LazMall – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 13 Sep 2022 06:40:23 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เมื่อนักช้อปอาเซียน เลือกค้นหาสินค้าโดยตรงในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แทนเสิร์ชเอนจิน https://positioningmag.com/1399904 Tue, 13 Sep 2022 04:17:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1399904
  • ผลสำรวจโดยลาซาด้า พบว่า 57% ของนักช้อปในภูมิภาคค้นหาสินค้าจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโดยตรง ทำให้ช่องทางอีคอมเมิร์ซกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาหลักที่ผู้บริโภคนิยมใช้
  • ลาซาด้าเดินหน้าลงทุนด้านเทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค เพื่อสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ ผู้ขาย และผู้บริโภค สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว
  • LazMall เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ลาซาด้าจะลงทุน เพื่อมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของลูกค้าและการรักษาฐานลูกค้า
  • ลาซาด้าเผยแพร่รายงานผลสำรวจผู้นำทางความคิดด้านการโปรโมตสินค้าผ่านโซลูชันของลาซาด้า (Lazada Sponsored Solutions หรือ LSS) ในหัวข้อ “พลิกโฉมการช้อปปิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการค้นหาสู่การจัดส่ง” (Transforming Southeast Asia: From Discovery to Delivery) ในงาน LazMall Brands Future Forum (BFF) 2022 ที่จัดขึ้น ณ รีสอร์ทเวิลด์ เซนโตซ่า

    งาน LazMall Brands Future Forum (BFF) จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 โดยเป็นงานเพื่อกลุ่มธุรกิจที่รวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรมและพันธมิตรของลาซาด้าจากทั่วทั้งภูมิภาคมาแลกเปลี่ยนมุมมองและนวัตกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และมอบประสบการณ์ค้าปลีกที่แตกต่างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในงานมีการนำเสนอข้อมูลโดยผู้บริหารลาซาด้า รวมถึงบูธรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟที่แสดงเทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิงของลาซาด้า

    มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้อีคอมเมิร์ซจะเพิ่มขึ้นเป็น 413 ล้านคนในปี 2568 ทำให้รูปแบบการช้อปปิงมีความหลากหลายมากขึ้น โดยผลสำรวจนี้พบว่า กว่า 57% ของนักช้อปในภูมิภาคค้นหาสินค้าบนแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซโดยตรง ต่างจากเดิมที่ผู้ใช้งานมักค้นหาผ่านเสิร์ชเอนจิน นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อโซลูชันการตลาดของอีคอมเมิร์ซและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาต่อยอดในธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องปรับตัวได้ตามสถานการณ์และมีความใกล้ชิดกับลูกค้า ท่ามกลางสภาวะอันท้าทายจากอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก

    เจมส์ ตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวระหว่างการเปิดงานว่า

    “แพลตฟอร์ตอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้าทำได้เหนือกว่าโซเชียลมีเดีย และเสิร์ชเอนจินไปสู่การเป็นช่องทางการค้นพบทางเลือก พฤติกรรมและกรอบความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้กลุ่มผู้บริโภคคุณภาพสูงที่มองหาผลิตภัณฑ์ของแท้คุณภาพดี และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม หันมาใช้งานบนแพลตฟอร์ม LazMall มากขึ้น ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ มีโอกาสนำเสนอแนวคิดและเชื่อมโยงกับผู้บริโภคโดยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ของลาซาด้า เพื่อเร่งการเติบโตในพื้นที่อีคอมเมิร์ซและสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด”

    เจมส์ ชาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า

    อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นอย่างมหาศาลระหว่างปี 2561-2564 อันเป็นผลมาจากการที่ผู้ซื้อหันมาช้อปปิงออนไลน์มากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ว่าปัจจุบัน ผู้บริโภคเริ่มกลับไปใช้ชีวิตเช่นเดียวกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ลาซาด้ายังคงเชื่อมั่นว่าผู้ซื้อจะยังคงซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภค 8 ใน 10 คนยังคงช้อปปิงออนไลน์ เนื่องจากความสะดวกสบาย แม้ว่ายอดซื้อสินค้าเฉลี่ยต่อรายจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงสองปีก่อน  LazMall ยังมีจำนวนผู้ซื้อเพิ่มขึ้นกว่าที่คาด และต่อจากนี้ลาซาด้าจะยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมและรักษาฐานลูกค้ามากกว่าการเน้นเรื่องราคาและโปรโมชันเป็นหลัก

    รายงานด้านการโปรโมตสินค้าผ่านโซลูชันของลาซาด้า (LSS) ยังแสดงให้เห็นว่า การค้นพบสินค้าจากการค้นหาและสินค้าแนะนำช่วยสนับสนุนผู้บริโภคในกระบวนการตัดสินใจซื้อ โดย 94% ของนักช้อปใช้ฟังก์ชันค้นหาเพื่อมองหาสินค้าบนลาซาด้า และ 94% ตัดสินใจซื้อสินค้าที่พวกเขาพบจากฟังก์ชันค้นหา นอกจากนี้ 71% ของนักช้อปยังซื้อสินค้าที่แสดงในฟีเจอร์ “สินค้าแนะนำ” ที่ลาซาด้าคัดสรรมาให้ตรงตามความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน

    ลาซาด้าได้สำรวจผู้ใช้อีคอมเมิร์ซจำนวน 38,138 คน ครอบคลุมทุกเพศ ช่วงวัย และระดับรายได้ครัวเรือนใน 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น

    รายงานนี้ยังใช้ข้อมูลจากการสำรวจเชิงปริมาณอื่น ๆ และจากแหล่งข้อมูลในตลาดที่เชื่อถือได้ รวมถึงข้อมูลผู้บริโภค ลาซาด้ายังได้สัมภาษณ์เชิงลึกเพิ่มเติมกับผู้บริโภค เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานอีคอมเมิร์ซให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนเส้นทางการซื้อ แรงจูงใจ รวมถึงความคาดหวังของผู้บริโภค

    ผลการสำรวจที่สำคัญ

    • ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าครึ่ง (57%) ค้นหาสินค้าโดยตรงบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้อีคอมเมิร์ซจะเพิ่มขึ้นเป็น 413 ล้านคนในปี 2568 ทำให้รูปแบบการช้อปปิงมีความหลากหลายมากขึ้น โดยผลสำรวจนี้พบว่า กว่า 57% ของนักช้อปในภูมิภาคนี้ ค้นหาสินค้าโดยตรงบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมากกว่านักช้อปที่ค้นหาสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียและกูเกิล ที่มีจำนวน 50% และ 40% ตามลำดับ
    • การค้นพบสินค้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะเกือบ 50% ของการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเกิดขึ้นโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า
    • การค้นพบสินค้าจากการค้นหาและสินค้าแนะนำช่วยสนับสนุนผู้บริโภคในกระบวนการตัดสินใจซื้อ โดย 94% ของนักช้อปใช้ฟังก์ชันค้นหาเพื่อมองหาสินค้าบนลาซาด้า และ 94% ตัดสินใจซื้อสินค้าที่พวกเขาพบจากฟังก์ชันค้นหา นอกจากนี้ 71% ของนักช้อปยังซื้อสินค้าที่แสดงในฟีเจอร์ “สินค้าแนะนำ” ที่ลาซาด้าคัดสรรมาให้ตรงตามความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน
    • แรงจูงใจเบื้องหลังเส้นทางการตัดสินใจซื้อของนักช้อป
      • ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักช้อปคลิกดูสินค้า ได้แก่ การจัดวางสินค้า ภาพผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอในการจัดส่งฟรี และราคาสินค้า รวมถึงคูปองและส่วนลด
      • ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภคเพิ่มสินค้าลงในรถเข็น ได้แก่ คะแนนสินค้าและรีวิวจากผู้ใช้ ค่าจัดส่ง ข้อเสนอในการจัดส่งฟรี และราคาสินค้า รวมถึงคูปองและส่วนลด
      • ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักช้อปกดเช็กเอาท์และชำระเงิน ได้แก่ โปรโมชันและส่วนลด ราคาสินค้าที่ไม่เกินงบที่ผู้บริโภคตั้งไว้ การจัดส่งฟรี และความเร่งด่วนในความจำเป็นต้องซื้อสินค้า
    ]]>
    1399904
    เจาะลึกความปังของ ‘ลาซาด้า’ ก่อนจัดหนักอีกครั้งใน ‘Lazada Surprise Birthday Sale’ https://positioningmag.com/1324304 Mon, 22 Mar 2021 12:00:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1324304

    เชื่อว่าหลังจากที่ทั่วโลกได้พบเจอกับการระบาดของ COVID-19 รวมถึงประเทศไทยทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปสู่วิถี ‘New Normal’ ในหลาย ๆ ด้านโดยเฉพาะ ‘การช้อปปิ้ง’ ที่หันไปซื้อของบนโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้ตลาด ‘อีคอมเมิร์ซ’ ในปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 81% มีมูลค่าถึง 294,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดอีคอมเมิร์ซก็หนีไม่พ้น ‘อีมาร์เก็ตเพลส’ โดยเฉพาะ ‘ลาซาด้า’ ผู้เล่นหลักที่นักช้อปทุกคนต้องรู้จัก

    11.11 – 12.12 ปังส่งท้ายปี

    เป็นที่รู้กันว่าแคมเปญ ‘ดับเบิลเดย์’ หรือ ’11.11’ ’12.12’ ที่กลายเป็นบรรทัดฐานการทำแคมเปญของทั้งออนไลน์และออฟไลน์ไปแล้วนั้นมีต้นกำเนิดมาจาก ‘อาลีบาบา’ (Alibaba) และ ‘ลาซาด้า’ ก็ถือเป็นรายแรกที่ทำแคมเปญนี้ ซึ่งก็มีผลตอบรับที่ดีมาโดยตลอด

    โดยในปี 2020 ลาซาด้าโตขึ้นจากปีก่อน 2 เท่า ทั้งจำนวนผู้ซื้อ ยอดออเดอร์ และผู้ขายใหม่ โดยเฉพาะในช่วงเมกะแคมเปญ 11.11 และ 12.12 ที่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ขายได้มากขึ้น 3 เท่า และผู้ขายสามารถเพิ่มจำนวนยอดขายได้มากขึ้น 2 เท่าจากช่วงเวลาปกติ โดยแคมเปญ 11.11 ลาซาด้ามียอดคำสั่งซื้อกว่า 6 ล้านครั้ง และมียอดการใช้จ่ายแตะ 111 ล้านบาท ภายใน 3 นาที ส่วนแคมเปญ 12.12 ขายสินค้าได้ถึง 14 ล้านชิ้น

    ยิงแคมเปญต่อเนื่อง พร้อมฉลองครบรอบ 9 ปี

    แคมเปญใหญ่สุดของลาซาด้าก็คือ ‘ดับเบิลเดย์’ ในวันที่ 9.9 11.11 และ 12.12 แต่เพราะผู้บริโภคมีความต้องการซื้อสินค้าทุกวัน และเมื่อวิเคราะห์ถึงสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ทำให้นักช้อปใช้เวลาในการตัดสินใจเลือกสินค้านานขึ้น ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคำสั่งซื้อลดลง แต่ความถี่ในการเข้าแพลตฟอร์มและจำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มสูงขึ้น ลาซาด้าก็พร้อมปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคและสถานการณ์เหล่านี้

    ที่ผ่านมา ลาซาด้ามีอีกหลากหลายกลยุทธ์ที่นำมาสร้างสีสันและดึงดูดผู้บริโภค อาทิ ‘Flash Sale’ หรือ ‘ฟรีค่าจัดส่ง’ ซึ่งทำให้มียอดผู้เข้าชมร้านค้าเพิ่มขึ้นถึง 50% ส่วนการ ‘แจกคูปองส่วนลด’ ก็มีส่วนช่วยให้ร้านค้าใหม่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า หรือการเพิ่มหมวดหมู่ ‘สินค้าฮิต’ ก็ช่วยเพิ่มยอดผู้ชมให้กับสินค้ามากขึ้น 13 เท่า นอกจากนี้ยังมีแคมเปญ ‘Crazy Brand Mega Offer’ สินค้าราคาพิเศษที่ในช่วงเวลาเที่ยงคืน-ตี 2 และฟีเจอร์ใหม่ ‘Lazada Bonus’ ที่จะทำให้ช้อปได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

    รวม ๆ แล้ว ลาซาด้ามอบส่วนลดและโปรโมชันต่าง ๆ เป็นมูลค่าถึง 4.5 พันล้านบาทเลยทีเดียว นอกจากนี้ ลาซาด้ายังมีอีกหลายตัวช่วยสนับสนุนผู้ขายไม่ว่าจะเป็น LazLive ที่ในปี 2020 มียอดวิวรวมโตพุ่ง 200% รวมไปถึงช่วยดันยอดขายสินค้าระหว่างไลฟ์ให้โตขึ้นกว่า 100%

    เตรียมนิ้วรอช้อป Lazada Surprise Birthday Sale

    แม้ว่าจะเพิ่งยิงแคมเปญใหญ่ ‘3.3’ รับต้นปีไปเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม แต่ลาซาด้าก็ไม่ปล่อยให้ขาช้อปต้องรอนาน ด้วยแคมเปญล่าสุด ‘Lazada Surprise Birthday Sale สุขสันต์วันช้อป ครบรอบ 9 ปี’ ซึ่งไม่ใช่แค่โปรโมชันที่จัดเต็ม แต่พิเศษยิ่งกว่าด้วย ‘Lazada Super Party’ มหกรรมคอนเสิร์ต Signature ของลาซาด้าที่นำทัพโดยศิลปินระดับโลก ‘เคที เพอร์รี’ (Katy Perry) และ ‘เอ็นซีที ดรีม’ (NCT Dream) บอยแบนด์วัยรุ่นอันดับหนึ่งของเกาหลีผ่านช่อง ‘LazLive’ รวมถึง YouTube, Facebook, TikTok Live ในวันที่ 26 มีนาคมนี้เวลา เวลา 20.00 – 23.00 น. และที่ขาดไม่ได้คือ ความพิเศษจัดเต็มในวันที่ 27 – 29 มีนาคม อาทิ

    – รับเงินคืน 15%* เมื่อช้อปสินค้าใน LazMall (*รับเงินคืนสูงสุด 100 บาท)

    Crazy Brand Mega Offer ดีลพิเศษแบรนด์ดังเที่ยงคืน – ตีสอง

    แจกคูปองส่งฟรีทั่วไทย

    แจกโบนัสกว่า 100 ล้านบาท เก็บโบนัสลดหลายต่อ ยิ่งช้อปยิ่งลด รับโบนัส 30 บาท เมื่อซื้อครบทุก ๆ 300 บาท หรือรับโบนัส 200 บาท เมื่อซื้อครบทุก ๆ 2,000 บาท โดยเก็บได้ที่หน้าแอปพลิเคชัน Lazada, หน้าแคมเปญ Surprise Birthday Sale, หรือหน้าร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 20-29 มีนาคม และใช้ช้อปสินค้าที่ร่วมรายการได้ในวันที่ 27-29 มีนาคมนี้

    ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต อาทิ

    CitiLazada รับส่วนลดรวมมูลค่า 1,549 บาท

    KBank รับส่วนลดมูลค่า 350 บาท

    Krungsri รับส่วนลดมูลค่า 350 บาท

    KTC Mastercard รับส่วนลดมูลค่า 350 บาท

    เตรียมตัวไว้ให้ดี มหกรรมช้อปออนไลน์สุดพิเศษขนาดนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ แล้วมาสุขสันต์วันช้อปพร้อมกันกับ Lazada Surprise Birthday Sale ในวันที่ 27-29 มีนาคมนี้เท่านั้น

    รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก  https://bit.ly/3rUtzoq

     

     

    ]]>
    1324304
    รู้จัก “เจสสิก้า หลิว” กับตำแหน่ง CEO หญิงคนแรกของลาซาด้า ประเทศไทย https://positioningmag.com/1313046 Wed, 06 Jan 2021 07:45:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313046 ลาซาด้า ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้งนางสาวเจสสิก้า หลิว ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหญิงคนแรกของลาซาด้า ประเทศไทย โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด้านนายแจ็ค จาง ได้รับมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบใหม่ในระดับภูมิภาค ในขณะเดียวกัน นางสาวเจสสิก้าจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจลาซมอลล์ (LazMall) ของลาซาด้า กรุ๊ป ต่อไป

    เจสสิก้าเริ่มงานที่ลาซาด้าตั้งแต่ปี 2563 พร้อมด้วยประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซมากกว่า 15 ปี และเร็วๆ นี้ ยังได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งใน 100 ผู้หญิงที่มีบทบาทสำคัญในวงการเทคโนโลยีของประเทศสิงคโปร์ (Singapore 100 Women in Tech) ซึ่งประกาศเป็นครั้งแรกโดย Infocomm Media Development Authority (IMDA) ของประเทศสิงคโปร์ รายชื่อ SG100WIT ดังกล่าว มีจุดประสงค์เพื่อยกย่องผู้หญิงชั้นนำที่สร้างประโยชน์แก่วงการเทคโนโลยี และชูต้นแบบผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในด้านเทคโนโลยี

    ก่อนเริ่มงานที่ลาซาด้า เจสสิก้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ Tmall Fashion and Luxury ภายใต้อาลีบาบา กรุ๊ป ด้วยการบริหารของเจสสิก้า ทีมอลล์ (Tmall) ได้เติบโตเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ด้านแฟชั่นสำหรับผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และยังเป็นจุดหมายชั้นนำที่รวบรวมแบรนด์แฟชั่นระดับโลกไว้ด้วยกัน

    นอกจากนี้ ในปี 2561 เจสสิก้าได้ริเริ่ม Tmall Luxury Pavilion แพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับสินค้าลักชัวรี และพรีเมียม รวมถึงศูนย์โลจิสติกส์สำหรับสินค้าลักชัวรีของอาลีบาบา (Alibaba Luxury Goods Logistics Centre) ซึ่งให้บริการแก่แบรนด์ลักชัวรีมากกว่า 200 แบรนด์ บนทีมอลล์

    ประสบการณ์ของเจสสิก้าที่ทีมอลล์ จะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายของลาซาด้า ประเทศไทย ในปี 2564 ที่ต้องการผลักดัน LazMall สู่การเป็นจุดหมายชั้นนำด้านแฟชั่น และแพลตฟอร์มที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำมากมาย

    โดยเจสสิก้าจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ การผสานความเชี่ยวชาญระดับประเทศ และภูมิภาคของลาซาด้า ภายใต้กลยุทธ์ระยะยาวของลาซาด้า ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายธุรกิจที่ยั่งยืนทั่วทั้งภูมิภาค พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและโลจิสติกส์

    ]]>
    1313046
    ย้อนรอยแคมเปญ ‘11.11’ วันสำคัญแห่งปีของนักช้อปออนไลน์ พร้อมเจาะลึก ‘ลาซาด้า’ ที่ยังคงสถานะหมุดหมาย ‘เบอร์ 1’ https://positioningmag.com/1304602 Thu, 05 Nov 2020 11:00:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1304602

    แม้ตอนนี้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าแคมเปญ ‘11.11’ เป็นแคมเปญที่เป็นภาพจำของผู้บริโภคไปแล้ว เพราะเป็นวันสำคัญที่ทุกแพลตฟอร์มและทุกแบรนด์จะต้องจัดแคมเปญเพื่อแย่งชิงลูกค้าในวันนี้ ส่งผลให้เป็นวันที่นักช้อปส่วนใหญ่ต่างอดใจรอคอยเพื่อจะได้ช้อปของถูก แน่นอนว่าด้วยการแข่งขันนี้ การจะดึงดูดใจแค่โปรโมชั่นคงไม่พอ แต่จำเป็นต้องมีอะไรที่ ‘มากกว่า’ เพื่อตรึงลูกค้าให้อยู่กับแพลตฟอร์ม

    ‘ลาซาด้า’ ผู้จุดแคมเปญ 11.11 สู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ถ้าจะย้อนรอยไปถึงต้นกำเนิดของวัน Double Day ต้องย้อนไปถึงปี 2009 ที่ ‘อาลีบาบา’ (Alibaba) เป็นผู้ริเริ่มจัด แคมเปญ ‘วันคนโสด’ (Single’s Day Campaign) ในวันที่ 11.11 เพื่อให้เหล่าคนโสดซื้อของเปย์ตัวเองเสียเลย ซึ่งเคยทำยอดสูงสุดถึง 17.8 พันล้านดอลล่าสหรัฐฯ หรือกว่า 540,000 ล้านบาท ขนาดมันรวมเทศกาลดัง ๆ จากฝั่งตะวันตกอย่าง Black Friday , Cyber Monday และ Amazon Prime Day ถึง 2.5 เท่า

    สำหรับแคมเปญ 11.11 ในไทยนั้นได้ ‘ลาซาด้า’ เป็นผู้ที่นำเอาแคมเปญดังกล่าวมาสู่ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยแต่ในแต่ละปีที่จัดต่างได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างถล่มทลาย

    • โดยในปี 2017 มีผู้เข้าชมแพลตฟอร์มลาซาด้ามากกว่า 10 ล้านครั้ง และมีคำสั่งซื้อมากขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับวันปกติ
    • ปี 2018 มียอดคำสั่งซื้อกว่า 4 แสนครั้งภายในเวลา 1 ชั่วโมงแรก และเมื่อเทียบกับปี 2017 ยอดสั่งซื้อเติบโตกว่า 287%
    • ปี 2019 นั้น ยอดคำสั่งซื้อเติบโตจากปี 2018 ถึง 2 เท่า แค่ชั่วโมงแรกก็มีคำสั่งซื้อ 3 ล้านออเดอร์ทั่วทั้งภูมิภาคเลยทีเดียว

    จาก Single Day สู่ Double Day

    จากความปังดังกล่าว แคมเปญ 11.11 ก็ได้กลายเป็นมหกรรมช้อปปิ้งที่อีคอมเมิร์ซทุกแพลตฟอร์ม ค่ายค้าปลีก และแบรนด์ต้องเข้ามาชิงยอดขายในวันนี้ แต่ไม่ได้จบอยู่แค่วันที่ 11.11 อีกต่อไป แต่ลาซาด้าได้ต่อยอดมาเป็น Double Day ไม่ว่าจะเป็น 9.9 Big Brands Sale ที่จัดโปรใน LazMall ที่รวบรวมสินค้าของแท้ 100% เรียกได้ว่าเกือบทุกเดือนตลอด 1 ปี จะต้องมีแคมเปญโดน ๆ ในเพื่อกระตุ้นตลาด อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแคมเปญแทบทุกเดือน แต่ 11.11 ถือเป็นแคมเปญ ‘ใหญ่สุด’ และ ‘ดีลดีที่สุด’ ของลาซาด้า

    ช้อปสนุกยิ่งขึ้นด้วย ‘Live-Streaming’

    จากวิกฤติ COVID-19 ที่ผ่านมา การขายสินค้าผ่าน Live-Streaming กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก จนเกิดเป็นเทรนด์ ‘ไลฟ์คอมเมิร์ซ’ ซึ่งปัจจุบัน ไลฟ์คอมเมิร์ซไทยมีมาร์เก็ตไซส์ประมาณ 5-10% ของมูลค่าอีคอมเมิร์ซทั้งหมด หรือประมาณ 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เทรนด์ไลฟ์คอมเมิร์ซไม่ใช่เรื่องใหม่แต่มีมานานแล้ว โดยลาซาด้าถือเป็นผู้เล่นรายแรก ๆ ของไทยที่เพิ่มฟีเจอร์ ‘ไลฟ์สตรีมมิ่ง’ หรือ ‘LazLive’ เข้ามาในแพลตฟอร์มผ่านกลยุทธ์ ‘Shoppertainment’ ที่เปลี่ยนให้การช้อปปิ้งไม่ใช่แค่การ ‘ซื้อ’ แต่ต้อง ‘สนุก’ ด้วย

    หลังจากเปิดตัวมาได้ครบ 1 ปี LazLive ได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าและร้านค้า โดยปัจจุบันมีจำนวนยอดการรับชมรวมกว่า 30 ล้านครั้งในประเทศไทย โดยมีจำนวนการรีวิวสินค้ารวมกว่า 50,000 ชิ้นบนแพลทฟอร์ม ซึ่งจัดว่าเป็นคอนเทนต์การตลาดที่ช่วยโปรโมทให้กับร้านค้าได้อย่างดีทีเดียว และในปี 2020 นี้ ลาซาด้าจับมือกับ Elle Magazine ผสานการไลฟ์สตรีมมิ่งกับการจัดแสดงแฟชั่นโชว์แบบ ‘Virtual Runway’ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับตลาดไปอีกขั้น

    ขายของ ‘ออนไลน์’ แต่ไม่ทิ้ง ‘ออฟไลน์’

    แม้จะเป็นแพลตฟอร์ม ‘ออนไลน์’ แต่ลาซาด้ามองว่าไม่ได้มาเพื่อดิสรัป ‘ออฟไลน์’ แต่สามารถเติบโตไปด้วยกันได้ ลาซาด้าจึงใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) โดยช่วงก่อน COVID-19 ที่ผ่านมาได้เปิดตลาดนัด LOL ที่ห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เอ็มควอเทียร์ โดยให้ร้านค้าออนไลน์ในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น อินสตาแกรม มาเปิดร้านกับลาซาด้า และเปิดร้านขายสินค้าในตลาดนัดเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นสินค้าจริงก่อนที่จะสั่งซื้อบนลาซาด้า ซึ่งกิจกรรมนี้จะจัดทุก ๆ ไตรมาส มีร้านค้าเข้าร่วมประมาณ 100-300 ร้านค้า

    แต่ในปีนี้ ลาซาด้าได้ปรับกลยุทธ์ O2O ใหม่เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดแบบไม่ไร้รอยต่อ หรือ seamless experience โดยลาซาด้าได้เปิดป๊อปอัพสโตร์ ‘Lazada On Ground’ แห่งแรกในประเทศไทย ณ สยามเซ็นเตอร์ โดยสโตร์ดังกล่าวจะโชว์สินค้ากว่า 40 แบรนด์ พร้อมกับสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอไลฟ์ขายสินค้าโชว์กันสด ๆ เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ถึงมกราต้นปีหน้ากันเลยทีเดียว

    เรียกได้ว่า ลาซาด้าไม่ใช่แค่บุกเบิกเอาแคมเปญ 11.11 มาสู่ประเทศไทยและภูมิภาค แต่ยังนำเทรนด์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ขายของ หรือการผสานโลกออฟไลน์และออนไลน์ อย่างไรก็ตาม นี่ก็ใกล้ถึงวันที่ 11.11 แล้ว เหล่านักช้อปทั้งหลายอย่าลืมวอร์มนิ้วให้พร้อมกับแคมเปญ Lazada 11.11 Biggest One-Day Sale ถูกสุดในรอบปี วันนี้วันเดียว เพื่อช้อปของดีในราคาลดกระหน่ำ พร้อมสิ่งพิเศษมากมายจากลาซาด้า ไม่ว่าจะเป็น

    • การแจกคูปอง 1,111 บาทแจกทุก 11 โมง ตั้งแต่วันที่ 1-11 พ.ย. 2563 เท่านั้น
    • คูปองจัดส่งฟรีทั่วไทย*
    • 5% cashback** สำหรับสินค้าLazMall ทุกชิ้น
    • Flash Sale เริ่มต้น 11 บาท
    • Crazy Brand Mega Offers เวลาเที่ยงคืน – ตี 2

    และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.lazada.co.th/11-11/

    ]]>
    1304602
    ‘ลาซาด้า’ ผุด Pop-up Store บนห้าง โกยลูกค้าออฟไลน์สู่ออนไลน์ https://positioningmag.com/1293816 Mon, 24 Aug 2020 08:47:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1293816 ทำตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากว่า 8 ปี ปัจจุบัน ‘ลาซาด้า’ (Lazada) มีผู้ใช้งานกว่า 70 ล้านคน/เดือน มีสินค้ากว่า 240 ล้าน SKU และสำหรับประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่สุดในภูมิภาค มียอดขายรวมเป็นเบอร์ 1 แซงทุกประเทศ โดยปีที่ผ่านมาผู้ใช้งานเติบโต 100% และจำนวนร้านค้าเติบโตถึง 2 เท่า แถมตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังมีสัดส่วนเพียง 3% ของค้าปลีก ซึ่งแปลว่ายังมีช่องว่างให้เติบโตอีกมาก จึงไม่น่าแปลกที่หากบริษัทแม่อย่าง ‘อาลีบาบา’ จะเอานวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้กับตลาดไทยที่แรก แถมยังทุ่มงบทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ขนาดดาราเบอร์แรงอย่าง ‘เวียร์-เบลล่า’ ยังคว้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์มาแล้ว

    ดัน LazMall เต็มสูบ

    แค่การมีพรีเซ็นเตอร์ชื่อดัง คงไม่เพียงพอต่อการเติบโตขึ้น ดังนั้น ครึ่งปีหลังนี้ลาซาด้าจึงต้องงัดไม้เด็ดมาเขย่าตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยคุณธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า พระเอกของครึ่งปีหลังคือ ‘ลาซมอลล์’ (LazMall) ที่เปรียบเสมือน ‘ห้างสรรพสินค้าออนไลน์’ เพราะรวมแบรนด์ออฟฟิเชียลเอาไว้กว่า 6,000 แบรนด์ จาก 2,000 ร้านค้า ซึ่งมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วง COVID-19 มีแบรนด์ใหม่ที่เข้าบนลาซมอลล์ประมาณ 600 แบรนด์ หรือเติบโต 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ และในส่วนของยอดขายเติบโต 160% ยอดคำสั่งซื้อเติบโต 130% จำนวนผู้ใช้เติบโต 110%

    “ในลาซมอลล์มียอดใช้จ่ายสูงการการซื้อในลาซาด้าปกติถึง 3 เท่า อีกทั้งยังกลับมาซื้อซ้ำบ่อยกว่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีรอยัลตี้สูงกว่า แม้ราคาไม่ได้ถูกแต่ได้เซอร์วิสที่ดีก็พร้อมจ่าย ซึ่งการเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดพรีเมียมยังมีโอกาสอีกมาก”

    แตกเซ็กเมนต์ใน LazMall และอัดงบการตลาดเพิ่ม

    ถือเป็นครั้งแรกที่ลาซาด้าได้เตรียมงบการตลาดไว้ให้ลาซมอลล์โดยเฉพาะ จากปกติงบการตลาดจะใช้กับภาพรวม ไม่มีส่วนไหนพิเศษ นอกจากนี้ยังนำ ‘ดาต้า’ เข้ามาช่วยจับคู่แบรนด์เพื่อสร้างแคมเปญร่วมกัน (co-campaign) เพื่อช่วยเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์และเสริมประสิทธิภาพการขาย โดยที่ผ่านมาแคมเปญของ Biotherm Homme x Phillips และ Asava x M.A.C มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 100% จากช่วงเวลาปกติ

    นอกจากนี้ ลาซาด้าได้แยกกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสเติบโตขึ้นมาเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ โดยเริ่มจาก ‘premium beauty mall’ ที่ขายเฉพาะสินค้ากลุ่มความงาม ซึ่งที่ผ่านมายอดขายเติบโตถึง 540% ส่วนผู้ซื้อเติบโต 330% และในครึ่งปีหลัง ได้เพิ่มเซ็กเมนต์ใหม่คือ ‘Thai Designer Club’ ที่รวบรวมแบรนด์แฟชั่นไทยไว้กว่า 50 แบรนด์บนแพลตฟอร์ม

    ผุด ‘Lazada On Ground’ ป๊อปอัพสโตร์แห่งแรก

    ตลอด 2 ปี ลาซาด้าได้กำเนินกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) มาตลอด อาทิ เปิดตลาดนัดออฟไลน์ โดยให้ร้านออนไลน์มาขาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นสินค้าจริง ก่อนที่จะสั่งซื้อบนลาซาด้า ซึ่งกิจกรรมนี้จะจัดทุก ๆ ไตรมาส มีร้านค้าเข้าร่วมประมาณ 100-300 ร้านค้า แต่ล่าสุด ลาซาด้าได้เปิดป๊อปอัพสโตร์ ‘Lazada On Ground’ แห่งแรกในประเทศไทย ณ สยามเซ็นเตอร์ โดยสโตร์ดังกล่าวจะโชว์สินค้ากว่า 40 แบรนด์ พร้อมกับสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอไลฟ์ขายสินค้าโชว์กันสด ๆ

    “ป๊อปอัพสโตร์เราไม่ได้เน้นยอดขาย แต่เน้นประสบการณ์ เพราะสินค้าบางอย่างมีราคาสูง ดังนั้นผู้บริโภคอาจต้องการลองสัมผัสสินค้าจริงก่อน อีกทั้งยังช่วยสร้างการรับรู้ขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ทั้งลูกค้าและร้านค้าห้างฯ ให้มาเข้าสู่แพลตฟอร์มลาซาด้าต่อไป”

    ทั้งนี้ ลาซาด้ายังเห็นความต้องการของแบรนด์ที่จะเข้ามาบนออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางเข้าถึงลูกค้า แต่ที่บางร้านยังไม่ขึ้นออนไลน์เพราะมองว่าราคาที่สูงอาจไม่เหมาะกับออนไลน์ แต่ลาซมอลล์พิสูจน์ให้เห็นว่าตลาดพรีเมียมมีการเติบโต ส่งผลให้พรีเมียมแบรนด์ตัดสินใจง่ายขึ้น

    การแข่งขันไม่ใช่แค่ราคา แต่ต้องดึงลูกค้าให้อยู่นานที่สุด

    ด้วยความที่ตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ดังนั้นการแข่งขันที่ผ่านมาจึงหนักหน่วง ไม่ว่าจะเรื่องของราคา บริการ และความเร็วในการจัดส่ง ซึ่งลาซาด้าก็ได้อุดช่องว่างนี้ทั้งหมด ทั้งการเปิดคลังสินค้าของตัวเอง รวมถึงการพูดคุยกับแบรนด์และร้านค้าเพื่อหาทางทำราคาสินค้าให้ถูกลง

    “ตลาดค้าปลีกภายนอกเราเริ่มเห็นผลกระทบของกำลังซื้อที่ลดลงจากพิษเศรษฐกิจ โดยเราเริ่มเห็นว่ามูลค่าคำสั่งซื้อลดลง แต่เน้นซื้อบ่อยขึ้น ดังนั้นเราจึงเตรียมแผนในการรับมือ โดยคุยกับแบรนด์และร้านค้า ในการทำราคาสินค้าให้ถูกลง อย่างน้อยต้องต่ำกว่า 300 บาท”

    อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในปัจจุบันไม่ใช่แค่ราคาและเซอร์วิสอีกต่อไป แต่เป็นการดึงลูกค้าให้อยู่บนแพลตฟอร์มนานขึ้น ดังนั้น ดาต้าจึงจำเป็นในการคิดแคมเปญที่ตอบโจทย์ เพื่อให้ลูกค้าใช้เวลาบนแพลตฟอร์มนานขึ้น ซึ่งในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา ลูกค้าใช้เวลานานขึ้น 30% โดยลูกค้ากลุ่มใหญ่สุดของลาซาด้าเป็นกลุ่มอายุ 18-35 ปี คิดเป็นกว่า 50% รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 36-45 ปี

    “เราไม่กังวลเรื่องการแข่งขัน เราชอบการแข่งขันด้วยซ้ำ เพราะยิ่งทำให้เราต้องปรับตัว ขณะที่ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ดังนั้นเพลเยอร์คงมีมาเรื่อย ๆ”

    ทั้งนี้ COVID-19 ที่ผ่านมาส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อเติบโตกว่า 100% โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็กมีอัตราการเติบโต 3 เท่า ส่วนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านเติบโตถึง 7 เท่า

    ]]>
    1293816