“เเรงบันดาลใจ” คือจุดเริ่มต้นของพลังเเห่งความสำเร็จ การสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เยาวชนที่เป็นอนาคตของสังคม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้
อย่างที่ทราบกันดีว่า “กีฬา” เป็นกิจกรรมที่ช่วยเปลี่ยนมุมมองการรับรู้ การใช้ชีวิต ความสามัคคีเเละมิตรภาพ ดังนั้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกีฬาไทยให้ไปสู่ระดับโลก จึงเป็นเหมือนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาสังคม เเละคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนไปด้วย
นี่จึงเป็นที่มาของการสานต่อโครงการ “Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” เป็นปีที่สอง เดินหน้าปรับปรุงสนามฟุตบอลชุมชนแห่งใหม่ เตรียมพร้อมเฟ้นหานักเตะดาวรุ่ง พาบินลัดฟ้าไปฝึกฝีเท้าที่สโมสร “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์” ประเทศเยอรมนี สร้างแรงบันดาลใจและปูทางให้นักเตะเยาวชนไทยก้าวไปสู่อุตสาหกรรมกีฬาอย่างยั่งยืน
โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่าง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF บริษัทพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของไทย เเละสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลเเถวหน้าของประเทศ
หนึ่งในพันธกิจของ “กัลฟ์” คือการพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลังของสังคมยุคใหม่ ควบคู่กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันสโมสรฟุตบอล “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ก็พร้อมส่งต่อความรู้ ความสามารถด้านกีฬาฟุตบอล พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่สนใจ
ธนญ ตันติสุนทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการองค์กร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เล่าว่า กลุ่มบริษัทกัลฟ์เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเยาวชนที่มีใจรักด้านกีฬา โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้สนับสนุนทีมฟุตบอลไทยและจัดกิจกรรมฟุตบอลคลินิกในชุมชนที่กัลฟ์เข้าไปดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
“การสร้างเเรงบันดาลใจเเละเปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ได้ทำตามความฝันของพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งการจะพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ไปสู่ระดับสากลนั้น จำเป็นต้องส่งเสริมความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งสถานที่ฝึกซ้อมเเละอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน การได้รับคำเเนะนำที่ดีเเละมีสภาพเเวดล้อมที่เอื้ออำนวย”
สำหรับ “ก้าวต่อไป” ในปีนี้ เเม้จะเจอสถานการณ์ COVID-19 ที่ไม่มีใครคาดคิด เเต่ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคที่จะสานต่อโครงการ ซึ่งผู้บริหารกัลฟ์ ยืนยันว่า จะมีการเดินหน้าจัดโครงการ Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชนต่อไปตามเเผนการที่วางไว้อย่างเเน่นอน เเละเมื่อสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลกคลี่คลายเเล้ว ก็จะร่วมกันส่งนักเตะเยาวชนที่มีความมุ่งมั่นและมีความสามารถรอบด้านไปฝึกฝนทักษะฟุตบอลถึงประเทศเยอรมนี เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์กีฬาในระดับมืออาชีพกับทีมระดับโลกอย่างใกล้ชิด
ไชยชนก ชิดชอบ รองผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีประสบการณ์เรื่องของการพัฒนาเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม สามารถผลักดันนักเตะขึ้นสู่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ และทีมชาติไทยได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการร่วมมือพัฒนาเยาวชนกับกัลฟ์ในครั้งนี้ จึงเชื่อว่าจะมีเพชรเม็ดงามเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างมาก
“เรามุ่งโฟกัสไปที่การพัฒนาเยาวชน เป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาประเทศ จากจุดเล็กๆ ในบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี ที่มีเด็กในโครงการเเค่ 120 คน ตอนนี้เริ่มออกดอกออกผล กลายเป็นดาวรุ่งวงการกีฬาไทย เเละการได้มาเจอพันธมิตรที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันอย่างกัลฟ์ ก็ทำให้ความฝันนั้นยิ่งใหญ่ขึ้น เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่เข้ามาเติมเต็มให้โครงการนี้สมบูรณ์เเละเดินไปข้างหน้า รวมถึงความร่วมมือกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ที่เป็นสโมสรดังที่ค่อยๆ เติบโตจากต่างจังหวัดจนประสบความสำเร็จนั้น มีความคล้ายคลึงกับเรามาก ทำให้มีเเนวคิดเดียวกัน จึงสานต่อการพัฒนาเยาวชนร่วมกันได้ดี”
สำหรับโครงการ Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ส่วน ได้เเก่
● การปรับปรุงสนามฟุตบอลเก่าในชุมชนให้ได้มาตรฐาน โดย กัลฟ์ และสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะคัดเลือกสนามฟุตบอลในชุมชนหนึ่งแห่งที่มีผู้เสนอเข้ามาพร้อมเหตุผลที่น่าสนใจและผ่านเกณฑ์การคัดเลือก มาปรับปรุงให้เป็นสนามฟุตบอลที่มีคุณภาพ
โดยในปีที่ผ่านมา โครงการ Gulf Football Camp : ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน ได้ส่งมอบสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานสากลให้กับโรงเรียนชุมชนบ้านหัน จ.ชัยภูมิ
สำหรับปีนี้ ผู้ที่สนใจเสนอให้ปรับปรุงสนามฟุตบอลเก่าในชุมชนให้ได้มาตรฐาน สามารถส่งข้อมูลส่วนตัวและเหตุผลที่ต้องการปรับปรุง พร้อมแนะนำโรงเรียน + เล่าเหตุผล + ระบุตำแหน่งที่ตั้งของสนามฟุตบอลที่เสนอให้ชัดเจน พร้อมระบุ ชื่อ-นามสกุล อายุ เพศ ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ของผู้ส่ง โดยสามารถแนบไฟล์ VDO ในอีเมล หรือ อัพโหลดผ่าน Google Drive/Dropbox/WeTransfer พร้อมลิงค์ไฟล์ มาที่อีเมล [email protected] หรือส่งผ่านช่องทาง Official Line Account โดยกดเพิ่มเพื่อน ID: @gulffootballcamp
● Trial Tournament เป็นการจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับเยาวชน ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 เพื่อเฟ้นหานักเตะเยาวชนอายุ 14-15 ปี 2 คน และคัดเลือกอีก 2 คนจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี รวม 4 คน ที่มีความสามารถโดดเด่นร่วมเดินทางไปเก็บประสบการณ์ที่สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 7 วัน เพื่อฝึกทักษะฟุตบอลในสนามระดับโลก มุ่งสร้างแรงบันดาลใจและปูทางสู่การเป็นบุคลากรมืออาชีพในวงการกีฬาไทย
โดยนักเตะเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม Trial Tournament สามารถสอบถามรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการได้ที่ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัทบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 02-658-3768, 081-705-4454 หรืออีเมล [email protected] หรือส่งผ่านช่องทาง Official Line Account โดยกดเพิ่มเพื่อน ID: @gulffootballcamp
● ฟุตบอลคลินิกในชุมชน โดยการนำโค้ชและนักเตะของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปร่วมฝึกทักษะฟุตบอลให้กับเยาวชนในชุมชน พร้อมร่วมแบ่งปันประสบการณ์และเผยกลเม็ดระดับมืออาชีพ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารในโครงการ “Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” ได้ที่เฟซบุ๊ก GulfSpark.TH
“อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญ คือความมุ่งมั่นของเยาวชนที่จะพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นต้นแบบในกลุ่มเยาวชนด้วยกันเอง และมุ่งเติบโตไปเป็นแรงขับเคลื่อนแก่ประเทศ ไม่ว่าจะในฐานะนักกีฬา หรือในฐานะผู้เชี่ยวชาญสาขาอื่นในแวดวงกีฬา อย่างโค้ช นักวางกลยุทธ์ หรือ นักการตลาดกีฬา ดังนั้น กัลฟ์จึงเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ทำในสิ่งที่รักและเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างที่มุ่งหวังไว้” ผู้บริหารกัลฟ์กล่าว
ถึงแม้ว่า ณ ปัจจุบันนี้การเดินทางเพื่อไปฝึกฝนที่ประเทศเยอรมนีเป็นไปได้ยาก จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด ดังนั้นเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของเยาวชน ทางทีมงานจึงต้องคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินกิจกรรม โดยทั้งกัลฟ์ และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด และจะยังคงมุ่งมั่นสานฝันให้กับเยาวชนไทยต่อไป
ในฝั่งของพันธมิตรยักษ์ใหญ่อย่างสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็ยืนยันที่จะสานต่อโครงการนี้ เพื่อร่วมแบ่งปันเทคนิคและความเชี่ยวชาญ ให้แก่เยาวชนไทย โดยเยาวชนกลุ่มนี้จะได้ไปเยือน Signal Iduna Park สนามเหย้าของทีม ที่มีความจุใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและเป็นหนึ่งในศูนย์ฝึกที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
“เราเชื่อว่านักเตะเยาวชนของไทยจะได้ประสบการณ์อันล้ำค่าจากการมาเยือนสโมสรดอร์ทมุนด์ และนำความรู้ไปต่อยอดได้อย่างแน่นอน โดยในระหว่างช่วง COVID-19 เราก็มีการสื่อสารเเละอบรมผ่านดิจิทัลเเพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง” ซูเรช เลทช์มานัน กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ระบุ
ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน หลายองค์กรต้องปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เเต่ “กัลฟ์” ยังคงมุ่งทำกิจกรรมเพื่อสังคมเเละสนับสนุนวงการฟุตบอลไทยต่อไป
Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน จึงเป็นก้าวเเรกที่จะพัฒนาวงการกีฬาไทยให้ไปสู่ระดับโลก โดยจะมีการสนับสนุนกิจกรรมกีฬาให้มีความหลากหลาย มุ่งเข้าถึงเยาวชนอีกจำนวนมากในชุมชนต่างๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนอนาคตของประเทศต่อไป
]]>