โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth
แต่วันนี้ผมขออนุญาตไม่ขยายความมากนะครับ หากคุณสนใจ สามารถไปย้อนดู Live ในช่องทาง Facebook และ Youtube ของ Jitta Wealth ดูได้ เพราะสิ่งที่ผมตั้งใจจะนำมาเล่าให้ฟังวันนี้ไม่ใช่เนื้อหาส่วนนี้ครับ
เรื่องที่ผมอยากจะแชร์วันนี้ คือการอยากหยิบยกประเด็นตอนหนึ่งที่ผมได้พูดไปในวันนั้นขึ้นมา ซึ่งผมว่าน่าจะตรงใจใครหลายๆ คนอยู่ นั่นก็คือการสร้างล้านแรกให้ได้ภายใน 3 ปี
ใช่แล้วครับวันนี้ผมมีเคล็ด(ไม่)ลับ ปั้นพอร์ตเงินล้าน ที่พิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง ในเวลาแค่ 3 ปี!
คุณอาจจะบอกว่าผมพูดเกินจริง!
ก็อาจจะใช่ครับ แต่เชื่อสิครับว่าคุณทำได้ เพราะนี่คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่คุณเองก็สามารถไปถึงได้…จะเป็นยังไงมาดูกันได้เลยครับ
คุณคงคุ้นเคยกับชื่อของ Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลก แต่สิ่งหนึ่งที่น้อยคนจะรู้คือ Einstein ได้ยก ‘ผลตอบแทนทบต้น’ เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกครับ
แล้วเราจะใช้สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกนี้มาสร้างล้านแรกได้อย่างไรหรอครับ ตามผมมาเลยครับ วันนี้ผมมีตัวอย่างที่จะทำให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น
เริ่มด้วยพอร์ตตัวอย่างของผมนั่นเอง!
พอร์ตที่ว่าก็คือ Global ETF ที่เป็นนโยบายการลงทุนแบบเน้นกระจายความเสี่ยงที่จัดพอร์ตลงทุนในหุ้นคุณภาพดีทั่วโลกผ่าน ETF ชั้นนำให้แบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามตลาด ไม่อยากมานั่งเลือกประเทศ เลือกตลาดหุ้นให้วุ่นวาย แต่ต้องการโอกาสการลงทุนแบบ VI
ต้องออกตัวก่อนว่าพอร์ตนี้ผมตั้งใจที่จะเก็บไว้เป็นเงินทุนให้ลูก ก็จะค่อยๆ เก็บสะสมไปยาวๆ โดยวิธีการลงทุนใน Global ETF จนได้ล้านใน 3 ปีนั้น ผมเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท และ DCA อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนจากแรกๆ 10,000 บาทต่อเดือน และต่อมาก็ขยับเพิ่มเป็น 20,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาลงทุนตั้งแต่ 31 สิงหาคม 2563 – 3 เมษายน 2567
ระหว่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไร แค่ปล่อยให้มหัศจรรย์ผลตอบแทนทบต้นทำงานต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้ครบ 1 ล้านบาท หรือมีผลตอบแทนรวม +53.83% (Money-weighted Return)
นี่แหละครับพลังแห่งการ DCA ที่สร้าง ‘ผลตอบแทนทบต้น’ ที่คุณเองก็สามารถปั้นเงินล้านได้เหมือนกันครับ
คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นที่ 100,000 บาทเหมือนผม สามารถลงทุนแบบเบาๆ ได้ครับ แต่นั่นก็ต้องยอมแลกกับระยะเวลา เพราะจำนวนเงินที่จะ DCA เข้าพอร์ตในแต่ละเดือนที่แตกต่างกัน ย่อมมีผลต่อระยะเวลาพิชิตเป้าหมาย ซึ่งจริงๆ แล้ววิธีการปั้นเงินล้านแรกมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ รายได้ต่อเดือน สไตล์การ DCA หรือระยะเวลาที่อยากพิชิตเป้าหมายของแต่ละคน
ผมอาจจะเป็นตัวอย่างที่ฮาร์ดคอร์เกินไป คุณอย่าเพิ่งถอดใจครับ เพราะผมยังมีตัวอย่างมาให้คุณได้ลองพิจารณาและเลือกว่า สายไหนที่เหมาะกับคุณ โดยผมได้ตั้งสมมติฐานให้ทุกคนเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 10,000 บาทเท่ากันใน Global ETF แผนเติบโตที่มีผลตอบแทนคาดหวังอยู่ที่ 8% ต่อปี แล้ว DCA ทุกๆ เดือนด้วยจำนวนเงินที่ต่างกัน และหักค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ 0.5% เรียบร้อยแล้ว
ตัวอย่างที่ 1 เงินล้านแรกสำหรับสายชิล
ถ้าเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 20 ตอนอายุ 39 ก็จะมีเงินล้านแรกพอดี และพอมีล้านแรกแล้วล้านต่อไปก็ไม่ยากแล้ว
ตัวอย่างนี้เหมาะกับคนค่อยๆ เก็บ หรือมีภาระค่าใช้จ่าย เป็นการลงทุนแบบชิลๆ อาศัยวินัยในการลงทุนปั้นพอร์ตเงินล้าน
ตัวอย่างที่ 2 เงินล้านแรกสำหรับสายสบายใจ
ถ้าเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 20 ปี นางสบายใจจะมีเงินล้านแรกตั้งแต่อายุ 35 ปีเท่านั้น ฉะนั้น หากอยากเร่งฝีเท้าขึ้นสักหน่อย สำหรับสายสบายใจตัวอย่างนี้เหมาะกับคนค่อยๆ เก็บ หรือมีภาระค่าใช้จ่าย แต่ต้องการลงทุนมากกว่านางชิลใจเล็กน้อย ก็สามารถเร่งความเร็วในการปั้นเงินล้านแรกได้แล้ว
ตัวอย่างที่ 3 เงินล้านแรกสำหรับสายมุ่งมั่น
ถ้านายวินัยเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่อายุ 20 ปี ความฝันของนายวินัยก็จะเป็นจริงได้ตอนอายุ 31 ปี หรือใช้เวลาปั้นพอร์ตเงินล้านเพียง 11 ปีเท่านั้น
สำหรับนักลงทุนที่อยากเปลี่ยนจากเดินเร็ว เป็นวิ่งเร็ว ก็ดูนายวินัยเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ แต่ต้องจัดสรรตัวเองหน่อยนะครับ เพราะตัวอย่างนี้เหมาะกับคนที่อาจจะไม่ค่อยมีภาระค่าใช้จ่าย หรือมีรายได้หลายทาง ทำให้มีเงินเหลือเก็บต่อเดือนเยอะกว่าคนอื่นๆ สักหน่อย ความมุ่งมั่นในช่วง 10 ปีนิดๆ นี้ก็สามารถพิชิตเงินล้านได้
ตัวอย่างที่ 4 เงินล้านแรกสำหรับสายเร่งรัด
สำหรับคนที่อยากเร่งเวลาปั้นเงินล้านให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ต้องดูตัวอย่างจากนายเติบโตที่จะมีเงินล้านใน 5 ปี และเงินล้านนั้นก็จะเติบโตได้อีกเยอะในช่วง 10 ปีก่อนเกษียณ
ตัวอย่างของนายเติบโตใช้ได้กับคนที่อยากเร่งให้ตัวเองมีเงินล้านเร็วๆ ภายใน 5 ปี ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ เยอะ หรือมีรายได้หลายทาง มีรายได้เพียงพอให้ DCA เดือนละ 14,000 บาท
หรือคนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนตอนอายุเยอะขึ้นมาหน่อย ในช่วงที่เงินเดือนมากกว่าตอนทำงานแรกๆ แล้วอยากเร่งให้พอร์ตเติบโตก่อนเกษียณ
นี่คือตัวอย่างการปั้นเงินล้านแรกง่ายๆ สบายใจ แต่ไม่ว่าจะเป็น 19 ปี 15 ปี 11 ปี หรือ 5 ปี หรือแม้กระทั่งพอร์ตของผมที่ใช้เวลา 3 ปี ตัวอย่างเหล่านี้มาจากผลตอบแทนคาดหวังของ Global ETF แผนเติบโตที่ 8%
ซึ่งในความเป็นจริงผลตอบแทนในแต่ละปีก็อาจจะสูงกว่า 8% ก็ได้ เช่นในปี 2566 ที่ผ่านมาผลตอบแทนเฉลี่ยของ Global ETF แผนเติบโตก็สูงถึง 15.37% เลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้ คุณสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนเงิน DCA ตามเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น หรือตามภาระค่าใช้จ่ายที่ลดลงก็ได้ ก็จะย่นระยะเวลาปั้นเงินล้านลงได้เช่นกัน และถ้าคุณถึงล้านแล้วยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็ลงทุนต่อจากหลักล้าน ก็กลายเป็นสิบล้านได้เช่นกันครับ ด้วยพลังของผลตอบแทนทบต้นที่ช่วยให้เงินของคุณเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
ที่สำคัญมากกว่าผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ ยังมีเรื่องของการกระจายความเสี่ยง จัดสรรสินทรัพย์อย่างดี ทำให้พอร์ตของคุณไม่ผันผวนมากเกินไป เป็นการเก็บเงินล้านแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป และสบายใจ
ให้โลกรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร…มาจากไหน ก็ปั้นเงินล้านแบบ VI ระดับโลกได้ ด้วยหลักการที่ดี และวินัยของเราเอง!
โดยตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth
กลยุทธ์การลงทุนที่มีองค์ประกอบครบทั้ง เวลา วินัยและความอดทน ทั้ง 3 สิ่งนี้รวมอยู่ในเรื่องของ Dollar cost Average (DCA) หรือการลงทุนแบบถั่วเฉลี่ยอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
ดังนั้นหากจะพูดว่ากลยุทธ์การ DCA หรือเพิ่มทุนอย่างสม่ำเสมอในสินทรัพย์ที่ดีเป็นหนทางแห่งความสำเร็จในโลกการลงทุนก็คงจะไม่ผิดเพี้ยนมากนัก
การ DCA ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าช่วยสร้างผลตอบแทนให้ดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องจับจังหวะ
และยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมาก!
จนบางครั้งอาจจะชี้ชะตาว่าพอร์ตจะกำไรหรือขาดทุนได้เลย
แต่ผมเชื่อว่ายังมีนักลงทุนหน้าใหม่ที่กำลังละล้าละลัง ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นลงทุน เพราะคิดว่าเงินทุนที่มีในมือจะน้อยเกินกว่าจะใช้สร้างกำไรได้
ผมอยากบอกตรงนี้เลยครับว่า คุณไม่จำเป็นต้องพะวงอะไรให้มากมายเลยครับ เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ที่ดียิ่งเริ่มเร็ว ก็ยิ่งทำให้การลงทุนระยะยาวของคุณค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่มีประสิทธิภาพได้
ยิ่งในปัจจุบันการลงทุนเป็นเรื่องเข้าถึงง่ายและรวดเร็วขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องรอเก็บเงินจนได้ก้อนใหญ่ มีเงินเพียงไม่กี่บาทก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้แล้ว และยิ่งหากคุณสร้างวินัยให้กับตัวเองด้วยการออมเงิน DCA ได้อย่างสม่ำเสมอจะยิ่งเห็นหนทางแห่งความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้าเลยครับ
หากคุณยังรู้สึกว่าการ DCA ทำได้ยาก หรือคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ DCA กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอยู่
วันนี้ผมมี 3 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ DCA กลายเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถเริ่มต้นออมเงินหรือ DCA ได้อย่างสม่ำเสมอ ทำอย่างไรตามไปดูกันได้เลยครับ
อาจจะฟังดูน่าเบื่อเพราะเป็นวิธีที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ แต่ถ้าคุณทำได้คุณจะเข้าใจว่ามันสำคัญมากแค่ไหน
คุณไม่จำเป็นต้องมองหาสมุดบัญชีมาเริ่มต้นการบันทึกให้ดูยุ่งยากเลยครับ เมื่อคิดจะเริ่มแล้ว เพียงแค่หยิบมือถือที่คุณติดมืออยู่ขึ้นมาแล้วเริ่มการจดรายรับรายจ่ายของคุณใส่ในแอปโน๊ตธรรมดาๆ หรือจะเป็นแอปสำหรับรายรับรายจ่ายที่จะช่วยให้คุณบันทึกรายรับ-รายจ่ายอย่างสะดวกขึ้นก็สามารถทำได้ง่ายๆ ครับ
เพราะไม่ว่าจะจดที่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับ ‘จด’ จริงๆ แค่คุณเริ่มทำแบบนี้สัก 2-3 เดือนคุณก็จะพอเห็นภาพชัดเจนขึ้นแล้วว่า ‘คุณหมดเงินไปกับอะไรบ้าง’
แน่นอนว่าถึงตอนนั้นมันจะช่วยให้คุณสามารถเลือกว่ารายการไหนที่ไม่จำเป็น ตัดได้ หรือตัดไม่ได้ แล้วเอางบส่วนนั้นมาใส่เป็นรายการ DCA เติมเข้าพอร์ตรายเดือนได้บ้าง
ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะครับ เพราะวิธีนี้จะทำให้คุณเห็นภาพมากขึ้นว่า คุณสามารถ DCA ได้เดือนละเท่าไหร่ ถ้าอยากเพิ่มจำนวนเงินจะทำอย่างไรได้บ้าง
ถ้ามีคนมาบอกว่า ‘คุณจะมีเงินออมมากขึ้น ถ้าคุณใช้มากขึ้น’ ฟังแล้วคุณอาจจะคิดว่า มันช่างย้อนแย้งจัง จะเป็นไปได้อย่างไร
แต่อย่าลืมว่าการใช้จ่าย ได้ช้อปปิ้งในสิ่งที่ชอบ ถือเป็นความสุขในชีวิตครับ
ดังนั้นคุณอาจจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
แต่ใช้วิธีช้อปที่ช้อบชอบบบ มาช่วยออมเงินแทน
วิธีการก็คือ คุณต้องตั้งกฏให้กับตัวคุณเอง ‘ซื้อเท่าไหร่ ก็ออมเท่าที่ใช้ไป’
นอกจากจะเก็บเงินได้แล้ว คุณก็จะไตร่ตรองมากขึ้นก่อนช้อป และเมื่อมีเงินเก็บ คุณก็สามารถแบ่งเงินนั้นไป DCA ต่อได้บ่อยขึ้นด้วย
หรือคุณอาจจะตั้งกฏที่เบาลงไปหน่อยว่า ถ้าเดือนนี้ใช้เงินเกิน 5,000 บาท จะต้องโอนเงินเข้าพอร์ต 1,000 บาท ถ้าใช้เงินเกิน 10,000 บาท จะโอนเงินเข้าพอร์ต 5,000 บาท
พอร์ตของคุณก็จะงอกเงยขึ้นได้ด้วยเงินเพิ่มทุนเหล่านี้
นอกจากจะเก็บเงินได้แล้ว คุณก็จะไตร่ตรองมากขึ้นก่อนช้อป และเมื่อมีเงินเก็บ คุณก็สามารถแบ่งเงินนั้นไป DCA ต่อได้บ่อยขึ้น มากขึ้นแบบไม่รู้สึกผิดกับการใช้จ่ายครับ
เทคนิคสุดท้ายของวันนี้ อาจจะเป็นสูตรที่ดูคุ้นตา แต่คุณต้องรู้ไว้ว่าหนทางการออมเงินที่เวิร์กที่สุดสำหรับหลายๆ คนคือ ‘ออมก่อนใช้’
การแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ เป็นเรื่องสำคัญมาก! สูตร 50/30/20 ก็เป็นหนึ่งในสูตรแบ่งเงินยอดฮิต
ง่ายๆ เลยครับ เมื่อเงินรายได้ของคุณเข้าบัญชีมา คุณก็แค่จัดแบ่งออกเป็นก้อนๆ ประมาณนี้
และส่วนนี้ 20% นี้จะเป็นส่วนที่เราจะแบ่งสัดส่วนมันอีกทีก็ได้ว่า จะ DCA สำหรับพอร์ตลงทุนเท่าไหร่ และเหลือไว้เท่าไหร่สำหรับเป็นเงินเก็บฉุกเฉิน
ซึ่งสัดส่วนเหล่านี้ เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นครับ คุณเองก็สามารถออกแบบตัวเลขในแต่ละส่วนของคุณได้ตามความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ
แต่อย่าลืมว่าเมื่อได้สัดส่วนที่จะเอามา DCA แล้ว ทุกครั้งที่มีเงินเดือนหรือรายรับเข้ามาก็แบ่งเงินให้ชัดเจนก่อนนำไปใช้ หรือหากกลัวลืมผมเทคนิคง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับตัวเองได้ อย่างเช่นการตั้งค่า DCA ในวันที่เงินเดือนออกก็สะดวกดี
ทุกวันนี้ก็มีหลายแอปการเงินที่ได้นำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยนักลงทุนให้สามารถเลือกตั้งค่า DCA ไว้แล้ว เช่นเดียวกับแอปของ Jitta Wealth ที่ได้พัฒนาฟีเจอร์การ DCA เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า สามารถออมก่อนใช้ ช่วยให้คุณลงทุนอย่างมีวินัยและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
]]>