Mitsubishi Heavy Duty – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 01 Feb 2023 10:07:08 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดใจ ‘มหาจักร’ ผู้นำเข้าแบรนด์ ‘JBL’ ที่ไม่ขอเป็น “ผู้ปิดทองหลังพระ” แต่ต้องเป็น ‘ชื่อแรก’ ที่คนนึกถึง https://positioningmag.com/1417497 Wed, 01 Feb 2023 13:00:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1417497

เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักกับแบรนด์เครื่องเสียง JBL รู้จักกับแบรนด์เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty แต่ทุกคนรู้ไหมว่าผู้อยู่เบื้องหลังการนำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ระดับโลกเหล่านี้ก็คือ มหาจักร หรือ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด ที่อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่ปี 2514 โดย คุณพัชรวดี ว่องปรีชา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และ คุณกิตติศักดิ์ กาญจนชัยภูมิ ผู้อำนวยการฝ่าย Consumer Products and Smart Solutions จะมาเล่าถึงความเป็นมาของมหาจักร พร้อมเปิดเผยถึงทิศทางของบริษัทอายุ 52 ปีที่จากนี้จะเป็นมากกว่าบริษัทเทรดดิ้ง แต่เป็นโซลูชั่นโพรไวเดอร์

มหาจักรอยู่รอบตัวมาตลอด

จากจุดเริ่มต้นที่ขาย สกรูน็อต จนมาสู่ธุรกิจนำเข้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องเสียง จากร้านเล็ก ๆ แถวสยามสู่ มหาจักร ที่อยู่คู่คนไทยมา 52 ปี ดังนั้นหากจะพูดว่ามหาจักรนั้นอยู่รอบตัวเรามาตลอดโดยที่เราอาจไม่รู้ตัวก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงนัก เพราะสินค้าที่มหาจักรนำเข้านั้นถือเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty หรือในฝั่งของความสุนทรีในการใช้ชีวิตของผู้คน ทั้งด้านกิจกรรมสันทนาการ การประชุมสัมมนา ล้วนแล้วแต่มาจากแบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังอย่าง JBL, Harman/Kardon, Shure และ Denon ที่มหาจักรนำเข้ามาทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามเนื่องจากวาระครบรอบ 50 ปีของมหาจักร เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาตรงกับช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาดในประเทศ ทำให้ไม่สามารถจะสื่อสารหรือทำการตลาดกับลูกค้าได้มากนัก แต่ในปี 2566 นี้ มหาจักรพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าสื่อสารกับลูกค้าถึงจุดมุ่งหมายของบริษัทจากนี้อย่างเต็มกำลัง


นึกถึงเครื่องเสียงไม่ใช่แค่ JBL แต่ต้องนึกถึงมหาจักร

คุณพัชรวดี เล่าว่า “มหาจักรเหมือนผู้ปิดทองหลังพระ เพราะเราเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสุขของทุกคนมาตลอด 52 ปี แต่คนส่วนใหญ่จำชื่อ JBL ได้มากกว่ามหาจักร” ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มหาจักรเริ่มหันมา พรีเซนต์ตัวเอง ควบคู่ไปกับแบรนด์ที่นำเข้าในช่วง 2-3 ปีมานี้ เพื่อไม่ให้ชื่อของมหาจักรถูกกลืนไป

ไม่ใช่แค่ทำให้ชื่อของมหาจักรเป็นที่รับรู้ของผู้บริโภค แต่การที่ผู้บริโภคจำชื่อมหาจักรได้นั่นเป็นการรับประกันถึง ของแท้ เพราะที่ผ่านมา ของปลอม เป็นปัญหาของมหาจักรมาโดยตลอด ดังนั้น มหาจักรจึงต้องการสื่อสารที่ตัวองค์กรมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าสินค้าที่ซื้อไปเป็นของแท้

“ในช่วง 2-3 ปีมานี้เราพยายามจะเน้นที่ตัวองค์กรเรามากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ามากขึ้นในแง่ความมั่นคงขององค์กรและเซอร์วิสต่าง ๆ ที่เรานำเสนอให้ลูกค้าโดยไม่ทอดทิ้งเขา ดังนั้นเราอยากสื่อสารไปถึงผู้บริโภคไม่ว่ากลุ่มไหนก็ตามให้ได้สัมผัสว่า ไม่ว่าจะซื้อสินค้าแบรนด์ไหนจากมหาจักรก็ตาม เขาจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและเซอร์วิสที่ดีกลับไปเสมอ”


ใช้ Music Marketing กระชากวัยมัดใจ Gen Z

สำหรับแผนการทำตลาดในปีนี้ มหาจักรจะเน้นที่ Music Marketing และช่องทาง ออฟไลน์ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกับค่ายเพลงในการออกคอนเสิร์ต และโร้ดโชว์ต่าง ๆ ซึ่งมหาจักรเชื่อว่า กลยุทธ์นี้จะช่วยเพิ่มการรับรู้ให้กับ Gen Z ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มที่ยังไม่รู้จักมหาจักรมากนัก นอกจากนี้ทุกสินค้าจะมี QR Code ให้ลูกค้าลงทะเบียน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นของแท้และจะได้รับประกันเพิ่มอีก 3 เดือน

“เราอยากให้คนรุ่นใหม่คิดถึงมหาจักรเป็นตัวเลือกแรกเมื่อนึกถึงเครื่องเสียงชั้นนำ หรือคิดถึงแบรนด์ JBL ก็ต้องคิดถึงผู้นำเข้าอย่างมหาจักรที่สามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงใจและไม่ทอดทิ้งเขา ซึ่งเราอยากให้ภาพที่เขามองเราคือ ผู้ใหญ่ที่ยังดูไม่แก่ แต่มีความน่าเชื่อถือ” คุณพัชรวดี ย้ำ


จากบริษัทเทรดดิ้งสู่โซลูชั่นโพรไวเดอร์

สำหรับภาพของมหาจักรจากนี้และในอนาคต คุณกิตติศักดิ์ อธิบายว่า มหาจักรจะไม่ใช่แค่บริษัทเทรดดิ้งที่เลือกคัดสรรสินค้าที่ดีให้ลูกค้า แต่จะเป็น โซลูชั่นโพรไวเดอร์ ด้วย เนื่องจากเทรนด์ที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการสินค้า Single Unit เหมือนที่ผ่านมา แต่ต้องการโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ทุกอย่างในบ้านได้ ดังนั้นมหาจักรไม่ต้องการจะหยุดแค่นี้ เราต้องการจะขยายไปเรื่อย ๆ ในแง่ของการต่อยอดสินค้าที่มีอยู่แล้วให้เป็นโซลูชั่นที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งปัจจุบัน มหาจักรมีความโดดเด่นที่ความหลากหลายของสินค้าตั้งแต่ของเล็กสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไปจนถึงสินค้าใหญ่สำหรับโปรเฟสชันนอล

“บริษัทไม่ต้องการหยุดอยู่กับที่แต่ต้องการจะเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งมหาจักรมองว่า ถ้าคนให้การยอมรับองค์กรไม่ว่าจะนำเข้าแบรนด์ไหนเข้ามาเขาก็จะเชื่อในตัวองค์กร ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการนำแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาทั้งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงหรือแบรนด์น้องใหม่ที่มีศักยภาพ ลูกค้าก็จะไม่มีคำถามว่าเชื่อถือได้ไหม เพราะชื่อของมหาจักรการันตีว่าเชื่อมั่นได้”


วางเป้าโต 15%

สำหรับปี 2565 มหาจักรเติบโตได้ 15-20% ส่วนปี 2566 มั่นใจว่าภาพรวมสามารถเติบโตได้ 15% โดยพยายามตั้งเป้าต่ำไว้ก่อน เนื่องจากปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในฝั่งของตลาดเครื่องเสียงเราอาจจะเหนือกว่าคู่แข่งในเรื่องซับพลาย การสต็อกสินค้า แต่ในปีนี้ที่ทุกคนน่าจะฟื้นกลับมา การแข่งขันจึงจะดุเดือดกว่าปีก่อน ๆ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตามในกลุ่มที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตคือ กลุ่มสินค้าโปรเฟสชันนอล เพราะงานอีเวนต์ คอนเสิร์ตต่าง ๆ กลับมา นอกจากนี้ยังเล็งเห็นโอกาสจากเทรนด์ที่ ศิลปินมักใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในการแสดง เช่น ไมค์ เพื่อเซฟตัวเองกันมากขึ้น

“ปีแรกที่เจอกับการระบาดของ COVID-19 ในฝั่งของสินค้าเครื่องเสียงโปรเฟสชันนอลได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในโครงการของโรงแรม โรงหนัง งานอีเวนต์ต่าง ๆ ถูกเบรก แต่กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นหูฟัง ลำโพงขนาดเล็ก ซาวด์บาร์ โฮมเธียร์เตอร์ และชุดคาราโอเกะเติบโตได้ดี รวมถึงเครื่องปรับอากาศที่ยังคงเติบโตเพราะคนอยู่บ้านมากขึ้น”

ทั้งนี้ มหาจักรมองว่าโอกาสเติบโตปีนี้จะมาจาก หูฟัง True Wireless ซึ่งก็จะสอดคล้องกับกลุ่ม Gen Z ที่เราต้องการจะเข้าถึง อีกส่วนที่เห็นการเติบโตก็คือ Sound Bar ที่เกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่บ้านมากขึ้น และอีกกลุ่มที่มหาจักรมองว่าเห็นโอกาสก็คือ Smart Home ที่มีทั้งสมาร์ทดีไวซ์และสมาร์ทโซลูชั่น เช่น Control4 โดยบริษัทได้เริ่มจำหน่ายสินค้าในกลุ่มนี้ตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากเห็นว่าโลกเข้าสู่สังคมดิจิทัลมากขึ้น

อย่างไรก็ตามสินค้ากลุ่มนี้ในปัจจุบันยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก เนื่องจากมีราคาสูงและคนยังมีความรู้ความเข้าใจน้อย ดังนั้นมหาจักรจะเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้ง YouTube, Facebook และ Instagram


ดูแลลูกค้าและพนักงานให้ดี เคล็ดลับความสำเร็จตลอด 52 ปี

คุณกิตติศักดิ์ ทิ้งท้ายว่า ด้วยความที่อยู่ในตลาดมากว่า 52 ปี ความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือ จึงเป็น จุดแข็ง ที่ทำให้ลูกค้าเลือกเรา แต่ที่เป็นจุดแตกต่างและเป็นอีกจุดตัดสินก็คือ เซอร์วิส รวมถึงอีกสิ่งที่ทำให้มหาจักรเติบโตมาได้ก็คือ พนักงาน ซึ่งที่ผ่านมาเรามั่นใจว่าเราดูแลพนักงานของเราดีมาตลอด

ไม่ว่าจะเป็นช่วงปี 2540 ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ทางบริษัทขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 300 ล้านบาท แต่บริษัทไม่เคยลดเงินเดือนพนักงาน ไม่เคยปลดพนักงาน และเรายังคงดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัวมาโดยตลอด ล่าสุดที่เกิดโควิดเราก็ไม่เคยลดเงินเดือนเลย นี่จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มหาจักรผ่านทุกวิกฤตมาได้ตลอดกว่า 52 ปีมานี้

]]>
1417497
จากอู่ต่อเรือและ “เครื่องบิน” สู่ “แอร์” ทำความเย็นในบ้านของ “Mitsubishi Heavy Duty” https://positioningmag.com/1327586 Thu, 24 Jun 2021 03:00:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1327586

พื้นฐานสำคัญของ “เครื่องปรับอากาศ” คือการมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยให้แอร์เย็นเร็ว ทนทาน และประหยัดไฟ หนึ่งในแบรนด์ที่มีนวัตกรรมทรงประสิทธิภาพของโลกแห่งเครื่องปรับอากาศก็คือ Mitsubishi Heavy Duty เพราะบริษัทอายุมากกว่าร้อยปีนี้ไม่ได้มีแค่ “แอร์” แต่เติบโตมาจากการทำอุตสาหกรรมหนักอย่างอู่ต่อเรือจนถึงเครื่องบิน ทำให้เทคโนโลยีล้ำสมัยถูกถ่ายทอดมาสู่บ้านพักอาศัยด้วย

Mitsubishi Heavy Duty เป็นชื่อที่คุ้นหูคนไทยจากโลโก้บนเครื่องปรับอากาศ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า ต้นทางของบริษัทนี้ไม่ได้มีแค่แอร์ และมีรากฐานก่อตั้งมานานนับศตวรรษ

แอร์แบรนด์นี้มีจุดเริ่มต้นมาจากบริษัท Mitsubishi Heavy Industries หรือ MHI ซึ่งก่อตั้งขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อปีพ.ศ.2427 ย้อนไปไกลถึงยุคที่ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านจากระบอบโชกุนช่วงปฏิรูปเมจิ โดยผูู้ก่อตั้งคือ “ยาตาโร อิวาซากิ” เป็นซามูไรคนหนึ่งในยุคนั้น และเป็นผู้ก่อร่างสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจและคอนเน็กชันจนสามารถขยายการค้าได้อย่างกว้างขวาง

ยุคเริ่มแรกของบริษัทนี้ทำธุรกิจชิปปิ้งทางทะเล แต่จุดพลิกผันเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อบริษัทได้เป็นคู่ค้ากับรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อขนส่งอาวุธ เปิดโอกาสให้ Mitsubishi เริ่มขยายไปทำอู่ต่อเรือ เหมืองแร่ ธนาคาร จนมาเปลี่ยนชื่อเป็น Mitsubishi Heavy Industries ในปีพ.ศ.2477 และยิ่งขยายอุตสาหกรรมไปอีกมาก จนถึงปัจจุบันพอร์ตสินค้าของ MHI มีมากกว่า 700 ประเภท

ส่วนแบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty นั้นเป็นแบรนด์ที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศ โดยมีการตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยผ่านการร่วมทุนกับ กลุ่มบริษัท มหาจักร ของคนไทย เริ่มจากทางมหาจักรเป็นผู้นำเข้าเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ และมีสายสัมพันธ์กันจนก่อตั้งโรงงานผลิตแอร์ Mitsubishi Heavy Industries – Mahajak Air Conditioners หรือ MACO ขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เมื่อปี พ.ศ.2531 โรงงานแห่งนี้สามารถผลิตได้ทั้งแอร์บ้านและแอร์โรงงาน-อาคาร มีผลงานผลิตสะสมไปแล้วมากกว่า 28 ล้านเครื่อง


บริษัทนวัตกรรมขั้นสูงถ่ายทอดสู่ “แอร์” ในบ้าน

ดังที่กล่าวไปว่าจุดเริ่มต้นของ MHI มาจากธุรกิจชิปปิ้ง ขยายสู่อุตสาหกรรมหนัก ซึ่งครอบคลุมไปถึงอู่ต่อเรือ เครื่องบิน แม้กระทั่งฐานปล่อยยานอวกาศ อุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง มีความแม่นยำ และทนทาน ทำให้ MHI มีการลงทุนศูนย์กลางการวิจัยและนวัตกรรม และมีตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี” หรือ CTO เพื่อวางวิสัยทัศน์การพัฒนานวัตกรรมทั้งองค์กร

ผลงานอุตสาหกรรมหนักที่เราอาจไม่เคยทราบว่า MHI มีส่วนร่วม เช่น เครื่องบิน Boeing 787 หรือรุ่น “ดรีมไลเนอร์” ซึ่งทางญี่ปุ่นมีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้ถึง 35% ช่วยพัฒนานวัตกรรมวัสดุคอมโพสิทสำหรับกล่องปีกเครื่องบิน (Wing Box) ให้มีน้ำหนักเบาขึ้นถึง 20% นอกจากนี้ MHI ยังมีการพัฒนาเครื่องบินเจ็ทแบรนด์ของตนเองคือ Mitsubishi Regional Jet หรือ MRJ ขนาด 70-90 ที่นั่งด้วย

การลงทุนในนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและมีองค์ความรู้เทคโนโลยีระดับสูง ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า เมื่อ MHI หันมาผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน องค์ความรู้จะถูกนำมาปรับใช้และทำให้สินค้ามีประสิทธิภาพและทนทาน


FUYU Series “แอร์” แรงลมเครื่องบินเจ็ท

เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ของ Mitsubishi Heavy Duty ที่นำเทคโนโลยีแบบเครื่องบินมาใช้คือเครื่องปรับอากาศ ZSXS Super Deluxe Inverter – FUYU Series เพราะมีฟีเจอร์เด่นคือ

1.เทคโนโลยี Jet Flow ออกแบบช่องลมแบบเครื่องบินเจ็ท ส่งลมได้ไกลสุดถึง 17 เมตร ไม่ต้องห่วงเรื่องลมแอร์ไปไม่ถึง

2.Hi Power ส่งลมด้วยพลังสูง เย็นเร็วตามอุณหภูมิที่กำหนดภายใน 15 นาที

3.ระบบ 3D Auto กระจายลมเย็นทั่วทุกมุมห้อง หมดปัญหาเรื่องห้องไม่เย็นในบางจุด

4.Allergen Clear Filter แผ่นฟอกอากาศที่มีคุณสมบัติดักจับและต่อต้านสารก่อภูมิแพ้

5.Nano Air Filter สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ควันพิษ เข้ากับยุคนี้ที่ปัญหาฝุ่นมีมากขึ้น

6.Self Clean Operation ฟังก์ชั่นไล่ความชื้นในคอยล์เย็น ลดการเกิดเชื้อราของแอร์

7.Allergen Clear Operation ระบบทำลายเชื้อโรคและต่อต้านสารก่อภูมิแพ้

แอร์รุ่น FUYU Series ยังเป็น อินเวอร์เตอร์แท้ทั้งระบบ ช่วยประหยัดไฟได้จริง โดยได้รับรองประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด สามดาว ประสิทธิภาพอินเวอร์เตอร์เกิดจากการใช้ แผงวงจรอัจฉริยะ PAM ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์ เป็น คอมเพรสเซอร์กระแสตรง DC เปลี่ยนความเร็วรอบการทำงานสัมพันธ์กับอุณหภูมิในห้องได้ มี วาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV ควบคุมอัตราการไหลของสารทำความเย็นให้เหมาะสมที่สุด สุดท้ายคือใช้ มอเตอร์กระแสตรง ทำให้การคุมความเร็วรอบแม่นยำ พร้อมอีกความสามารถที่ทำให้ Fuyu Series โดดเด่นเรื่องการประหยัดไฟเป็นอย่างมาก ด้วย Motion Sensor ที่คอยจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง และทำการปรับอุณหภูมิ ระดับพัดลมและโหมดการทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถตั้งค่าให้เครื่องเข้าสู่โหมด Stand by หรือปิดอัตโนมัติเมื่อไม่มีคนอยู่ภายในห้องก็ได้เช่นกัน

ที่สำคัญแอร์รุ่น FUYU Series จาก Mitsubishi Heavy Duty ยังเงียบเพียง 19 เดซิเบล ซึ่งเบากว่าเสียงกระซิบของคน และการันตีรางวัลด้านงานดีไซน์จากเวที A’Design Award ประเทศอิตาลี เหมาะกับการติดตั้งภายในบ้าน พร้อมสู้ความร้อนด้วยนวัตกรรมที่สั่งสมนานนับศตวรรษจาก MHI ประเทศญี่ปุ่น และการรับประกันยาวนาน 5 ปี อุ่นใจตลอดการใช้งาน

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของ Mitsubishi Heavy Duty ได้ที่  www.mitsuheavythai.com และ https://www.facebook.com/MitsubishiHeavyDutyThailand

]]>
1327586