Jensen Huang – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 25 Jul 2025 04:39:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ทำไม? ซีอีโอ ‘NVIDIA’ ถึงขอเรียน ‘วิทย์-ฟิสิกส์’ มากกว่า ‘วิทย์-คอม’ หากต้องกลับไปเรียนอีกครั้งในปี 2025 https://positioningmag.com/1531252 Fri, 25 Jul 2025 02:34:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1531252 ย้อนไปในปี 1984 ขณะที่ เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) อายุ 20 ปี เขาเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีวิศวกรรมไฟฟ้าจาก Oregon State University ก่อนจะได้ปริญญาโทวิศวกรรมไฟฟ้าจาก Stanford University ในปี 1992 และประมาณหนึ่งปีต่อมา ในเดือนเมษายน 1993 หวงได้ร่วมก่อตั้ง Nvidia กับเพื่อนวิศวกร คริส มาลาโคสกี้ (Chris Malachowsky) และเคอร์ติส ปรีม (Curtis Priem) ปัจจุบัน อาณาจักรเทคโนโลยี NVIDIA มีมูลค่ากว่า 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

คำถามคือ ถ้าในปี 2025 นี้ เจนเซ่น หวง กลับไปอายุ 20 ปีอีกครั้ง เขาจะเลือกเรียนอะไร? นี่เป็นคำถามจากนักข่าวคนหนึ่ง ที่ได้ถามเขาในระหว่างการเดินทางไปปักกิ่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “หากเขาย้อนเวลากลับไปในวัย 20 ปี ที่กำลังจบการศึกษาในปี 2025 แต่ยังมีความทะเยอทะยานเหมือนเดิม เขาจะเลือกทำอะไร?” โดยเขาได้ตอบเพียงว่า

“เขาน่าจะเลือกเรียนวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์มากกว่าวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์”

แม้ว่าเขาจะไม่ได้อธิบายว่า ทำไมเขาถึงเลือกที่จะเรียนวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ หากกลับไปเป็นนักศึกษาอีกครั้งในยุคปัจจุบัน แต่อ้างอิงจากทัศนคติของเขาที่เคยขึ้นพูดบทเวที Hill & Valley Forum ที่จัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า เขามองว่า Physical AI กำลังเป็น คลื่นลูกต่อไปของปัญญาประดิษฐ์

โดยคลื่น AI ลูกแรกเรียกว่า Perception AI ซึ่งเกิดในช่วง 12-14 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่โลกได้รู้จักกับ Alex Net ที่แสดงให้เห็นความสามารถของเครื่องจักรในการมองเห็น ได้ยิน และการจำแนกวัตถุ ซึ่งได้ช่วยจุดประกายการเติบโตของ AI สมัยใหม่

จากนั้นก็มาถึงคลื่นลูกที่สองที่เรียกว่า Generative AI ซึ่งเป็นจุดที่โมเดล AI ได้เรียนรู้วิธีเข้าใจความหมายของข้อมูล และยังสามารถแปลภาษาเป็นภาษาต่าง ๆ ภาพ โค้ด และอื่น ๆ อีกมากมาย

ปัจจุบัน โลกอยู่ในยุคที่เรียกว่า Reasoning AI ที่เรามี AI ที่สามารถใช้หลักการและเหตุผล สามารถเข้าใจ สร้างสรรค์ และแก้ปัญหา แต่เมื่อมองไปข้างหน้า คลื่นลูกต่อไปคือ Physical AI หรือก็คือ การนำ AI ไปใส่ในหุ่นยนต์

แต่ Physical AI ที่นำ AI มาใช้ในโลกทางกายภาพ ดังนั้น จะต้องมีความเข้าใจเรื่องของกฎของฟิสิกส์ เช่น แรงเสียดทาน ความเฉื่อย สาเหตุและผลกระทบ เช่น แนวคิดเรื่องการคงอยู่ของวัตถุ หรือข้อเท็จจริงที่ว่าวัตถุยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะอยู่นอกสายตา หรือการทำนายผลลัพธ์

เช่น ทิศทางที่ลูกบอลจะกลิ้ง การเข้าใจว่าต้องใช้แรงเท่าไหร่ในการจับวัตถุโดยไม่ทำให้เสียหาย และการอนุมานการมีอยู่ของคนเดินเท้าที่อยู่หลังรถยนต์ เป็นต้น

“เมื่อคุณเอา Physical AI นั้นมาใส่ในวัตถุทางกายภาพที่เรียกว่าหุ่นยนต์ คุณก็จะได้ระบบหุ่นยนต์ นี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเราตอนนี้ เพราะเรากำลังสร้างโรงงานและโรงผลิตทั่วสหรัฐอเมริกา ดังนั้น หวังว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ขณะที่เราสร้างโรงงานและโรงผลิตรุ่นใหม่นี้ พวกมันจะมีระบบหุ่นยนต์สูง และช่วยเราจัดการกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรงที่เรามีทั่วโลก”

หรือก็คือ เจนเซ่น หวง มองว่า AI ยุคต่อไปจะไม่ใช่แค่เซิร์ฟเวอร์ แต่จะเริ่มมาทำงานร่วมกับมนุษย์ในโลกความจริง เป็นยุคของหุ่นยนต์ โดยล่าสุด NVIDIA เพิ่งเปิดตัว ชิปกราฟิก RTX Pro ใหม่ ที่เขากล่าวว่าจะขับเคลื่อนการพัฒนาหุ่นยนต์ ฮิวแมนนอยด์ ซึ่งเขาเชื่อว่า ต่อไปจะมีทีมหุ่นยนต์ที่ทํางานร่วมกับผู้คน เป็นคลื่นลูกต่อไปของ AI

Source

]]>
1531252
Jensen Huang ซีอีโอแจ็คเก็ตหนัง ผู้เปลี่ยน Nvidia ให้เป็นหนึ่งในบริษัทเทคที่มั่งคั่งที่สุดในโลก https://positioningmag.com/1433084 Mon, 05 Jun 2023 05:49:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433084 เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทหน่วยประมวลผลกราฟิกอย่างเอ็นวิเดีย (Nvidia) นั้นกำลังได้รับความสนใจล้นหลามจากชาวโลก เพราะวันนี้หุ้น Nvidia พุ่งทะยานจนดันมูลค่าตลาดให้เข้าใกล้หลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ในไม่กี่อึดใจ ผลจากความเฟื่องฟูของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทำให้ Nvidia เตรียมขึ้นเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์แห่งแรกของโลกที่มีมูลค่าทะลุล้านล้านดอลล์

Huang ไม่ได้มีชื่อเสียงแต่เพียงในแง่การเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเด่นที่การสวมแจ็คเก็ตหนังอันเป็นเอกลักษณ์ด้วย ซึ่งในช่วงหลายสิบปีที่ Nvidia ถูกเปลี่ยนเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มั่งคั่งที่สุด Huang ได้พยายามปลูกฝังแบรนด์ส่วนบุคคลหรือ Personal Brand ที่แตกต่างโดยมีแกนกลางอยู่ที่ “แจ็คเก็ตหนังซิกเนเจอร์” แฟชั่นล้านล้านดอลลาร์นี้ถูกโชว์สู่สายตาสาธารณชนอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา เพราะ Huang มักจะสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังที่เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้า ขึ้นเวทีเปิดตัวสินค้าหลายรุ่นอย่างต่อเนื่องจนได้รับความสนใจจากชาวเน็ต

Jensen Huang Nvidia
(Photo by Walid Berrazeg/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

สีสันล่าสุดจาก Jensen Huang คือผู้ก่อตั้ง Nvidia ออกมาเตือนทุกฝ่ายที่งานคอมพิวเทค (Computex Taipei) ว่าอย่าประเมินความตั้งใจในการสร้างเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของประเทศจีนต่ำเกินไป เพราะมีข้อมูลวงในตอกย้ำว่าจีนแผ่นดินใหญ่กำลังทุ่มเททรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างชิประดับไฮเอนด์ของตัวเอง ซึ่ง Nvidia และคู่แข่งในสหรัฐอเมริกาจะต้อง “วิ่งเร็วมากๆ” เพื่อรักษาตำแหน่งให้ก้าวนำหน้าคู่แข่งจากจีน

ขุมพลังของโลก

Jensen หรือ Jen-Hsun Huang นั้นเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวัน ก่อนจะสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังจากการเป็นซีอีโอของบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และปัญญาประดิษฐ์ เด็กชาย Huang เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1963 ในเมืองไถหนาน ประเทศไต้หวัน ก่อนจะอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุยังน้อย จนสามารถผงาดเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

Huang ร่วมก่อตั้ง Nvidia ในปี 1993 และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตและความสำเร็จของบริษัท ภายใต้การนำของ Huang บริษัท Nvidia ได้กลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ สามารถปฏิวัติวงการกราฟิกคอมพิวเตอร์และขับเคลื่อนความก้าวหน้าในเทคโนโลยี GPU ในอีกด้าน Huang ถูกยกว่าเป็นเจ้าของวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อน Nvidia ให้ขยายตัวสู่ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์ ทำให้ Nvidia มีส่วนร่วมกับยุคที่ AI และระบบอัตโนมัติกำลังเฟื่องฟูได้สำเร็จ

สิ่งที่ทำให้โลกสนใจ Jensen Huang คือการกล่าวสุนทรพจน์ที่สนุกสนานและมีเสน่ห์บนเวที การนำเสนอที่มีพลังทำให้ Huang กลายเป็นไฮไลต์ของการประชุมและกิจกรรมทางเทคโนโลยีหลายครั้ง สไตล์การนำเสนอที่กระตือรือร้นของ Huang บวกกับความหลงใหลในเทคโนโลยีทำให้คำพูดของ Huang ให้อารมณ์ที่น่าจดจำและสนุกสนาน สะท้อนความสามารถของ Huang ในการดึงดูดให้ผู้ชมตื่นเต้นไปกับแนวคิดทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน เสริมให้แบรนด์ Nvidia ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก

Huang ยังเป็นที่รู้จักจากสไตล์ส่วนตัวที่โดดเด่น แจ็คเก็ตหนังซิกเนเจอร์ของ Huang ทำให้ผู้ใช้ Reddit ลุกขึ้นมาค้นหาที่มาของแจ็คเก็ตที่ Huang สวม ที่ผ่านมา Huang ได้ขึ้นปกนิตยสาร Time โดยสวมแจ็คเก็ตอย่างภูมิใจ บนเสียงยกย่องจากสื่อมวลชน ที่มองว่าสไตล์ที่โดดเด่นของ Huang กลายเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณการเป็นผู้ประกอบการและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม

Jensen Huang Nvidia
(Photo by Walid Berrazeg/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

จากการตรวจสอบฐานข้อมูลภาพถ่ายของสำนักข่าวรอยเตอร์ พบว่าทุกภาพของ Huang ตั้งแต่ปี 2013 ล้วนสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนัง โดยยกเว้นเพียงปี 2009-2010 ที่ Huang เลือกสวมเสื้อยืดคอปกสีดำ นอกจากนี้ ผู้ใช้ Reddit ยังย้อนดูวิดีโอจากปี 2011 ที่ Huang ไปเยือนมหาวิทยาลัย Stanford ด้วยกางเกงยีนส์สีน้ำเงินและเสื้อโปโลสีดำ ซึ่งแปลว่าแจ็คเก็ตซิกเนเจอร์ยังไม่ได้แจ้งเกิดหรือปรากฏตัวสู่สายตาสาธารณชนในเวลานั้น

ยังไม่มีความแน่ชัดว่าการตัดสินใจของ Huang ที่จะเลือกสวมแจ็คเก็ตหนังขึ้นเวทีนั้นได้รับอิทธิพลจากสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Apple ผู้ล่วงลับไปแล้วหรือไม่ ก่อนหน้านี้ Jobs ก็มีชื่อเสียงโด่งดังในการสวมเสื้อคอเต่าสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน และรองเท้าผ้าใบสีขาวเป็นชุดประจำวัน แต่ Jobs อธิบายว่าเป็นเพราะความง่ายและลดการใช้เวลาคิดถึงสิ่งที่จะสวมใส่ ซึ่ง Huang ยังไม่ได้ออกมาตอบรับเหตุผลนี้อย่างเป็นทางการ

นอกเหนือจากบทบาทที่ Nvidia และภาพลักษณ์การแต่งตัว Huang ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเรื่องการกุศลด้วย ทั้งการสนับสนุนโปรเจ็กต์ด้านการศึกษาและการส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอีกหลายทาง ทั้งหมดส่งเสริม Huang มีภาพความใจดีคู่ความเก่งไม่แพ้ใคร

อย่าประเมินจีนต่ำไป

ระหว่างงาน Computex Taipei ปีนี้ ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Nvidia ได้เตือนไม่ให้ทุกฝ่ายประเมินความมุ่งมั่นของจีนต่ำเกินไป โดยเฉพาะในเรื่องการไล่ตามเทคโนโลยีชิป เพราะ Huang พบว่าจีนได้จัดสรรทรัพยากรจำนวนมากเพื่อสนับสนุนภาคเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ เพื่อตอบสนองต่อข้อจำกัดการส่งออกที่มีกฎของรัฐบาลสหรัฐฯ บีบเอาไว้

Huang ระบุว่าภาวะนี้เป็นผลให้ Nvidia และผู้ผลิตชิปอเมริกันรายอื่นต้อง “ทำงานอย่างรวดเร็ว” เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันให้ได้ โดยบอกว่าแม้จีนจะถูกสหรัฐฯ สั่งห้ามไม่ให้ใครขายชิปที่ทันสมัยแก่บริษัทสัญชาติจีน ซึ่ง Huang เองก็ตระหนักถึงความจำเป็นของ Nvidia ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ Huang รู้สึกยอมรับความตั้งใจของจีนในการบ่มเพาะผู้ประกอบการในท้องถิ่น เพราะ Huang ได้เห็นการเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพที่เป็นบริษัทผู้พัฒนา GPU จำนวนมากในจีน ซึ่งเป็นแนวโน้มจากการที่ GPU มีสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายกว่าหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) อย่างเห็นได้ชัด

Nvidia
Photo : Shutterstock

คำพูดล่าสุดของ Huang สะท้อนถึงคำเตือนก่อนหน้านี้ ที่ Huang ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ซึ่ง Huang เองได้เรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของ Biden บังคับใช้มาตรการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างระมัดระวัง เนื่องจากจีนอาจตอบโต้ด้วยการพัฒนาขีดความสามารถของชิปในประเทศ เพื่อแก้เกมที่สหรัฐอเมริกากำหนดให้ Nvidia สามารถขายชิป “GPU ขั้นสูงรุ่นเริ่มต้น” ที่ปรับแต่งสำหรับตลาดจีนแก่บริษัทจีนเท่านั้น

สำหรับงาน Computex Taipei ซีอีโอ Huang ได้เปิดตัวหลายผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับ AI รวมถึงแพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์ DGX GH200 AI ซึ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่สำหรับแอปพลิเคชัน Generative AI นอกจากนี้ Huang ยังได้พบกับมอริส ฉาง (Morris Chang) ผู้ก่อตั้ง Taiwan Semiconductor Manufacturing Co (TSMC) ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตชิปรายใหญ่ของโลกที่รับผิดชอบในการผลิตชิปเรือธงของ Nvidia ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนการขยายความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างทั้ง 2 บริษัทในทศวรรษหน้า ซึ่งจะได้รับแรงหนุนจากยุคทองของ Generative AI แน่นอน

ที่มา :Qz, SCMP, Japan Times

]]>
1433084