Search engine – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 26 Jul 2024 13:29:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สะเทือน Google! หลัง ‘OpenAI’ เปิดตัว ‘SearchGPT’ ช่วยหาข้อมูลแบบเรียลไทม์ ฉุดหุ้น Alphabet ร่วง 3% https://positioningmag.com/1484344 Fri, 26 Jul 2024 10:21:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1484344 นับตั้งแต่ที่ ChatGPT เอไอสุดล้ำของ OpenAI ออกมาสู่สายตาชาวโลกในช่วงปี 2022 ก็มาเขย่ายักษ์ใหญ่ไอทีหลายราย โดยเฉพาะ Google เสิร์ชเอนจินที่คนทั่วโลกแทบขาดไม่ได้ และ OpenAI ก็เขย่าบัลลังก์ Google อีกรอบด้วย SearchGPT

OpenAI ได้ประกาศเปิดตัวต้นแบบของเครื่องมือค้นหาที่เรียกว่า SearchGPT โดยมีจุดเด่นที่จะช่วยให้ผู้ใช้ หาคำตอบได้รวดเร็ว และได้ข้อมูลที่อัปเดตแบบ เรียลไทม์ อีกทั้งยังมีความสามารถในการ ถามต่อยอดจากคำถามก่อนหน้า ซึ่งระบบเสิร์ชเอนจินในปัจจุบันทำไม่ได้ นอกจากนี้ SearchGPT ยังระบุแหล่งที่มาของข้อมูลได้อีกด้วย 

อย่างไรก็ตาม SearchGPT ยังเปิดให้ใช้งานแค่ผู้ทดลองกลุ่มเล็ก ๆ แต่ OpenAI เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะรวมเครื่องมือดังกล่าวเข้ากับ ChatGPT

“เราคิดว่าตลาดเสิร์ชเอนจินยังมีช่องว่างที่ทำให้การค้นหาข้อมูลดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน” แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI โพสต์บน X

แน่นอนว่าตั้งแต่การมาของ ChatGPT ช่วงปลายปี 2022 ส่งผลกระทบต่อ Google ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเสิร์ชเอนจินซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เพราะหลายคนมองว่า ChatGPT จะมา แย่งส่วนแบ่งการตลาดจาก Google ในการค้นหาข้อมูลออนไลน์ และการมาของบริการ SearchGPT ก็ยิ่งตอกย้ำถึงความกังวลดังกล่าวส่งผลให้ หุ้นของ Alphabet ร่วงมากกว่า 3%

ทั้งนี้ ย้อนไปเมื่อในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Google ได้เปิดตัว AI Overview ซึ่ง Sundar Pichai ซีอีโอ มองว่าเป็น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในแวดวงการค้นหาในรอบ 25 ปี โดยเครื่องมือดังกล่าวจะมี AI เป็นตัวช่วยค้นหาข้อมูลและสรุปคำตอบให้กับผู้ใช้งาน คล้ายกับความสามารถของ SearchGPT อย่างไรก็ตาม เครื่องมือดังกล่าวยังเปิดให้ใช้แบบจำกัด และเคยถูกวิจารณ์ถึงผลลัพธ์การค้นหาที่แสดงคำตอบที่เป็นเท็จ

Source

]]>
1484344
CEO ของ Alphabet เผยเตรียมนำแชทบอท AI ผนวกในบริการค้นหาข้อมูลของ Google https://positioningmag.com/1426675 Thu, 06 Apr 2023 16:55:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1426675 Sundar Pichai ผู้บริหารสูงสุดของ Alphabet ได้กล่าวว่าบริษัทเตรียมนำแชทบอท AI ผนวกในบริการค้นหาข้อมูลของ Google หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ChatGPT ได้สร้างแรงกดดันให้กับบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมา และอาจกระทบกับความสามารถในการแข่งขันของบริษัทหลังจากนี้ได้

Sundar Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ผู้ให้บริการค้นหาข้อมูล ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ The Wall Street Journal ว่าบริษัทเตรียมที่จะนำแชทบอท AI มาผนวกเข้ากับบริการค้นหาข้อมูล หลังจากที่ ChatGPT ได้สร้างแรงกดดันให้กับบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมา

เขาได้ชี้ว่าความก้าวหน้าของ AI จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ Google ในการตอบคำถามค้นหาต่างๆ ซึ่งทาง Alphabet ได้พัฒนา AI ขึ้นมาในชื่อ Bard โดยสร้างขึ้นจากเทคโนโลยี LaMDA ของ Google โดยจะฝึกฝนเจ้าแชทบอทด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดยโมเดลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลในโลกออนไลน์จำนวนมากเพื่อสร้างการตอบสนองต่อผู้ใช้งาน

ในช่วงที่ผ่านมา Google กำลังเผชิญความเสี่ยงอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่ายิ่งธุรกิจค้นหาข้อมูล หลังจาก ChatGPT ของ OpenAI สร้างความฮือฮาในการตอบคำถาม และผลลัพธ์ต่างๆ ในการใช้งานที่น่าทึ่ง ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Microsoft เองก็ไม่รอช้าที่จะนำระบบแชทบอทดังกล่าวเข้ามาผนวกกับบริการค้นหาของ Bing

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการมาของ ChatGPT ทำให้ Alphabet ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน ในการพัฒนาระบบ AI ขึ้นมาเพื่อที่จะไม่ให้บริษัทสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ซึ่ง Google ครองส่วนแบ่งธุรกิจค้นหาข้อมูลมากกว่า 90% ในปัจจุบัน

นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า Google วางแผนที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้โต้ตอบโดยตรงกับแชทบอท AI ของบริษัทผ่านบริการค้นหา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจยกระดับประสบการณ์การค้นหาที่โชว์ลิงก์ต่างๆ ในแบบเดิมที่เป็นมาตรฐานของการค้นมากว่า 20 ปีนี้ด้วย

อย่างไรก็ดีหัวเรือใหญ่ของ Alphabet ไม่ได้กล่าวถึงช่วงเวลาที่จะนำระบบแชทบอทดังกล่าวให้บริการกับผู้ใช้งานในช่วงเวลาใด แต่เขาได้กล่าวว่าตอนนี้บริษัทกำลังทดสอบบริการดังกล่าวในหลายรูปแบบอยู่ในตอนนี้

]]>
1426675
Mozilla บริษัทแม่ Firefox เตรียมเลย์ออฟพนักงาน 70 ตำแหน่ง เดินเกมหารายได้มากกว่า Search https://positioningmag.com/1261165 Sat, 18 Jan 2020 17:20:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1261165 มอซิลลา (Mozilla) ต้นสังกัดผู้พัฒนาเบราว์เซอร์ไฟร์ฟ็อกซ์ (Firefox) ตกเป็นข่าวว่ากำลังปลดพนักงานประมาณ 70 คน ผลจากภาวะรายได้พลาดเป้า ทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนนโยบายหารายได้ที่นอกเหนือจากบริการเสิร์ชใน Firefox

สำนักข่าวเทคครันช์ (TechCrunch) เผยแพร่บันทึกภายในที่ส่งต่อใน Mozilla ว่าการปลดพนักงานมากว่า 70 คนในรอบนี้เกิดขึ้นจากรายได้ที่พลาดเป้า ซึ่ง Mozilla คาดว่าจะทำได้ดีขึ้นในปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน การสำรวจก็พบว่าสัดส่วนการใช้งาน Firefox ลดน้อยลง จนทิ้งห่างเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Chrome ออกไปอีก ทำให้ Mozilla ต้องเดินเกมใหม่เพื่อสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองในมุมใหม่

มิตเชลล์ เบเกอร์ (Mitchell Baker) ประธาน Mozilla เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าปี 2019 จะเป็นปีที่ Mozilla ต้องหารายได้จากบริการอื่นที่ไม่ใช่บริการเสิร์ชหรือบริการค้นหาข้อมูลบน Firefox โดยเฉพาะจากบริการในรูปสมาชิกหรือ subscription product อย่างไรก็ตาม บริการนั้นยังไม่แจ้งเกิด ทำให้ Mozilla ต้องเร่งปรับโครงสร้างองค์กรอย่างเร่งด่วน

ขณะนี้ Mozilla มีบริการ subscription product ในมือคือ Firefox Private Network แต่ปัจจุบันบริการ VPN แบบต้องชำระเงินของ Mozilla กลับติดขัดจนไม่สามารถขยายบริการได้ตามความต้องการของลูกค้า ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องต่อคิวรอใน waitlist

ประธาน Mozilla ระบุว่าแผนในปี 2019 นั้นมีการประเมินผิดพลาด ทั้งระยะเวลาที่ต้องใช้ในการสร้างและจัดส่งผลิตภัณฑ์ทำเงินตัวใหม่ที่ต้องใช้เวลานานกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว สิ่งที่ Mozilla ได้เรียนรู้ในปี 2019 ทำให้บริษัทตัดสินใจคาดการณ์รายได้ในปี 2020 อย่างค่อยเป็นค่อยไป

อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Mozilla ปฏิเสธที่จะเปิดเผยจำนวนการสั่งปลดพนักงานที่แน่ชัด โดยบอกว่าวันนี้พนักงานทั่วโลกของ Mozilla มีจำนวนราว 1,100 คนก่อน เบื้องต้น Mozilla วางเป้าหมายเป็นองค์กรที่มีพนักงานรวมมากกว่า 1,000 คนต่อไป

อดีตอันรุ่งเรืองของ Firefox (สถิติปี 2010)

ข่าวการปลดพนักงานของ Mozilla เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับ Microsoft ที่เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อป “เอดจ์” เวอร์ชันใหม่ซึ่งมีหลายฟีเจอร์ถอดแบบจาก Google Chrome ขณะนี้ Microsoft Edge ใหม่พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วบน Windows 10, Windows 8, Windows 7 และ MacOS แล้วและจะเปิดตัวอัปเดทอัตโนมัติในพีซีหลายเครื่องช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้า

สำหรับ Edge เวอร์ชันใหม่นั้นใช้แพลตฟอร์ม Chromium ซึ่งเป็นรหัสโอเพนซอร์ซเดียวกับ Chrome ทำให้ Microsoft Edge ใหม่มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติคล้ายกับเว็บเบราว์เซอร์ของ Google ตอกย้ำว่าแม้แต่ Microsoft ก็ยังยากลำบากในการเขย่าบัลลังก์ Chrome ทั้งที่เมื่อปี 2010 เจ้าพ่ออย่าง Microsoft เป็นแชมป์เว็บเบราว์เซอร์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก

Source

]]>
1261165