หากพูดถึงการ Work From Home เชื่อว่าทั่วโลกและประเทศไทยเองคงได้เรียนรู้แล้วว่าไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ การระบาดของ COVID-19 ทำให้ตอนนี้เราเรียนรู้ที่จะทำงานจากทุก ๆ ที่ขอแค่มีโน้ตบุ๊กดี ๆ และอินเตอร์เน็ตแรง ๆ แล้วโน้ตบุ๊กแบบไหนถึงเรียกว่าดี ดังนั้น เราจะพาไปทำความรู้จักกับสัญลักษณ์ ‘Intel® Evo’ ว่าทำไมถึงเห็นแล้วสามารถมั่นใจได้ว่าดี
หากพูดถึงคุณสมบัติของโน้ตบุ๊กที่หลายคนอยากได้ไม่ว่าจะใช้ทำงานหรือใช้เพื่อเรียน นอกจากความแรงแล้ว น้ำหนักก็ต้องเบาเพื่อให้สะดวกต่อการพกพาอีกด้วย นอกจากนี้แบตเตอรี่ต้องอึด เพราะบางคนอาจจะเบื่อที่ต้องไปแย่งชิงปลั๊กไฟในร้านกาแฟ ไม่ก็ขี้เกียจพกสายชาร์จให้รกรุงรัง
Intel จึงได้ต่อยอด Project Athena หรือมาตรฐานโน้ตบุ๊กบางเบาสมัยใหม่ มาเป็น Intel® Evo มาตรฐานใหม่ที่เป็นเหมือนเครื่องหมายในการยืนยันว่าโน้ตบุ๊กเครื่องนั้นได้ผ่านมาตรฐานการออกแบบเทคโนโลยีมาอย่างลงตัว โดยพิจารณาจากการใช้งานจริงไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองที่รวดเร็ว อายุการใช้งานแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ เสียง การแสดงผลที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงการออกแบบที่บางเบาพกพาง่าย
ทั้งนี้ Intel ได้กำหนดมาตรฐานของโน้ตบุ๊คที่จะใช้แพลตฟอร์ม Evo ได้ต้องผ่านการทดสอบทุกส่วนของเครื่องตั้งแต่เริ่มยันจบการใช้งานโดยต้องมีคุณสมบัติหลากหลายข้อ ตัวอย่างเด่น ๆ เช่น
ใช้ CPU Intel® เจนเนอเรชั่น 11 Core i5 ขึ้นไป ซึ่งชิปดังกล่าวใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 10 นาโนเมตรแบบ SuperFin ซึ่งเจน 11 เป็นรุ่นล่าสุดของ Intel รองรับความเร็วในการประมวลผลสูงสุดถึง 4.8 GHz นอกจากนี้ยังมี เทคโนโลยี Intel Deep Learning Boost ซึ่งมี AI ช่วยประมวลผลในตัว ช่วยให้ทำงานได้เร็วและฉลาดขึ้น โดยเฉพาะด้านกราฟิกหรือตัดต่อร่วมกับโปรแกรมตระกูล Adobe จะทำงานมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างมาก
ใช้การ์ดจอ Intel® Iris® Xe ซึ่งช่วยให้สามารถเล่นเกมกราฟิกระดับสูง สามารถดูหนังความละเอียดสูงสุด 8K แบบ HDR ส่วนผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการตัดต่อก็สามารถ render ได้อย่างรวดเร็ว
รองรับการใช้งาน Wi-Fi 6 (Gig+) และ Thunderbolt 4 ได้เต็มประสิทธิภาพ รองรับเทคโนโลยี Far-field, OpenVino และ WinML AI และต้องรองรับระบบไบโอเมตริกซ์ (การล็อคอินด้วยเสียงหรือลายนิ้วมือ)
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า 9 ชั่วโมง ด้วยจอแสดงผล FHD ชาร์จ 30 นาทีใช้งานต้องใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วย USB-C และต้องใช้ RAM 8GB ขึ้นไป, หน่วยความจำต้องเป็น SSD NVMe 256GB ขึ้นไป และพร้อมใช้งานทันทีจากโหมดสลีปภายใน 0.8 วินาที
หน้าจอต้องมีขนาด 12-15 นิ้ว ตัวเครื่องสวยงาม บางเบา น้อยกว่า 15 มม. และต้องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 หรือ Chrome OS
จากเงื่อนไขคุณสมบัติดังกล่าว แน่นอนว่าไม่ใช่โน้ตบุ๊กทุกรุ่นที่จะผ่านมาตรฐาน Intel® Evo ดังนั้น อยากรู้ว่ารุ่นไหนได้มาตรฐานก็ดูที่สติกเกอร์ได้เลยง่าย ๆ โดยตัวอย่างของโน้ตบุ๊กที่ได้มาตรฐาน Intel® Evo
ในปัจจุบัน อาทิ Acer Swift 3, Asus Zenbook UX435 และ msi summit e13 flip evo เป็นต้น
สรุป การเลือกซื้อโน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันไม่ได้ดูแค่จำนวนคอร์หรือเธรดที่เยอะแล้วจะแปลว่าดี แต่ต้องดูเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับซีพียูนั้น ๆ ดังนั้น จากมาตรฐานของ Intel® Evo ก็แสดงให้เห็นว่ามั่นใจที่จะเลือกซื้อได้จริง ๆ ไม่ว่าจะนำไปใช้กับงานเอกสารทั่วไป งานประมวลผลหนัก ๆ อาทิ ตัดต่อต่าง ๆ รวมถึงความบันเทิงอย่างดูคอนเทนต์ระดับ ‘8K’ และที่ขาดไม่ได้ ‘เกม’ ดังนั้นคนที่มองหาโน้ตบุ๊คน้ำหนักเบาแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพไม่ต้องคิดอะไรมาก เห็นสัญลักษณ์ Intel® Evo
ก็มั่นใจได้เลย
สามารถหาซื้อโน้ตบุ๊ค แพลตฟอร์ม Intel EVO ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วประเทศ เช่น Advice, BaNANA, IT City, JIB หรือซื้อออนไลน์ได้เลยที่ https://bit.ly/3gLed2n, https://bit.ly/2SJHhON, https://bit.ly/3gLytRr, https://bit.ly/3gSgJmj, https://bit.ly/3qeCIrU, https://bit.ly/3xGX2og
#Intel #IntelEvo #โน้ตบุ๊ก #Notebook #Sponsoredbyintel
]]>