Global Destination – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 03 Sep 2024 05:41:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” รุกขยายโครงการใหม่ ปักธงใจกลางภูเก็ต สร้างโกลบอลเดสติเนชั่นแห่งใหม่ พร้อมเปิดให้บริการปี 2569 https://positioningmag.com/1488368 Mon, 02 Sep 2024 20:28:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1488368

บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างสองผู้นำแห่งวงการค้าปลีกระดับโลก ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่นชั้นนำของไทย กับ ไซม่อน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการระดับโลกที่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้ง ไดน์นิ่ง ความบันเทิง และโครงการมิกซ์ยูส จากสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการลงทุนขยาย “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต”  แห่งที่ 2 ของประเทศไทย โดยปักธงใจกลางจังหวัดภูเก็ตเมืองแห่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวแห่งใหม่แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ  ช่วยส่งเสริมและเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย  โดยตั้งเป้าเปิด “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ภูเก็ต” ภายในปี 2569

บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเปิด “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” แห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2563  ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนกรุงเทพ-ชลุบรีสายใหม่ (ทางหลวงหมายเลข 7) ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยเป็นการนำประสบการณ์พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตอย่างแท้จริงสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกและแห่งเดียวเท่านั้น ประกอบด้วยร้านค้าที่นำเสนอแบรนด์มากกว่า 300 แบรนด์ ทั้งร้านค้าลักชัวรี่แบรนด์ แบรนด์ของดีไซเนอร์ที่เป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมสูงสุด รวมถึงแบรนด์ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล และแบรนด์ไทยต่างๆ  โดยมีไฮไลท์แบรนด์ที่มีเฉพาะที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น อาทิ Balenciaga, Burberry, Versace, Marc Jacobs, Karl Lagerfeld, Rebecca Minkoff, Longchamp, Boss, Montblanc, Swiss Watch Gallery, Fred Perry, Nike United SPO, Pomelo, Siam Takashimaya เป็นต้น   นับเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้งที่สำคัญอีกแห่งของประเทศไทย ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

โดยผลประกอบการของ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” ในปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องโดยตลอด และปัจจุบันอัตราการเช่าพื้นที่ของโครงการเต็ม 100%

จากความสำเร็จอย่างสูงและการมีวิสัยทัศน์เดียวกันของสยามพิวรรธน์และไซม่อน บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก จึงตัดสินใจเดินหน้าขยายการลงทุนเปิดโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แห่งใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของทัวร์ริสต์อันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งใน Global Destination ของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลก  และเป็น location จุดหมายสำคัญที่กลุ่มผู้ประกอบการทั้งผู้เช่าเดิมในโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ”  และผู้เช่าใหม่จำนวนมากต่างแสดงความต้องการและให้ข้อเสนอแนะให้บริษัทฯ ลงทุนขยายโครงการใหม่

โดยโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ภูเก็ต” จะถูกรังสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์พิเศษที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสําหรับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต  โดยคํานึงถึงการตอบสนองความต้องการในปัจจุบันและรองรับการเติบโตของภูเก็ตในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้า

สำหรับโลเคชั่นของ โครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดภูเก็ต  มุ่งรองรับการเติบโตของเมืองที่มีการขยายตัวทุกทิศทาง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตต่อปีไม่ต่ำกว่า 15 ล้านคน รวมถึงคนไทยในพื้นที่และชาวต่างชาติที่มาพำนักอยู่เป็นระยะเวลานาน (Expat) มีกำลังซื้อสูง โดยพบว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวในภูเก็ตอยู่ในระดับค่อนข้างสูงคือ 8,355 บาทต่อคนต่อวัน

สำหรับศักยภาพความพร้อมด้านกำลังซื้อของจังหวัดภูเก็ต สามารถสะท้อนจากจำนวนห้างค้าปลีกที่มีมากถึง 14 แห่ง และไฮเปอร์มาร์เก็ตอีก 19 แห่ง รวมถึงโรงเรียนนานาชาติที่มีมากถึง 15 แห่ง นอกจากนี้ภูเก็ตยังมีจุดแข็งในด้านความสะดวกสบายในการเดินทางทั้งรถสาธารณะที่หลากหลายพร้อมให้บริการ รวมถึงถนน และทางหลวงที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีสนามบินที่สามารถรองรับผู้โดยสารทั้งได้ถึง 20 ล้านคนต่อปี และโครงการสนามบินนานาชาติอันดามัน จ.พังงา ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ส่งผลให้วันนี้จังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพเต็มที่ในการรองรับการลงทุนใหม่ๆ และนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก

บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด เป็นการผนึกกำลังระหว่างสองผู้นำแห่งวงการค้าปลีก  ที่จะสามารถนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับโลก สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่อันน่าตื่นเต้นเร้าใจให้กับวงการค้าปลีกภูเก็ตอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน   และสร้างจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทยอีกด้วย

]]>
1488368
สยามพิวรรธน์ ย้ำตำแหน่งผู้นำลักซ์ซูรี่ แห่งวงการค้าปลีก มอบประสบการณ์แรกเหนือความคาดหมาย https://positioningmag.com/1486978 Tue, 20 Aug 2024 12:15:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1486978

หากพูดถึงจุดหมายปลายทางแบบลักซ์ซูรี่ที่ดีที่สุดในเอเชีย กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์  ได้รับการกล่าวถึงในฐานะผู้พัฒนา Luxury destination ที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน และไอคอนสยาม ซึ่งได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการระดับ Global Destination ที่มีความโดดเด่นเป็นหมุดหมายของลักซ์ซูรี่แบรนด์ชั้นนำที่ครบครันและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


NO.1 Luxury Destination ที่แบรนด์หรูระดับโลกให้ความไว้วางใจมากที่สุด เปิดแฟล็กชิพสโตร์ คอนเซ็ปต์สโตร์ หรือคอลเลคชั่นใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย

สยามพารากอนและไอคอนสยาม ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากแบรนด์ดังระดับโลก ต่างทยอยเปิดแฟล็กชิพสโตร์ คอนเซ็ปต์สโตร์ หรือคอลเลคชั่นใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 หลายแบรนด์ได้เลือกเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและมีแบรนด์ที่ Exclusive เฉพาะที่สยามพารากอนและไอคอนสยามเท่านั้น

สยามพารากอน

  • ที่สุดแห่งอัครยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ เปิดบูทีคอัตลักษณ์ใหม่ภายใต้คอนเซปต์ ‘Galleria’ ภายในศูนย์การค้าซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก โดยบูทีคแห่งใหม่นี้เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีพื้นที่ส่วนตัวเพื่อสัมผัสถึงความรื่นรมย์และสุนทรีย์ของแบรนด์ โรลส์-รอยซ์ และสั่งทำยนตรกรรมคันโปรดแบบ Bespoke ได้จากศูนย์รวมความลักซ์ซูรี่ระดับแนวหน้าของประเทศไทย

  • พบกับการปรับโฉมใหม่ของ BVLGARI ลักซ์ซูรี่แบรนด์สุดไอคอนิก ที่สร้างความตื่นตะลึงกับ       ชอปดูเพล็กซ์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
  • DOLCE&GABBANA โฉมใหม่ที่มีการออกแบบที่เรียบง่ายแต่หรูหรา มาพร้อมการออกแบบที่เรียบง่ายแต่หรูหรา โดดเด่นด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับอิตาลี
  • GUCCI ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ของแบรนด์ ซึ่งมีความแตกต่างจากที่เคยมีมา ขยายประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยโฉมใหม่ล่าสุดที่รวบรวมคอลเลคชั่นสําหรับสุภาพสตรีไว้ได้อย่างครบครัน ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แอคเซสเซอรี่ และเครื่องประดับ
  • LOEWE กับ LOEWE Store แห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด ภายใต้แนวคิด และแรงบันดาลใจที่ได้รับการออกแบบโดย ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ โจนาธาน แอนเดอร์สัน พร้อมให้ค้นพบเครื่องหนัง กระเป๋า กระเป๋าสตางค์ ของแต่งบ้าน และเทียนหอม จากโฮม คอลเลคชั่น พร้อมเสื้อผ้า และเครื่องหนังทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีจากคอลเลคชั่นล่าสุด
  • CASABLANCA แบรนด์เสื้อผ้าลักซ์ซูรี่จากกรุงปารีสเปิดตัวช้อปปิ้งสเปซแห่งแรกของโลก
  • เตรียมพบกับ MONTBLANC กับคอนเซ็ปต์ดีไซน์ใหม่ และบูติกสำหรับสุภาพสตรีโฉมใหม่ของ PRADA เร็วๆ นี้

ไอคอนสยาม

  • VAN CLEEF & ARPELS แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาชั้นสูงจากฝรั่งเศส ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ได้เปิดบูติกแห่งใหม่ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัย สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความประณีตและความงดงามในทุกรายละเอียด
  • CHAUMET แบรนด์เครื่องประดับสุดหรูหราสัญชาติฝรั่งเศส ร้านแรกในประเทศไทย กับคอลเลคชั่นใหม่ที่นำเสนอเครื่องประดับไฮจิวเวลรี่และอัญมณีผ่านศิลปะหลากหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน

ปรากฏการณ์เปิดตัวเวิลด์คลาสอีเวนต์ยิ่งใหญ่ และ “Pop-up Store” มอบประสบการณ์แรกเหนือความคาดหมายอย่างต่อเนื่อง

สยามพารากอน และไอคอนสยาม ได้รับเกียรติจากแบรนด์ดังระดับโลก สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวเวิลด์คลาสอีเวนต์ยิ่งใหญ่ และเปิด Pop-up Store จัดโชว์เคสพิเศษและนำเสนอสินค้าลิมิเต็ดคอลเลคชั่นพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีการเปิด Pop-up Store จากแบรนด์ต่างๆ ที่หมุนเวียนกันมาสร้างความตื่นตาตื่นใจตอบโจทย์ประสบการณ์แรกเหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า

สยามพารากอน

  • แบรนด์หรูอย่าง CELINE ได้เลือกเนรมิต CELINE SIAM PARAGON PLEIN SOLEIL POP UP STORE ขึ้น ซึ่งมีเพียง 1 ใน 7 แห่งของโลกเท่านั้น
  • PRADA เปิดตัวป็อปอัพสโตร์แห่งใหม่เนรมิตพื้นที่ทั้งหมดด้วยลายทางสลับสีขาวแดงสะดุดตา นำเสนอเครื่องแต่งกายสำหรับบุรุษและสตรี กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับที่คัดสรรเป็นพิเศษจากคอลเลคชั่นใหม่จากแรงบันดาลใจจากบรรยากาศของฤดูร้อนและสีสันแห่งการท่องเที่ยว

  • LORO PIANA เปิดตัวป๊อบอัพสโตร์แห่งใหม่ เพื่อนำเสนอคอลเลคชั่น Summer Resort 2024
  • GUCCI ได้เปิดตัว Gucci Ancora Pop Up พร้อมเผยโฉมคอลเลคชั่น SPRING SUMMER 2024 จากผลงานการออกแบบโดย Sabato De Sarno

  • COACH เนรมิต Parc Paragon ให้กลายเป็น The Coach Tabby Shop ป๊อปอัพสุดคิ้วท์รูปทรงกระเป๋า Tabby ไอเท็มรุ่นไอคอนิกของ Coach ในเฉดสีเหลืองใบยักษ์ ตั้งสดใสสะท้านแดดใจกลาง พาร์ค พารากอน

  • GENTLE MONSTER ได้เปิดตัว “Jentle Salon Pop-Up” เป็นครั้งแรกในประเทศไทยของป๊อปอัป สโตร์ไอคอนิคสุดคิวท์สไตล์ “เจนนี่ BLACKPINK” ส่งตรงจากเกาหลี ที่สยามพารากอน เท่านั้น
  • แบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลก เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย รวมทั้งรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นหายาก อาทิ แบรนด์ HUBLOT ฉลองบทบาทสำคัญในฐานะ Official Watch การแข่งขันฟุตบอล UEFA EURO 2024™ เนรมิตป๊อปอัพสโตร์ “Hublot Loves Football UEFA EURO 2024” สุดอลังการ, Jaeger-LeCoultre (เจเกอร์-เลอคูลทร์) เปิดประสบการณ์ครั้งสำคัญผ่านเรื่องราวกว่า 90 ปีกับ Reverso Stories Travelling Collection เนรมิตงานตกแต่งอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ผลิตนาฬิกาชั้นสูง, Lange & Söhne (อา. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ) จัดนิทรรศการเอ็กซ์คลูซีฟ “Precision in Motion” แสดงศิลปะการแกะสลักที่ขาดไม่ได้ในประเพณีการผลิตนาฬิกาของ Lange & Söhne นับเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง

ไอคอนสยาม

  • LOEWE ได้เปิด LOEWE POP-UP STORE นำเสนอคอลเลคชั่นซัมเมอร์แห่งปี Paula’s Ibiza 2024 ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจจาก พอลล่าส์ บูทีค (Paula’s Boutique) อันเป็นเอกลักษณ์ บนเกาะอิบิซ่า ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรม ฮิปปี้ในปี 1970
  • MCM กับการเข้าสู่ MCM Celebrate the New Era ได้เปิดตัว MCM Lauretos Pop up Store พร้อมขนขบวนกระเป๋าใน SS24 Collection บนลวดลาย Lauretos ซึ่งเป็นไอคอนิกโมโนแกรมลายใหม่ประจำซีซั่นถ่ายทอดลงบนไอคอนิคไอเทม

สยามพิวรรธน์ พร้อมเดินหน้าบุกเบิกนิยามใหม่ New World Luxury เพื่อสร้างสรรค์ปรากฏการณ์ใหม่ๆ และเติมเต็มประสบการณ์ลักซ์ซูรี่ที่เหนือความคาดหมายและสมบูรณ์แบบที่สุดให้กับทุกคน ยกระดับประเทศไทยเป็นหมุดหมายตลาดลักซ์ซูรี่ ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

]]>
1486978
ไอคอนสยามทุ่มงบจัดมหาสงกรานต์เฟสติวัลระดับโลก ตอกย้ำการเป็น Global Destination ทุกเทศกาล เนรมิตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งใหญ่-สาดสนุกตลอด 10-21 เม.ย. 2567 นี้ https://positioningmag.com/1467184 Fri, 22 Mar 2024 04:00:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1467184

ไอคอนสยามขานรับเทศกาลสงกรานต์ขึ้นทะเบียนยูเนสโกเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก จับมือพันธมิตรทุ่มงบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท คาดมีผู้ร่วมงานมากกว่า 1.5 ล้านคน ยกระดับจัดงาน “ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๗” เป็นเทศกาลมหาสงกรานต์เฟสติวัลระดับโลก เนรมิตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกับการละเล่นสาดน้ำ (World Water Festival) อย่างยิ่งใหญ่ในบรรยากาศของวัฒนธรรมไทย ตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลกทุกเทศกาล ด้วยแนวคิด “THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION: รื่นเริงมหาสงกรานต์ สานต่อตำนานมรดกโลก” เชิดชูเอกลักษณ์ไทยผสมผสานการละเล่นและวัฒนธรรมบันเทิงร่วมสมัย อัดแน่นประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จัดยิ่งใหญ่เต็มทุกพื้นที่ในไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 10-21 เมษายน 2567 นี้  ชูไฮไลต์มากมาย อาทิ


  • ขบวนแห่นางสงกรานต์มโหธรเทวี 7 วันกับ 7 นางเอกและศิลปินชื่อดัง นำโดย “แอฟ ทักษอร” “พาย รินรดา” “เบ็คกี้ รีเบคก้า” “เบลล่า ราณี” “ใหม่ ดาวิกา” และ “เดียร์น่า ฟลีโป” และอีกหนึ่งความเอ็กซ์คลูซีพที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนกับศิลปินสัญชาติไทยที่ไปโด่งดังระดับโลก “มินนี่ ณิชา” จะมาแปลงโฉมเป็นนางสงกรานต์นำความวิจิตรงดงามของไทยปรากฏสู่สายตาชาวโล
  • เสริมสิริมงคลสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์จำลอง จากวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ณ โซน ICONLUXE และพระพุทธรูป 5 สมัย ณ เมืองสุขสยาม อัญเชิญมาให้ทุกท่านได้กราบไหว้ขอพรและสรงน้ำเนื่องในวันปีใหม่ไทย
  • สนุกสนานรื่นเริงกับการละเล่นสาดน้ำสงกรานต์สุดมหัศจรรย์กับ Water Splash Landmark ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งเดียวในไทย ภายใต้มาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย ณ ริเวอร์ พาร์ค และตื่นตากับอุโมงค์น้ำ ประกอบแสง สี เสียง ที่ชั้น G เมืองสุขสยาม ตลอดจนความสนุกสนานกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดังและกิจกรรมความบันเทิงมากมาย
  • ชวนคนไทยสร้างปรากฏการณ์สวม “เสื้อลายดอก” บานสะพรั่งเบิกบานทั่วไทย ไอคอนสยามจับมือกับ NARAYA และ Collector Project โดยเอก ทองประเสริฐ สร้างสรรค์เสื้อลายดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์แบบ Pop Art แนวใหม่กับดีไซน์ Prosperity in bloom
  • พบกับการเปิดตัวครั้งแรกของบทเพลง “สงกรานต์บ้านเรา” เวอร์ชั่น 3 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน เผยแพร่เทศกาลสงกรานต์ของไทยผ่านบทเพลงสู่สากล
  • มอบประสบการณ์สาดสนุกจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ กับกิจกรรมสาวน้อยตกน้ำออนไลน์จาก TikTok Shop และช้อปสนุกไปกับโปรโมชั่นคลายร้อนมากมาย

นายสุพจน์  ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน สร้างมหาปรากฏการณ์แห่งความมหัศจรรย์งาน “ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๗” โดยปีนี้ไอคอนสยามได้จัดเตรียมงบการตลาดเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่ากว่า 60 ล้านบาท ยกระดับการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ให้ยิ่งใหญ่และพิเศษกว่าทุกปี เพื่อร่วมฉลองในโอกาสที่เทศกาล “สงกรานต์ไทย” ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยแนวคิด “THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION: รื่นเริงมหาสงกรานต์ สานต่อตำนานมรดกโลก” นำเสนอเรื่องราวของขนบธรรมเนียมประเพณี พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยไมตรีจิตและความสนุกร่วมสมัยอย่างไทย เพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ ส่งเสริมให้สงกรานต์ประเทศไทยเป็นงานเฟสติวัลระดับโลก นำมรดกทางวัฒนธรรมไทยมาเชิดชู ผสมผสานความร่วมสมัย นำเสนอสู่อนาคตให้คงอยู่สืบไป หรือ Heritage to Future

โดยไอคอนสยาม ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด เถ้าแก่น้อย นารายา TikTok Shop และเมืองสุขสยาม ขานรับนโยบายรัฐบาลจัดงานเทศกาลสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ เนรมิตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกับการละเล่นสาดน้ำ กับ Water Splash Landmark ท่ามกลางวัฒนธรรมไทย ภายใต้มาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย โดยได้เตรียมพื้นที่ให้เหมาะกับกลุ่มครอบครัวและเด็ก รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเชิดชูเอกลักษณ์ไทยผสมผสานการละเล่นและวัฒนธรรมบันเทิงร่วมสมัย ตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลกทุกเทศกาล อัดแน่นด้วยประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จัดยิ่งใหญ่เต็มทุกพื้นที่ในไอคอนสยาม พร้อมด้วยกิจกรรมความสนุกมากมาย ระหว่างวันที่ 10-21 เมษายน 2567

“เทศกาลมหาสงกรานต์เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย สำหรับปีนี้ มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ไอคอนสยามไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน ทำให้เกิดกระแสการจับจ่ายหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าสูงขึ้นกว่า 50%” นายสุพจน์กล่าวในที่สุด


ไอคอนสยามจับมือพันธมิตรทุกภาคส่วนฉลองมหาสงกรานต์มรดกโลกอย่างยิ่งใหญ่

นายกิตติ​ เชาวน์ดี​ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดสรรงบประมาณสำหรับจัดงานสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยได้จัดกิจกรรมในพื้นที่กรุงเทพ และพื้นที่อัตลักษณ์ห้าภูมิภาคทั่วประเทศไทย โดยมีขบวนพาเหรดสงกรานต์จากกลุ่มจังหวัดเป้าหมาย 16 จังหวัด 11 ซอฟพาวเวอร์ นำเสนอการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆของไทย เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ประเพณีสงกรานต์ไทยที่โดดเด่นในแต่ละภูมิภาค ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้สัมผัสความงดงามของประเทศไทยในทุกมิติ

“เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ไอคอนสยามเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญในการจัดงานเทศกาลไทยต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดงานมหาสงกรานต์ปีนี้ ได้ยกระดับการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างครบถ้วนทุกด้าน ทั้งสืบสานวัฒนธรรมไทย และกิจกรรมรื่นเริงในการละเล่นสาดน้ำ ซึ่งการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ของไอคอนสยามในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้เทศกาลสงกรานต์ติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลของโลก และมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว สร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นับเป็นการขับเคลื่อนคุณค่าทางสังคมและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยอย่างดี” นายกิตติ​ กล่าว

นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า  ตามที่ประเพณีสงกรานต์ของประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโกเมื่อปลายปี 2566 นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ประเพณีสงกรานต์ของไทยได้รับการยกย่องในระดับโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสืบสานและเผยแพร่ประเพณีสงกรานต์ของไทยที่มีมาแต่โบราณให้ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน สำหรับปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมมือกับไอคอนสยาม นำเอกลักษณ์ความเป็นไทยมานำเสนออย่างหลากหลายครบทุกมิติ ทั้งขบวนแห่นางสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่และงดงาม การเผยแพร่เพลงสงกรานต์บ้านเราในเวอร์ชั่น 3 ภาษา รวมถึงการส่งเสริมด้านการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยทั้งการเล่นน้ำสงกรานต์อย่างถูกต้องตามประเพณี การแสดงวัฒนธรรมร่วมสมัย การจัดกิจกรรมรดน้ำดำหัว การส่งเสริมการใส่เสื้อลายดอก เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ถึงคุณค่าสาระของประเพณีสงกรานต์ไทย สนับสนุนการสร้างพลัง Soft Power ให้สร้างมูลค่าและรายได้แก่ประเทศไทย


TikTok Shop จับมือไอคอนสยาม มอบประสบการณ์สาดสนุกจากออนไลน์สู่ออฟไลน์   

นางสาวแทนรัก เชียงทอง Head of Marketing, TikTok Shop Thailand  กล่าวว่า “TikTok Shop ร่วมฉลองเทศกาลมหาสงกรานต์กับชาวไทยทั้งประเทศ พวกเราทุกคนต่างตื่นเต้นและเฝ้ารอคอยในฐานะแพลตฟอร์ม
อีคอมเมิร์ซที่มอบประสบการณ์ Shoppertainment สู่ผู้ใช้และผู้ประกอบการไทย ด้วยความมุ่งมั่นเดียวกันที่ต้องการส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าทุกคน TikTok Shop จึงร่วมกับไอคอนสยาม นำเสนอแคมเปญต่าง ๆ มากมายเพื่อนำเสนอประสบการณ์ออนไลน์มาสู่ออฟไลน์ และโลกออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ผ่านงานสงกรานต์อย่างสนุกสนานครื้นเครง ไฮไลต์สำคัญ ๆ เช่น #สาวน้อยตกน้ำออนไลน์ และได้เชิญ TikTok Creators ชื่อดังมากมาย เช่น นัท ณิสามณี, บี้ เดอะสการ์, หยาดพิรุณ มาร่วมกิจกรรมสนุกสนานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และพลาดไม่ได้กับ Live Commerce สนุก ๆ จากบรรดา Creators เพื่อให้ทุกคนได้เลือกซื้อสินค้าไทยที่คัดสรรคุณภาพในโซนไอคอนคราฟต์ กับกิจกรรม “TikTok Shop Refill Your Joy: เติมความสนุก สุขเต็มตระกร้า” ทั้งหมดนี้จะเป็นกิจกรรมภายในงาน  “ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๗” ที่ไอคอนสยาม เท่านั้น” 

ICONSIAM x NARAYA x Collector Project ชวนคนไทยสร้างปรากฏการณ์สวม “เสื้อลายดอก”

ไอคอนสยามกับมนต์สเน่ห์แห่งความคิดสร้างสรรค์ ชวนคนไทยใส่เสื้อลายดอก จับมือกับ NARAYA และ Collector Project นำโดยเอก ทองประเสริฐ สร้างสรรค์เสื้อลายดอกไม้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการนำลวดลายดอกไม้ที่บรรจงสร้างโดยช่างฝีมือไทยบนเจดีย์ และพระอุโบสถวัดโพธิ์ วัดสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงรัตนโกสินทร์ มาเป็นลวดลายบนเสื้อแบบ Pop Art แนวใหม่กับดีไซน์ Prosperity in Bloom  ส่งสาสน์แห่งความรื่นเริงเถลิงศกใหม่ โก้เก๋ไม่เหมือนใคร มาให้ทุกคนได้ร่วมเป็นเจ้าของและพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อลายดอกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สร้างปรากฏการณ์ให้เสื้อลายดอกบานสะพรั่งไปทั่วประเทศ

ไฮไลต์สำคัญงาน “ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๗” ได้แก่

  • ขบวนแห่นางสงกรานต์มโหธรเทวี 7 วันกับ 7 นางเอกและศิลปินชื่อดัง

ไอคอนสยามร่วมเชิดชูวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า นำเอกลักษณ์ไทยให้ปรากฏสู่สายตาคนทั้งโลก ด้วยไฮไลท์สุดพิเศษกับบรรยากาศของขบวนแห่นางสงกรานต์ที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความงดงามของเอกลักษณ์ความเป็นไทย พร้อมด้วยนางสงกรานต์ 7 วันกับ 7 นางเอกและศิลปินชื่อดังได้แก่  “แอฟ ทักษอร” “พาย รินรดา” “เบ็คกี้ รีเบคก้า” “เบลล่า ราณี” “ใหม่ ดาวิกา” และ “เดียร์น่า ฟลีโป” และอีกหนึ่งความเอ็กซ์คลูซีฟที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนกับศิลปินสัญชาติไทยที่ไปโด่งดังระดับโลก “มินนี่ ณิชา” จาก (G) I-DLE จะมาปรากฏโฉมเป็นนางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ประจำปี 2567 มาร่วมสร้างความวิจิตรงดงามนำไทยปรากฏสู่สายตาชาวโลก โดยจะมีพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 10 เมษายน 2567

  • เสริมสิริมงคลสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์จำลอง พร้อมจัดพิธีรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้สูงอายุ

ไอคอนสยาม ได้อัญเชิญองค์พระพุทธสิหิงค์จำลอง จากวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีมะโรง มาให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ขอพรและสรงน้ำเนื่องในวันปีใหม่ไทย ณ ทางออกประตู 1 ชั้น G
โซน ICONLUXE  พร้อมกันนั้น บนพื้นที่ชั้น G เมืองสุขสยาม ได้อัญเชิญพระพุทธรูป 5 สมัยมาให้ทุกท่านได้กราบไหว้ขอพรและสรงน้ำพระเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น ขอเชิญทุกท่านร่วมรดน้ำดำหัวขอพร เนื่องในวันผู้สูงอายุ แสดงถึงความเคารพต่อบิดามารดา ผู้ใหญ่ หรือผู้มีพระคุณ อีกทั้งเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที โดยได้เชิญครอบครัวจากศิลปินชื่อดังมาร่วมรดน้ำดำหัวในวันที่ 14 เมษายน 2567  ณ เจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม

  • สนุกสนานสาดน้ำสงกรานต์สุดมหัศจรรย์กับ Water Splash Landmark ริเวอร์ พาร์ค บนทัศนียภาพอันงดงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งเดียวในไทย

ไอคอนสยามเนรมิตพื้นที่ ริเวอร์ พาร์ค ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกับการละเล่นสาดน้ำกับ Water Splash Landmark #สาดสนุกปักหมุดไทยแลนด์ ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้มาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย โดยได้เตรียมพื้นที่ให้เหมาะทั้งกับกลุ่มครอบครัวและเด็ก รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงได้เตรียมมอบความสนุกจัดเต็มไปกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ อาทิ อาทิ นนท์ ธนนท์, MEAN, PROXIE, 4EVE, ATLAS, BUS, LYKN พร้อมการแสดงทางวัฒนธรรมร่วมสมัย สร้างบรรยากาศส่งเสริมความเป็นไทยด้วยความรื่นเริงต้อนรับปีใหม่ไทย

นอกจากนี้ไอคอนสยาม ยังได้จัดเตรียมกิจกรรมความสนุก ครบครัน สำหรับทุกคนในครอบครัว กับกิจกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม กิจกรรมเวิร์คชอป การจำหน่ายเมนูอาหารดับร้อน พร้อมด้วยสินค้าชุมชน นำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยอีกมากมาย ณ เจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M และกิจกรรมรื่นเริงมากมายรวมถึงอุโมงค์น้ำประกอบแสงสีเสียงที่จะให้ทุกท่านได้มาร่วมเล่นน้ำในบรรยากาศแบบไทยๆ ณ เมืองสุขสยาม ชั้น G

  • พบกับการเปิดตัวครั้งแรกของบทเพลง “สงกรานต์บ้านเรา” เวอร์ชั่น 3 ภาษา

พบกับการเปิดตัวครั้งแรกของบทเพลง ”สงกรานต์บ้านเรา 3 ภาษา“ ซึ่งนำบทเพลง “สงกรานต์บ้านเรา” ต้นฉบับประพันธ์ โดย คุณประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ มาเรียบเรียงคำร้องให้เป็นภาษาจีน อังกฤษ เพื่อเผยแพร่เทศกาลสงกรานต์ของไทยผ่านบทเพลงสู่สากล

  • สาดความสุขด้วยโปรโมชั่นคลายร้อน

ไอคอนสยามสาดความสุขให้นักช้อปทุกท่าน กับโปรโมชั่นแคมเปญ THAICONIC Songkran Celebration
ช็อปฉ่ำใจ กับโปรสุดเบิกบานรับสงกรานต์ แลกรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 3.28 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 10 เมษายน 67 –  5 พฤษภาคม 2567 สำหรับสมาชิก ONESIAM เพียงซื้อสินค้าและบริการภายในไอคอนสยาม รวมสยาม ทาคาชิมายะ ครบ 4,000 บาท ระหว่างวันที่ 1 เมษายน- 21 เมษายน รับเสื้อลายดอกจากผลงานสร้างสรรค์ของดีไซน์เนอร์ชื่อดัง เอก ทองประเสริฐ มูลค่า 990 บาท หรือ แลกซื้อเพียงตัวละ 400 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท พิเศษเฉพาะวันที่ 10-16 เมษายน 2567 เพียงซื้อสินค้าภายในไอคอนสยามรวม 30,000 บาท รับบัตรกำนัลจากร้านค้าที่ร่วมรายการมูลค่า 2,000 บาท ติดตามเงื่อนไขรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ณ จุดขาย

ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหาสงกรานต์ของประเทศไทย  “ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๗” ตั้งแต่วันที่ 10 – 21 เมษายน นี้ ณ ไอคอนสยาม ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขการรับสิทธิ์เข้าร่วมงานได้ทาง www.iconsiam.com หรือ Facebook: ICONSIAM

]]>
1467184
สยามพิวรรธน์ย้ำ #1 ผู้พัฒนา Global destination ที่หนึ่งในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก เดินหน้าขยาย Global Ecosystem ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ https://positioningmag.com/1466638 Mon, 18 Mar 2024 09:50:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1466638

สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีก เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตอกย้ำผู้นำในการพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นแม่เหล็กดึงดูด              นักเดินทางจากทั่วโลก เดินหน้าขยายโกลบอล อีโคซิสเต็ม ผนึกกำลังตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำมุ่งเน้นตลาด quality tourist  ล่าสุดเจรจากับ 16 พันธมิตรสายการบินชั้นนำของโลกร่วมส่งมอบสุดยอดประสบการณ์เหนือระดับ

นาง มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพิวรรธน์ คือผู้พัฒนาศูนย์การค้าที่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอันดับหนึ่งของไทย  วันนี้เราเดินหน้าผนึกกำลังพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของผู้คน และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของนักเดินทางจากทั่วโลก  การเฟ้นหาพันธมิตรเพื่อมาร่วมส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่ Pre Trip, During Trip  และ Post Trip โดยมุ่งเน้นการเพิ่มฐานนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ช่วยยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวซึ่งมีบทบาทสําคัญต่อภาคเศรษฐกิจไทย

นางสาว อมรรัตน์ คงสวัสดิ์, Vice President – Marketing, Bangkok Airways กล่าวว่า “บางกอกแอร์เวย์สให้ความสำคัญการผนึกกำลังกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง สยามพิวรรธน์ เพื่อต่อยอดธุรกิจและนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า  ผู้โดยสารของสายการบิน Bangkok Airways จะได้รับสิทธิพิเศษที่ศูนย์การค้าในเครือของสยามพิวรรธน์ ”

Ms. Keri Lui, Country Manager Thailand and Myanmar, Cathay Pacific กล่าวว่า “การผนึกกำลังกับสยามพิวรรธน์ทำให้สามารถยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในแบบพรีเมียม เรามอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้โดยสาร และ สมาชิก รวมทั้ง สามารถแลก ONESIAM Coins เป็น Asia Miles และ Asia Miles เป็น ONESIAM Coins ได้อีกด้วย”

Mr. Mohammed Alwahedi, Emirates Airline Manager for Thailand กล่าวว่า “สายการบินเอมิเรตส์มุ่งมั่นที่จะนำเสนอความสะดวกสบายในการเดินทางและไลฟ์สไตล์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ผ่านความร่วมมือกับศูนย์การค้าที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเพื่อมอบประสบการณ์ที่พิเศษสุด”

สายการบินพันธมิตรมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า ONESIAM ดังนี้

Air Canada นำเสนอสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก ONESIAM ได้รับส่วนลด 5% เมื่อซื้อบัตรโดยสารทุกประเภท สำหรับลูกค้าคนไทย และลูกค้าต่างชาติ จะได้รับ Welcome gift

China Eastern Airlines, China Southern Airlines และ STARLUX Airlines มอบสิทธิพิเศษให้กับผู้โดยสาร เมื่อแสดง boarding pass รับ welcome gift และ welcome drink และรับ Siam Gift Card เมื่อมียอดใช้จ่ายครบตามกำหนด

Qantas มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิก ONESIAM เมื่อใช้บริการสายการบิน รับส่วนลดสูงสุด 6% พร้อมรับน้ำหนักสัมภาระเพิ่มอีก 10 กิโลกรัม

กลยุทธ์จุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวถูกขับเคลื่อนภายใต้ ONESIAM Experience ซึ่งผนึกความแข็งแกร่งของโกลบอลเดสติเนชั่นใจกลางกรุงเทพฯ คือ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม ไอซีเอส สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ และ ONESIAM SuperApp มีดังนี้    

 

1. ขยายกลุ่มพันธมิตรในทุกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกกลุ่ม
(Expand Reach)

    • จับมือร่วมกับพันธมิตรกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ(FIT) มุ่งตอบโจทย์การเดินทางของนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนมาถึงประเทศไทย เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจากการร่วมมือกับกลุ่มสายการบินชั้นนำระดับโลก 16 สายการบิน ได้แก่ Air Asia, Air Canada , Air Charter Service (Thailand) , Bangkok Airways, Cathay Pacific, China Eastern Airlines , China Southern Airlines, Emirates , EVA Air, Japan Airlines, Qantas , Qatar Airways, Singapore Airlines, STARLUX Airlines, Thai Airways , VietJet Air เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือขยายสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นให้แก่นักท่องเที่ยว กลุ่ม Online Travel Agent (OTA)  และ กลุ่มผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม รวมทั้ง TagThai แพลตฟอร์มบริการด้านการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวในทุกมิติ
    • ร่วมกับพันธมิตรที่มีกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง (HNWI) โดยการมอบสิทธิพิเศษเหนือระดับให้กับลูกค้า อาทิ โรงแรมต่างๆ , Private Jet และ Helicopter, Thailand Privilege Card และ Thailand Long Stay
    • จับมือร่วมกับพันธมิตรผู้ประกอบการเชิงธุรกิจ (MICE) มุ่งเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีวัตถุประสงค์เดินทางเข้ามาในเชิงด้านธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการประชุมและงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และยังได้มีการมอบสิทธิพิเศษเหนือระดับให้แก่ลูกค้าผ่านทางพันธมิตรที่วางแผนการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด (Destination Management Company for MICE)
    • ผนึกกำลังกับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม (Travel Agents) ร่วมกับผู้ประกอบการด้านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า  พร้อมนำเสนอการบริการให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะแบบกลุ่ม จะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย ผ่านทาง Tourist Card ที่มอบให้กับพันธมิตร Travel Agents มากกว่า 100 บริษัทที่เป็นที่รู้จักดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลก

2. ขยายกลุ่มพันธมิตรเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์เหนือระดับให้กับลูกค้าทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้าในเครือ (Elevate Experience)

2.1 สิทธิประโยชน์ภายในศูนย์ฯ รับสิทธิประโยชน์ผ่าน tourist card ที่มีร้านค้าร่วมรายการกว่า 500 แห่ง รวมถึงโปรโมชั่น365 วัน และมอบสิทธิพิเศษร่วมกับพันธมิตรทางการเงิน รวมทั้งสิทธิพิเศษสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพ ได้แก่ บริการ Shuttle Bus รับส่งจากสยามพารากอนไปยัง สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ และรถนำเที่ยว City Sightseeing Hop-On Hop-Off บริการรับ-ส่งไปยังสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ

2.2 สิทธิประโยชน์ภายนอกศูนย์ฯ โดยการจับมือกับศูนย์การค้าระดับโลก อีก 8 แห่งใน 8 ประเทศ  และมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกของศูนย์การค้าพันธมิตร (Global Privileges) ได้แก่ Hong Kong Time Square (ประเทศฮ่องกง), ION Orchard (สิงคโปร์), Pavilion Kuala Lumpur (มาเลเซีย), Parco (ญี่ปุ่น), Plaza Indonesia (อินโดนีเซีย) Taipei 101 (ไต้หวัน) ผ่านทาง ONESIAM SuperApp และโรงพยาบาลชั้นนำเพื่อมอบประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าต่างชาติ รวมทั้ง การสร้างความแข็งแกร่งให้กับบัตรสมาชิก Tourist Card ที่สามารถนำไปใช้รับสิทธิพิเศษและส่วนลดต่างๆ จากร้านค้าพันธมิตรนอกศูนย์การค้าในเครือได้ อาทิ ส่วนลด 10% ค่าเข้าชมสนามมวยราชดำเนิน (Rajdamnern Stadium), ส่วนลด 10% ค่าบริการที่ร้านค้าและโรงแรมชั้นนำ, ส่วนลดพิเศษ สำหรับส่งพัสดุไปต่างประเทศ เป็นต้น

ล่าสุดสยามพิวรรธน์ได้ลงนามความร่วมมือ กับ ฮุนไดดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เกาหลีใต้ มอบเอกสิทธิ์เหนือระดับระหว่างสมาชิก ONESIAM และสมาชิก Hyundai พร้อมยกระดับประสบการณ์สุดพิเศษให้กับนักช้อปจากทั่วทุกมุมโลก

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ได้พัฒนา Tourist Webapp  ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาลงทะเบียนรับ Tourist card ทำให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น และสามารถเพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้  สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาประจำสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิก ONESIAM Member และได้เพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์เต็มรูปแบบ  ทุกการจับจ่ายในร้านที่ร่วมรายการ รวมถึงร้าน international luxury fashion ทุกร้านในศูนย์การค้า ลูกค้าจะได้รับ ONESIAM Coins ทันทีซึ่งสามารถใช้ในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป

3. ขยายกลุ่มพันธมิตรเพื่อเข้ามาเสริมประสบการณ์ล้ำค่าที่น่าจดจำและอยู่ในกระแสความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างไม่รู้จบ (Excite Market)

โดยการจับมือร่วมกับพันธมิตรต่างๆ ผ่านการจัดงานไอคอนิคอีเว้นท์ที่เป็นไฮไลท์สำคัญของประเทศและระดับโลก อาทิ เทศกาลตรุษจีน, สงกรานต์ งานแฟชั่นวีค และงานเคาท์ดาวน์ เป็นต้น รวมทั้ง ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในการสร้างสรรค์งานและกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นที่ศูนย์ฯ ได้แก่ ร่วมจัด Pride Month, The Celebration Right to Love พร้อมมอบสิทธิพิเศษที่สนับสนุนความเท่าเทียมให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาร่วมงาน เพื่อสร้างความประทับใจที่เหนือความคาดหมายของผู้มาเยือน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม สามารถเข้าร่วม Workshop) และกิจกรรมหลายรูปแบบได้ที่ ECOTOPIA เมืองแห่งคนรักษ์โลกที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบผลิตภัณฑ์เชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สยามพิวรรธน์ พร้อมเป็นองค์กรที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ปักหมุดประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับต้นที่ต้องมาเยือน สร้างความประทับใจและอยู่ในความทรงจำของคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอย่างไม่รู้ลืม

]]>
1466638
สร้างปรากฏการณ์ความร่วมมือวงการค้าปลีกระดับโลก สยามพิวรรธน์ ผนึกกำลังกับ Hyundai Department Store ย้ำความสำเร็จขยายระบบนิเวศธุรกิจระดับโลกแบบไร้พรมแดน https://positioningmag.com/1463496 Thu, 22 Feb 2024 10:45:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463496
  • สยามพิวรรธน์ ผู้นำ Global Destination อันดับหนึ่งในประเทศไทย ผสานศักยภาพกับ Hyundai Department Store ผู้นำธุรกิจรีเทลยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ จับมือขยาย Global Ecosystem ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงธุรกิจค้าปลีกสู่ระดับสากล สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่อย่างไร้ขีดจำกัด
  • ครั้งแรกของ Hyundai Department Store ในการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ โดยผนึกกำลังกับกลุ่มสยามพิวรรธน์ เพื่อมอบเอกสิทธิ์เหนือระดับระหว่างสมาชิก ONESIAM และสมาชิก Hyundai พร้อมยกระดับประสบการณ์สุดพิเศษให้กับนักช้อปจากทั่วทุกมุมโลก
  • ตอกย้ำจุดยืนองค์กรต้นแบบด้านการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน เสริมแกร่งธุรกิจค้าปลีก ผลักดัน Local Heros ให้เติบโตก้าวไปสู่การเป็น Global Heros
  •  ผสานศักยภาพพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ ก้าวล้ำนำเทรนด์ เพิ่มแม็กเน็ตระหว่างศูนย์การค้า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตที่สามารถดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ย้ำหมุดหมายโครงการโกลบอลเดสติเนชั่นที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของผู้คนมาโดยตลอด

ตอกย้ำความสำเร็จในการสร้างระบบนิเวศธุรกิจระดับโลกอย่างไร้พรมแดนของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ ผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ล่าสุดประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Hyundai Department Store ผู้พัฒนากลุ่มห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในเกาหลีใต้ โดยร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อผสานศักยภาพความแข็งแกร่งของทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมยกระดับและปฏิวัติวงการค้าปลีกก้าวสู่อนาคต เชื่อมต่อสิทธิประโยชน์เหนือระดับและมอบประสบการณ์และบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับสมาชิกอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งมีเป้าหมายร่วมกันที่จะพัฒนาและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ระหว่างประเทศ สู่โครงการจุดหมายปลายทางระดับโลก

นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของสยามพิวรรธน์ที่ยึดมั่นในกลยุทธ์ Co-create & Collaboration to Win ให้ความสำคัญกับการสร้าง Ecosystem มาอย่างต่อเนื่อง โดยผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำและแข็งแกร่งระดับโลก ผสานศักยภาพอันโดดเด่นสู่การขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตในรูปแบบใหม่อย่างไร้ขีดจำกัด มุ่งสร้างปรากฏการณ์และนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้คนอยู่เสมอ ตอกย้ำจุดยืนผู้พัฒนาโกลบอลเดสติเนชั่นที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของผู้คน และมีผลงานประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับมาแล้วมากมาย”

ด้าน มร.จอง จี ยอง ประธานกลุ่มฮุนไดดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ (Mr. Jung Jee Young, President of Hyundai Department Store) เปิดเผยว่า “ด้วยเจตนารมย์ที่สอดคล้องกัน จึงจับมือกับกลุ่มสยามพิวรรธน์ ซึ่งมีศูนย์การค้าที่เป็นโกลบอลเดสติเนชั่นที่อยู่ในใจของนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน ได้ร่วมมือกันมอบสิทธิประโยชน์เหนือระดับและมอบประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกของเรา และยังเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดตลาดและแสดงศักยภาพของ K-Culture ที่เป็นกระแสได้รับความนิยมมากในประเทศไทย จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์และเทรนด์ใหม่ๆ ก่อนใคร และยังเป็นการส่งเสริมให้แบรนด์เกาหลีขนาดเล็กและขนาดกลางได้มีโอกาสทำการตลาดในต่างประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดผลในเชิงบวกต่อธุรกิจร่วมกันทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยยกระดับการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทย-เกาหลี ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเข้าถึงและขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย”

การร่วมมือกับ Hyundai Department Store ช่วยให้เกิดการสร้าง Global Ecosystem ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จากการเชื่อมต่อความแข็งแกร่งจาก 2 ผู้นำธุรกิจค้าปลีกระดับโลก มาพัฒนาต่อยอดเพื่อเป้าหมายร่วมกันและยังช่วยเสริมสร้างประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติให้กับกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ทั้งในเรื่องการเชื่อมโยงสิทธิประโยชน์ให้กับกลุ่มลูกค้าสมาชิกของ ONESIAM และสมาชิกของ Hyundai Department Store ความร่วมมือนี้จะสามารถดึงดูดนักช้อปเข้ามาจับจ่ายใช้สอยด้วยสิทธิพิเศษต่างๆ แห่งการช้อปปิ้งในศูนย์การค้าและร้านค้าในเครือกลุ่มพันธมิตร และสร้างความประทับใจกับประสบการณ์สุดพิเศษพร้อมไลฟ์สไตล์เหนือระดับให้กับลูกค้าของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะส่งผลให้ศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ เป็นเดสติเนชั่นอันดับหนึ่งที่นักช้อปชาวเกาหลีใต้ต้องการมาเยือนเมื่อมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ขณะเดียวกับ Hyundai Department Store จะเป็นช้อปปิ้งเดสติเนชั่นอันดับแรกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเมื่อไปท่องเที่ยวที่เกาหลีใต้เช่นกัน

ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งจากทั้งสองบริษัทรีเทลระดับโลก พร้อมบทพิสูจน์ด้วยจำนวนผู้มาใช้บริการและยอดจับจ่ายของลูกค้านักช้อป จึงเสริมแกร่งธุรกิจค้าปลีกร่วมกัน นำเสนอแบรนด์ชั้นนำและสินค้าไอเทมพิเศษระหว่างศูนย์การค้า และสนับสนุนให้ผู้ประกอบไทยได้ร่วมเสนอผลงานสินค้าไทยสร้างสรรค์สู่ยังตลาดนานาประเทศ ผลักดัน Local Heros ให้เติบโตก้าวไปสู่การเป็น Global Heros เช่นเดียวกับการส่งเสริมแบรนด์เกาหลีขนาดเล็กและขนาดกลางได้พัฒนาธุรกิจในประเทศไทย จึงเชื่อมั่นว่าการผนึกกำลังครั้งนี้จะเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัดและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน

นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังร่วมกันผสานศักยภาพและสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน ด้วยการสร้างสรรค์ปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่หลากหลาย จาก K-Content Specialty place ที่ได้รวบรวม K-food, K-pop, K-webtoons, K-fashion และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับให้กับผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตรงใจระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มแม็กเน็ตระหว่างศูนย์การค้าที่สามารถดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ย้ำหมุดหมายโครงการโกลบอลเดสติเนชั่นที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของผู้คนมาโดยตลอด

ทั้งนี้ กลุ่มสยามพิวรรธน์ได้ประสบความสำเร็จจากการสร้างความแข็งแกร่งของ Global Ecosystem ด้วยการจับมือกับพันธมิตรค้าปลีกข้ามชาติยักษ์ใหญ่ระดับโลก ได้แก่ ศูนย์การค้า PARCO ประเทศญี่ปุ่น, TAIPEI 101 ไต้หวัน, Hong Kong Times Square ฮ่องกง, ห้างสรรพสินค้า ION Orchard ประเทศสิงคโปร์, Pavilion Kuala Lumper ประเทศมาเลเซีย และ Plaza Indonesia ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเชื่อมสิทธิประโยชน์เหนือระดับให้กับผู้ใช้บริการ และดึงดูดนักช้อปสมาชิกของพันธมิตรค้าปลีกจากประเทศต่างๆ เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้ากลุ่มสยามพิวรรธน์ รวมถึงการเติมเต็มประสบการณ์ช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์เหนือระดับให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและทั่วโลก ผ่าน อาลีเพย์ (Alipay), Klook และทริปดอทคอมกรุ๊ป (Trip.com Group) อันเป็นการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยโดยรวมอีกด้วย

สำหรับความร่วมมือกับ Hyundai Department Store ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจการค้าปลีกสู่ระดับสากลแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำพันธกิจสำคัญของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ ที่ไม่หยุดยั้งที่จะสร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่และมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับผู้คนอย่างต่อเนื่องตลอดมา

]]>
1463496
สยามพิวรรธน์โชว์ศักยภาพผู้นำ Global Destination ในงาน Thailand Mega Fair 2023 ซาอุดีอาระเบีย เสริมแกร่งประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลก https://positioningmag.com/1456024 Tue, 19 Dec 2023 09:45:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1456024

สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำในการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destination) ในงาน Thailand Mega Fair 2023 กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยร่วมเป็นตัวแทนภาคเอกชนไทย เสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจในตลาดตะวันออกกลางที่มีศักยภาพ พร้อมนำเสนอจุดแข็งและภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางจากทั่วโลก

นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า Thailand Mega Fair 2023 เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสและการสร้างประโยชน์ร่วมกัน สอดคล้องกับกลยุทธ์ Co-Create & Collaborate to Win ของสยามพิวรรธน์ ที่มุ่งผสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันรังสรรค์ประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง งานแสดงสินค้าและบริการในครั้งนี้จึงเป็นเวทีที่สยามพิวรรธน์ ได้นำเสนอประสบการณ์ด้านการบริหารศูนย์การค้าที่เป็นอันดับ 1 โกลบอลเดสติเนชั่นของเมืองไทย ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ Luxury Retail  การบริหารศูนย์ประชุมนานาชาติและการจัดงานอีเว้นท์บนเวทีระดับโลก เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างความสำเร็จ และเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งติดอันดับมากสุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่เดินทางมาประเทศไทยในปีนี้

ในช่วงปีที่ผ่านมา ศูนย์การค้าของกลุ่มสยามพิวรรธน์ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ช่วยปักหมุดและตอกย้ำตำแหน่งของประเทศไทย ในฐานะหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ภายในงาน สยามพิวรรธน์ได้นำเสนอบูธที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สะท้อนจุดแข็งของการนำความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destinations) ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างชาติในทุกยุคสมัย อีกทั้งรักษาความเป็นผู้นำในตลาด Luxury Retail ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ตลอดจนการต่อยอดความสำเร็จ ไปสู่การเป็นเวทีแห่งโอกาสสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศผ่านสุขสยาม การเปิดพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจสนับสนุนยอดฝีมือคนไทยผ่านแบรนด์ไอคอนคราฟต์  (ICONCRAFT) และการสร้างคอมมูนิตี้สำหรับคนรักษ์โลกผ่าน อีโค่โทเปีย (Ecotopia) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม

Thailand Mega Fair 2023 จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน)   ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในวันที่ 13-16 ธันวาคม 2566 ณ ดิ อารีน่า ริยาด (The Arena Riyadh)  กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย Thailand Mega Fair 2023  โดยมีคณะนักธุรกิจไทยจากกว่า 120 บริษัทที่มีศักยภาพ ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง อาหาร อสังหาริมทรัพย์ อัญมณีและเครื่องประดับ พลังงาน การเงิน โรงแรมและบริการ โรงพยาบาลและการบริการด้านสุขภาพ การศึกษา  งานแสดงสินค้าและบริการของไทยครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทย  ตลอดจนภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวสูง

]]>
1456024
“เซ็นทรัลพัฒนา”ย้ำภาพ Global Destination ขึ้นแท่น Top of Mind แบรนด์ดังเลือกปักหมุดสาขาในไทยแห่งแรกที่เซ็นทรัล https://positioningmag.com/1455805 Fri, 15 Dec 2023 13:00:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1455805

เซ็นทรัลพัฒนาท็อปฟอร์ม ดึงดูดพาร์ทเนอร์แบรนด์ดังระดับโลกเลือกมาปักหมุดสาขาแรกในประเทศที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล รวมไปถึงร้านค้าระดับแฟล็กชิพสโตร์ด้วย ตอกย้ำภาพ Global Destination ระดับโลกที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ พร้อมกับแบรนด์ดังมั่นใจในการช่วยสร้างการเติบโตไปพร้อมกัน

ปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนาได้ช่วยทั้งแบรนด์ไทย และแบรนด์ระดับติดสปีดการเติบโต มีร้านค้ารวม 15,000+ แบรนด์ร้านค้าทั่วประเทศมากที่สุดด้วยกว่า 72 แบรนด์ดังปักหมุดสาขาแรกในไทย และกว่า41 แฟลกชิพสโตร์ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์และศูนย์การค้าไทยเพื่อความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all และผู้พัฒนาธุรกิจ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล, โครงการที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ ประกาศความสำเร็จเป็น Top of Mindหนึ่งเดียวที่แบรนด์ดังระดับโลกพาเหรดเข้าปักธงเปิดสาขาแรกและ Flagship store ในประเทศไทย สะท้อนความมุ่งมั่นในการดูแลพันธมิตรร้านค้าแบบครบวงจรด้วย 360degree End-to-End Solutionเชื่อมโยงสู่ Global Ecosystemที่แข็งแกร่ง ด้วยสาขาทั่วประเทศและทั่วโลกพร้อมพัฒนาเครื่องมือ CRM ที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับคู่ค้าและลูกค้า (B2B2C Solutions) ต่อยอด ‘The Ecosystem for All’ที่ต้องการเห็นทุกคน ทุกฝ่าย เติบโตไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

จุดแข็งสำคัญที่ทำให้แบรนด์ดังระดับโลกมั่นใจในศักยภาพของเซ็นทรัลพัฒนานั้น เนื่องจากมีทั้งบุคลากรที่มีคุณภาพ เครื่องมือทางการตลาดครบคลุม 360 องศา พร้อมกับมีความเข้าใจในตลาดประเทศไทยเป็นอย่างดี เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค สามารถปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับลูกค้าคนไทยได้อย่างดี จึงเป็นข้อแตกต่างที่ช่วยทำให้สร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Fashion and Luxury Partner Management บมจ. เซ็นทรัลพัฒนากล่าวว่า

“เซ็นทรัลพัฒนาเป็นหนึ่งเดียวที่แบรนด์ดังระดับโลกไว้วางใจ เลือกขยายธุรกิจในประเทศไทย ไม่เพียงแต่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ครอบคลุมทั่วประเทศ และเชื่อมโยงไปสู่ระดับโลกด้วย Global Ecosystem ที่แข็งแกร่งของเรา และเซ็นทรัล กรุ๊ปโดยพร้อมสนับสนุนพันธมิตรร้านค้าใน Ecosystem ให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ปัจจุบันมีแบรนด์ร้านค้าทั่วประเทศ กว่า15,000+ แบรนด์นอกจากนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราเป็น Global Destination ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ดังระดับโลก ให้เป็นจุดเริ่มต้นปักหมุดสาขาแรกในไทย กว่า 72แบรนด์และมีแฟลกชิพสโตร์ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลอีกกว่า41แบรนด์”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2023 เซ็นทรัลได้ต้อนรับแบรนด์ระดับโลกมาเปิดร้านครั้งแรกในประเทศไทย อาทิ

  • Casetify โดย PP Groupผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ Luxury แบรนด์สุดฮิตในไทย
  • Lululemon สปอร์ตแวร์พรีเมียมจากแคนาดา
  • On Running Official Storeแบรนด์รองเท้าวิ่งอันดับ 1จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย Mentagram
  • Pop Martแบรนด์อาร์ตทอยสุดฮอต ผู้นำป๊อปคัลเจอร์จากประเทศจีน จากการร่วมทุนของ Pop Mart และMinor Lifestyle ที่เพิ่งเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์
  • Nitoriแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านชื่อดังอันดับ 1 จากญี่ปุ่น
  • Yakiniku Like Flagship Store, Shake Shack และ The Cheesecake Factoryสุดยอดร้านชีสเค้กอันดับ 1 ของอเมริกา ที่ได้มาเปิดร้านอาหารแบบฟูลออพชั่นครั้งแรกในประเทศไทยและ Southeast Asiaที่เซ็นทรัลเวิลด์โดย Maxim’s Group กลุ่มธุรกิจอาหารและเบเกอรี่รายใหญ่ของฮ่องกง
  • Riverside Grilled Fishแบรนด์ร้านอาหารดังจากจีน โดย Minor Food
  • Mak’s Noodle หนึ่งในร้านบะหมี่ระดับตำนานที่ดีที่สุดในฮ่องกงเปิดมายาวนานกว่า 100 ปี
  • Canton Paradiseอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงรสชาติต้นตำรับ

รวมไปถึง SkyRise Adventures พาร์ทเนอร์รายล่าสุดที่เปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ขึ้นแท่นกิจกรรมวัดใจผจญภัยบนเส้นเชือก โรพคอร์สที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และ Kiztopia สนามเด็กเล่นเพื่อการเรียนรู้และความบันเทิงใหม่ล่าสุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดจากสิงคโปร์

ชู 3 กลยุทธ์ ช่วยแบรนด์เติบโตโดนใจผู้บริโภคในไทยแบบครบวงจร ได้แก่

1.360degree support ด้วย End-to-End Solutions: การทำงานร่วมกันแบบ Tenant Centric เพื่อนำเสนอ Marketing Solution ให้แก่พาร์ทเนอร์แบบครบวงจร 360 องศา ทั้งการจัดแคมเปญช่วยผลักดันยอดขาย สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน มุ่งมั่นสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจของคู่ค้าการช่วยเหลือการเติบโตและขยายสาขาด้วยโมเดล Co-investment,Funding และ Franchise การช่วยเหลือด้าน Business Operation ต่างๆรวมถึง การ Co-createร่วมกับการดำเนินงานของแบรนด์ อย่างKam’s Roast ที่สาขาเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ กับ new concept ที่เป็น Pet-friendly

นอกจากนี้ ทางแบรนด์เองก็มีการนำอัตลักษณ์ท้องถิ่น ความเป็นไทยมานำเสนอเป็นความพิเศษเฉพาะที่สาขาในประเทศไทยด้วย เช่น เมนูพิเศษของ Shake Shack ที่มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นคือ Pandan Sticky Rice Shake มิลก์เชกข้าวเหนียวเยลลี่ใบเตยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวเหนียวมะม่วงอันโด่งดังของไทยการสร้างสรรค์สินค้าคอลเลคชั่นสุดเอกซ์คลูซีฟโดยการร่วมงานของ Casetifyและเหล่าศิลปินไทยอย่างต่อเนื่องทำให้คู่ค้าผู้ประกอบการท้องถิ่นและชุมชน ให้ได้มาอยู่ใน Ecosystem ที่ยั่งยืนของเซ็นทรัลพัฒนา

2. CRM Program ที่แข็งแกร่งที่สุด: นำ The 1 BIZ และ Digital Tools ต่างๆ มาเป็นเครื่องมือเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าThe1มากกว่า 20 ล้านคนที่มีศักยภาพใช้จ่ายได้อย่างตรง Target ตรง Lifestyleทำให้พันธมิตรเข้าใจ Customer Insight และทำ Targeted Marketing ได้มากขึ้น จากฐานข้อมูลของธุรกิจต่างๆ ในเครือเซ็นทรัลที่ทำธุรกิจในตลาดต่างจังหวัดทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน นำไปสู่การ Drive Sale, Traffic, and Shopper Engagement ช่วยให้ร้านค้าขายได้ดีขึ้น และช่วยให้แต่ละแบรนด์สามารถทำ CRM ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

3.พัฒนาประเทศ สร้าง Scalable Impact เป็น Center of City / Center of Life : ศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาเป็นแลนด์มาร์กในทุกโลเคชั่นไม่ว่าจะเป็น Central World ที่เป็น‘Center of City – Center of Thailand’ตั้งอยู่บน Strategic location ใจกลางกรุงเทพฯ มีคนสัญจรในย่านเฉลี่ยกว่า 600,000 คนต่อวัน เป็นศูนย์กลางธุรกิจและเป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก เทียบชั้นย่านดังอย่าง Times Square  New York, Oxford street และย่าน Ginza ญี่ปุ่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศยังเป็น Center of Lifeที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ เป็น The destination for all ไม่ว่าจะเป็น Family / Food / Fashion / Lifestyle / Tourist เรายังเป็น Experience Curator คัดสรรอีเวนท์กว่า 1,000 งานต่อปี ทั้งนี้ จากการที่เรามีศูนย์การค้ากระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้เกิด Scalable Impact ระดับประเทศได้

การได้รับการยอมรับจากแบรนด์ดังทั่วโลกที่มาเปิดสาขาแรกในประเทศไทย หรือ Flagship Storeเป็นการตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งศูนย์การค้าไทย ที่เป็น Top of Mind ของความเป็น ‘First-ever’ ของเซ็นทรัลพัฒนาการันตีได้จากแบรนด์ดังทั่วโลกที่เลือกศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาเป็น Destination ในการเปิดสาขาแรกในไทยและขยายสาขาทั่วประเทศ อาทิ Uniqlo, Haidilao, Yakiniku Like Flagship Store, Shake Shack, Tsuta, SaemauelSikdang, Sushiro, Kam’s Roast, Mak’s noodle, Canton Paradise, Riverside Grilled Fish, Onkijung, TAI ER,The Cheesecake Factory, Nitori, Lululemon,On Running, HOKA, Marimekko, Kate Spade New York,  Marc Jacobs, MLB, Pandora, H&M Home, AAPE, Casetify, Pop Mart, Skyrise Adventures, Kiztopiaเป็นต้น

]]>
1455805
สยามพิวรรธน์ จับมือพันธมิตรปักธง Global Destinations เสนอสุดยอดประสบการณ์ระดับโลกเหนือความคาดหมาย https://positioningmag.com/1453398 Mon, 27 Nov 2023 11:30:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1453398

กลยุทธ์การส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษเหนือความคาดหมาย และร่วมสร้างการเติบโตไปพร้อมๆ กันกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Co-creation & Collaboration to Win) ได้กลายเป็นคีย์ซัคเซสที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกของ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ ผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของผู้พัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลกที่มีความโดดเด่นไม่แพ้โครงการสำคัญๆ ในประเทศต่างๆ เป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด  และยังได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่ในการจัดงานสำคัญระดับโลก ทั้งจากลักซ์ซูรี่แบรนด์ International Brands และพันธมิตรเจ้าของงานอีเวนต์ระดับโลก (World Tour Events) ที่พาเหรดมาใช้พื้นที่ของศูนย์การค้าของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์อย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี 2566  สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากพันธมิตรและศักยภาพความแข็งแกร่งของกลุ่มสยามพิวรรธน์ และพร้อมที่จะยกระดับประเทศไทยให้เป็นหมุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destination) ได้อย่างเต็มภาคภูมิ


ตอกย้ำจุดยืนผู้นำตลาดลักซ์ซูรี่ ได้รับเกียรติจากแบรนด์ดังระดับโลก สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวเวิลด์คลาสอีเวนต์ยิ่งใหญ่

  • นิทรรศการ ‘HERMÈS IN THE MAKING IN BANGKOK’ ระหว่างวันที่ 25 พ.ย. – 3 ธ.ค. 66 ณ The Pinnacle ชั้น 8 ไอคอนสยาม

ล่าสุดไอคอนสยามได้รับเกียรติจากลักซ์ซูรี่แบรนด์ดังระดับโลก HERMÈS นำเสนอสุดยอดนิทรรศการแห่งปีที่หมุนเวียนไปทั่วโลกและหาดูได้ยากยิ่ง  ‘HERMÈS IN THE MAKING IN BANGKOK’ นิทรรศการที่บอกเล่าเรื่ององค์ความรู้ที่ยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมของ Hermès เชิญชวนทุกท่านมาพบกับเหล่าช่างฝีมือและค้นพบจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์และนวัตกรรมผ่านชิ้นงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ ภายในนิทรรศการได้รับการผสมผสานเกมอินเตอร์แอคทีฟหลากหลายรูปแบบเข้ากับกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้ชมสามารถร่วมกิจกรรม เพลิดเพลินกับประสบการณ์สุดพิเศษ และเปี่ยมด้วยจินตนาการเช่นกัน

  • Bulgari” เนรมิตการตกแต่งพื้นที่ภายใต้ธีม “Magnificent Wonders” รับเทศกาลแห่งความสุข ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. 66 – 16 ม.ค. 67 ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน

แบรนด์ดังระดับโลก Bulgari” ร่วมกับสยามพารากอนรังสรรค์ต้นคริสต์มาสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนรมิตพื้นที่ภายใต้ธีม Magnificent Wonders” พบกับต้นคริสต์มาสเปล่งประกายแสงแห่งความสุขและความหวัง ตั้งตระหง่านโดดเด่นกลางพาร์คพารากอน และความมหัศจรรย์ของการตกแต่งบรรยากาศฉลองเทศกาลแห่งความสุขสุดพิเศษที่บริเวณจีเวล และอุโมงค์เซเลเบรชั่นอิลูมิเนชั่นที่จะส่องแสงงดงามสุดตระการตาในยามค่ำคืนตลอดช่วงเทศกาล  ตอกย้ำให้สยามพารากอนเป็นลักซ์ซูรี่เดสติเนชั่นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

  • เตรียมพบกับความมหัศจรรย์ของ “คาร์เทียร์” (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส ที่จะมาเนรมิตพื้นที่ของ ICONSIAM ให้เป็นเป็นดินแดนแห่งจินตนาการด้วย Installation ภายใต้คอนเซปต์ The Fabulous House” จำลองความงดงามของบูติกประวัติศาสตร์ของคาร์เทียร์ใน 3 ประเทศ โดยสื่อถึงการเดินทางลัดฟ้าเพื่อมอบของขวัญแห่งความสุข พร้อมเปิดให้เข้าชมและถ่ายภาพตั้งแต่ระหว่างวันที่ 6 ธ.ค. 66 – 7 ม.ค.67 ณ ไอคอนสยาม

ส่งมอบสุดยอดประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ด้วยพาเหรดอีเวนต์ระดับโลก (World Tour Events)

พื้นที่ของศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ เป็นสนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก (Global Art & Culture) เป็นเสมือนพื้นที่หลอมรวมวัฒนธรรม ศิลปิน แฟชั่น และศิลปะเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมที่จะนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่เหนือความคาดหมายที่แรกและที่เดียว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและมอบความพิเศษให้กับทุกคน อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมคอมมูนิตี้ที่หลากหลายเปิดรับทุกกระแส ทุกเทรนด์ เป็นสถานที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง

  • นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลก “Monet & Friends Alive Bangkok” ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 ม.ค. 67 ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม

สัมผัสกับประสบการณ์ระดับเวิล์ดคลาสในนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลกMonet & Friends Alive Bangkok” ที่ร่วมรังสรรค์โดย Grande Experiences ผู้สร้างและผู้ผลิต Live Impact Events ผู้นำเสนอประสบการณ์ระดับโลก และ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นครั้งแรกของไทย ที่จะได้สัมผัสภาพและเสียงของยุโรปในศตวรรษที่ 19 ในผลงานศิลปะของ Claude Monet (โคลด์ โมเนต์) ศิลปินชาวฝรั่งเศสแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก และผองเพื่อนจิตรกรอีก 14 ท่าน ภายใต้แนวคิด “An Immersive Adventure into French Impressionism” มาจัดแสดงในรูปแบบศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟอย่างยิ่งใหญ่น่าประทับใจ

  • นิทรรศการ “Xu Hongfei World Tour Exhibition – Thailand : Love in Siam” แสดงผลงานประติมากรรมศิลปินชื่อดังชาวจีน Xu Hongfei ‘ซู หวงเฟย’ ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ธ.ค. 67 ณ นภาลัย เทอร์เรซ ชั้น 7 ไอคอนสยาม

ไอคอนสยามเป็นสถานที่หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่เป็นแลนด์มาร์คในการจัดนิทรรศการ “Xu Hongfei World Tour Exhibition – Thailand : Love in Siam” ซึ่งเป็นการแสดงผลงานประติมากรรมระดับโลกจากสถาบันประติมากรรมกว่างโจว โดยศิลปินชื่อดังชาวจีน Xu Hongfeiซู หวงเฟย’ เจ้าของผลงานประติมากรรมชุด Chubby Women in Thailand ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในการจัดแสดงงานนิทรรศการมาทั้งหมด 50 ครั้ง จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติร่วม 20 แห่ง และจุดแลนด์มาร์คสำคัญทั่วโลกทั้งในฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, อิตาลี, อังกฤษ, สิงคโปร์, ตุรกี, อเมริกา, เยอรมนี, คิวบา, ญี่ปุ่น และอีกมากมายมา ตั้งแต่ปี 2013


ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก นำเทรนด์ฮิตคาแรกเตอร์ระดับโลก สร้างความตื่นตาตื่นใจแบบเอ็กซ์คลูซีพก่อนใคร

  • งาน “Celebrate Like Never Before” – Invitation to World of Frozen ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ย. ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

กระแสความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ไอคอนสยาม และ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย จากการเปิดตัว Olaf ‘โอลาฟ’ ตัวละครจากแอนิเมชันชื่อดัง Frozen ของดิสนีย์ขนาดใหญ่สูง 10 เมตร นั่งเอนพิงหมอนสามเหลี่ยมที่ผสานความเป็นไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ครั้งแรกในโลก ที่มาพร้อมการ์ดเชิญในฐานะตัวแทนจาก World of Frozen ในงาน “Celebrate Like Never Before” – Invitation to World of Frozen ที่ได้ถูกออกแบบสุดเอ๊กซ์คลูซีฟเพื่อประเทศไทยเท่านั้น ได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยือน

  • ต้อนรับคาแรกเตอร์ระดับโลก BELLYGOM หมีสีชมพูขี้เล่นสุดน่ารักที่โด่งดังจากเกาหลีใต้ บินตรงมาสร้างรอยยิ้มและมอบความสุขให้ทุกคน วันนี้ถึง 14 ม.ค. 2567 Discovery Plaza สยามดิสคัฟเวอรี่

นอกจากนี้ สยามดิสคัฟเวอรี่ยังได้มีโอกาสร่วมเฉลิมฉลองกับการมาถึงครั้งแรกในประเทศไทย ของ BELLYGOM คาแรคเตอร์หมีสีชมพูขี้แกล้งสุดน่ารักที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากประเทศเกาหลีใต้ โดยโด่งดังมาจาก YouTube ตั้งแต่ปี 2561 ด้วยยอดวิวมากกว่า 200 ล้านครั้ง และมีผู้ติดตามมากกว่า 1.4 ล้านรายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งกำลังมาแรงและเป็นที่นิยมจากนานาชาติ  มาร่วมสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร โดย BELLYGOM ขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 4 เมตร จะเป็นจุดแลนด์มาร์กที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปร่วมกับต้นคริสมาสต์ในธีม Sustainable Living X’mas Tree 2023

สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มต้นแบบจุดหมายปลายทางระดับโลก มีความภาคภูมิใจที่พันธมิตรระดับโลกได้ให้ความไว้วางใจในการเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญระดับโลก เพื่อนำเสนอประสบการณ์เหนือความคาดหมายระดับเวิล์ดคลาสให้กับผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์มีความพร้อมที่จะเติมเต็มปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร และเดินหน้ายกระดับประเทศไทยให้เป็นหมุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน ตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับผู้คนอย่างต่อเนื่อง

 

]]>
1453398
สยามพิวรรธน์เดินเกมรุก ครองแชมป์ Global Destination อันดับหนึ่งของไทย ขานรับนโยบายรัฐบาล ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ดันนักท่องเที่ยว ทะลุเกินเป้าใน Q4 https://positioningmag.com/1444112 Thu, 14 Sep 2023 04:00:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1444112

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ประกาศยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนธุรกิจขานรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ผ่าน 4 Strategic Pillars ย้ำจุดแข็งในการเป็นผู้สร้าง Global Destinations อันดับหนึ่งของประเทศไทย ดังนี้ 1) ผู้นำการสร้างประสบการณ์ shopping ยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมาย เสริมแกร่งตลาด Luxury retail ที่มีความครบครันที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 2) ผู้นำการจัด World Class Event และการประชุมนานาชาติ 3) ผู้นำในการยกระดับผลงานศิลปะไทย สนับสนุนกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางศิลปะระดับโลก และ 4) ผู้นำในการปั้น Soft power ของไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดสู่เวทีโลก  ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์ได้เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท อัดฉีดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นให้แตะ 30 ล้านคน ในไตรมาส 4 ปีนี้

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่าสยามพิวรรธน์เป็นผู้นำในการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destinations) ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลกมาอย่างยาวนานประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกด้วยรางวัลชนะเลิศหลากหลายเวที อีกทั้งยังเป็นผู้ครองฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทยตลอดมา ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์มีถึง 14 ล้านคน เพิ่มขึ้น 46% จากปี 2565 โดยมียอดการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยที่ 8,500 บาท/คน/วัน เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างเต็มที่แล้ว เชื่อมั่นว่าภายในสิ้นปีนี้ประเทศไทยจะมียอดนักท่องเที่ยวถึง 30 ล้านคน และสยามพิวรรธน์จะทุ่มทุนจัดกิจกรรมในไตรมาสสุดท้ายทุกศูนย์การค้าด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อเป็นแม่เหล็กให้ผู้คนทั่วโลกอยากมาเยี่ยมชม

การขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มสยามพิวรรธน์เพื่อขานรับนโยบายรัฐบาล ได้กำหนดยุทธศาสตร์ผ่าน 4 Strategic Pillars  ดังนี้

1. ผู้นำการสร้างประสบการณ์ Shopping ยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมาย เสริมแกร่งผู้นำในตลาด Luxury retail ด้วยการผนึกกำลังกับ Luxury brand ร้านค้าผู้เช่า และพันธมิตรธุรกิจ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเตรียมเปิดร้าน Luxury brands ใหม่เพิ่มเติมถึง 20 ร้านค้าในไตรมาส 4 ซึ่งหลายแบรนด์เป็นสาขาแรกในประเทศไทย อีกทั้ง มีคิวจัด Pop-up store และงานอีเวนต์ระดับโลก ร่วมกับแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 40 แบรนด์ไปจนถึงสิ้นปี 2567 รวมทั้งบรรดาลักซ์ซูรี่แบรนด์ทุกค่าย เตรียมขยายพื้นที่กว่าเท่าตัวให้เป็น Iconic store ที่ใหญ่ที่สุดในสยามพารากอนและไอคอนสยามในปีหน้าอีกด้วย

2.ผู้นำการจัด World Class Event และการประชุมนานาชาติ โดยทำงานร่วมกับองค์กรภาครัฐ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และภาคเอกชนต่างๆ เพื่อดึงดูดนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ที่มีกำลังซื้อสูงจากทั่วโลก โดยใช้พื้นที่รอยัลพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน และทรู ไอคอนฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เป็นสถานที่จัดงานอีเวนต์มาตรฐานระดับโลกหรือการประชุมนานาชาติ ซึ่งในปีนี้ได้รองรับงานสำคัญรวมกันกว่า 40 งาน และมีการจองใช้ใน ปี 2567 แล้วมากถึง 70% โดยสยามพิวรรธน์จะร่วมมือกับพันธมิตรใน Global Ecosystem ซึ่งประกอบด้วยพันธมิตรจากหลากหลายธุรกิจทั้งสายการบิน ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว ภัตตาคาร เพื่อรองรับการจัดงานหลากหลายรูปแบบ ส่งเสริมธุรกิจ MICE และสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการจัดประชุมนานาชาติของ S/E Asia นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้จัดงานอีเวนต์รายใหญ่ของโลกรายหนึ่งที่จะมาร่วมลงทุนสร้างศูนย์ประชุมและการแสดงเพิ่มเติมอีกด้วย สำหรับในไตรมาส 4 ของปีนี้จะลงทุนจัดกิจกรรมระดับชาติครั้งยิ่งใหญ่ในทุกศูนย์การค้ารวมกันถึง 40 กิจกรรม ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะสื่อสารประชาสัมพันธ์ออกสื่อทั่วโลก จึงมั่นใจว่าจะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องการมาชมและสนุกสนานร่วมกัน

3.ผู้นำในการส่งเสริมศิลปะไทย ยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางศิลปะระดับโลก  โดยสยามพิวรรธน์ได้บุกเบิกและเป็นผู้ประกอบการที่สนับสนุนศิลปินไทยมาตลอดเวลากว่า 15 ปี เป็นรายแรกที่นำผลงานของศิลปินไทยมาจัดแสดงเป็น public arts ประจำในศูนย์การค้า และจัดกิจกรรมต่างๆ ส่งเสริมความสามารถของศิลปินไทยตลอดมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สยามพิวรรธน์เตรียมแผนเสนอรัฐบาลที่จะปั้นให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของ S/E Asia ที่จะจัดงานศิลปะระดับโลกให้เกิดขึ้นเพื่อดึงดูดบุคคลในวงการศิลปะเข้ามาในประเทศไทย อาทิ งาน Art Basel และ Frieze เป็นต้น ซึ่งจะทำให้บรรดาศิลปินไทยได้มีโอกาสแสดงผลงานร่วมกับศิลปินระดับโลกด้วย โดยจะร่วมทำงานกับภาครัฐในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น สยามพิวรรธน์มีนโยบายที่จะเปิดศูนย์ศิลปะริเวอร์มิวเซียม ชั้น 8 ไอคอนสยาม ในปี 2026 ด้วยพื้นที่ 8,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นมิวเซียมมาตรฐานโลกแห่งแรกของประเทศไทยที่สามารถรองรับงานศิลปะ master piece ระดับโลกได้ทัดเทียมกับมิวเซียมชั้นนำในประเทศต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะดึงดูดบุคคลสำคัญในวงการศิลปะและบรรดา นักสะสมงานศิลปะจากทั่วโลกเข้ามาในประเทศไทย นับว่าเป็นกลุ่มท่องเที่ยวคุณภาพสูงกลุ่มใหม่ที่จะต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีในระยะยาว

4.ผู้นำในการปั้น Soft power ของไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดสู่เวทีโลก ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่สยามพิวรรธน์ได้พัฒนาแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่นำสุดยอดฝีมือในด้านต่างๆ ของไทย เพื่อนำเสนอ Soft power ของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น ดีไซเนอร์ และอื่นๆ รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs และพ่อค้าแม่ค้าจาก 77 จังหวัด จำนวนกว่า 6,000 ราย มารวมตัวกันนำเสนออัตลักษณ์ไทยรูปแบบต่างๆ ผ่านเมืองสุขสยาม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมไม่ต่ำกว่าวันละ 70,000 คนและเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากใน social media ทั่วโลก นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์สินค้าของคนไทยผ่านธุรกิจรีเทลของสยามพิวรรธน์ อันได้แก่ ICONCRAFT, ODS และ ECOTOPIA ก็สามารถขายแฟรนไชส์ไปต่างประเทศ ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์​พร้อมที่จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งพันธมิตรระดับโลก ยกระดับ Soft power ของคนไทยให้เป็นที่ชื่นชมบนเวทีโลกด้วยเช่นกัน

สยามพิวรรธน์พร้อมที่จะผสานพลังทุกภาคส่วน สนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ทำให้ประเทศไทยครองแชมป์จุดหมายปลายทางของโลก ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ที่จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และก่อให้เกิดการจ้างงานกับประชาชนจำนวนมาก ส่งผลกระทบครอบคลุมกว้างขวาง ไม่ใช่เฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ MICE และบริการที่จะได้ประโยชน์จากการมาเยือนของชาวต่างชาติ

“สยามพิวรรธน์จะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง โดยเตรียมอัดงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในไตรมาส 4 นี้ และเตรียมจัดงบประมาณเพิ่มอีกเท่าตัวในปีหน้า เพื่อเดินเครื่องหนุนการท่องเที่ยวของไทยตามนโยบายของรัฐบาล โดยมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม สร้างปรากฏการณ์ ปักหมุดให้ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางแรกที่ต้องมาเยือนสำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากทั่วโลก” นางชฎาทิพกล่าวปิดท้าย

 

]]>
1444112
จับตา! ดีลสำคัญ เมื่อ “เซ็นทรัลพัฒนา” ผนึก LINE FRIENDS กับงานส่งความสุขส่งท้ายปีที่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมืออื่นๆ https://positioningmag.com/1404511 Tue, 18 Oct 2022 04:00:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1404511

เรียกว่าเป็นดีลที่น่าสนใจในช่วงส่งท้ายปีจริงๆ เมื่อ 2 ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “เซ็นทรัลพัฒนา” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และศูนย์การค้ารายใหญ่ของไทย จับมือกับ LINE FRIENDS หนึ่งในคาแรคเตอร์ระดับโลกที่ทุกคนหลงรัก กับการเนรมิตพื้นที่ส่งความสุขในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 37 สาขา งานนี้การันตีได้ด้วยความน่ารัก และความประทับใจในทุกโมเมนต์อย่างแน่นอน


ปักหมุด Global Destination

ถึงแม้ว่าไวรัส COVID-19 จะยังไม่หายไปจากโลกนี้แบบ 100% แต่มนุษย์ก็สามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับไวรัสนี้ได้อย่างดีขึ้น อีกทั้งภาคเศรษฐกิจของทั่วโลกก็กลับมาฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เทศกาลปีใหม่อาจจะเงียบเหงาไปตามสถานการณ์ แต่ปีนี้รับรองว่าจะเป็นปีใหม่ที่กลับมาส่งความสุขกันได้เหมือนเคย

“เซ็นทรัลพัฒนา” เดินหน้าประตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนใคร เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก และส่งความสุขให้กับผู้บริโภค ด้วยการเปิดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี Embracing Happiness 2023 ด้วยงบลงทุน 500 ล้านบาท ไฮไลต์สุดๆ เป็นการจับมือร่วมกับ LINE FRIENDS คาแรคเตอร์ชื่อดังระดับโลก

การร่วมมือกันของ 2 ยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ เป็นการส่งความสุขแบบ O2O จัดเต็มด้วยกิจกรรมออนไลน์ และออนกราวน์ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 37 สาขาทั่วประเทศ บนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร เริ่มภารกิจส่งความสุขตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2565 –  6 ม.ค. 2566

นอกจากนี้ยังตอกย้ำการเป็น Global destination ฉลองเทศกาลปีใหม่ ทั้งงานเปิดไฟต้นคริสต์มาส, เทศกาลของขวัญกว่าล้านชิ้น และปรากฏการณ์เคาท์ดาวน์สุดยิ่งใหญ่ สมมง Time square of Asia ดันประเทศไทยเป็นแลนด์มาร์คระดับโลก

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า “แคมเปญส่งท้ายปีในปีนี้ของเซ็นทรัลพัฒนา ได้สร้าง Global impact ด้วยการจับมือ Global partner อย่าง LINE FRIENDS ที่เป็นคาแรคเตอร์ยอดนิยมของคนทั่วโลกมาสร้างโมเม้นท์ความสุขให้กับทุกคนทำให้เซ็นทรัลพัฒนา เป็น Global destination แห่งความสุขในช่วงเทศกาลอย่างแท้จริงที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถมาฉลองได้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศได้

ปัจจุบัน ทราฟฟิกในศูนย์การค้าทั่วประเทศ และทราฟฟิกทัวริสต์กลับมาแล้วเกือบ 100% สอดคล้องกับผลสำรวจจากอโกด้าล่าสุดเผย กรุงเทพฯ ได้รับเลือกให้เป็นอันดับ 1 ของจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากไปเยือนมากที่สุดเซ็นทรัลพัฒนามีความพร้อมในการส่งเสริม และตอกย้ำไทยเป็นแลนด์มาร์คระดับ ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวในประเทศก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยคนไทย 90% มีการวางแผนท่องเที่ยวในประเทศเพื่อพักผ่อนกับครอบครัว เชื่อมั่นภาพรวมการท่องเที่ยวไทยและภาคค้าปลีกไทยจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสนี้ สามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาได้ 10 ล้านคน หรือมากกว่านั้น ตามเป้าที่ททท.วางไว้อย่างแน่นอน”


จัดเต็มด้วยกิจกรรม O2O

จากแคมเปญ Embracing Happiness 2023 ทางเซ็นทรัลพัฒนาได้เตรียม 3 กลยุทธ์เพื่อส่งมอบความสุขแก่ทุกคน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่

1. Emotional & Omnichannel marketing เซ็นทรัลขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์การค้าที่อยู่ในใจของผู้บริโภคทั่วประเทศ ในครั้งนี้ได้เตรียมนำเอาคาแรคเตอร์ LINE FRIENDS มาสร้างสีสัน และมอบความสุขให้กับผู้บริโภคในทุก Touchpoint แน่นอนว่าอยู่ทั้งช่องทางออนไลน์ และออนกราวนด์

สำหรับ On-ground experience ได้นำเอาคาแรคเตอร์มาอยู่ในศูนย์การค้าทั้ง 37 แห่ง อาทิ

– LINE FRIENDS World พื้นที่แห่งความสุขดีไซน์พิเศษเฉพาะเซ็นทรัลเวิลด์ในบรรยากาศปาร์ตี้ดนตรีสโนว์โกลบ ต้นคริสต์มาสยักษ์ พร้อมพาเหรดของขวัญ LINE FRIENDS

– BROWN House ที่เซ็นทรัลทุกสาขาทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้เห็นห้องต่างๆ ของเหล่าเพื่อนๆ จาก LINE FRIENDS ซึ่งแต่ละสาขาจะมีห้องของ LINE FRIENDS ที่แตกต่างกันไป

– Synchronize Musical & Lighting Show โชว์พิเศษแสงสีเสียงตระการตา จาก LINE FRIENDS บนจอ panOramix ที่จะมีเซอร์ไพรส์มอบความสุขจากจอส่งต่อถึงทุกคนที่มาชมโชว์

– LINE FRIENDSCafé minini ครั้งแรกในไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล ลาดพร้าว มีขนม และเครื่องดื่มจากแก๊ง LINE FRIENDS และ LINE FRIENDS pop-up Store 5 สาขา ที่เซ็นทรัลเวิลด์, ลาดพร้าว, เวสต์เกต, ปิ่นเกล้า และพระราม 9

ส่วน Online experience แน่อนว่ายุคนี้ต้องทำกิจกรรมออนไลน์ควบคู่ไปกับออนกราวนด์ ทางเซ็นทรัลพัฒนาได้เตรียม LINE Sticker & Wallpaper คอลเลคชั่นพิเศษ เตรียมดาวน์โหลดฟรีที่ไลน์ @centrallife เริ่ม 29 พ.ย. นี้ พร้อมกับ LINE FRIENDS AR และ LINE FRIENDS Happiness Hunting (LINE E-Stamp) สะสมเพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษอีกด้วย


สร้าง Scalable Impact ระดับประเทศ

ความน่าสนใจของแคมเปญนี้อยู่ที่การจับมือของ 2 ยักษ์ใหญ่ ทำให้เกิด Global impact ได้ ถือว่าเป็นการ Cross-region Platform ทางเซ็นทรัลพัฒนาเองเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยในรูปแบบ Retail-led mixed use ได้แก่ ธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ เรียกว่ามีแพลตฟอร์มของตัวเองมากมาย

ทาง LINE FRIENDS เป็นคาแรคเตอร์ชื่อดังจาก LINE แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้ในไทยกว่า 53 ล้านราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานผู้ใช้ในกลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen Z  ทั่วโลก นอกจากนี้ คนไทยมีอัตราการใช้ LINE เยอะมากๆ มีการส่งสติ๊กเกอร์เป็นประจำ ลองจินตนาการดูว่าเมื่อ 2 ยักษ์ใหญ่มาจอยแคมเปญกัน จะส่งความสุขให้กับผู้บริโภคได้ขนาดไหน เรียกว่าสร้างอิมแพ็คได้มหาศาล

ที่สำคัญไม่น้อย แคมเปญ Embracing Happiness 2022 จะเป็นหัวใจหลักในการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ LINE FRIENDS เป็นคาแรคเตอร์ขวัญใจทั้งชาวไทย และทั่วโลก ทำให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง และยังกระตุ้นทราฟิกให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลได้ 30% อีกด้วย

นอกจากนี้ แคมเปญนี้ยังมีความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ อีกมากมาย เป็น Multi-Brands Collaboration มาร่วมครีเอท LINE FRIENDS คอลเลคชั่นพิเศษทั้งสินค้าแฟชั่น ขนม-เครื่องดื่มอาทิ Jubilee Diamond, Lee Cooper, Sabina, Black Canyon, Dairy Queen, Guss Damn Good, Häagen-Dazs, KOI Thé, Olino Crepe & Tea, S&P, Toku Dessert, Yomie’s Rice x Yogurt  เฉพาะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โดยทางเซ็นทรัลพัฒนาเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างพาร์ทเนอร์และแบรนด์ต่างๆ ได้ด้วยบทบาทการเป็น Place &Experience makers สำหรับทุกคน

เรียกได้ว่า งานนี้ทั้งเซ็นทรัลพัฒนาและ LINE FRIENDS จัดเต็มได้อย่างสมศักดิ์ศรีแบรนด์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของดีลใหญ่ๆ อื่น  ไม่แน่ว่าต่อไปเราอาจจะเห็น LINE FRIENDS STORE ที่ตอนนี้ตั้งอยู่ที่เมืองใหญ่ชั้นนำทั่วโลก เช่น โซล นิวยอร์ค ลอสแอนเจลิส เซี่ยงไฮ้  ที่เซ็นทรัลเวิลด์ก็ได้

]]>
1404511