การเชื่อมกันของ LinkedIn และ Microsoft Word เกิดขึ้นหลังจากยักษ์ใหญ่ Microsoft เข้าซื้อกิจการ LinkedIn เมื่อปี 2016 ด้วยมูลค่ากว่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามนโยบายที่บริษัทเคยประกาศว่าจะนำบริการของ LinkedIn มาเชื่อมกับแอปพลิเคชันตระกูลออฟฟิศ หรือ Office Suite ซึ่งสำนักงานทั่วโลกนิยมใช้งานเพื่อสร้างเอกสาร โดยที่ผ่านมา ชาวโซเชียลได้เห็นแอปพลิเคชัน LinkedIn บน Windows 10 แล้ว ซึ่ง Microsoft กำลังขยายผลให้บริการของตัวเองตอบโจทย์ชาว LinkedIn มากขึ้น

สำหรับครั้งนี้ Microsoft เรียกคุณสมบัตินี้ว่า Resume Assistant หลักการ คือ ผู้ใช้บริการ Office 365 ทุกคนจะสามารถเชื่อมกับ LinkedIn ได้โดยตรง ขณะสร้าง resume ในโปรแกรม Word

Resume Assistant จะช่วยดึงข้อมูลคำอธิบายงาน หรือ job description จาก resume ที่มี ขณะเดียวกัน ก็จะค้นหาตัวอย่างคำอธิบายงานที่คล้ายกัน และเปิดเผยสาธารณะบน LinkedIn มาแสดง ผล คือ ผู้ที่กำลังหางานจะสามารถเขียน หรือปรับแต่งรายละเอียดใน resume ได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม Resume Assistant ไม่ได้เน้นให้ผู้ใช้คัดลอก หรือ copy คำอธิบายมาได้ง่าย เพราะ Microsoft จะแสดงผลการค้นหาไว้ที่ด้านข้างของเอกสาร Word เท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถลากวาง หรือ drag and drop ได้บนเอกสาร

สรุปแล้ว Resume Assistant จะช่วยแสดงข้อความที่ควรเขียนลงใน resume ผ่านระบบ AI โดย Resume Assistant จะแสดงรายการทักษะหลักที่จำเป็น รวมถึงรายชื่อตำแหน่งงานเพื่อแนะผู้ใช้ว่า คุณสมบัติใดที่นายจ้างนิยมค้นหาจาก resume ทั้งหมดนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลจาก Resume Assistant นั้น มีแสดงบน LinkedIn อยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า การดึงข้อมูลมาแสดงใน Microsoft Word โดยตรงนั้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเขียน resume ได้สะดวกยิ่งขึ้นมาก

คุณสมบัตินี้เปิดให้สมาชิกผู้ใช้บริการ Office 365 บนคอมพิวเตอร์พีซี ในโปรแกรม Office Insiders แล้ว อนาคต Micrsoft จะเปิดกว้างฟีเจอร์บน Office 365 แบบปูพรมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000114524