mudman – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 28 Mar 2018 02:51:51 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เมืองไทยเล็กไปแล้ว! ‘มัดแมน’ ขอโกอินเตอร์ ควัก 364 ล้านซื้อร้านอาหารหรู ระดับมิชลินในฝรั่งเศส ‘Le Grand Véfour’ พร้อมควงเชฟดังต่อยอดธุรกิจขยายสาขาในเอเชียและยุโรป https://positioningmag.com/1163530 Tue, 27 Mar 2018 15:15:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1163530 ธุรกิจอาหาร กำลังเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกจับตาและถูกหมายปองจาก “บิ๊กธุรกิจ” เพราะมีมูลค่าถึง 4 แสนล้านบาท ทำให้มีผู้เล่นรายใหม่ ๆ เข้าสู่ธุรกิจนี้ต่อเนื่อง เพราะมองเห็นโอกาสที่จะขยายตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศ

มัดแมน (MUDMAN) เป็นหนึ่งในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม อยู่เบื้องหลังแบรนด์ดัง อย่าง ดังกิ้น โดนัท, au bon pain, ร้านบาสกิ้นรอบบิ้น  ในรูปแบบของการเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ รวมถึงการเข้าไปซื้อหุ้นแบรนด์ร้านอาหารและไลฟส์ไตล์ของไทย อย่าง เกรฮาวด์ แฟชั่น และเกรฮาวด์ คาเฟ่ ที่เพิ่งจะแตกแบรนด์ เปิดร้าน เกรฮาวด์ คอฟฟี่ ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

ล่าสุด มัดแมนได้เปิดเผยถึงดีลการเข้าซื้อร้าน Le Grand Véfour (เลอ กรองด์ เวฟู) ร้านอาหารและเครื่องดื่มหรูระดับมิชลินสตาร์ ในประเทศฝรั่งเศส เป็นเงินจำนวน 9,175,000 ยูโร หรือประมาณ 364 ล้านบาท เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อยในนาม Mudman International Limited (มัดแมน อินเตอร์เนชันแนล จำกัด) หรือ MM Inter โดยได้ได้แต่งตั้งบริษัท FrontCap Asia Limited เป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ (Strategic Advisor)

ศุภสิทธิ์ สุขะนินทร์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) และนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท มัดแมน จำกัด

เป้าหมายในการซื้อกิจการร้านอาหาร Le Grand Véfour เพื่อขยายเครือข่ายและสร้างการเติบโตในธุรกิจด้านร้านอาหารและเครื่องดื่มในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในระดับโลก เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ระดับอินเตอร์ จากเดิมที่มีการขยายธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในต่างประเทศภายใต้แบรนด์ Greyhound Café (เกรฮาวด์ คาเฟ่) ป็นหัวหอกก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะทำรายได้จากร้าน Le Grand Véfour ราว 150 ล้านบาทต่อปี

ร้าน Le Grand Véfour เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส เป็นร้านมีชื่อเสียงเก่าแก่ เปิดดำเนินการมานานถึง 230 ปี จึงมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีต ตั้งอยู่ในบริเวณ The Palais Royal’s Gardens หรือสวนของพระราชวังปาเล่ส์ รัวยาล เป็นสถานที่นัดพบสังสรรค์ของนักการเมือง, ศิลปิน, นักประพันธ์ และบุคคลสำคัญ รวมถึงเป็นร้านที่จักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ต) เลือกเป็นสถานเพื่อขอพระนางโฌเซฟินแต่งงาน

ภายในร้านตกแต่งหรูหราด้วยการแกะสลักฝาผนังตามรูปแบบศิลปะแห่งยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ถูกจัดว่าเป็นร้านอาหารที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในมหานครปารีส โดยมี Mr.Guy Martin (กี มาร์แตง) เป็นอดีตเจ้าของและหัวหน้าเชฟดีกรีมิชลินสตาร์ 2 ดาว

สำหรับเชฟ Guy Martin นั้น เป็นเชฟเจ้าของรางวัลมากมายทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมทั้ง 1 ใน Top 7 World Best Chefs ใส่ใจกับรายละเอียดรอบตัว หยิบเอาเรื่องราวและความทรงจำในการเดินทาง สีสัน รสชาติ มาเป็นแรงบันดาลใจในการคิดสูตรอาหารแปลกใหม่ และมีรายการทำอาหารทางโทรทัศน์ในฝรั่งเศส เช่น ช่อง TV5 Monde, Cuisine TV, Voyage et Campagnes TV

หัวใจสำคัญของการซื้อกิจการรอบนี้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถของเชฟ โดยมัดแมน มีแผนทำงานร่วมกับเชฟ Guy Martin ซึ่งยังคงทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเชฟ เข้ามาร่วมพัฒนาคอนเซ็ปต์ร้านอาหารภายใต้แบรนด์ใหม่ อีกประมาณ 5-6 คอนเซ็ปต์ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในทวีปยุโรปและเอเชีย

โดยในเบื้องต้นได้เล็งเมืองท่องเที่ยวอย่างปารีส โตเกียว และฮ่องกง สำหรับคอนเซ็ปต์แรกที่จะพัฒนาออกมา และมุ่งจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อระดับกลาง-บน คาดว่าจะเริ่มลงทุนขยายสาขาได้ในปี 2562 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นกลยยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้บริษัทมัดแมนก้าวเป็นเจ้าธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของโลกด้วยประมาณการรายได้มากกว่า 5,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า.

]]> 1163530 ‘มัดแมน’ รีโมเดล พลิกกลยุทธ์ ‘เกรฮาวด์’ กระชับพื้นที่แฟชั่น ต่อยอดธุรกิจไลเซ่นซิ่ง https://positioningmag.com/1129841 Mon, 19 Jun 2017 09:05:30 +0000 http://positioningmag.com/?p=1129841 มัดแมน (MM) พลิกกลยุทธ์แบรนด์ ‘เกรฮาวด์ ออริจินอล’ ปรับธุรกิจเสื้อผ้าให้กระชับรับมือแข่งขันที่เข้มข้น มุ่งเน้นร้านแฟล็กชิพ ปิดสาขาไม่ทำเงิน ขยายแบรนด์ Smileyhound ให้แมสขึ้น ต่อยอดธุรกิจ Licensing ไปสู่สินค้าใหม่ๆ เกรเกรฮาวด์ คาเฟ่ ไปสู่อังกฤษและยุโรปภายในปีนี้

แม้ว่า “เกรฮาวด์” จะแบรนด์แฟชั่นของไทย ที่สามารถยืนหยัดอยู่ในธุรกิจนี้มายาวนานมากกว่า 20 ปี แต่ต้องยอมรับว่า ธุรกิจแฟชั่นทุกวันนี้ แข่งขันกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ตัวเลือกมีมากมายในตลาด ยิ่งในระยะหลังฟาสต์แฟชั่นจากต่างประเทศ ก็เข้ามาแย่งแชร์ในตลาดไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

greyhound cafe

ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร “เกรฮาวด์ คาเฟ่” ยังทำรายได้ให้กับมัดแมนเป็นกอบเป็นกำ มีแฟนประจำที่เป็นคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โอกาสขยายสาขายังมีอยู่มาก แต่ต้องดูแลและควบคุมคุณภาพอาหาร และรสชาติให้ดี

ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ให้กับ “มัดแมน” ต้องมาวางกลยุทธ์ บาลานซ์การลงทุนให้เหมาะสม พร้อมกับมองหาโอกาสต่อยอดแบรนด์เกรฮาวด์ไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ นั่นก็คือที่มาของการที่ นาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาระบุว่า ขณะนี้มัดแมนกำลังให้ความสำคัญกับแบรนด์เกรฮาวด์ที่มี Brand Equity หรือมูลค่าทางการค้าสูงให้เกิดประโยชน์ด้านธุรกิจมากขึ้น

นาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี

โดยพลิกการดำเนินงานของธุรกิจแฟชั่น (Turn Around) 1. เน้นพัฒนาสินค้าและร้านแฟล็กชิพ (Flagship) ให้โดดเด่นมากขึ้น 2. หันมาขยายแบรนด์ Smileyhound (สไมลี่ฮาวด์) ที่สร้างผลกำไรที่ดีอยู่แล้วให้เข้าสู่กลุ่มที่กว้างขึ้น 3. จะปิดสาขาที่ไม่ทำผลกำไรลงเพื่อลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น

นั่นหมายความว่า จำนวนสาขา ร้านเกรฮาวด์ และเพลย์ฮาวด์ ต้องลดลง หันมามุ่งเน้นเฉพาะสาขาหลักที่เป็นแฟล็กชิพ และให้น้ำหนักกับแบรนด์สไมลี่ฮาวด์ ที่จะเน้นดีไซน์ เรียบง่าย สวมใสได้ในหลายโอกาส ช่วงหลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ค่อนข้างมาก และเข้าถึงคนทั่วไปได้มากกว่า แบรนด์แม่ เกรฮาวด์ และเพลย์ฮาวด์ ที่จะมีความแฟชั่นมากกว่า

ขณะเดียวกัน จะปรับมุมมองธุรกิจต่อยอดแบรนด์ (Remodel) เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างผลกำไรใหม่ๆ ของแบรนด์เกรฮาวด์ เช่น Licensing Business ซึ่งเป็นอีกก้าวหนึ่งของแบรนด์แฟชั่นไทยอย่างเกรฮาวด์ ที่ยังไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ด้านนี้ ในขณะที่แบรนด์ต่างประเทศทำกันอย่างกว้างขวางมาเป็นเวลานาน ซึ่งบริษัท เกรฮาวด์ ออริจินอล มีจุดเด่นเรื่องความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว สามารถนำไปจับมือต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นโดยให้ใช้ชื่อแบรนด์เกรฮาวด์ต่อท้ายได้ด้วยเป็นต้น

ปัจจุบันมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อให้ออกแบบสินค้า 2-3 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และสามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมถึงจะขยายสู่ความเป็น “ไลฟ์สไตล์แบรนด์” เต็มที่ โดยเฉพาะในตลาดที่กำลังหันมานิยมอาหารเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น การเปิดตัวล่าสุดของ GH Life Juice น้ำผลไม้คั้นสดที่ออกวางจำหน่ายทั้งที่เกรฮาวด์ คาเฟ่ และร้านโอ บอง แปงทุกสาขาด้วย

ส่วนเกรฮาวด์ คาเฟ่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งได้ได้รับความนิยมอยู่แล้ว จะขยายสาขาในประเทศและภาคพื้นเอเชีย โดยในปีนี้มีแผนขยายสาขาที่ 2 ทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์ และจะเปิดตลาดใหม่ในอินโดนีเซีย และประเทศอังกฤษและภาคพื้นยุโรปต่อไป โดยจะเปิดบริการร้านแรกที่กรุงลอนดอนภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

“เราเชื่อว่าการปรับกลยุทธ์ รีโมเดลเกรฮาวด์ครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายและสามารถผลักดันความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น ประกอบกับประสบการณ์ด้านสร้างสรรค์และพัฒนาธุรกิจที่มีมายาวนานจะสามารถร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ สร้างสรรค์แนวคิดและออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะนำมาต่อยอดขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในอนาคตอย่างแน่นอน” นายซาลฮานี กล่าว

ปัจจุบัน มัดแมน มีธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แบ่งเป็น ร้านที่เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ต่างประเทศ 3 แบรนด์ คือ ดังกิ้นโดนัท 307 สาขา โอบองแปง 72 สาขา บาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ 34 สาขา และร้านที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง ได้แก่ เกรฮาวด์ คาเฟ่ เน้นเจาะกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง มีสาขาทั้งไทยและต่างประเทศ จำนวน 28 สาขา ครัวเอ็ม (คาเฟทีเรียในโรงพยาบาล) 1 สาขา และร้านจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ (เสื้อผ้าและเครื่องประดับ) เกรฮาวด์ 14 สาขา

]]>
1129841
มัดแมน คว้าสิทธิ์ขยายร้าน ‘โอ บอง แปง’ ในประเทศ CLMV https://positioningmag.com/1128508 Thu, 08 Jun 2017 05:43:46 +0000 http://positioningmag.com/?p=1128508 ต่อยอดจากไทย บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) คว้าสิทธิ์ทำตลาดร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ ‘โอ บอง แปง’ ในกลุ่มประเทศ CLMV ใช้โมเดลจับมือพันธมิตรท้องถิ่นผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยในการลงทุน

หลังจากบริษัทมัดแมนได้รับสิทธิ์จากบริษัท ABP Corporation ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิ์
แฟรนไชส์ร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ ‘โอ บอง แปง’ ขยายตลาดในไทยมา 20 ปี ปัจจุบันมี 70 สาขา ล่าสุดก็ได้สิทธิ์ ในขยายขยายสาขาโอปองแปง ในกลุ่มประเทศ CLMV (ประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาและเวียดนาม)

นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) หรือ MM กล่าวว่า จากการศึกษาตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศที่อยู่ในกลุ่ม CLMV ซึ่งเบื้องต้นพบว่าตลาดมีกำลังซื้อสูง เนื่องจากมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี และมีผู้บริโภคทั้งชาวต่างชาติและคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการรับประทาน
เบเกอรี่และเครื่องดื่มจากร้านอินเตอร์แบรนด์เพิ่มขึ้น จึงมั่นใจว่า MM จะสามารถสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นในอนาคต

บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุนขยายสาขาร้านโอ บอง แปง ในกลุ่ม CLMV ซึ่งได้เปิดกว้างรูปแบบการลงทุน เช่น ความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจชั้นนำ หรือเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีศักยภาพและความพร้อมในด้านประสบการณ์และการเงินในแต่ละประเทศ เพื่อรองรับแผนลงทุนขยายสาขาในแต่ละประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดและแผนลงทุนได้ภายในปีนี้

สำหรับร้านโอ บอง แปง ทำรายได้ในปี 2559 ให้กับบริษัท มัดแมน 731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่ทำรายได้ 699 ล้านบาท การเพิ่มของรายได้นั้นมาจากการเพิ่มสาขา และจากยอดขายเครื่องดื่ม

]]>
1128508
“มัดแมน” เข้าตลาดหุ้น นำเกรย์ฮาวด์คาเฟ่ บุกลอนดอน https://positioningmag.com/1115712 Tue, 07 Feb 2017 18:22:34 +0000 http://positioningmag.com/?p=1115712 นับเป็นอีกหนึ่งในความเคลื่อนไหวธุรกิจอาหารที่ทยอยตบเท้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมเงินทุนมาในการขยายสาขาหรือสร้างการเติบโต

หลังจากปลายปีที่แล้ว ร้านขนมหวานอาฟเตอร์ยูเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นมาได้ไม่นาน ตามมาด้วย บริษัท มัดแมนกำลังเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เพื่อต้องการระดมเงินทุนมาใช้ในการชำระเงินกู้ยืมและขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ

โดยมัดแมนจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 210 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้น ที่มีทุนจดทะเบียน 1,054.9 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยทุนที่ออกและชำระแล้วจำนวน 843.9 ล้านบาท

มัดแมนเป็น Holding Company ที่ได้รับสิทธิ์บริหารแบรนด์ใน 2 ธุรกิจหลัก 1. ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม เป็นแบรนด์ที่เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์กับต่างประเทศ ได้แก่ ดังกิ้น โดนัท, โอ ปอง แปง และบาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ รวมถึงแบรนด์เกรฮาวด์ ที่ได้ซื้อกิจการมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้แก่ เกรฮาวด์ คาเฟ่ และครัวเอ็ม ซึ่งบริหารศูนย์อาหารในโรงพยาบาล 2. ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์เกรฮาวด์ ออริจินัล ที่เป็นแบรนด์เสื้อผ้า

คุณนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี
คุณนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี

นาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มัดแมน กล่าวว่า

word_icon

ธุรกิจอาหารในประเทศไทยมีการเติบโตสูงอยู่ และภาพรวมตลาดมีความสนุก เพราะมีคู่แข่ง มีการแข่งขันกันต่อเนื่อง ธุรกิจอาหาร หรือรีเทลต้องมีการพัฒนา ปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภค เป้าหมายของมัดแมนก็คือเพื่อต้องการนำแบรนด์ตนเองไปโตที่ต่างประเทศ การที่มัดแมนเข้าตลาดหลักทรัพย์จะช่วยให้ไปไวขึ้น

word_icon2

เขาบอกว่า นี่คือ จุดประสงค์หลักของการที่มัดแมนเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่การเพิ่มสปีดในการขยายสาขาในประเทศ แต่เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนในต่างแดนได้มากขึ้น โดยมีทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้

  1. เข้าตลาดฯ เพื่อต้องการเคลียร์หนี้สินต่างๆ ของบริษัท ให้มีสภาพการเงินที่คล่องตัวมากขึ้น
  2. นำเงินทุนมาพัฒนาธุรกิจได้มากขึ้น พัฒนาโมเดลธุรกิจของแบรนด์ต่างๆ
  3. นำเงินลงทุนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ โดยใช้แบรนด์เกรฮาวด์ คาเฟ่เป็นหัวหอกหลัก จะเริ่มจากในเอเชีย และขยายไปยังยุโรป

มัดแมนมองว่ามีศักยภาพสูง และเป็นแบรนด์ของตัวเอง ในขณะที่แบรนด์อื่นเป็นมาสเตอร์ แฟรนไชส์ จะมีการขยายสาขาไปต่างประเทศมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้มีสาขาที่ประเทศมาเลเซีย จีน และฮ่องกง ซึ่งเป็นโมเดลของการขาย   แฟรนไชส์ให้นักลงทุนท้องถิ่น

แต่สำหรับในปีนี้จะขยายสาขาไปยังเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ 1 สาขา ซึ่งมัดแมนลงทุนเอง เพื่อเป็นการปักธงในโซนยุโรป และสร้างการรับรู้แก่คนยุโรปให้รู้จักแบรนด์เกรฮาวด์ คาเฟ่ก่อน จากนั้นค่อยขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ทั้งหมดทั้งในยุโรป และสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันธุรกิจในเครือมัดแมนมีสาขารวมทั้งหมด 439 สาขา ได้แก่ ดังกิ้น โดนัท 296 สาขา โอ ปอง แปง 71 สาขา บาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ 31 สาขา เกรฮาวด์ คาเฟ่ 24 สาขา (ในประเทศไทย 13 สาขา ต่างประเทศ 11 สาขา) ครัวเอ็ม 1 สาขา และร้านเสื้อผ้าเกรฮาวด์ 16 สาขา

ในปีนี้ได้ใช้งบลงทุน 200 – 220 ล้านบาท ปีก่อนๆ ก็ใช้งบลงทุนเฉลี่ยเท่านี้ จะมีการขยายสาขาของดังกิ้น โดนัท 10 สาขา โอ ปอง แปง 5 สาขา บาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ 5 สาขา และเกรฮาวด์ คาเฟ่ 4 สาขา

รายได้ช่วง 9 เดือนของปี 2559 จำนวน 2,237 ล้านบาท เติบโต 4.4% แบ่งสัดส่วนรายได้เป็น ดังกิ้น โดนัท 886 ล้านบาท หรือ 39.61% เกรฮาวด์ คาเฟ่ 562 ล้านบาท หรือ 25.12% โอ ปอง แปง 553 ล้านบาท หรือ 24.72% เกรฮาวด์ ออริจินัล 139 ล้านบาท หรือ 6.21% บาสกิ้น ร็อบบินส์ 78 ล้านบาท หรือ 3.49% และครัวเอ็ม 19 ล้านบาท หรือ 0.85%

โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังจากเข้าตลาดฯ

หลังจากที่มัดแมนเข้าตลาดแล้วเรียบร้อย โครงสร้างผู้ถือหุ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม บมจ.ทรัพย์ศรีไทย ถือหุ้นใหญในสัดส่วน 80.33% บมจ. น้ำตาลขอนแก่น 9.33% และอื่นๆ 10.34%

จะเปลี่ยนเป็น บมจ. ทรัพย์ศรีไทย เหลือ 64.27% บมจ. น้ำตาลขอนแก่น 7.46% ประชาชน 10% หุ้นสามัญเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น SST ตามสัดส่วนการถือหุ้น 10% และอื่นๆ 8.27%

]]>
1115712