman/Getty Images)

อย่างไรก็ตาม มองว่าในระยะยาวทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน เพราะแนวโน้มใหญ่ของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ยังคงอ่อนค่า ซึ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำ ขณะที่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังของสหรัฐฯ ยังส่งผลให้แนวโน้มเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทองคำจะเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดี ประกอบกับอัตราดอกเบี้ย ยังไม่เห็นโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีนี้

มองว่า การปรับตัวลดลงแรงของทองคำในสัปดาห์ก่อน ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อหวังกำไรในระยะกลางถึงยาว จากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจมหภาคที่ยังหนุนราคาทองคำ ประกอบกับกราฟเทคนิคยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มแต่อย่างไร หากไม่หลุดระดับ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมองเป้าหมายแรก หากราคาฟื้นตัว จะมีแนวต้านที่ 1,966 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวต้านถัดไปที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ

เป็นไปได้ว่านักลงทุนที่ลงทุนในบิตคอยน์ และทองคำอาจจะเป็นคนละกลุ่มกัน แม้ว่าทั้งสองสินทรัพย์จะมีคุณสมบัติที่เป็น Store Of Value เหมือนกัน และถูกคาดหวังในการเป็นตัวแทนของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนในทองคำอาจจะเป็นกลุ่มอนุรักษนิยม ซึ่งยึดติดกับทฤษฎีการลงทุนเก่าที่ว่าทองคำจะเคลื่อนไหวผกผันกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และเงินเฟ้อ

ส่วนนักลงทุนในบิตคอยน์น่าจะเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ ทั้งรายย่อยและสถาบัน ที่ให้น้ำหนักกับปัจจัยเรื่องเทคโนโลยีที่มีอยู่ในบิตคอยน์ ซึ่งเหมาะสมกับการเป็นสินทรัพย์ในยุคดิจิทัลมากกว่าทองคำ

ทำให้ช่วงที่ผ่านมาราคาบิตคอยน์สามารถเอาชนะทองคำในแง่ผลตอบแทนมาได้ตลอด จากความคาดหวังว่าบิตคอยน์ จะเป็นสินทรัพย์แห่งอนาคต ถึงอย่างไรทั้งสองสินทรัพย์ต่างมีอนาคตที่ดีทั้งคู่

ทั้งบิตคอยน์ และทองคำ ต่างมีศักยภาพในการที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ในแง่ของราคาได้ นักลงทุนอาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเหมาะสมกับตัวเอง ถ้ารับในความเสี่ยงและความหวือหวาได้ ก็เลือกเทรดทำกำไรในบิตคอยน์ ส่วนนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงเรื่องราคามากนัก ก็เลือกลงทุนในทองคำ

]]>
1313715