iPhone 12 – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 18 Nov 2021 04:37:23 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ไม่ต้องพึ่งร้าน! ‘Apple’ เตรียมขาย ‘อะไหล่’ iPhone ให้ลูกค้าซ่อมเองที่บ้าน https://positioningmag.com/1362684 Thu, 18 Nov 2021 02:28:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362684 Apple ประกาศโปรแกรมซ่อมแซมอุปกรณ์ด้วยตัวเอง โดยจะขาย ‘อะไหล่’ ให้ลูกค้าซื้อเพื่อซ่อม iPhone หรือ Mac ของตัวเอง โปรแกรมดังกล่าวจะอนุญาตให้เจ้าของ iPhone เปลี่ยนหน้าจอ แบตเตอรี่ และ กล้อง ก่อน โดยจะมีชิ้นส่วนเพิ่มเติมตามมาในภายหลัง

โปรแกรมดังกล่าวถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับผู้ที่สนับสนุน “สิทธิ์ในการซ่อมแซม” หลังจากที่มีการสนับสนุนการปฏิรูปการซ่อมแซม ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงคู่มือและชิ้นส่วนที่เป็นทางการได้มากขึ้น ขณะที่ Apple เองก็พยายามผลักดันให้ลูกค้าสามารถซ่อมอุปกรณ์ของตนเองได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดย Apple พยายามพูดถึงปัญหาด้านความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพจากชิ้นส่วนที่ไม่ใช่ของแท้

ทั้งนี้ บริการดังดล่าวจะพร้อมใช้งานสำหรับ iPhone 12 และ iPhone 13 เฉพาะใน สหรัฐอเมริกา ก่อน และต่อไปจะเริ่มจำหน่ายชิ้นส่วนเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซ่อม Mac ของตนที่ทำงานบนชิป Apple M1 ได้ โดยลูกค้าสามารถซื้อชิ้นส่วนผ่าน Apple Self Service Repair Online Store ร้านค้าออนไลน์ของ Apple โดยทุกคำสั่งซื้อจะรวมคู่มือการซ่อมไว้ด้วย และสำหรับผู้ใช้ที่ส่งคืนชิ้นส่วนที่ใช้แล้ว บริษัทจะนำกลับไปรีไซเคิลในภายหลัง โดยลูกค้าจะได้เครดิตในการซื้อ

อย่างไรก็ตาม แม้ Apple จะขายอะไหล่ให้ลูกค้าซ่อมสินค้าเองได้ แต่ Apple กลับย้ำว่าการซ่อมแซมแบบบริการตนเองมีไว้สำหรับ ช่างเทคนิค แต่ละรายที่มีความรู้และประสบการณ์ในการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ การไปพบผู้ให้บริการซ่อมมืออาชีพกับช่างเทคนิคที่ผ่านการรับรองซึ่งใช้ชิ้นส่วนของแท้ของ Apple เป็นวิธีที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือที่สุดในการซ่อมแซม

Apple ยังไม่ได้บอกว่าอะไหล่จะขายราคาเท่าไหร่

Source

]]>
1362684
‘ซินเน็ค’ มั่นใจตลาดไอที 64 โตแรงกว่า 63 หลังซัพพลายฟื้นแถมได้ 5G และเกมมิ่งช่วยดัน https://positioningmag.com/1312060 Fri, 25 Dec 2020 06:33:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312060 แม้ภาพรวมสถานการณ์ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แต่ทว่าสินค้าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต ทำให้ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีแม้ในช่วงที่มีการปิดล็อกน์ดาวน์ (Lockdown) ส่งผลให้สินค้าบางรายการกลับมีความต้องการที่สูงขึ้น อาทิ สินค้ากลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก สินค้ากลุ่ม Tablet/iPad เพื่อใช้สำหรับ Work from home อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้าน ‘ซัพพลายเชน’ กลับเป็นตัวฉุดการเติบโตของตลาด

People in Taipei City take photos of Apple’s newly released iPhone 12, 12 mini as well as 12 Pro and visit stores to collect their pre-orders, as Taiwanese market sources show there has been massive pre-orders of the new generation of iPhones, in Taipei City, Taiwan on 23 October 2020. (Photo by Ceng Shou Yi/NurPhoto via Getty Images)

ไตรมาส 2 ปีหน้า ซัพพลายถึงฟื้น

สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอที ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจไอทีปี 2563 มองว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการระบาดของ COVID-19 เนื่องจากสินค้าไอทียังเป็นสิ่งจำเป็น ขณะที่ช่วงสิ้นปีที่มีโครงการของภาครัฐอย่าง ช้อปดีมีคืนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับยังเติบโตไม่เต็มที่เพราะซัพพลายที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ภาพรวมจึงเติบโตไม่ได้เท่าที่ควรจะเป็น

“กำลังซื้อก็มีผลกระทบบ้าง จะเห็นได้จากตลาดล่าง-กลาง แต่กลุ่มบนไม่ได้รับผลกระทบเลย อย่าง iPhone 12 ก็ขายดีมาก โดยเฉพาะตัว Pro และ Pro Max ที่ขาดตลาด”

ขณะที่ปีหน้าคาดว่าซัพพลายจะฟื้นช่วงไตรมาส 2 อีกทั้งกระแส 5G ในปี 63 ยังแค่เริ่มต้น เชื่อว่าผู้บริโภคจะเริ่มตื่นตัวในปีหน้า สินค้าอย่างสมาร์ทโฟนและแกดเจ็ตอื่น ๆ จะยิ่งได้รับความนิยม ดังนั้น ตลาดไอที 64 มองว่าจะบวกกว่าปี 63

ดึง Nintendo ร่วมพอร์ตปีหน้า

ตลาดเกมมิ่งเป็นอีกตลาดที่เห็นการเติบโตอย่างมากรับกระแสการเติบโตของ e-sport ที่ยังคงความร้อนแรง โดยปัจจุบันซินเน็คฯ ครองมาร์เก็ตแชร์ในพอร์ตเกมมิ่งโน้ตบุ๊กรวมกับเกมมิ่งเกียร์อันดับหนึ่งสูงสุดในประเทศไทย โดยในปี 63 ก็ได้แบรนด์อย่าง ‘Razer’ แบรนด์เกมมิ่งเกียร์ระดับโลกและพร้อมที่จะขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้นในปีหน้าโดยได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของ ‘Nintendo’ นอกจากนี้ อีกกลุ่มสินค้าที่น่าจับตามองคือ กลุ่ม ‘สุขภาพ’ ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน ซึ่งซินเน็คฯ เตรียมจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่เป็นไฮเอนด์เทคโนโลยีในเร็ว ๆ นี้

“สินค้ากลุ่มเกมมิ่งยังเติบโตต่อเนื่อง ด้วยระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเกมที่ถูกพัฒนาขึ้น สามารถเล่นเกมร่วมกันจากเครื่องเล่น Console และ PC ทำให้การตอบรับของผู้เล่นมีจำนวนเพิ่มขึ้น และมีความต้องการอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ที่มีความทันสมัย โดยเรายังคงเดินหน้ารุกตลาดนี้ โดยจะได้เห็นการจับมือกับพันธมิตรแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมพอร์ต ควบคู่ไปกับแผนขยายแพลตฟอร์มด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างต่อเนื่อง”

nintendo switch
Photo : Shutterstock

ภาครัฐยังลงทุน

ในปี 64 ซินเน็คฯ ยังเดินหน้าขยายการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงการอัพเกรดระบบ และอุปกรณ์เทคโนโลยีของภาคเอกชน สนับสนุนการเติบโตของสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียล (Commercial)​ และคลาวด์ & ซิเคียวริตี้ (Cloud & Security) ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง

ล่าสุด ซินเน็คฯ เข้ามาดูแลบริการหลังการขายให้ Xiaomi ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระดับโลก ที่มีสมาร์ทโฟนและสินค้าไลฟ์สไตล์หลากหลายประเภท  ซึ่งก็จะมีโอกาสขยายความร่วมมืออื่น ๆ อีกในอนาคต สะท้อนภาพรวมของซินเน็คฯ อยู่ในธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์การเติบโต ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวกต่อยอดขายและอัตรากำไรของซินเน็คฯ ในปี 2564

มั่นใจปี 64 โต 15%

เนื่องจากปี 63 ที่สินค้าขาดตลาดทำให้ไม่มีการแข่งขันทางด้านราคาที่สูงเกินไป อีกทั้ง บริษัทฯ เน้นเจาะสินค้ากลุ่มที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหาร Product Mix อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้คาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้รายได้อาจจะไม่ได้เติบโตจากปีก่อน แต่ในส่วนของกำไรสามารถเติบโตได้มากกว่าเดิม โดยช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมากำไรสามารถเติบโตถึง 18% และในปี 64 ซินเน็คฯ ตั้งเป้าเติบโตทั้งรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ปัจจุบัน ซินเน็คฯ มีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟนอยู่ราว 40% ตามด้วยสินค้าไอทีในกลุ่มคอนซูเมอร์ราว 40% และกลุ่มธุรกิจองค์กรอีกราว 20%

“จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นช่วงที่ให้บริษัทจำหน่ายสินค้าไอทีหลายแห่งได้ปรับตัว จากการที่สินค้าขาดตลาดส่งผลให้มีการเคลียร์สต๊อกสินค้า และสามารถทำกำไรได้ ส่วนการแข่งขันในปีนี้ถ้าบริหารจัดการสินค้าได้ดี เชื่อว่าทั้งอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตได้อย่างแน่นอน”

]]>
1312060
กลัวของไม่พอขาย! ‘Apple’ วางแผนเพิ่มการผลิต ‘iPhone’ อีก 30% ในช่วงครึ่งปีหน้า https://positioningmag.com/1310501 Tue, 15 Dec 2020 13:25:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1310501 ‘Apple’ วางแผนที่จะผลิต iPhone ให้ได้มากถึง 96 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุมาจากความต้องการโทรศัพท์มือถือ 5G เครื่องแรกพุ่งสูงขึ้น

ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในคูเปอร์ติโนได้ขอให้ซัพพลายเออร์ผลิต iPhone SE, iPhone 11 และ iPhone 12 ให้ได้ 95 – 96 ล้านเครื่อง ขณะที่การคาดการณ์ทั้งปีเบื้องต้นที่ Apple เปิดเผยกับซัพพลายเออร์ระบุว่ามีแผนที่จะผลิต iPhone ให้ได้มากถึง 230 ล้านเครื่องในปี 2021 รวมทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2019

“การผลิตตามแผนสำหรับปีหน้าได้รับการตัดสินใจแล้วและแนวโน้มก็ค่อนข้างสดใส เนื่องจาก iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max เป็นที่ต้องการมากกว่าคาดการณ์ไว้เป็นพิเศษ ขณะที่ความต้องการ iPhone 12 เป็นไปตามการคาดการณ์ แต่ iPhone 12 mini ค่อนข้างซบเซา” ผู้บริหารของซัพพลายเออร์รายสำคัญของ Apple กล่าว

People in Taipei City take photos of Apple’s newly released iPhone 12, 12 mini as well as 12 Pro and visit stores to collect their pre-orders, as Taiwanese market sources show there has been massive pre-orders of the new generation of iPhones, in Taipei City, Taiwan on 23 October 2020. (Photo by Ceng Shou Yi/NurPhoto via Getty Images)

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนที่รุนแรงถือเป็นปัญหาใหญ่ของหลาย ๆ แบรนด์รวมถึง Apple ด้วย โดยที่ผ่านมา ในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ Apple พยายามกักตุนชิปประมวลผลให้ได้มากที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของซัพพลายเชน และ Apple ยังได้นำส่วนประกอบที่จัดสรรไว้สำหรับ iPad มาใช้กับ iPhone 12 แทน ซึ่งนั่นก็ส่งผลกระทบต่อ iPad ที่ผลิตได้เพียง 2 – 3 ล้านเครื่องในปีนี้ ด้าน ‘เสียวหมี่ (Xiaomi) ได้กำหนดเป้าหมายการผลิตสมาร์ทโฟนให้ได้ 240 ล้านเครื่องในปีหน้า ซึ่งนั่นอาจทำให้ปัญหาด้านการขาดวัตถุดิบรุนแรงขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Apple จะจัดส่ง iPhone ได้ราว 220 ล้านเครื่องในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ยอดจัดส่ง iPhone ของ Apple ลดลงติดต่อกันในปี 2018 และ 2019 ขณะที่ยอดจัดส่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2020 อยู่ที่ประมาณ 116 ล้านลดลงเพียง 1% ตามข้อมูลจาก IDC

Source

]]>
1310501
iPhone 12 ฟีเวอร์! คาดยอดขายทะลุ 80 ล้านเครื่อง ภายในสิ้นปี 63 https://positioningmag.com/1308178 Sun, 29 Nov 2020 18:32:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1308178 นักวิเคราะห์ฟันธง iPhone 12 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Apple จะสามารถทำยอดขายเกิน 80 ล้านเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ผลจากจุดเด่นเรื่องราคาที่เข้าถึงได้ ร่วมกับการอัปเดตเทคโนโลยีหลายส่วน หวั่นขาดตลาดเพราะความต้องการกระฉูดเกินคาด

สำนักข่าวดิจิไทม์ส รายงานการวิเคราะก์ของนักสังเกตการณ์ที่เชื่อว่ายอดจัดส่ง iPhone 12 จะสามารถเกินหลัก 80 ล้านเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ไม่เพียงกลยุทธ์การกำหนดราคาที่เหมาะสมกว่าของ Apple แต่ยังมีการอัปเดตเทคโนโลยีหลายส่วนรวมถึงโปรเซสเซอร์ A14 ที่เร็วขึ้น การออกแบบเครื่อง และฟังก์ชันกล้องที่ดีขึ้น คาดว่าจะทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนใหม่ของ Apple เติบโตเป็นพิเศษ

ตัวเลข 80 ล้านเครื่องนี้เพิ่มจากสถิติเดิมที่นักสังเกตการณ์เชื่อว่าการจัดส่ง iPhone รุ่นใหม่ ได้แก่ iPhone 12‌, ‌iPhone 12‌ mini, iPhone 12 Pro และ ‌iPhone 12 Pro‌ Max จะมียอดจำหน่ายอย่างน้อย 70 ล้านเครื่องภายในสิ้นปี 2563 แต่ตัวเลขนี้ปรับเพิ่มขึ้นเพราะหลายปัจจัยที่กระตุ้นยอดซื้อทั่วโลก ซึ่งสวนทางกับวิกฤตเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนที่เข้มข้นสุดขีดในช่วงปีนี้

สำหรับประเทศไทย iPhone 12 Pro‌ และ ‌iPhone 12 Pro‌ Max เริ่มต้นที่ 36,900 บาท และ 39,900 บาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงกับ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูล 256GB และ 512GB สำหรับ ‌iPhone 12 Pro‌ ทั้งสองรุ่นมีราคาต่ำกว่ารุ่นก่อน ในขณะเดียวกัน ‌iPhone 12‌ เริ่มต้นที่ 29,900 บาท และ ‌iPhone 12‌ mini เริ่มต้นที่ราคาต่ำกว่าที่ 25,900 บาท

ภาวะ iPhone 12 ขายดีจะเป็นผลดีกับบริษัททีเอสเอ็มซี (TSMC) ซึ่งผลิตโปรเซสเซอร์ A14 Bionic ขนาด 5 นาโนเมตรใน iPhone รุ่นใหม่ของ Apple บริษัทนี้จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากยอดขายที่แข็งแกร่งจากชิป A14 ใน iPad ใหม่ของ Apple ด้วย คาดว่าโรงงานจะต้องเพิ่มการผลิตชิป 5 นาโนเมตรอีกมากในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยชิปที่ส่งให้ Apple คิดเป็นประมาณ 90% ของคำสั่งซื้อที่ TSMC ได้รับ

สำหรับฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ซึ่งยังคงเป็นบริษัทประกอบเครื่อง ‌iPhone‌ รายหลักให้ Apple ออกมายอมรับว่าบริษัทได้รับคำสั่งผลิตจำนวนมากสำหรับ ‌iPhone 12‌ รุ่นใหม่ โดยออเดอร์ผลิตนี้คึกคักต่อเนื่องจนถึงไตรมาสแรกของปี 2564 โดย Foxconn ยังเป็นซัปพลายเออร์ของ ‌iPhone 12 Pro‌ Max ขนาด 6.7 นิ้ว แต่เพียงผู้เดียว และคาดว่าจะเป็นผู้ผลิต 70% ของคำสั่งประกอบเครื่อง ‌iPhone 12‌ และ iPhone 12 Pro‌ ขนาด 6.1 นิ้ว

อย่างไรก็ตาม บางรายงานอ้างว่าพบข่าวลือเรื่องการขาดแคลนชิ้นส่วนในซัปพลายเชนที่ทำให้ Apple ต้องจัดระเบียบผลิตภัณฑ์ใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าตระกูล iPhone 12 ต้องได้รับการสนับสนุนบางชิ้นส่วนจาก iPad ใหม่ นอกจากนี้ ความต้องการ iPhone 12 Pro ยังสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ชิ้นส่วนเฉพาะทาง เช่น ชิปจัดการพลังงาน และส่วนประกอบเทคโนโลยี LiDAR มีโอกาสผลิตไม่ทัน

รายงานจากฟอร์บส์ ยังระบุว่ามีข่าวลือเรื่อง Apple ขอให้ซัปพลายเออร์เตรียมผลิต iPhone 11, iPhone SE และ iPhone XR มากกว่า 20 ล้านเครื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าสำหรับช่วงเทศกาลช้อปปิ้งช่วงวันหยุดและต้นปีหน้า ไม่แน่ว่าอาจเป็นการเตรียมการเผื่อรับมือวิกฤตในตลาดอีกทางหนึ่ง

Source

]]>
1308178
อิทธิฤทธิ์ ‘iPhone 12’ ยอดจองถล่มช่วยอุดแผล COVID-19 ให้ ‘COM7’ พลิกโต 10% https://positioningmag.com/1308138 Sat, 28 Nov 2020 06:43:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1308138 แม้ว่า ‘iPhone 12’ จะไม่ใช่ ‘สมาร์ทโฟน 5G’ รุ่นแรกในปี 2020 แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า iPhone 12 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีคนรอติดตามมากที่สุดและยิ่งรองรับ 5G คนก็ยิ่งอยากจับจอง ส่งผลให้ iPhone 12 เป็น iPhone ที่มียอดจอง ‘สูงสุดเท่าที่เคยมีมา’ ตามข้อมูลจาก ‘COM7’ ตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple ในไทย

iPhone 12 ยอดจองถล่ม

สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า แม้จะไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ แต่ยอดจองของ ‘iPhone 12’ นั้นมีมากที่สุดตั้งแต่เคยเปิดจองมาในทุกรุ่น โดยคาดว่ามาจากปัจจัยของ ‘5G’ อีกทั้งยังมองว่าเพราะผู้บริโภคในกลุ่มกลาง-บนที่ปกติอาจไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่เพราะ COVID-19 ทำให้ท่องเที่ยวไม่ได้จึงมีเงินเหลือช้อปปิ้งอัปเดตเทคโนโลยีแทน ซึ่งปัจจุบันสินค้าไอทียังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคจับจ่าย ยังเป็นอุตสาหกรรมที่คนต้องการ ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย

“ยอดจอง iPhone 12 ถือเป็นสัญญาณดีต่อตลาดสมาร์ทโฟน 5G เพราะถือเป็นตัวกระตุ้นให้คนตื่นตัวเรื่องการใช้ 5G ในขณะที่โอเปอเรเตอร์โปรโมต 5G หนักมาก ทำให้แบรนด์อื่นก็ยิ่งเร่งรุกตลาด ดังนั้น ในปีหน้ายอดขายสมาร์ทโฟน 5G น่าจะดีกว่าปีนี้”

อย่างไรก็ตาม ที่น่าแปลกใจคือ ยอดซื้อ ‘iPhone 11’ ที่น่าจะขายยากแต่ยอดกลับไม่ตก ซึ่งอาจจะแปลว่า มีการเปลี่ยนค่าย หันมาใช้ Apple

สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7

มั่นใจปิดปีโต 10%

ในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา รายได้บริษัทตกลงบ้าง แต่ก็กลับมาฟื้นได้ในไตรมาส 3 ขณะที่ไตรมาส 4 ที่มี iPhone 12 เข้ามากระตุ้นตลาด แม้จะเปิดตัวช้ากว่าปกติถึง 40 วัน แต่จากผลตอบรับที่ดี บวกกับมาตรการ ‘ช้อปดีมีคืน’ ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายได้ดี ดังนั้นจึงมั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายไตรมาส 4 สูงกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา และช่วย cover ยอดขายที่ตกลงไปในครึ่งปีแรก ทำให้ COM7 สามารถเติบโตได้ 10% ตามเป้า จากปีที่ผ่านมาทำรายได้ 33,000 ล้านบาท

“ยอดขายสมาร์ทโฟนคิดเป็น 45% ของรายได้รวม รองลงมาคือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก 18% และแท็บเล็ต 15% โดย Apple ถือเป็นแบรนด์ที่สร้างรายได้อันดับ 1”

เดินหน้าขยายสาขา แม้ออนไลน์จะโต

COVID-19 ทำให้ยอดขายออนไลน์ของ COM7 เติบโตมากขึ้น จากมีสัดส่วน 2% เพิ่มเป็น 5% และบริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 10% ใน 2 ปีจากนี้ ดังนั้น ปีหน้าจะลงทุนจะเน้นไปที่อีคอมเมิร์ซ อาทิ เว็บไซต์บานาน่าไอที และแอปพลิเคชันบานาน่าไอที โดยจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า ส่วนแผนขยายสาขายังคงต้องทำต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่า 100 สาขา ส่วนใหญ่จะอยู่ตามต่างจังหวัดราว 70-80% ทำให้สิ้นปี 64 บริษัทจะมีสาขาเพิ่มกว่า 900 สาขา จากปีนี้ขยายเพิ่มไปแล้วกว่า 100 สาขาเช่นกัน ทั้งนี้ งบในการลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 400 ล้านบาท

“ที่เราขยายสาขาเพราะพฤติกรรม เราเห็นคนซื้อออนไลน์ แต่ไปรับหน้าร้าน บางคนอยากให้ไปเซตเครื่องเช็กเครื่องต่าง ๆ มันยังเป็นสิ่งจำเป็น”

ปีหน้ายังไงก็ดีกว่าปีนี้

ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนทั้งปีที่มียอดประมาณ 15 ล้านเครื่อง/ปี โดยปีนี้น่าจะมีจำนวนใกล้เคียงเดิม ส่วนปีหน้าคาดว่าจะใกล้เคียงเดิมบวกลบไม่เกิน 5% ซึ่งอาจต้องรอดูความชัดเจนของวัคซีนและการเดินทางต่าง ๆ รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายปี 64 มองว่าไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ สินค้าที่มีไม่เพียงพอเนื่องจากปัญหาซัพพลายเชนทั่วโลก ซึ่งในปี 64 COM7 ยังคงตั้งเป้าเติบโต 10% แม้ว่าฐานจะกว้างขึ้นใหญ่ขึ้นก็ตาม ซึ่งเรามองว่าปัญหาเดียวที่อาจทำให้ไม่ถึงเป้าก็คือ ซัพพลายเชน

]]>
1308138
วิเคราะห์ เมื่อ ‘iPhone 12’ ไม่แถมปลั๊กและหูฟัง ‘Apple’ จะทำรายได้จากอุปกรณ์เสริมเพิ่มขึ้นแค่ไหน https://positioningmag.com/1303042 Mon, 26 Oct 2020 10:16:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1303042 หลายคนคงจะรู้แล้วว่า ‘iPhone 12’ ของ ‘Apple’ นั้นรองรับ ‘5G’ แต่! จะไม่แถมหูฟังและอะแดปเตอร์ชาร์จเพื่อลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ถึงกระนั้น Migh-Chi Kuo นักวิเคราะห์ด้านผลิตภัณฑ์ Apple ชื่อดัง ยังมั่นใจว่า iPhone 12 จะขายดีกว่า iPhone 11 ถึง 2 เท่า

แน่นอนว่าตัวเลขทั้งหมดเป็นแค่การคาดการณ์ แต่ไม่ว่า iPhone 12 จะขายดีขึ้นถึง 2 เท่าหรือไม่ แต่ผลิตภัณฑ์ที่จะเติบโตได้แน่นอนก็คือ หูฟังและอะแดปเตอร์ชาร์จ โดย นักวิเคราะห์ของธนาคารดอยซ์แบงก์ มองว่า ลูกค้าที่ซื้อ iPhone 12 เครื่องใหม่ มีแนวโน้มที่จะซื้อหูฟังและอะแดปเตอร์ชาร์จเพิ่มเติม ซึ่งอะแดปเตอร์ชาร์จราคาอยู่ที่ 19 ดอลลาร์สหรัฐ (600 บาท) ส่วนหูฟัง AirPods ราคาเริ่มต้น 159 ดอลลาร์สหรัฐ (5,000 บาท)

ที่ผ่านมา สินค้าในหมวดหมู่อุปกรณ์เสริม เช่น หูฟัง (AirPods), สมาร์ทวอชท์ (Apple Watch) และ อะแดปเตอร์ชาร์จ ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์เสริมมียอดขาย 6.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตถึง 17% นอกจากนี้ รายได้จากฝั่งบริการ เช่น การสตรีมเพลงและพื้นที่เก็บข้อมูล iCloud ยังเติบโตประมาณ 15% โดยอยู่ที่ 13.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์คาดว่าไม่ไช่แค่หูฟังและอะแดปเตอร์ชาร์จที่ขายดี แต่ ‘HomePod Mini’ ลำโพงรุ่นใหม่ราคา 99 ดอลลาร์สหรัฐ (3,100 บาท) ซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนหน้าและ Apple Watch มีราคาถูกกว่าที่เคยเริ่มต้นที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐ (6,100 บาท) ก็จะเป็นอีก 2 โปรดักต์ที่น่าจะได้รับความสนใจ

“บางที Apple อาจจริงใจเมื่อกล่าวว่าการถอดอุปกรณ์เสริมมาตรฐานออกจากกล่อง iPhone นั้นดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อคุณจัดส่ง iPhone หลายสิบล้านเครื่องต่อไตรมาสโดยใช้บรรจุภัณฑ์และพลาสติกน้อยลง แน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่นั่นก็มีส่วนผลักดันให้ลูกค้า iPhone ซื้ออุปกรณ์เสริมที่มีอัตรากำไรสูงจาก Apple มากขึ้น และทำให้รายได้เติบโตขึ้น”

เมื่อมองไปไกลกว่ายอดขายในระยะใกล้ของ iPhone 12 ‘MagSafe’ ระบบการชาร์จแม่เหล็กแบบใหม่ของ Apple กำลังเป็นส่วนที่ช่วยวางรากฐานสำคัญในการไปสู่เป้าหมายสูงสุดของ Apple ซึ่งก็คือการ ถอดพอร์ตการชาร์จใน iPhone ออก เช่นเดียวกับที่ทำกับแจ็กหูฟังมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้เจ้าของ iPhone ซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์ของพวกเขา

ทั้งนี้ วันนี้ 26 ตุลาคม 2563 ถือเป็นวันแรกที่เปิดจำหน่าย IPhone 12 ในกลุ่มประเทศแรก อาทิ จีน, สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ส่วนไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ 2 ยังไม่มีการประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ หรืออย่างช้าต้นเดือนธันวาคม

MagSafe

Source

]]>
1303042
นักวิเคราะห์มอง ‘iPhone 12’ จะเป็นกุญแจสำคัญสู่การ ‘อัปเกรดเครื่อง’ ครั้งใหญ่ของผู้ใช้ Apple https://positioningmag.com/1301832 Fri, 16 Oct 2020 08:11:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1301832 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iPhone 12 ที่รองรับ 5G ถึง 4 รุ่น ได้แก่ ได้แก่ iPhone 12 Mini ขนาดหน้าจอ 5.4 นิ้ว, iPhone 12 รุ่นมาตรฐานที่มีหน้าจอ 6.1 นิ้วขนาดเดียวกับปัจจุบัน รวมถึง iPhone 12 Pro หน้าจอ 6.1 นิ้ว ที่มีสเปกสูงกว่า และ iPhone 12 Pro Max ซึ่งจะมีหน้าจอที่ใหญ่ที่สุด 6.7 นิ้ว

แม้ว่าเครือข่าย 5G ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ในประเทศ ‘จีน’ นั้นกำลังเร่งขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมพื้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้ยอดขายสมาร์ทโฟน 5G พุ่งในจีนสูงขึ้นโดยเฉพาะจากผู้เล่นในประเทศอย่าง ‘หัวเว่ย’ (Huawei) แต่ Apple กำลังเข้าสู่ปาร์ตี้ 5G ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ โดยข้อมูลจจากบริษัทวิจัย Canalys ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีสมาร์ทโฟนเพียง 13% ในตลาดที่รองรับ 5G และมีกลุ่มผู้บริโภคเพียง 6% ที่มองว่า 5G เป็นปัจจัยหลักในการซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่

“หากเรามองย้อนกลับไป ในไตรมาส 2 ของปีสมาร์ทโฟนเกือบครึ่งหนึ่งที่จัดส่งในประเทศจีนมีการเชื่อมต่อ 5G ในบรรดาผู้จำหน่าย 5 อันดับแรกในจีน Apple เป็นรายเดียวที่ไม่มีโมเดล 5G ดังนั้น การอัปเกรด 5G จะเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ Apple ในการดึงดูดความสนใจของตลาดจีนต่อไป” Will Wong ผู้จัดการฝ่ายวิจัยของ IDC กล่าว

จีนเป็นตลาดสมาร์ทโฟน 5G ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นประเทศที่มีการเชื่อมต่อ 5G มากที่สุดตามรายงานของ CCS Insight บริษัทวิเคราะห์ตลาด ดังนั้น จีนยังคงเป็นส่วนประกอบสำคัญในความสำเร็จของ Apple เนื่องจากเราคาดการณ์ว่าประมาณ 20% ของการอัปเกรด iPhone จะมาจากจีน โดยประเทศจีนถือเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งดูเหมือนจะสามารถควบคุมไวรัส COVID-19 ได้อยู่หมัด เพราะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค

Daniel Ives นักวิเคราะห์ของ Wedbush Securities กล่าวว่า ความต้องการจากจีนจะเป็น “จุดเริ่มต้นของการใช้งาน 5G super-cycle หรือ วงจรการอัปเกรดเครื่องครั้งใหญ่ของผู้ใช้ Apple”

ที่ผ่านมา Apple ถือเป็นแบรนด์ที่ชาวจีนชื่นชอบ โดยเฉพาะ iPhone 11 และ iPhone SE ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน ขณะที่โทรศัพท์จอใหญ่เป็นที่นิยมมากในจีน ดังนั้น ผู้บริโภคชาวจีนน่าจะชื่นชอบ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro เนื่องจากทั้ง 2 รุ่นมีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้วแม้ว่ารุ่น Pro จะมีกล้องสเปกสูงกว่าและมีราคาแพงกว่า แต่ iPhone 12 Pro Max ที่มีหน้าจอ 6.7 นิ้วอาจมีราคาแพงเกินไปสำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่ในประเทศจีน

“ฉันเชื่อว่า 12 และ 12 Pro ในแง่ของราคาและขนาดหน้าจอจะดึงดูดผู้บริโภคได้มากกว่า 12 Pro Max แม้ว่าจะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ที่สุด แต่ราคาอาจไม่น่ารักเท่าไหร่”

นักวิเคราะห์ยังตั้งข้อสังเกตว่า iPhone 12 และ iPhone 12 Pro จะวางจำหน่ายเร็วกว่า iPhone Mini และ iPhone 12 Pro Max และคาดว่า Apple จะจัดส่ง iPhone ได้ประมาณ 220 ล้านเครื่องในปี 2021 ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบเป็นรายปี

Source

]]>
1301832