LazLive – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 12 Jul 2022 07:37:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ลาซาด้า’ เผยนักช้อป 52% รอโปรค่อยช้อป ศก.แย่ ยิ่งต้องอัดแคมเปญถี่ พร้อมผุด Lazlive+ ตรึงผู้ใช้ให้อยู่นาน ๆ https://positioningmag.com/1392242 Tue, 12 Jul 2022 05:01:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1392242 สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซเมืองไทย ดูเหมือนจะเงียบ ๆ ไปหลังจากที่ผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ตาม ‘ลาซาด้า’ (Lazada) เชื่อว่าตลาดยังคงสามารถเติบโตได้ และการแข่งขันระหว่างแต่ละแพลตฟอร์มก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยครึ่งปีหลังนี้แพลตฟอร์มจะยังอัดแคมเปญต่อเนื่องและเน้นที่กลยุทธ์ Shoppertainment เช่นเดิม

52% ของผู้ใช้รอโปรค่อยซื้อ

ธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า เทรนด์ผู้บริโภคทั้ง 6 ประเทศที่ลาซาด้าดำเนินกิจการอยู่ค่อนข้างคล้ายกัน โดยพวกเขามองว่าแม้จะมีการคลายล็อกดาวน์แล้วแต่การ ช้อปปิ้งออนไลน์ยังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโดย 46% ซื้อของออนไลน์ทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมองหา วามคุ้ม โดย 52% ของผู้บริโภครอแคมเปญใหญ่ ๆ เพื่อซื้อของ

โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้มองว่าภาพรวมตลาดจะครึกครื้นมากขึ้น เพราะมีแคมเปญใหญ่เยอะ เช่น 11.11-12.12 มีแคมเปญดับเบิลเดย์ทุกเดือน ขณะที่ลาซาด้าก็จะมีแคมเปญย่อยถี่ขึ้นเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะช่วงที่ผ่านมาเห็นว่ากำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ยอดใช้จ่ายต่อครั้งลดลง แต่เข้ามาใช้งานถี่ขึ้น และใช้เวลานานขึ้นเฉลี่ยที่ 12 นาทีต่อครั้ง ทำให้ยอดขายรวมต่อเดือนยังเติบโต

“หลายคนมองว่าเป็นการสปอยคอนซูมเมอร์ เพราะเขารอแต่โปร แต่เรามองว่ามันเป็นเรื่องจำเป็น เพราะผู้บริโภคได้ดีลที่ดี ร้านค้าก็ขายได้มากขึ้น”

ทั้งนี้ เชื่อว่าภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซครึ่งหลังยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์จาก Statista ในส่วนของตลาด B2C จะยังเติบโตราว 13.5% มีมูลค่า 5.6 แสนล้านบาท เนื่องจากตลาดมีคู่แข่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้บริโภคก็มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเพย์เมนต์ที่มากขึ้น

สำหรับสินค้าขายดีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมายังคงเป็น ของตกแต่งบ้าน ที่น่าสนใจคือ ของที่ขายไม่ดีในช่วงการระบาดกลับมาขายดีมากขึ้น เช่น ลิปสติก, ครีมกันแดด, ชุดว่ายน้ำ และเสื้อลายดอก สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคออกจากบ้านและเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น

“ความท้าทายของอีคอมครึ่งปีหลัง จะยังเป็นเรื่องการแข่งขันที่สูง เพราะเป็นตลาดที่ยังเติบโต ซึ่งเราเองก็ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และต้องยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองผู้บริโภคให้ได้”

สานต่อ Shoppertainment ด้วย Lazlive+

ที่ผ่านมา การชมไลฟ์สตรีมมิ่งค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดี โดยในงาน 11.11 ปีที่ผ่านมามียอดผู้ชมรวมทั้งภูมิภาคที่ 18 ล้านวิว ยอดขายเติบโต 187% ขณะที่การไลฟ์ของร้านค้าต่าง ๆ ทางแพลตฟอร์มก็ยังให้ไลฟ์ได้ตามปกติ โดยทั้งเพื่อสร้างความสนุก, นำเสนอสินค้าใหม่ ๆ , ให้ส่วนลดโปรโมชัน รวมถึงขายของ

ล่าสุด แพลตฟอร์มก็ได้เพิ่ม Lazlive+ ที่ทางแพลตฟอร์มไลฟ์เอง โดยจะดึงดารา เซเลบ มาไลฟ์ในรูปแบบของรายการทีวี เพื่อให้ความรู้ และสามารถสั่งซื้อของในไลฟ์ได้ทันที เบื้องต้นจะมี 3 รายการโดยออนแอร์ 7 Episodes ทั้งหมด 21 ตอน บนแอปพลิเคชันลาซาด้าทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 20.00-21.00 น. เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2565 นี้ และตอนสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565

สำหรับรายการแรกจะเป็น The Look+ บิวตี้ทริค ชิคสั่งได้: รายการเกี่ยวกับแฟชั่น โดยที่ลาซาด้ามองว่าสินค้ากลุ่มแฟชั่นสามารถซื้อได้ตลอดเวลาแม้ไม่มีความต้องการ อีกทั้งลูกค้าลาซาด้ากลุ่มผู้ผญิงอายุต่ำว่า 24 ปียังเป็นกลุ่มใหญ่อีกด้วย

ต่อมาเป็นรายการ The Adventure+ คู่ซ่าท้าลุย: รายการที่จะนำเสนอกิจกรรมสุดตื่นเต้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม ชอบทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กำลังเติบโต มีกำลังซื้อสูง

สุดท้าย The Chef+ สูตรดังพลังเชฟ: รายการสอนทำอาหาร ซึ่งแม้ว่าคนจะออกนอกบ้านได้มากขึ้น แต่ไลฟ์สไตล์การทำอาหารยังคงอยู่ ลาซาด้าจึงเห็นความต้องการตรงนี้

“ตอนนี้อีคอมเมิร์ซแข่งกันเยอะ ทำยังไงให้ใช้เวลากับเราเยอะที่สุด อย่างไลฟ์สตรีมหรือเกมเป็นอีกกลยุทธ์ ดังนั้น เราจึงมุ่งไปทางช้อปเปอเทนเมนต์ เราไม่ได้มองการเข้าแพลตฟอร์มเป็นการช้อปปิ้งอย่างเดียว”

]]>
1392242
ย้อนรอยแคมเปญ ‘11.11’ วันสำคัญแห่งปีของนักช้อปออนไลน์ พร้อมเจาะลึก ‘ลาซาด้า’ ที่ยังคงสถานะหมุดหมาย ‘เบอร์ 1’ https://positioningmag.com/1304602 Thu, 05 Nov 2020 11:00:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1304602

แม้ตอนนี้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าแคมเปญ ‘11.11’ เป็นแคมเปญที่เป็นภาพจำของผู้บริโภคไปแล้ว เพราะเป็นวันสำคัญที่ทุกแพลตฟอร์มและทุกแบรนด์จะต้องจัดแคมเปญเพื่อแย่งชิงลูกค้าในวันนี้ ส่งผลให้เป็นวันที่นักช้อปส่วนใหญ่ต่างอดใจรอคอยเพื่อจะได้ช้อปของถูก แน่นอนว่าด้วยการแข่งขันนี้ การจะดึงดูดใจแค่โปรโมชั่นคงไม่พอ แต่จำเป็นต้องมีอะไรที่ ‘มากกว่า’ เพื่อตรึงลูกค้าให้อยู่กับแพลตฟอร์ม

‘ลาซาด้า’ ผู้จุดแคมเปญ 11.11 สู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ถ้าจะย้อนรอยไปถึงต้นกำเนิดของวัน Double Day ต้องย้อนไปถึงปี 2009 ที่ ‘อาลีบาบา’ (Alibaba) เป็นผู้ริเริ่มจัด แคมเปญ ‘วันคนโสด’ (Single’s Day Campaign) ในวันที่ 11.11 เพื่อให้เหล่าคนโสดซื้อของเปย์ตัวเองเสียเลย ซึ่งเคยทำยอดสูงสุดถึง 17.8 พันล้านดอลล่าสหรัฐฯ หรือกว่า 540,000 ล้านบาท ขนาดมันรวมเทศกาลดัง ๆ จากฝั่งตะวันตกอย่าง Black Friday , Cyber Monday และ Amazon Prime Day ถึง 2.5 เท่า

สำหรับแคมเปญ 11.11 ในไทยนั้นได้ ‘ลาซาด้า’ เป็นผู้ที่นำเอาแคมเปญดังกล่าวมาสู่ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยแต่ในแต่ละปีที่จัดต่างได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างถล่มทลาย

  • โดยในปี 2017 มีผู้เข้าชมแพลตฟอร์มลาซาด้ามากกว่า 10 ล้านครั้ง และมีคำสั่งซื้อมากขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับวันปกติ
  • ปี 2018 มียอดคำสั่งซื้อกว่า 4 แสนครั้งภายในเวลา 1 ชั่วโมงแรก และเมื่อเทียบกับปี 2017 ยอดสั่งซื้อเติบโตกว่า 287%
  • ปี 2019 นั้น ยอดคำสั่งซื้อเติบโตจากปี 2018 ถึง 2 เท่า แค่ชั่วโมงแรกก็มีคำสั่งซื้อ 3 ล้านออเดอร์ทั่วทั้งภูมิภาคเลยทีเดียว

จาก Single Day สู่ Double Day

จากความปังดังกล่าว แคมเปญ 11.11 ก็ได้กลายเป็นมหกรรมช้อปปิ้งที่อีคอมเมิร์ซทุกแพลตฟอร์ม ค่ายค้าปลีก และแบรนด์ต้องเข้ามาชิงยอดขายในวันนี้ แต่ไม่ได้จบอยู่แค่วันที่ 11.11 อีกต่อไป แต่ลาซาด้าได้ต่อยอดมาเป็น Double Day ไม่ว่าจะเป็น 9.9 Big Brands Sale ที่จัดโปรใน LazMall ที่รวบรวมสินค้าของแท้ 100% เรียกได้ว่าเกือบทุกเดือนตลอด 1 ปี จะต้องมีแคมเปญโดน ๆ ในเพื่อกระตุ้นตลาด อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแคมเปญแทบทุกเดือน แต่ 11.11 ถือเป็นแคมเปญ ‘ใหญ่สุด’ และ ‘ดีลดีที่สุด’ ของลาซาด้า

ช้อปสนุกยิ่งขึ้นด้วย ‘Live-Streaming’

จากวิกฤติ COVID-19 ที่ผ่านมา การขายสินค้าผ่าน Live-Streaming กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก จนเกิดเป็นเทรนด์ ‘ไลฟ์คอมเมิร์ซ’ ซึ่งปัจจุบัน ไลฟ์คอมเมิร์ซไทยมีมาร์เก็ตไซส์ประมาณ 5-10% ของมูลค่าอีคอมเมิร์ซทั้งหมด หรือประมาณ 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เทรนด์ไลฟ์คอมเมิร์ซไม่ใช่เรื่องใหม่แต่มีมานานแล้ว โดยลาซาด้าถือเป็นผู้เล่นรายแรก ๆ ของไทยที่เพิ่มฟีเจอร์ ‘ไลฟ์สตรีมมิ่ง’ หรือ ‘LazLive’ เข้ามาในแพลตฟอร์มผ่านกลยุทธ์ ‘Shoppertainment’ ที่เปลี่ยนให้การช้อปปิ้งไม่ใช่แค่การ ‘ซื้อ’ แต่ต้อง ‘สนุก’ ด้วย

หลังจากเปิดตัวมาได้ครบ 1 ปี LazLive ได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าและร้านค้า โดยปัจจุบันมีจำนวนยอดการรับชมรวมกว่า 30 ล้านครั้งในประเทศไทย โดยมีจำนวนการรีวิวสินค้ารวมกว่า 50,000 ชิ้นบนแพลทฟอร์ม ซึ่งจัดว่าเป็นคอนเทนต์การตลาดที่ช่วยโปรโมทให้กับร้านค้าได้อย่างดีทีเดียว และในปี 2020 นี้ ลาซาด้าจับมือกับ Elle Magazine ผสานการไลฟ์สตรีมมิ่งกับการจัดแสดงแฟชั่นโชว์แบบ ‘Virtual Runway’ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับตลาดไปอีกขั้น

ขายของ ‘ออนไลน์’ แต่ไม่ทิ้ง ‘ออฟไลน์’

แม้จะเป็นแพลตฟอร์ม ‘ออนไลน์’ แต่ลาซาด้ามองว่าไม่ได้มาเพื่อดิสรัป ‘ออฟไลน์’ แต่สามารถเติบโตไปด้วยกันได้ ลาซาด้าจึงใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) โดยช่วงก่อน COVID-19 ที่ผ่านมาได้เปิดตลาดนัด LOL ที่ห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เอ็มควอเทียร์ โดยให้ร้านค้าออนไลน์ในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น อินสตาแกรม มาเปิดร้านกับลาซาด้า และเปิดร้านขายสินค้าในตลาดนัดเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นสินค้าจริงก่อนที่จะสั่งซื้อบนลาซาด้า ซึ่งกิจกรรมนี้จะจัดทุก ๆ ไตรมาส มีร้านค้าเข้าร่วมประมาณ 100-300 ร้านค้า

แต่ในปีนี้ ลาซาด้าได้ปรับกลยุทธ์ O2O ใหม่เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดแบบไม่ไร้รอยต่อ หรือ seamless experience โดยลาซาด้าได้เปิดป๊อปอัพสโตร์ ‘Lazada On Ground’ แห่งแรกในประเทศไทย ณ สยามเซ็นเตอร์ โดยสโตร์ดังกล่าวจะโชว์สินค้ากว่า 40 แบรนด์ พร้อมกับสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอไลฟ์ขายสินค้าโชว์กันสด ๆ เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ถึงมกราต้นปีหน้ากันเลยทีเดียว

เรียกได้ว่า ลาซาด้าไม่ใช่แค่บุกเบิกเอาแคมเปญ 11.11 มาสู่ประเทศไทยและภูมิภาค แต่ยังนำเทรนด์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ขายของ หรือการผสานโลกออฟไลน์และออนไลน์ อย่างไรก็ตาม นี่ก็ใกล้ถึงวันที่ 11.11 แล้ว เหล่านักช้อปทั้งหลายอย่าลืมวอร์มนิ้วให้พร้อมกับแคมเปญ Lazada 11.11 Biggest One-Day Sale ถูกสุดในรอบปี วันนี้วันเดียว เพื่อช้อปของดีในราคาลดกระหน่ำ พร้อมสิ่งพิเศษมากมายจากลาซาด้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การแจกคูปอง 1,111 บาทแจกทุก 11 โมง ตั้งแต่วันที่ 1-11 พ.ย. 2563 เท่านั้น
  • คูปองจัดส่งฟรีทั่วไทย*
  • 5% cashback** สำหรับสินค้าLazMall ทุกชิ้น
  • Flash Sale เริ่มต้น 11 บาท
  • Crazy Brand Mega Offers เวลาเที่ยงคืน – ตี 2

และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.lazada.co.th/11-11/

]]>
1304602
ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้! ‘ลาซาด้า’ เขย่าวงการแฟชั่น เสิร์ฟ ‘Virtual Runway’ ต่อยอดเทรนด์ ‘ไลฟ์คอมเมิร์ซ’ โกยยอดขายให้แบรนด์เพิ่มกว่า 60 เท่า https://positioningmag.com/1300830 Fri, 09 Oct 2020 11:00:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1300830

หากพูดถึงเทรนด์ ‘ไลฟ์คอมเมิร์ซ’ นี่ไม่ใช่เทรนด์ที่ใหม่เสียทีเดียว เพราะว่าเริ่มเห็นกระแสตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่เพราะ COVID-19 ที่ทำให้คนต้องกักตัวอยู่บ้านมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้มีเวลาว่างมากกว่าเดิม จึงส่งผลให้ผู้บริโภคมีเวลาที่จะดู ‘ไลฟ์ขายของ’ มากขึ้น ส่งผลให้เทรนด์ไลฟ์คอมเมิร์ซจึงเติบโตขึ้นกว่าเดิม และไม่ใช่แค่ไทย แต่ในจีนก็กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงเช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน ไลฟ์คอมเมิร์ซไทยมีมาร์เก็ตไซส์ประมาณ 5-10% ของมูลค่าอีคอมเมิร์ซทั้งหมด หรือประมาณ 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

‘ลาซาด้า’ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเบอร์ต้นๆ ของไทย ถือเป็นผู้เล่นรายแรก ๆ ของไทยที่เพิ่มฟีเจอร์ ‘ไลฟ์สตรีมมิ่ง’ หรือ ‘LazLive’ เข้ามาในแพลตฟอร์มผ่านกลยุทธ์ ‘Shoppertainment’ ที่เปลี่ยนให้การช้อปปิ้งไม่ใช่แค่การ ‘ซื้อ’ แต่ต้อง ‘สนุก’ ด้วย ซึ่งการไม่ใช่แค่ช่วยให้ลูกค้าได้ความสะดวกในการซื้อสินค้า แต่ยังสามารถพูดคุยสอบถามถึงตัวสินค้าได้ทันที แถมยังได้ในเรื่องของเอนเตอร์เทนต์เมนต์เพื่อดึงให้ลูกค้าอยู่บนแพลตฟอร์มนานขึ้นอีกด้วย

แน่นอนว่าในปี 2020 นี้ จะแค่ไลฟ์ขายของแบบธรรมดา ๆ คงจะไม่พอ เพราะเมื่อวันที่ 2-4 ตุลาคมที่ผ่านมา ลาซาด้าได้จับมือนิตยสารแอล ประเทศไทย (ELLE Thailand) จัดงาน ‘ELLE Digital Fashion Week 2020 Powered by Lazada’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Front Row at Home ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับการจัดแสดงแฟชั่นโชว์แบบ ‘Virtual Runway’ เต็มรูปแบบ ซึ่งโปรดักชั่นทั้งหมดใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก (Computer Graphic) ในรูปแบบซีจี (CG) และถ่ายทอดสดผ่าน LazLive โดยลูกค้าที่กำลังชมสามารถซื้อสินค้าไปด้วยพร้อมกัน (See Now Buy Now) รวมถึงสามารถรับ ‘คูปองพิเศษ’ ระหว่าง Livestreaming อีกด้วย

สำหรับงาน ELLE Digital Fashion Week 2020 Powered by Lazada เป็นการต่อยอดความสำเร็จของ ‘Lazada Thai Designer Club’ เซ็กเมนต์ใหม่บน ‘LazMall’ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ยกระดับแพลตฟอร์ม เพื่อตอบสนองความต้องการนักช้อปที่รักการแต่งตัว และมีการทำ Exclusive Collection ร่วมกัน เพื่อหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ โดย ณ ปัจจุบัน Lazada Thai Designer Club รวบรวมสินค้าแบรนด์ไทยดีไซเนอร์กว่า 50 แบรนด์ไว้จำหน่ายบนแพลตฟอร์ม

โดยภายในงานนี้ มีผลงานดีไซเนอร์ไทยชั้นนำที่ร่วมโชว์ในทั้งหมด 7 แบรนด์ ได้แก่ ASV, ISSUE, Kloset, Milin, PAINKILLER, T AND T และ Vickteerut

ทั้งนี้ งาน ‘ELLE Digital Fashion Week 2020 Powered by Lazada’ ดิจิตัลรันเวย์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มาพร้อมกับสถิติที่น่าสนใจ อาทิ

· ยอดผู้เข้าชมมากกว่า 52,000 คน

· ความสำเร็จของแบรนด์ที่เข้าร่วมโชว์ อาทิ

o แบรนด์ Vickteerut ได้ยอดขายอันดับ 1

o แบรนด์ T&T ยอดขายโตกว่า 60 เท่า

· สินค้าแฟชั่นกว่า 1,000 ชิ้น ถูกกดใส่รถเข็นในขณะกำลังรับชมไลฟ์ (See Now, Buy Now)

หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา นายกสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพฯ หรือ BFS กล่าวว่า “การร่วมมือในการจัดงาน Elle Digital Fashion Week 2020 ของ ELLE, BFS และลาซาด้า เป็นการต่อยอดจาก Lazada Thai Designer Club ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยดีไซนเนอร์ไทยได้เติบโตและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงการทำโปรเจคต่างๆ ที่จะช่วยดีไซเนอร์ไทยร่วมกันโดยใช้จุดแข็งของแต่ละคน โดยลาซาด้าได้ใช้ฟีเจอร์ LazLive ร่วมกับความเชี่ยวชาญของการทำ Fashion Show จาก ELLE และดีไซเนอร์ไทย ในการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของวงการแฟชั่นจัด Virtual Runway บนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มเป็นครั้งแรก ซึ่งกระแสตอบรับดีมากๆ เรียกได้ว่าเป็นก้าวใหม่ครั้งสำคัญของวงการแฟชั่นอย่างแท้จริง”

อีกหนึ่งความเห็นจาก มีมี่ – มิลิน ยุวจรัสกุล ดีไซเนอร์ไทยผู้ก่อตั้งแบรนด์ Milin “ในการทำ Elle Digital Fashion Week 2020 ในรูปแบบ Virtual Runway ครั้งนี้โดยการใช้ฟีเจอร์ See Now Buy Now ของลาซาด้าเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าของแบรนด์ได้ในขณะรับชมแฟชั่นโชว์ สิ่งนี้ถือว่าเป็นการพลิกโฉมอีกครั้งของวงการแฟชั่นร่วมกันกับลาซาด้า ที่การจัดแฟชั่นโชว์ทั่วไปไม่สามารถทำได้ ทำให้การซื้อสินค้าจากแบรนด์เป็นเรื่องง่ายขึ้น รวมถึงยอดขายที่โตขึ้นด้วยจากแพลตฟอร์มของลาซาด้า สิ่งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการทำอะไรใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ของเรา รวมถึงเพื่อนๆ ดีไซนเนอร์ด้วย ”

งานนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของลาซาด้า ในฐานะผู้นำอีคอมเมิร์ซแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง

Movement จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามต่อไป…

 

]]>
1300830