mcdonald – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 26 Aug 2020 07:36:44 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ไวรัสพาเฉา! แมคโดนัลด์เปิดตัว ‘Spicy McNuggets’ นักเก็ตรสใหม่ในรอบเกือบ ’40 ปี’ https://positioningmag.com/1294139 Wed, 26 Aug 2020 03:42:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1294139 ในเดือนเมษายนยอดขายของแมคโดนัลด์ (McDonald) ในสหรัฐอเมริกาลดลง 19% แต่หลังจากเดือนพฤษภาคมยอดขายก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยในเดือนมิถุนายนรายได้ลดลงเพียง 2.3% และมีแนวโน้มการ ‘ฟื้นตัว’ ที่ดีขึ้นในเดือนกรกฎาคมตามที่ Kevin Ozan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกล่าว

ดังนั้น แมคโดนัลด์ต้องเร่งเดินหน้าสร้างกระแสใหม่ ๆ ให้กับเมนูเก่า เนื่องจากต้องพยายามดึงดูดลูกค้าให้กลับมา และหนึ่งในความพยายามนั้นคือ ‘Spicy Chicken McNuggets’ (สไปซี่ ชิคเก้น แมคนักเก็ต) โดยจะวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้ ซึ่งถือเป็นรสชาติใหม่ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่มีแมคนักเก็ตมาเมื่อปี 2526

ลูกค้าของเราถามหา Spicy McNuggets มาระยะหนึ่งแล้ว” Linda VanGosen รองประธานฝ่ายนวัตกรรมเมนู กล่าว

สำหรับแมคนักเก็ตใหม่นี้ จะมีการเคลือบเทมปุระชุบเกล็ดขนมปังพริกป่นและพริก มาพร้อมกับ Mighty Hot Sauce ซึ่งประกอบด้วยพริกแดงบด, พริกเผ็ดและกระเทียม โดย Mighty Hot Sauce ก็ถือเป็นน้ำจิ้มใหม่ครั้งแรกของบริษัทในรอบ 3 ปี เช่นกัน

ที่ผ่านมา มีแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากไก่รสเผ็ดนี้มาแล้ว ก็คือ ‘popeyes chicken’ ที่เปิดตัวแซนด์วิชไก่เผ็ดจนเป็นที่นิยม ช่วยกระตุ้นยอดขายของเครือเพิ่มขึ้น 24% ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ยอดขายรวมของแมคโดนัลด์ลดลง 30% ในไตรมาสที่สองเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ภาพรวมรายได้สุทธิทั้งปีดิ่งลง 68%

Source

]]>
1294139
อัดฉีดเพิ่ม McDonald’s เตรียมแจก ‘โบนัส’ 10% เป็นรางวัลให้พนักงานที่ทำงานช่วง COVID-19 https://positioningmag.com/1277317 Thu, 07 May 2020 10:40:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1277317 ยักษ์ใหญ่ในตลาดฟาสต์ฟู้ดของโลก แมคโดนัลด์ (McDonald’s) ได้ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เตรียมให้โบนัส 10% แก่พนักงานทุกคนในร้านค้าในเดือนพฤษภาคม

โบนัสดังกล่าวที่ทางแมคโดนัลด์ให้นั้น จะให้สำหรับร้านอาหารที่บริหารโดยบริษัทแม่เท่านั้น ซึ่งมีสัดส่วน 5% ของสาขาทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา สาขาส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา 95% จะเป็นรูปแบบแฟรนไชส์

แมคโดนัลด์ ระบุว่า โบนัสดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า “ทีมงานร้านอาหารมีความสำคัญเสมอ” แม้แมคโดนัลด์จะเป็นเจ้าของร้านแมคโดนัลด์ในสหรัฐอเมริกาเพียง 5% แต่แมคโดนัลด์ย้ำว่า นโยบายใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากร้านค้าที่เป็นแฟรนไชส์ ซึ่งมีนโยบายในเรื่องค่าแรง ค่าตอบแทนพนักงานที่สาขาอยู่

“ตลอดวิกฤตครั้งนี้ เราได้รับแรงบันดาลใจจากแฟรนไชส์ของเราและการสนับสนุนอย่างไม่น่าเชื่อที่พวกเขามอบให้กับพนักงานร้านอาหารของพวกเขา โดยแฟรนไชส์ส่วนใหญ่กำลังจัดโปรแกรมการชดเชยในช่วง COVID-19 เช่นการจ่ายค่าตอบแทนโบนัสบัตรของขวัญและการเพิ่ม”

ตัวแทนแมคโดนัลด์ กล่าวว่า โบนัสดังกล่าวนั้นยังไม่รวมสวัสดิการณ์อื่น ๆ ที่เพิ่มเติมให้ อาทิ การลาป่วย, การจ่ายเงินให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และโบนัสจำนวนสองไตรมาสให้กับผู้จัดการร้านอาหาร นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดตั้งสายด่วนพยาบาล Blue Cross Blue Shield ตลอด 24 ชั่วโมงและให้คำปรึกษาด้านการสนับสนุนทางอารมณ์แก่พนักงานและครอบครัว

Source

]]>
1277317
เบอร์เกอร์ก็ขาย กาแฟก็อยากขาย! McDonald’s ไม่หวั่นขาใหญ่ ส่ง “เฟรช บรู” เข้าชิงดำศึกร้านกาแฟ https://positioningmag.com/1206931 Mon, 07 Jan 2019 13:39:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1206931 Thanatkit

อย่างที่รู้กันว่าเชนกาแฟในเมืองไทยมีขาใหญ่ที่ครอบครองตลาดนี้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น “สตาร์บัคส์” เชนชื่อดังที่รู้จักกันไปทั่วโลก หรือเชนท้องถิ่นที่มี “แบ็กใหญ่” หนุนหลังอยู่ทั้ง “คาเฟ่ อเมซอน” ของ ปตท., “กาแฟมวลชน” ของกลุ่มซีพี หรือรายล่าสุด “กาแฟวาวี” ที่เจ้าสัวเจริญเพิ่งซื้อมาสดๆ ร้อนๆ

แต่ด้วยมูลค่าตลาดสูงถึง 35,558.80 ล้านบาท และยังมีอัตราที่เติบโตต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบและนิยมการบริโภคกาแฟหลากหลาย โดยเฉพาะการดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟสดในร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ ที่ได้รับการออกแบบตกแต่งสถานที่เป็นพิเศษ เพื่อสร้างบรรยากาศและอรรถรสในการดื่มกาแฟ สังเกตเห็นได้จากร้านกาแฟและคาเฟ่ที่เปิดให้บริการเพิ่มจำนวนมากขึ้นโดยผู้ประกอบการทั้งแบรนด์ใหญ่และรายย่อย

ทำให้แมคโดนัลด์หนึ่งในผู้เล่นรายหลักในตลาดร้านอาหารจานด่วน ไม่อยากขายแค่เบอร์เกอร์อย่างเดียวอีกแล้ว แต่นึกอยากขายกาแฟอย่างจริงจังบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ชิมลางมาแล้ว ผ่านการขายในแมคคาเฟ่ ก่อนจะนำมาสู่การเปิดแมคโดนัลด์ เฟรช บรูอย่างเป็นทางการ

โดยวางจุดเด่นเป็นกาแฟสดคุณภาพผลิตจากเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100% ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และบ่อยมากยิ่งขึ้น ถึงขนาดที่อยากให้ลูกค้าซื้อเช้า บ่าย เย็นเลยที่เดียว

สนธยา ตั้งสันติกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัทแมคไทย จำกัด กล่าวว่า

การเปิดตัว แมคโดนัลด์ เฟรช บรู ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่หวังสร้างยอดขายและชิงส่วนแบ่งการตลาด รวมไปถึงช่วยเพิ่มปริมาณลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของแมคโดนัลด์ให้มากขึ้น

ในช่วงแรกของการเปิดร้าน แมคโดนัลด์ใจป้ำ แจกฟรีกาแฟในไซต์ที่ขายจริงจำนวน 1 แสนแก้ว มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท นอกจากนั้นยังวางแผนทำโปรโมชั่นลดราคา เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจลอง มีเมนูตั้งแต่ แบล็กร้อนลาเต้ร้อน, คาปูชิโนร้อนลองแบล็กเย็นลาเต้เย็น และ คาปูชิโนเย็น ราคา 19-39 บาทในช่วง 1 มกราคม – 26 กุมภาพันธ์ 2562 อีกด้วย.

]]>
1206931
จับตา McDonald’s นำเทรนด์เชนอาหาร-เครื่องดื่มสู่ยุคหลอดกระดาษ https://positioningmag.com/1174987 Wed, 20 Jun 2018 04:30:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1174987 ทั้ง A&W และแบรนด์ร้านอาหารเครื่องดื่มอื่นถูกมองว่าจะเดินตามเทรนด์ที่พี่ใหญ่ McDonald’s กรุยทางไว้ เพราะ McDonald’s จุดพลุจะยกเลิกหลอดพลาสติกในไอร์แลนด์และอังกฤษเต็มตัวปีหน้า (2019) ก่อนจะขยายมายังสหรัฐอเมริกาบ้านเกิด ประกาศนี้ถูกมองเป็นประกาศสุดเซอร์ไพรส์ที่แสดงว่า McDonald’s ต้องการปรับปรุงให้โลกและสัตว์ใต้ทะเลมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายของ McDonald’s จะไม่ใช่กลุ่มนักกิจกรรมรักษ์สัตว์ก็ตาม

สำนักข่าว Inc. เปิดประเด็นนี้เมื่อ McDonald’s ประกาศเริ่มยกเลิกหลอดพลาสติกในอังกฤษและไอร์แลนด์ช่วงกันยายนปีนี้ ก่อนที่โครงการเปลี่ยนหลอดจากพลาสติกมาเป็นหลอดกระดาษจะมีผลสมบูรณ์ในปี 2019 โดย Inc. มองว่า McDonald’s เป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารจานด่วนรายใหญ่ที่สุดในโลกที่มีลูกค้าหลักคือกลุ่มครอบครัวซึ่งต้องเลี้ยงดูลูกเล็กในงบประมาณจำกัด และผู้ที่ต้องขับรถระยะทางไกลเพื่อทำงาน โดยกลุ่มผู้กินมังสวิรัติ นักนิยมธัญพืช และนักกิจกรรมที่รักสัตว์นั้นไม่ใช่ฐานลูกค้าของ McDonald’s

แต่สิ่งที่ McDonald’s ทำ คือการประกาศข่าวที่ยิ่งใหญ่และน่าชื่นชมในมุมการอนุรักษ์สัตว์และการปรับปรุงโลก โดยในประกาศ McDonald’s มีแผนจะแทนที่หลอดพลาสติกด้วยหลอดกระดาษในร้านมากกว่า 1,300 สาขาทั่วอังกฤษและไอร์แลนด์ และจะเริ่มทดสอบหลอดกระดาษในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส สวีเดน นอร์เวย์ เบลเยียม และออสเตรเลียด้วยเช่นกัน

*** ยุคใหม่ไร้หลอดพลาสติก

แม้ว่าโลกเราจะมีมหาสมุทรปกคลุมมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ แต่มนุษย์ได้ทิ้งพลาสติกจำนวนมากไว้ในทะเล ทำให้สัตว์ใต้ทะเล เช่น วาฬและเต่าหลายตัวที่เสียชีวิตจากการบริโภคหลอดและวัสดุพลาสติกประเภทอื่นลงในท้อง โดยคาดว่าจนถึงปี 2050 มูลนิธิ MacArthur Foundation คาดว่าโลกเราจะมีพลาสติกมากกว่าปลาในมหาสมุทร หากชาวโลกยังไม่เปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติก

และไม่ใช่แค่มหาสมุทรเท่านั้น ผลการศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า 83% ของน้ำประปาในหลายประเทศ มีเศษไมโครไฟเบอร์พลาสติกเจือปน ขณะที่น้ำดื่มที่จำหน่ายในขวดพลาสติก ยิ่งมีการเจือปนหนักข้อมากกว่า

หลอดพลาสติกอาจดูเหมือนเศษเสี้ยวของปัญหานี้ แต่ความจริงคือชาวโลกทิ้งหลอดจำนวนมหาศาลต่อเนื่องและมีแนโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี คาดว่าเฉพาะ McDonald ‘s รายเดียวก็เป็นต้นทางของหลอดที่ถูกทิ้งจำนวนหลายล้านชิ้นทุกวัน ยังไม่นับเชนร้านอาหารอื่นที่มีรูปแบบบริการทำให้หลอดพลาสติกส่อแววเป็นอันตรายชัดเจนในระยะยาว

“McDonald’s มุ่งมั่นที่จะใช้สเกลของบริษัทในการทำสิ่งดี และการหาทางออกที่ยั่งยืนสำหรับปัญหาหลอดพลาสติกล้นโลก” Francesca DeBiase รองประธานบริหาร ฝ่ายห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและความยั่งยืนของ McDonald’s ระบุในแถลงการณ์เราหวังว่าโครงการนี้จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของทั้งอุตสาหกรรม

ไม่ว่าจะเป็นเพราะ McDonald’s หรือไม่ สำนักข่าว Inc. มองว่าอุตสาหกรรมในโลกยุคปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไปอย่างแท้จริง โดยแบรนด์สวนน้ำแสดงปลารายใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง SeaWorld กล่าวว่าบริษัทได้กำจัดหลอดพลาสติกและถุงช้อปปิ้งพลาสติกออกไปจากพาร์คทั้งหมด 12 แห่งของบริษัทแล้ว ขณะที่ A&W กล่าวว่าจะให้บริการเฉพาะหลอดกระดาษทั่วประเทศแคนาดาภายในสิ้นปีนี้

*** แรงดันคือกฎหมาย?

สิ่งที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในวงการอุตสาหกรรมร้านอาหารเครื่องดื่มนี้คือความคิดเห็นของสาธารณชน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการบีบของกฎหมายร่วมด้วย เช่น ร่างกฎหมายใหม่ของแคลิฟอร์เนียที่จะทำให้หลอดพลาสติกเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม รายงานชี้ว่าความรู้สึกต่อต้านพลาสติกนั้นร้อนแรงมากในบางประเทศ อย่างเช่นในสหราชอาณาจักร ที่เรื่องนี้กลายเป็นกระแสทันทีที่สถานี BBC ออกอากาศสารคดี Blue Planet II ซึ่งแสดงให้เห็นว่านกเดินทางหลายพันไมล์เพื่อหาอาหารให้ลูกน้อย กลับพบแต่พลาสติกเต็มพื้นที่จนไม่เหลืออาหารอื่นให้นำไปป้อนลูกได้เลย หลังจากสารคดีนี้ออกอากาศ ราชินีของอังกฤษได้ออกมาต่อต้านพลาสติกใช้ครั้งเดียวเช่นกัน

สำหรับ McDonald’s อาจเป็นเพราะขนาดใหญ่หลายสาขาของ McDonald’s ทำให้ McDonald’s ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเปลี่ยนแปลงวัสดุหลอดเหล่านี้ โดย McDonald’s ประกาศว่าหลอดพลาสติกของบริษัทจะไม่หายไปอย่างสิ้นเชิงจาก McDonald’s ในสหราชอาณาจักรจนถึงปี 2020 ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ลงรายละเอียดการทดสอบหลอดกระดาษในสหรัฐอเมริกาว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ระบุเพียงว่าปลายปีนี้เท่านั้น ทำให้คาดว่าชาวอเมริกันจะต้องใช้หลอดพลาสติกดูดน้ำปั่นรสวานิลลาไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี

Inc. ทิ้งท้ายติดตลกว่าจริง ๆ แล้ว สารคดี Blue Planet II ควรจะถูกนำมาฉายที่สหรัฐฯ เพื่อให้เกิดกระแสกดดันทุกฝ่ายให้เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น ถึงเวลานั้นอย่าลืมมาฉายเมืองไทยด้วยก็แล้วกัน.

ที่มา

]]>
1174987
แฟนคลับตัวยง ลุงวัย 64 ปี หม่ำ Big Mac 3 หมื่นชิ้นในรอบ 46 ปี ติดกินเนสส์บุ๊ค https://positioningmag.com/1169066 Tue, 08 May 2018 09:26:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1169066 ขอบคุณภาพจาก : guinnessworldrecords.com/world-records/most-big-macs-consumed

McDonald’s? กินเนสส์ฯ ฉลองแชมป์นักหม่ำ Big Mac ทะลุ 30,000 ชิ้นต่อเนื่อง 46 ปี คอเลสเตอรอลความดันปกติดี

ผู้คุมเรือนจำเกษียณอายุแดนลุงแซมคว้าแชมป์นักรับประทานเบอร์เกอร์ชิ้นยักษ์ Big Mac มากที่สุดในโลก ทำสถิติเคี้ยว Big Mac จำนวน 30,000 ชิ้นตลอด 46 ปี หลังจากรับประทานชิ้นแรกไป ข้อมูลระบุคุณลุงกิน Big Mac อย่างน้อยหนึ่งชิ้นเกือบทุกวันตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 1972 พฤติกรรมกินมาราธอนนี้เป็นเพราะชื่นชอบแฮมเบอร์เกอร์ โดยคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตของคุณลุงเป็นปกติดีไม่มีโรคแทรก 

ไม่รู้ว่าเป็นการตลาดใหม่ของแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดหรือเปล่า สำหรับกรณีของ Don Gorske คุณลุงวัย 64 ปีจากเมืองฟอนดูแลค รัฐวิสคอนซิน ซึ่งถูกบันทึกสถิติโลกครั้งใหม่ที่ร้านแมคโดนัลด์สาขาท้องถิ่นเมื่อวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหลังจากรับประทาน Big Mac อย่างน้อยหนึ่งชิ้นเกือบทุกวันตั้งแต่กลางปี 1972 คุณลุงก็เก็บกล่องหรือใบเสร็จไว้ และทำบันทึกย่อเฉพาะในปฏิทินที่เก็บรักษาไว้

ด้วยหลักฐานเหล่านี้ Guinness World Records จึงยกให้ Gorske มีตำแหน่งเป็นผู้บริโภค Big Mac มากที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 2016 ครั้งนั้น ยอดรวม Big Mac ที่รับประทานไปคือ 28,788 ชิ้น ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปถึงปีนี้ 2018 ยอดรับประทาน Big Mac เพิ่มเป็น 30,000 ชิ้นเรียบร้อย

Gorske กล่าวว่าที่รับประทาน Big Mac บ่อยครั้งเป็นเพราะชื่นชอบในแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งจากการตรวจล่าสุดพบว่าคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตของเขาเป็นปกติดีทุกอย่าง

*** ลูกค้าผู้ซื่อสัตย์?

ปราฏการณ์นี้ทำให้หลายคนมองว่า Gorske อาจเป็นลูกค้าที่ซื่อสัตย์ที่สุดของ McDonald’s เพราะแฟนคลับของ McDonald’s รายนี้เริ่มกิน Big Mac มาตั้งแต่ผู้อ่านข่าวหลายคนยังไม่เกิดจากท้องแม่ และคุณลุง Gorske ยังชนะ Michael “Jim” Delligatti ผู้คิดค้นบิ๊กแมคที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้ด้วยวัย 98 ปี ซึ่งก็ยังบอกว่ารับประทาน Big Mac แค่สัปดาห์ละครั้งเท่านั้น

แต่สื่อบางค่ายมองว่า Gorske นั้นพยายามทำลายสถิติโลกเป็นหลัก และพยายามทำให้ตัวเองเป็นข่าวอีกครั้ง หลังจากที่กินเนสส์บุ๊คบันทึกการกิน Big Mac ของเขาไว้แล้วในช่วงปี 2016

เหตุที่สื่อสรุปเช่นนี้ คือเพราะสำนักข่าว FDL Reporter หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่าคุณลุงต้องมีการจัดการจริงจังตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อรักษาและแบ่งประเภทหลักฐานทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความหลงใหลใน Big Mac จุดนี้คุณลุงต้องสูญเสียกล่อง Styrofoam ที่ใส่ Big Mac มากกว่า 7,000 กล่อง ซึ่งเสียหายในพายุทอร์นาโดที่พัดใส่บ้านของลุงเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 1990

หากหารเฉลี่ยยอด Big Mac ที่คุณลุงรับประทานไป 30,000 ชิ้นในช่วง 46 ปี จะพบว่าคุณลุงต้องกิน 652 ชิ้นต่อปี เรียกว่าต้องกินเกิน 1 ชิ้นทุกวัน

จุดนี้ รายงานระบุว่า มีเพียง 8 วันเท่านั้นที่ลุง Gorske ไม่ได้รับประทาน Big Mac โดย 2 ใน 8 ครั้งเป็นเพราะพายุหิมะรุนแรงทำให้ลุงไม่สามารถเดินทางไปร้าน McDonald’s ได้ เช่นเดียวกับช่วงเวลาหนึ่งในปี 1988 ซึ่งเป็นปีที่แม่ของลุง Gorske เสียชีวิต

สำนักข่าว Inc. คำนวณพบตัวเลขน่าประหลาดใจว่า หากคูณน้ำหนักเนื้อวัว 2 ชิ้น ชิ้นละ 1.6 ออนซ์ใน Big Mac จะพบว่าลุง Gorske ได้รับประทานเนื้อวัวมากกว่า 6,000 ปอนด์ ซึ่งเทียบเท่าน้ำหนักของวัวประมาณ 10 ตัว

เบ็ดเสร็จแล้ว พฤติกรรมของลุงอาจไม่ควรลอกเลียนแบบ เพราะตลอด 46 ปี ลุงได้รับไปมากกว่า 16.89 ล้านแคลอรี 

วันนี้ ลุง Big Mac วัยเกษียณอายุราชการก็ยังเข้าร้านเพื่อรับประทาน Big Mac เช่นเคย ซึ่งแน่นอนว่าถึงวันนี้ ตัวเลข Big Mac ที่ลุงรับประทานไปอาจเกิน 30,001 ชิ้นไปแล้ว 

ทั้งหมดนี้ไม่มีรายงานความเห็นใดจากโฆษก McDonald’s ทำให้ไม่มีข้อมูลว่าลุงจะได้รับการสนับสนุนให้รับประทานฟรีหรือไม่ในอนาคต รวมถึงยังไม่มีความเห็นจากนักวิเคราะห์ด้านการตลาด ซึ่งทำให้ข่าวนี้เป็นอีกกรณีน่าศึกษาที่ทำให้แบรนด์ McDonald’s เป็นข่าวแง่บวกไปทั่วโลกชั่วข้ามคืน.

ที่มา : 

]]>
1169066
เมนูใหม่ได้ผล! McDonald’s โกยส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม https://positioningmag.com/1167910 Tue, 01 May 2018 01:08:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1167910 หุ้นพุ่งกระฉูดสำหรับ McDonald’s เครือข่ายร้านอาหารจานด่วนรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่ประกาศการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกตลาดหลัก ไล่ตั้งแต่ฝรั่งเศส รัสเซีย ไปยังสหรัฐฯ ผลจากความพยายามปรับโฉมเมนูอาหารใหม่จนทำให้ลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นชัดเจน นั่นคือการกำหนดราคาเพียง 3 ระดับ $1, $2 และ $3 ร่วมกับการหันมาใช้เนื้อสดหรือ fresh beef ในเบอร์เกอร์

หุ้นที่เพิ่มขึ้นทันที 4% อาจเป็นผลจากการที่ McDonald’s ประกาศสถิติสวยงามในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยไตรมาสที่ผ่านมา ยอดขายในร้าน McDonald’s ที่เปิดช่วง 13 เดือนล่าสุดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 2.9% ผลจากราคาอาหารที่สูงขึ้น และยอดขายที่เพิ่มขึ้น

หากมองที่ตลาดโลก McDonald’s เรียกตัวเองว่าเป็นผู้นำตลาดของประเทศอย่างออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ตลาดเหล่านี้ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 7.8% ถือเป็นประเทศกลุ่มหลักนอกสหรัฐฯ ที่ทำยอดขายให้ McDonald’s มากที่สุด

ในภาพรวม McDonald’s ทำลายสถิติตัวเลขประมาณการยอดขายหลายส่วน โดยยอดขายจากสาขาเดิมหรือ same-store sales เพิ่มขึ้น 5.5% ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.9% เท่านั้น

Steve Easterbrook ซีอีโอใหญ่ McDonald’s มั่นใจว่าผลประกอบการนี้แสดงถึงสายตาของลูกค้าที่เริ่มตระหนักว่า McDonald’s กำลังกลายเป็น “McDonald’s ที่ดีกว่าซึ่งนับตั้งแต่ที่ McDonald’s ได้ซีอีโอรายนี้ไปบริหารในปี 2015 มาตรการเร่งกระบวนการผ่าตัด McDonald’s ก็เริ่มขึ้นอย่างจริงจังและรวดเร็ว โดยเฉพาะการเปลี่ยนภาพลักษณ์บริษัท สร้างเมนูและเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ McDonald’s สามารถพลิกยอดขายขึ้นมาเติบโตต่อเนื่อง 11 ไตรมาส

ที่สำคัญ McDonald’s ยังมีอัตราการเข้าร้านของลูกค้าสูงขึ้นต่อเนื่อง 5 ไตรมาสติดต่อกันเรียบร้อย

*** เนื้อสดได้ผล

การปรับแต่งเมนูล่าสุดของ McDonald’s ที่เป็นข่าวฮือฮาที่สุดยังรวมถึงการใช้เนื้อสดในเบอร์เกอร์รุ่นบางของ McDonald’s ยังมีอีกบางเมนูที่จะเริ่มจำหน่ายในหลายสาขาช่วงเดือนพฤษภาคม ยังมีอาหารกลุ่ม Happy Meals ที่จะถูกปฏิวัติให้ราวครึ่งหนึ่งของรายการอาหารมีแคลอรีน้อยกว่า 600 แคลอรี ภายในปี 2022 

บทสรุปที่ได้ คือ McDonald’s กำลังกลับมาโดนใจลูกค้าอีกครั้งด้วยภาพลักษณ์เบอร์เกอร์พรีเมียม ที่ใช้เนื้อสด บนราคาเมนูแบบ 3 ระดับ $1, $2 และ $3 ที่โดนใจคนอเมริกันมากกว่าเดิม จุดนี้ทำให้ไม่เพียง same-store sales เท่านั้นที่ McDonald’s ทำได้ดีขึ้นในไตรมาสล่าสุด เพราะรายได้สุทธิของ McDonald’s ก็เพิ่มขึ้นเป็น 1,380 ล้านเหรียญหรือ 1.72 เหรียญต่อหุ้น จากที่เคยทำได้ 1,210 ล้านเหรียญหรือ 1.47 เหรียญต่อหุ้นในปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม รายได้รวมของ McDonald’s ลดลง 9% สู่ระดับ 5,140 ล้านเหรียญ แต่ยังคงเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4,980 ล้านเหรียญ การลดลงนี้เป็นเพราะการที่ McDonald’s ขายร้านค้าให้แฟรนไชส์มากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์ Neil Saunders แห่ง GlobalData Retail เรียกสิ่งที่ McDonald’s เลือกทำ ว่าเป็นแนวทางป้องกันตัวเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายของ McDonald’s ลดลง.

]]>
1167910
McDonald’s เปลี่ยนโลโก้ ! กลับด้าน “M สีทอง” กลายเป็น “W” ฉลองวันสตรีสากล https://positioningmag.com/1160851 Fri, 09 Mar 2018 06:37:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1160851 ภาพจาก : businessinsider.com

ร้าน McDonald’s ในเมืองลินวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย กลายเป็นข่าวดังทั่วโลก เพราะเปิดทำการด้วยโลโก้ใหม่ที่กลับด้านโค้งมนของตัว M สีทองจากล่างขึ้นบน กลายเป็นตัว W เพื่อสื่อถึง Woman เบื้องต้น McDonald’s ออกแถลงการณ์ว่าความเคลื่อนไหวนี้ทำเพื่อ “เฉลิมฉลองให้ผู้หญิงทุกคนทุกชาติ” โดยล่าสุด McDonald’s เริ่มขยายภารกิจพลิกโลโก้บนช่องทางดิจิทัลทั้งหมด เพื่อเฉลิมฉลองวันสตรีสากลในวันพฤหัสบดี 8 มี.ที่ผ่านมา

การเปลี่ยนแปลงนี้ของสัญลักษณ์หรือโลโก้ McDonald’s ทำให้ผู้คนที่ขับรถผ่านร้าน McDonald’s ใน Lynwood, California เกิดความงุนงง ความสนใจนี้จุดกระแสทำให้เกิดการบอกต่อทั่วโลกออนไลน์อเมริกัน โดย Wendy Lewis ผู้นั่งเก้าอี้ Global Chief Diversity Officer ซึ่งดูแลความหลากหลายของพนักงานระดับโลกของ McDonald’s ระบุว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ McDonald’s

McDonald’s ระบุว่าจะใช้โลโก้กลับด้านในทุกช่องทางดิจิทัล ทั้ง Twitter และ Instagram ตลอดวันพฤหัสบดี 8 มีนาคมเวลาท้องถิ่น ขณะที่ร้านอาหาร 100 แห่งจะมีบรรจุภัณฑ์ เสื้อพนักงาน และหมวก รวมถึงถุงใส่อาหารเวอร์ชั่นพิเศษ เพื่อระลึกความสำคัญของผู้หญิงทุกคนบนโลก

จุดที่น่าสนใจคือ ในแถลงการณ์ของ McDonald’s ไม่มีการเรียกโลโก้ตัวเองว่าเอ็มหรือ M แต่เรียกว่า our iconic arches หรือเส้นโค้งที่เป็นเอกลักษณ์ของ McDonald’s ทั้งหมดนี้ McDonald’s บอกว่าเป็นการพลิกเพื่อเป็นเกียรติแก่ความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาของผู้หญิงทุกคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือผู้หญิงในร้านอาหารของ McDonald’s 

ผู้บริหาร McDonald’s กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ทีมงานในร้านอาหาร จนถึงผู้บริหารระดับสูงหรือ C-suite ของ McDonald’s ผู้หญิงล้วนมีบทบาทสำคัญในทุกระดับ ยังมีเจ้าของแฟรนไชส์ของ McDonald’s ที่แบรนด์พบว่ามีความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จอย่างเท่าเทียม 

McDonald’s ไม่ใช่แบรนด์เดียวที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อชื่นชมผู้หญิง ยังมี Old Navy และ Barbie ที่ได้ออกผลิตภัณฑ์ในโอกาสวันสตรีสากล ขณะเดียวกัน บางบริษัท เช่น BrewDog ก็ออกสินค้าพิเศษที่เรียกขานว่าเป็นเบียร์สำหรับเด็กผู้หญิงโดยใช้ชื่อสินค้าว่า Pink IPA แต่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าแบรนด์ใช้วันนี้เพื่อโฆษณากับผู้หญิง ส่งผลแง่ลบกับแบรนด์ไม่น้อย

ยังมีแบรนด์วิสกี้ Johnnie Walker ที่เปิดตัววิสกี้เวอร์ชั่นพิเศษที่ใช้ฉลากใหม่ “Jane Walker” จำนวนจำกัดเพื่อจำหน่ายช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งแม้ว่ารายได้จากการจำหน่าย Jane Walker ทุกขวดจะถูกบริจาคเงินให้กับองค์กรกุศลสตรีรวม 250,000 เหรียญสหรัฐ แต่ก็ถูกมองเป็นความพยายามทางการตลาด ที่เน้นผู้หญิงเป็นศูนย์กลาง ในช่วงเดือนมีนาคมเท่านั้น

สิ่งที่เราสามารถสรุปได้จากความเคลื่อนไหวนี้ คือบทสนทนาเกี่ยวกับเพศยังคงเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก โดยเฉพาะในเชิงของวัฒนธรรม จุดนี้หลายสำนักเชื่อมั่นว่า ไม่มีเวลาที่ดีไปกว่านี้ในการแนะนำสินค้าสำหรับผู้หญิง ทำให้แบรนด์มีภาพลักษณ์เรื่องความเท่าเทียมทางเพศแบบชัดเจนก้าวกระโดด

ที่มา :

]]>
1160851
ย้อนตำนาน 33 ปี “แมคโดนัลด์” จาก “เดช บุลสุข” ถึงเจ้าพ่อโรงหนัง “วิชา พูลวรลักษณ์” ผู้กุมพอร์ตฟาสต์ฟู้ดหกพันล้าน https://positioningmag.com/1158742 Sun, 25 Feb 2018 14:25:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1158742 ข่าวการสูญเสีย “เดช บุลสุข” อดีตผู้ก่อตั้งบริษัท แมคไทย จำกัด ในฐานะผู้บุกเบิกร้านอาหารบริการด่วน (QSR) “แมคโดนัลด์” (McDonald’s) ในประเทศไทย ในโอกาสนี้ Positioning จึงขอย้อนตำนาน “Global Brand” ฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonal’s ในประเทศไทยกัน

จากความชื่นชอบรสชาติอาหารของแมคโดนัลด์ เมื่อครั้งที่ “เดช” เป็นนักเรียนทุนเอเอฟเอส (AFS หรือ American Field Service) อยู่สหรัฐอเมริกา หลังเรียนจบเขากับเพื่อนๆ ได้เดินทางกลับไปสหรัฐฯ อีกครั้งในปี 2524 เพื่อส่งจดหมายไปยังแมคโดนัลด์สำนักงานใหญ่ ที่รัฐอิลลินอยส์ เชิญชวนให้ขยายธุรกิจในประเทศไทยสาขาแรก

เส้นทางธุรกิจไม่ง่าย เพราะแค่การ “ตอบจดหมาย” เดช ต้องรอนานเกือบ 2 ปี แต่ถือเป็นการรอที่คุ้มค่า เพราะแมคโดนัลด์ตัดสินใจเลือกพวกเขาเป็นตัวแทนในการขยายธุรกิจในไทย จากตัวเลือกจำนวนมาก

บริษัท “แมคไทย” ถูกตั้งขึ้นจากการร่วมทุน 2 ฝ่าย คือกลุ่มเดชและเพื่อน กับ แมคโดนัลด์ คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้นกันสัดส่วน 51% และ 49% ตามลำดับ

จากนั้นการเปิดร้านแมคโดนัลด์ สาขาแรกก็เกิดขึ้นเมื่อ 23 ก.พ. 2528 ที่ศูนย์การค้าโซโก้ หรืออัมรินทร์ พลาซ่า ในปัจจุบัน โดยร้านดังกล่าวลงทุนมากกว่า 50 ล้านบาท มีพื้นที่ 500 ตารางเมตร (ตร.ม.) จุลูกค้าได้กว่า 200 คน

แมคโดนัลด์ ในยุคของเดช บุลสุข ถือว่าสร้างชื่อได้อย่างดี ส่วนตัวของเดชเอง มักชอบออกภาคสนามลงดูพื้นที่จริง โดยเฉพาะแมคโดนัลด์ สาขาสยามสแควร์ ถ้าเป็นที่คนรู้จักมักจะเห็นเขาอยู่บ่อย ๆ

ร้านแมคโดนัลด์ขยายตัวต่อเนื่อง กระทั่งปี 2546 สัญญาระหว่างเดชและแมคโดนัลด์ คอร์ปอเรชั่น สิ้นสุดลง ทาง “สหรัฐอเมริกา” จึงเข้ามาบริหารธุรกิจเองเต็มตัว 100%

แต่จังหวะดังกล่าว การขยายสาขาของร้านกลับไม่หวือหวามากนัก เหตุผลเพราะหาทำเลยากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันในสมรภูมิฟาสต์ฟู้ดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมีร้านอาหารมาปั้นโมเดล “เชน” หรือเครือข่ายร้านค้าแข่ง

กระทั่งปี 2549 “วิชา พูลวรลักษณ์” เจ้าพ่อโรงหนังเห็นโอกาสจาก “ไลฟ์สไตล์” จึงร่วมกับเพื่อนฝูงนักธุรกิจ ติดต่อขอซื้อหุ้น 70% จองแมคไทย และกลายเป็นผู้บริหารแฟรนไชส์แมคโดนัลด์จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 12 ปีแล้ว โดยมี “เฮสเตอร์ ชิว” เป็นผู้ขับเคลื่อนธุรกิจ

ก่อน “วิชา” เข้าไปถือหุ้นในแมคไทย แมคโดนัลด์มีสาขาให้บริการประมาณ 100 สาขา แต่ปัจจุบันจำนวนอยู่ที่ 252 สาขา เรียกว่าเพิ่มขึ้น “เท่าตัว” การขยายสาขาที่มากขึ้น นอกจากศักยภาพด้านเงินทุนแล้ว การซีนเนอร์ยี กับธุรกิจโรงภาพยนตร์ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” เป็นอีกกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างการเติบโตให้ร้านได้ โดยเฉพาะโรงหนังสาขาสแตนด์อะโลน มีพื้นที่ค้าปลีกให้พร้อมที่จะเปิดสาขา ขณะเดียวกันด้วยความเป็น Global Brand ของแมคโดนัลด์ ถือเป็นแบรนด์แม่เหล็กที่ช่วยเสริมธุรกิจซึ่งกันและกันได้

ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนปี 2559 มีมูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท การเติบโตกว่า 10% ส่งผลให้การแข่งขันเดือดตลอดเวลา แมคโดนัลด์มีการปรับตัวหลายด้านเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เริ่มจาก Product มีการป้อนเมนู Localize เข้าไปขายในร้าน เช่น โจ๊กไก่ โจ๊กหมู ปาท่องโก๋ เอาใจคนไทย ด้าน Price ราคาหลากหลายตั้งแต่หลัก 29 บาท ไปจนถึงหลักร้อย Place การเปิดสาขากระจายไปยังทำเลต่างๆ เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และยังมีรูปแบบร้าน Drive Thru เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า การเปิดสาขา 24 ชั่วโมง ในทำเลที่ผู้คนไม่หลับใหล เช่น ถนนข้าวสาร และ Promotion ขาดไม่ได้ ต้องออกมากระตุ้นการตัดสินใจซื้อทั้งเมนูเบอร์เกอร์ ไก่ทอด กาแฟ

เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล แมคโดนัลด์ในมือของ “วิชา” เพิ่มบริการรับชำระเงินแบบไร้เงินสดรับ Cashless Society การชำระเงินออนไลน์ การติดตั้งเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ มีเมนูบอร์ดแบบวิดีโอวอลล์ระบบดิจิตอลให้บริการในบางสาขา เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้นอกจากตอบสนองและสร้างความ ว้าว! ให้ลูกค้า ยังเป็นการ “ฉีก” บริการให้ต่างจากคู่แข่งด้วย

สำหรับแผนธุรกิจแมคไทยในปีนี้ ยังทุ่มเงินร่วม “พันล้าน” ขยายสาขาใหม่ 15-20 สาขา เพื่อสานฝันวิชา ที่อยากเห็นแมคโดนัลด์ มีร้านให้บริการครบ 77 จังหวัดทั่วไทย.

]]>
1158742
สิ้น “เดช บุลสุข” ผู้ก่อตั้งแมคโดนัลด์ในไทย https://positioningmag.com/1158703 Sat, 24 Feb 2018 11:52:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1158703 ภาพจาก cdc.tbs.tu.ac.th

นายเดช บุลสุข อดีตผู้ก่อตั้งแมคไทย ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ในประเทศไทย เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน รวมอายุ 68 ปี ตั้งศพที่วัดมหาไถ่ ซอยร่วมฤดี ถึงวันที่ 27 ก.พ.

รายงานข่าวแจ้งว่า นายเดช บุลสุข อดีตผู้ก่อตั้ง บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ในประเทศไทย ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อเย็นวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมอายุได้ 68 ปี โดยญาติกำหนด ตั้งศพที่วัดมหาไถ่ ซอยร่วมฤดี ชั้น 4 ตั้งแต่คืนวันที่ 23-27 ก.พ. และงดรับพวงหรีด

สำหรับนายเดช เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท แมคไทย จำกัด บริหารร้านแมคโดนัลด์ในประเทศไทย สาขาแรกในห้างโซโก้ (ปัจจุบันคืออาคารอัมรินทร์ พลาซ่า) ที่สี่แยกราชประสงค์ ในปี 2526 และทำหน้าที่บริหารงานอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2546 เคยดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ของแมคไทย ในระหว่างปี 2547-2549

นอกจากนี้ ยังเคยเป็นกรรมการอิสระ ให้กับอีกหลายบริษัทชั้นนำในประเทศไทย อาทิ จีเอ็มเอ็ม มีเดีย, เจมาร์ท, ดิ เอราวัณ กรุ๊ป, สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ เป็นต้น.

ที่มา : mgronline.com/onlinesection/detail/9610000019012

]]>
1158703
แมคโดนัลด์ ประกาศปรับเมนู “แฮปปี้มีล” 120 ประเทศ เน้นสุขภาพ https://positioningmag.com/1157756 Tue, 20 Feb 2018 08:45:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1157756 แมคโดนัลด์ ได้ตั้งเป้าปรับปรุงและพัฒนาเมนูอาหารชุดแฮปปี้มีลใน 120 ประเทศทั่วโลก เน้นความสมดุลทางโภชนาการ ใช้วัตถุดิบที่เรียบง่าย และให้ข้อมูลทางโภชนาการโปร่งใส พร้อมกับนำนวัตกรรมทางการตลาดมาใช้ เพื่อช่วยสื่อสารการเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มในเมนูอาหารชุดแฮปปี้มีล

มร. สตีฟ อีสเตอร์บรู๊คระธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมคโดนัลด์ บอกถึงเป้าหมายในการทำครั้บนี้ เพื่อต้องการช่วยให้ลูกค้าหลายล้านครอบครัวได้รับประโยชน์และมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น

พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนกลุ่มครอบครัว ตามแผนการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาว ผ่านการเข้าถึงที่มีผลกระทบกับเมนูอาหารสำหรับเด็ก ภายในปี 2565

ในปี 2556 บริษัทฯ ได้เริ่มทำงานร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่ชื่อว่า Heathier Generation ได้พัฒนาแผนงานที่ครอบคลุมตลาดหลักจำนวน 20 ประเทศ* เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานผัก ผลไม้ นมไขมันต่ำ และน้ำดื่ม

การปรับเมนูอาหารชุดแฮปปี้มีล แมคโดนัลด์ ได้ความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Heathier Generation โดยได้ตั้งเป้าหมายสำหรับเมนูอาหารชุดแฮปปี้มีลทั่วโลกไว้ 5 ประการภายในปี 2565 ดังนี้

แมคโดนัลด์ กำหนดว่าภายปี 2565 เมนูอย่างน้อย 50% หรือมากกว่านั้น จากเมนูที่มีอยู่ทั้งหมดในชุดแฮปปี้มีล จะต้องมีคุณค่าทางโภชนาการตามข้อกำหนด คือ ให้พลังงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 600 แคลอรี ซึ่งประกอบด้วย ไขมันอิ่มตัว 10 เปอร์เซ็นต์, โซเดียม 650 มิลลิกรัม และจำนวนแคลอรีอีก10 เปอร์เซ็นต์จากน้ำตาล

ปัจจุบัน 28 เปอร์เซ็นต์ของเมนูที่อยู่ในชุดแฮปปี้มีล ใน 20 ประเทศที่เป็นตลาดหลัก (อ่านท้ายข่าว) สามารถทำตามข้อกำหนดนี้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ 50 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น แมคโดนัลด์ในประเทศต่างๆ จะต้องปรับเปลี่ยน เพิ่มหรือตัดเมนูบางอย่างออกจากเมนูบอร์ด เพื่อปรับปรุงให้ชุดแฮปปี้มีลมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม

• ใช้วัตถุดิบที่เรียบง่าย ไม่ใส่สี ปราศจากสารปรุงแต่งและสารกันบูด ในเมนูอาหารชุดแฮปปี้มีล

• ให้ข้อมูลทางโภชนาการอย่างโปร่งใส ผ่านเว็บไซต์ของแมคโดนัลด์ หรือแอปพลิเคชั่นบนมือถือ

• การทำตลาดอย่างมีความรับผิดชอบ การสื่อสารและโฆษณาชุดแฮปปี้มีลจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์คุณค่าทางโภชนาการที่เคร่งครัด และยังต้องเป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันตามพันธสัญญาการทำตลาดสำหรับเด็กอย่างมีความรับผิดชอบของในแต่ละประเทศ

การนำเสนอนวัตกรรมทางการตลาดมาใช้ เพื่อช่วยสื่อสารการเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ในเมนูอาหารชุดแฮปปี้มีลที่เหมาะสม

แมคโดนัลด์ มีสาขา 37,000 แห่งในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยร้านแมคโดนัลด์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก เป็นการลงทุนของนักธุรกิจในท้องถิ่นที่เป็นทั้งเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินกิจการ.

* ตลาดหลัก 20 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล อาร์เจนตินา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย สเปน เนเธอร์แลนด์ อิตาลี โปแลนด์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย ฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และออสเตรเลีย

]]>
1157756