บทความโดยณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BUZZEBEES)
งานแรกงานเกี่ยวกับอีเมลเราสามารถใช้ Generative AI ในการช่วยเขียนอีเมลได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลโปรโมชั่น เพื่อเรียกลูกค้าให้มาซื้อของกับเรามาดูตัวอย่าง Prompt ที่ใช้และผลลัพธ์กันค่ะ
“Write short email to promote buy one get one free of new swimsuit collections. Limit time till the end of this month! Need to hurry!”
หรือการทำประกาศว่าแพลตฟอร์มเรามีฟังก์ชันหรือฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ โดนๆ บ้างมาดูตัวอย่าง Prompt ที่ใช้และผลลัพธ์กันค่ะ
“Write short email to promote new product features of Buzzebees Reward page. Key features are that it is instant reward redemption page that customer can redeem thousands of rewards and use point to subsidize for payment. With limit time offer, new user can have on-top 10% discount.”
อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือเราสามารถให้ Generative AI ช่วยในการสร้างวิดีโอโฆษณาให้เราได้ พิ้งค์ขอยกตัวอย่างการใช้งานจริงที่ใช้ในบริษัทบัซซี่บีส์ โดยที่ให้โจทย์ทางทีมว่าต้องการวิดีโอที่ทำโดย Generative AI ทั้งหมด ทางทีมได้สร้างมาให้สองวิดีโอโดยใช้เครื่องมือต่างๆ ดังต่อไปนี้ เริ่มการเขียนจุดขายของเราลงไปให้ ChatGPT และ ทำ Storyboard ผ่าน ChatGPT แล้วให้มันเขียนภาษาที่สวยงามน่าสนใจให้เรา หลังจากนั้นก็ใช้ Mid Journey และ Bing AI ในการสร้างภาพนิ่งขึ้นมาจากคำใน Storyboard นั้นๆ จากนั้นก็นำภาพนิ่งไปทำให้เคลื่อนไหวได้โดย Runwayml เป็นแต่ละ Screen จากนั้นก็นำไปประกอบร่างตัดต่อใน Adobe After Effect – Editor เพิ่มเสียงและดนตรีเข้าไป เป็นอันสำเร็จ นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับการทำครั้งแรกของทีม
อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือให้ Generative AI ช่วยในการทำ SEO โดยที่ Generative AI สามารถวิเคราะห์เป็น SEO Report ให้ได้ว่าจะทำการปรับปรุง Website ให้เป็น SEO Friendly ได้อย่างไร มาดูตัวอย่าง Prompt ที่ใช้ และผลลัพธ์กันค่ะ
“My website is https://crm.buzzebees.com/ Act as SEO expert to improve website to be more SEO Friendly. Be specific on analyzing the content quality of the top-performing blog posts on my website and provide recommendations for improving any shortcomings and give specific real example from the website.”
อีกบล็อกหนึ่งที่ ChatGPT แนะนำก็คือบล็อก “มือใหม่อยากเปิดธุรกิจร้านอาหารให้อยู่รอดต้องทำอะไรบ้าง” ChatGPT ก็บอกว่าสิ่งที่เจ๋งคือ บล็อกเป็นการเขียนคำถามที่คนทั่วไปมักจะถามซึ่งคนมักจะสืบค้นจากคำพวกนี้อยู่แล้ว ทำให้สืบค้นได้ง่าย ส่วนที่ ChatGPT อยากให้ปรับปรุงคือให้ Link โพสต์นี้ไปยังคอนเทนต์ที่อื่นด้วย โดยสิ่งนี้จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกมีส่วนร่วมแล้วก็มีการเพิ่มเพจวิวเพิ่มขึ้นอีกวิธีก็คือทำให้คอนเทนต์มีรายละเอียดคำแนะนำมากกว่านี้โดยถ้าเป็นไปได้ให้รวมเรื่องของ Case Study แล้วก็ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงดู ทีนี้ลองมาดู ตัวอย่างที่ ChatGPT บอกให้ทำแบบเฉพาะเจาะจงในเรื่องของ “มือใหม่อยากเปิดธุรกิจร้านอาหารให้อยู่รอดต้องทำอะไรบ้าง” ChatGPT บอกว่าให้เพิ่มเนื้อหาที่คนอาจชอบอ่านเช่นการใส่ตารางลงไปหรือการใส่คำถามที่จะทำให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมกับบทความนี้ได้อย่างลึกซึ้งขึ้น
จะเห็นได้ว่าเราได้วิธีการปรับปรุง การทำให้เว็บไซต์ของเรามี SEO Rank ที่ดีขึ้นโดยได้ไอเดียไปทดลองจาก ChatGPT ทั้งในรูปแบบของการแนะนำเฉพาะเจอะจงตามตัวอย่าง และในรูปแบบของการแนะนำโดยทั่วไปอีกด้วย
จากตัวอย่าง พิ้งค์สั่งให้ ChatGPT เข้าไปตรวจดูเว็บไซต์ของบัซซี่บีส์ ว่าบล็อกที่บัซซี่บีส์ทำนั้น สามารถปรับปรุงให้ SEO ได้คะแนนมากขึ้นอย่างไรที่นี่ ChatGPT ก็แนะนำ โดยนำตัวอย่างบล็อกที่ได้รับการเยี่ยมชมสูงสุดมา
บล็อกแรก ได้แก่การที่บัซซี่บีส์ ได้รับรางวัล Shop Management Service Excellence จาก Tik Tok ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ChatGPT บอกว่า ให้ใช้คำที่ SEO ที่เกี่ยวกับ CRM และ Digital Marketing มากกว่านี้โดยที่ในย่อหน้าถัดไปจะเห็นว่ามันบอกเลยว่าให้ใช้คำอย่างเช่น CRM Excellence Award หรือคำว่า Digital Engagement Corporation หรือคำที่คล้ายๆ กันที่จะทำให้ผู้อ่านทำการสืบค้นจากคำนั้นๆ เป็นจำนวนที่มากขึ้น
อันนี้ก็เป็นตัวอย่าง Prompt และการทำงานบางส่วนเพื่อให้ทุกท่านสามารถนำ Generative AI เข้าไปช่วยทำงานในชีวิตประจำวันได้นะคะ การใช้ Generative AI ช่วยในงานการตลาดไม่ใช่การแทนที่ชาว Marketing แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถเสริมสร้างความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของมนุษย์ในงานการตลาดสวัสดีปีใหม่ค่ะ
]]>ยอดขายโฆษณาของ Google ช่วงไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นเกือบ +33% เมื่อเทียบเป็นรายปี ปิดที่ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีส่วนทำให้รายได้โดยรวมดีขึ้นเกินคาดสำหรับ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดยบริษัทมีผลกำไรประจำไตรมาสที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 30.69 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยมีรายได้รวม 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้หุ้น Alphabet เติบโตขึ้นมากถึง 8%
ยอดขายโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นหลังจากที่ธุรกิจประสบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นขณะอยู่ที่บ้านในช่วงการระบาดใหญ่ และธุรกิจต่าง ๆ ใช้เงินไปกับโฆษณาออนไลน์มากขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค แนวโน้มเดียวกันเหล่านี้ดูเหมือนจะทำให้ Big Tech ยิ่งเติบโตมากขึ้นไปอีก
“เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ลงโฆษณาจำนวนมากลงงบไปที่การค้นหาและแสดงโฆษณาออนไลน์ และนี่ไม่ใช่แนวโน้มระยะสั้น” ทอม จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลระดับโลกของหน่วยงานสื่อ Mindshare Worldwide กล่าว
นอกเหนือจากโฆษณาที่เป็นแหล่งรายได้หลักแล้ว หน่วยอื่น ๆ ของบริษัทก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน อย่างธุรกิจฮาร์ดแวร์ก็สามารถทำรายได้ 8.1 พันล้านดอลลาร์ (+22%) โดยสมาร์ทโฟน Pixel ของบริษัททำสถิติยอดขายในช่วงวันหยุดที่สำคัญทั้งหมด แม้ ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของ Alphabet จะระบุว่า Google เองก็เจอข้อจำกัดด้านซัพพลายที่เกิดจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกก็ตาม อย่างไรก็ตาม Google ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขของยอดขาย Pixel โดยเฉพาะ
ส่วนธุรกิจระบบคลาวด์ของ Google ทำรายได้ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+45%) โดยนับตั้งแต่ปี 2019 Google ได้เพิ่มพนักงานขายของระบบคลาวด์มากกว่าสามเท่า ส่วนโฆษณาบน YouTube ทำรายได้ 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+25%)
อย่างไรก็ตาม Google ก็มีบางส่วนที่ติดตัวแดง อาทิ ค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการของ Google ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ใช้เพื่อให้ผู้ใช้เข้าสู่แพลตฟอร์มของตนเพิ่มขึ้นประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาสดังกล่าว นอกจากนี้ รายได้จากส่วนอื่น ๆ ที่ Google เข้าไปลงทุน อาทิ Waymo บริษัทที่เกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับ มีรายได้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบปีต่อปีที่ 181 ล้านดอลลาร์และขาดทุนเกือบ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
]]>เพราะ Facebook Ads และ SEO เป็นคอร์สที่ได้รับความนิยมสูงสุด iPrice จึงได้สัมภาษณ์คณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Team Digital เพื่อสอบถามเทรนด์ประจำปี 2020 เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ประกอบการที่สนใจ Digital Marketing ทั้งสองรูปแบบนำไปประยุกต์ใช้งานฝ่าวิกฤต COVID-19 ไปด้วยกัน ดังนี้
อ.ต้น จตุพล ทานาฤทัย ผู้ก่อตั้ง ผู้เชี่ยวชาญ และผู้สอนคอร์ส SEO สถาบัน Team Digital เผยว่า
“เทรนด์ SEO กู้ภัย COVID-19 ตอนนี้ควรเน้นเพิ่ม Organic Search Traffic ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการเขียนบทความถือเป็นเคล็ดลับดั้งเดิมที่ยังได้ผลชะงัด แม้จะยังไม่มีตำราบอกกฎตายตัวว่าหนึ่งบทความควรมีความยาวเท่าไหร่ถึงจะดีที่สุด แต่ก็ควรทำ Research เล็กๆ ก่อนเขียน เช่น นำคีย์เวิร์ดหลักไปค้นหาใน Google แล้วจับเว็บไซต์ Top 10 มาหารเฉลี่ยความยาวของบทความ เป็นต้น
และนอกจากใส่คีย์เวิร์ดหลักเข้าไปใน H1 แล้ว อย่าลืมตั้งค่า H2-H6 (คล้ายกับคำถามที่พบบ่อย หรือหัวข้อย่อย) ลงไปด้วย ในปัจจุบันการค้นหาด้วยเสียงผ่านผู้ช่วยส่วนตัวอย่าง Siri หรือ Google Assistant และอื่น ๆ กำลังได้รับความนิยม (สถิติในสหรัฐอเมริกาพบมากถึง 50%) โดยการค้นหาด้วยเสียงนี้ Google จะเน้นหาผลลัพธ์จาก Featured Snippet ซึ่งเป็นข้อความสั้นๆ บนเว็บไซต์ที่มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
ระบบเว็บไซต์ที่รองรับการแสดงผลบนมือถือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ใช้งานหน้าเว็บ (Page Experience) ที่ Google ใช้ในการจัดอันดับเว็บต่างๆ
การเข้ารหัสความปลอดภัยข้อมูลของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ใช้งานหน้าเว็บ (Page Experience) ที่ Google ใช้ในการจัดอันดับเว็บต่างๆ
ความเร็วของการโหลดหน้าเว็บ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ Google ใช้ในการจัดอันดับ ได้รับความนิยมหลังจาก Google อัปเดต Algorithm ที่ชื่อว่า Mobile Speed Update ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นมา
การปรับโครงสร้างทางเทคนิคของเว็บไซต์ เพื่อให้ Google Bot เข้ามาบันทึกข้อมูลในเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น
วิธีการเขียนคอนเทนต์ตามคีย์เวิร์ดหรือความต้องการของผู้ใช้งาน Google โดยยึดหลัก SEO และใส่คอนเทนต์นั้น ๆ เข้าไปในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ (Keyword Mapping) เช่น หน้าโฮมเพจ, หน้าหมวดหมู่, หน้าสินค้า, หน้าบทความหรือ Blog และหน้าที่เสนอบริการฟรี ๆ ให้ลูกค้า เป็นต้น
หน้าเว็บที่มอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ โดยมุ่งเน้นด้านการโหลด การโต้ตอบ และความเสถียรของภาพ ประกอบด้วย Largest Contentful Paint (LCP) คือการวัดประสิทธิภาพการโหลด, First Input Delay (FID) คือการวัดการโต้ตอบ และ Cumulative Layout Shift (CLS) คือการวัดความเสถียรของภาพ ซึ่ง Google จะนำเอา Core Web Vitals มาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ใช้งานหน้าเว็บ (Page Experience) ที่ใช้ในการจัดอันดับเว็บต่าง ๆ ในปี 2021
Algorithm ของ Google ที่เป็น AI โดยจะประมวลผลจากประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ (UX signals) ที่มีต่อผลการค้นหา (SERP) ของ Google การปรับเว็บไซต์และคอนเทนต์ให้เข้ากับ RankBrain เป็นสิ่งสำคัญถ้าอยากให้เว็บไซต์ติดอันดับดี ๆ เป็นเวลานาน
การเขียนโปรแกรมหรือ Coding เข้าไปในเว็บไซต์ เพื่อให้ Google แสดงข้อมูลจากเว็บไซต์ได้มากขึ้น เช่น คะแนนรีวิว, จำนวนการรีวิว, วัน, เวลา และราคา เป็นต้น เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ และเพิ่มอัตราการคลิกเข้าสู่เว็บไซต์จากผลการค้นหา (SERP) ของ Google
ย่อมาจาก E = Expertise คือความชำนาญหรือเชี่ยวชาญ, A = Authoritativeness คือการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น และ T = Trustworthiness คือความน่าเชื่อถือ E-A-T Rating จึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ สำหรับ SEO และการเพิ่ม Conversion Rate ในตอนนี้
ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการทำ SEO ยิ่งคุณภาพของเว็บไซต์ที่สร้างลิงก์ให้มีความน่าเชื่อถือมากเท่าไหร่ Google ยิ่งจัดอันดับให้เว็บไซต์ของลิงก์ปลายทางน่าเชื่อถือมากเท่านั้น รวมถึง Backlinks จาก Social Media ด้วย
การปรับเว็บไซต์เพื่อให้เกิด Conversion เพิ่มมากขึ้น บางเว็บไซต์ติดอันดับ SEO ดี แต่รายได้ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการทำธุรกิจไม่มาก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ
]]>โดยที่ iPrice Group จับมือกับ Team Digital (บริษัท ทีมดิจิทัล จำกัด) สถาบันจัดอบรม สัมมนาการตลาดออนไลน์ เผยเทรนด์ Digital Marketing ฝ่าวิกฤต COVID-19 จับตลาด New Normal ให้อยู่หมัด ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่า ความสนใจในตัว Facebook Ads ของคนไทยดูจะมีมากกว่าการตลาดออนไลน์ประเภทอื่น โดยมีผู้เข้าอบรม 22.81% แบ่งเป็นนามบริษัท 38% และในนามบุคคล 62%
5 อันดับคอร์สการตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
จากข้อมูลของ Team Digital พบว่า นอกจากคอร์ส Facebook Ads แล้ว คนไทยยังสนใจคอร์สการตลาดออนไลน์อื่นๆ เพิ่มเติม โดยมี 5 อันดับคอร์สที่ได้รับความนิยมสูงสุดดังนี้
มีผู้สนใจเลือกเรียนสูงถึง 22.81% ในจำนวนคอร์สทั้งหมด 9 ประเภท เพราะ Facebook เป็น Social Media ที่คนไทยเลือกใช้ในการแชร์ข้อมูล เรื่องราว รวมไปถึงการหารายได้มากที่สุด ถึงแม้ Facebook จะมีช่องทางแชทด้วย แต่ส่วนใหญ่คนไทยจะเลือกใช้งาน LINE แยกต่างหากเพื่อการแชทมากกว่า การทำ Digital Marketing ผ่านช่องทาง LINE จึงมีบทบาทที่สำคัญไม่ต่างกัน
อ.วุธ สรกฤช พิชยดนัยกุล ผู้เชี่ยวชาญและผู้สอนคอร์ส Facebook Ads & Marketing ของ Team Digital เผยว่า “เมื่อการตลาดออฟไลน์โดนมรสุม COVID-19 เล่นงาน ผู้ประกอบการจึงปรับเข้าหาการตลาดออนไลน์มากขึ้น” การยิง Facebook Ads จึงเป็นเหมือนการลงทุนเพื่อให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเห็นผลิตภัณฑ์หรือการบริการของคุณมากที่สุด แต่การจะยิง Facebook Ads ให้คุ้มค่า ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายก็ควรต้องตามกฎระเบียบ และ Algorithm อัพเดตใหม่ๆ และบ่อยครั้งของ Facebook ให้ทัน ด้วยเหตุนี้ ผู้สนใจเรียนทั้งในนามองค์กรและบุคคลจึงเลือกเรียนคอร์ส Facebook Ads มากที่สุด
เป็นคอร์สที่ได้รับความนิยมรองจาก Facebook Ads มีผู้ร่วมอบรมคิดเป็น 15.35% ของคอร์สเรียนทั้งหมด สำหรับผู้ที่เคี่ยวกรำในวงการ SEO จะรู้ดีว่า การทำ SEO ไม่ใช่เพียงการเลือกคีย์เวิร์ดมาเขียนบทความ หรือทำคลิป YouTube เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการปรับโครงสร้างต่างๆ บนเว็บไซต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ Google Bot เข้ามารวบรวมและบันทึกข้อมูลของเว็บไซต์ และมอบคะแนน SEO ให้กับเว็บไซต์มากขึ้น อันตามมาด้วยการติดหน้าแรกๆ บน Google
อ.ต้น จตุพล ทานาฤทัย ผู้ก่อตั้ง (Founder) ผู้เชี่ยวชาญ และผู้สอนคอร์ส SEO ของสถาบัน Team Digital บอกว่า “การทำ Search Marketing เพื่อกู้ภัย COVID-19 ตอนนี้ควรเน้น Organic Search Traffic จากการทำ SEO มากกว่า Paid Search Ads เพื่อประหยัดงบประมาณให้องค์กร และต้องปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้เข้าตากรรมการอย่าง Google Bot อีกด้วย”
เป็นคอร์สสอนการวางกลยุทธ์ให้ครอบคุลมการทำการตลาดออนไลน์ ส่วนใหญ่ผู้สนใจเข้าร่วมคอร์สนี้มักมีพื้นฐานเบื้องต้นมาบ้างแล้ว แต่ต้องการทราบทฤษฎีและกลยุทธ์การวางแผนเพิ่มเติม คอร์สนี้จึงมีผู้สนใจเป็นอันดับที่สาม คิดเป็น 14.5% ของผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมด และยังเป็นคอร์สที่มีผู้เรียนนามบริษัทมากที่สุดอีกด้วย
เมื่อก่อนอาจดูเหมือนง่ายหากต้องการทำการตลาดผ่าน LINE แต่เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา LINE อัพเดตเป็น LINE OA ที่มาพร้อมฟีเจอร์มากมาย แต่ก็มาพร้อมค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วย การที่ LINE เป็นแอปฯ ที่คนไทยเลือกใช้บริการแชทมากที่สุดทำให้ผู้ประกอบการน้อยใหญ่ยังนิยมลงทุน และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตอบแทนคุ้มค่าที่สุด การตามเทรนด์ฟีเจอร์อัพเดตของ LINE OA จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ตีตลาดไทยได้อยู่หมัด ผู้ค้าน้อยใหญ่ล้วนพากันหารายได้จากการวางขายสินค้ากับทั้งสองแพลตฟอร์มนี้ กลายเป็นเทรนด์ค้าขายที่เข้ามาตีตลาดออนไลน์ในไทยแบบไม่ทันตั้งตัว ยิ่งในช่วงปิดประเทศป้องกัน Covid-19 ที่ทำให้ผู้ค้าออฟไลน์ขาดรายได้ แพลตฟอร์มขายสินค้าทั้งสองนี้จึงเป็นเหมือนตัวช่วยหารายได้ คอร์สนี้จึงมีผู้เข้าร่วมอบรมมากเป็นอันดับที่ 5 (10.87%)
ดูเนื้อหาเต็มได้ที่ iPrice Thailand
]]>