Eastspring – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 07 Feb 2023 12:10:14 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Eastspring มองปี 2023 หุ้นเอเชียได้ผลดีจากจีนเปิดประเทศ แนะธีมลงทุนในหุ้นผันผวนต่ำ https://positioningmag.com/1418046 Tue, 07 Feb 2023 02:06:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1418046 บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) มองธีมการลงทุนในปี 2023 ว่า หุ้นเอเชียนั้นจะได้ประโยชน์จากจีนเปิดประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นอาจไม่ถดถอยมากอย่างที่คาดไว้  ขณะเดียวกันธีมการลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ รวมถึงธีมการลงทุนแบบ ESG ที่กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ

ดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงเศรษฐกิจโลกหลังจากที่ IMF ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกรอบล่าสุดเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า IMF เพิ่งปรับตัวเลข GDP หลังจากจีนเปิดประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจมีโอกาสถดถอย ตรงกันข้ามกับจีนเพิ่งประกาศเปิดประเทศ

เธอยังมองว่าการแพร่ระบาดของโควิดในจีนได้ผ่านจุดสูงสุดของไปแล้ว ไม่เพียงเท่านี้เธอยังมองว่าการปราบปรามกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีจีนก็สิ้นสุดเช่นกัน โดยเธอให้เหตุผลว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเกมหลายแห่งได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลจีน ยังรวมถึงแพลตฟอร์มเรียกรถอย่าง Didi ยังได้รับไฟเขียวให้กลับมาบริการได้อีกครั้ง

ขณะที่จีนเปิดประเทศเองนั้น ประเทศรอบๆ จีนได้ประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ดารบุษป์ มองว่าบริษัทหลายบริษัทย้ายฐานกำลังการผลิตออกจากจีน เช่น Foxconn ย้ายฐานการผลิตออกมาจากอินเดีย หรือแม้แต่การย้านฐานการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามายังอินโดนีเซีย สัญญาณว่าเอเชียกำลังจะกลับมาเติบโตสดใสอีกรอบ

เธอกล่าวว่าขณะที่นักลงทุนนั้นลดน้ำหนักการลงทุนในจีน ซึ่งหลังจากนี้อาจกลับมาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกับจีน และนั่นจะเป็นผลดีกับหุ้นเอเชียด้วย

กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) มองว่า จีนเปิดประเทศเองนั้น ประเทศรอบๆ จีนได้ประโยชน์อย่างมาก – ภาพจาก Shutterstock

เศรษฐกิจโลกต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อ

บิล มาโดนาโด ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (สิงคโปร์) ได้กล่าวว่าเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้ทุกคนพูดถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจถดถอยหนัก แล้วก็เรื่องเงินเฟ้อที่สูง แต่ตอนนี้เงินเฟ้อลดลง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับปีที่แล้ว แถมอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ กลับลดลงเหลือ 3.4% ซึ่งกลับมาต่ำอีกรอบ

เขายังกล่าวว่าตอนนี้ไม่ใช้ช่วงเวลาเศรษฐกิจขาลงแบบไม่ปกติ แต่เงินเฟ้อเป็นปัญหาใหญ่ ทำให้ธนาคารกลางต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (สิงคโปร์) ยังชี้ว่า ตอนนี้เศรษฐกิจโลกไม่ได้เติบโตแบบสัมพันธ์กัน จีนเพิ่งจะฟื้นตัวและไม่มีเงินเฟ้อ แต่ยุโรปกลับเจอเรื่องเงินเฟ้อ หลายคนเลยแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ

“ตอนนี้เลยจับตามองเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ถ้าเงินเฟ้อกลับขึ้นมา Fed อาจกลับมาขึ้นดอกเบี้ย” บิลกล่าว

บิล ยังชี้ว่าเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง หลังจากนี้อาจเป็นเรื่องของการต่อสู้กับเงินเฟ้อ และโลกของเรา 10-20 ปีจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง แต่เขาก็ชี้ว่าถ้าหากถือแค่เงินสดก็ได้แต่ก็จะโดนเงินเฟ้อกัดกิน ซึ่งเรื่องนี้สำคัญสำหรับการลงทุนอย่างมาก เพราะเราจะต้องหาสินทรัพย์ที่ลงทุนต่อสู้กับเงินเฟ้อได้

ขณะที่เรื่องการลงทุนใน ESG นั้น บิลมองว่าในระยะยาว ถือเป็นเรื่องปกติในการลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนจากยุโรป หลีกเลี่ยงเรื่องดังกล่าวไม่ได้ เขาได้ยกกรณีของนักลงทุนยุโรปมาลงทุนในเอเชียต้องใช้มองมุมมอง ESG ในการตัดสินใจลงทุน ทำให้บริษัทหลายๆ ที่ต้องปรับเพื่อที่จะดึงดูดนักลงทุนชาวต่างชาติ

เขาได้ยกตัวอย่างนักลงทุนชาวต่างชาติหลายคนไม่ลงทุนในหุ้นกู้ที่เกี่ยวข้องกับถ่านหิน แม้ว่าบริษัทมีงบที่ดีมาก เมื่อทุกคนให้ความสำคัญในเรื่อง ESG นักลงทุนก็ขายหุ้นกู้ของบริษัทดังกล่าวออกมา ส่งผลทำให้กระทบต่อนักลงทุนอย่างมาก

ซึ่งเรื่อง ESG บิลกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ Eastspring ให้ความสนใจ

ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (สิงคโปร์) กล่าวว่า เงินเฟ้อเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง หลังจากนี้อาจเป็นเรื่องของการต่อสู้กับเงินเฟ้อ  – ภาพจาก Shutterstock

จัดพอร์ตการลงทุนปี 2023 ยังไงดี

ยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายจัดการลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) กล่าวถึงตลาดหุ้นไทยในปีที่ผ่านมานั้นไม่ได้ไปไหนมาก แต่ถ้าเทียบหุ้นไทยกับตลาดหุ้นอื่นๆ ถือว่าทำผลงานได้ดี

อย่างไรก็ดี ยิ่งยงมองว่า ปีนี้หุ้นไทยมีความท้าทายอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธนาคารต้องตั้งสำรองหนี้สูญมากขึ้นซึ่งกดดันกำไร เงินบาทที่แข็งค่าส่งผลต่อส่งออก ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนกลับมาแน่ๆ รวมถึงไทยมีการเลือกตั้งในช่วงกลางปี แต่เขากลับมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ดีในปัจจุบันนั้นลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้

สำหรับตลาดตราสารหนี้ไทยเขามองว่าค่อนข้างเหนื่อย แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม แต่ดอกเบี้ยตราสารหนี้ไทยวิ่งตามดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เขามองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยน่าจะอยู่ที่ 2% ส่งผลทำให้ตราสารหนี้ระยะสั้นของไทยเริ่มน่าสนใจ

รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายจัดการลงทุน ยังชี้ว่าในปีนี้ควรจะลดสัดส่วนการถือครองเงินสดกับสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) แนะนำว่าหุ้นจีนประเภท A-Shares น่าสนใจจากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ขณะที่เวียดนามเขามองว่ากำไรของตลาดหุ้นยังดี และยังมองว่าหุ้นเอเชียในกลุ่มค้าปลีกและบริษัทกลุ่มผลิตสินค้าน่าสนใจ

ส่วนทางด้านธีมการลงทุนที่ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้แนะนำให้นักลงทุนในปีนี้ได้แก่ ธีมการลงทุนเน้นลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพมีความผัวผวนของราคาต่ำ ธีมลงทุนในเอเชีย ธีมการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูง ธีมลงทุนเน้นความยั่งยืน

แต่ถ้าหากมองหากองทุนในประเทศไทย ธีมใหญ่ที่อีสท์สปริงเน้นในปีนี้คือ ธีมหุ้นปันผลและหุ้นขนาดใหญ่ ธีมหุ้นกู้เอกชนและพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงธีมการลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)

]]>
1418046
อีสท์สปริง ชู 3 กลยุทธ์หลังควบรวมกิจการ บลจ. ทหารไทย และ ธนชาต https://positioningmag.com/1393754 Tue, 26 Jul 2022 06:15:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1393754 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ประกาศวิสัยทัศน์หลังควบรวมกิจการระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring)

ซึ่งการควบรวมกิจการของ บลจ. ทหารไทย กับ บลจ. ธนชาต ถือเป็นการควบรวมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในตลาดการเงินและการลงทุนของประเทศไทย หลังจากที่ทางอีสท์สปริง ได้เข้าซื้อหุ้นของ บลจ. ทหารไทย รวมถึง บลจ. ธนชาต ในปี 2020 เป็นต้นมา

โดยสัดส่วนผู้ถือหุ้นล่าสุด ของ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้แก่ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลถือหุ้นอยู่ที่ 59.5% และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต ถือหุ้นอยู่ที่ 40.5%

ในการควบรวมกิจการของ 2 บลจ. นี้จะทำให้จุดเด่นของผลิตภัณฑ์การเงินนั้นเด่นชัดมากขึ้น ซึ่งในอดีตนั้น 2 บลจ. นี้มีจุดขายแตกต่างที่แตกต่างกันก็คือ บลจ. ทหารไทย จะเน้นกองทุนรวมประเภท Passive Fund ที่เคลื่อนไหวตามดัชนี เช่น SET 50 ของไทย หรือ S&P 500 ของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ขณะที่ บลจ. ธนชาต เองก็มีจุดเด่นในเรื่องของกองทุนรวมประเภท Active ที่มีผู้จัดการกองทุนเลือกสินทรัพย์ในการลงทุน โดยกองทุนที่มีชื่อเสียง เช่น กองทุน Low Beta ที่ทำผลตอบแทนได้ดีเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หลังจากการควบรวมกิจการกันแล้วนั้น อีสท์สปริง ชูกลยุทธ์ 3 เสาหลัก เพื่อเดินหน้าสู่ตัวเลือกในการลงทุนอันดับต้นของคนไทย ในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทให้เติบโตไปอีกขั้น ได้แก่

  • Global Access with Asia Focus ปัจจุบันการลงทุนในต่างประเทศถือเป็นแนวโน้มการลงทุนสำคัญที่ผู้ลงทุนชาวไทยไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีและมีตัวเลือกการลงทุนที่หลากหลายกว่า ดังจะเห็นได้จากข้อมูลของบลูมเบิร์กระหว่างปี 2558 ถึง 2564 พบว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนต่างประเทศให้ผลตอบแทนสูงถึง 11.5% ต่อปี เทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทยซึ่งอยู่ที่ 4.7% และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำการออกกองทุนต่างประเทศที่มีความครอบคลุมและหลากหลาย
  • Investment Advisory & Market Insights บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อว่าการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายหรือ Asset Allocation เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพตลาดและภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ยิ่งทำให้การกระจายการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยทาง บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) มีแผนที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ที่จะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้
  • Holistic Health & Wealth – ด้วยจุดแข็งสำคัญที่มีผู้ถือหุ้นหลักคือกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) ผู้ให้บริการทางการเงินระดับสากล บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อมั่นว่าการผสานกันระหว่างแนวคิดความมั่งคั่งที่มาพร้อมความมั่นคงจะต่อยอดความสำเร็จในโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น ณ ปัจจุบัน ทางบริษัทมีประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) ที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนผ่านพรูเด็นเชียลทั้งหมด 16 กองทุน

อดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวช่วงหนึ่งของงานแถลงข่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ การเติบโต และความแข็งแกร่งของเรา วันนี้เราพร้อมแล้วกับการส่งมอบประสบการณ์การลงทุนที่มีคุณภาพแก่นักลงทุนชาวไทย ภายใต้แบรนด์ใหม่อย่าง บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เพื่อนำเสนอทางเลือกในการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างหลากหลาย

ปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิอยู่ที่ 342,390 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2565) ซึ่งถือว่า บลจ. รายนี้นั้นใหญ่อันดับ 6 ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 

]]>
1393754