GenAI – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 05 Jun 2025 08:54:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ผลสำรวจพบ คนไทยรุ่นใหม่ 85% ใช้ ‘GenAI’ เพื่อลดภาระงานและเพิ่มคุณภาพชีวิต https://positioningmag.com/1524665 Thu, 05 Jun 2025 07:52:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1524665 จากการสำรวจระดับโลก Deloitte Global 2025 Gen Z and Millennial Survey ที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 22,841 คน จาก 44 ประเทศ โดยข้อมูลไทยมาจากกลุ่มตัวอย่าง 330 คน มีการแบ่งชัดเจนระหว่าง Gen Z (18-30 ปี) และ Millennial (30-42 ปี) เก็บข้อมูลในช่วงเวลา ต.ค. – ธ.ค. 2567 พบว่า

85% ของทั้ง Gen Z และ Gen Y ในประเทศไทย เคยใช้ GenAI ช่วยในการทำงาน แสดงให้เห็นว่า การใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวที่กำลังกลายเป็นเรื่องปกติในที่ทำงาน โดย 3 อันดับแรกที่ทั้ง 2 เจนเนอเรชั่นนิยมใช้งานมากที่สุด ได้แก่

  • การวิเคราะห์ข้อมูล
  • การออกแบบเชิงสร้างสรรค์
  • การสร้างเนื้อหา 

อย่างไรก็ตาม Gen Z จะใช้ในกิจกรรมประจำวันมากกว่า แต่ Gen Y มีแนวโน้มในการใช้งานที่หลากหลายกว่า และยังมีการใช้งานบางด้านที่สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาซอฟต์แวร์ และการสร้างเนื้อหา ทั้งนี้ 1 ใน 4 ของคนทั้ง 2 เจนเนอเรชั่น ได้รับการฝึกอบรมการใช้ GenAI แล้ว ขณะที่อีกราวครึ่งหนึ่งหรือมากกว่า วางแผนจะ เข้ารับการอบรมภายใน 12 เดือนข้างหน้า

ในส่วนของมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่มีต่อเทคโนโลยีนี้มีทั้ง แง่บวกและลบ โดยประมาณ 90% เชื่อว่าจะ ช่วยลดเวลาในการทำงาน ทำให้เกิดสมดุลชีวิตที่ดีขึ้น ขณะที่มุมมองด้านลบมีอยู่เช่นกัน โดยประมาณ 3 ใน 4 กังวลว่าอาจทำให้งานน้อยลง และ 85% เห็นว่าต้อง เลือกงานที่มีความเสี่ยงน้อยจากระบบอัตโนมัติ เป็นการสะท้อนว่า GenAI กำลังเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานขององค์กรอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ 

นอกจากนี้ การมาของ GenAI แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนา Soft Skills ที่เทคโนโลยี ไม่อาจทดแทนได้ เช่น การทำงานร่วมกับผู้อื่น การสื่อสาร และการตัดสินใจ

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่พนักงานที่เจอความท้าทายจากการมาของ GenAI แต่ในส่วนขององค์กรเองก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการการใช้งานเทคโนโลยีใหม่นี้ ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่รู้สึกว่างานของตนถูกลดทอนคุณค่า

]]>
1524665
เจนภาพสไตล์ ‘Studio Ghibli’ ฟีเวอร์! ดันยอดการใช้ ‘ChatGPT’ พุ่งสูงสุดทะลุ 150 ล้านครั้ง แม้จะเกิดคำถามเกี่ยวกับการ ‘ละเมิดลิขสิทธิ์’ https://positioningmag.com/1516924 Wed, 02 Apr 2025 04:34:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1516924 ในยุคของ GenAI ที่เราสามารถ สร้างรูปภาพด้วย AI ได้ และหนึ่งในกระแสที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ การใช้ ChatGPT สร้างภาพในสไตล์ จิบลิ (Studio Ghibli) ผู้ผลิตอนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่นที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ จนดันให้ผู้ใช้งาน ChatGPT พุ่งสูงสุดในปีนี้

กลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียล ที่ใคร ๆ ก็กลายเป็นตัวการ์ตูนในลายเส้นของสตูอนิเมชั่นชื่อดัง สตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ที่ ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) ผู้กํากับชื่อดังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง โดยสตูดิโอดังกล่าวเป็นเจ้าของภาพยนตร์อนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Spirited Away และ My Neighbor Totoro

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ใคร ๆ ก็กลายเป็นตัวการ์ตูนสไตล์สตูดิโอจิบลิก็มาจาก GPT-4o Image Generation ของ ChatGPT ที่มาพร้อมความสามารถในการเจนรูปภาพตามคำสั่ง (Prompt) ของผู้ใช้งานได้แบบละเอียด และซับซ้อนมากขึ้น ทำให้แม้แต่การเปลี่ยนรูปถ่ายปกติให้กลายเป็นการ์ตูนสไตล์ Ghibli ก็ทำได้ ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้งาน ChatGPT ทะลุ 150 ล้านครั้ง เป็นครั้งแรกในปีนี้ จนทําให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานหนักเกินไป จนต้องจํากัดการใช้งานฟีเจอร์ชั่วคราว

“เราเห็นผู้ใช้เพิ่มขึ้นหนึ่งล้านคนในชั่วโมง จากในตอนที่เปิดตัว เราใช้เวลา 5 วันหลังเปิดตัวจนมีผู้ใช้ถึง 1 ล้านคน” แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI กล่าว

โดยจากข้อมูลโดย SensorTower พบว่า ทั้งจำนวนผู้ใช้ที่แอคทีฟ รายได้จากการสมัครสมาชิก และยอดการดาวน์โหลด ChatGPT เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการดาวน์โหลดทั่วโลกเพิ่มขึ้น +11 และผู้ใช้ที่ใช้งานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น +5% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่รายได้จากการซื้อในแอปเพิ่มขึ้น +6%

อย่างไรก็ตาม จากการที่ AI สามารถ Gen ภาพโดยเลียนแบบลายเส้นของสตูดิโอจิบลิ ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงเส้นแบ่งระหว่าง แรงบันดาลใจ กับ การลอกเลียนแบบ อย่างไรก็ตาม ทางสตูดิโอจิบลิยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใด ๆ กับสื่อ เช่นเดียวกันกับ OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ที่ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ในการฝึกอบรมโมเดล AI และความถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่นี้

ทั้งนี้ ฮายาโอะ มิยาซากิ ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างงานโดยใช้เทคนิคดั้งเดิม มากกว่าใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และในปี 2016 เขาเคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับอนิเมชั่นที่สร้างโดย AI ว่า เขาไม่เห็นด้วย และ ไม่มีวันเอาเทคโนโลยีแบบนี้มาใช้ในงานของเขาเด็ดขาด เพราะคิดว่านี่มันเป็นการดูถูกชีวิตอย่างแท้จริง

Reuters

]]>
1516924
เปิดลิสต์ผู้เล่น ‘GenAI’ ระหว่างยักษ์เทคสหรัฐฯ และจีน ในสงครามตลาดแสนล้าน https://positioningmag.com/1513951 Fri, 07 Mar 2025 08:01:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513951 ตั้งแต่การมาของ ChatGPT ก็ได้เขย่าให้โลกเทคโนโลยีตื่นตัวกับ GenAI นำไปสู่ สงคราม AI ของบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ซึ่งสงครามไม่ได้อยู่แค่บริษัทสหรัฐฯ แต่ จีน ก็แสดงให้เห็นว่าจะมองข้ามไม่ได้ ดังนั้นไปดูกัน ว่าในตลาดตอนนี้มี AI จากบิ๊กเทคกี่รายกันบ้าง ทั้งจากสหรัฐฯ และจีน

AI จากสหรัฐอเมริกา

  • ChatGPT – พัฒนาโดย OpenAI ที่ Microsoft ลงทุนไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ปัจจุบันถือว่าเป็นผู้นำในตลาด LLM โดยมีความสามารถในการสร้างข้อความที่หลากหลาย สามารถตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • Gemini – พัฒนาโดย Google จุดเด่นที่การสนทนาแบบมีปฏิสัมพันธ์และการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ข้อมูลที่ทันสมัยและแม่นยำ มีความสามารถในการผสานรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google
  • Copilot – พัฒนาโดย Microsoft เป็นการผสานรวม LLM เข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft เช่น Bing และ Microsoft 365 ทำให้มีความสามารถในการช่วยผู้ใช้ในการเขียนโค้ด สร้างเนื้อหา และทำงานต่าง ๆ
  • Claude พัฒนาโดย Anthropic บริษัทที่มีทีมงานจาก OpenAI โดยจุดเด่นที่ความสามารถในการสร้างข้อความที่มีความยาวและซับซ้อน ได้รับความนิยมในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการ AI ที่มีความปลอดภัยสูง
  • Grok พัฒนาโดย xAI ของ Elon Musk มีจุดเด่นที่สามารถตอบคำถามที่ได้แหวกแนว โดยเติมอารมณ์ขันและความเฉลียวฉลาดเข้าไปในคำตอบ นอกจากนี้ Grok ยังสามารถสร้างการสนทนาแบบแยกส่วน ซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหัวข้อต่าง ๆ ได้ ซึ่งต่างจากแชทบอท AI อื่น ๆ
  • Meta AI – พัฒนาโดย Meta ของ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ที่ออกแบบมาเพื่อผสานรวมเข้ากับแอปพลิเคชันยอดนิยมของ Meta เช่น Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp แต่ล่าสุด บริษัทกำลังจะออกแอปฯ สแตนด์อะโลนออกมา
ภาพจาก Shutterstock

AI จากจีน

  • DeepSeek – AI น้องใหม่จากแดนมังกรที่มาสร้างความฮือฮาให้กับตลาด เนื่องจากการใช้ต้นทุนพัฒนาน้อยมาก ๆ โดย DeepSeek ใช้โมเดล AI ที่สามารถเข้าใจและตอบสนองในหลายรูปแบบ ทั้งการพูดคุยแบบธรรมดาและการแปลความหมายเชิงลึกในเชิงธุรกิจหรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ได้
  • Ernie Bot  – พัฒนาโดย Baidu บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน โดย Ernie Bot ใช้โมเดลภาษา Ernie และถูกออกแบบมาให้สามารถทำการสนทนาและให้ข้อมูลในหลาย ๆ รูปแบบ แต่จะเน้นการให้บริการทางการค้าและเชื่อมโยงกับบริการต่าง ๆ ของ Baidu เช่น การค้นหาข้อมูลและการให้บริการแผนที่
  • Tongyi Qianwen – พัฒนาโดย Alibaba โดยโมเดลนี้ถูกใช้ในหลายแอปพลิเคชันของ Alibaba เช่น DingTalk แพลตฟอร์มการสื่อสารและการทำงานร่วมกันขององค์กร และ Aliyun คลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba โดย Tongyi Qianwen สามารถทำงานหลายด้านเช่นการสนทนา, การให้คำแนะนำทางธุรกิจ, การประมวลผลข้อความ และการสร้างเนื้อหาภาษา
  • Hunyuan Turbo S  – โมเดลเอไอตัวล่าสุดของ Tencent ที่มีความสามารถเทียบเท่ากับ DeepSeek-V3 แต่มีจุดแข็งในเรื่องความเร็ว ที่สามารถตอบคำถามได้ภายใน 1 วินาที
2578762835

จะเห็นว่าทางฝั่งจีนอาจจะยังเทียบกับฝั่งสหรัฐฯ ไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการควบคุมและข้อจำกัดของรัฐบาลจีน ที่ส่งผลต่อการพัฒนา AI ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าถึงข้อมูล หรือการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ รวมยังอาจยังไม่ได้รับความไว้วางใจ ในเรื่องของความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น การใช้งานส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่ ภายในประเทศจีนเป็นหลัก

คงต้องจับตาดูว่าในอนาคต ทั้งจีนและสหรัฐฯ จะมีผู้เล่นใหม่ ๆ ที่มาเขย่าตลาดได้เหมือนกับ DeepSeek อีกหรือไม่ เพราะตลาด AI ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยอ้างอิงจาก Fortune Business Insights ได้มีการคาดการณ์ว่า ตลาดอาจมีมูลค่าสูงถึง 9 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2026 เลยทีเดียว

]]>
1513951
‘Meta’ เตรียมเปิดตัวแอป ‘Meta AI’ ในไตรมาส 2 หวังใช้เป็นใบเบิกทางสู่ผู้นำตลาด GenAI ในปีนี้ https://positioningmag.com/1512836 Fri, 28 Feb 2025 07:12:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1512836 นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความดุเดือดของตลาด GenAI เพราะหลังจากที่ Microsoft และ Google ต่างก็มีแอปฯ สแตนด์อะโลน GenAI ของตัวเอง ปีนี้ถึงเวลาของ Meta เจ้าพ่อโซเชียลฯ จะออกแอป Meta AI ออกมาแข่งบ้าง

เมตา (Meta) เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp เตรียมเปิดตัว Meta AI แอปพลิเคชัน GenAI แบบสแตนด์อะโลนในช่วงไตรมาส 2/2025 หลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายนปี 2023 และได้เปิดให้ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Facebook หรือ WhatsApp แต่ยังไม่มีแอปฯ แบบ สแตนอะโลนเหมือนคู่แข่งรายอื่น ๆ อย่างเช่น ChatGPT และ Perplexity 

ซึ่งการเปิดตัวเป็นแอปฯ แบบสแตนด์อะโลน จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Meta ที่ต้องการก้าวขึ้นเป็น ผู้นำ ด้าน AI เหนือคู่แข่งภายในปี 2025 ตามเป้าหมายของ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta

Meta ได้เริ่มนำฟีเจอร์ GenAI มาใช้เพื่อถามคำถาม และสร้างภาพตามคำแนะนำของผู้ใช้ในแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram, WhatsApp และ Messenger โดยในรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ของ Meta เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ระบุว่า “AI ของเขาจะเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ และมีความเฉพาะตัวที่เข้าถึงผู้คนมากกว่า 1 พันล้านคน และหวังว่า Meta AI จะเป็นผู้ช่วยด้าน AI ชั้นนำ”

นอกจากที่ Meta วางแผนเปิดตัวแอป Meta AI แล้ว มีข่าวว่าบริษัทจะทดสอบบริการ สมัครสมาชิกแบบชําระเงิน สําหรับ Meta AI คล้ายกับวิธี OpenAI และไมโครซอฟท์ ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนจากผู้ใช้เพื่อเข้าถึง ChatGPT และ Copilot chatbots ในเวอร์ชั่นที่เก่งขึ้น 

ซึ่งก่อนหน้านี้ Susan Li หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Meta เคยบอกกับนักวิเคราะห์ในเดือนมกราคมว่า ในขณะที่ความพยายามของ Meta AI ของบริษัทมุ่งเน้นไปที่ “การสร้างประสบการณ์ผู้บริโภคที่ยอดเยี่ยม” แต่ก็มีโอกาสในการ “สร้างรายได้ที่ชัดเจน” เช่น การสมัครสมาชิกแบบ พรีเมียม

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ Meta เปิดเผยในเดือนมกราคมว่า Meta AI มีผู้ใช้งานอยู่ประมาณ 700 ล้านคน/เดือน เพิ่มขึ้นจาก 600 ล้านคนในเดือนธันวาคม แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่า ตัวเลขดังกล่าวจะเทียบกับ ChatGPT หรือคู่แข่งรายอื่น ๆ แบบตรง ๆ ไม่ได้ เพราะยังไม่มีแอปฯ แบบสแตนด์อะโลน

โดย David Curry บรรณาธิการข้อมูลของบริษัทข้อมูลเชิงลึก Business of Apps เปิดเผยกับเว็บไซต์ CNBC ในเดือนธันวาคมว่า เว็บไซต์เดี่ยว Meta AI สร้างยอดวิวน้อยกว่า 10 ล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งเขากล่าวว่า ต่ำว่าบริการหลัก ๆ (ChatGPT, Gemini ฯลฯ) และต่ำว่าผู้เล่นระดับกลางบางคนเช่น Anthropic

คงต้องรอดูว่าเมื่อมีแอปฯ สแตนด์อะโลนแล้ว จะมีการใช้งาน Meta AI มากน้อยแค่ไหน เพราะในปี 2025 นี้มีคู่แข่งเปิดหน้าเข้ามามากมาย เช่น Grok จาก xAI ของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ที่จะเปิดตัวแอปอย่างเป็นทางการพร้อมกับเว็บไซต์

ทั้งนี้ จากรายงาน State of Mobile 2025 ของ Sensor Tower ที่เผยแพร่ในเดือนมกราคม พบว่า GenAI ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดโดยวัดจากการดาวน์โหลดแอป คือ ChatGPT ตามด้วย Google Gemini, Doubao ของ ByteDance และ Copilot ของ Microsoft

Source

]]>
1512836
มองอนาคต ‘มือถือ AI’ จะเป็นเทรนด์ที่มาสร้างสีสัน หรือกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดสมาร์ทโฟน? https://positioningmag.com/1507953 Fri, 24 Jan 2025 04:41:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1507953 ปี 2024 ถือเป็นปีแห่งการเปิดศักราชของ สมาร์ทโฟน AI ที่นำโดย Samsung Galaxy S24 Series ซึ่งได้รับการตอบรับจากทั้งในตลาดไทยและตลาดทั่วโลก ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา หลายแบรนด์จึงได้เริ่มใส่ AI เข้ามาในสมาร์ทโฟนเพื่อแข่งขัน คำถามคือ จะมาแค่เป็นกระแสหรือเปล่า

เพราะตลาดอิ่มตัว AI จึงเป็นตัวเพิ่มมูลค่า

ต้องยอมรับว่าตลาดสมาร์ทโฟน อยู่ในจุด อิ่มตัว มาสักระยะ โดยในปี 2023 ถือเป็นปีที่หดตัวมากที่สุดในรอบ 10 ปี และเพิ่งจะมาฟื้นในปี 2024 ซึ่งหลายคนมองว่าเกิดมาจากการมาของ สมาร์ทโฟน AI เพราะต้องยอมรับว่าในฝั่งของ ฮาร์ดแวร์ หรือตัวเครื่องเป็นอะไรที่อาจไม่ได้สร้าง ความแตกต่าง ชัดเจนมากนัก จะเห็นก็แต่การทำ สมาร์ทโฟนจอพับ ซึ่งก็ไม่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้สักเท่าไหร่ แม้แต่ผู้นำอย่าง ซัมซุง (Samsung) ยังต้องออกมาลดการผลิต เพื่อเน้นไปที่ S Series แทน

‘ซัมซุง’ หั่นเป้ายอดขาย ‘มือถือจอพับ’ หลังยอดขายเริ่มร่วง หันไปดัน ‘S series’ รุ่นเรือธงแทน

ด้วยความที่ตลาดอยู่ในภาวะอิ่มตัว ทำให้ผู้เล่นในตลาดจะเน้นไปที่กลุ่ม พรีเมียม เพื่อเพิ่มรายได้ต่อเครื่อง มากกว่าจำนวนปริมาณ แต่การชูจุดขายในฝั่งฮาร์ดแวร์อาจจะกระตุ้นให้ผู้ใช้ อัปเกรด ไม่ได้ขนาดนั้น การสร้างความแตกต่างจึงกลายเป็นฝั่งซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะ ฟีเจอร์ GenAI

Samsung Galaxy S25 Series

GenAI จะเป็นมาตรฐานสมาร์ทโฟน

ทางด้าน Canalys ที่ประเมินว่า แบรนด์สมาร์ทโฟนจะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์มากขึ้น โดยเฉพาะ การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันผ่าน GenAI ท่ามกลางความผันผวนของอุปสงค์และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

เช่นเดียวกันกับ Counterpoint Research ประเมินว่า การเติบโตของ ปริมาณสมาร์ทโฟน ในตลาดจะไม่ยังไม่ไปแตะถึงระดับสูงสุดที่เห็นในช่วงก่อนโควิด แต่ผู้บริโภค ยอมจ่ายแพง เพื่ออัพเกรดสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ดังนั้น ในปี 2025 คาดว่าการเติบโตของมูลค่าตลาดจะยังคงแซงหน้าการเติบโตของปริมาณ โดยมูลค่าจะเพิ่มขึ้น +8% เมื่อเทียบกับการเติบโตของปริมาณ +4%

และในอนาคต Counterpoint Research เชื่อว่า GenAI จะกลายเป็นบรรทัดฐานสําหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ภายในปี 2028 โดย 90% ของสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูงกว่า 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,000 บาท) จะมีความสามารถ GenAI จากที่เทคโนโลยีดังกล่าวส่วนใหญ่จะอยู่ในสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียมที่มีราคาสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35,000 บาท)

สมาร์ทโฟนเอไอจะโตต่อเนื่องไปอีก 5 ปี

ขณะที่ IDC เชื่อว่า การจัดส่งสมาร์ทโฟนที่มี GenAI ทั่วโลกในปี 2025 จะเพิ่มขึ้น +73.1% เมื่อเทียบกับปี 2024 ซึ่งสามารถเติบโตได้เกินสามหลัก และเชื่อว่าสมาร์ทโฟน AI จะมี อัตราการเติบโตสองหลัก 4 ปีติดต่อกัน โดยจะมีการเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2024-2028 ที่ +78.4% โดยการจัดส่งสมาร์ทโฟน GenAI ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 912 ล้านเครื่อง ภายในปี 2028

อย่างไรก็ตาม IDC มองว่า แม้ว่า GenAI จะมาเป็นตัวปฏิวัติประสบการณ์ผู้ใช้ในอนาคต แต่แบรนด์จำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภค และแนะนำฟีเจอร์ที่ผู้บริโภครู้สึกว่า ต้องมี ที่จะเร่งผู้บริโภคอัปเกรด และมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกับ Counterpoint Research ว่า สมาร์ทโฟนที่มี GenAI จะมีราคาถูกลงเรื่อย ๆ โดย IDC ประเมินว่า สมาร์ทโฟน AI จะมีสัดส่วนเป็น 70% ของตลาดสมาร์ทโฟน ภายในปี 2028

ต้องยอมรับว่าความเร็ว แรง ลื่น กล้องสวย หรือจอพับ อาจไม่ใช่อะไรที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคมากเหมือนในอดีต แต่เป็นฟีเจอร์เอไอที่มาเปลี่ยนวิธีการใช้เทคโนโลยีและการใช้ชีวิตพื้นฐานของผู้บริโภค ดังนั้น การเพิ่มความสามารถเอไอบนสมาร์ทโฟนจะขับเคลื่อนการอัปเกรดและเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับทั้งผู้ขายและผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน

canalys / chinadaily / idc / counterpointresearch

]]>
1507953