pet parent – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 05 Jun 2025 09:01:46 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Pet Influencer เทรนด์การตลาดมาแรง เมื่อสัตว์เลี้ยง = คนในครอบครัว และเหล่าบรรดาทาสก็พร้อมเปย์ https://positioningmag.com/1524679 Thu, 05 Jun 2025 08:47:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1524679 ตอนนี้ ‘Pet Influencer’ การนำสัตว์เลี้ยงชื่อดังมาทำหน้าที่สร้างพลังทางการตลาดกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันไม่ได้จำกัดการใช้กับสินค้าของสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ยังขยายอิทธิพลในวงกว้างสู่แบรนด์ในแวดวงอื่น ๆ ทั้งการเงิน, อสังหาฯ, สินค้าไฮเทค, รถยนต์, อาหารและเครื่องดื่มของคน ฯลฯ

 

ในปี 2567 เทรนด์สัตว์เลี้ยงในไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีการประเมินมูลค่าไว้ที่ 74,800 ล้านบาท และปีนี้คาดการณ์จะเติบโตขึ้นอีกราว 15-20 %

 

เหตุผลที่ทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงมาแรง ก็เนื่องมาจากเทรนด์ ‘Pet parents’ การที่คนจำนวนมากหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแทนการมีลูก และวางพวกเขาเปรียบเสมือนสมาชิกคนนึงในครอบครัวที่ต้องใส่ใจดูแล รวมถึงสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็น อาหาร การรักษา และเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งกายและใจให้กับบรรดาสัตว์เลี้ยงของตัวเอง

 

จากเทรนด์ที่เกิดขึ้น ทำให้หลายแบรนด์มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ นำเหล่าสัตว์เลี้ยงชื่อดังที่ได้รับความนิยมและมีฐานแฟนจำนวนมาก มาทำหน้าที่ Pet Influencer รับรีวิวสินค้าและโปรโมตกิจกรรมทางการตลาด โดยประเด็นน่าสนใจ คือ บรรดา Pet Influencer ไม่ได้รับเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ขยายวงกว้างไปสู่แวดวงอื่น ๆ ทั้งบริการทางการเงิน, อสังหาฯ, เครื่องสำอาง, รถยนต์, อุปกรณ์สินค้าไฮเทคอย่างมือถือ เครื่องดูดฝุ่น กล้องวงจรปิด  ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่มของคน ฯลฯ

 

“ตลาดครีเอเตอร์ในไทยมีมูลค่า 45,000 ล้านบาท ปีนี้คาดจะเติบโต 25% โดย Pet Influencer เป็นหนึ่งเซกเมนต์ที่มาแรง ตามเทรนด์ Pet Parents ที่คนเลี้ยงสัตว์เป็นลูกไปแล้ว เพราะไม่ใช่แค่ความน่ารัก แต่ยังมาจากการพัฒนาคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์จากเจ้าของที่ทำงานร่วมกับแบรนด์ และเป็นด่านแรกที่จะฟีดแบ็กทันทีว่า สื่อสารแบบนี้เวิร์คหรือไม่เวิร์ค” สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด กล่าว

 

สำหรับหลักการเลือกใช้ Pet Influencer ก็ไม่ต่างไปจากอินฟลูฯ ที่เป็นคน คือ 

 

1.ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือที่ต้องสอดคล้องกับแบรนด์หรือเหมาะสมกับแคมเปญ

2.จำนวนผู้ติดตามที่ต้องสัมพันธ์กันกับคุณภาพด้านการเข้าถึง (Reach) ที่จะสามารถสร้างเอนเกจเมนต์ และบรรลุเป้าหมายทางการตลาดให้กับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

สำหรับ Pet Influencer ชื่อดังของไทยในปัจจุบันมีอยู่มากมาย ในที่นี้เราขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น

 

Japan and Friends

 

Japan and Friends ครอบครัวน้องหมาสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ ‘เจได’, ‘ใจดี’ และ ‘จุ๊มเหม่ง’ ที่มาพร้อมวลีฮิต “จุ๊มเหม่งมีอาราย” ซึ่งนอกจากความน่ารักแล้ว ทางเจ้าของเพจยังสร้างคาแรกเตอร์ ‘หมาพูดได้’ จนกลายเป็นขวัญใจของชาวโซเชียล มีสินค้ามาให้รีวิวหลากหลาย แถมมีแบรนด์เป็นของตัวเองและเวลาไปร่วมงานที่ไหน เรียกว่า ห้างแตกก็ว่าได้

 

จำนวนผู้ติดตาม

Facebook 1.3 M

IG 2.3 M

TikTok 4.4 M

Gluta_Story

 

Gluta Story ซึ่งเริ่มจากแพชชั่นของ ‘ยอร์ช-สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์’ ที่ต้องการทำคอนเทนต์เพื่อตีแผ่ให้สังคมได้รู้ว่า หมาบ้านธรรมดา ๆ ร่างกายไม่สมบูรณ์แบบ หากเลี้ยงและให้ความรักก็มีความน่ารัก ความฉลาดไม่แพ้กับหมาพันธุ์ ถึงแม้ตอนนี้กลูต้าจะกลับดาวหมาไปแล้ว แต่พลังของ Gluta Story ก็ไม่ลดลง ส่วนแรงแค่ไหน เอาเป็นว่า มีสินค้าเป็นของตัวเอง และสามารถจัดงานแฟร์ใหญ่มีผู้เข้าร่วมแบบถล่มทลายกันเลยทีเดียว 

 

จำนวนผู้ติดตาม

Facebook 2.1 M

IG 554 K

TikTok 2.1 M

 

cielmeowmun_ชิเอลแมวมึน

 

ชิเอลแมวมึน ครอบครัวแมวสก็อตติชที่มัดใจผู้คนด้วยความน่ารักของ ‘ชิเอล’ และ ‘คิรัวร์’ เมื่อมารวมกับการเปิดครีเอตทำคอนเทนต์ที่เรียกเสียงหัวเราะจากการสวมบทบาทต่าง ๆ ก็ทำให้คนโดนตกไปมากมาย 

 

จำนวนผู้ติดตาม

Facebook 1.3 M

IG 707 K

TikTok 5.3 M

คิ้วคือมงกฏของแค

 

‘น้องแค’ น้องหมาชิวาว่าเน็ตไอดอลสาวที่มีเอกลักษณ์จากการใส่วิก แต่งตัว และโพสต์ท่าถ่ายภาพแบบมือโปร      ที่สำคัญไม่ว่าจะเกิดไวรัลอะไรน้องแคแทบไม่เคยพลาดจะร่วมกระแสนั้นจนกลายเป็นไวรัลสุดน่ารักบนโลกโซเชียล 

 

จำนวนผู้ติดตาม

Facebook 3.4 แสน

IG 358 แสน

TikTok 2.3 ล้าน

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Pet Influencer ชื่อดังของไทยตอนนี้ และหลายคนอาจเข้าใจว่า ผู้ติดตามเซเลบดังเหล่านี้เต้องเป็นคนรักสัตว์เท่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลายของเจ้าของ ทั้งไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยว ทำอาหาร ไปจนถึงให้ความรู้ และทำกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม 

 

เมื่อรวมกับความน่ารักและการวางคาแรกเตอร์ให้มีความตลก ก็สามารถทำให้คนทั่วไปรู้สึกผูกพันและใกล้ชิดกับ Pet Influencer จนกลายเป็นแฟนคลับและฐานลูกค้าสำคัญให้กับธุรกิจได้เช่นกัน

 

ที่มาภาพ : เพจ Japan and Friends, คิ้วคือมงกฏของแค ,cielmeowmun_ชิเอลแมวมึน, Gluta_Story

]]>
1524679
Pet Humanization มาแรง “รพส.อารักษ์” ลงทุนนำเข้าเครื่อง MRI สัตว์เลี้ยง จ่อแตกแบรนด์ รพส. ใหม่ ราคาเข้าถึงง่าย https://positioningmag.com/1522402 Mon, 19 May 2025 13:48:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1522402 สพ.ญ.ทัศวรินทร์ กาญจนฉายา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ เปิดเผยว่า ตลาดสัตว์เลี้ยง ปี 2568 มีมูลค่า 75,000 ล้านบาท เติบโตระดับ Double Digit โดยแบ่งออกเป็น

  • 59% อาหารสัตว์ 44,250 ล้านบาท
  • 31% อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง 23,250 ล้านบาท
  • 9% การดูแลรักษาสัตว์เลี้ยง 6,750 ล้านบาท
  • 1% การดูแลอื่น ๆ 750 ล้านบาท

การเติบโตที่สูงขึ้นของตลาดสัตว์เลี้ยง มาจากพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไป โดยดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนคนในครอบครัว (Pet Parent) ส่งผลให้การดูแลแบบ Preventive และการใช้จ่ายกับสัตว์เลี้ยงขยายตัว

สะท้อนจากการรักษาในโรงพยาบาลสัตว์ก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน จากเดิมมารักษาแค่พอให้สัตว์เลี้ยงหายป่วย แต่ปัจจุบันทั้งรักษาให้หาย และทำทุกวิธีให้สัตว์เลี้ยงสบายมากขึ้น และการรักษาแบบใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่ต่างจากมนุษย์ (Pet Humanization) แม้มีค่าใช้จ่ายสูง อาทิ

  • MRI ราคา 24,000 บาท/ครั้ง
  • CT SCAN ราคา 8,500 บาท

เบื้องต้น รพส.อารักษ์ ลงทุนสร้างศูนย์วิจัยรังสี ใช้งบประมาณ 35 ล้านบาท นำเข้าเครื่อง MRI รุ่น 1.5 Tesla และอีก 10 กว่าล้านบาท ซื้อเครื่อง CT SCAN ที่มาพร้อมระบบ AI วิเคราะห์ภาพ ย่นระยะเวลาการตรวจลง 50% ซึ่งสามารถวินิจฉัยโรคได้รวดเร็ว และเพิ่มทางรอดให้แก่สัตว์เลี้ยงได้

“ปัจจุบัน รพส.อารักษ์ มีการตรวจ MRI ให้สัตว์เลี้ยง 15 เคส และทำ CT SCAN ประมาณ 90 เคส”

รพส.อารักษ์
สพ.ญ.ทัศวรินทร์ กาญจนฉายา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์

สพ.ญ.ทัศวรินทร์ กล่าวว่า จากการทำงานมา 20 ปี เจอทุกวิกฤตทั้งน้ำท่วม เศรษฐกิจซบเซา และชุมนุมทางการเมือง แต่ไม่มีวิกฤตใดกระทบต่อธุรกิจ รพ.สัตว์ ได้ เพราะท้ายสุดแล้ว เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ทิ้ง และหาทางรักษาอย่างดีที่สุด

สำหรับ รพส.อารักษ์ มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 2,500 บาท/ครั้ง/ตัว โดย Top 3 การเข้าใช้บริการสูงสุด ได้แก่

  • การรักษาและการผ่าตัด
  • การรักษาสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive)
  • กลุ่มโรงแรมสัตว์เลี้ยง และบริการอาบน้ำตัดขน

สำหรับแผนปี 2568 เตรียมขยาย รพส.อารักษ์ เพิ่ม 2 สาขา บนทำเลศักยภาพสูง (Prime Areas) ที่ยังไม่เคยไป คือ ลาดพร้าวและรังสิต

รวมไปถึงการแตกไลน์ รพ.สัตว์แบรนด์ใหม่ เน้นราคาเข้าถึงง่าย (Affortdable) จำนวน 3 สาขา โดยขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จหมดแล้ว คาดเปิดตัวในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า

จากปัจจุบัน รพส.อารักษ์ มีสาขารวม 5 แห่ง ได้แก่ หลังสวน ทองหล่อ เพชรเกษม เชียงใหม่ และภูเก็ต

หมาแมว

]]>
1522402
Pet Parents แรงไม่หยุด ส่งผลให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงโตสวนกระแสเศรษฐกิจ https://positioningmag.com/1522203 Sun, 18 May 2025 05:11:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1522203 ปัจจุบันการเลี้ยงน้องหมาน้องแมวไปจนถึงสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ อาจไม่ใช่แค่เพื่อคลายเหงา แต่เป็นการเลี้ยงเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวหรือเป็นลูก หรือ Pet Parents เทรนด์ที่มาแรง ทำให้ทิศทางของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงมีการเปลี่ยนแปลงและมีการใช้จ่ายเติบโตแบบก้าวกระโดดสวนกระแสเศรษฐกิจ

 

สำหรับเทรนด์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากคนยุคใหม่นิยมอยู่เป็นโสด หรือถ้าแต่งงานก็ไม่แพลนจะไม่มีลูก และนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นลูก บวกกับการก้าวสู่สังคม Aging Society ของไทย ซึ่งผู้สูงวัยมักจะมีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เอาไว้ผ่อนคลาย ขณะเดียวกันก็เอาใส่ใจดูแลไม่ต่างไปจากสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว 

 

Pet Parents ทำให้ธุรกิจเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงโตแค่ไหน?

 

จากข้อมูลของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี เปิดเผยว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดสัตว์เลี้ยงปี 2567 มียอดรวมที่ 1,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2566 ส่วนเดือนมกราคม–เมษายน 2568 การใช้จ่ายในหมวดนี้โตขึ้น 10%

 

สำหรับกลุ่มที่ใช้จ่ายในหมวดสัดสัตว์เลี้ยงมากสุด ได้แก่ ‘กลุ่มอายุ 30-34 ปี’ มีสัดส่วนการใช้จ่ายมากสุดที่ 17% รองลงมาคือ ‘กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป’ มีสัดส่วน 16% โดยทั้งสองกลุ่มยังใช้จ่ายในหมวดนี้อย่างสม่ำเสมอ 

 

ด้านผู้จัด Pet Expo Thailand เปิดเผยว่า ตอนนี้การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่แค่เป็น ‘เพื่อน’ แต่ดูแลเหมือนลูก ทำให้มีการใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้น อย่างการจัดงานครั้งที่ผ่านมามีอัตราการใช้จ่ายในงานอยู่ที่ 30,000-50,000 บาทต่อคน โดยผลิตภัณฑ์ยอดนิยม 3 อันดับแรกที่มีการใช้จ่ายมากสุด ได้แก่ 

 

1.ขนมและอาหาร

2.อุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

3.การบริการ การรักษาพยาบาล

 

ขณะที่ ‘บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)’ คาดการณ์ตลาดประกันภัยสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยปี 2568 ว่า จะมีมูลค่าประมาณ 100–200 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 15–20% ทั้งในแง่มูลค่าตลาดและจำนวนผู้ทำประกัน 

 

ปัจจัยหลักของการเติบโตดังกล่าว มาจากการตระหนักถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลและรักษาสัตว์เลี้ยงที่สูงขึ้น โดยค่ารักษาพื้นฐาน เช่น การฉีดวัคซีนหรือการตรวจสุขภาพอยู่ที่ 1,000–5,000 บาทต่อครั้ง ส่วนการผ่าตัดหรือรักษาเฉพาะทางอาจสูงถึง 10,000–50,000 บาท ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเริ่มมองหาทางเลือกในการบริหารความเสี่ยงผ่านประกันภัย

 

ด้วยพฤติกรรมของ Pet Parents จะเอาใส่ใจและให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงค่อนข้างสูง ดังนั้น นอกจากอาหาร การกิน การรักษาแล้ว ยังมีการใช้จ่ายด้านอื่น ๆ อย่างเช่น ทริปท่องเที่ยว เป็นต้น

 

ข้อมูลของ SCB EIC พบว่า ตอนนี้การเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง หรือ Pet Tourism กลายเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่คนเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะกลุ่มที่เลี้ยงแบบลูก ซึ่งตอนนี้มีถึง 49% ของผู้บริโภคที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ความน่าสนใจของคนกลุ่มนี้ยอมจ่ายไม่อั้นเพื่อสัตว์เลี้ยง ทั้งค่ากิน ค่าอยู่ ค่าดูแลสุขภาพ รวมถึงค่าทริปท่องเที่ยวสูงถึง 78% 

 

นอกจากนี้ เรายังได้เห็นการเปิดพื้นที่ Pet Friendly ของทั้งอสังหาฯ และศูนย์การค้า ให้เหล่าทาสได้ใช้ชีวิตกับนายท่านได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้น Pet Parents  จึงเป็นเทรนด์ที่จับตามอง และธุรกิจต้องปรับตัวให้ทัน

]]>
1522203