esso – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 12 Jan 2023 05:45:46 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 บางจากประกาศซื้อกิจการ ESSO ได้มาร์เก็ตแชร์ปั๊มน้ำมันเป็น 25% คาดปิดดีลได้ครึ่งปีหลัง https://positioningmag.com/1415265 Thu, 12 Jan 2023 04:02:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1415265 บางจากประกาศเข้าซื้อกิจการของ ESSO ในประเทศไทย ทำให้มีเครือข่ายปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,100 สถานี ส่งผลทำให้บริษัทมีสัดส่วนในธุรกิจปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 25% นอกจากนี้ยังได้ธุรกิจโรงกลั่น รวมถึงเครือข่ายคลังน้ำมัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับบริษัทในอนาคต

บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ได้มีมติเอกฉันท์อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมและเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) จาก ExxonMobil

ในช่วงเริ่มต้นของการซื้อกิจการนั้น BCP จะซื้อหุ้นในสัดส่วน 65.99% จาก ExxonMobil เป็นมูลค่า 20,188 ล้านบาท อิงราคาเบื้องต้นหุ้นละ 8.84 บาท และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง หลังจากทำธุรกรรมดังกล่าวแล้วเสร็จนั้นทางบางจากจะประกาศซื้อหุ้นอีก 34.01% ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือ

การลงทุนครั้งนี้ของบางจากที่จะได้มาคือโรงกลั่นน้ำมันที่มีกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง หลังจากการเข้าซื้อกิจการของ ESSO จะทำให้บางจากมีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง

ดีลดังกล่าวยังทำให้บางจากนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นมาเป็น 25% จากเดิม 15% ซึ่งจะทำให้บางจากเป็นรองแค่ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เท่านั้น

สำหรับแหล่งเงินทุนในการเข้าซื้อกิจการนั้น ทาง BCP ชี้แจงว่าจะใช้เงินทุนหลากหลายช่องทางในการเข้าซื้อไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อจากสถาบันการเงิน รวมถึงกระแสเงินสดภายในบริษัท

โดยหลังจากการขายกิจการ ESSO ออกไปแล้วนั้นทาง ExxonMobil จะยังคงดำเนินธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยต่อไป

คาดว่าดีลในการซื้อหุ้นสัดส่วน 65.99% ทางบางจากและ ExxonMobil คาดว่าจะสามารถดำเนินการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จได้สำเร็จภายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 ขึ้นอยู่กับหน่วยงานกำกับดูแลรวมถึงการอนุมัติของผู้ถือหุ้น ESSO หลังจากนี้

]]>
1415265
“ไมเนอร์ ฟู้ด” ผุดแบรนด์ใหม่ “Coffee Journey” ปั้นร้านกาแฟบุกปั๊มน้ำมัน ท้าชน Amazon https://positioningmag.com/1298006 Mon, 21 Sep 2020 09:50:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1298006 ไมเนอร์ฟู้ดเปิดตัวแบรนด์ใหม่ Coffee Journey ร้านกาแฟระดับแมส เปิดเซ็กเมนต์ใหม่จับตลาดร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันเป็นครั้งแรก เปิดสาขาแรกที่ปั๊มเอสโซ่รามอินทรา กม. 6.5

ลุยตลาดร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน

ถือว่าเป็นทิศทางใหม่ของ “ไมเนอร์ ฟู้ด” เจ้าของเชนร้านอาหารแบรนด์ดังในไทย ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ Coffee Journey วางจุดยืนเป็นร้านกาแฟในระดับแมส ราคาเข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้น 35-50 บาท จับตลาดปั๊มน้ำมันโดยเฉพาะ

ซึ่งต้องบอกว่า Coffee Journey เป็นร้านกาแฟแบรนด์แรกของกลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด ที่ผ่านมาในพอร์ตจะมีแต่กลุ่มร้านอาหาร ฟาสต์ฟู้ด ขนมหวาน ยังไม่มีร้านกาแฟโดยเฉพาะอย่างจริงจัง โดยที่ทางไมเนอร์ ฟู้ดได้เริ่มทำแบรนด์นี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว และได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา

จริงๆ แล้วไมเนอร์ ฟู้ดเองได้มีแบรนด์ The Coffee Club อยู่ในเครือ แต่จะเน้นวางจุดยืนเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ในระดับพรีเมียมเสียมากว่า ทำให้ Coffee Journey จับกลุ่มเป้าหมายในระดับแมส

Coffee Journey minor

ที่สำคัญคือการวางโลเคชั่นที่เน้น “ปั๊มน้ำมัน” โดยเฉพาะ เป็นการบุกตลาดร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันอย่างเต็มตัว ต้องบอกว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ตลาด Non-Oil หรือตลาดธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันของกลุ่มปั๊มน้ำมันมีการเติบโตสูงมาก ผู้เล่นปั๊มเล็ก ปั๊มใหญ่ต่างให้น้ำหนักในส่วนร้านค้าปลีก และปั๊มน้ำมันมากขึ้น

ตลาดนี้มีกำไรที่ดีกว่า และเสถียรกว่าธุรกิจน้ำมัน ที่สำคัญคนเดินทางมากขึ้น ใช้บริการปั๊มน้ำมันในการพักผ่อน

ที่สำคัญคือ ไมเนอร์ ฟู้ดได้ปั้น Coffee Journey เพื่อบุกตลาดแฟรนไชส์อย่างชัดเจน ตอนนี้ได้เริ่มขายแฟรนไชส์บ้างแล้วและจะขยายสาขาต่อไปเรื่อยๆ มีการจับกลุ่มโลเคชั่นปั๊มน้ำมัน อาคารสำนักงาน

กระจายความเสี่ยงจากศูนย์การค้า

ต้องจับบตาดูว่าปั๊มน้ำมันจะกลายเป็นหนึ่งในน่านน้ำใหม่ของธุรกิจค้าปลีก และร้านอาหาร ที่จะกระจายความเสี่ยงจากวิกฤตการณ์ต่างๆ รวมถึงเป็นอีกช่องทางในการหารายได้เพิ่มขึ้น

เพราะจากช่วงล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ศูนย์การค้าต้องปิดตัวลงชั่วคราว ร้านอาหารไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ต้องซื้อกลับบ้าน หรือเดลิเวอรี่

Coffee Journey minor

แต่ในปั๊มน้ำมัน อย่างไรแล้วคนก็ยังต้องเดินทาง ถึงแม้จะมีมาตรการล็อกดาวน์ ไม่สามารถนั่งทานที่ร้านได้ แต่เมนูกาแฟยังสามารถซื้อทานบนรถขณะเดินทางได้อยู่ดี เป็นการกระจายความเสี่ยงอีกทางหนึ่ง

เรียกว่าเป็นการปรับตัวรับกับการเปลีย่นแปลงในตลาดได้อย่างดี อีกทั้งตลาดร้านกาแฟในไทยยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าตลาดร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันต้องดุเดือดอย่างแน่นอน…

]]>
1298006
ESSO ทุ่ม 2 พันล้าน ขยายสาขา-ปรับโฉม 600 แห่ง ดึง 50 แบรนด์ร้านค้าสู้ศึกค้าปลีกในปั๊ม https://positioningmag.com/1226276 Tue, 23 Apr 2019 23:05:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1226276 เมื่อสถานีบริการน้ำมันยุคนี้ ต้องไม่มีแค่บริการเติมน้ำมัน แต่ได้กลายเป็นอีกหนึ่งใน “ธุรกิจค้าปลีก” ที่มองข้ามไม่ได้ เพราะมีทั้ง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารจานด่วนแบรนด์ดังเข้ามาเปิดสาขา เพื่อเป็น “แม่เหล็ก” ในการดึงดูดลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ

ทำให้ เอสโซ่ สถานีบริการน้ำมันของสหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาเปิดธุรกิจในไทยมาตั้งแต่ปี 2547 จึงต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วง 7 ปีที่ผ่านมา โดยปีนี้เอสโซ่ตั้งงบลงทุน 2 พันล้านบาท เพื่อใช้ขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 60 แห่ง จากปีก่อนที่มีสถานีบริการน้ำมันรวม 608 แห่ง โดยเป็นสถานีบริการต้นแบบ (Flagship Station) 10 แห่ง ทำให้มี Flagship เพิ่มเป็น 35 แห่งในปีนี้

พร้อมกับปรับปรุงสถานีบริการให้มีรูปโฉมใหม่ภายใต้รูปแบบ Synergy ให้ครบทั้งหมดจากล่าสุดปรับปรุงไปแล้ว 300แห่ง โดยมีเพิ่มร้านค้าพันธมิตรอีก 50 ร้าน เพื่อให้ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรมากที่สุดให้เอสโซ่ ต่อเนื่อง

มาโนช มั่นจิตจันทรา ผู้จัดการตลาดขายปลีก บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO เปิดเผยว่า กลยุทธ์ของเอสโซ่นั้น จะไม่ลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) เอง แต่จะดึงพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญกว่ามาลงทุน อาทิ ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ร้าน Grand COFFEE BOY, ร้าน RABIKA COFFEE ร้านครัวพี่เสือ ร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท, ร้านไก่ทอดเคเอฟซี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

ในปี 2561 เอสโซ่มีการขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึง 73แห่ง แต่ได้มีการปิดสถานีบริการที่มีให้ผลตอบแทนไม่คุ้ม และมีการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันให้มีรูปโฉมใหม่ภายใต้รูปแบบ Synergy จำนวน 213 แห่ง

เอสโซ่ มองว่า ธุรกิจค้าน้ำมันยังไปได้ดี แม้ว่ากระแสการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภาคพลังงาน แต่ก็ยังเชื่อว่าความต้องการใช้น้ำมันในอีก 10 ปีข้างหน้าจะยังคงมีความต้องการอยู่มาก โดยเฉพาะในการขนส่งของรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือน้ำมันอากาศยานที่ EV ยังเข้ามาทดแทนไม่ได้.

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9620000039417

]]>
1226276
“Starbucks” ควงเอสโซ่ เปิดสาขาในปั๊ม ประเดิม 3 สาขา นอกกรุงเทพฯ https://positioningmag.com/1167878 Mon, 30 Apr 2018 09:40:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1167878 นับเป็นการเปิดเกมรุกแบบวิน วิน ระหว่างเอสโซ่และสตาร์บัคส์ในการเปิดร้านกาแฟระดับพรีเมียม ในการเปิดสตาร์บัคส์ในปั๊มน้ำมัน

มาโนช มั่นจิตจันทรา กรรมการและผู้จัดการตลาดขายปลีก บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) บอกถึงที่มาของความร่วมมือ มาจากความต้องการในการรุกธุรกิจ Non-Oil ของเอสโซ่ ให้นำ้หนักกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน รวมทั้งธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) มากขึ้น ทั้งจากความร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้ารายเดิมอย่างต่อเนื่อง และสร้างพันธมิตรทางการค้ารายใหม่ 

โดยปีนี้ได้วางแผนเปิดร้านค้าในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 50-60 ร้านค้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 307 ร้านค้า 

พันธมิตรทางการค้ารายใหม่ล่าสุด คือ ร้านกาแฟชื่อดัง Starbucks เปิดสาขาในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ประเดิม 3 สาแรก ภายในไตรมาส 4 เช่น บางบัวทอง นนทบุรี, วังมะนาว เพชรบุรี และกาญจนบุรี 

จากเดิมก่อนหน้านี้สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่มีพันธมิตรทางการค้าที่เปิดร้านกาแฟหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟดิโอโร่ และร้านกาแฟราบิก้า เป็นต้น

นอกจากนี้ เอสโซ่ ยังเตรียมปรับรูปแบบร้านสะดวกซื้อไทเกอร์มาร์ทใหม่เพื่อรองรับความต้องการของบางสถานีบริการที่ต้องการมีร้านสะดวกซื้อที่ไม่ต้องมีขนาดใหญ่มาก แต่มีสินค้าที่คนในชุมชนต้องการ

ปัจจุบันเอสโซ่มีร้านไทเกอร์อยู่ 50 แห่ง จากเดิมที่เคยมีราว 100 แห่ง แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทยอยปิดร้านไทเกอร์มาร์ทลง โดยให้พันธมิตรทางการค้าที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาเปิดแทน ไม่ว่าจะเป็นเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส, แฟมิลี่มาร์ท, มินิบิ๊กซี, เอส มินิมาร์ท 

ส่วนแผนการขยายสถานีบริการน้ำมันในปีนี้ จะเปิดเพิ่ม 80 แห่ง จากสิ้นปีที่แล้วมีอยู่ 553 แห่ง โดย 50 แห่งเป็นการเปลี่ยนจากสถานีบริการน้ำมันเพียวมาเป็นเอสโซ่แทน และที่เหลืออีก 30 แห่งเป็นการสร้างสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ใหม่

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนปรับโฉมปั๊มใหม่ให้เป็นตามมาตรฐานสถานีบริการน้ำมันเอ็กซอนทั่วโลก โดยช่วง มี..-เม..นี้จะเปิดสถานีบริการต้นแบบ 6 แห่ง บริเวณพระราม 4, รังสิต, วังน้อย, ลาดพร้าว, สมุทรสาคร และสมุทรปราการ โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิมได้ราว 200 แห่ง และปี 2563 จะปรับปรุงครบทุกแห่งทั่วประเทศ โดยปีนี้บริษัทวางงบลงทุนในการขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันประมาณ 2 พันล้านบาท

จากนโยบายการรุกตลาดค้าปลีกอย่างเต็มที่ในปีนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันไว้เพิ่มขึ้นจากเดิม 11% เป็นอันดับ 4 รองจาก ปตท. บางจาก และเชลล์ โดยคาดว่าปลายปี 2561 จะมีส่วนแบ่งการตลาดแซงหน้าเชลล์.

]]>
1167878
ไดร์ฟทรูเอฟเฟกต์! เบอร์เกอร์ คิง เดินหน้าขยายอีก 20 สาขา หลังโตได้ดีในปั๊มเอสโซ่ https://positioningmag.com/1133856 Fri, 21 Jul 2017 10:55:27 +0000 http://positioningmag.com/?p=1133856 เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถมีมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งทางการตลาดสูง แต่เบอร์เกอร์ คิง ก็ไม่หวั่น เดินหน้ารุกขยายไดร์ฟทรูเต็มที่ หวังเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ให้ได้ 30%

หลังจากที่ เบอร์เกอร์ คิง แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดจากอเมริกา ได้จับมือร่วมกันกับปั๊มน้ำมันเอสโซ่เปิดสาขาในโมเดลไดร์ฟทรูในปั๊มน้ำมัน จนขยายได้ครบ 10 สาขาโดยพบว่ามียอดขายโตขึ้นกว่า 28% ทำให้เบอร์เกอร์ คิงเตรียมทุ่มงบอีกกว่า 500 ล้านบาท เดินหน้าขยายสาขาไดร์ฟทรูเพิ่มอีก 20 สาขาในปีหน้า (2561) ภายใต้งบการลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 25 ล้านบาท เพื่อหวังสร้างฐานลูกค้าใหม่เพิ่มจากเดิมอีก 30% โดยจะเน้นเปิดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก

ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือไมเนอร์ฟู้ด กล่าวว่า หลังจากที่ใช้กลยุทธ์ในการขยายสาขาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละทำเล ทำให้ยอดขายแข็งแกร่งและมีจำนวนลูกค้าเติบโตมากขึ้นชัดเจน สามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากไดร์ฟทรูถึง 28% ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าลูกค้าชอบความสะดวกสบายมากขึ้น แม้ว่าจะมีคู่แข่งทางการตลาดสูง แต่เบอร์เกอร์ คิงยังคงมีจุดแข็ง โดยเน้นการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในราคาที่จับต้องได้

โดยหลังจากที่เปิดไดร์ฟทรูมาได้ ปี เบอร์เกอร์ คิงได้มีลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นคือกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการปั๊มน้ำมัน และเดินทางสัญจร ทางรถยนต์ จากเดิมที่มีเพียงฐานลูกค้าต่างชาติและกลุ่มคนทำงานเท่านั้น

ในขณะที่การขยายสาขาของ เบอร์เกอร์ คิง นั้นยังคงจับมือพันธมิตรกับเอสโซ่ต่อ แต่ก็ไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ในปั๊มเอสโซ่เท่านั้น เพราะถ้าหากมีปั๊มน้ำมันอื่น เช่น ปตท เชลล์ บางจาก หรือคาลเท็กซ์ สนใจ ก็สามารถติดต่อร่วมกันได้

ปัจจุบัน เบอร์เกอร์ คิง มีสาขา 80 แห่ง ในประเทศไทย และ อีก 6 สาขาในอีก 3 ประเทศ โดยในไทยแบ่งเป็นสาขาในสนามบิน 13 สาขา ร้านไดร์ฟทรู 19 สาขา และที่เหลือเป็นร้านนั่งรับประทาน และจะขายเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 20 สาขา ภายในปี 2561

]]>
1133856
เอสโซ่ เตรียมรีแบรนด์ เปิดปั๊มโฉมใหม่ Synergy ปลายปี ขอ 4 ปี โค่นบางจาก https://positioningmag.com/1128051 Mon, 05 Jun 2017 11:18:46 +0000 http://positioningmag.com/?p=1128051 เอสโซ่ปรับโฉมปั๊มใหม่ภายใต้ชื่อ Synergy ให้ดูทันสมัย รูปแบบเดียวกับปั๊มที่สิงคโปร์และฮ่องกง คาดเปิดนำร่องปลายปีนี้ 3-5 แห่งเพื่อวัดความพึงพอใจของลูกค้า เผยเปิดตัวน้ำมันพรีเมียม ซูพรีมพลัส
แก๊สโซฮอล์ 95 ดันยอดขายน้ำมันพุ่งหวังชิงส่วนแบ่งตลาดขายน้ำมันผ่านปั๊มอันดับ 2 ในปีข้างหน้า

ยอดพงศ์ สุตธรรม กรรมการและผู้จัดการฝ่ายการตลาดค้าปลีก น้ำมันเชื้อเพลิง บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับโฉมสถานีบริการน้ำมันใหม่ภายใต้ชื่อ Synergy ให้ดูทันสมัยมากขึ้น รูปแบบเดียวกับสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ที่สิงคโปร์ ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ที่มีการปรับโฉมไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยในปลายปีนี้จะเปิดนำร่องรูปโฉมใหม่ 3-5 แห่ง พร้อมสำรวจการตอบรับและความพึงพอใจผู้บริโภคก่อน

หากพบว่าผลตอบรับออกมาดีก็จะวางแผนปรับโฉมปั๊มเอสโซ่ทั้งหมด 540 แห่งภายในปี ใช้งบลงทุนปั๊มละ 1-1.50 ล้านบาท ซึ่งการปรับโฉมสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่นี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคด้วย

ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มอีก 35 แห่ง โดยเปิดให้บริการแล้วแห่งที่เหลืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนใหญ่เป็นสถานีบริการน้ำมันที่ดีลเลอร์เป็นผู้ลงทุน รวมกับสถานีบริการน้ำมันที่เปิดในพื้นที่ปั๊มก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อีก 7-10 ปั๊มในพื้นที่ปริมณฑลย่านนนทบุรีและปทุมธานี

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเกรดพรีเมียม ซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95 ที่มีสารเพิ่มประสิทธิภาพสูตรใหม่ที่ช่วยในการชะล้างทำความสะอาดเพิ่มการประหยัดน้ำมันมากขึ้น และป้องกันการสึกหรอให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มพลังยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ได้จำหน่ายแล้วในปั๊มเอสโซ่ 50 แห่งและจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่งภายในปีนี้

ในปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตยอดขายน้ำมันไว้ที่ 3-5% สอดคล้องการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยไตรมาส 1/2560 เอสโซ่มีส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันผ่านสถานีบริการอยู่ที่ 12.8% เป็นอันดับ 3 รองจากปตท.และบางจาก ลดลงจากปีก่อนที่มีส่วนแบ่งการตลาด 13% อย่างไรก็ตาม การออกผลิตภัณฑ์น้ำมันใหม่และปรับโฉมปั๊มน้ำมันใหม่จะช่วยกระตุ้นยอดขายน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ทำให้มั่นใจว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดแซงหน้าบางจากเป็นอันดับ 2 ในอีกปีข้างหน้าหรือในปี 2563 


ที่มา : http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000057177

]]>
1128051
เปิดแผน “เอสโซ่” ทวงคืน เบอร์ 2 ภายใน 5 ปี https://positioningmag.com/1094156 Thu, 09 Jun 2016 04:20:34 +0000 http://positioningmag.com/?p=1094156 1094156 “เอสโซ่” ลุย Non-oil เน้นจับพันธมิตรปั๊มรายได้จากค้าปลีก https://positioningmag.com/1090489 Thu, 28 Apr 2016 03:11:08 +0000 http://positioningmag.com/?p=1090489 ถึงแม้ว่าเอสโซ่จะทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 123 ปีมาแล้ว แต่ด้วยการขยับตัวที่ค่อนข้างช้า ทำให้เอสโซ่เองไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวอะไรมากมายนัก แต่ในช่วง5 ปีที่ผ่านมาเอสโซ่เองต้องปรับตัวให้เท่าทันต่อการแข่งขันในตลาด จึงเสริมทัพด้วยธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจ Non-oil มากขึ้นโดยมีการจัดตั้งทีมที่ดูแลด้านนี้อย่างจริงจัง

ก่อนหน้านี้เอสโซ่มีร้านสะดวกซื้อที่เป็นแบรนด์ของตนเองในชื่อไทเกอร์มาร์ท แต่ด้วยความที่ไม่ถนัดในด้านค้าปลีก ทำให้เอสโซ่ต้องถอนไทเกอร์มาร์ทออกไป ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 70 สาขาเท่านั้น และแทนที่ด้วยร้านสะดวกซื้อแบรนด์อื่นแฟมิลี่มาร์ท และเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส ทำให้เอสโซ่ได้โฟกัสเรื่องน้ำมันอย่างเดียว

สาเหตุหลักที่เอสโซ่ได้ลงมาลุยเรื่องนอนออยมากขึ้นเพราะว่าพฤติกรรมของคนไทยใช้เวลาอยู่ในปั๊มน้ำมันมากกว่าประเทศอื่นๆมองว่าเป็นเหมือนจุดพักรถพักผ่อนที่แวะเข้าห้องน้ำและหาอะไรทานด้วยการที่มีธุรกิจค้าปลีกเข้ามาจะเป็นตัวดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้าปั๊มได้เป็นอย่างดีและสร้างโอกาสในเรื่องรายได้ด้วย

แต่การลุยค้าปลีกของเอสโซ่ยังคงวางจุดยืนไว้ชัดเจนว่า ธุรกิจที่ไม่มีความชำนาญ จะไม่ลงมือทำเอง โดยจะใช้โมเดลในการหาพันธมิตร ในส่วนของร้านสะดวกซื้อได้พาร์ทเนอร์กับทางแฟมิลี่มาร์ท และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ส่วนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดได้เป็นพันธมิตรกับแมคโนนัลด์ เคเอฟซี และเบอร์เกอร์คิง รวมไปถึงร้านกาแฟ และบริการอื่นๆ

ซึ่งปั๊มที่มีร้านค้าของพันธมิตรเข้ามาเสริมนั้น จำมีพื้นที่ใหญ่กว่าปกติค่อนข้างมาก จะมีตั้งแต่ 5 ไร่ขึ้นไป และต้องใช้งบลงทุนสูง แต่ผลตอบแทนที่ได้มาก็คุ้มค่าอยุ่เหมือนกัน เพราะทำให้รายได้สูงกว่าปั๊มน้ำมันโมเดลธรรมดา และมีสัดส่วนของรายได้จากนอนออย 30% จากปกติที่มี 10-15% ปัจจุบันเอสโซ่มีปั๊มน้ำมันที่เป็นแฟล็กชิพอยู่ราว 10% ของจำนวนทั้งหมด

ยอดพงศ์ สุตธรรม กรรมการ และผู้จัดการฝ่ายการตลาดขายปลีก น้ำมันเชื้อเพลิง กล่าวว่าเรายังคงเน้นเรื่องพลังงาน เรื่องคุณภาพน้ำมันเป็นหลักอยู่ เพียงแต่เอาธุรกิจนอนออยเข้ามาเสริมเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้น เพราะพฤติกรรมคนไทยเข้าปั๊มน้ำมันแล้วทำอะไรมากกว่าเติมน้ำมัน ใช้เวลาอยู่ในปั๊มมากกว่าประเทศอื่น แต่ธุรกิจนอนออยของเรา จะไม่ทำเอง เพราไม่มีความชำนาญจะหาพันธมิตรเป็นคนทำทั้งหมด

พันธมิตรที่เอสโซ่มองเพื่อเข้ามาเติมเต็มในปั๊มเพิ่มเติมจะเป็นในส่วนของร้านอาหารที่ไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ด ได้เลือกร้านอาหารแดงดำทดลองเปิดได้ 2-3 สาขา ก่อนที่จะขยายเพิ่มเติม รวมไปถึงมองหาร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ที่จะไปกับโมเดลปั๊มขนาดเล็กด้วย

ปัจจุบันเอสโซ่มีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นน้ำมัน 85% และธุรกิจค้าปลีก 15% โดยที่ตั้งเป้าจะมีสัดส่วน 15-20% ให้ได้ภายใน 3 ปี

ส่วนในปีนี้มีการขยายสาขาเพิ่มอีก 30 สถานี เน้นภาคกลาง และภาคใต้ ในปี 2558 ที่ผ่านมาได้เปิดไป 23 สถานี เป็นการลงทุนโดยดีลเลอร์ทั้งหมด เป็นกลยุทธ์ที่เอสโซ่ใช้มานานแล้ว เพราะสามารถขยายสาขาได้รวดเร็วกว่า และมีความคล่องตัวกว่า ปัจจุบันมีปั๊มน้ำมันรวม 541 สถานี

 1_essonew1

]]>
1090489