Real Time Marketing – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 17 Sep 2023 06:44:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดสูตรความปังฉบับ ‘เบอร์เกอร์คิง’ กับความปั่นที่สร้างทั้ง ‘ตำนาน’ และ ‘ยอดขาย’ https://positioningmag.com/1444439 Fri, 15 Sep 2023 14:40:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1444439 กลายเป็นตัวตึงบนโลกโซเชียลฯ ไปแล้วสำหรับ เบอร์เกอร์คิง (Burger King) ไม่ว่าจะเป็น เบอร์เกอร์ชีสล้วน 20 ชั้น, ไก่ทอดหาดใหญ่ รวมถึง โพสต์ปั่น ๆ ทันกระแส ซึ่ง 2 ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตลาดของแบรนด์ก็คือ ชนินทร์ นาคะรัตนากร Digital Market และ เจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยทั้งคู่ได้ออกมาเผยถึงเบื้องหลังแนวคิดการปั้นแบรนด์ให้โดดเด่นสุด ๆ บนโลกโซเชียลฯ

เปลี่ยนแบรนด์ให้มีความเป็นคน

จุดแรกเริ่มที่จะทำการสร้างตัวตนแบรนด์บนโซเชียลที่ ชนินทร์ แนะนำก็คือ แบรนด์ต้องมีความเป็นมนุษย์ไม่ใช่เป็นแค่แบรนด์ เพราะต้องยอมรับก่อนว่าผู้บริโภคยุคนี้ไม่ได้อยากเห็นโพสต์โฆษณาจ๋า ๆ ที่เน้นขายของ แต่สิ่งที่เขาอยากเห็นคือ คอนเทนต์ที่เขาสามารถเอนเกจได้เหมือนกับโพสต์ของเพื่อน ดังนั้น บทบาทของเบอร์เกอร์คิงจึงมีความเป็นมนุษย์ โดยหยิบเอากระแสต่าง ๆ ในโลกโซเชียลมาเล่น เมื่อแบรนด์เป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง ลูกค้าก็จะมีอารมณ์ร่วมได้มากกว่า และเลือกที่จะสนทนาจะสื่อสาร

“เมื่อก่อน Facebook มันเหมือนแดชบอร์ด แบรนด์ก็โพสต์ขายของ ลูกค้าก็มาคอมเพลน แต่ไม่มีการพูดคุยกันแบบที่คนคุยกัน เราเลยเริ่มทำแคมเปญที่แบรนด์มาคุยกัน เราก็เห็นเทรนด์การตอบของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เริ่มมาคุยเล่นกับเรามากขึ้น เราก็ฟอลโล่ตามเทรนด์นั้น” ชนินทร์ อธิบาย 

ศึกษาเพื่อเข้าใจในความต่าง

การศึกษาอินไซต์ของลูกค้าหรือผู้ชม (Audience) ที่อยู่ในแฟนเพจว่าเป็นคนกลุ่มไหน ชอบคอนเทนต์แบบไหน มีความสนใจแบบไหน จะทำให้นักการตลาดเข้าใจว่า ควรสื่อสารกับเขาด้วยภาษาไหน เพราะการจะเป็นเพื่อนกับลูกค้า ต้องพูดภาษาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ลูกค้าสมัยนี้มีความ แยกย่อย (Fragment) บางคนชอบเล่นเกม, ชอบฟุตบอล หรือเพลง แบรนด์ก็ควรพยายามที่จะตอบโต้ให้ได้

“ที่แฟนเพจเรามีการตอบโต้เยอะเพราะเขามาคุยอะไรกับเรา เราก็ตอบได้ ลูกค้าก็จะรู้สึกเซอร์ไพรส์ ชวนคุยอะไรก็คุยได้ ตอบได้ เขาก็อยากกลับมาอยากชวนแอดมินคุย ซึ่งคาแรกเตอร์เราจะเหมือนกับ Audience ที่พบ คือ ตลก จิกกัด แต่ไม่หยาบคาย”

(ขวา) เจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director, ชนินทร์ นาคะรัตนากร Digital Market (กลาง), ธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซ้าย)

ใช้อินไซต์ผู้บริโภคนำทาง

หลังจากที่แบรนด์สามารสื่อสารกับลูกค้าได้ มีเอนเกจอย่างสม่ำเสมอ แบรนด์ก็จะสามารถ ฟังเสียง ลูกค้าได้ สามารถนำอินไซต์ความต้องการต่าง ๆ มาพัฒนาเป็น สินค้าและโปรโมชั่น ที่ตรงใจ ไม่ว่าจะเป็น เบอร์เกอร์ชีสล้วน 20 ชั้น ซึ่งเกิดจากอินไซต์ที่พบว่าผู้บริโภคไทยชอบทานชีส หรือ ไก่ทอดหาดใหญ่ ที่ลูกค้าบอกอยากให้มี หรือล่าสุดที่โพสต์ถามความเห็นลูกเพจว่า อยากจะเห็นเบอร์เกอร์อะไรกลับมาขายอีกครั้ง ก็ทำให้เบอร์เกอร์คิงนำเอาเมนู Black and Pink Burger ที่เคยเปิดจำหน่ายในปีก่อนกลับมาขายอีกครั้ง พร้อมปรับปรุงสูตรให้ดีขึ้นกว่าเดิม

“การที่เราสื่อสารกับเขาอย่างจริงใจ ผู้บริโภคก็จะฟีดแบกอินไซต์กลับมา ดังนั้น ก่อนจะทำเมนูใหม่ ๆ เราจะใช้ผู้บริโภคนำ จากนั้นก็มาคิดว่าเหมาะกับซีซันนอลนั้น ๆ หรือเปล่าแล้วก็นำมาปลั๊กอินกัน โดยเราก็ต้องทำงานร่วมกับ R&D หรืออย่างแคมเปญเบอร์เกอร์ชีสล้วนเราไม่ได้คาดหวังว่าลูกค้าจะทานได้ทุกคน แต่ตอบโจทย์คนที่อยากตามกระแสมากกว่า เจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง กล่าว

ที่ผ่านมา เบอร์เกอร์คิงมีโปรดักส์ใหม่เกือบ 20 เมนูต่อปี โดยจะมีเมนูออกใหม่ทุกเดือนเพื่อดึงดูดผู้บริโภคใหม่ ๆ เพื่อให้มีสักเมนูที่เขาสามารถทานได้แม้ไม่ใช่เบอร์เกอร์ รวมถึงมีการจัดโปรโมชั่นควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้สามารถ ทดลองได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยากเข้าเบอร์เกอร์คิงเพราะเจอเมนูที่ชอบหรืออยากลองเมนูใหม่ ๆ

เอนเกจเมนต์เพิ่ม 3,000%

จากทั้งการตลาด, สินค้าใหม่, โปรโมชั่น และโลเคชั่นที่ครอบคลุม ทำให้ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่โดดเด่นมาก ๆ ของเบอร์เกอร์คิง เพราะแบรนด์มีจำนวน ลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้นถึง +50% ยอดการ สมัครสมาชิก บนแพลตฟอร์มเบอร์เกอร์คิงก็พุ่ง 4 เท่า ขณะที่ยอด เอนเกจเมนต์ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ทะยานถึง 3,000% และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ยอดขาย ในเดือนกรกฎาคมที่มีแคมเปญเบอร์เกอร์ชีสล้วน 20 ชั้นก็ เป็น New High ตลอดการของบริษัท โดยคาดว่าจบปีนี้เบอร์เกอร์คิงจะเติบโตไม่ต่ำกว่า +20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

“เมื่อแบรนด์มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ลูกค้าก็จะมองแบรนด์เป็นคนคนหนึ่ง เขาก็จะไม่มาคอมเพลนหรือคอมเมนต์อะไรที่รุนแรง กลับกันถ้าเขามองแบรนด์เป็นก็จะคอมเพลนโดยที่ไม่สนใจว่าแบรนด์จะรู้สึกอะไรไหม” ชนินทร์ ทิ้งท้าย

]]>
1444439
กรณีศึกษา “ไดโนเศร้า” แบรนด์-คนดังแห่ร่วมวง ขอมีแอร์ไทม์ไวรัลบนออนไลน์ https://positioningmag.com/1309272 Sat, 05 Dec 2020 06:40:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1309272 จับปรากฏการณ์เพจ “ไดโนเศร้า” เกิดเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน คนดัง แบรนด์ร่วมคอมเมนต์ หวังมีซีน Real Time Marketing แต่ต้องจับตาดูกระแส เพราะมีขึ้น ก็มีซาลงไป

คนดัง-แบรนด์ดัง แห่คอมเมนต์

เชื่อว่าในช่วง 2-3 วันนี้ หลายคนต้องได้เห็นคอนเทนต์ของเพจ “ไดโนเศร้า” ขึ้นบนหน้า New Feed เนื่องจากมีการแชร์ต่อๆ กัน ทำให้เพจนี้เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์แห่งยุค ทำให้เพจนี้เป็นไวรัลชั่วข้ามคืน

ไดโนเศร้าได้สร้างเพจเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา เนื้อหาของคอนเทนต์เป็นแบบง่ายๆ เป็นการตั้งสเตตัสธรรมดา ไม่มีรูปภาพ แต่พูดถึงเรื่องความรัก ในเชิงแอบรัก ตัดพ้อว่าเขาไม่สนใจ แต่ก็ยังใจสู้ หลายคนเรียกอาการแบบนี้ว่าคน “คลั่งรัก” มีการเปรียบเทียบสถานการณ์ได้อย่างตลกขบขัน พร้อมกับมีชื่อเรียกหญิงสาวที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้ง ได้แก่ ต้าวหมูอ้วน เจ้าเม่นแคระ เจ้ากวางมูส เป็นต้น

จุดเปลี่ยนที่ทำให้เพจเริ่มเป็นไวรัลขึ้นมา เมื่อวันที่ 2-3 ธันวาคมที่ผ่านมา ชาวเน็ตเริ่มแชร์คอนเทนต์มากขึ้น ทำให้คนรู้จักมากขึ้น ทางเพจเองก็มีการอัพสเตตัสถี่ขึ้น ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายคนสนใจ เพราะมีการอัพถี่มากจริงๆ แรกๆ จะอัพทุกๆ 30 นาที เริ่มขยับเป็น 15 นาที บางช่วงมีระยะห่างแค่ 2-3 นาทีเลยก็มี

ทำให้หลายคนสงสัยว่าแอดมินมีเวลานอนตอนไหน!

เมื่อคอนเทนต์เป็นที่ไวรัลมากขึ้น เป็นธรรมดาที่คนดังเริ่มให้ความสนใจ เริ่มมีเข้ามาร่วมวงคอมเมนต์ ทั้งเน็ตไอดอล นักร้องต่างๆ ซึ่งทางเพจได้มีพูดถึงเพลงของศิลปินดังด้วย ทำให้ศิลปินก็เข้ามาคอมเมนต์ด้วยเช่นกัน

นอกจากนั้นเริ่มมีกระแสของแบรนด์ดังเข้ามาคอมเมนต์มากขึ้น เหมือนเป็นการอาศัยการทำ Real Time Marketing เพราะเห็นว่าภายในคอนเทนต์ต่างๆ ย่อมมีเอ็นเกจเมนต์มากมายมหาศาลอยู่แล้ว การที่แบรนด์เข้าไปร่วม ทำให้ผู้บริโภคเห็นแบรนด์มากขึ้นนั่นเอง

จะเห็นว่ามีทั้ง KFC, Major Group เป็นแบรนด์ที่เล่นกับกระแสบ่อยๆ หรือแม้แต่ข้าวหอมมะลิตราไดโนเสาร์ก็มาร่วมแจมด้วย

ผุดเพจชื่อใกล้เคียงอีกเป็นตับ

นอกจากแบรนด์ดัง หรือคนดังร่วมสนุกในการแชร์ การคอมเมนต์แล้ว อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดคือ มีเพจใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับชื่อที่ใกล้เคียงกับไดโนเศร้าอีกนับหลาย 10 เพจ

มีชื่อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไดโนสู้, ไดโนสุข, ไดโนเศร้า V2, ไดโนเสียว, ไดโนดอล, ไดโนเสือก, ไดโนแซ่บ, ไดโนเศร้ากว่า, สอน, ไดโนสลิ่ม และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมกับมีการใช้รูปโปรไฟล์ที่ใกล้เคียงกัน

เพจเหล่านี้จะตามคอมเมนต์ในคอนเทนต์ของเพจไดโนเศร้า เพื่ออาศัยเอ็นเกจเมนต์ และอาศัยคนมาติดตามเพิ่ม เหมือนเป็นการคอมเมนต์ล้อไปกับคอนเทนต์ต่างๆ อาศัยกระแสเพื่อแจ้งเกิดเพจตัวเองนั่นเอง

กระแสมา แล้วก็ซาไป?

จากเพจที่สร้างมาไม่ถึง 1 เดือน ตอนนี้มียอดคนติดตามมากถึง 356,xxx ราย (อัปเดตวันที่ 5 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00 น.) เรียกว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วพอสมควร และแต่ละโพสต์มียอดเอ็นเกจเมนต์ที่สูงมาก

บางโพสต์มียอดกดไลค์ถึงหลัก 10,000-20,000 ไลค์ ยอดแชร์อีกนับพัน ส่วนโพสต์อื่นๆ ก็มียอดเฉลี่ยที่หลักพันขึ้นไปทั้งสิ้น

ในช่วงสัปดาห์นี้เราอาจจะได้เห็นคอนเทนต์แบบ “ออร์แกนิก” ของเพจ เป็นคอนเทนต์สนุกสนาน จากธรรมชาติของคนทำเพจที่คิดแบบสนุกๆ

แต่เชื่อว่าเมื่อเพจมีการไวรัล เป็นที่รู้จัก และยอดเอ็นเกจสูงขนาดนี้ ย่อมมีแบรนด์ หรือเอเจนซี่ที่ต่อคิวเพื่อลงโฆษณาแฝง หวังไทอินเนียนๆ อย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนทำเพจ ทำคอนเทนต์ที่ต้องการหารายได้จากโฆษณา

สุดท้ายแล้วต้องมาลุ้นกันว่า จากเพจที่คนแชร์ที่ความสนุก ความธรรมชาติ จะกลายเป็นเครื่องมือการตลาดหรือไม่ในอนาคต และกระแสจะมาแค่ชั่วคราว แล้วหายไปหรือไม่…

]]>
1309272