ONESIAM SuperApp – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 09 Oct 2024 02:56:31 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สยามพิวรรธน์นำไทยสู่เวทีโลก ตอกย้ำโกลบอลเดสติเนชั่นอันดับ 1 นำไอคอนสยามคว้ารางวัล Asia’s Most Innovative Shopping Experience จาก Cathay Members’ Choice Awards 2024 https://positioningmag.com/1493383 Wed, 09 Oct 2024 09:44:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1493383

สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ตอกย้ำผู้นำโกลบอลเดสติเนชั่นอันดับ 1 ของไทย ล่าสุด ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาชนะรางวัล Asia’s Most Innovative Shopping Experience จากงานประกาศรางวัลของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค Cathay Members’ Choice Awards 2024 ซึ่งเป็นผลมาจากคะแนนโหวตสูงสุดของสมาชิกสายการบินคาเธ่ย์จากทั่วโลก เพื่อยกย่องให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นในการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

ความสำเร็จของไอคอนสยามในครั้งนี้ นับเป็นบทพิสูจน์ถึงจุดยืนถึงสถานะอันโดดเด่นในฐานะแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์กลางแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับนวัตกรรมอันล้ำสมัย ซึ่งเป็น DNA ของกลุ่มสยามพิวรรธน์ มุ่งบุกเบิกแนวคิดใหม่ในการพัฒนาโครงการ เพื่อนำเสนอที่สุดแห่งความเป็นไทยหลอมรวมกับสิ่งที่ดีที่สุดจากทั่วโลก จนได้รับการยกย่องอย่างสูงสุด สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมแก่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากทุกมุมโลก จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับสากลที่ครองใจผู้คนอย่างแท้จริง

Cathay Members’ Choice Awards เป็นรางวัลที่ยกย่องให้กับสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ช้อปปิ้งที่มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยครอบคลุม 30 รางวัลใน 6 สาขาที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นการเสนอชื่อจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม จากนั้นเป็นการเปิดให้สมาชิกทั่วโลกร่วมกันโหวต

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ มุ่งสร้างประสบการณ์เหนือระดับและความแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ ซึ่งสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค เป็นหนึ่งในพันธมิตรสายการบินชั้นนำระดับโลกที่สยามพิวรรธน์ได้ร่วมสร้างสรรค์การบริการพิเศษและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายให้แก่สมาชิก ONESIAM SuperApp และสายการบินอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตอกย้ำผู้นำอันดับหนึ่งในการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ดึงดูดผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติปีละกว่า 100 ล้านคน อย่างต่อเนื่อง

กลุ่มสยามพิวรรธน์และศูนย์การค้าในเครือ ได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ที่ต้องมาเยือนจากสถาบันต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด สยามพิวรรธน์ติดอันดับ People’s Choice Award – Top 10 Developers ในงานประกาศรางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards 2024 สุดยอดผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย รางวัลแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีมาอย่างยาวนานที่สุด มอบให้กับบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นและมีผลงานเป็นที่ยอมรับ ทั้งในด้านการออกแบบและการพัฒนาโครงการที่ดีที่สุดของประเทศไทย

ความสำเร็จเหล่านี้ ล้วนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของสยามพิวรรธน์ในการเป็นผู้พัฒนาโครงการระดับโลก ด้วยการผนึกกำลังร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรชั้นนำทั่วโลกในการสร้างสรรค์ออกแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความงดงามทางศิลปะกับนวัตกรรมที่ล้ำสมัยได้อย่างครบมิติ สร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่และแตกต่างจากโครงการอื่นๆ พร้อมทั้งมุ่งยกระดับความเจริญรุ่งเรืองในพื้นที่โดยรอบศูนย์การค้า เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

]]>
1493383
ไอคอนสยามจัดบิ๊กโปรโมชั่น ICONSIAM Big Bang Sale โปรใหญ่ที่ใครก็ห้ามใจไม่อยู่ ช็อปครบทุก 12,000 บาท รับสิทธิ์จับกาชาปองรางวัลใหญ่มูลค่า 100,000 บาท ปลุกกำลังซื้อเศรษฐกิจไทย ตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งระดับโลก https://positioningmag.com/1472582 Thu, 09 May 2024 09:32:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1472582

ไอคอนสยาม จัดโปรโมชั่นแคมเปญสุดยิ่งใหญ่คลายร้อนรับซัมเมอร์ “ICONSIAM BIG BANG SALE โปรใหญ่ ที่ใครก็ห้ามใจไม่อยู่” มอบความคุ้มค่าทุกการซื้อสินค้ารวมถึงบริการในไอคอนสยาม, สยาม ทาคาชิมายะ, ไอซีเอส และการซื้อออนไลน์ผ่าน ONESIAM SuperAPP  ให้เหล่านักช็อปได้สัมผัสประสบการณ์ช็อปแบบเต็มที่ ไม่มีลิมิต ช็อปเยอะได้เยอะ กับ Global Shopping Destination ที่เดียวที่จะมอบสิทธิพิเศษมากมายให้กับสมาชิก ONESIAM รับสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ รวมมูลค่าของรางวัลรวมกว่า 18.72  ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม – 9 มิถุนายน 2567 ที่ไอคอนสยามเท่านั้น!!

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปี 2567  ไอคอนสยาม สร้างรายได้และทราฟฟิกเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการตอบรับที่ล้นหลามของลูกค้าทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่หลั่งไหลเข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการในไอคอนสยาม ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน  วาเลนไทน์ และเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา  โดยประสบความสำเร็จตั้งแต่ปี 2023 มียอดขายสูงกว่าปี 2022 ถึง 30% และคาดว่ารายการส่งเสริมการขายนี้ จะสนับสนุนให้ยอดขายปี 2024 นี้เติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า  30% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีที่๋ผ่านมา และทราฟฟิกเติบโตขึ้นกว่า 25% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566  ส่งผลให้ยอดขายของกลุ่มลูกค้าสมาชิก ONESIAM เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อน โดยสามารถเติบโตในทุกกลุ่มสินค้า สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าใหม่ และการเพิ่มความถี่ในการซื้อสินค้าและใช้บริการของลูกค้าประจำ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

จากกระแสการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่กลับมาคึกคัก ซึ่งเป็นผลทั้งจากมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ และการผนึกกำลังของพันธมิตรจากทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเดินทางท่องเที่ยวยังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี รวมถึงไอคอนสยาม ในฐานะเป็นแม่เหล็กของการท่องเที่ยวที่ทรงพลัง  อีกทั้งยังเป็น Global Shopping Destination ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และจากทั่วประเทศไทยให้เดินทางมาเยี่ยมชมและช็อปปิ้งอีกด้วย

นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ไอคอนสยาม จับมือกับบัตรเครดิต TTB  เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าและมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมาย แก่ลูกค้าสมาชิก ONESIAM  โดยแคมเปญนี้ จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย พร้อมทั้งดึงดูดลูกค้านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เข้ามาซื้อสินค้าและบริการที่ไอคอนสยามมากยิ่งขึ้น  

สำหรับ แคมเปญรับซัมเมอร์  “ICONSIAM BIG BANG SALE โปรใหญ่ ที่ใครก็ห้ามใจไม่อยู่” ตั้งแต่วันที่  9 พฤษภาคม – 9 มิถุนายน 2567 รวมระยะเวลา 32 วัน กับโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้นัก      ช็อปได้สัมผัสประสบการณ์การช็อปแบบเต็มที่ ไม่มีลิมิต ยิ่งช็อปเยอะ ยิ่งได้เยอะ และที่เดียวที่จะมอบสิทธิพิเศษมากมายให้แก่สมาชิก ONESIAM  กับโปรโมชั่นสุดคุ้ม 4 ต่อ  ได้แก่

ต่อที่ 1 เพียงสมัครสมาชิกใหม่ ONESIAM ผ่าน ONESIAM SuperApp รับทันที Cash Coupon มูลค่ารวม 300 บาท

ต่อที่ 2  ทุกการช็อป 12,000 บาท หรือใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต TTB ทุกๆ 10,000 บาท รับสิทธิ์จับกาชาปองทุกวันรางวัลใหญ่  100,000 ONESIAM COINS หรือคิดเป็นมูลค่า 100,000 บาท

ต่อที่ 3 ในส่วนของสมาชิก ONESIAM  รับแบบไม่ต้องลุ้น เพียงช็อปและสะสมดาวผ่าน LINE OA @ICONSIAM เมื่อสะสมครบ 5 ดวง แลกรับ SIAM Gift Card มูลค่า 500 บาท โดยสามารถรวบรวมใบเสร็จเมื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ภายในไอคอนสยาม รวมสยาม ทาคาชิมายะ หรือ ไอซีเอส ครบตามยอดที่กำหนด (ไม่รวมยอดใช้จ่ายผ่านออนไลน์)  แสดงใบเสร็จจากการใช้จ่ายเพื่อรับดาวภายในวันเดียวกันเท่านั้น รวมถึงการแลกรับของสมนาคุณได้ ณ จุดแลกของสมนาคุณ เคาน์เตอร์ Information ไอคอนสยาม ชั้น G, M และ 1, เคาน์เตอร์ Information ไอซีเอส ชั้น G และ ชั้น 2 (เวลา 12.00 -20.00 น.)

ต่อที่ 4 ยังมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษมากมายให้แก่สมาชิก ONESIAM และลูกค้าบัตรเครดิต TTB  เมื่อช็อปครบตามเงื่อนไข  ยิ่งช็อปยิ่งได้กับโปรแรง พร้อมแลกรับของรางวัล อาทิ STARBUCKS E-Coupon มูลค่า 150 บาท, ONESIAM COINS มูลค่า 500 บาท และ Blue by Alain Ducasse Gift Card มูลค่า 2,000 บาท

ในส่วนยอดการใช้จ่ายในไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์  ตรงข้ามไอคอนสยาม  สำหรับสมาชิก ONESIAM ที่มี ONESIAM SuperApp ช็อปครบ 1,200  บาท แลกรับคูปองส่วนลดร้านค้า มูลค่า 100 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าครั้งต่อไป ครบ 200 บาทขึ้นไป/ ใบเสร็จ  และช็อปครบ 5,000  บาท แลกรับ SIAM GIFT CARD มูลค่า 350 บาท สำหรับการซื้อสินค้าครั้งต่อไปครบ 700.- ขึ้นไป / ใบเสร็จ สอบถามเงื่อนไขเพิ่มเติม ณ จุดขาย

ห้ามพลาด! กับโปรโมชั่นแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “ICONSIAM BIG BANG SALE  โปรใหญ่ ที่ใครก็ห้ามใจไม่อยู่” รับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษมากมาย รวมมูลค่ารางวัลกว่า 18.72 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม – 9 มิถุนายน 2567 ไอคอนสยาม, สยาม ทาคาชิมายะ และไอซีเอส สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1338 หรือ www.iconsiam.com และ Facebook : ICONSIAM

]]>
1472582
พันธมิตรใหญ่ระดับโลกมั่นใจ “สยามพารากอนและประเทศไทย” เดินหน้าขยาย Global Ecosystem https://positioningmag.com/1448197 Tue, 17 Oct 2023 11:45:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1448197
  •  7 พันธมิตรค้าปลีกข้ามชาติเชื่อมั่น ร่วม cross border privilege แลกเปลี่ยนประสบการณ์การช้อปปิ้งและสิทธิประโยชน์เหนือระดับสำหรับสมาชิก VIZ และสมาชิกของพันธมิตรจากประเทศต่างๆ
  •  อาลีเพย์, Klook และ ทริปดอทคอม มั่นใจสยามพารากอนที่มียอดจับจ่ายสูงอันดับต้นของประเทศ ร่วมเสริมประสบการณ์การช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์เหนือระดับให้กับนักท่องเที่ยว ชาวจีนและทั่วโลก
  •  ชูจุดแข็ง ONESIAM SuperApp กลไกขับเคลื่อนการเติบโต สร้างความแตกต่างและเสริมความแข็งแรงผู้นำในตลาด Luxury Retail

  • กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ไอคอนสยาม และ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เดินหน้าผนึกพลังกับ 7 พันธมิตรค้าปลีกยักษ์ใหญ่ระดับโลกและ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับ Hyundai Department Store เชื่อมสิทธิประโยชน์เหนือระดับให้กับผู้ใช้บริการของศูนย์การค้าสู่ ONESIAM SuperApp และในเวลาเดียวกันสามารถดึงดูดนักช้อปสมาชิกของพันธมิตรค้าปลีกจากประเทศต่างๆ เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้ากลุ่มสยามพิวรรธน์ พร้อมกันนี้ อาลีเพย์ (Alipay), Klook และ ทริปดอทคอม กรุ๊ป (Trip.com Group) ร่วมยกระดับประสบการณ์แบบไร้รอยต่อของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น พร้อมสิทธิพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีนและทั่วโลก

    นางสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด “สยามพิวรรธน์ได้ใช้กลยุทธ์ Collaborate to Win เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ผนึกพันธมิตรและคู่ค้าระดับผู้นำธุรกิจทั้งในประเทศและนานาประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งความสำเร็จร่วมกันและเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด โดยสยามพิวรรธน์เป็นคนแรกที่ริเริ่มในการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในระดับโลกเพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมเยือนอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ศูนย์การค้าในเครือของสยามพิวรรธน์ อาทิ สยามพารากอน ได้รับรางวัลแบรนด์ยอดนิยมในหมวด Tourist Attraction Mall จากการมอบรางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023” และล่าสุดกับ รางวัล “Best Luxury Lifestyle Mall” ศูนย์การค้าที่รวบรวมแบรนด์ระดับ Luxury ที่ครบครันมากที่สุดในประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นศูนย์การค้าระดับพรีเมี่ยมที่โดดเด่นที่สุด เป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย”

    สยามพิวรรธน์เสริมความแข็งแกร่ง Global Ecosystem ด้วยการผสานความร่วมมือกับ 7พันธมิตรค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในประเทศท่องเที่ยวระดับโลก และยังอยู่ระหว่างการหารือถึงความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรกับ Hyundai Department Store เพื่อมาเสริมสร้างความพิเศษเหนือระดับที่จะมอบให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ (Global Privilege Partnership)

    Global Privilege Partnership เป็นการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ได้แก่ ศูนย์การค้า PARCO ประเทศญี่ปุ่น TAIPEI 101 ไต้หวัน Hong Kong Times Square ฮ่องกง ห้างสรรพสินค้า ION Orchard ประเทศสิงคโปร์ Pavilion Kuala Lumper ประเทศมาเลเซีย Plaza Indonesia ประเทศอินโดนีเซีย และ FOSUN สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งศูนย์การค้า การท่องเที่ยว และบริการด้านสุขภาพ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในด้านสิทธิประโยชน์แก่สมาชิก VIZ ที่มี ONESIAM SuperApp โดยมีสิทธิพิเศษได้แก่ การอัปเกรดสถานะสมาชิกเทียบเท่าสถานะสมาชิกระดับพรีเมี่ยมเพื่อรับสิทธิประโยชน์สูงสุด Welcome Gift พร้อมบริการที่สุดพิเศษซึ่งอำนวยความสะดวกสบายสูงสุด ได้แก่บริการผู้ช่วยส่วนบุคคลที่จะคอยแนะนำบริการต่างๆ ภายในศูนย์การค้า บริการ Exclusive Lounge บริการรถลีมูซีนรับ-ส่ง เมื่อช้อปครบตามกำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของบริการ ณ ศูนย์การค้าในประเทศนั้นๆ โดยความร่วมมือระหว่างสยามพิวรรธน์และพันธมิตรต่างๆ ระดับโลกในครั้งนี้จะส่งผลให้มีลูกค้าที่สามารถรับสิทธิประโยชน์ได้กว่า 4 ล้านคนต่อปี

    Mr. Vernon Ma, Senior Manager – Promotions & Centre Operations, Hong Kong Times Square : “ความร่วมมือในครั้งนี้นั้นเหนือไปกว่าการช้อปปิ้งและไดน์นิ่ง แต่เป็นการสร้างแพลตฟอร์ม การเรียนรู้ ที่เราได้ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และสร้างความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด”

    Ms. Yeo Mui Hong, Chief Executive Officer, ION Orchard ประเทศสิงคโปร์ : “ความร่วมมือในครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์ในการสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ขึ้นสำหรับลูกค้าสมาชิกของเรา รวมทั้งช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับจุดหมายปลายทางของเราด้วย”

    Ms.Yoko Nakata, General Manager of Global Marketing Department , Parco ประเทศญี่ปุ่น : “เราผนึกความร่วมมือที่ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งในเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น เรามั่นใจว่าความพิเศษของความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับแหล่งทรัพยากรอันทรงคุณค่าของญี่ปุ่นในหลายๆ สถานที่ รวมทั้งช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคเอเชีย”

    Ms. Kung Suan Ai, Director of Marketing, Pavilion Kuala Lumper ประเทศมาเลเซีย : “ความร่วมมือในครั้งนี้กับสยามพิวรรธน์ได้ทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง และยังรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสใหม่ๆ สำหรับความร่วมมือในอนาคตด้วย”

    Mr. Zamri Mamat, General Manager Marketing, Plaza Indonesia ประเทศอินโดนีเซีย : “เราเสนอโปรโมชั่นพิเศษและสิทธิประโยชน์ซึ่งมีประโยชน์ต่อทั้งลูกค้าและศูนย์การค้าของเรา เราหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะส่งผลในเชิงบวกต่อธุรกิจโดยรวมในภูมิภาค”

    Ms. Annie Lee, Senior Director & Head of Mall Marketing, TAIPEI 101 ไต้หวัน : “ความร่วมมือในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการค้าปลีก แต่ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของไทยและไต้หวันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศได้รับชัยชนะทั้งสองฝ่าย”

    Mr. Yao Yuan, Principle Director of CRM and Lifestyle Project Director, Fosun, สาธารณรัฐประชาชนจีน : “เราทั้งสองฝ่ายมีวิสัยทัศน์ในการนำเสนอประสบการณ์ระดับเยี่ยมยอดให้กับลูกค้าในระดับสากล ปฏิเสธไม่ได้ว่าความร่วมมือกับสยามพิวรรธน์จะช่วยเพิ่มความสะดวกและมอบประสบการณ์ที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของเรา”

    Global Privilege Partnership ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการมอบประสบการณ์แปลกใหม่ที่หลากหลายและมีความพิเศษที่จะทำให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ในเจเนอเรชั่น Y และ Z ได้อย่างตรงใจ พร้อมไฮไลท์สำคัญคือ การที่สมาชิก VIZ ไปแสดงสถานะสมาชิกเพื่อรับสิทธิประโยชน์ในห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และโรงแรมในเครือกลุ่มพันธมิตร จะได้รับสิทธิพิเศษเสมือนเป็นลูกค้าระดับบนของห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และโรงแรมในเครือ ในขณะเดียวกัน แคมเปญนี้จะสามารถดึงดูดนักช้อปสมาชิกของพันธมิตร ค้าปลีกจากประเทศต่างๆ เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้ากลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้เช่นกัน

    นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ยังได้ร่วมมือกับอาลีเพย์, Klook และ ทริปดอทคอม กรุ๊ป ที่เชื่อมั่นในศักยภายของกลุ่ม ซึ่งเกิดจากบทพิสูจน์ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และยอดจับจ่ายของฐานลูกค้านักช้อปสูงเป็นอันดับต้นของประเทศ ได้ร่วมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์เหนือระดับให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและทั่วโลก

    นายสิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ด้าน Global Merchant Partnership ประจำประเทศไทย บริษัท แอนท์กรุ๊ป (Ant Group) เจ้าของแพลตฟอร์มรับชำระเงินอาลีเพย์ : “เราเห็นสัญญาณที่ดีมากของการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทย ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของโลก เราทำงานร่วมกับพันธมิตรในประเทศ อย่างเช่น สยามพิวรรธน์ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จะโปรโมทให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับเลือก และเพิ่ม Visibility เพื่อให้ธุรกิจในประเทศเป็นที่รู้จักมากขึ้น สยามพิวรรธน์และแอนท์ กรุ๊ป มีพันธกิจร่วมกันที่จะเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านการใช้นวัตกรรมดิจิทัล เราหวังว่าจะได้ร่วมกันต้อนรับนักท่องเที่ยวมากขึ้นในเดือนที่จะถึงนี้ เพื่อสร้างปรากฏการณ์ Amazing Thailand”

    Michael Liu, VP, global shopping business, ทริปดอทคอมกรุ๊ป (Trip.com Group) ผู้นำการให้บริการด้านการจองการท่องเที่ยวออนไลน์ระดับโลก: “Trip.com มีความพร้อมที่จะสนับสนุนการสร้าง Ecosystem ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาพลิกฟื้นและเติบโตอีกครั้ง ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างกลุ่มสยามพิวรรธน์ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและ นักเดินทางจากทั่วโลก”

    Klook แพลตฟอร์มในการจองกิจกรรมและประสบการณ์การท่องเที่ยว กล่าวว่า ความร่วมมือกับสยามพิวรรธน์เป็นการสร้างปรากฏการณ์ Global Ecosystem ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มออนไลน์ Klook ซึ่งรวบรวมกิจกรรมและบริการการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมาไว้ในที่เดียว เพื่อมอบประสบการณ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และเชื่อมั่นว่าการผนึกกำลังครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยโดยรวม

    เชื่อมประสบการณ์และสิทธิประโยชน์สู่ ONESIAM SuperApp กลไกสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ

    นายปานเทพย์ นิลสินธพ ประธานบริหารสายงานประสบการณ์ลูกค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า ONESIAM SuperApp เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการเติบโตของกลุ่มอย่างก้าวกระโดด เป็น gateway สู่ศูนย์การค้าในเครือของเราทั้งหมดที่ช่วยยกระดับการสร้างประสบการณ์และบริการลูกค้า และสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจของร้านค้าและพันธมิตรจากหลายอุตสาหกรรมที่ร่วมใน Global Ecosystem และยังเป็นแอปพลิเคชั่นของศูนย์การค้าแห่งเดียวที่มีสกุลเงินดิจิทัล หรือ VIZ Coins สำหรับการจับจ่ายใช้สอยใน 6 ศูนย์การค้าในเครือของสยามพิวรรธน์ รวมถึงร้านค้าและพันธมิตรที่ร่วมรายการ

    ONESIAM SuperApp มีจุดเด่นดังนี้

    1. ยกระดับประสบการณ์ให้กับลูกค้าสมาชิกที่สามารถค้นพบกิจกรรม และโปรโมชั่นของศูนย์การค้าได้ก่อนใคร และในปีนี้ได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ SNAP & COLLECT เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น ลูกค้าสามารถสะสมยอดใช้จ่ายด้วยการถ่ายรูปใบเสร็จ เพื่อรับ VIZ Coins ผ่าน แอปพลิเคชัน

    2. เปิดประตูสู่ความพิเศษของศูนย์การค้าในเครือทั้งหมดด้วย Exclusive benefits | Exclusive experience | Exclusive promotions โดย ONESIAM SuperApp นำเสนอสิทธิพิเศษแบบ เอ็กซ์คลูซีฟ ที่จัดมาเพื่อสมาชิกโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ แคมเปญ Clash de Cartier ร่วมกับคาร์เทียร์ (Cartier) ที่กลายเป็น talk of the town ไปจนถึงประสบการณ์ สิทธิพิเศษที่คัดสรรสำหรับลูกค้า ONESIAM โดยเฉพาะ ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีเครือข่ายทั้งในประเทศและทั่วโลก อย่างสายการบินชั้นนำของโลก การเปิดตัว ONESIAM Travel Club คอมมูนิตี้สำหรับลักซ์ซูรี่ไลฟ์สไตล์ และการผนึกกำลังร่วมกับ โรงพยาบาลชั้นนำ เป็นต้น

    3. เข้าถึงความหลากหลายของ luxury brand ที่มากที่สุดในประเทศไทย เป็นคนแรกที่สามารถซื้อสินค้าที่อยู่ในกระแสความนิยม ของสะสม เช่น Carlyn, Mardi, emis, LEGO ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ทุกที่ ทุกเวลา สำหรับฟีเจอร์ที่ได้รับความสนใจต่อเนื่อง อาทิ Luxury Chat and Shop เลือกช้อปสินค้าแบรนด์ดังระดับโลก ในศูนย์การค้าในเครือ การคัดสรรสินค้า Collection พิเศษ

    นับตั้งแต่เปิดตัวในปลายปี 2564 ONESIAM SuperApp ประสบความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าให้เติบโตต่อเนื่อง จากการตอบรับแคมเปญการตลาดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่สร้างสรรค์และโดนใจลูกค้า ทำให้มีสมาชิกมากกว่า 1.7 ล้านราย จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านคน เติบโต 102% เทียบกับช่วงก่อนเปิดตัวในปลายปี 2564 ขณะที่จำนวน Active member เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 2 เท่า และมียอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวราว 60,000 บาทต่อคน ทำให้ยอดการใช้จ่ายต่อครั้ง (per transaction) มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 15,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานการจับจ่ายในศูนย์การค้าโดยเฉลี่ย

    ในปี 2567 ที่จะมาถึงนี้ ONESIAM SuperApp จะมอบบริการและสิทธิพิเศษที่เหนือระดับไปอีกขั้น พร้อมขยาย VIZ Coin ให้ออกไปไกลกว่าธุรกิจรีเทล เชื่อมโยงประสบการณ์ช้อปปิ้งทั้งโลกจริงและโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อ

    ]]>
    1448197
    สยามพิวรรธน์ร่วมงาน Huawei Connect 2023 ณ นครเซี่ยงไฮ้ แสดงวิสัยทัศน์ “การจัดการข้อมูลสู่การสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย” https://positioningmag.com/1447474 Wed, 11 Oct 2023 11:00:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1447474

    แรงกระเพื่อมของโลกดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และโลกเสมือนจริง กำลังพลิกโฉมโลกธุรกิจค้าปลีกที่ใช้พลังข้อมูลเป็นตัวเปลี่ยนเกม โดยการทำความเข้าใจ “Customer Journey” ทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลจนเข้าใจความต้องการของลูกค้า เกิดการส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายและก้าวเข้าสู่การพลิกโฉมหน้าธุรกิจค้าปลีกแห่งอนาคตให้กับ สยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้พัฒนา Global Destination และนำหน้าวงการด้วยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจในยุค Intelligence Experience Economy

    คุณไวยศ ปิยะกุลวรวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนลูกค้าและธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวในงาน Huawei Connect 2023 จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ในหัวข้อ “Data Drives New Retail For A Better Shopping Experience” ว่า ในฐานะผู้พัฒนาศูนย์การค้า Luxury ชั้นนำของไทย ไม่ว่าจะเป็น สยามพารากอน ไอคอนสยาม สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามพรีเมียมเอาท์เล็ต

    “เรามุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศบนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก การเปิดตัว ONESIAM SuperApp ที่ยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้ง โปรแกรมสะสมคะแนน และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ หัวใจของความสำเร็จอยู่ที่ความพึงพอใจของร้านค้าผู้เช่า เราเชื่อว่าความสำเร็จของร้านค้าผู้เช่าก็เป็นของเราเช่นกัน บริษัทจึงนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อรักษามาตรฐานให้การเป็นผู้นำ และส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง”

    ในธุรกิจค้าปลีกที่กำลังก้าวจากยุคของการใช้ออมนิชาแนลและบิ๊กดาต้าทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า เข้าสู่ยุคของ “The Intelligent Experience Economy” ที่เทคโนโลยี Generative AI, Web3, VR, AR และ MR กำลังมาบรรจบกัน โดยมีข้อมูลที่ขับเคลื่อนการโต้ตอบอุปกรณ์ตั้งแต่หน้าจอแสดงผลไปจนถึง IoT ส่งข้อความ และข้อเสนอเฉพาะบุคคลในเวลาที่เหมาะสม สร้างการเดินทางออนไลน์สู่ออฟไลน์ที่ราบรื่น ฉะนั้นบทบาทสำคัญของข้อมูลจึงช่วยปักหมุดประสบการณ์ที่มีค่าให้ลูกค้า การรวมรวมข้อมูลไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้อมูลจำเพาะรายบุคคลเท่านั้น แต่ยังต้องเชื่อมโยงทั้งหมดเข้าด้วยกัน รวมถึงการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลในสังคมด้วย “ข้อมูลอยู่ทุกหนทุกแห่ง” นี้ ข้อมูลไม่ใช่เครื่องมืออีกต่อไป แต่เป็นรากฐานสำคัญที่เราสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าอย่างตรงใจ และสร้างความผูกพันให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง

    ข้อมูลตัวเปลี่ยนเกม

    คุณบุญเลิศ สินสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทสยามพิวรรธน์ จำกัด เสริมว่า “เราได้ใช้ข้อมูลเพื่อปฏิวัติการช้อปปิ้งออนไลน์ และยกระดับการบริการลูกค้าแบบออฟไลน์ เริ่มต้นด้วยข้อมูลจากแอปพลิเคชันซึ่งทำให้เราเข้าใจ customer journey รวมถึงโปรแกรมสะสมคะแนน และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ สำหรับการโต้ตอบแบบออฟไลน์จะเก็บข้อมูลจากระบบ POS และเคาน์เตอร์เซอร์วิสของเรา แม้แต่ในการโฆษณายังปรับใช้ Google Analytics และเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อการสร้างปฎิสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าไปจนการตัดสินใจซื้อสินค้า เชื่อมโยงโลกออนไลน์และโลกออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ อาทิ การเชื่อมหมายเลขบัตรสะสมคะแนนกับป้ายทะเบียนทำให้จดจำลูกค้าได้เมื่อพวกเขาขับรถเข้าศูนย์การค้า หรือเยี่ยมชมร้านค้า สยามพิวรรธน์เชื่อมโยงข้อมูลจุดต่างๆ เหล่านี้ connected the dot และหาความสัมพันธ์ของข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูล และสร้างเรื่องราวความสำเร็จสำหรับผู้เช่าและพันธมิตรของเรา โลกทุกวันนี้เข้าสู่การเดินทางที่ข้อมูลมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เราไม่ได้เพียงเก็บรวบรวมข้อมูล แต่เราสร้างอีโคซิมเต็มของข้อมูลโดยทำความเข้าใจ ปรับตัว และนวัตกรรมที่เป็นหัวใจของพันธกิจ”

    การเชื่อมโยงข้อมูลจะทำให้บริษัทสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในทุกจุดบริการ และส่งมอบประสบการณ์ออนไลน์ออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ ทั้งสร้างความสำเร็จให้ผู้เช่าและพันธมิตร รวมถึงระบุโอกาสการสร้างรายได้และการเติบโตของบริษัท เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ สยามพิวรรธน์เชื่อในพลังของ 5 Vs ประกอบด้วย: Volume: ปริมาณของข้อมูลที่สร้างขึ้นทุกวินาที Value: คุณค่าของข้อมูลที่นำมาใช้ประโยชน์ได้จริง Variety: ความหลากหลายของข้อมูลที่ครอบคลุม Velocity: ความเร็วให้ทันต่อการตัดสินใจ และ Veracity: ความจริงของข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้

    Customer Journey การเดินทางอันน่าจดจำ

    ข้อมูลทำให้เห็นเรื่องราวที่ซับซ้อนของพฤติกรรมลูกค้า มองเห็นรูปแบบ ความชอบ และคาดการณ์การกระทำในอนาคตโดยอิงจากการโต้ตอบในอดีต นำเสนอการตลาด และการส่งเสริมการขายเฉพาะบุคคลได้ด้วยการวิเคราะห์ความชอบของลูกค้า ทำให้สามารถปรับแต่งข้อเสนอที่ตรงใจในระดับบุคคลได้ ไม่ใช่แค่การขายสินค้าเท่านั้นแต่เป็นสร้างการเชื่อมโยงที่มีความหมาย ลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้าอีกต่อไป แต่เริ่มต้นการเดินทางสู่โลกการช้อปปิ้งที่น่าจดจำ และสุดท้ายข้อมูลยังช่วยกระตุ้นกิจกรรม และการส่งเสริมการขายแบบไดนามิกของทำให้ระบุเวลา สถานที่ และผู้ชมที่เหมาะสมสำหรับแคมเปญได้ การคาดเดาจะถูกแทนที่ด้วยความแม่นยำ “เพื่อให้มั่นใจว่าความพยายามของเราให้ผลลัพธ์สูงสุด”

    ลายนิ้วมือดิจิทัล

    ลายนิ้วมือดิจิทัลบ่งบอกพฤติกรรม ความชอบ และการโต้ตอบกับแบรนด์ เป็นเอกลักษณ์ที่กำหนดลูกค้าแต่ละรายในระบบนิเวศ ด้วยอัลกอริทึ่มส์ SVD (Singular Value Decomposition) ที่วิเคราะห์ข้อมูลออกเป็นองค์ประกอบหลัก ช่วยให้เข้าใจโครงสร้างพื้นฐานของพฤติกรรมลูกค้า และ K-Mean ที่หากลุ่มเฉพาะที่มีลักษณะโดดเด่นของลูกค้า ทำให้เกิดการตอบสนองเฉพาะบุคคลในทุกปฎิสัมพันธ์ตามความชอบของปัจเจก และคาดการณ์การกระทำในอนาคต รวมถึงการเพิ่มประสบการณ์ และประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า การโต้ตอบกับลูกค้าทุกครั้งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเป็นส่วนตัวและความเข้าใจ ลูกค้าคือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา เป็นเข็มทิศที่จัดหาสิ่งที่ลูกค้าปรารถนา อนาคตของการค้าปลีกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งนวัตกรรม เทคโนโลยี และการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางกำลังมาบรรจบกัน เป็นการขับเคลื่อนโดยข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการค้ายุคใหม่

    Data-First Thinking

    แม้ว่าผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจะมีมากมายมหาศาลภายใต้แนวทาง “Data-First Thinking” แต่ก็มีความท้าทายทั้งการรักษาความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย ที่จำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างระมัดระวัง การบูรณาการเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่มีคุณภาพและความถูกต้อง “Data-First” ไม่ใช่แค่กลยุทธ์เท่านั้น แต่เป็นมายด์เซ็ทที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในการยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง ข้อมูลคือตัวแปรสำคัญในการกำหนดรูปแบบการค้าปลีก ซึ่งเริ่มจากการรวบรวมและการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยเหตุนี้ ผู้ค้าปลีกจึงได้รับข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า ความชอบ และแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งส่วนบุคคลที่ตอบสนองรสนิยมของแต่ละบุคคลได้ นอกจากนี้ยังปูทางไปสู่การจับจ่ายในหลายช่องทางที่ไร้รอยต่อ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน

    สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาศูนย์การค้าที่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก เชื่อว่า ข้อมูล ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น แต่เป็นเข็มทิศนำทางการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดีขึ้น ช่วยให้ผู้ค้าปลีกมีข้อมูลในการตัดสินใจ ปรับแต่งกลยุทธ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อความสำเร็จ และยังเป็นเข็มทิศอันทรงพลังที่จะนำทางเราไปสู่การสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือความคาดหมาย

    ]]>
    1447474
    สยามพิวรรธน์เปิดวิสัยทัศน์บุกเบิกเทคโนโลยีสู่ Web 3.0 สร้างประสบการณ์ ตอบไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากำลังซื้อสูงในโลกอนาคต https://positioningmag.com/1441971 Thu, 24 Aug 2023 10:00:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1441971

    Techsauce Global Summit 2023 งานประชุมด้านเทคโนโลยีชั้นนำสุดยิ่งใหญ่ของเอเชียในปีนี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำอย่าง สยามพิวรรธน์ ประกาศตัวเป็นรีเทลเทค (RetailTech) รายแรกของไทยที่พัฒนา Global Ecosystem ด้วยการจับมือกับพันธมิตรและคู่ค้าชั้นนำที่มีอยู่ทั่วโลก ร่วมสร้างปรากฏการณ์ผ่าน ONESIAM SuperApp พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ Web 3.0 สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายทั้งในโลกจริง โลกดิจิทัล และโลกเสมือนจริง เพื่อมัดใจฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศ และครองความเป็นหนึ่งในใจผู้คนทั่วโลก

    ชญาภา จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ พิงค์แล็บ จำกัด (The Pink Lab) ที่ปรึกษาด้าน Web 3.0 และโมโมริ ฮิราบายาชิ Business Development Web 3.0 บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ NFTs in the Retail World ในงาน Techsauce Global Summit 2023 อัพเดทเทรนด์การนำเทคโนโลยี Web 3.0 มาสร้างประสบการณ์ลูกค้าของกลุ่ม Luxury Retail และแชร์ความสำเร็จของโครงการ Web 3.0 ที่สยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับพันธมิตร สร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ชญาภา จูตระกูล ที่ปรึกษาด้าน Web 3.0 ของสยามพิวรรธน์ เปิดเผยว่า เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสร้างผลกระทบมหาศาลต่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยเฉพาะช่วงโควิด -19 ที่ทำให้เกิดช่องทางใหม่ที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้รู้สึกจดจำ และตื่นเต้นเมื่อเห็นสินค้าที่จำหน่ายในศูนย์การค้าจริง ผ่านโลกดิจิทัลแค่ปลายนิ้ว โดยธุรกิจรีเทลใช้เทคโนโลยี Web 3.0 เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่หลากหลาย โดยเฉพาะการทำ NFT (Non-Fungible Token) ที่จะเชื่อมโยงโลกคู่ขนานออนไลน์และโลกออฟไลน์ และโลกเสมือนจริง หรือ Metaverse ซึ่งข้อมูลเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ และวางแผนกลยุทธ์ที่จะเข้าถึงพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้า โดยเฉพาะการใช้ NFT ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ในรูปแบบที่หลากหลาย รวมถึงตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล การ สร้าง Loyalty Program รีวอร์ดที่แบรนด์ต่างๆ จะนำไปใช้มัดใจลูกค้าผ่านการเชื่อมโยงด้านอารมณ์ แบบ Emotional Engagement

    “Web 3.0 เป็นปรากฏการณ์ระดับโลก ที่สามารถต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้และเป็นอนาคตของไลฟ์สไตล์ และเทรนด์ในการใช้ชีวิตในวันข้างหน้า ที่เปลี่ยนวิธีการใช้ Social media ไปอย่างสิ้นเชิงทำให้แบรนด์เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้ง Web 3.0 และ NFT จึงไม่ใช่เป็นเรื่องสำหรับคนรุ่นใหม่ Gen Z เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคน Gen Y และ Gen X ที่ดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของทุกคน และสื่อสารกันผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น รวมถึง Luxury Brands ต่างๆ ที่นำเทคโนโลยี Web 3 มาใช้เพื่อเข้าถึงและ engage กับลูกค้าเจนใหม่ๆ ” ชญาภากล่าว

    เดอะ พิงค์แล็บ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ดิจิทัล ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing Community และ Loyalty Program Web 3.0 และ นวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยหัวใจของการสร้างธุรกิจที่นำเสนอด้วยความสนุกนำ Data ในโลกออนไลน์มาสร้างแบรนด์และนำเสนอประสบการณ์มิติใหม่ให้กับวงการ ได้ร่วมมือกับสยามพิวรรธน์ในการผนึกกำลังกับ ZEPETO พันธมิตรระดับโลกสร้างประสบการณ์แบบใหม่ในโลกดิจิทัล ด้วยการจัดงานสงกรานต์ผ่าน Metaverse เป็นครั้งแรกของโลก สร้างประสบการณ์ แบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) ทำให้นักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศสงกรานต์ได้อย่างไร้พรมแดน และการนำแฟชั่นไทยสู่โลกเสมือนจริง ในงาน Bangkok International Fashion Week 2022 ที่สยามพารากอน ลูกค้าสามารถเลือกช้อปคอลเลกชันล่าสุดจากรันเวย์เพื่อสวมใส่จริง และซื้อไอเทมเดียวกันเพื่อแต่งตัวอวตาร์บนโลก Metaverse และแชร์ผ่านโลกโซเชียลมีเดีย

    โมโมริ ฮิราบายาชิ Business Development Web 3.0 บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า สยามพิวรรธน์เป็นผู้นำในตลาดลักซ์ซูรี ที่มีแนวคิดการร่วมสร้าง หรือ Co-creation ร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมทั้งร้านค้าแบรนด์ต่างๆ ที่เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า และผู้บริโภค สยามพิวรรธน์จึงมุ่งสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายในพื้นที่ของศูนย์ฯ ที่เป็น Physical World และเชื่อมโยงประสบการณ์ไปสู่โลกดิจิทัล และโลกเสมือนใน Metaverse ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ที่เป็น Tech Savvy

    นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์มีพันธกิจสำคัญในการนำอัตลักษณ์ไทยชนะใจคนทั่วโลก (Win the World for Thailand) ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับ NIMIT และ Cryptomind ในโครงการ Fight for The Future เปิดตัวดิจิทัลแลนด์ของคนไทยบน Sandbox แพลตฟอร์มโลกเสมือน โดยจำลองพื้นที่ของศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ มาเป็นต้นแบบในการออกแบบดีไซน์ พร้อมนำเสนอเกมสนุกสุดมันด้วยกีฬามวยไทย (Thai Boxing) นำความเป็นไทยสู่เวทีโลก ถือเป็นบริษัทแห่งแรกที่สร้างประสบการณ์มวยไทยในแพลตฟอร์มโลกเสมือน

    “สิ่งสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จคือการร่วมกันแชร์ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระหว่างบริษัท Web 3.0 และบริษัทที่ไม่ได้ทำ Web 3.0 การมีพันธมิตรจากหลากหลายธุรกิจจะทำให้สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ Web 3.0 ได้อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้อย่างแท้จริง” โมโมริกล่าว

    Web 3.0 เป็นการสื่อสารอินเตอร์เน็ทยุคใหม่ที่ไร้ตัวกลาง ผู้ใช้งานสื่อสารกันเองได้โดยตรง และมีบล็อกเชนที่ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว โดยเมตาเวิร์สเป็นแพลตฟอร์มในโลก 3.0 ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การช้อปปิ้งโดยเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือน ในขณะที่ NFT เป็นเครื่องมือการตลาดยุคใหม่ที่จะส่งเสริมการเอ็นเกจกับลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล ใช้ได้ในหลายรูปแบบ ทั้งการสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ให้สิทธิประโยชน์พร้อมใช้ได้ทันที หรือใช้ยืนยันตัวตนการเป็นสมาชิกเพื่อเข้าถึงคอมมูนิตี้ที่จัดไว้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น

    สยามพิวรรธน์เป็นบริษัทชั้นนำที่ได้พลิกโฉมหน้าธุรกิจค้าปลีกไทย บุกเบิกสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ตอกย้ำบทบาทการเป็น RetailTech รายแรกของไทยที่พัฒนา Global Ecosystem ด้วยการร่วมมือกัพันธมิตรและคู่ค้าทั้งในประเทศและระดับโลกมากกว่า 50 องค์กร ในกว่า 13 อุตสาหกรรม

    อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดยุคใหม่ ภาคธุรกิจจะต้องเข้าใจเทคโนโลยีเหล่านี้ มองหาโอกาส และเป้าหมายที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมใน Value Chain ของอีโคซิสเต็มดังกล่าว และคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพราะไม่ใช่ทุกธุรกิจจะสามารถคว้าโอกาสและรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ จึงควรมองภาพแบบระยะยาวที่จะเข้าถึงลูกค้าในรูปแบบใหม่ๆ ในอนาคต แต่ไม่ทิ้งฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ ทั้งการสร้างรายได้จากระบบนิเวศในรูปแบบใหม่ ยกระดับการแข่งขันกับแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วโลกได้” ชญาภา กล่าวเสริม

    ]]>
    1441971
    สยามพิวรรธน์ จับมือ พิวอท ดิจิทัล ขยายศักยภาพนวัตกรรมดิจิทัล จัดตั้ง บริษัทเอ็กซ์โพเนนเชียล ขับเคลื่อนดิจิทัลแพลตฟอร์มสู่การเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด https://positioningmag.com/1436800 Fri, 07 Jul 2023 11:00:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1436800

    สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เดินหน้าขยายศักยภาพด้านนวัตกรรมดิจิทัลด้วยการร่วมทุนครั้งสำคัญกับพิวอท ดิจิทัล (Pivot Digital Pte Ltd.) บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล จัดตั้งบริษัท เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด (Xponential Co. Ltd.) เพื่อขับเคลื่อนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ไปได้ไกลแบบไร้ข้อจำกัด และพัฒนา ONESIAM SuperApp ให้สามารถตอบรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายและไร้รอยต่อ ทั้งกับลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ

    นายอักเซล วินเทอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พิวอท ดิจิทัล จำกัด เปิดเผยว่า การร่วมทุนจัดตั้ง เอ็กซ์โพเนนเชียล แสดงถึงความมุ่งมั่นของสยามพิวรรธน์ ในการขับเคลื่อนและพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม ให้ไปได้ไกลกว่าเดิม ขยายขีดความสามารถเพื่อรองรับการเติบโตทุกรูปแบบในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เอ็กซ์โพเนนเชียลจึงเป็นการผสานพลังศักยภาพที่มีเอกลักษณ์ของสยามพิวรรธน์ในฐานะสุดยอดผู้พัฒนาศูนย์การค้าลักซ์ซูรี่ และมีชื่อเสียงระดับโลกในการนำเสนอที่สุดของความเป็นเลิศ และความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นของพิวอท ดิจิทัล ในเทคโนโลยีด้าน RetailTech และ FinTech

    “ความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์ของเอ็กซ์โพเนนเชียล เกิดจากศักยภาพที่จะทรานสฟอร์ม และยกระดับภูมิทัศน์ทางธุรกิจดิจิทัล เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา ONESIAM SuperApp ให้เติบโตในรูปแบบใหม่ โดยนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของพิวอท ดิจิทัล ที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) ที่ทันสมัยที่สุด เรามุ่งเป้าที่จะนำเสนอบริการที่ปรึกษาที่ไปไกลกว่าสยามพิวรรธน์ โดยจะขยายธุรกิจ ไปในอุตสาหกรรมทั่วโลก ดังนั้น เอ็กซ์โพเนนเชียล จึงนำเสนอนวัตกรรมดิจิทัลที่ล้ำสมัยในธุรกิจรีเทล ซึ่งจะปฏิวัติการสร้างประสบการณ์ลูกค้าและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ”

    ทั้งนี้ เอ็กซ์โพเนนเชียลได้นำความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจค้าปลีก หรือ RetailTech และเทคโนโลยีด้านการเงิน FinTech พร้อมทั้งความชำนาญด้าน AI และเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อนำเสนอบริการที่สร้างคุณค่าและแตกต่างสำหรับธุรกิจ Luxury mall ระดับโลก

    การจัดตั้งบริษัทเอ็กซ์โพเนนเชียล ถือเป็นก้าวสำคัญของสยามพิวรรธน์ ในการเสริมแกร่งกลยุทธ์ดิจิทัลที่จะต่อยอดความสำเร็จจากการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนธุรกิจที่เชื่อมโยงประสบการณ์จากโลก Physical สู่โลกดิจิทัล หลังการเปิดตัว ONESIAM SuperApp เมื่อปลายปี 2564 ที่มุ่งพัฒนาระบบนิเวศธุรกิจระดับโลก ผ่านการผนึกกำลังกับพันธมิตรธุรกิจ ร้านค้าผู้เช่า และแบรนด์จากทั่วโลก สร้างความแข็งแกร่งจากฐานลูกค้าที่ทรงพลังทั้งในประเทศและต่างประเทศ เดินหน้าสู่โลกใหม่ของธุรกิจที่สามารถขยายไปได้อย่างไร้พรมแดน แอปดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจ ทำให้สยามพิวรรธน์สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่และครองความเป็นผู้นำในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในประเทศไทย

    พิวอท ดิจิทัล เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์ในการทรานสฟอร์มธุรกิจในด้านเทคโนโลยีค้าปลีก (RetailTech) และเทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech) ซึ่งตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ และมีกลุ่มลูกค้าชั้นนำระดับโลก มีศูนย์กลางดำเนินงานระดับโลกในบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม และล่าสุดที่กรุงเทพฯ บริษัทมีชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้และการสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัล รวมทั้งดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาและวางระบบเทคโนโลยี โดยมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านการพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ในช่องทางการค้าปลีกแบบออมนิแชนแนล บริการทางการเงิน และการค้าปลีก ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่มีบทบาทสำคัญต่อการร่วมทุนในครั้งนี้ ที่จะพลิกเกมธุรกิจของสยามพิวรรธน์ต่อไปในอนาคต

    ]]>
    1436800
    สยามพารากอนยกระดับแลนด์มาร์คโลกครั้งใหญ่ สร้างแพลตฟอร์มต้นแบบสู่โลกแห่งอนาคต https://positioningmag.com/1419159 Wed, 15 Feb 2023 10:00:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1419159
  • สยามพารากอน เดินหน้าทรานสฟอร์ม โครงการแลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางมหานครกรุงเทพฯ สู่การกำหนดนิยามใหม่ของที่สุดแห่งความล้ำเลิศที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ
  •  เนรมิตแพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (Global Prototype) ที่จะเป็นเวทีให้ผู้ที่เป็นสุดยอดฝีมือในทุกๆ ด้านมาร่วม Co-create เพื่อสร้างผลงานและเติมเต็มยกระดับชีวิตของผู้คนให้ได้รับประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย
  • เชื่อมต่อแพลตฟอร์มทั้งบนพื้นที่โลกกายภาพ (Physical World) โลกดิจิทัล (Digital World) และโลกเสมือนจริง (Metaverse) เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ เพื่อนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตในโลกอนาคตที่มีความมหัศจรรย์น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด
  •  สร้างปรากฏการณ์ยอดขายปี 2565 ทะลุเป้า รายได้เติบโตกว่า 50% จากปี 2564 และสูงกว่าปี 2562 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่มากเท่าเดิม ชูกลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ยอดขายเติบโตติดอันดับโลก ย้ำตำแหน่งผู้นำที่ครองฐานลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย

  • สยามพารากอน เดินหน้าทรานสฟอร์มโครงการแลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางมหานคร สู่การกำหนดนิยามใหม่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ ตอกย้ำภาพลักษณ์สยามพารากอนในฐานะจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) ที่มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยใช้งบประมาณลงทุน 3,000 ล้านบาท เริ่มต้นดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมา จะใช้เวลาภายใน 18 เดือนและมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางปีของปี 2567 พร้อมประกาศความสำเร็จผลประกอบการปี 2565 รายได้ทะลุเป้าและสูงกว่าปี 2562 โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดติดอันดับโลก ย้ำความเป็นผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย

    นางสาวแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา สยามพารากอนเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลกที่ได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการระดับ World-class Global Destination ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้โครงการสำคัญๆในประเทศต่างๆ เป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด และเป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอสำคัญของกรุงเทพฯ ที่แทรกซึมอยู่ในทุกจังหวะการเต้นของชีพจรของมหานครแห่งนี้ มอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย เพื่อเสริมสร้างสีสันและชีวิตชีวาให้กับชีวิตประจำวันของคนเมือง อีกทั้งสยามพารากอนยังเป็น showcase ที่นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของคนกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”

    “สยามพารากอนเป็นเวทีที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทั้งกลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์และผู้ประกอบการไทย สามารถนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด สินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ทุกประเภทได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถสร้างยอดขายและมีอัตราเติบโตที่โดดเด่นสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ส่งผลให้สยามพารากอนเป็น Destination ของลักซ์ซูรี่แบรนด์อย่างแท้จริง อีกทั้งแบรนด์ดังๆ ได้ทยอยเปิดพื้นที่เป็น “Pop-up Store” เพื่อขาย ลิมิเต็ดคอลเลคชั่นพิเศษเป็นครั้งแรกในเอเชียอยู่เสมอ สร้างความตื่นตาตื่นใจตอบโจทย์ประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า และตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้สยามพารากอนยังได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 6 ของสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวเช็คอินสูงสุดในโลกและเป็นสถานที่เดียวในไทยและเอเชียที่ติดอันดับ 1 ใน 10 จากการจัดอันดับของ Facebook Review ในปี 2558 (Global Legendary Landmark)”

    “สยามพารากอนประสบความสำเร็จอย่างสูงมากในปี 2565 สามารถสร้างรายได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ เติบโตมากกว่า 50% จากปี 2564 และสูงกว่าปี 2562 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มีจำนวนมากเทียบเท่าก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิค-19 โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ที่สามารถสร้างยอดขายและมีอัตราเติบโตที่สูงตลอดระยะเวลา 3 ปี สะท้อนจากบรรดาแบรนด์หรูมุ่งหน้าตลาดเมืองไทยเป็นเวทีสำคัญในการเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์ หรือคอลเลคชั่นใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการขยายพื้นที่และขยายสาขามากขึ้น สอดรับกับแผนการลงทุนปรับโฉมใหม่ของสยามพารากอน เพื่อต้อนรับลักซ์ซูรี่แบรนด์และแบรนด์ใหม่ๆ อีกนับร้อยแบรนด์ที่อยู่ในรายชื่อ Waiting List โดยหลายแบรนด์จะเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและมีแบรนด์ที่ Exclusive เฉพาะที่สยามพารากอนเท่านั้น เหล่านี้ล้วนตอกย้ำความเป็นเพชรน้ำงามของ Luxury Destination ระดับโลกอย่างแท้จริง”

    นางสาวแคโรไลน์ กล่าวเสริมว่า “เราจะรังสรรค์แพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (Global Prototype) ที่จะเป็นเวทีให้ผู้ที่เป็นสุดยอดฝีมือในทุกๆ ด้านมาร่วมกัน Co-create เพื่อสร้างผลงานและประสบการณ์ระดับโลกเหนือความคาดหมาย ซึ่งโครงการใหม่ที่เรากำลังเดินหน้าอยู่นี้จะเป็นโครงการ ที่เรียกว่า ‘The Next Level Evolution’ ที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของวงการค้าปลีกอีกครั้ง เนื่องจากเรากำลัง ทรานสฟอร์ม ‘สยามพารากอน’ ทั้งอาคารบนพื้นที่ 5 แสนตารางเมตรใจกลางมหานครย่านสยาม นับได้ว่าเป็นการพลิกเกมเปลี่ยนโลกหรือ Game Changing อย่างแท้จริงที่จะส่งผลให้ประเทศไทยผงาดบนเวทีโลกและครองความเป็นที่หนึ่งในใจของคนทั้งโลกอย่างต่อเนื่อง”

    ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2564 สยามพารากอนได้เริ่มดำเนินการปรับโฉม ’พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์’ ไปแล้วหลายชั้นซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 นี้ ดังนั้นสยามพารากอนจึงทุ่มงบประมาณเพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงพื้นที่ส่วนศูนย์การค้าทั้งหมด โดยได้เริ่มต้นดำเนินการแล้วเป็นส่วนๆ ตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมา จะใช้เวลาภายใน 18 เดือนจากนี้ไปและมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2567


    วิสัยทัศน์สำคัญสู่การทรานสฟอร์ม ‘สยามพารากอน’

    นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการทรานสฟอร์มสยามพารากอนในครั้งนี้ว่า “นโยบายในการทำธุรกิจของเราคือ Collaborate to Win เราเชื่อมั่นในศักยภาพไร้ขีดจำกัดของอีโค่ซิสเต็มที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ที่จะมาร่วมผนึกกำลังเราสร้างธุรกิจให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ ฉีกกฎและตำราเดิมๆ ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สยามพารากอนจะไม่ได้เป็นเพียงศูนย์การค้าอีกต่อไป แต่จะเป็นแพลตฟอร์มเวทีระดับโลก ที่ให้ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายแขนง ทั้งสถาปนิก วิศวกร มัณฑนากร ผู้เชี่ยวชาญ ด้านศิลปะ เทคโนโลยี รวมทั้งผนึกกำลังกับผู้ประกอบการลักซ์ซูรี่แบรนด์ทั่วโลก และผู้ประกอบการคนไทย มาร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) เชื่อมต่อแพลตฟอร์มทั้งบนพื้นที่ โลกกายภาพ (Physical World) โลกดิจิทัล (Digital World) ผ่าน OneSiam SuperApp และโลกเสมือนจริง (Metaverse) เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ เพื่อเติมเต็มยกระดับชีวิตของผู้คนและผู้ที่มาเยือนให้ได้รับประสบการณ์ระดับโลกที่เหนือความคาดหมายในทุกมิติอย่างสมบูรณ์แบบ”

    “สยามพารากอนตอกย้ำแนวคิด การร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) บนแพลตฟอร์มนี้ เพื่อนำมาซึ่งการพัฒนาและการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน เพราะทุกคนจะร่วมสร้างนิยามใหม่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศร่วมกับผู้ประกอบการหลายราย ซึ่งได้เคยสร้าง Flagship Store ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้ว ใน Next Level ก็จะรังสรรค์ Iconic Store ที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย”

    “สยามพารากอนได้ต้อนรับคนทั่วโลกที่มาเยี่ยมเยือนทุกวัน เราจึงมุ่งหวังที่จะให้สยามพารากอนเป็นสถานที่สร้างคอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก เราจึงทำการศึกษาลงลึกกับกลุ่มลูกค้าที่กว้างที่สุด ให้สามารถตอบสนอง ความเชื่อ ความปรารถนาและความสนใจที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างแต่ตรงใจ ดังนั้นการทรานสฟอร์มสยามพารากอนในครั้งนี้ เราจะสร้างปรากฏการณ์แรกของการเปิดให้ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสยามพารากอนอีกด้วย ดังนั้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ สยามพารากอนจะเปิดพื้นที่สาธารณะ เพื่อรับฟังไอเดียของลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติทั่วโลก ผ่านโครงการ Wall of Wonders ในรูปแบบ Interactive Wall ที่ลูกค้าสามารถแนะนำว่า ปรารถนาจะได้เห็นความแปลกใหม่ในรูปแบบใดในสยามพารากอน โดยจะได้นำความคิดเห็นจากผู้คนทั่วโลกมารังสรรค์พื้นที่ต่างๆ ให้มีความหลากหลายตรงกับความสนใจของผู้คนในแต่ละคอมมูนิตี้ผสานกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในมิติต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง ทั้งนี้จะแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดโครงการ Wall of Wonders ในเร็วๆ นี้” นางมยุรี กล่าว


    ที่สุดแห่งองค์ประกอบสำคัญของ สยามพารากอน – The Next Evolution

    สยามพารากอน ยกระดับโครงการแลนด์มารค์ระดับโลก  สู่การกำหนดนิยามใหม่ที่สุดแห่งความล้ำเลิศที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ ด้วยองค์ประกอบสำคัญต่างๆ ดังนี้

    1.จักรวาลใหม่แห่งการใช้ชีวิตสุดล้ำ (Universe of World’s Excellence)

    สยามพารากอนพลิกโฉมการพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘การร่วมกัน รังสรรค์’ หรือ Co-creation & Collaboration กับพันธมิตรผู้มีวิสัยทัศน์เป็นเลิศในทุกอุตสาหกรรม  เพื่อร่วมกันสร้างมหาปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 21  และนำเสนอสิ่งที่โดดเด่นล้ำยุคที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ใดในวงการ   ค้าปลีกของโลกอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ยกระดับให้สยามพารากอนเป็นโครงการระดับโลกที่สร้างมาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศอย่างแท้จริง

    2.ประตูสู่ดินแดนใหม่ที่โลกดิจิทัลบรรจบกับโลกจริง (Gateway to Next Frontier Where Digital World Meets Physical World)

    สยามพารากอนจะเป็น Co-Creative แพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (New Global Prototype) ในการผสานเชื่อมโยงโลกศูนย์การค้าที่ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างที่จับต้องได้  เข้ากับจินตนาการของโลกดิจิทัล และโลกเสมือนจริงได้อย่างกลมกลืนและไร้รอยต่อ  เพื่อนำเสนอรูปแบบการชีวิตในโลกอนาคตแบบเหนือความคาดหมายและมอบประสบการณ์ทางกายภาพที่สอดประสานกับโลกเสมือนจริงที่มีความมหัศจรรย์น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแม็กเนตสำคัญที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมเยือน

    3.มิติใหม่แห่งความลักซ์ชูรี่ (Celebration of Inclusive Luxury)

    นับตั้งแต่การเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่า  17 ปี สยามพารากอนตอกย้ำความเป็นผู้นำครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย  และเป็น Destination ของ Luxury Brand ที่รวมแบรนด์ชั้นนำทุกประเภทสมบูรณ์แบบที่สุด การพลิกโฉมประวัติศาสตร์ในครั้งนี้สยามพารากอนจะรังสรรค์นิยามใหม่ของความลักซ์ซูรี่ในทุกมิติของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต (Luxury for All) สำหรับคนทุกเพศทุกวัย ทุกอายุ ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นในด้านแฟชั่น       ไลฟ์สไตล์ การรับประทานอาหาร การเดินทางท่องเที่ยว เทคโนโลยี การเงิน และประสบการณ์ เฉพาะตัวอย่างอื่นๆ ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกในโลกที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงความลักซ์ซูรี่ได้ในหลากหลายมิติ ของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและสามารถเป็นการให้รางวัลชีวิตได้ในสถานที่แห่งนี้

    4.ผู้นำแห่งการสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณภาพ (Pioneering Quality Life Experience)

    ส่วนสำคัญหนึ่งของโครงการทรานสฟอร์มสยามพารากอนครั้งนี้ รวมไปถึงสร้างโมเดลต้นแบบในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ โดยการร่วมสร้างสรรค์กับพันธมิตรออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่ที่จะผสานเอาศิลปะ เทคโนโลยี และธรรมชาติเข้ามาอยู่ในโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทาง เพื่อทำให้โลกใบนี้สะอาด จัดระบบในเรื่องการใช้พลังงานโดยการใช้นวัตกรรมต้นแบบในเรื่องต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตสู่ความยั่งยืน ยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีและวิถีชีวิตให้กับชุมชนและโลกในรูปแบบเหนือจินตนาการ สามารถใช้เวลาอยู่ในสยามพารากอนได้เสมือนเป็นบ้านหลังที่สองท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ และการควบคุมอุณหภูมิและอากาศที่มีสุขอนามัย รวมทั้งการบริหารก๊าซเรือนกระจกที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย

    5.คอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก (The Paragon Community of Global Citizens)

    การยกระดับอีกมิติของการนำเสนอประสบการณ์เหนือความคาดหมายทั้งในศูนย์การค้าและในโลกดิจิทัล   จะเพิ่มศักยภาพให้สยามพารากอนขยายฐานลูกค้าสู่ Global Citizen ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและเป็นการเติบโตด้วยความมั่นคง อย่างยั่งยืน โดยการสร้างพื้นที่ใหม่ๆเป็น cluster ที่มีสินค้า บริการ และกิจกรรมที่ตรงใจของคอมมูนิตี้ต่างๆ โดยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสร้างคอมมิวนิตี้นั้นๆ ให้สามารถแบ่งปันความคิด ความสนใจ หรือทำกิจกรรมและสร้างงานร่วมกันค้นพบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างธุรกิจร่วมกันได้จากทุกที่บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

    นอกจากนี้ สยามพารากอนกำลังพัฒนาคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่อีกหลายรูปแบบ เพื่อนำมาใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทยและครั้งแรกในโลก ซึ่งทั้งหมดจะเป็นไฮไลต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโครงการ ทรานสฟอร์มสู่วิถีแห่งโลกอนาคต

    “จากผลการวิจัยทุกครั้งพบว่า สยามพารากอนเป็นที่หนึ่งในใจของคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด  และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คนกรุงเทพฯ ทุกเจนเนอเรชั่นรู้สึกใกล้ชิดและคุ้นเคย ความผูกพันที่ยาวนานกับลูกค้าและกับผู้มาเยือนจากทั่วโลกตลอดช่วงเวลาเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา คือ อัตลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นของสยามพารากอน  ดังนั้นในขณะที่เราเดินหน้าการทรานสฟอร์มครั้งสำคัญ ไปสู่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศ ที่เต็มไปด้วยคำมั่นในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ซึ่งน่าตื่นเต้นมากมาย แต่เราจะยังคงดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการดูแลและการต้อนรับที่อบอุ่นเสมือนบ้านหลังที่สองของลูกค้าของเรา อันเป็นหลักสำคัญที่ทำให้สยามพารากอนเป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลกอย่างไม่มีโครงการใดเสมอเหมือนตลอดมา”  นางสาวแคโรไลน์ กล่าวในตอนท้าย

    ]]>
    1419159
    กลุ่มวันสยาม มอบความสุขส่งท้ายปี ด้วย Global Collaboration https://positioningmag.com/1407615 Fri, 11 Nov 2022 02:00:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1407615

    กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการระดับโลก สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และ สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ผนึกกำลังชูกลยุทธ์ Top of Mind ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้า และผู้คนจากทั่วโลก เตรียมต้อนรับนักช้อปและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยมหาปรากฎการณ์ฉลองเทศกาลแห่งความสุขหลากหลายรูปแบบยิ่งใหญ่ระดับโลก ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของเหล่านักช้อปทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

    ในเทศกาลแห่งความสุขปีนี้ กลุ่มวันสยามจัดเต็มด้วยโกลบอลคอลลาบอเรชั่น ในงาน  “ONESIAM Siam Smiley Celebration Infinite Happiness” ตอกย้ำการเป็นดินแดนแห่งสยามมืองยิ้มที่พร้อมมอบความสุขและให้การต้อนรับนักช้อปทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็น The one and only largest collaboration in south east Asia หรือ การร่วมคอลลาบอเรชั่นกับ Smiley ครั้งยิ่งใหญ่แห่งแรกแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกฉียงใต้

    โดยระหว่างวันนี้ – 31 ธ.ค. 65 ทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ทั่วทั้งพื้นที่จะได้รับการตกแต่งด้วย Smiley อย่างงดงามมหัศจรรย์ ทั้งต้นคริสต์มาสและอินสตอลเลชั่นอาร์ทที่ตกแต่งตามคาแรกเตอร์ของแต่ละศูนย์การค้า สร้างความสุขและรอยยิ้มในทุกพื้นที่ พร้อมให้ถ่ายภาพได้อย่างสนุก แชร์ความสุขให้ผู้คนทั่วโลก สำหรับ สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ จัดนิทรรศการในแบบ Idea Avenue ที่ร่วม Collaboration กับ Smiley ในรูปแบต่างๆ และยังมีสินค้าสุดพิเศษจากร้านค้าแบรนด์ดังในแบบ Absolute Siam ที่มาร่วมคอลลาบอเรชั่นกับ Smiley มีจำหน่ายเฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่

    ด้าน สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ตอกย้ำการเป็น Everday Gifts ศูนย์รวมของขวัญสำหรับทุกคนทุกโอกาส ในปีนี้ระดมสินค้าที่คัดสรรเหมาะกับเป็นของขวัญสุดพิเศษ ทั้งสินค้าแฟชั่น สินค้ารักษ์โลกจาก Ecotopia  ผลงานสร้างสรรค์จากนักออกแบบและช่างฝีมือชาวไทย ที่ ODS. และ ICONCRAFT และร้าน LOFT ที่ระดมของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ไว้มากมาย

    สำหรับ สยามพารากอน ศูนย์การค้าลักซ์ชูรี่ระดับโลกและศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มอบของขวัญพิเศษด้วย Exclusive Luxury Brand Pop-up ของแบรนด์ระดับโลกมากมาย นำเสนอคอลเลคชั่นสุดพิเศษแห่งแรกแห่งเดียวที่สยามพารากอน พร้อมจัดมหกรรมความบันเทิงใน Siam Smiley Celebration Infinite Happiness ตลอดเดือนธันวาคมนี้ และยังมี Siam Paragon Countdown 2023 ร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังแบบจัดเต็ม

    กลยุทธ์ Top of Mind ในการสร้างมหาปรากฏการณ์มหัศจรรย์ความสุขส่งท้ายปีของเดสติเนชั่นระดับโลก ทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม รวมทั้ง ONESIAM SuperApp ได้ตอกย้ำครองความเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าและผู้คนจากทั่วโลก  ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายและขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซั่นนี้

    #SIAMPIWAT #ONESIAM #SiamSmileyCelebrationInfiniteHappiness

    ]]>
    1407615
    ถอดบทเรียนพลิกเกมของสยามพิวรรธน์ สู่กลยุทธ์ Above the Ocean ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน บนกลยุทธ์ที่อยู่เหนือความเปลี่ยนแปลง https://positioningmag.com/1403647 Tue, 11 Oct 2022 02:00:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1403647

    สยามพิวรรธน์ดำเนินธุรกิจอยู่คู่กับประเทศไทยมายาวนานกว่า 63 ปี ผ่านวิกฤติมาทุกรูปแบบ โดยเฉพาะย่านสยามซึ่งเป็นสมรภูมิทางการค้าและสมรภูมิทุกชนิด แต่สามารถนำพาธุรกิจของคู่ค้าและร้านค้าทั้งหมดให้ผ่านพ้นทุกวิกฤตด้วยดีมาได้ทุกยุคสมัย ในช่วงสถานการณ์โควิดสยามพิวรรธน์เองก็ได้รับผลกระทบมากมายไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ แต่แน่นอนว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาได้กลายเป็นอาวุธครบมือที่นำพาธุรกิจให้ก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้มาได้อย่างสง่างามอีกครั้งหนึ่ง

    การที่ผู้บริหารจะต้องประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นทุกสถานการณ์เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่การพลิกเกมธุรกิจให้ก้าวไปสู่อนาคตได้เป็นเรื่องที่ท้าทายยิ่งกว่า แม่ทัพใหญ่แห่งกลุ่มสยามพิวรรธน์ ชฎาทิพ จูตระกูล ได้พิสูจน์ฝีมือในฐานะผู้นำที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่วิกฤติก็สามารถพลิกฟื้นทำกำไรให้กลับมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าวิกฤติโควิดครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

    นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เปิดเผยว่า โควิดที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์กลับมองว่าเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ และได้ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากวิกฤตครั้งก่อนๆ ผนวกกับการตัดสินใจปรับตัวปรับองค์กรอย่างรวดเร็วทำให้สามารถรับมือครั้งนี้ได้ ส่งผลให้ผลประกอบการใน 9 เดือนแรกของปี 2565 เติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปี2562 ก่อนสถานการณ์โควิด ทั้งๆที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามา

    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์ ไม่ได้ตั้งเป้าอยากเป็นที่หนึ่งเรื่องของจำนวนศูนย์การค้า และไม่ได้ปรารถนาเป็นที่หนึ่งเรื่องการครองตลาดให้มีพื้นที่ที่มากที่สุด แต่สยามพิวรรธน์กลับใช้กลยุทธ์ Top of Mind 4 ด้าน ที่นำพาธุรกิจให้ยืนหยัดมาได้เสมอถึงวันนี้ ได้แก่:

    1. ที่หนึ่งในใจผู้คน ไม่ใช่แค่เฉพาะคนไทยแต่เป็นของคนทั้งโลก ซึ่งเป้าหมายนี้เป็นจริงได้เมื่อ สยามพารากอนติดอันดับ 6 บน Global Facebook เป็นสถานที่มีผู้เช็คอินมากที่สุดของโลก และยังเป็นสถานที่ที่มีคนเช็คอินมากที่สุดบน Instagram ทุกศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวหลายประเทศว่าเป็นศูนย์การค้าที่พวกเขาชื่นชมมากที่สุดตลอดมา

    2. ที่หนึ่งในใจคู่ค้า สยามพิวรรธน์ยึดมั่นในหน้าที่ที่ต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้คู่ค้าร้านค้านับหมื่นรายในศูนย์การค้าประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง มีบทพิสูจน์ว่าสามารถสร้าง traffic โดยรวมในศูนย์การค้าได้มากกว่า 100 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า 25 ล้านคน ส่งผลให้ร้านค้าหลายแบรนด์ที่เปิดสาขากับสยามพิวรรธน์มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และแบรนด์จากต่างประเทศก็มียอดขายติดอันดับ TOP 10 ของโลกเมื่อเปรียบเทียบกับสาขาอื่นๆ

    3. เป็นที่หนึ่งในใจพันธมิตรทางธุรกิจ ศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ ไม่ใช่เพียงแค่ทำหน้าที่ค้าขายแต่ยังทำหน้าที่เป็นเวทีสร้างแบรนด์ สร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรมากมาย จับมือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนสร้างต้นแบบธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกันสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้าของพันธมิตรต่างๆ ตลอดมา

    4. เป็นที่หนึ่งของโลก เพราะศูนย์การค้าคือแม่เหล็กสำคัญที่เสริมสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เป็น shopping paradise ที่จะดึงดูดคนทั้งโลก สยามพิวรรธน์จึงมุ่งมั่นสร้างโครงการที่จะแข่งขันกับโครงการใหญ่อื่นๆทั่วโลก เพื่อสร้างความยอมรับนับถือในวงการศูนย์การค้าโลกและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ทุกศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์จึงคว้ารางวัลที่หนึ่งจากองค์กรระดับโลกมากกว่า 40 รางวัล ในสาขาต่างๆซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยมีศูนย์การค้าใดในประเทศและในภูมิภาคเอเซียได้รับรางวัลและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากเช่นนี้

    “เราไม่ได้มีศูนย์การค้าในหลายจังหวัดหรือทั่วประเทศแต่เรามีเพียง 4 ศูนย์การค้ากับอีก 1 Luxury Outlet Mall ที่ล้วนได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นที่ 1 ของโลกในสาขาต่างๆ จากองค์กรและสมาคมระดับโลกมากมาย อาทิ ด้านนวัตกรรมและการออกแบบ การปฏิวัติวงการค้าปลีก ด้านการตลาดและสร้างประสบการณ์ระดับโลก การเป็นโครงการที่สนับสนุนธุรกิจรายย่อย SME ที่ดีที่สุด การเป็น green Leadership การพัฒนาความยั่งยืน และการสร้างจุดหมายปลายทางที่เป็นที่ปรารถนามากที่สุดของคนทั่วโลก ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่าคนไทยสามารถทำได้ และในวันนี้ผู้พัฒนาศูนย์การค้าในประเทศต่างๆ อยากเดินทางมาเพื่อเรียนรู้จากเรา”


    “เป้าหมายในการทำธุรกิจของสยามพิวรรธน์มิใช่เพื่อเรื่องผลตอบแทนเท่านั้น แต่เราต้องสร้างมิตรภาพเหนือกาลเวลากับคู่ค้าและพันธมิตร รางวัลชีวิตของพนักงานของเรา คือ การที่ได้เป็นบ้านหลังที่สองของผู้คน ดูแลและเติมเต็มความปรารถนาและประสบการณ์ชีวิตให้แก่ลูกค้าอย่างดีที่สุดในทุกสถานการณ์ และเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างความสำเร็จให้กับคู่ค้าและพันธมิตร ด้วยกลยุทธ์และพันธสัญญาทั้งสิ้นนี้ ส่งผลให้ 7 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์สามารถสร้างยอดขายเติบโตขึ้น 5 เท่า บริษัทย่อยของเราเติบโตจาก 32 บริษัทขึ้นมาเป็น 48 บริษัท ท่ามกลางวิกฤตโควิดเรายังสามารถเปิดธุรกิจใหม่ Siam Premium Outlets Bangkok ซึ่งเป็น luxury outlet mall แห่งแรกในประเทศไทยในกลางปี 2564 และพัฒนา Digital Platform ใหม่คือ ONESIAM SuperApp สำเร็จได้ภายใน 13 เดือน” นางชฎาทิพ จูตระกูล กล่าว


    ความท้าทายภายหลังสถานการณ์โควิดเป็นสิ่งที่หลายองค์กรต่างขบคิดและเผชิญหน้าอยู่ เช่นเดียวกับสยามพิวรรธน์ที่วางกลยุทธ์ใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้บริหารสยามพิวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อ 10 ปีก่อนสยามพิวรรธน์ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มการถูก disrupt จาก digital evolution จึงปรับกลยุทธ์ให้ทุกศูนย์การค้าสร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่แตกต่างแต่โดนใจ สร้าง emotional engagement ด้วยกลยุทธ์ emotional marketing อีกทั้ง ได้เริ่มทำ digital transformation ภายในบริษัทต่อเนื่องมา และสร้าง data bank ข้อมูลทั้งหมดสำเร็จในต้นปี 2022 เมื่อเกิดวิกฤตโควิดจึงพร้อมที่จะรับมือและสร้าง digital platform เพื่อบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว จากนี้ไปสยามพิวรรธน์จะพลิกเกมใหม่ด้วยแนวคิด Rise above and beyond คือ การสร้างกลยุทธ์ที่จะก้าวข้ามทุกความสำเร็จที่เคยทำได้ ก้าวข้ามทุกการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ดี และท้ายสุดคือ ก้าวข้ามทุกความท้าทายให้ได้

    กลยุทธ์ใหม่ของสยามพิวรรธน์ คือ การเปลี่ยนจาก Blue Ocean Strategy ไปสู่ Above the Ocean Strategy ซึ่งก็คือ กลยุทธ์ที่อยู่เหนือการเปลี่ยนแปลง โดยถอยตัวเองออกมาและมองธุรกิจในบริบทใหม่ ทำลายกรอบเดิมๆในการทำธุรกิจให้หมดสิ้นไป พร้อมสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆบนคุณค่าที่เป็นต้นทุนของเราอย่างไม่มีข้อจำกัด ดำเนินธุรกิจโดยปราศจากคู่แข่งแต่เปี่ยมไปด้วยพันธมิตร ร่วมกันสร้าง Ecosystem เพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าและยั่งยืน สร้างโลกใหม่ที่ไร้พรมแดน และเปี่ยมด้วยโอกาสหลากหลายมิติ

    สิ่งที่สยามพิวรรธน์จะทำต่อไปภายใต้ Above the Ocean Strategy คือ การต่อยอดจากการสร้างคุณค่าไปสู่มูลค่า

    1. ด้วยการแบ่งปันประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ทุกฝ่าย (Sharing Economy) ผ่าน ONESIAM SuperApp และ VIZ COINS

    2. ผนึกกำลังกับพันธมิตร (Co-Creation) สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ทั้ง Physical Platform และ Digital Platform เพื่อขยายสู่การรองรับ Global Citizen

    3. ร่วมมือเพื่อเติบโตไปด้วยกัน (Collaboration To Win) โดยสร้างระบบนิเวศแห่งความสำเร็จร่วมกับ 50 พันธมิตร 13 อุตสาหกรรมที่ได้เริ่มทำงานร่วมกันแล้ว

    4. สร้างความยั่งยืนผ่านทุกกระบวนการและในทุกธุรกิจที่ดำเนินการ (Sustainable Value In Process) เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันในทุกภาคส่วน ทั้งกับผู้คน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ สร้างนิยามและบุกเบิกธุรกิจใหม่ทั้งในรูปแบบ สินค้าบริการ และแพลตฟอร์มส่งเสริมให้เกิดโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูและส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับคนรุ่นหลังสืบต่อไป


    “Above the Ocean Strategy ในแบบสยามพิวรรธน์ จะทำให้เราสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนกับทุกภาคส่วน ทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกสู่สังคมชุมชน สิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำประเทศไทยสู่ความยิ่งใหญ่บนเวทีโลก” ชฎาทิพ กล่าวทิ้งท้าย

     

    ]]>
    1403647
    สยามพิวรรธน์ ผนึกพันธมิตรระดับโลก ZEPETO บุกเมตาเวิร์ส เชื่อมประสบการณ์โลกคู่ขนานสู่ปรากฎการณ์แฟชั่นในโลกเสมือนจริง https://positioningmag.com/1402290 Thu, 29 Sep 2022 04:00:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1402290
  •  สยามพิวรรธน์ขับเคลื่อนประสบการณ์ Metaverse มุ่งสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายหลากมิติทั้งโลกจริงและโลกเสมือนให้กับฐานลูกค้าอันทรงพลังทั่วโลก
  •  เสริมแกร่งระบบนิเวศดิจิทัลให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยการผนึกกำลังกับ ZEPETO พันธมิตรระดับโลก บุกเบิกนำอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวล้ำนำเทรนด์ ไปสู่โลกเสมือนจริง
  •  ตอกย้ำความเป็น Trend Setter ของเมืองไทยมาตลอดกว่าครึ่งศตวรรษ และเป็นผู้บุกเบิกสนับสนุนและส่งเสริมความสามารถเยาวชนไทยในอุตสาหกรรมแฟชั่นสู่เวทีโลกทุกยุคทุกสมัย
  • สร้างสรรค์ความสนุกสุดล้ำที่ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วม เลือกช้อปคอลเลคชั่นล่าสุดจากรันเวย์ BIFW 2022 เพื่อสวมใส่จริง และแต่งตัวอวตาร์บนโลก Metaverse ได้พร้อมกัน

  • บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ไอคอนสยามและสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เสริมระบบนิเวศดิจิทัลให้แกร่งขึ้นไปอีกขั้น ผนึกพันธมิตรระดับโลก ZEPETO ที่มีฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่กว่า 300 ล้านคนทั่วโลก ขับเคลื่อนประสบการณ์ Metaverse บุกเบิกนำอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวล้ำนำเทรนด์ ไปสู่โลกเสมือนจริง ด้วยปรากฎการณ์ไลฟ์สไตล์สุดล้ำรูปแบบใหม่ในงาน Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2022 (BIFW 2022) ที่ลูกค้าสามารถเลือกช้อปคอลเลคชั่นล่าสุดจากรันเวย์ เพื่อสวมใส่จริง และใช้ไอเทมเดียวกันแต่งตัวอวตาร์บนโลก Metaverse ได้พร้อมกัน

    ชนิสา แก้วเรือน Head of Corporate Strategy Group ผู้บริหารกลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ การมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้ลูกค้า คือกลยุทธ์หลักที่ขับเคลื่อนให้ศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนทั่วโลกต่างปักหมุดให้เป็นสถานที่ที่ต้องมาเยือนจนมีฐานลูกค้าที่ทรงพลังทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แต่ด้วยทุกวันนี้ที่เทคโนโลยีก้าวล้ำและสามารถเชื่อมต่อผู้คนที่อยู่ในแต่ละมุมโลกสู่จุดหมายปลายทางในอีกมุมโลกอย่างง่ายได้ มุมมองของลูกค้ามีต่อคอมมูนิตี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากจากสถานที่จริง สู่พื้นที่คอมมูนิตี้บนโลกดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้น สยามพิวรรธน์จึงได้สร้างสรรค์วิธีการใหม่ๆ ในการมอบประสบการณ์หลากมิติทั้งโลกจริงและโลกเสมือนให้กับลูกค้าทั่วโลก โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ได้สร้างระบบนิเวศดิจิทัล พร้อมกับการเปิดตัว ONESIAM SuperApp ให้เป็นศูนย์รวมจักรวาลแห่งประสบการณ์ไว้ในหนึ่งเดียว เชื่อมสู่ลูกค้าของเราให้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา

    สยามพิวรรธน์ ได้ต่อยอดความสำเร็จที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในการผลักดันและสนับสนุนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสู่เวทีโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมอบโอกาสให้นักออกแบบดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ได้มีเวทีในการนำเสนอพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงการบ่มเพาะด้านสายงานวิชาชีพ สร้างดีไซเนอร์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่วงการแฟชั่นไทยมาโดยตลอด ในฐานะศูนย์กลางแห่งแฟชั่นที่นำเสนอเทรนด์สุดล้ำในทุกยุคสมัยตลอดระยะเวลากว่า 48 ปี ของสยามเซ็นเตอร์ ในยุคสมัยใหม่ที่โลกดิจิตอลมีความสำคัญต่อทุกๆ อุตสหกรรม สยามพิวรรธน์ จึงร่วมมือกับ ZEPETO พันธมิตรด้านเมตาเวิร์สระดับโลก นำเสนอความแปลกใหม่และแตกต่างผ่านโลกของแฟชั่นซึ่งเป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญของสยามพิวรรธน์ ชูผลงานความสามารถของเยาวชนไทยในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้ก้าวไปอีกขั้นให้ล้ำนำเทรนด์ไปสู่โลกเสมือนจริง พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วมได้เรียนรู้โลกแฟชั่นแห่งอนาคตไปด้วยกัน”

    ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์ ผนึกกำลังกับพันธมิตรระดับโลก ZEPETO ผู้นำแพลตฟอร์มสร้าง Avatar คาแรกเตอร์ เสมือนจริงแบบ 3D สุดฮอต ที่มีสมาชิกผู้ใช้งานกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก โดยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 สยามพิวรรธน์เป็นองค์กรในประเทศไทยที่ได้ร่วมทำโปรเจค ONESIAM x ZEPETO Metaverse Songkran Festival ส่งมอบความสุขและความหรรษาฉลองประเพณีไทยและสาดน้ำสงกรานต์พร้อมกันทั่วโลก ซึ่งได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก และยังคงร่วมกันเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์คู่ขนานให้ออกมาสมบูรณ์แบบ โดยล่าสุดได้สร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สไตล์สุดล้ำรูปแบบใหม่ในงานแฟชั่นระดับโลก Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2022 หรือ BIFW 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 25 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยนำเสนอแฟชั่นทั้งบนรันเวย์จริงและในโลกเสมือนจริง ที่ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์และซื้อสินค้าได้บนโลกทั้งสองใบ

    Mr. Heesuk Ricky Kang, the Head of Business, ZEPETO กล่าวว่า “รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับผู้บุกเบิกในวงการรีเทลระดับโลกอย่างสยามพิวรรธน์ เราได้ร่วมกันเชื่อมต่อแฟชั่นโลกเสมือนและแฟชั่นโลกจริงเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ผมหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการนำประสบการณ์หลากหลายในโลกเสมือนจริงสู่โลกออฟไลน์ ที่ ZEPETO และสยามพิวรรธน์จะร่วมมือกันพัฒนาต่อไปอีกในอนาคต”

    สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้เป็นความตั้งใจสร้างคอมมูนิตี้สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ Gen Z ซึ่งภายในงาน BIFW นอกเหนือจากแกรนด์รันเวย์ที่นำเสนอแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ชั้นนำแล้ว ไฮไลท์สำคัญของงาน คือ การเชื่อมโลกแฟชั่นของโลกจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน โดยได้เชิญชวนนักออกแบบดีไซน์ ออกแบบชุดสำหรับ Avatar ในแพลตฟอร์ม ZEPETO โดยผลงานที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากจะจำหน่ายใน Metaverse แล้ว ยังได้รับการออกแบบตัดเย็บเป็นชุดจริง และได้ร่วมโชว์บนรันเวย์ BIFW 2022 ในโชว์ของ Absolute Siam Presented by Zepeto: Sculpture Studio x Waterandother x Fill in the Bag

    ขณะเดียวกันได้นำชุดจากแฟชั่นโชว์ Absolute Siam ที่ร่วมเดินในรันเวย์มาแปลงเป็นชุดสำหรับ Avatar บน ZEPETO ซึ่งผู้ร่วมเล่นสามารถเลือกซื้อชุดแล้วแต่งอวตาร์ในคอลเลคชั่นล่าสุดของ Absolute Siam ได้เช่นเดียวกับบนโลกจริง นอกจากนี้ วันสยาม และ ZEPETO ยังได้นำ KOL ที่มีแฟนคลับบนโลกจริง เข้าสู่โลกเสมือน โดยมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เล่นร่วมกับ KOL อย่างใกล้ชิด ทั้งหมดนี้คือปรากฏการณ์แฟชั่นโชว์ที่ตั้งใจนำเสนอทั้งแฟชั่นโชว์ที่สัมผัสได้จริงบนรันเวย์ที่ยิ่งใหญ่ ไปพร้อมกับการจัดแฟชั่นโชว์ใน Metaverse ที่มีผู้ร่วมชมจากทั่วโลก

    การร่วมมือกับ ZEPETO พันธมิตรระดับโลก สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของสยามพิวรรธน์ คือ

    1) ส่งมอบจักรวาลแห่งประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุด สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่มีอยู่ทั่วโลกทุกที่ทุกเวลา ซึ่งกิจกรรมที่คัดสรรมาต้องเติมเต็มไลฟ์สไตล์ สร้างปฏิสัมพันธ์ เสริมความสนุก ทำให้ทุกคนได้โลดแล่นไปกับประสบการณ์ที่แตกต่าง ในรูปแบบใหม่ๆ ช่วยยกระดับความพึงพอใจสูงสุด และครองความเป็นหนึ่งในใจลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ

    2) ขยายฐานและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ Generation Z โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบ Gamification

    3) สร้างรายได้จากระบบนิเวศในรูปแบบใหม่ๆ ยกระดับการแข่งขันกับแพลตฟอร์มต่างๆที่มีอยู่ทั่วโลกได้ และทำให้สยามพิวรรธน์ก้าวไปได้ไกลกว่าโมเดลธุรกิจหลักเป็นอีกก้าวสำคัญของสยามพิวรรธน์ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งระบบนิเวศดิจิทัล และ นำอัตลักษณ์ไทยพิชิตใจคนทั้งโลก (Win The World for Thailand) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชั่น ONESIAM SuperApp และ ZEPETO

    ]]>
    1402290