LEAD by Central Pattana – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 15 Mar 2025 03:51:07 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Endless Holiday – Trinity Cafe สองแบรนด์ดาวรุ่งกับการคอลแล็บสุดปัง ผลผลิตจากคอร์ส LEAD by Cantral Pattana https://positioningmag.com/1514404 Sat, 15 Mar 2025 03:32:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1514404

การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ยุคที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งเก่ง หรือการเก่งอยู่คนเดียว แต่การสร้างระบบที่แข็งแกร่ง แล้วเติบโตไปด้วยกัน ยิ่งถ้าส่งเสริมคนตัวเล็กตัวน้อยด้วย ทำให้ธุรกิจยั่งยืนกว่าเดิมหลายเท่า เหมือนอย่างที่เซ็นทรัลพัฒนาได้เห็นความสำคัญของการของการปั้นธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นเหมือนพี่ใหญ่ที่ช่วยให้น้องๆ ได้เติบโต

จึงเป็นที่มาของคอร์ส LEAD by Central Pattana หลักสูตรรีเทลที่พัฒนาให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้เติบโต และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน พร้อมกับสเกลอัพไปแบบก้าวกระโดด

ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เรียนจริง ทำจริง โตจริง” ผ่านการเรียนรู้จากผู้รู้จริงในวงการรีเทล ทดลองตลาดกับพื้นที่ที่มีศักยภาพ และนำสิ่งที่ได้พัฒนามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจจริงอย่างเป็นรูปธรรม

ผู้บริหารหลักสูตร LEAD by Central Pattana และผู้ประกอบการจาก LEAD รุ่นที่ 6

ในปีนี้เดินทางเข้าสู่รุ่นที่ 6 ปั้นผู้ประกอบรุ่นใหม่อีกมากมาย ความพิเศษของคอร์สนี้คือนอกจากจะได้ความรู้ ประสบการณ์จากผู้รู้จริงในวงการรีเทลแล้ว ยังได้คอนเน็คชั่นจากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น หรือแม้แต่ข้ามรุ่นก็ยังได้ เกิดการคอลแล็ปข้ามสายงานก็ยังมี LEAD เป็น Platform of Opportunity ที่สร้างโอกาสต่อไปแบบไม่รู้จบ

ในปีนี้ Positioning ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 2 แบรนด์รุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง Endless Holiday และ Trinity Cafe สองผู้ประกอบการผู้จบหลักสูตร LEAD รุ่น 6 และได้มีโปรเจ็คต์คอลแล็ปกันสร้างป็อปอัพคาเฟ่สุดคิวท์ ทั้ง 2 แบรนด์จะมีความน่าสนใจอย่างไร จะพาไปหาคำตอบ


Endless Holiday แบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ออนไลน์แบรนด์ดัง

ในประเทศไทยขึ้นชื่อว่ามีแบรนด์ที่แจ้งเกิดจากการขายบนช่องทางโซเชียลมีเดียมากมาย บางแบรนด์อาจได้รับความนิยมสูงจนสามารถเปิดหน้าร้านได้

หรือมียอดขายทะลุหลายหลัก ซึ่งจะต้องเป็นแบรนด์ที่มีความแตกต่าง และมีฐานลูกค้าในระดับหนึ่ง

Endless Holiday เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่แจ้งเกิดจากช่องทางอินสตราแกรม หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นแบรนด์ไอจี โดยได้สร้างแบรนด์มา 10 ปีแล้ว ก่อตั้งโดย “คุณเอ้-ฤดีมาศ สกุลพงศ์ไพศาล” อดีตมาร์เก็ตติ้งสายแฟชั่น กับพาร์ทเนอร์ คุณกานต์ วิสราญกุล และ  คุณ อ้อ ฤดีรัตน์ สกุลพงศ์ไพศาลผู้มีใจรักในด้านแฟชั่น การแต่งตัว จึงได้เริ่มสร้างแบรนด์เอง ตอนแรกเริ่มทำจากเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าสำเร็จรูป มาจนถึงออกแบบลายเองจนได้แพทเทิร์นที่ยูนีคไม่เหมือนใคร ขึ้นแท่นเสื้อผ้าลายดอกที่ผู้หญิงหลงรัก จนขยายไลน์ยังเสื้อผ้าแม่และเด็ก รวมถึงกลุ่มผู้ชายด้วย

“เราเป็นคนมีแพชชั่นในเรื่องแฟชั่น จึงลองทำแบรนด์ของตัวเอง ตอนแรกเลือกผ้าสำเร็จรูป แล้วทำแบบให้ช่างตัดให้ แต่เกิด Pain Point ที่ว่า ลายซ้ำกับคนอื่น ถ้าขายดีแล้วหมดก็ไม่มีสต็อคเพิ่ม เสียโอกาสการขาย เลยมาคิดในการออกแบบลายเอง เกิดคอลเล็คชั่น Secret Garden เน้นลายดอกไม้ ให้ความรู้สึก Holiday เริ่มจากขายช่องทางออนไลน์เป็นหลัก อินสตราแกรม และลาซาด้า กับมีป็อปอัพสโตร์เล็กๆ บ้าง”

เหตุผลที่ใช้ลายดอกเป็นจุดเด่น มองว่าเป็นลายที่เข้าถึงง่าย เป็นแพทเทิร์นที่อมตะ เอาไปทำได้หลายอย่าง เข้าถึงสาวๆ ได้ง่าย เลยกลายเป็นภาพจำของแบรนด์ว่าเป็นลายปริ้นที่มีเอกลักษณ์ กับจุดเด่นอีกอย่างก็คือทำเป็นฟรีไซส์ ใช้ผ้าใส่สบาย ไม่ค่อยยับ ทุกไซส์ใส่ด้วยกันได้

จุดเริ่มต้นจากฟอร์มดอกไม้เป็นหลัก จนได้พัฒนามีคอลเล็กชั่นตามเทศกาลมากขึ้นอย่างเช่น วันวาเลนไทน์ และตรุษจีน ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า รวมไปถึงขยายไลน์ไปกลุ่มแม่และเด็ก สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

หลังจากอยู่บนโลกออนไลน์มาเป็น 10 ปี Endless Holiday มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่อยากจะโตมากขึ้นกว่านี้ จึงตัดสินใจเข้าร่วมคอร์ส LEAD by Central Pattana เพื่อต้องการสเกลอัพไปยังช่องทางออฟไลน์

“ปกติขายแค่ออนไลน์ ถ้าอยากโตต้องไปออฟไลน์เพื่อโตเข้าไปอีก อยากออกจากกรอบเดิมๆ ที่มีอยู่ เห็นว่าเซ็นทรัลพัฒนาเป็นเจ้าแห่งรีเทล ประกอบกับที่เรามีคอนเน็คชั่นกลุ่มเพื่อนที่เป็นแบรนด์ที่ขายสินค้าในอินสตราแกรม ก็แนะนำให้มาเข้าคอร์สนี้ ได้เห็นโปรไฟล์ของแบรนด์ที่เข้าร่วมในรุ่นก่อนๆ ก็เลยอยากโตแบบเขาบ้าง”

หลังจากเข้าคอร์ส LEAD by Central Pattana เหมือนเป็นแหล่งบ่มเพาะ SME ให้สเกลอัพไปสู่โลกกว้างได้อย่างทุกมิติ ในคอร์สนี้ได้ให้ทั้งความมั่นใจ เทคนิค กลยุทธ์ที่เป็นระบบ พร้อมกับได้ทดลองอะไรใหม่ๆ ได้พื้นที่ได้ทดลองโปรเจ็คต์คอลแล็ปกับเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อหาโอกาสใหม่ๆ ทางเซ็นทรัลพัฒนามีขุมพลที่พร้อมให้คำปรึกษา และเครื่องมืออย่างเต็มที่

คุณเอ้-ฤดีมาศ ได้ทิ้งท้ายว่า คนที่เข้าคอร์ส LEAD by Central Pattana เมื่อเรียนจบแล้วจะไม่ได้อยู่ที่เดิมแน่นอน เพราะมีสเต็ปกันหมด มีโอกาสเข้ามาพร้อม จากคอนเน็คชั่นของคนร่วมหลักสูตร และโอกาสจากทางเซ็นทรัลพัฒนาเช่นกัน


Trinity Cafe คาเฟ่ขอนแก่น กับเป้าหมายในการบุกเมืองกรุง

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยมีร้านเบเกอรี่ ร้านคาเฟ่เกิดขึ้นมากมาย บางร้านก็ขายดีมีลูกค้าประจำ แต่บางร้านก็ล้มหายตายจากไปเยอะ ซึ่งถ้าพูดถึงคาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นแล้วละก็ เป็นร้านอื่นไปไม่ได้นอกจาก Trinity Cafe ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแม่ตัวมัมแห่งขอนแก่น จุดเด่นอยู่ที่เบเกอรี่ที่ไม่กั๊กวัตถุดิบ อะไรที่ว่าดีล้วนใส่ลงไปในขนม ทำให้เกิดการบอกปากต่อปาก

Trinity Cafe ก่อตั้งโดย เชฟฟ้า-กนกวรรณ เดชวีระพานิชย์  ที่เริ่มทำขนมตั้งแต่ม.5 ทำไปให้เพื่อนชิมบ้าง ทำขายบ้าง ดูสูตรจากเว็บไซต์พันทิป และหนังสือแม่บ้าน จากนั้นช่วงเรียนมหาวิทยาลัยเริ่มขายส่งให้ร้านเบเกอรี่ในเมืองขอนแก่น หารายได้เดือนละ 40,000-50,000 บาท จึงเริ่มคิดว่าน่าจะเปิดร้านเป็นของตัวเองได้

“แรกเริ่มเราใช้พื้นที่หน้าบ้านเปิดร้านก่อน มี 2-3 โต๊ะเท่านั้น เริ่มทำครัวซองขายวันละ 20 ชิ้น แต่ก็มีลูกค้าเยอะตั้งแต่วันแรก เพราะมีฐานลูกค้าตั้งแต่สมัยเรียนมหาวัทยาลัย จากนั้นเริ่มขยายไปสาขาที่ใหญ่ขึ้นกลางเมืองขอนแก่น เริ่มลงทุนใช้เครื่องจักรช่วยทำขนม ทำให้ขายครัวซองได้วันละ 1,200 ชิ้น”

Trinity Cafe เปิดร้านมาได้ 9 ปีแล้ว แต่เพิ่งมาโฟกัสในการทำธุรกิจจริงจังเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้มีการเติบโตแบบออแกนิกมาโดยตลอด ไม่เคยจ้างอินฟลูเอ็นเซอร์ในการรีวิว เกิดการบอกต่อกันปากต่อปากล้วนๆ โดยเป้าหมายใหญ่คือการเปิดสาขาในกรุงเทพฯ จึงคิดว่าน่าจะต้องทำการบ้านอีกมาก

ปัจจุบัน Trinity Cafe มี 3 สาขาที่จ.ขอนแก่น และมีป็อปอัพสโตร์ที่อุดรธานี ตอนนี้ทำกลังรอพื้นที่สาขาถาวรที่เซ็นทรัลอุดรธานี ….. บอกว่า การเติบโตจากร้านเดิมเป็นเรื่องยาก ต้องขยายสาขาใหม่ๆ มองโอกาสใหม่ จึงได้ตัดสินใจเข้าโปรแกรม LEAD by Cental Pattana

“เหตุผลที่เข้าร่วมคอร์สนี้ เพราะมีเพื่อนในวงการร้านขนมด้วยกันแนะนำให้ลองมา แต่ก่อนมีแค่สกิลการเป็นเชฟ เรียนแต่ทำขนม พอจะขยายสาขาไม่รู้เรื่องธุรกิจ พอมาเรียนที่นี่ก็ได้เต็มที่กับมัน ถูกบีบให้ต้องทำ ต้องทำอะไรใหม่ เออกจากเซฟโซนเดิมๆ อยู่ไปแล้วจะซึมซับคนที่มีพลัง มีไฟขึ้นมา อาจารย์จะดึงศักยภาพของเราออกมาได้ ตอนแรกคิดว่าแค่นี้ก็ดีแล้ว แต่มันดีได้อีก”

แม้เป้าหมายใหญ่จะเป็นการขยายสาขาในกรุงเทพฯ แต่เป้าหมายระยะสั้นต้องการที่จะขยายสาขาในโซนภาคอีสานก่อน หลังจากที่เคยเปิดป็อปอัพสโตร์ที่เซ็นทรัลอุดรธานีตอนที่อยู่ใน LEAD by Central Pattana ก็ได้รับผลตอบรับดีมาก คาดว่าจะขยายไปที่จ.อุบลราชธานีในสิ้นปีนี้


Endless Holiday x Trinity Cafe เมื่อแฟชั่นมาเจอคาเฟ่

นอกจากการเรียนรู้ในการทำธุรกิจแบบเป็นระบบแล้ว เซ็นทรัลพัฒนายังให้โอกาสได้ทดลองจริงด้วยการให้เปิดป็อปอัพสโตร์ที่เซ็นทรัลเวิลด์ Endless Holiday ได้ครีเอทสินค้าใหม่ๆ เพื่อขายที่งานนี้โดยเฉพาะ ออกคอลเล็คชั่นดอกโบตั๋น ได้ผลตอบรับดีมาก มีคนต่อคิวตั้งแต่ตีห้า ขายหมดภายใน 2 ชั่วโมง สร้างยอดขายทะลุ 6 หลัก ส่วน Trinity Cafe ได้คอลแล็ปกับแบรนด์อื่นๆ ในการออกครัวซองรสชาติใหม่ๆ เช่น ไส้ครองแครง และชาไทยเป็นต้น

จากนั้นได้มีโปรเจ็คต์ให้ทั้งคู่ได้คอลแล็ปร่วมกัน โดยได้เปิดเป็นป็อปอัพคาเฟ่ที่เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ เป็นการผสมผสานระหว่างแฟชั่น กับคาเฟ่ได้ลงตัว มีการดีไซน์ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของทั้ง 2 แบรนด์ และสามารถต่อยอดไปยังสินค้าอื่นๆ ได้อีก พร้อมกับได้แลกเปลี่ยนฐานลูกค้ากันอีกด้วย

Endless Holiday ได้ออกแบบเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นใหม่เพื่อวางขายที่งานนี้โดยเฉพาะ พร้อมกับไลน์สินค้ากลุ่มของใช้ในบ้าน และสัตว์เลี้ยง ได้แก่ หมอน, จาน, ที่รองแก้ว, เบาะรองเก้าอี้, พรมเช็ดเท้า และปลอกคอน้องหมา โดยที่เสื้อผ้าขายหมดภายใน 2 วัน สร้างยอดขาย 1.8 ล้านบาท

ส่วน Trinity Cafe ได้ลองเมนูใหม่อย่างไอศกรีม และทำโคนวาฟเฟิล เป็นการลองอะไรใหม่ๆ อย่างที่ไม่เคยทำ ซึ่งเมนูไอศกรีมก็อาจจะมีการต่อยอดเอาไปขายต่อที่ร้านได้ด้วยเช่นกัน

จากการเข้าร่วมโปรแกรมนี้ และได้ทำโปรเจ็คต์คอลแล็ปกันนั้น ทั้งคู่ได้บอกตรงกันว่าสิ่งที่ชอบที่สุดก็คือ การได้ลองใหม่ๆ ได้ออกจากเซฟโซน ไอเดียที่เคยคิดมาทำได้จริง ได้ทำงานเป็นระบบ ได้เรียนรู้จากอาจารย์ และผู้ประกอบการคนอื่นๆ เป็นการทดลองที่คุ้มค่า

ทั้ง 2 แบรนด์มีคุยกันไปถึงอนาคตอาจจะมีการคอลแล็ปในสนามธุรกิจจริงๆ เช่น เทคโอเวอร์คาเฟ่  Trinity Cafe ที่ขอนแก่นเป็นลายของ Endless Holiday ซึ่งสามารถต่อยอดได้มากมาย

LEAD by Central Pattana คือ Community of Opportunity แพลตฟอร์มหนึ่งเดียวที่มอบโอกาสให้ SMEs ไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งยั่งยืน SMEs เติบโตได้จริง จากจุดแข็งของศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่ไม่มีใครทำได้ เพราะเซ็นทรัลมีพื้นที่ศูนย์การค้าทั่วประเทศ ทั้งกรุงเทพชั้นนอก-ชั้นใน และในจังหวัดต่างๆ ล้วนเป็นทำเลที่ได้วิเคราะห์ และมองเห็นศักยภาพของตลาดมาก่อนแล้ว ทำให้ธุรกิจเติบโตได้จริง โดยปัจจุบันศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ มีทราฟฟิกประมาณ 1.3 ล้าน Visit ต่อวัน หรือเกือบ 500 ล้าน Visit ต่อปี

นอกจากนี้คอร์ส LEAD ช่วยปิดจุดอ่อน เสริมจุดแข็ง ให้ผู้เรียนได้ทำ 360° Business Health Check ทำให้เห็นจุดอ่อนของธุรกิจตัวเอง จากการแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ ในคอร์สเรียน ทั้งเรื่อง product, Visual Merchandising, logistic, Retail Feasibility, Scalability และ Marketing ฯลฯ ช่วยผู้เรียนเสริมจุดแข็งด้วย Retail incubation program ให้คิดอย่างมีกลยุทธ์ว่าตัวเองมี competitive edge อย่างไร เพื่อนำไปต่อยอดสู่โอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ

LEAD by Central Pattana ปั้น SMEs ไทยรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จไปแล้วถึง 240 แบรนด์ รวมเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจมากกว่า 3,800 ล้านบาท ขยายหน้าร้านไปแล้วกว่า 600 ร้านค้า โดยกำลังเปิดรับสมัครผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีแพชชั่น และพร้อมสเกลอัพธุรกิจ เข้าอบรม LEAD รุ่นที่ 7 แล้ว วันนี้ – 5 เมษายน 2568 สนใจสมัครคลิก https://www.centralpattana.co.th/en/shopping/shopping-update/event/1319/lead7

 

]]>
1514404
“เซ็นทรัลพัฒนา” ยืนหนึ่งศูนย์การค้าไทย พาคู่ค้าเติบโตไปด้วยกัน มุ่งมั่นเป็น Your Success Partner ให้ทุกแบรนด์ https://positioningmag.com/1503268 Tue, 17 Dec 2024 06:47:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1503268

หากจะพูดถึงอุตสาหกรรมที่มีใกล้ชิดการใช้ชีวิตประจำวันมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมี “ค้าปลีก” อย่างแน่นอน นอกจากจะเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมีเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาล ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ เกิดการจ้างงานในชุมชน ยังเป็นการสร้างคอมมูนิตี้ให้เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของพื้นที่นั้นๆ

ซึ่ง “เซ็นทรัลพัฒนา” เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทย มีโครงการครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล, โครงการที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ โดยเฉพาะ “ศูนย์การค้า” ที่ปักหมุดเป็น World Destination ไปแล้วเรียบร้อย การที่เซ็นทรัลพัฒนาขึ้นแท่นเป็นศูนย์การค้าเบอร์หนึ่งได้จนถึงทุกวันนี้ นอกจากจะมีการพัฒนาโครงการครอบคลุมทุก Strategic Location แล้ว “ร้านค้า” หรือพาร์ทเนอร์ก็เป็นหัวใจสำคัญไม่น้อย เพราะเป็นแม็กเน็ตหลักที่จะช่วยดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการในศูนย์ฯ ได้


ไม่ใช่แค่คู่ค้า แต่เป็น Your Success Partner ทุกมิติ

จุดแข็งอย่างแรกที่ทำให้เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มือทองนั่นคือ ประสบการณ์ในวงการค้าปลีกกว่า 45 ปี ปั้นศูนย์การค้า 41 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุม ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 18 โครงการ ต่างจังหวัด 23 โครงการ รวมไปถึงที่ประเทศมาเลเซียอีก 1 แห่ง ด้วยประสบการณ์ขั้นเซียนจึงเป็นที่ไว้วางใจของทั้งแบรนด์ไทย และแบรนด์ต่างชาติระดับโกลบอลโดยมีหลายแบรนด์ที่เลือกเซ็นทรัลเวิลด์เปิดร้านสาขาแรก และบางแบรนด์เป็นแฟล็กชิพสโตร์

นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า

“เซ็นทรัลพัฒนา มุ่งสร้างอนาคตที่ดีและยั่งยืนให้กับทุกคน รวมถึงพันธมิตรคู่ค้า โดยมีศูนย์การค้ากว่า 41 สาขาใน Strategic Prime Locations ทั่วประเทศ และในประเทศมาเลเซียอีก 1 แห่ง พร้อมแบรนด์ร้านค้ากว่า 18,000 ร้านค้า และเป็น House of Global Brands ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ดังระดับโลก 76 แบรนด์ในการเปิดสาขาแรกในไทย รวมถึงแฟลกชิปสโตร์กว่า 44 แบรนด์ พร้อมซัพพอร์ตการขยายสาขาทั่วประเทศและการสนับสนุนแบรนด์ไทยน้องใหม่มากกว่า 200 แบรนด์ ผ่าน Retail Incubation Program เช่น โครงการ LEAD by Central Pattana หลักสูตรรีเทลหนึ่งเดียวที่ให้ผู้ประกอบการได้เรียนจริง ทำจริง และเติบโตจริง กับเซ็นทรัลพัฒนา

เซ็นทรัลพัฒนาไม่ได้มองร้านค้าเป็นเพียงแค่คู่ค้าอย่างเดียว แต่เป็นพาร์ทเนอร์ระยะยาวที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน พร้อมจะเป็น Your Success Partner เป็นเพื่อนคู่คิดตลอดเส้นทางการเติบโตของธุรกิจ ด้วยโลเคชั่นสุดปังสร้างร้านให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังมีเครื่องมือต่างๆ ที่พร้อมติดอาวุธให้พาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตแบบ 360 องศา ด้วยเครื่องมือทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ รวมถึง Data Platform ที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุดอีกด้วย


ชู 3 จุดแข็ง ช่วยแบรนด์เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน 

ปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนามี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์การค้าหนึ่งเดียวที่รวมกว่า 18,000+ ร้านค้าทั่วประเทศมากที่สุด เป็น House of Global Brands 76 แบรนด์ดังปักหมุดสาขาแรกในไทย และ 44 แฟลกชิพสโตร์ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล จากความสำเร็จนี้สะท้อนได้จาก 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

  1. Holistic Partnership

มีทีมงานเฉพาะทางทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิดแบบ “Tenant Centric” โดยมีความรู้และประสบการณ์ในการเข้าใจลูกค้าในแต่ละภูมิภาคอย่างลึกซึ้ง นำเสนอ Marketing Solution แบบ 360 องศา ช่วยผลักดันยอดขายและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน รวมถึงการ Co-create กับแบรนด์ เพื่อให้คู่ค้า ผู้ประกอบการท้องถิ่น และชุมชนเข้ามาอยู่ใน Ecosystem ที่ยั่งยืนของเซ็นทรัลพัฒนา พร้อมทำงานร่วมกับแบรนด์ทุกขนาดเพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับคู่ค้าและลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

  1. Entrepreneurial Incubator

โปรแกรมเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่ดีที่สุด เป็น Retail Incubation Programme กระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักตัวเองและสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้คำแนะนำจากกูรู พร้อมกลยุทธ์ที่ชัดเจน มีสนามให้ทดลองนำแนวคิดใหม่ๆ มาวิเคราะห์และปรับปรุงก่อนใช้จริง ช่วยจุดประกายความยั่งยืนให้ธุรกิจ โดยตัวอย่างเช่น โครงการ ‘LEAD’ by Central Pattana คอร์สรีเทลที่ดีที่สุด เรียนจริง ทำจริง โตจริง สร้างความสำเร็จในการปั้นแบรนด์ใหม่และสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต่อเนื่องกว่า 200 แบรนด์ ในระยะเวลา 6 ปี ล่าสุด! ได้รับรางวัล Marketing Excellence Awards 2024 และในอนาคต ยังมีโปรแกรมเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพพร้อมติดอาวุธให้ผู้ประกอบการอีกหลายมิติ ให้พร้อมเติบโต Scale-Up และขยายสาขาไปทั่วประเทศ

  1. The Most Powerful Big Data

แบรนด์คู่ค้า Central Pattana มีอัตราการเติบโตสูงกว่าแบรนด์ทั่วไปถึง 2.7 เท่า เมื่อเข้าร่วม “โปรแกรม The 1 BIZ” Data Platform พร้อมใช้ ให้คู่ค้าเข้าถึง Data ที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุด ผ่านการร่วมมือกับ The 1 ที่มีข้อมูลทั้งเชิงลึก และเข้าถึงได้ตรงจุด ด้วยฐานสมาชิกกว่า 21 ล้านคน พร้อมอัดฉีด 360 Marketing investment เพื่อทำ Marketing activation ทั้ง Campaign promotion และ Communication สนับสนุน Platform กว่าอีก 200 ล้านบาทต่อปี ติดปีกคู่ค้าด้วยบทพิสูจน์การเติบโตเพิ่มยอดขายเฉลี่ยให้แบรนด์เพิ่มขึ้นถึง 10% ภายในระยะเวลา 6 เดือนแรกของการเข้าร่วมโปรแกรม

16 แบรนด์ระดับโลก ปักหมุดไทย ลุยเปิดสาขาแรกต่อเนื่อง 

สำหรับในปี 2567 แบรนด์ระดับโลกที่เชื่อมั่นเลือกเปิดสาขาแรกรวมถึงแฟล็กชิปสโตร์กับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ล้วนได้รับความนิยมเกิดเป็นกระแสไวรัลไปทั่วประเทศ อาทิ

กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม

  • HIKINIKU TO COME  ร้านแฮมเบิร์กสุดฮิตจากญี่ปุ่น สร้างกระแสถล่มทลายในไทย
  • KATSU MIDORI ร้านซูชิสายพานเจ้าดังจากญี่ปุ่น
  • TONKATSU AOKI ร้านทงคัตสึเจ้าดังจากญี่ปุ่นที่คนต่อคิวกว่า 2 ชั่วโมง
  • KAZAMA YAKINIKU เนื้อย่างสุดพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น
  • BHC CHICKEN แบรนด์ไก่ทอดเกาหลีสร้างปรากฏการณ์การคิวยาว ยอดขายทะลุเป้ากว่า 300%
  • PIZZA MARU พิซซ่าชื่อดังส่งตรงจากเกาหลี ครั้งแรกในประเทศไทย
  • CHICHA SAN CHEN แฟล็กชิปสโตร์ร้านแรกที่เดียวในไทย กับชาระดับพรีเมียมจากไต้หวัน เป็นแบรนด์ชาแบรนด์เดียวในโลกที่ได้รับรางวัลสูงสุดจาก ITI เทียบเท่ากับรางวัล “มิชลิน 3 ดาว” 6 ปีซ้อน
  • KUMO KUMO CHEESE ร้านชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าดังจากประเทศจีน

กลุ่มแฟชั่น และไลฟ์สไตล์

  • BEYOND THE VINES กระเป๋าแบรนด์ดังจากสิงคโปร์ แฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกและใหญ่ที่สุด
  • RITUALS แบรนด์เครื่องหอมชื่อดังจาก Amsterdam
  • WILSON แบรนด์อุปกรณ์เทนนิสระดับโลก กับคอนเซ็ปต์ 360 Store รูปแบบใหม่แห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • APM MONACO แบรนด์เครื่องประดับหรูจากโมนาโก
  • CASETIFY แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เชี่ยวชาญด้านเคสโทรศัพท์และอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ปรับแต่งได้จากฮ่องกง
  • NATIONAL GEOGRAPHIC แบรนด์ร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์ท่องเที่ยวแห่งแรกในประเทศไทย
  • AERIE แบรนด์ชื่อดังจากอเมริกาที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้หญิง
  • BOUNCETOPIA สวนสนุกเป่าลมยักษ์อันดับ 1 จากสิงคโปร์แห่งแรกในไทย ใหญ่สุดในเอเชีย เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปีนี้ยังมีแบรนด์ระดับโลกที่เลือกกลับมาเปิดใหม่ในไทยอีกครั้งกับเรา อาทิ AESOP แบรนด์สกินแคร์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศออสเตรเลียเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์ในคอนเซปต์ใหม่ และ GENKI SUSHI ซูชิสายพานจากญี่ปุ่น ใช้ Kousoku Train รถไฟความเร็วสูงเพื่อเสิร์ฟซูชิถึงโต๊ะ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นข้อการันตียืนยันความสำเร็จของการเป็นเบอร์หนึ่งของศูนย์การค้าไทย เป็นจุดหมายปลายทางของแบรนด์ดังระดับโลกที่เลือกศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็นหมุดหมายในการเปิดสาขาแรก รวมไปถึงแบรนด์ไทยชั้นนำก็เลือกเซ็นทรัลพัฒนาในการขยายธุรกิจ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ทั่วประเทศ

นอกจากนี้เซ็นทรัลพัฒนายังพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้ติดสปีดในการเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น ด้วยบทบาท Big Brother ภายใต้โครงการ LEAD by Central Pattana มีแบรนด์ดังที่มีแพชชั่นอันแรงกล้าเข้าร่วมอย่าง GENTLEWOMAN, RAVIPA, WITH IT, URTHE, YUEDPAO, โรงชาชงดี ปัจจุบันสามารถสยายปีกได้ในสเกลที่ใหญ่ขึ้น โดยโครงการนี้ได้สร้างความสำเร็จกว่า 200 แบรนด์

เซ็นทรัลพัฒนาไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะโครงการใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเขย่าวงการค้าปลีกสร้างอิมแพ็คระดับประเทศ เตรียมจับตามอง “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” บิ๊กโปรเจ็คต์ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) โดยในส่วนของ Central Park Office จะเปิดให้บริการใน Q3 ปี 2568 และศูนย์การค้า Central Park จะเปิดให้บริการใน Q4 ปี 2568 และเซ็นทรัล กระบี่ ที่คาดว่าจะเปิดใน Q4 ปี 2568 เรียกได้ว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนระดับประเทศได้แน่นอน ดึงดูดคลื่นนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาพร้อมเม็ดเงินหมุนเวียนจากทั่วโลก

]]>
1503268