mobile – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 14 Jul 2025 11:15:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘สงครามราคา’ คือ ทางรอดวิกฤตร้านอาหารจริงหรือ? https://positioningmag.com/1529915 Mon, 14 Jul 2025 06:54:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1529915 ตอนนี้เราได้เห็นดีกรีความร้อนแรงของ ‘สงครามราคา’ ในธุรกิจร้านอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดสุกี้ จากสองยักษ์ใหญ่อย่าง ‘MK’ และ ‘สุกี้ตี๋น้อย’ ยังไม่รวมร้านอาหารอื่น ๆ ที่ทยอยงัดไม้นี้มาเป็นกลยุทธ์เรียกลูกค้าหลังต้องเผชิญปัญหายอดขายตกจากภาวะเศรษฐกิจจนหลายแห่งเสี่ยงต้องปิดตัว

คำถามคือ การเล่นสงครามราคา หรืออัดโปรฯ แรง ๆ ช่วยฝ่าวิกฤตที่ต้องเจออยู่จริงหรือไม่ ?

ภายในงานเสวนา ‘เสิร์ฟแผนรอด: สูตรลับร้านอาหารไทยฝ่าวิกฤต’ ที่ทาง ‘เคทีซี’ หรือ ‘บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)’ จัดขึ้น ทาง ‘สุรเวช เตลาน’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล เรสเตอท์รองต์ จำกัด ผู้บริหารร้าน  Mo-Mo-Paradise ในไทย แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ว่า สงครามราคากำลังเป็นกระแสในช่วงนี้ และเป็นวิธีง่ายสุดในการสร้างยอดขาย แต่เมื่อทำแล้วได้ประโยชน์จริงหรือไม่ในระยะยาวจริง เป็นคำถามที่ต้องคิดดี ๆ เพราะแบรนด์ที่ทำสงครามราคาได้ ต้องสะสมบุญให้มากพอ

การสะสมบุญที่ว่า ได้แก่ ‘สายป่านเรื่องเงินทุนต้องยาว’ เพื่อให้สามารถเล่นสงครามราคาได้ในระยะเวลาหนึ่งแบบไม่กระทบ และ ‘ขนาดธุรกิจต้องได้’ เช่น จำนวนสาขาต้องมีมากพอ และโครงสร้างธุรกิจต้องเอื้ออำนวย ซึ่งสำหรับ Mo-Mo-Paradise แล้ว เขามองว่า ไม่เหมาะกับการลงมาเล่นสงครามราคา หรืออัดโปรฯ แรง ๆ จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และ Brand value ที่สร้างมาตั้งแต่แรก

“เราไม่เหมาะกับวิธีนี้ เพราะสะสมบุญมาไม่มากพอเท่าแบรนด์ใหญ่ 18 ปี เรามี 30 สาขา คือเราไม่ใหญ่ และหากเราลงเล่นสงครามราคา ในระยะยาวมันไม่คุ้มกัน ดังนั้น เวลาทำโปรโมชั่นเราไม่ได้อยากสร้างให้ลูกค้ารู้สึกว่า Mo-Mo-Paradise ต้องราคาถูกถึงจะมากิน แต่มาเพราะความคุ้มค่าบวกคุณภาพ เพื่อไม่ให้แบรนด์เสียราคา”

ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ ‘จักรกฤติ สายสมบูรณ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ Maguro Group ที่ยอมรับว่า ‘ราคา’ มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งเห็นผลตอบรับชัดเจนเมื่อทำแล้ว ‘เวิร์กจริง’ เพราะตอนนี้เงินกระเป๋าของแต่ละคนน้อยลง การจ่ายแต่ละครั้งจึงต้องได้ดีลดีที่สุด โดยในระยะเวลาที่ทำจะเพิ่มยอดได้ประมาณ 30%

อย่างไรก็ตาม การเล่นสงครามราคา จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและแบรนด์ เพราะการลดราคาแรง ๆ หรืออัดโปรฯ บ่อย จะส่งผลต่อมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ และเกิดคำถามจากลูกค้าว่า ‘ลดราคา คุณค่าและคุณภาพลดลงด้วยหรือไม่?’ หรือ ‘ทำไมถึงขายราคาเดิมไม่ได้แล้ว?’

สิ่งที่ตามมา คือ ลูกค้าเดิมที่ปลุกปั้นและติดตามกันมาตั้งแต่เริ่มต้นอาจจะหายไป และได้ลูกค้าใหม่ที่ไม่มีลอยัลตี้เข้ามาแทน โดยลูกค้ากลุ่มนี้พร้อมจะสวิตช์แบรนด์ทันที เมื่อ ‘ที่ไหนมีโปรฯ ก็พร้อมจะเปลี่ยนไปที่นั้นทันที’ ซึ่งเป็น กลุ่มลูกค้าที่ไม่ยั่งยืน

สำหรับ Maguro Group เอง ด้วยจุดยืนและโครงสร้างของแบรนด์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อลดราคา หรือจัดโปรฯ ถี่ แม้จะมีบ้างตามสถานการณ์แต่จะมีไม่บ่อยนัก โดยทางออก จักรกฤติ ให้ความสำคัญกับการให้มากกว่า ‘ราคาถูก’ ด้วยการไปเจาะความต้องการของลูกค้าให้ลึกขึ้น ให้ลูกค้าจ่างเงินน้อยลง แต่ได้อาหาร ตลอดจนบริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานดีเหมือนเดิม เช่น แบรนด์มากุโระ จะมีขนาดอาหารต่อจาน (Portion Size) ที่ค่อนข้างใหญ่ จึงมีการลดขนาดอาหารให้เหมาะกับการกินต่อคนมาในราคาถูกลงเป็นต้น

ทั้งสองผู้บริหารทิ้งท้ายว่า เราคงเห็นภาพของการเล่นสงครามราคาไปอีกสักระยะ แต่คงไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ เพราะแต่ละแบรนด์รู้ดีว่า ในระยะยางกลยุทธ์นี้ไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจและจะส่งกระทบในเรื่องรายได้อย่างแน่นอน

]]>
1529915
Sony ซื้อกิจการ Savage Game ตั้งเป้าขยายธุรกิจเกมบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น https://positioningmag.com/1398138 Tue, 30 Aug 2022 03:29:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1398138 โซนี่ (Sony) ได้ประกาศเข้าซื้อ Savage Game สตูดิโอเกมจากยุโรป แม้ว่าสตูดิโอรายดังกล่าวจะยังไม่มีเกมที่พัฒนาแล้วเสร็จก็ตาม โดยบริษัทวางเป้าว่าจะขยายตลาดไปยังเกมบนโทรศัพท์มากขึ้น ไม่ผูกติดกับแพลตฟอร์มเกมคอนโซลแต่อย่างเดียว

ยักษ์ใหญ่วงการเกมคอนโซลอย่าง Sony ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Savage Game ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมบนโทรศัพท์มือถือที่มีสตูดิโอเกมทั้งในฟินแลนด์รวมถึงที่เยอรมัน โดยดีลดังกล่าวนี้ไม่ได้ระบุมูลค่าแต่อย่างใด ซึ่งเป้าหมายของ Sony คือต้องการขยายธุรกิจเพิ่มเติมนอกจากกลุ่มเกมคอนโซล

Sony ยังมองว่าจะได้พลังการจับจ่ายของผู้บริโภคที่เล่นเกมผ่านโทรศัพท์มือถือ ขณะเดียวกันกลยุทธ์ดังกล่าวก็ถือเป็นการสร้างป้อมค่ายให้กับบริษัท และป้องกันไม่ให้บริษัทผูกอยู่กับแพลตฟอร์มเกมคอนโซลแต่เพียงอย่างเดียวด้วย นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ที่ไม่ได้เล่นเกมคอนโซลเข้าถึงแพลตฟอร์ม Playstation ได้อีกด้วย

ความพยายามดังกล่าวของ Sony ที่จะเข้ามาในโลกของเกมบนโทรศัพท์มือถือนั้นไม่ใช่ครั้งแรก บริษัทพยายามขยายแพลตฟอร์ม Playstation Mobile ซึ่งมีระบบหน้าร้าน รวมถึงบริษัทได้พยายามสนับสนุนผู้พัฒนาเกมบนโทรศัพท์มือถือมาแล้ว แต่ในท้ายที่สุดแพลตฟอร์มดังกล่าวนี้ก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากไม่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นและผู้พัฒนาเกม

Hermen Hulst ผู้บริหารของ PlayStation Studios กล่าวว่า “PlayStation Studios จะต้องขยายไปนอกเหนือจากเกมคอนโซล โดยนำเสนอเกมใหม่ๆ ที่น่าทึ่งให้กับผู้คนจำนวนมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา”

อย่างไรก็ดี Savage Game นั้นยังไม่มีเกมที่พัฒนาเสร็จแล้วออกมาแต่อย่างใด แต่ทาง Sony ได้กล่าวว่าสตูดิโอเกมรายดังกล่าวนี้กำลังพัฒนาเกมอยู่

ในช่วงที่ผ่านมา Sony กำลังดิ้นรนเพื่อผลิตคอนโซล PS5 ให้เพียงพอต่อความต้องการท่ามกลางกระแส Supply Chain หยุดชะงัก และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้ประกาศขึ้นราคาเครื่องเกมคอนโซลเนื่องจากแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อ

]]>
1398138
มองอนาคตงาน ‘Mobile Expo’ กับความเป็นไปได้ที่จะเห็น ‘กองคาราวาน’ รถบ้านขายมือถือ https://positioningmag.com/1287745 Tue, 14 Jul 2020 14:07:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1287745 ผ่านไปเเล้วสำหรับงาน Thailand Mobile Expo ครั้งที่ 2 ของปี ซึ่งก็ถือว่าเป็น ‘งานอีเวนต์ใหญ่’ ครั้งแรกของไทยเลยก็ว่าได้ และแถมยังเป็นครั้งเเรกที่ผสมระหว่างงาน ออฟไลน์ และ ออนไลน์ โดยจับมือกับ Shopee และ Lazada เพื่อขยายฐานลูกค้าเพื่อเป็นแผนสำรองหากลูกค้าไม่กล้าออกมาเดินงาน

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์กลับทำได้ดีเกินกว่าที่คาดเอาไว้มาก โดยคุณ โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP ผู้จัดงานได้อัพเดทให้ฟังว่า ผลตอบรับของงานครั้งที่ 2 หากเทียบกับครั้งต้นปี (30 ม.ค.- 2 ก.พ.) ที่ Covid-19 พึ่งเริ่มระบาด

แม้ว่าจำนวนผู้เข้าชมงานจะลดลงจาก 4 แสน เหลือ 1 แสนคน เเต่ก็เป็นเพราะข้อจำกัดของมาตรการ Social Distancing ซึ่งต้องจำกัดผู้เข้าชมที่ 4,000 คนต่อรอบ รอบละ 2 ชั่วโมง อีกทั้งพื้นที่จัดงานจากที่เคยใช้ได้เต็ม 20,000 ตารางเมตร ก็สามารถใช้ได้เพียง 14,000 ตารางเมตร หายไป 30% เพื่อลดความแออัด ดังนั้นบูธที่ออกจึงลดเหลือ 158 บูธ ลดลง 30% เช่นกัน แต่สินค้าบางบูธขายหมดตั้งเเต่วันเสาร์ สะท้อนให้เห็นว่าคนที่มาแม้จะน้อย แต่ล้วนตั้งใจมาซื้อสินค้า

“เราเห็นคนยอมต่อเเถวเพื่อรอเข้างานจำนวนมาก บางคนต้องรอ 2 ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการที่จะมางานจริง ๆ และเราเเฮปปี้ที่ลูกค้ามีของไม่พอขาย เเละไม่หั่นราคากัน”

ในส่วนของยอดเงินสะพัดครั้งนี้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ถือว่าน่าพอใจ แม้ว่ายอดเงินสะพัดปกติจะอยู่ที่ 2-3 พันล้านบาท แต่เป็นเพราะแบรนด์จ้างดีลเลอร์มาออกบูธ เมื่อจบงานดีลเลอร์จะเหมาเครื่องไปขายต่อหลังจบงาน แต่ครั้งนี้ดีลเลอร์มาออกบูธเองทั้งหมด ดังนั้นยอดขายในงานจึงเป็นยอดขายเฉพาะของลูกค้าที่มาเดินในงานเท่านั้น ขณะที่สินค้าขายดีครั้งนี้เป็นคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และเเท็บเลต ต่างจากครั้งก่อนที่เป็นสมาร์ทโฟน โดยคาดว่าเป็นเพราะกระเเส Work From Home

อย่างไรก็ตาม ยอดขายจากฝั่งออนไลน์มีสัดส่วนเพียง 20% แม้ว่าจะมียอดวิวออนไลน์ที่ 30 ล้านวิว แสดงให้เห็นว่าออนไลน์ยังมา ทดแทน ออฟไลน์ไม่ได้ เพราะลูกค้ายังไม่มั่นใจ 100% โดยเฉพาะเครื่องราคาเกิน 2 หมื่นบาทขึ้นไป ผู้บริโภคยังต้องการที่จะ สัมผัส เครื่องก่อน

ดังนั้น งาน Thailand Mobile Expo ครั้งที่ 3 ช่วงสิ้นปียังไม่มีทางที่จะจัด ออนไลน์เต็มตัว ยังคงจัดแบบ Hybrid แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะจัดที่ไบเทค บางนาเหมือนเดิมหรือจะมีการปรับเปลี่ยนเป็น ‘กองคาราวาน Mini Thailand Mobile Expo’ ที่จัดขบวนรถบ้านขายเข้าหาลูกค้าถึงที่

“เพราะสถานการณ์ที่ยังไม่เเน่นอนเเบบนี้ เราคงยังการวางเเผนระยะยาวต้องรอดูเมื่อใกล้ถึงเวลา เเต่ถ้ามีการระบาดรอบ 2 จริง คงได้เห็นกองคาราวาน Thailand Mobile Expo แน่นอน ถ้าไม่มีรอบ 2 ก็ยังคงจัดที่ไบเทคตามเดิม”

]]>
1287745
เทียบฟอร์มงาน ‘Thailand Mobile Expo’ ก่อน-หลัง COVID-19 https://positioningmag.com/1287729 Tue, 14 Jul 2020 11:29:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1287729 1287729 ‘Thailand Mobile Expo’ ชิมลางจัดแบบ ‘ไฮบริด’ ไม่หวั่นคู่แข่ง ‘ออนไลน์’ มั่นใจ ‘ทดแทน’ ออฟไลน์ไม่ได้ https://positioningmag.com/1286281 Thu, 02 Jul 2020 09:22:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1286281 จัดงานครั้งแรกไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ Covid-19 กำลังระบาดพอดี และสำหรับงาน Thailand Mobile Expo ครั้งที่ 2 นี้ ก็ได้เลื่อนจากที่เคยจัดประมาณปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายน แต่ครั้งนี้เลื่อนมาจัดต้นเดือนกรกฎาคมแทน เพราะสถานการณ์เพิ่งจะดีขึ้น และถือว่าเป็น ‘งานอีเวนต์ใหญ่’ ครั้งแรกของไทยเลยก็ว่าได้

โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP กล่าวว่า การจัดงาน Thailand Mobile Expo ครั้งนี้จะเป็นแบบ ‘ไฮบริด’ โดยมีการขายออนไลน์โดยจับมือกับ Shopee และ Lazada ซึ่งข้อดีคือ ทำให้ตลาดกว้างขึ้นเพราะสามารถขายได้ทั้งประเทศ โดยไม่ต้องกระจายไปจากงานตามจังหวัดอื่น ๆ ขณะที่การจัดงานครั้งนี้ต้องจำกัดผู้เข้าชมที่ 4,000 คนต่อรอบ รอบละ 2 ชั่วโมง ขณะที่พื้นที่การจัดงานก็ลดลง 30%

ดังนั้น คาดว่าผู้เข้าชมงานปีนี้อาจจะมีเพียง 3 แสนราย ลดลงครึ่งหนึ่งจากปกติ ขณะที่ยอดเงินสะพัดอาจหายไป 30% จากปกติที่มียอดราว 2-3 พันล้านบาท ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอดูยอด-ขายฝั่งออนไลน์ก่อน โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 30% ของยอดขายทั้งหมด

“ตอนแรกเราลังเลว่าจะจัดดีไหม สุดท้ายเราตัดสินใจจัดโดยใช้เวลาเตรียมจัด 2 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งก็เพื่อซ้อมการจัดแบบไฮบริด เพราะเราไม่รู้ว่าช่วงปลายปีจะจัดได้ไหม การระบาดจะมาอีกรึเปล่า เราไม่สามารถประเมินได้เลย แต่อย่างน้อยเราทำออนไลน์ได้ นั่นแปลว่าเรารอดแล้ว”

สำหรับงาน Thailand Mobile Expo ในครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิม เพราะด้วยสภาวะเศรษฐกิจและข้อกำหนดต่าง ๆ ทำให้แต่ละบูธไม่มีการจัดกิจกรรมและไม่ทำบูธใหญ่ และเป็นดีลเลอร์ที่เข้ามาขายของแทน ดังนั้นจึงทุ่มไปที่ส่วนลดแทน ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคก็ไม่ได้เน้นเดิมชมงาน แต่มาเพื่อซื้อและกลับทันที ดังนั้นการที่ผู้บริโภคซื้อเร็วกลับเร็ว ก็เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย

อย่างไรก็ตาม หลังจากการเปิดงานวันแรก มีจำนวนผู้ชมเยอะกว่าครั้งต้นปีที่ Covid-19 กำลังระบาด ดังนั้นมองว่าผู้บริโภคอั้นการจับจ่ายมานาน และถือเป็นส่วนพิสูจน์ว่า งานแบบออฟไลน์จะไม่หายไป แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มเห็นงานแบบออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากงานออฟไลน์และออนไลน์ให้อารมณ์และความรู้สึกต่างกัน

“การแข่งขันที่มากขึ้นจากออนไลน์เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในอนาคต เราเองก็ต้องดิสรัปต์ตัวเอง ต้องมีออนไลน์ควบคู่ แต่สิ่งสำคัญคือ แบรนดิ้งที่เราเคยเป็นที่ที่ให้ทุกคนเข้ามาชิงอันดับ 1 เป็นเหมือนลีกที่ให้แบรนด์มาแข่งขัน”

สำหรับภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงครึ่งปีหลังยังประเมินยาก เพราะปัจจุบันผู้บริโภคใช้เวลานานกว่าจะเปลี่ยนเครื่อง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 18-24 เดือน เนื่องจากยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากระตุ้นให้เปลี่ยน ส่วนเทคโนโลยี 5G เชื่อว่าจะยังไม่มาเร็ว ๆ นี้ อาจต้องรอประมาณช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า เพราะเทรนด์ของไทยจะตามหลังจีนประมาณ 2 ปี

ทั้งนี้ งาน Thailand Mobile Expo 2020 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่าง 10.00 – 20.00 น. หรือเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง Lazada และ Shopee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

]]>
1286281